เลือดเป็นพิษ แล้วจะอยู่กับมันยังไงให้ดีค่ะ

ดิฉันขออนุญาติเล่าถึงสภาวะที่เป็น และต้องการท่านที่มีความรู้ หรือเพื่อนธรรมร่วมพูดคุยเพื่อพัฒนาจิตใจของดิฉัน และสติต่อไปค่ะ

เรื่องคือดิฉันทรมานกับการปวดร่างกายที่มันรู้สึกได้ทิ่มแทงตัวของดิฉันเอง อาการมันปวดมากหนักหัว และบางครั้งเสมือนคุณโดนเข็มแท่งใหญ่ค่อยแทงลงทิ่มที่ศรีษะ อย่างช้า ๆ และแช่อย่างนั้นประมาณนาที ที่นิ้วบ้าง บางครั้งเมือนมดสัก 20ตัว รุมกัดที่ตัวคุณที่จุดหนึ่งหนึ่งเป็นมาได้ 2ปี เป็น ๆ หาย ๆ อย่างนั้น ตอนนั้นจิตตกมากนึกว่าโดนกระทำ ก็ไปทั้งอาบน้ำมนต์ และหาหมอดูร่ำไปเพื่อหาทางจากสิ่งที่ไม่เคยเป็น สุดท้ายมาปีก่อนเจอหลวงพ่อท่านเมตตา ท่านบอกว่าเลือดโยมเป็นพิษ มันเลยคอยทำโยมเอง มันกรรมนั้นล่ะ คุณไสยอะไรไม่มีทุกอย่างคือสมมติ เสียดายมากย้ายจังหวัดเลยไม่มีโอกาสได้คุยกับท่านอีก ตอนนี้ก็ปลง ๆค่ะ แต่ยังไม่เข้าถึงคำว่าสมมติให้ลืมความเจ็บร่างกายได้ ทุกวันนี้ก็พยามทานยาบำรุงร่างกายตามกำลัง และทำการสวดมนต์แผ่เมตตาให้ได้ทุกวัน ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ค่ะแต่ทุเลาลงเป็น สี่วันดี สามวันป่วย แต่อาการที่ดิฉันเป็นมันทำให้ดิฉันทำงานรับผิดชอบไม่ได้เต็มที่ ทุกข์ทรมาณ และเบลอ ๆ ค่ะ โดนหัวหน้า และเพื่อนร่วมงานบ่นให้ตลอด หลงลืม และเบลอ ๆ เหมือนไม่อยู่เนื้ออยู่ตัว ทุกวันนี้ต้องเปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะทำงานให้เค้าไม่ได้ บางบริษัทก็เชิญออก ดิฉันอยากจะมีจิตใจที่เข็มแข็ง พยายามบอกตัวเองทุกวันว่าเราโชคดีมีร่างกาย ครบทุกส่วนแล้ว ไม่โชคร้ายหรอก แต่บางครั้งความอ่อนแอ และทุกข์ใจ และปวดกายนี้มันเกาะติดจนใครเห็นก็ทักว่า ดวงตาเศร้าหมอง
ทุกข์กาย ทุกข์ใจมากค่ะ พ่อแม่ส่งเรียนซะสูง แต่ไม่มีความสามารถหาทุนคืนท่าน และเป็นภาระอีก......เค้าว่าเพราะคิดอย่างไรได้อย่างนั้น ดิฉันอยากหาย ก็เลยไม่หายไม่ดีขึ้นรึไง มีใครสามารถบอกได้ไหม ทำไงจึงจะสามารถตั้งสติอยู่กับตัว จิตแข็ง และพร้อมกับกำลังใจ กำลังกายดีขึ้นบ้างค่ะ

 

มาส่งกำลังใจครับ ....

ไม่ทราบว่าท่านจขกทไปหาหมอหรือยัง? ควรรีบไปนะครับเพราะโรคนี้อันตราย..อ่านรายละเอียดที่นี่..

โลหิตเป็นพิษ Sepsis

ท่านจขกท พึงทราบว่า การรักษาทางกายเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน เพราะหากเพิ่งเป็นระยะแรก การรักษาจะทำได้ง่ายกว่าปล่อยให้เป็นนานเรื้อรังอันจะเพิ่มความยากในการรักษามากขึ้นด้วยว่าเชื้อโรคจะแพร่ทำลายอวัยวะได้กว้างขวางขึ้น...เมื่อไปพบแพทย์แล้วย่อมได้ยาและทราบว่าตนควรดูแลตนด้วยอาการเช่นไร หรือต้องงดเว้นอาหารหรือกิจกรรมบางอย่างเช่นไร..

