สิ้นแล้ว หลวงพ่อผจญ อสโม " อริยะสงฆ์ " ทายาทธรรม พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม..

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 3 สิงหาคม 2013.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]


    [​IMG]


    หลวงพ่อผจญ อสโม ประธานสงฆ์วัดป่าสิริปุญญาราม จ.เลย ละสังขารแล้ววันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ เวลา ๒๑.๑๐ น. ด้วยโรคมะเร็ง ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร สิริอายุ ๗๐ ปี ๖ เดือน พรรษา ๕๐ ขณะนี้คณะสงฆ์กำลังปรึกษาเรื่องการเคลื่อนสรีระหลวงพ่อผจญ กลับไปจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลและเตรียมพิธีประชุมเพลิงศพฯภายในระยะเวลา ๗ – ๑๐ วันนี้ ที่วัดป่าสิริปุญญาราม บ้านหมากแข้ง ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย

    หลวงพ่อผจญ ปัจจุบันท่านอายุ ๗๐ ปี ๖ เดือน ท่านเป็นพระกัมมัฏฐานที่มักน้อยสันโดษ เรียบง่าย พอเพียง ไม่สะสมทรัพย์ เมื่อได้มาก็สละออก ๆ ไม่ชอบเรี่ยไร ทางวัดจึงไม่เคยจัดให้มีซองผ้าป่าหรือกฐินใดใดเลย เมื่อท่านจะละสังขาร ท่านได้สั่งเสียกับพระอาจารย์สำราญ เจ้าอาวาสวัดป่าสิริปุญญารามว่า “..อย่าเก็บผมไว้นานนะถ้าผมตาย ให้เผาภายใน ๗ วัน อย่าทำอะไรใหญ่โตนะ วัดเราจน ให้ทำเมรุเล็กๆพอ ทำง่ายๆให้ท่านนิพนธ์(พระอาจารย์นิพนธ์ อภิปสันโน แห่งวัดป่าศาลาน้อย อ.ด่านซ้าย จ.เลย) เป็นธุระจัดการให้ที ห้ามให้มีการเรี่ยไร ให้ทำง่ายๆก็พอ..”

    หลวงพ่อผจญ ท่านเคยออกเที่ยวธุดงค์ทั้งทางภาคใต้และภาคอีสาน ตลอดจนไปถึงภาคเหนือ อยู่กับพวกกระเหรี่ยง พวกมูเซอ สหธรรมิกที่ออกเที่ยวธุดงค์ด้วยในยุคนั้นก็มี หลวงปู่คูณ สุเมโธ , หลวงพ่อสุพจน์ ชินวโร , หลวงพ่อขันตี ญาณวโร และหลวงพ่อมงคล สิริมังคโล เป็นต้น หลวงพ่อผจญ ท่านเคยได้เข้ารับการอบรมศึกษาธรรมจากสำนักของพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่หลาย ๆที่ เช่น ที่วัดถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส , หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร ผู้สร้างวัดป่าสิริปุญญาราม , หลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกลองเพล , หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าอุดมสมพร , หลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่วัดถ้ำผาบิ้ง และหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ตามสถานที่ต่างๆ(เพราะหลวงปู่ชอบ ท่านไม่อยู่ติดที่ ออกวิเวกไปเรื่อยๆ) เป็นต้น

