ติดตามสถานการณ์ "ซีเรีย" สงครามจะขยายขอบเขตหรือไม่???

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย จริง?หรือ?, 28 สิงหาคม 2013.

  1. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    “ปฏิบัติการโจมตีซีเรีย” เส้นบางๆระหว่าง “จริยธรรม” กับ “กฎหมาย”

    [​IMG]
    การใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง อาจเป็น “เหตุผล” ที่เหมาะสมสำหรับสหรัฐในการเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อซีเรีย แต่ปฏิบัติการที่มีแนวโน้มสูงมากว่าจะเกิดขึ้นนี้ อยู่ภายใต้กรอบของ “กฎหมาย” มากเพียงใด

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่าเพราะเหตุใดการใช้อาวุธเคมีในซีเรียเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ศพ จึงกระตุ้นให้ประเทศมหาอำนาจนำโดยสหรัฐ ประกาศเตรียมใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซง เพื่อ "ลงโทษ" ผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งที่ยังไม่หลักฐานชี้ชัดว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลดามัสกัส หรือฝ่ายกบฏ ปัจจัยใดทำให้สหรัฐและพันธมิตรมั่นใจว่า การใช้กำลังทางทหารคือวิธีที่สมควรที่สุดแล้วในเวลานี้

    หลักการความรับผิดชอบในการคุ้มครอง ( Responsibility to Protect ) หรือที่รู้จักกันในตัวย่อว่า “อาร์ทูพี” ( R2P ) เกิดขึ้นเมื่อปี 2548 จากแนวคิดของนายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ในเวลานั้น ที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวพื้นเมืองในรวันดากว่า 800,000 ศพ เมื่อปี 2537 และการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประธานาธิบดีสโลโบดัน มิโลเซวิช แห่งเซอร์เบีย ต่อชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช่ชาวเซิร์บ ในยูโกสลาเวียและโคโซโว เมื่อ 15 ปีก่อน

    แม้อาร์ทูพีจะเป็นเพียงบรรทัดฐาน ไม่ใช่กฎหมาย แต่ได้รับความเชื่อถือในระดับสากลว่ามีน้ำหนักไม่ต่างกัน และมีองค์ประกอบสำคัญในเบื้องต้น 3 ข้อ ได้แก่

    - ประเทศต้องมีศักยภาพที่จะปกป้องพลเมืองของตัวเองจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ แต่หากเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันทั้งหมด ถือเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ ที่ประชาคมโลกจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้
    - แม้มีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมดังกล่าวข้างต้น แต่ประเทศไม่สามารถรับมือต่อเหตุการณ์ได้ ขอให้ประชาคมโลกร่วมดำเนินการอย่างสันติวิธี รวมถึงวิธีการทางการทูตและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพื่อหาทางหยุดยั้งความโหดร้ายเหล่านี้
    - หากพยายามทุกวิธีแล้วแต่ไม่สำเร็จ ประชาคมโลกสามารถใช้กำลังทางทหารเข้าคลี่คลายสถานการณ์ และปกป้องพลเมืองของประเทศนั้น เพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด

    อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงทางทหารจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ซึ่งในกรณีของซีเรียถือว่าเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงมากว่า รัสเซียและจีน 2 ใน 5 ประเทศสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซีจะใช้สิทธิ์คัดค้าน ( วีโต้ )

    ดูเหมือนใจความสำคัญของอาร์ทูพีจะ “เข้าทาง” สหรัฐและพันธมิตร ด้วยความที่สถานการณ์ในซีเรียยังคงเลวร้าย ประชาคมโลกพยายามร่วมกันทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้น การใช้กำลังทางทหารจึงเป็นวิธีสุดท้าย ที่จะสามารถยุติความรุนแรงในซีเรียได้ ทว่าหากมองย้อนกลับไปยังปฏิบัติการโจมตีทางทหารในยูโกสลาเวีย คำว่า “ประชาคมโลก” ของสหรัฐ กลับหมายถึงองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ไม่ใช่ยูเอ็น ซึ่งตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศถือว่าไม่มีน้ำหนัก และความชอบธรรมมากพอที่จะใช้เป็นเหตุผลในการเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง

    ที่มา “ปฏิบัติการโจมตีซีเรีย” เส้นบางๆระหว่าง “จริยธรรม” กับ “กฎหมาย” | เดลินิวส์
     
  2. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    รัสเซียชี้มติยูเอ็นควรรอรายงานผู้ตรวจสอบก่อน

    [​IMG]
    รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียเผย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรรอรายงานของคณะกรรมการผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติ ซึ่งกำลังทำหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีใกล้กับกรุงดามัสกัสของซีเรีย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 28 ส.ค.ว่า นายวลาดิเมียร์ ติตอฟ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยผ่านทางสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ว่า การหารือว่าควรดำเนินมาตรการใดๆโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้กับกรุงดามัสกัสของซีเรีย เมื่อวันพุธที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นการโจมตีประชาชนด้วยอาวุธเคมี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 1,300 ศพนั้น ควรจะให้คณะผู้ตรวจสอบอาวุธแห่งสหประชาชาติ ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบ สถานที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด สรุปออกมาเป็นรายงานนำเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก่อนที่จะมีมติหรือการดำเนินการใดๆในนามของคณะ
    มนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

    อย่างไรก็ตาม นายวลาดิเมียร์ ติตอฟ กล่าวว่า รัสเซียสนับสนุนตามข้อเรียกร้องของนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่ต้องการให้ได้ข้อยุติทางการทูต สำหรับปัญหาความขัดแย้งในประเทศซีเรีย เป็นการต่อสู้กันระหว่าง
    ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายกบฏ

    ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารที่เกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐลงมือปฏิบัติเพียงแต่ผู้เดียว แต่จะต้องมีนานาชาติร่วมสนับสนุนด้วย และ การโจมตีซีเรีย หากเกิดขึ้นจริงตามคำสั่ง ก็อาจจะใม่ได้จำกัดเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น

    ด้านนายลัคห์ดาร์ บราฮิมี ทูตพิเศษของสหประชาชาติร่วมกับสันนิบาตอาหรับประจำซีเรีย กล่าวว่า การใช้กำลังทางทหารกับประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่สามารถทำได้ หากไม่ได้รับอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะกฎหมายระหว่างประเทศบัญญัติไว้เช่นนั้น

    ที่มา รัสเซียชี้มติยูเอ็นควรรอรายงานผู้ตรวจสอบก่อน | เดลินิวส์
     
  3. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    29-08-2013
    ระวังซีเรียจะกลายเป็นหลุมศพผู้รุกราน