ในขณะเดียวกัน การรักษาใจก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดพราะในเวลานี้กายที่ป่วยย่อมมีผลให้ใจกระสับกระส่ายไปด้วย...

ดังนั้น ก่อนอื่น..ท่านจขกท พึงยุติความเดือดร้อนเสียใจที่ยังไม่อาจตอบแทนคุณพ่อแม่ได้เพราะร่างกายเ็จ็บป่วยในยามนี้..ท่านไม่ได้เจตนาที่จะเลี่ยงการตอบแทนคุณพ่อแม่เลย แต่ร่างกายไม่อำนวยเท่านั้น จึงไม่ใช่ความผิดของท่านที่ไม่อาจทำงานมีรายได้มากอย่างที่ควรจะเป็น,,,

อนึ่งแม้พ่อแม่ก็คงไม่คิดเคืองขุ่นอะไรกับสภาวะนี้เเละคงไม่ยินดีหรือมีความสุขใจแน่เมื่อทราบว่าท่านป่วยแล้วยังเครียดด้วยความกังวลว่าตนไม่อาจตอบแทนคุณพ่อแม่ได้...ดังนั้นพึงเลิกกังวลเรื่องนี้โดยทันทีอย่าปล่อยไว้ให้ใจทุกข์เพิ่มโดยใช่เหตุ..

บัดนี้พึงฝึกใจให้เป็นไปกับกุศลให้มาก จิตที่เป็นไปกับกุศลคือจิตที่"มีสติ".. ท่านจขกท เริ่มต้นด้วยการถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เพราะนี้คือที่พึ่งที่เกษมปลอดภัยเลิศกว่าที่พึ่งทั้งมวลในโลก...พึงสมาทานรักษาศีลให้มั่นคงทุกๆวัน ย่อมได้เครื่องคุ้มครองปกปักรักษาตนได้ด้วยดี ..ถ้ามีโอกาสก็ให้ทานใส่บาตร หมั่นสวดมนตร์ ศึกษาพระธรรม เจริญวิปัสสนาสมาธิ ย่อมเป็นอุปนิสสัยปัจจัยให้สามารถเกิดปัญญาสามารถพาตน พ้นทุกข์ได้แม้ในปัจจุบันชาติ..หรือหมั่นนึกถึงบุญดีที่ตนเคยทำมาไว้ก่อนแล้ว นึกบ่อยๆย่อมเป็นบุญใหม่เกิดขึ้นได้อีกเรียกว่าจาคานุสติ..เหล่านี้ล้วนเป็นกุศลที่จะหล่อเลี้ยงจิตใจให้แช่มชื่นเบิกบานทั้งสิ้น ย่อมส่งผลดีต่อรูปคือกายได้ไม่มากก็น้อย

โรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นย่อมมีโอกาสรักษาได้เมื่อจิตและกายได้รับการดูแลด้วยดีด้วยกัน.. จึงพึงยังใจตนให้เข้มแข็งไม่หวั่นไหว ไม่คิดวิตกอะไรๆไปล่วงหน้าอันเป็นการบั่นทอนกำลังใจตนซึ่งจะมีผลให้โรคกำเริบหนักขึ้น ..มั่นใจมั่นคงในกรรมดีที่ตนทำอยู่ มั่นใจในอานุภาพอันยิ่งของพระรัตนตรัยที่สามารถคุ้มครองเราได้ตลอดเวลาทุกที่ เชื่อแน่ว่าเมื่อเราประพฤติธรรมอยู่ ธรรมย่อมคุ้มครองเราเช่นนี้ จิตจะแจ่มใสมีกำลังตั้งมั่นขึ้นได้ครับ..

ขอให้กุศลอันดีของท่าน ปกปักรักษาคุ้มครองให้ท่านจขกท หายจากโรคาพาธกลับมีสุขภาพดีเป็นปรกติได้โดยเร็วพลันครับ..