    ส่วนองค์สำคัญที่หลวงพ่อผจญ เคยได้เพียรอยู่ปฏิบัติและอุปัฏฐากอีกรูปคือ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ที่วัดสามัคคีธรรม ปัจจุบันเรียกว่าวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อผจญเล่าว่า... “สมัยอยู่กับหลวงปู่ตื้อ ได้มีโอกาสรับใช้อุปัฏฐากท่าน กลางคืนต้องเร่งภาวนาตลอดทั้งคืน คืนไหนอ่อนเพลีย ทำท่าจะล้มตัวลงนอน ก็จะได้ยินเสียงไม้เคาะหน้าห้องทันที เป็นอย่างนี้ทุกๆครั้ง หลวงปู่ตื้อ ท่านมักจะมาเตือนยามดึกอย่างนี้ตลอด พอจะล้มตัวนอนปุ๊บ ก็ได้ยินเสียงไม้เท้าท่านเคาะหน้าห้องปั๊บทันที จนเราเอง(หลวงพ่อผจญ)ร่างกายซูบผอมมาก ตาแดงกล่ำ ตัวนี้เหลืองไปหมดเลย เพื่อนๆเวลาเห็นก็มักจะถามว่า “ทำไมผอมอย่างนี้” ก็เลยตอบเขาไปว่า “ก็หลวงปู่ตื้อซิ ท่านให้เร่งความเพียร ทั้งวันทั้งคืนเลย ท่านสอนให้จริงจังไม่ให้เหยาะแหยะ”

    มีอยู่ครั้งนึงจำได้ดี ตอนกลางคืนไปบีบนวดท่าน หลวงปู่ตื้อ ท่านก็เตือนมาว่า “พรุ่งนี้ยามบ่ายอย่ามาแถวกุฏิเรานะ พญาครุฑเขามาบอกว่า จะมีอสุนีบาตฟาดลงมาที่ต้นไม้ตรงกุฏิ” ท่านใช้คำว่า “อสุนีบาต” เลยนะ เราจำได้ อสุนิบาตก็คือ สายฟ้าฟาด หรือฟ้าผ่านั่นเอง พอถึงช่วงบ่าย เราก็ออกไปทำข้อวัตรปัดตาดปกติ ช่วงนั้นเป็นฤดูแล้ง ไม่มีฝน ท้องฟ้านี้แดดเปรี้ยงเลย พอถึงช่วงบ่ายๆเรามองไปที่ท้องฟ้า แปลกมาก อยู่ดีๆก็มีเมฆดำทะมึนจับตัวลอยเข้ามา ๆ แล้วก็มีสายฟ้าฟาดลงมาที่ต้นไม้ใหญ่หักโค่นไปบริเวณเวจกุฎิ(ส้วม) ของหลวงปู่ตื้อ แต่กิ่งไม้นี้พาดเว้นห่างออกไป เราจึงไปกราบเรียนหลวงปู่ตื้อที่ศาลา ว่ามีฟ้าผ่าลงมาตรงเวจกุฎีท่าน ท่านถามว่าแล้วมีใครบาดเจ็บหรือมีอะไรเสียหายไหม ก็เลยตอบท่านว่าไม่มี เพราะกิ่งไม้ได้ลอดผ่านช่วงเวจกุฎีไปพอดี ท่านก็พยักหน้า แล้วไม่ได้ว่าอะไร ใจเรานี้ก็ระลึกที่ท่านบอกเตือนไว้เมื่อคืนเรื่องของพญาครุฑมาเตือน อยากจะถามท่านก็ไม่กล้าถาม จึงกราบแยกตัวไปทำข้อวัตรต่อ พระเณรที่อยู่ที่วัดตอนนั้นก็อยากรู้ จึงได้ยุยงให้เรากราบเรียนถามท่าน