    [​IMG]
    นายกรัฐมนตรีวาเอล อัล-ฮัลกี ของซีเรีย กล่าวเตือนว่าซีเรียจะกลายเป็นหลุมศพของผู้รุกราน หากต่างชาติใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงและยังหาว่าชาติตะวันตกกำลังสร้างเพื่อเป็นข้ออ้างในการโจมตี

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่า นายวาเอล อัล-ฮัลกี นายกรัฐมนตรีซีเรีย กล่าวว่า ซีเรียจะสร้างความประหลาดใจให้กับผู้รุกรานเหมือนกับที่เคยทำมาแล้วในสงครามยม คิปปูร์ เมื่อปี 2516 ตอนทหารอาหรับสู้กับทหารอิสราเอล และ ซีเรียจะกลายเป็นหลุมศพให้กับผู้รุกราน

    นายกรัฐมนตรีซีเรีย กล่าวถึงประเด็นที่ชาติตะวันตกนำโดยสหรัฐ เตรียมปฏิบัติการโจมตีซีเรีย อันเนื่องมาจากการใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน ใกล้กับกรุงดามัสกัส เมื่อวันพุธที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1,300 ศพ

    นายวาเอล อัล-ฮัลกี กล่าวต่อไปอีกว่า ภัยคุกคามจากผู้ล่าอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตก ไม่สามารถทำร้ายซีเรียได้ เพราะเจตนาและความเชื่อมั่นของประชาชนแห่งซีเรีย ซึ่งจะยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด หากถูกลบหลู่

    ขณะเดียวกัน นายไฟซาล มุกแดด รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศซีเรีย กล่าวด้วยว่า ชาติตะวันตกได้ผลักดันให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ใช้แก๊สพิษซาริน ในหลายจุดของประเทศ โดยการเห็นดีด้วยจากอเมริกัน อังกฤษและฝรั่งเศส แต่การกระทำของชาติตะวันตกเหล่านี้จะต้องยุติ เพราะพวกเขาปกป้องพวกก่อการร้าย แล้วต่อไปพวกก่อการร้ายเหล่านี้จะเอาอาวุธเคมีขึ้นมาใช้โจมตีประชาชนในยุโรป

    ก่อนหน้านี้ นายบาชาร์ อัล-จาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำสหประชาชาติ แถลงว่า ฝ่ายกบฏใช้อาวุธเคมี เพื่อกระตุ้นให้ชาติตะวันตกเข้ามาแทรกแซงซีเรีย


    ที่มา ระวังซีเรียจะกลายเป็นหลุมศพผู้รุกราน | เดลินิวส์
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    บทความนี้วิเคราะห์ได้ดี ครับ

    อเมริกาคงจะไม่เข้าไปเสี่ยงกับการใช้ทหารราบ
    เข้าจัดการกับซีเรีย แต่คงใช้อาวุธยาวเข้าไปสยบ

    จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล
    ซึ่งตะวันตกหนุนอยู่อย่างลับๆ

    รายการนี้ไม่เชื่อว่าทางรัสเซียหรือจีน
    จะเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือซีเรีย
    เพราะเห็นแล้วว่าเป็นมติของนาโต
    อีกทั้งยังมีพันธมิตรหลายประเทศเข้าร่วมด้วย

    ประเทศที่ได้อานิสงค์มากที่สุดคือ อิสราเอล
    ที่หมดหอกข้างแคร่ด้ามสุดท้าย
    เผลอๆอาจจะขยายดินแดนเข้ามาในซีเรียเข้าไปอีก

    ประเทศไทยก็เฝ้าดูอยู่ห่างๆและระวังผลกระทบเท่านั้น
     
  5. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    29-08-2013
    ชาวซีเรียแห่ตุนอาหารเตรียมพร้อมรับมือสงคราม คาดอีก 4 วันถูกถล่มแน่


    [​IMG]

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย รายงานเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่า ประชาชนในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรีย เริ่มกักตุนอาหารและสิ่งของจำเป็นแล้วเมื่อวานนี้ โดยร้านชำ ก็เตรียมสินค้าจำเป็นต่าง ๆ ทั้งขนมปัง อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำดื่มบรรจุขวดและถ่าน ให้พอกับความต้องการของประชาชน จากนั้นประชาชนก็อพยพออกจากบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เป้าหมายที่มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกโจมตี

    ขณะที่ เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐกำหนดแผนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อซีเรียร่วมกับพันธมิตรหลายชาติ ซึ่งอาจใช้เวลาไม่กี่วันนี้ ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ก็เสร็จสิ้นการตรวจสอบครั้งที่ 2 ในพื้นที่ชานกรุงดามัสกัสที่มีการอ้างว่าถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี เพื่อเก็บหลักฐานการโจมตีด้วยที่ดูเหมือนจะเป็นก๊าซพิษ ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน แต่ขณะที่ นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้บรรดามหาอำนาจโลกมีความเป็นเอกภาพ และขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธมากกว่านี้ เพื่อให้เสร็จสิ้นภารกิจของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ทางสหรัฐ และพันธมิตรในยุโรป และตะวันออกกลาง ต่างประสานเสียงว่า พวกเขาได้ตัดสินใจแล้ว และว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ต้องเผชิญหน้ากับการตอบโต้ที่รุนแรง ฐานใช้อาวุธต้องห้ามต่อประชาชนของตน

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลซีเรีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ให้ซีเรีย ก็ออกมาตอบโต้ ประณามกบฏว่าเป็น ผู้ก่อการร้ายที่ปล่อยสารพิษโจมตีประชาชนโดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส พร้อมทั้งเตือนว่า ซีเรียจะเป็น “หลุมฝังศพของผู้รุกราน”

    ด้านทางการวอชิงตัน ย้ำว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าเขาจะสั่งให้ดำเนินการอย่างไร ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูง กล่าวว่า การโจมตีอาจใช้เวลาหลายวัน และจะเกี่ยวข้องกับประเทศพันธมิตรอื่น ๆ ด้วย ขณะนี้ กองทัพชาติตะวันตกคาดว่าจะรอจนกว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธยูเอ็น เดินทางออกจากซีเรีย ซึ่งภารกิจ 14 วันของเขาต้นในเบื้องต้น จะสิ้นสุดลงในอีก 4 วันนี้ และนายบัน ก็กล่าวว่า พวกเขาต้องการทำงานให้เสร็จภายใน 4 วันนี้

