ใครยังไม่ได้ฌานสนใจเชิญ

ขอบคุณมากครับที่หวังดี คุณดูดีๆเถอะผมกล่าวตามตำราเลย เพียงแต่บอกเป็นคำพูดของผมเอง

 

มีความเป็นกลางต่อสังขารทั้งปวง
แม้ความยินดี แม้ความยินร้าย แม้ความเฉยๆ

จิตก็มีความเป็นกลางโดยอัตโนมัติปราศจากการแทรกแซงอันนี้เป็นผล

การสร้างเหตุหากไม่หยุดอยู่ที่รู้อยู่เนืองๆ
ไปพยายามยก พยายามพิจารณาในความหมายของภาษาไทย

ความเนื่องๆของการเดินวิปัสนาจะหลุดไป
ความอัดแน่นของพละ คือ สติ
จะตกลง เรียกว่าเล็งผิดเป้า

เจริญในธรรมครับ

 

พี่ปราบมาเที่ยวนี้รูปแทนตัวดูดีขึ้นครับ ดีกว่ามือปราบกระดูกเหล็กครับ

 

คำว่า มีนิพพานเป็นอารมณ์
คือจิตเริ่มถึงกระแสนิพพาน

ไม่ได้หมายความว่าเป็นจิตที่ถึงนิพพาน เข้าใจว่ามีพระอรหันตผลเป็นต้น
ต่ำลงมากว่านั้นไม่ถึงนิพพาน เป็นเพียงกระแส แต่มีความมั่นคง มุ่งตรง
เป็นอุชุปฏิปัณโน คือ ปฏิบัติตรงทางของพระนิพพาน

นิพานจึงไม่มีเข้าไม่มีออก ไม่มีการมาการไป

 

กะลังหารูปใหม่อยู่ครับพี่นิวฯ

 

ตอนเปลี่ยนชื่อใหม่ๆ ที่คนเขายังจับไม่ได้ ยังไม่กล้าเปิดเผยตัวเองเลยว่าเป็น bigtoo

พอผมถามไป ว่า newamazing คือ bigtoo ใช่หรือไม่ ก็เล่นลิ้น ไม่ยอมบอก พูดว่า ไม่มีหน้าที่จะต้องบอก

กลับกลอกอีกแล้ว...

 

จริงๆ ตอนนี้เริ่มสัมผัสได้แล้วนะ ถึงอาการของจิตที่มันเปลี่ยนไป

 

สวยแล้วรูปนี้แหล่ะดีบ่งบอกถึงตัวตนท่านปราบดี

 

ใช่เลยค่ะ พี่ปราบกล่าวภาษาสภาวะได้ไพเราะมาก

ความเป็นกลางต่อสังขารทั้งปวง > กลางของกลาง-ของกลาง-ของกลาง ไปเรื่อยๆ ไม่ข้อง ไม่แวะ ไม่เกี่ยว ไม่ข้อง
ในที่สุดความจริงจะปรากฏ เห็น 2 ต่อ คือ สิ่งที่ถูกรู้ กับ สิ่งที่เข้าไปรู้

โอ...Eureka ยูเรก้า (เหมือนดูหนังเลย) อิอิอิ

 

เป็นอาการของจิตคุณอินทรบุตร หรือ
เป็นอาการของจิตของมาย หรือ
เป็นอาการของจิตของคุณนิว หรือ
เป็นอาการของจิตของคุณพี่ปราบ หรือ
เป็นอาการของจิตของคุณพี่ นิวรณ์ อิอิอิ
ฯลฯ
ขอตอบก่อนแล้วกันว่า เป็นอาการจิตของคุณอินทรบุตร
ล้อเล่นน๊ะ แต่เป็นเรื่องจริง อิอิอิ

 

ถูกต้องแล้ว ยังรับมาปรุง ก็มีการเปลี่ยนแปลงไหลไปตามสิ่งที่ถูกปรุงอยู่

 

เมื่อผู้ปฎิบัติได้เข้าใจถึงเทคนิคต่างๆที่ได้บอกกล่าวไปแล้วนั้นขั้นตอนในการปฎิบัติสมถะวิปัสนานั้น ผู้ทึ่จะปฎิบัตินั้นต้องเห็นโทษของอกุศลจิตก่อน ถึงจะเข้าใจว่าเรากำลังจะปรับเปลี่ยนกุศลจิตให้เกิดในสันดาลเราให้มากด้วยการ เจริญสมถะวิปัสนา เราจึงต้องมีปัญญาควบคู่ไปด้วยในการกระทำงานครั้งนี้ เมื่อเราปฎิบัติด้วยการเฝ้ามองอาการที่เกิดขึ้นด้วยการทำเทคนิคเราจะเห้นความสงบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของรา ให้เรานึกถึงความสงบขึ้นนั้นเราก็จะเห็นความแตกต่างของกุศลและอกุศล เมื่อเราระลึกนึกถึงความสงบที่เกิดขึ้นที่ละนิดจนความสงบนั้นมีกำลังมากขึ้นๆตามลำดับ เมื่่อมหาสติเิกิดความเข้าใจทั้งหมดทั้งสิ้นสภาวะเหล่านั้นก็เป้นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะหตุปัจจัย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป สภาวะที่จิตที่เข้าถึงสภาวะต่างๆนั้นจิตจะมีกำลังต่างกันในการข่มกิเลสให้เบาบางลง การข่มกิเลสมีความจำเป็นมาก จนกระทั้งจิตเข้าถึงสภาวะที่สูงสุดเรียกว่านิพพานกิเลสจะถูกทำลายลงด้วยมรรคจิต แต่ละมรรคจิตนั้นๆ

 

กิเลสหน้าตาเป็นอย่างไร?