    พอตกกลางคืนเราก็ไปทำข้อวัตรบีบนวดท่านตามปกติ อยู่สองต่อสอง พอบีบนวดซักพักเราก็รวบรวมความกล้า กราบเรียนถามท่านว่า “หลวงปู่ พญาครุฑนั้นมีจริงหรือครับ ไม่เคยได้ยิน เคยแต่ได้ยินว่ามีแต่พญานาค” ขณะนั้นท่านนอนให้เราบีบนวดท่านอยู่ เมื่อท่านได้ยินเราถามอย่างนั้นท่านก็ยกมือขึ้น แล้วฟาดลงมาที่ตักเราอย่างแรง จนเราตกใจ แล้วท่านก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วพูดว่า “ โครตพ่อมึง โครตแม่มึง โครตปู่ย่าตายายมึงมันโง่ ถึงได้มีลูกหลานโง่ๆ อย่างมึงออกมานี่แหละ พวกมึงนี่ไม่รู้จักภาวนา ของอย่างนี้มันมีอยู่ แต่ตามึงก็ไม่รู้ไม่เห็น หัดภาวนาให้มันดีซี่ จะได้รู้ได้เห็นมั่ง” พอหลวงพ่อผจญ เล่าถึงเรื่องนี้เสร็จ ท่านก็ขำ แล้วท่านก็เล่าว่า ที่หน้ากุฏิเรามีลาปั้นไว้ ก็เพื่อมาเตือนเจ้าของ(หมายถึงตัวท่าน)นี่แหละ มันโง่นัก เลยให้โยมปั้นลาเอาไว้ ปั้นไว้เอาไว้เตือนเจ้าของแหละ(ที่หน้ากุฏิหลวงพ่อผจญที่วัดสิริปุญญาราม จะมีรูป ลายืนกินหญ้าอยู่ ๒-๓ ตัว)


    คำกล่าวขอขมาหลวงพ่อผจญ อสโม

    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    ลูกกราบขอขมาหลวงพ่อผจญ อสโม หากมีสิ่งใดใดที่ลูกหลานเคยประมาทพลาดพลั้งไป ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ด้วยความขาดสติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งในอดีต ทั้งในปัจจุบัน หรือในอนาคตก็ดี ขอหลวงพ่อผจญ อสโม โปรดอโหสิกรรม และงดโทษล่วงเกินนั้น ให้แก่ลูกหลานด้วยเทอญ
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]


    กำหนดงานบำเพ็ญกุศลทำบุญอุทิศถวายหลวงพ่อผจญ อสโม
    ตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๒ – วันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๖
    เวลา ๑๙.๐๐ น. พระสงฆ์นำสวดมนต์ทำวัตรเย็นพร้อมเพรียงกัน
    เวลา ๑๙.๓๐ น. พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุลอุทิศถวายหลวงพ่อผจญ อสโม

    กำหนดการ พิธีประชุมเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อผจญ อสโม
    ณ เมรุชั่วคราววัดป่าสิริปุญญาราม บ้านหมากแข้ง ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย
    วันเสาร์ที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๖ (วันประชุมเพลิง)
    เวลา ๐๗.๐๐ น. ใส่บาตร ถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์-สามเณร
    เวลา ๐๙.๐๐ น. พิธีเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อผจญ อสโม ไปที่จิตกาธาน
    เวลา ๑๓.๐๐ น. เป็นต้นไป เริ่มประกอบพิธีประชุมเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อผจญ อสโม
    - พ่อแม่ครูอาจารย์แสดงพระธรรมเทศนา
    - พระภิกษุสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล
    - พระเถรานุเถระขึ้นพิจารณาผ้าบังสุกุล
    - ประกอบพิธีประชุมเพลิงสรีระสังขารหลวงพ่อผจญ อสโม

    วันอาทิตย์ที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๖ (วันเก็บพระอัฐิ)
    - พิธีสามหาบเก็บพระอัฐิ ทำบุญอุทิศถวายหลวงพ่อผจญ อสโม
    - เป็นเสร็จพิธี