    ส่วนความเคลื่อนไหวด้านอื่น ๆ ตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และเป็นประเทศเพื่อนบ้านซีเรีย สั่งกองทัพเตรียมพร้อมเต็มที่ เช่นเดียวกับอิสราเอลก็ได้ตระเตรียมทหารกองหนุนบางส่วนไว้แล้ว และส่งเสริมระบบป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธทั้งจากซีเรียและเลบานอนแล้ว

    แต่หลายปัจจัย ซึ่งรวมทั้งสภาพอากาศ และการประเมินการป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย อาจส่งผลกระทบต่อกรอบเวลาในการโจมตี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ขีปนาวุธร่อนจะถูกใช้จากเรือรบสหรัฐในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เครื่องบินรบอาจเข้ามามีบทบาทสำคัญด้วย อาจอาจมีกองทัพจากมหาอำนาจนาโตอื่น ๆ เข้าร่วมด้วย โดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส


    ที่มา ชาวซีเรียแห่ตุนอาหารเตรียมพร้อมรับมือสงคราม คาดอีก 4 วันถูกถล่มแน่ | เดลินิวส์
     
  6. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    29-08-2013
    โอบามาฟันธงแล้วรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีจริง แต่ยังไม่ตัดสินใจโจมตี


    [​IMG]
    ประธานาธิบดีโอบามา ยืนยันแล้วว่า รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีอัสซาด ใช้อาวุธเคมีโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเป้าหมายของการโจมตีซีเรียอย่างจำกัด ก็เพื่อเป็นการส่งสัญญาณเตือนอย่างแข็งกร้าวว่า อย่าใช้อาวุธเคมีอีกในอนาคต แต่ขณะนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจโจมตี

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แถลงว่า สหรัฐสรุปแล้วว่า รัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีโจมตีใกล้กรุงดามัสกัส การใช้อาวุธเคมีดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐ และเป็นการส่งสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งต่อผลกระทบในสงครามซีเรีย

    แต่ในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวพีบีเอส ผู้นำสหรัฐระบุว่า เขาก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซง ซึ่งถ้อยแถลงของโอบามา มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากมีการต่อสู้งัดข้อกันในสหประชาชาติ โดยอังกฤษพยายามที่จะกดดันให้ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น มีมติแก้ปัญหา ด้วยการออกมาตรการปกป้องพลเรือนในซีเรีย แต่รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของซีเรีย ไม่เห็นด้วยกับการออกมติดังกล่าว และการประชุมก็สิ้นสุดลงโดยไม่มีความคืบหน้าทางการทูต ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ก็ยังขัดแย้งกันต่อไปเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย

    ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ก็วิพากษ์วิจารณ์ “ความดื้อแพ่งของรัสเซีย” และกล่าวว่า สหรัฐไม่อาจปล่อยให้ความชะงักงันทางการทูตมาเป็นเกราะป้องกันตัวให้ผู้นำซีเรีย

    เมื่อถูกถามถึงเป้าหมายที่อาจมีการโจมตีซีเรียอย่างจำกัด ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวว่า มันจะเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวไปถึงรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาดว่า อย่าใช้อาวุธเคมีอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังไม่ได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรองที่จะแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลของนายอัสซาดใช้อาวุธเคมี และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธยูเอ็น ก็ยังคงทำงานอยู่ในซีเรีย ซึ่งนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น ระบุว่า ขอเวลาอีก 4 วันในการทำงานให้เสร็จ

    ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่า รัฐบาลซีเรียเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในชานกรุงดามัสกัสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และไม่เชื่อว่า ฝ่ายค้านซีเรียมีอาวุธเคมีในปริมาณมากขนาดนี้

    ที่มา โอบามาฟันธงแล้วรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีจริง แต่ยังไม่ตัดสินใจโจมตี | เดลินิวส์
     
  7. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    29-08-2013
    "ยูเอ็น" ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องซีเรีย


    [​IMG]
    รัสเซียจับมือจีนยกมือค้านญัตติที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในเรื่องการ "ให้ความช่วยเหลือ" ต่อชาวซีเรีย หรืออีกนัยหนึ่ง คือการใช้กำลังทางทหาร

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่าสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการส่งกำลังทหารเข้าไปยังซีเรียตามข้อเสนอของอังกฤษ พร้อมกับขอทุกฝ่ายรอข้อสรุปจากทีมงานด้านอาวุธเคมี ซึ่งยังคงไม่เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจ

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) จัดประชุมวาระฉุกเฉิน หลังอังกฤษยื่นญัตติขอให้มีการพิจารณาอนุมัติการมอบความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ชาวซีเรีย เพื่อยุติเหตุรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้น แม้จะไม่กล่าวโดยตรง แต่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หมายถึงการใช้กำลังทางทหาร

    อย่างไรก็ตาม การประชุมที่กินเวลานานถึง 75 นาทีจบลงด้วยการไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากจีนและรัสเซีย 2 ใน 5 ประเทศสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซีใช้สิทธิ์ยับยั้ง ( วีโต ) ข้อเสนอดังกล่าวของอังกฤษ โดยมอสโกยังคงยืนยันเหตุผลเดิมว่า การแทรกแซงกิจการภายในของซีเรียมีแต่จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง

    ขณะที่นายแอนเดอร์ส ฟ็อกซ์ ราสมุสเซ่น เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ออกมากล่าวเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีด้วยอาวุธเคมี ชานกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ศพ ว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่รุนแรงเกินกว่าจะมีใครรับได้ แต่ยังไม่กล่าวลึกลงในรายละเอียดว่า นาโตจะเข้าไปแสดงบทบาท ดังเช่นการแทรกแซงทางทหารในยูโกสลาเวียและลิเบียหรือไม่

    ด้านนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น แถลงขอเวลาให้คณะผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีของยูเอ็น ซึ่งตอนนี้กำลังเก็บหลักฐานอยู่ที่เขตโกตา ทางตะวันออกของกรุงดามัสกัส ซึ่งทีมงานน่าจะใช้เวลาส่งรายงานสรุปได้ภายใน 4 วัน ส่วนนายลัคห์ดาร์ บราฮิมี ทูตพิเศษของยูเอ็นและสันนิบาตอาหรับในเรื่องกิจการซีเรีย กล่าวย้ำว่า การแทรกแซงทางทหารในซีเรีย ต้องผ่านการลงมติจากยูเอ็นเอสซีเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม


    ที่มา "ยูเอ็น" ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องซีเรีย | เดลินิวส์
     
  8. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155

    29-08-2013
    ซีเรียเปิดทาง UN ตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีใน ปท.


    เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ลงพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของกรุงดามัสกัส ในซีเรีย เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งที่ 2 ที่ต้องสงสัยว่าทหารฝ่ายรัฐบาลใช้อาวุธเคมีโจมตีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา หลังยกเลิกภารกิจ 1 วัน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
    ทั้งนี้ ทางการซีเรียอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ยูเอ็นรวม 20 คน เข้าไปตรวจสอบเรื่องการใช้แก๊สพิษโจมตีบางแห่งและสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมากว่า 29 เดือน จนมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1 แสนคน

    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9560000108154
     
  9. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    29-08-2013
    สหรัฐลั่นพร้อมบุกเดี่ยวซีเรียแม้ "ยูเอ็น" ขวาง


    [​IMG]
    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐประกาศพร้อมเดินหน้า "มาตรการลงโทษ" ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ในเรื่องการใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชน ไม่ว่า "ยูเอ็น" จะห้าม หรือผลออกมาว่าไม่ใช่ฝีมือของอัสซาด แต่ผู้นำซีเรียก็ต้องรับผิดชอบ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ว่าทางการสหรัฐประกาศเดินหน้าการเป็นฝ่ายเปิดฉากภารกิจโจมตีทางทหารต่อซีเรีย แม้จะไม่ได้รับความสนับสนุนจากพันธมิตรหรือสหประชาชาติ โดยให้เหตุผลว่า กระบวนการทางการทูตไม่อาจทำให้รัฐบาลซีเรีย "สำนึก" ต่อสิ่งที่ทำลงไปได้

    นางสาวมารี ฮาร์ฟ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์พีบีเอส แสดงความมั่นใจว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย คือผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 ส.ค. คร่าชีวิตประชาชนกว่า 1,300 ศพ ว่าอัสซาดต้อง "รับผิดชอบ" ต่อการเสียชีวิตของประชาชนทั้งหมด แม้เขาจะไม่ได้เป็นผู้บงการโดยตรงก็ตาม

    ฮาร์ฟกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ปัจจุบันถือว่าตึงเครียดอย่างมาก นอกจากนี้ วอชิงตันไม่สามารถรอมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ได้ ตราบใดที่รัสเซียและจีนยังคงไม่ยอม "ประนีประนอม" เช่นนี้ และแม้ประเทศพันธมิตรเปลี่ยนใจไม่ให้ความสนับสนุน สหรัฐก็พร้อมที่จะเดินหน้า "แผนการ" ต่อไปเพียงลำพัง

    อย่างไรก็ตาม แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามซักถามเกี่ยวกับ "หลักฐาน" ที่ทำให้วอชิงตันมั่นใจว่า รัฐบาลของอัสซาดหรือบุคคลใกล้ชิดผู้นำซีเรีย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีครั้งนี้จริง ฮาร์ฟยังปฏิเสธที่จะตอบ แต่กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองจะยื่นหลักฐานให้สภาคองเกรสทราบ ก่อนออกรายงานเผยแพร่ต่อสาธารณะอีกครั้ง สอดคล้องกับทรรศนะของนักวิเคราะห์หลายคนที่เชื่อว่า ต่อให้ไม่ใช่ฝีมือของอัสซาด สหรัฐก็บุกซีเรียอยู่ดี



    ที่มา สหรัฐลั่นพร้อมบุกเดี่ยวซีเรียแม้ "ยูเอ็น" ขวาง | เดลินิวส์
     
  10. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    สรุปสถานการณ์: (อัพเดท 29 ส.ค. 12.00 น.)
    สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศสส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องเห็นควรโจมตีซีเรีย และอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนการรบ Prince Saud Al-Faisal ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวในทำนองเดียวกันเรียกร้องให้นานาชาติจัดการรัฐบาลอัสซาดอย่าง “เฉียบขาด จริงจัง”
    ด้านรัฐบาลซีเรียประกาศกร้าวไม่ยอมแพ้ “เราจะทำการปกป้องตนเอง” พร้อมกับเตือนว่าการโจมตีจะเป็นประโยชน์ต่ออิสราเอลกับอัลกออิดะห์เท่านั้น

    คืบหน้าล่าสุด: (อัพเดท 29 ส.ค. 12.00 น.)
    ประธานาธิบดีบารัก โอบามากล่าวว่ารัฐบาลได้สรุปแล้วว่าระบอบอัสซาดเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี แต่ตนยังไม่ตัดสินใจว่าจะโจมตีซีเรีย ยังอยู่ระหว่างการหารือกับทีมที่ปรึกษา การที่รัฐบาลอัสซาดใช้อาวุธเคมีเป็นอีกหนึ่งเหตุผลในการพิจารณาว่าควรโจมตีหรือไม่ ประธานาธิบดีอัสซาดจะต้องรับผิดชอบ “ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องสะท้อนให้รู้ว่ามีการใช้อาวุธเคมี” ในขณะที่รัฐบาลอัสซาดพยายามปิดบังมาโดยตลอด ... การใช้อาวุธเคมีไม่ใช่ช่วยแก้ปัญหาภายในของซีเรีย มีแต่ทำให้ “พลเรือนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิต” อย่างต่อเนื่อง “เราเชื่อว่าฝ่ายต่อต้านไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมี ...ไม่เชื่อว่าฝ่ายต่อต้านจะสามารถใช้อาวุธเคมี เพราะต้องมีระบบนำส่ง อย่างเช่นการใช้จรวด เราจึงสรุปว่ารัฐบาลซีเรียเป็นผู้ใช้อาวุธเหล่านี้”

    เมื่อวันพุธ (28 ส.ค.) ประเทศรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ข้อมติดังกล่าวต้องการให้คณะมนตรีอนุมัติการใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย คุณ Marie Harf รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่าสหรัฐฯ “ไม่เห็นทาง (ที่จะใช้ช่องทางคณะมนตรีฯ อีกต่อไป) เพราะรัสเซียต่อต้านไม่ยอมให้คณะมนตรีฯ แสดงบทบาท”