 

เริ่มสร้างทฤษฏี ใหม่อีกแล้วน้าเรา..............สมถะคืออะไร วิปัสสนาคืออะไรน้า เข้าใจไหมน้า

ภาวนามี ๒ ส่วน เรียกว่า สมถภาวนา กับวิปัสสนาภาวนา หรือว่าสมถกรรมฐานกับวิปัสนากรรมฐาน การข่มกิเลสนะ คือ สมถกรรมฐานเป็นการข่มกิเลสที่แยบคาย เช่น เมื่อมีโทสะก็เอาเมตตา หรือกรุณามาบรรเทาความโกรธ ใจก็จะเยือกเย็น เวลามี ตัณหา ราคะขึ้นมา ก็คือ พิจารณาอสุภกรรมฐาน เป็นการทวนกิเลส กิเลสตัวไหนเกิดก็ภาวนาในทางตรงข้ามเสียนี่หนึ่ง อีกหนึ่งคือมุ่งเน้นที่ความสงบ ถ้าจิตฟุ้งซ่าน ก็ใช้วิธีบังคับหรือ กำหนดจิตให้อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ลมหายใจ
นี่คือสมถะ แต่กิเลสหายไปไหม? ไม่นะ จึ่งต้องมี วิปัสสนากรรมฐาน มันไม่ใช่การเจริญเพื่อให้ได้อำนาจวิเศษนะ แต่เป็นการเจริญปัญญาให้รู้ทันกิเลส ไม่ใช่การข่มหรือต้านอารมณ์ที่เป็นอกุศล ด้วยอำนาจสมาธิ เหมือนตอนเราทำ สมถกรรมฐาน เช่นที่ บางครั้งเราก็ข่มนิวรณ์ เมื่อมันเกิดขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่ วิปัสสนาต้องยกระดับมาสู่การรู้กิเลสหรือรู้ทันกิเลสทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับใจ รู้ความเปลี่ยนแปลงของใจ ที่จริงก็รวมไปถึงกายด้วย ไม่ว่าทุกขเวทนาหรือสุขเวทนาก็ตาม พอมาถึงขั้นที่เป็นการเจริญสติ หรือวิปัสนาแล้ว จะไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชังอะไรเกิดขึ้นก็สักแต่ว่ารู้ ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน รู้เฉย ๆ โกรธก็รู้ ดีใจก็รู้ ชอบก็รู้ ชังก็รู้ ยินดีก็รู้ ยินร้ายก็รู้ นี่แบบนี้น้าถ้าจับประเด็นได้ก็ไม่มีการกวนคำมั่วๆๆ เละๆๆ นะน้า อ่านแล้วไม่รู้ว่าหลุดไปดาวพระเสาร์ไหน?

 

อยากรู้ใช่ป่าว ไปถามนิวรณ์ซิ เขารู้ดี

 

ที่นี้ผู้ใดรู้สึกว่าจิตสงบได้ยาก ก็ให้ลองแผ่เมตตาดูนะครับการแผ่เมตตาก็จะไม่ต่างจากการให้ทานหรอกครับ เพราะการให้นั้นเป็นกุศลจิต ถ้าเราแผ่เมตตาด้วยความรักความเมตตาแล้วทำให้กุศลจิตเกิดติดต่อ กุศลจิตนั้นทำให้จิตใจสงบ เมื่อจิตใจเราเราสงบเล็กน้อยก็ให้นึกถึงความสงบนั้นก็จะทำให้เราสงบขึ้นเรื่อยๆจนเป็นสมาธิได้เช่นกัน

 

ฟางว่านไม่ใช่ newamazingนะ รายนี้เขาจัดว่าเป็นร้อนวิชา จับปูดำผสมปูนา ดูที่โลโก้สิใช้คำว่าตถาคต และอะไรนะ แค่นี้ก็จบแล้วชีวิต โหย...สำนวน.....

 

จอมขมังเวทย์นิว คงหลบไปทำวิชา
กลับมารอบหน้าคงจะฮอตกว่าเดิมหลายเท่า!!!

 

คิดถึงนิวใช่ป่าวครับเครื่องคอมเสียครับ เลยตัดสินใจIPad4ไม่เคยมีกับเขาเลยต้องลอง

 

มันเป็นของที่จัดว่าค่อนข้างฟุ่มเฟือย
เอาเงินค่า ipad ไปทำทานได้ตั้งเยอะ

internet ไม่ต้องใช้ตลอดเวลาก็ได้