    หลวงพ่อผจญ อสโม ประธานสงฆ์วัดป่าสิริปุญญาราม จ.เลย ละสังขารลงเมื่อวันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ เมื่อเวลา ๒๑.๑๐ น. โดยประมาณ ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร สิริอายุ ๗๐ ปี ๖ เดือน พรรษา ๕๐ หลวงพ่อผจญ ท่านเป็นพระกัมมัฏฐานที่มักน้อยสันโดษ เรียบง่าย พอเพียง ไม่สะสมทรัพย์ เมื่อได้มาก็สละออก ๆ ไม่ชอบเรี่ยไร ทางวัดจึงไม่เคยจัดให้มีซองผ้าป่าหรือกฐินใดใดเลย เมื่อท่านจะละสังขาร ท่านได้สั่งเสียกับพระอาจารย์สำราญ เจ้าอาวาสวัดป่าสิริปุญญารามว่า “..ที่หมอบอกว่า ถ้าทำการรักษาฯ จะอยู่ได้อีก ๒ ปี อย่าไปเชื่อ ผมพิจารณาแล้ว คงอยู่ได้อีกเดือนเดียวนี่หล่ะ อย่าเก็บผมไว้นานนะถ้าผมตาย ให้เผาภายใน ๗ วัน อย่าทำอะไรใหญ่โตนะ วัดเราจน ให้ทำเมรุเล็กๆพอ ทำง่ายๆให้ท่านนิพนธ์(พระอาจารย์นิพนธ์ อภิปสันโน แห่งวัดป่าศาลาน้อย อ.ด่านซ้าย จ.เลย) เป็นธุระจัดการให้ที ห้ามให้มีการเรี่ยไร ให้ทำง่ายๆ ให้ถูกธรรมถูกพระวินัยก็พอ..”

    หลวงพ่อผจญ ท่านเป็นพระที่ชอบอยู่ป่า สมชื่อท่านว่า “ผจญ” เพราะท่านออกรุกขมูลเที่ยวธุดงค์ผจญภัยในที่ต่างๆ ไปในที่กันดาร รกชัฏ เหน็บหนาว ระงมไปด้วยไข้ป่ามาเลเรีย ทั้งทางภาคอีสาน และภาคใต้ ตลอดจนไปถึงภาคเหนือ เวลาไปอยู่กับพวกกระเหรี่ยง พวกมูเซอ ที่แม่ฮ่องสอนก็แยกย้ายกันอยู่หมู่บ้านละองค์ เพราะแต่ละหมู่บ้านก็มีเพียง ๔-๕ หลังคาเรือน อยู่ในป่าบนดอยห่างไกลความเจริญ อาหารการขบฉันสมัยนั้น ก็อดๆ อยากๆ มีฉันบ้าง ไม่มีฉันบ้างตามอัตภาพ แต่การภาวนาดี อยู่ภาวนาเพียงรูปเดียวไม่ได้คลุกคลีกัน เพื่อนสหธรรมิกที่ออกเที่ยวธุดงค์ด้วยในยุคนั้นไปในสถานที่ต่างๆกันก็มี หลวงปู่คูณ สุเมโธ , หลวงพ่อสุพจน์ ชินวโร , หลวงพ่อขันตี ญาณวโร และหลวงพ่อมงคล สิริมังคโล เป็นต้น

    หลวงพ่อผจญ ท่านเคยได้เข้ารับการอบรมศึกษาธรรมจากสำนักของพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่หลาย ๆที่ เช่น หลวงปู่มหาบุญมี สิรินธโร ผู้บุกเบิกสร้างวัดป่าสิริปุญญาราม ภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่บรรจุพระอรหันตธาตุของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ประดิษฐานอยู่ภายในเป็นอนุสรณ์ , หลวงปู่ขาว อนาลโย ที่วัดถ้ำกลองเพล , หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าอุดมสมพร , หลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่วัดถ้ำผาบิ้ง , หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และหลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร ในสถานที่ต่างๆหลายวาระด้วยกัน(เพราะหลวงปู่ชอบ และหลวงปู่จันทร์เรียน ท่านทั้งสองไม่อยู่ติดถิ่น ออกวิเวกไปเรื่อยๆจนบั้นปลายชีวิตหลวงปู่ชอบ จึงไปอยู่ที่บ้านโคกมน) และ ที่วัดถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส โดยในยุคนั้นมีหลวงปู่สีทน สีลธโนเป็นพี่ชายใหญ่ หลวงพ่อผจญท่านอยู่อุปัฏฐากหลวงปู่คำดี จนวาระสุดท้าย หลวงปู่ท่อน ญาณธโร เล่าว่าท่านอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อย่างประณีต ไม่มีความรังเกียจ เช่น เวลาหลวงปู่คำดี ท่านถ่ายท้องหนักออกลำบากด้วยเพราะธาตุขันธ์ ท่านผจญ ก็ใช้มือช่วยมิได้รังเกียจว่าจะสกปรกแต่อย่างไร ท่านทำเหมือนกับที่หลวงปู่หล้า รับใช้หลวงปู่มั่น ใช้มือกอบอุจจาระแทนที่จะใช้เครื่องไม้เครื่องมือ เพราะท่านเคารพในธรรมครูบาอาจารย์