    ด้านนายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน เห็นว่าการแทรกแซงทางทหารไม่ว่าจะรูปแบบใด “จะทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคกับของโลก และชักนำให้ลัทธิสุดโต่ง (extremism) กับลัทธิก่อการร้ายในตะวันออกกลางขยายตัวมากขึ้น” พร้อมกับประณามการใช้อาวุธเคมีทุกชนิด และเชื่อว่ามีคนบางกลุ่มต้องการ “ใช้การโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากสถานการณ์การสู้รบที่แท้จริงในซีเรีย เพื่อจะได้ประโยชน์จากการใช้อาวุธเคมี แสดงมุมมองอย่างคนสายตาสั้นและเต็มไปด้วยอันตราย”
    นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโรฮานี ยังเรียกร้องให้สหประชาชาติตรวจสอบหาความจริง รวมทั้งเรื่องที่กลุ่มหัวรุนแรงนำสารเคมีจากต่างประเทศเข้าซีเรีย”

    วิเคราะห์: (อัพเดท 29 ส.ค. 12.00 น.)
    (เกาะติดประเด็นร้อนฉบับนี้จะมุ่งติดตามคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุด และรายงานผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน)
    ประการแรก การที่ประธานาธิบดีโอบามากล่าวยังไม่ตัดสินใจ ตีความได้สองทิศทาง
    1)โอบามาพยายามเลี่ยงการโจมตี
    จะเป็นแนวเดียวกับตลอดสองปีครึ่งที่ผ่านมาที่รัฐบาลโอบามาพยายามเลี่ยงการแทรกแซงด้วยกำลังทหาร หรือถ้าประธานาธิบดีอัสซาดยอมก้าวลงจากอำนาจในตอนนี้ การโจมตีจะไม่เกิดขึ้น

    2)อยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมทางการเมืองทั้งภายในและระหว่างประเทศ
    เพื่อให้การโจมตีถูกต้องตามขั้นตอนในประเทศ (มีขั้นตอนบังคับอยู่แล้ว) และมีความชอบธรรมทางการเมืองระหว่างประเทศ เช่น สมาชิกรัฐสภาอยู่ระหว่างการหารือลับ รอข้อสรุปจากการเมืองภายในประเทศ
    ลองวิธีการขอมติจากคณะมนตรีสหประชาชาติ ซึ่งทุกฝ่ายต่างรู้แก่ใจอยู่แล้วว่าจะไม่ผ่าน (และไม่ผ่านจริงด้วยเพราะรัสเซียยับยั้งข้อมติ) แต่ต้องมีกระบวนดังกล่าวก่อน เพื่อนำสู่ข้อสรุปว่าสหรัฐฯ จะโจมตีโดยไม่ผ่านคณะมนตรีความมั่นคง ไม่ผ่านสหประชาชาติ
    ดังนั้น ณ ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปชัดได้ว่าสหรัฐฯ จะโจมตีหรือไม่ แต่สามารถติดตามทิศทางได้โดยดูสัญญาณต่างๆ

    ประการที่สอง หลายประเทศแสดงความเห็น ท่าทีไม่เห็นด้วยกับการโจมตี
    มีคำถามว่า การโจมตีทำเพื่อประโยชน์ของใคร เพื่อยับยั้งการใช้อาวุธเคมี หรือเป็นการสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในสมรภูมิ
    ในอีกมุมหนึ่ง ประเทศที่พยายามขัดขวางย่อมต้องหาเหตุผลเพื่อโจมตีสหรัฐฯ

    ผลกระทบต่อตลาดทุน:
    (ข้อมูลส่วนนี้จะปรับตามเวลา เพื่อแสดงสถานะล่าสุด)
    วันนี้ (29 ส.ค.) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วเอเชียปรับสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบสองเดือน ล่าสุดนิเคอิ ฮั่งเส็ง และสิงคโปร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 0.5
    Shane Oliver นักกลยุทธ์การลงทุนจาก Capital Investors Ltd เชื่อว่าวันนี้ราคาจะไม่ผันผวน ตลาดหุ้นยังมีความกังวลหลายเรื่อง ทั้งเรื่องสถานการณ์ในซีเรีย เรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และปัจจัยพื้นฐานของประเทศในเอเชียที่ตอนนี้ไม่ค่อยดึงดูดให้ลงทุนเหมือนเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
    นักลงทุนกำลังจับตาปฏิกิริยาจากสหรัฐฯ กับอังกฤษภายหลังที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติไม่สามารถออกข้อมติโจมตีซีเรีย
    ราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า NYMEX เช้านี้ปรับลดลงเล็กน้อย อยู่ระหว่าง 109-110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
    ดังที่วิเคราะห์ข้างต้นว่า ณ ขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ทั้ง “โจมตี” กับ “ไม่โจมตี” ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างที่ไม่อาจคาดเดาได้ทั้งหมด ตลาดอยู่ระหว่างการรอสัญญาณ รอดูทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้
    อนึ่ง การวิเคราะห์นี้มุ่งอธิบายสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุน

    สรุปแล้ว ณ ขณะนี้สำนักข่าวทั่วโลกเฝ้าจับตาความคืบหน้าจากรัฐบาลสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส ว่าได้เตรียมการโจมตีถึงขั้นใดแล้ว (หรือจะไม่โจมตี) เพื่อประเมินว่าการรบจะเป็นอย่างไร
    ต้องติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด

    เขียนโดย ชาญชัย คุ้มปัญญา
     
  11. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    29-08-2013
    แนวโน้มยุทธวิธีการรบของสหรัฐในซีเรีย


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    นักวิเคราะห์เผยความเป็นไปได้ของยุทธศาสตร์การรบที่สหรัฐน่าจะใช้ หากเป็นฝ่ายเปิดฉากใช้กำลังทางทหารต่อซีเรีย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ว่าในที่สุดประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ก็ออกมากล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้วว่า รัฐบาลซีเรียคือผู้อยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีคร่าชีวิตประชาชนกว่า 1,300 ศพ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พร้อมกับยืนยันว่า อัสซาดต้อง "รับผิดชอบ" แม้จะยังเลี่ยงการกล่าวถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหารเข้าแทรกแซง แต่ท่าทีของผู้ใต้บังคับบัญชาและพันธมิตรที่ออกมาแสดงความพร้อมขั้นสูงสุด ยิ่งทำให้ทั่วโลกเชื่อว่า การเปิดฉากโจมตีทางทหารกำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

    แน่นอนว่ายุทธศาสตร์การรบต้องถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า แนวทางต่อไปนี้มี "ความเป็นไปได้" สูงที่สุด

    ใครเป็นคนตัดสินใจ
    คำสั่งเริ่มเปิดฉากรบต้องมาจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐคนเดียวเท่านั้น ซึ่งจะแจ้งโดยตรงมายังพลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ และนายชัค ฮาเกล รมว.กระทรวงกลาโหม จากนั้นทั้งคู่จะเป็นคนถ่ายทอดคำสั่งต่อไปยังหน่วยบัญชาการภาคกลาง ภายใต้การดูแลของพลเอกลอยด์ ออสติน และพลเรือเอกบรูซ คลิงแกน ผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐประจำภาคพื้นยุโรป ซึ่งทั้งสองคนน่าจะเป็นผู้นำกองทัพสหรัฐในปฏิบัติการโจมตีซีเรียครั้งนี้

    สรรพาวุธของสหรัฐ
    ตอนนี้เรือพิฆาต 4 ลำของกองทัพเรือสหรัฐ ได้แก่ เรือยูเอสเอส เกรฟลีย์ ยูเอสเอส มาฮาน ยูเอสเอส บาร์รีย์ และยูเอสเอ รามาจ แล่นเข้าไปประจำการอยู่ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากได้รับคำสั่งยิง เรือพิฆาตทั้ง 4 ลำจะระดมยิงจรวดโทมาฮอว์กที่มีพิสัยการโจมตีอยู่ที่ 1,000 ไมล์ทะเล ทั้งนี้ จรวดแต่ละลำมีขนาดยาว 6 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 0.6 เมตร และติดหัวรบน้ำหนักราว 450 กิโลกรัม

    นอกจากนั้นยังมีเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นนิมิตซ์ยูเอสเอส ทรูแมน ประจำการรอท่าอยู่ที่ทะเลอาหรับ และเรือยูเอสเอส นิมิตซ์ ที่เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับสหรัฐ เพื่อประจำการอยู่ที่มหาสมุทรอินเดียต่อไปก่อนด้วย

    จะมีการใช้กำลังภาคพื้นดิน และเครื่องบินเจ็ทหรือไม่
    ก่อนหน้านี้สหรัฐออกมาเผยว่า หากต้องเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อซีเรีย จะไม่มีการใช้กำลังภาคพื้นดิน ขณะที่หน่วยข่าวกรองของวอชิงตันเคยรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพซีเรียนั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก การส่งเครื่องบินเจ็ทหรืออากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) เข้าไป อาจมีสิทธิ์ถูกทหารของอัสซาดยิงตกเอาง่ายๆ

    นอกจากนี้ โอบามายังปฏิเสธการประกาศ "เขตห้ามบิน" เหนือน่านฟ้าซีเรีย หลังทหารระดับสูงออกมาเตือนว่า เสี่ยงเกินไปที่จะทำเช่นนั้น

    เป้าหมายโจมตี
    พล.อ.เดมป์ซีย์เคยชี้แจงต่อสภาคองเกรสแล้วว่า หากต้องมีการใช้กำลังทางทหาร กองทัพจะเลือกเป้าโจมตีที่แน่นอนว่า เป็นคลังแสดงอาวุธ และฐานที่มั่นของกองทัพฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลซีเรียทุกแห่ง ตลอดจนกระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอาคารที่ทำการพรรคบาธของอัสซาด คือหนึ่งในเป้าโจมตีเช่นกัน

    นอกจากนี้ กองทัพต้องหาทางโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศซึ่งเป็นไม้เด็ดของอัสซาดให้ได้ ซึ่งวอชิงตันสันนิษฐานว่ามีไม่ต่ำกว่า 500 จุด และเครื่องบินต่อสู้อากาศยานอีกกว่า 400 ลำ ส่วนใหญ่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนติดกับเลบานอน ที่ราบสูงโกลัน และรอบกรุงดามัสกัส

    ข้อควรระวัง
    หากสหรัฐตัดสินใจบุกเดี่ยวโดยไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ข้อสำคัญที่ควรระวังอย่างที่สุด คือห้ามทำร้ายหรือสังหารอัสซาดเด็ดขาด เนื่องจากกฎหมายสหรัฐฉบับหนึ่งระบุเอาไว้ชัดเจนว่า ห้ามลอบทำร้ายและลอบสังหารผู้นำประเทศใด หากบุคคลนั้นไม่ได้เป็นฝ่ายคุกคามสหรัฐก่อน


    ที่มา แนวโน้มยุทธวิธีการรบของสหรัฐในซีเรีย | เดลินิวส์
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    แค่ความทุกข์จากการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องผ่าน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็มากพออยู่แล้ว ยิ่งเราไปคิดไปเอาเรื่องของโลกภายนอก สงคราม ดราม่า ของคนนั้นคนนี้ ที่มันซ้ำๆซากๆแบบนิยาย มีทุกยุคทุกสมัยทุกประเทศ มาปะสม มันก็ยิ่งทำให้ห่างไกลความสุขมากเท่านั้น อย่าไปมองคนอื่นไกล หรือ คิดจะเปลี่ยนโลกภายนอกเอาตัวเองให้รอด คิดถึงตัวเองให้มากๆก่อนว่า จะหนีทุกข์ของตัวเองได้ไหม
     
  13. manganiss

    manganiss เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +636
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลข่าวสารครับผม
     
  14. สิริพล

    สิริพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +336

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ตุ้มโฮม

    ตุ้มโฮม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +497
    ตึงเครียดหนัก! ปูตินสั่งส่งเรือรบรัสเซีย 2 ลำมุ่งหน้า “ชายฝั่งซีเรีย”

    ตึงเครียดหนัก! ปูตินสั่งส่งเรือรบรัสเซีย 2 ลำมุ่งหน้า “ชายฝั่งซีเรีย” คาดช่วยปกป้อง “รบ.อัสซาด” จากการโจมตีของตะวันตก..

    รัฐบาลรัสเซีย มหามิตรของซีเรีย ตัดสินใจส่งเรือรบ 2 ลำเข้าสู่น่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออกแล้ว ส่งสัญญาณชัดพร้อมปกป้องซีเรียจากการรุกรานของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตกที่เตรียมฉวยโอกาสโจมตีซีเรียโดยใช้เหตุผลว่า รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง

    รายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ในวันพฤหัสบดี (29) ระบุว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้กองทัพแดนหมีขาวส่งเรือรบ 2 ลำมุ่งหน้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออกแล้ว ในขณะที่สหรัฐฯและชาติพันธมิตรตะวันตกกำลังเตรียมเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย หนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของรัสเซียในภูมิภาคตะวันออกกลาง