    ส่วนองค์สำคัญที่หลวงพ่อผจญ เคยได้เพียรอยู่ปฏิบัติและอุปัฏฐากอีกรูปคือ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ที่วัดสามัคคีธรรม ปัจจุบันเรียกว่าวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อผจญเล่าว่า... “สมัยอยู่กับหลวงปู่ตื้อ ได้มีโอกาสรับใช้อุปัฏฐากท่าน กลางคืนต้องเร่งภาวนาตลอดทั้งคืน คืนไหนอ่อนเพลีย ทำท่าจะล้มตัวลงนอน ก็จะได้ยินเสียงไม้เคาะหน้าห้องทันที เป็นอย่างนี้ทุกๆครั้ง หลวงปู่ตื้อ ท่านมักจะมาเตือนยามดึกอย่างนี้ตลอด พอจะล้มตัวนอนปุ๊บ ก็ได้ยินเสียงไม้เท้าท่านเคาะหน้าห้องปั๊บทันที จนเราเอง(หลวงพ่อผจญ)ร่างกายซูบผอมมาก ตาแดงกล่ำ ตัวนี้เหลืองไปหมดเลย เพื่อนๆเวลาเห็นก็มักจะถามว่า “ทำไมผอมอย่างนี้” ก็เลยตอบเขาไปว่า “ก็หลวงปู่ตื้อซิ ท่านให้เร่งความเพียร ทั้งวันทั้งคืนเลย ท่านสอนให้จริงจังไม่ให้เหยาะแหยะ”

    มีอยู่ครั้งนึงจำได้ดี ตอนกลางคืนไปบีบนวดท่าน หลวงปู่ตื้อ ท่านก็เตือนมาว่า “พรุ่งนี้ยามบ่ายอย่ามาแถวกุฏิเรานะ พญาครุฑเขามาบอกว่า จะมีอสุนีบาตฟาดลงมาที่ต้นไม้ตรงกุฏิ” ท่านใช้คำว่า “อสุนีบาต” เลยนะ เราจำได้ อสุนิบาตก็คือ สายฟ้าฟาด หรือฟ้าผ่านั่นเอง พอถึงช่วงบ่าย เราก็ออกไปทำข้อวัตรปัดตาดปกติ ช่วงนั้นเป็นฤดูแล้ง ไม่มีฝน ท้องฟ้านี้แดดเปรี้ยงเลย พอถึงช่วงบ่ายๆเรามองไปที่ท้องฟ้า แปลกมาก อยู่ดีๆก็มีเมฆดำทะมึนจับตัวลอยเข้ามา ๆ แล้วก็มีสายฟ้าฟาดลงมาที่ต้นไม้ใหญ่หักโค่นไปบริเวณเวจกุฎิ(ส้วม) ของหลวงปู่ตื้อ แต่กิ่งไม้นี้พาดเว้นห่างออกไป เราจึงไปกราบเรียนหลวงปู่ตื้อที่ศาลา ว่ามีฟ้าผ่าลงมาตรงเวจกุฎีท่าน ท่านถามว่าแล้วมีอะไรเสียหายไหม ก็เลยตอบท่านว่าไม่มี เพราะกิ่งไม้ได้ลอดผ่านช่วงเวจกุฎีไปพอดี ท่านก็พยักหน้า แล้วไม่ได้ว่าอะไร ใจเรานี้ก็ระลึกที่ท่านบอกเตือนไว้เมื่อคืนเรื่องของพญาครุฑมาเตือน อยากจะถามท่านก็ไม่กล้าถาม จึงกราบแยกตัวไปทำข้อวัตรต่อ พระเณรที่อยู่ที่วัดตอนนั้นก็อยากรู้ จึงได้ยุยงให้เรากราบเรียนถามท่าน