    รายงานของอินเตอร์แฟกซ์ซึ่งอ้างแหล่งข่าวในกองทัพรัสเซียระบุด้วยว่า ทางกองทัพได้รับคำสั่งให้ส่งเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธ และเรือรบต่อต้านเรือดำน้ำเข้าไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออก ไม่ไกลจากชายฝั่งของซีเรียแล้ว และคาดว่า เรือรบทั้งสองลำของรัสเซียจะเดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    อย่างไรก็ดี กองทัพเรือรัสเซียออกมาแถลงในเวลาต่อมาว่า การส่งเรือรบทั้งสองลำเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังทางเรือตามปกติเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในซีเรีย

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซีย มีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส อดีตประเทศเมืองแม่ของซีเรียออกโรงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกต่อปัญหาซีเรีย โดยใช้ “สันติวิธี” และแนวทางทางการเมือง

    ท่าทีของโอลลองด์ดูจะสวนทางกับสหรัฐฯ อังกฤษ ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ที่ต่างเตรียมเปิดการโจมตีต่อซีเรียในเร็ววัน โดยไม่รอฟังแม้กระทั่งผลการตรวจสอบของทีมผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าพบข้อมูลที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลซีเรียนำอาวุธเคมีมาใช้เข่นฆ่าประชาชนจริงหรือไม่

    ล่าสุดมีรายงานว่า สหรัฐฯและอังกฤษได้บีบให้องค์การสหประชาชาติสั่งถอนกำลังทีมตรวจสอบอาวุธเคมีที่นำโดย อาเก เซลล์สตรอม ผู้เชี่ยวชาญชาวสวีดิชออกจากซีเรียแล้ว ส่งผลให้ทีมตรวจสอบดังกล่าวซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจในการค้นหาคำตอบในซีเรียต้องเร่งเดินทางกลับออกมาภายในช่วงเช้าวันเสาร์ (31) นี้

    โดย บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นชาวเกาหลีใต้ เผยที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย โดยระบุว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯแล้วในวันพุธ (28) เกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย ซึ่ง บัน ย้ำว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาปรารถนาจะให้ทีมตรวจสอบชุดดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ในซีเรียต่อไป แต่ปฏิเสธว่า การที่ทีมตรวจสอบฯต้องเร่งเดินทางออกจากซีเรียนั้นเป็นเพราะได้รับแรงกดดันจากสหรัฐฯ
    ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่ากองทัพอากาศสหราชอาณาจักรได้ส่งเครื่องบินขับไล่ “Typhoon” จำนวน 6 ลำเข้ามายังฐานทัพอากาศ “อะโครติรี” บนเกาะไซปรัสแล้ว

    แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมเมืองผู้ดี ปฏิเสธว่า การส่งเครื่องบินขับไล่ดังกล่าวเข้ามายังไซปรัส เป็นเพียงการกระทำเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ” ในฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเท่านั้น โดยไม่ยอมตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า เตรียมใช้ไซปรัสที่อยู่ห่างจากชายฝั่งของซีเรียราว 200 กิโลเมตรเป็นฐานสำหรับการโจมตีซีเรียหรือไม่..

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ -
     
  16. puvadon777

    puvadon777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,076
    ค่าพลัง:
    +5,890
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ajyBzK72d9I]จีน-สหรัฐฯ-รัสเซียขัดแย้งซีเรีย - YouTube[/ame]

    จีน-สหรัฐฯ-รัสเซียขัดแย้งซีเรีย
    suthichai yoon
    เผยแพร่เมื่อ 22 ส.ค. 2012
    สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย ระหว่างฝ่ายกบฎที่ต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดกับ ฝ่ายทหารของรัฐบาล ยืดเยื้อมานนานกว่า 17 เดือนแล้ว และไม่มีท่าทีว่าจะจบลงง่ายๆ แต่ทำไมสหรัฐฯถึงไม่มีส่วนร่วมกับสงครามคร­ั้งนี้ด้วย
     
  17. puvadon777

    puvadon777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,076
    ค่าพลัง:
    +5,890
    ขออนุญาตร่วมด้วยช่วยกันนะครับ เพราะถ้าเกิดสงคราม "ซีเรีย" จริง คงมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อทุกประเทศในโลก

    เว็บไซต์ รอยเตอร์ ผู้สันทัดภาษาอังกฤษน่าติดตามครับ ทันต่อเหตุการณ์ดี

    Syria | Reuters.com
     
  18. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    นี่เป็นเรื่องใหญ่มากจริงๆ คำว่า(บังเอิญ)ไม่มีในโลก
     
  19. white sky

    white sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +118
    ขอเสริมเกร็ดที่เกี่ยวข้องทางด้านความเชื่อนะครับ

    ในประเด็นที่ขัดแย้งกันในโลกอิสลามขณะนี้
    ต้องท้าวความถึงความเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อ ที่ต้องลากยาวไปตั้งแต่ของศาสนาในสายยิวหรือยูดายที่เป็นรากฐานทางความเชื่อของอิสลามอีกที ที่มีชุดความเชื่อหนึ่งว่า กลุ่มความเชื่อของตนเอง เป็นผู้ที่สมควรครอบครองโลก เพราะ โลกนี้พระเจ้าของเขานั้นสร้างขึ้นมา และพระเจ้ารักพวกเขามากที่สุด เขาจึงจะต้องเป็นผู้ที่จะชี้นำ ปกครอง รวมถึงเป็นเจ้าของโลกนี้ ในส่วนยิวนั้นเขาจะผูกขาดที่คนของเผ่ายิว จะเห็นได้ว่ายิวอยู่ที่ไหนก็จะตีรันฟันแทงกับชาวบ้านเสมอมา ตั้งแต่สมัยอียิปต์มาแล้ว แต่ในยุคโบราณสมัยนั้นยิวไม่ได้เข็มแข็งมากพอ และแตกกระจายมาตลอด (แต่เมื่อถึงสมัยปัจจุบันที่ยิวรวมกันได้อีกครั้ง ความคิดนี้ก็ได้กลับมา ซึ่งฝั่งยิวอาจทำได้เกือบสำเร็จแล้วในนามสหรัฐอันเป็นหุ่นเชิดอยู่นั่นเอง)

    ต่อมาเมื่อมาถึงคริสตศาสนา แนวความเชื่อนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อศาสนจักรก่อเกิดขึ้น ถึงยุคหนึ่งพระสันตปาปาก็เริ่มที่จะดำเนินนโยบายครองโลก โดยแผ่ความเชื่อทางคริสตศาสนาขึ้นมา เพราะมีระบบความเชื่อที่นำมาจากยูดายที่เชื่อว่าตนตัวแทนพระเป็นเจ้า และควรให้มนุษย์ทั้งหมดบนโลกมาเชื่อพระเจ้าในนามคริสต์ และต่อมาได้พัฒนาไปสู่ลัทธิจักรวรรดินิยมโดยที่กษัตริย์มีส่วนในการฮั้วอำนาจของพระเจ้าร่วมกับศาสนจักรด้วย(ในภายหลังนำไปสู่ยุคล่าอาณานิคม)