    พอตกกลางคืนเราก็ไปทำข้อวัตรบีบนวดท่านตามปกติ อยู่สองต่อสอง พอบีบนวดซักพักเราก็รวบรวมความกล้า กราบเรียนถามท่านว่า “หลวงปู่ พญาครุฑนั้นมีจริงหรือครับ ไม่เคยได้ยิน เคยแต่ได้ยินว่ามีแต่พญานาค” ขณะนั้นท่านนอนให้เราบีบนวดท่านอยู่ เมื่อท่านได้ยินเราถามอย่างนั้นท่านก็ยกมือขึ้น แล้วฟาดลงมาที่ตักเราอย่างแรง จนเราตกใจ แล้วท่านก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วพูดว่า “ โครตพ่อมึง โครตแม่มึง โครตปู่ย่าตายายมึงมันโง่ ถึงได้มีลูกหลานโง่ๆ อย่างมึงออกมานี่แหละ พวกมึงนี่ไม่รู้จักภาวนา ของอย่างนี้มันมีอยู่ แต่ตามึงก็ไม่รู้ไม่เห็น หัดภาวนาให้มันดีซี่ จะได้รู้ได้เห็นมั่ง” พอหลวงพ่อผจญ เล่าถึงเรื่องนี้เสร็จ ท่านก็ขำ แล้วท่านก็เล่าว่า ที่หน้ากุฏิเรามีลาปั้นไว้ ก็เพื่อมาเตือนเจ้าของ(หมายถึงตัวท่าน)นี่แหละ มันโง่นัก เลยให้โยมปั้นลาเอาไว้ ปั้นไว้เอาไว้เตือนเจ้าของแหละ(ที่หน้ากุฏิหลวงพ่อผจญที่วัดสิริปุญญาราม จะมีรูป ลายืนกินหญ้าอยู่ ๒-๓ ตัว)

    ตั้งแต่ช่วงในพรรษา เมื่อปี ๒๕๕๕ หลวงพ่อผจญ ท่านก็สั่งงดการก่อสร้างใดใดในวัด ท่านว่า โรคภัยไข้เจ็บมาเยือนแล้ว ให้เร่งไหว้พระสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนาแทน ท่านอาพาธเป็นโรคมะเร็งปอดขั้นที่ ๔ แล้วมะเร็งลุกลามไปถึงต่อมน้ำเหลือง กินไปถึงกระดูกสะบักขวา ลามมาถึงกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานบั้นเอวข้างซ้าย มีเวทนาแรงกล้า ท่านได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายแห่งธาตุขันธ์นั้นพิจารณาอรรถธรรม จนเมื่อวันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖ ท่านก็ได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบ แพทย์ระบุเวลาสัญญาณชีพดับลงเมื่อเวลา ๒๑.๑๐ น. โดยประมาณ ณ โรงพยาบาลเจ้าพระยา ปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร สิริรวมอายุได้ ๗๐ ปี ๖ เดือน พรรษา ๕๐