    ในส่วนอิสลามที่คู่ขนานขึ้นมา ก็ได้ใช้ความเชื่อนี้ด้วยเช่นกัน แต่แตกต่างกับยิวตรงที่ ไม่ได้ผูกขาดในเรื่องเผ่า แต่ผูกขาดในด้านความเชื่อแทน คือ ผู้เชื่ออิสลามอาจจะเป็นเผ่าใดก็ได้ควรรับหน้าที่นี้ในการนำโลกให้คืนสู้ผู้สร้างสวนอีเดน ผู้นำแห่งอำนาจสูงสุดก็คือ นบีมูฮัมหมัด นั่นเอง ที่จะนำอิสลามให้อยู่บนผืนโลกแต่เพียงผู้เดียว ในเวลาต่อมาเมื่อนบีมูฮัมหมัดตายลง มีทายาทผู้หนึ่งที่มุสลิมกลุ่มหนึ่งเชื่อกันว่าคือผู้สืบทอดอำนาจพระเจ้าต่อจากนบี ผู้นำคนนั้นชื่อว่า อาลี และนั่นเป็นจุดที่ทำให้เกิดการแตกนิกายเป็นชีอ่ะห์คือผู้เชื่อถือตามอาลี และอีกฝั่งคือฝ่ายซุนหนี่ที่ใช้ระบบสืบทอดอีกแบบและถูกเรียกว่านิกายซุนหนี่ แต่ทั้งสองฝั่งก็ไม่ได้เห็นด้วยซึ่งกันและกัน และก็ได้มีการเข่นฆ่ากันเรื่อยมาระหว่างสองฝั่งนี้ แต่ทั้งสองฝั่งก็ยังคงมีความเชื่อที่จะครองโลกโดยอิสลาม ต่างกันเพียงแค่ผู้นำที่สืบสายไปในภายหลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 สิงหาคม 2013
  20. white sky

    white sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +118
    ความคิดที่จะให้อิสลามครอบครองโลกแผ่วไปในช่วงหนึ่ง เพราะฝั่งจักรวรรดิ์นิยมของคริสต์นั้นแข็งแกร็งกว่าอิสลามมาก อิสลามจึงไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่ถึงเมื่อปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฝั่งจักรวรรดิ์นิยมเริ่มอ่อนแอลงเพราะสงคราม และในส่วนคริสตศาสนจักรเองก็เริ่มอ่อนแอลงมาก จากการมาของความเชื่อวัตถุนิยมภายใต้ชื่อวิทยาศาสตร์ ที่แพร่หลายอย่างสุดขีดในตะวันตก ความอ่อนแอจากฝั่งศาสนจักรคริสต์นี่ จึงเปิดโอกาสให้อิสลามเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ที่ยังมีรากความเชื่อจากสวนอีเดน เพราะค่อนข้างจะแน่นในเชิงรายละเอียดกว่าคริสต์มาก
    และแนวความคิดที่จะครองโลกโดยศาสนาอิสลามนี้ก็ได้กลับมาก่อตัวอีกครั้ง ในนามพรรคภราดรภาพมุสลิมนั่นเอง

    ซึ่งพรรคภราดรภาพมุสลิมเป็นผู้ขับเคลื่อนเพื่อจะครองโลกอย่างเข้มข้น มีหัวหอกแรกคือเปิดนโยบายกฎหมายอิสลาม คือดินแดนใดที่มีอิสลามต้องผลักดันให้ใช้กฎหมายตามความเชื่ออิสลามทั้งหมด และได้พยายามขับเคลื่อนไปเรือ่ย ๆ สู่ดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลก
    ในความพยายามจะใช้นโยบายนี้ ก็อาจต้องมีการต่อสู้ในขั้นต้นกับจักรวรรดิ์ จึงเกิดกลายเป็นกลุ่มหัวรุนแรง และพัฒนาไปสู่องค์กรก่อการร้ายขึ้นมามากมาย หลายกรณีของการก่อการร้าย ก็มักมีการพูดถึงว่าภราดรภาพมุสลิมก็รู้เห็นด้วย

    แต่....ภราดรภาพมุสลิมนี้รวมถึงพวกหัวรุนแรงหลากหลายกลุ่ม โดยมากเป็นนโยบายภายใต้นิกายซุนหนี่ ในขณะที่ ช่วงระยะเวลาใกล้ ๆ กันนั้น ชีอะห์ที่ต้องการให้อิสลามครองโลกเช่นกันก็ได้เติบโตอย่างเข้มแข็งอยู่ในอิหร่าน ภายใต้สิทธิ์ขาดของอายตุลเลาะห์โคมัยนี

    ในกรณีซีเรีย ที่มันโหมแรงขึ้นมาอย่างดุเดือด เพราะมันไปเกี่ยวพันกับชุดความเชื่อภายใต้ศาสนาอิสลาม ในเรื่องวันสิ้นโลก ที่หลากหลายประเด็น ทั้งแต่เก่าก่อนและปัจจุบันพ่วงอยู่กับดินแดนแห่งนี้ เอาง่าย ๆ ก็คือว่า มุสลิมเขาเชื่อว่า วันสิ้นโลกมาถึงแล้ว และบุคคลสำคัญในตำนานนี้จะเริ่มปรากฏตัวในดินแดนนี้ ดังนั้นโลกมุสลิมช่วงนี้ จึงฮึกเหิมกันมาก ยิ่งไปพ่วงกับความพยายามจะเอาอิสลามครองโลกแล้ว ยิ่งปรี๊ดปร๊าดกันไปใหญ่
    แต่ ก็เจอตอขนาดยักษ์ คือ ไม่รู้ว่าจะเอาใครเป็นหัวโจกหัวหอกสำหรับเป็นผู้นำระหว่าง ชีอ่ะห์อันนำโดยอิหร่าน และ ซุนหนี่อันนำโดยภราดรภาพมุสลิม ที่มีปัญหาคาใจมาแต่โบราณอยู่แล้ว ดังนั้นเกมส์สุดโหดจึงได้ปะทุขึ้น งัดข้อกันอยู่ในซีเรีย เกณฑ์นักรบทุกภูมิภาคเข้าไปต่อสู้กันเละเทะ ดังที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...