    คำกล่าวขอขมาหลวงพ่อผจญ อสโม
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    ลูกกราบขอขมาหลวงพ่อผจญ อสโม หากมีสิ่งใดใดที่ลูกหลานเคยประมาทพลาดพลั้งไป ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ด้วยความขาดสติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งในอดีต ทั้งในปัจจุบัน หรือในอนาคตก็ดี ขอหลวงพ่อผจญ อสโม โปรดอโหสิกรรม และงดโทษล่วงเกินนั้น ให้แก่ลูกหลานด้วยเทอญ

    https://www.facebook.com/photo.php?...13999705.38697.100001216522700&type=1&theater
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]


    กำหนดงานประชุมเพลิง " หลวงพ่อผจญ อสโม " วัดสิริปุญญาราม บ.หมากแข้ง ต.หนองงิ้ว อ.วังสะพุง จ.เลย ในที่ประชุมโดยมี หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จ.เลย เป็นประธานสงฆ์ หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร วัดถ้ำสหายจันทร์นิมิต จ.อุดรธานี ประธานศิษย์สาย พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม และคณะสงฆ์จังหวัดเลย มีมติให้ประชุมเพลิง " หลวงพ่อผจญ อสโม "

    ในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2556 เวลา 13.00 น. โดย หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร มอบหมายให้ ท่านพระอาจารย์นิพนธ์ วัดป่าศาลาน้อย อ.ด่านซ้าย จ.เลย เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด..

    อนึ่ง.. เวลา 19.00 น. สวดพระอภิธรรมทุกวันจนถึงวันประชุมเพลิง..
    จึงแจ้งให้คณะศิษย์และผู้ศรัทธาใน " หลวงพ่อผจญ อสโม " ทราบโดยทั่วกัน..
     
  4. Moderator2

    Moderator2 <font color="#008000"><b>ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด</b></ ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2012
    โพสต์:
    373
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +531
    ครูบาอาจารย์ พระอริยเจ้า ทยอยดับขันธ์ไป จนเหลือที่พึ่งน้อยลงทุกที ชาวพลังจิตอย่างประมาท ขอให้เร่งภาวนานะครับ

    อนุโมทนา
     
  5. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เมื่อไรจะมีคนค้นพบยารักษามะเร็งสักที ทำไมเดี๋ยวนี้มีแต่คนป็นมะเร็งตาย
     
  6. jotaro4s

    jotaro4s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,121
    ค่าพลัง:
    +5,431
    คำกล่าวขอขมาหลวงพ่อผจญ อสโม

    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

    ลูกกราบขอขมาหลวงพ่อผจญ อสโม หากมีสิ่งใดใดที่ลูกหลานเคยประมาทพลาดพลั้งไป ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ด้วยความขาดสติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ทั้งในอดีต ทั้งในปัจจุบัน หรือในอนาคตก็ดี ขอหลวงพ่อผจญ อสโม โปรดอโหสิกรรม และงดโทษล่วงเกินนั้น ให้แก่ลูกหลานด้วยเทอญ


    ลูกกราบหลวงปู่ผจญครับ
     
  7. jaya

    jaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +2,183
    ขอกราบโมทนาและขออโหสิกรรม...กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งที่รู้หรือไม่ตั้งใจ ทุกภพชาติที่เคยมีมาจนปัจจุบัน...ขอหลวงปู่ได้เมตตาอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วยเทอญ....สาธุค่ะ
     
  8. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099
    ลูกขอกราบถวายบุญกุศลแด่หลวงปู่เจ้าค่ะ
     
  9. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.3 KB
      เปิดดู:
      2,086
    • 225246.jpg
      225246.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.2 KB
      เปิดดู:
      1,852
    • 0.jpg
      0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.6 KB
      เปิดดู:
      2,083
  10. teeeeen

    teeeeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +105
    อนุโมทนาครับ

    [​IMG]
     
  11. thanyarat k.

    thanyarat k. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +282
    กราบนมัสการหลวงพ่อผจญ สาธุ สาธุ สาธุท่านเรียบง่าย ศรัทธาค่ะ
     
  12. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,573
    กราบๆๆๆหลวงปู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...