 

เพิ่งไปอ่านเพิ่มเติมมาเรื่ิองโรคเลือดเป็นพิษและพบว่าเป็นเรื่อง"เร่งด่วน"ที่ท่านผู้ถามจะต้องพาตนไปพบแพทย์ ให้เร็วที่สุดครับ...เพราะความล่าช้าแต่ละชั่วโมงที่ผ่านไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต 7.6%...!!

ที่มา..

Sepsis Treatment - How to Treat Sepsis

 

ขอบคุณน่ะค่ะ ก้ไม่แน่ใจว่าเลือดเป็นพิษจริงไหม เคยไปหาแพทย์ปัจจุบัน ตรวจเลือดปกติดีค่ะ หมอก็บอกว่าเครียด และจิตคิดไปเองว่าเป็น ไม่ก็คงจะเป็นโรคกรรมมากกว่า

วันนี้ก็ระบมมากทั้งวัน หนักตัวเหมือนคนจับไข้ แต่พอตอนเย็นก็ปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีกำลัง และสติ สบายตัวมาก แปลกดีค่ะ

 

ถ้ายังตกงานอยู่ลองหาเวลาไปนั่งวิปัสสนานะ เป็นหนักกว่านี้ก็หายกันมาหลายคนแล้ว ผมก็เคยเป็นนะไม่มีแรงเลยหลายเดือน เดินหน่อยก็หน้ามืดแล้ว พอไปนั่งแข็งแรงขึ้นมาก

 

เอ แล้วทำไมท่านจขกทจึงทราบว่าตนเองเป็นโรคนี้(ตามหัวข้อน่ะครับ)..?
ใคร่แนะนำให้ไปตรวจกับหมออื่น เพื่อsecond opinion ..อาจได้ข้อมูลของโรคที่ถูกต้องขึ้น กรรมบางอย่างขวางกั้นไม่ให้ทราบผลที่ถูกต้องในคราวแรก แต่หากไปตรวจที่อื่นอาจเป็นการเบี่ยงเบนปัจจัยทำให้ทราบผลการตรวจที่ถูกต้องแน่นอนได้ ลองดูนะครับ

 

เห็นด้วยที่ควรไปตรวจกับผู้เชี่ยวชาญ มีมากมายหลายโรคที่ต้องอาศัยเครื่องมือพิเศษจึงหาเจอ

 

ผู้ที่นั่งสมาธิได้ดี มีแววก้าวหน้า มักถูกเบียดเบียนอยู่เสอม จนจิตตก
ปริวิตกว่าตนทำอะไรผิด จึงมีอาการโรคแปลกๆ แปรเปลี่ยนไปมา รักษาไม่รู้หาย

หากถามว่าเบียดเบียนทำไม ก็ต้องการให้เราทำบุญอุทิศบุญนะซิ(เขาเรียกว่าการขู่เข็ญเอาบุญ)
แต่พวกนี้กินจุ แถมสุรุยสุร่าย ได้เท่าไหร่ไมรู้จักพอ
ก็ไห้ๆเขาไปเถอะ พระพุทธองค์ทรงสอนเอาไว้ ซ่อนอยู่ในบท สัพเพสัตตา อเวราโหตุฯ
ท่านให้พรเรา รักษาตนให้พ้นทุกข์ภัยทั้งหลาย
การรักษาตนมีหลายวิธี แล้วแต่ปัญญา
การฝึกพลัง (ชีกง พลังจัจรวาล พลังจักระ ฯลฯ)ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาตนให้พ้นทุกข์ภัย
การใช้ยารักษานี่ก็ใช่ เพียงแต่ต้องหายาแก้ ให้ตรงกับสิ่งที่พวกเขาใส่มาเบียดเบียน

ให้ยาไว้ตัวหนึ่งนะ ยานี้จะแก้พิษในมิติที่เขาใส่มาได้ ไม่ต้องเสก ไม่ต้องเป่า
แต่หากต้องการความมั่นใจ ก็ในบท พุทธัง สรณัง กาฉามิ ฯลฯ สักสามจบ ตามกติกาสกลก็ได้

ตัวยามี
๑ ขิงแก่(สด) หนัก ๑๐ กรัม
๒ ตะไคร้สด หนัก ๓๐ กรัม
๓ ใบมะกรูด สด หนัก ๒๐ กรัม
๔ ผักเสี้ยนผี แห้ง หนัก ๕๕ กรัม
๕ หญ้าหนวดแมว แห้ง หนัก ๒๐ กรัม

ใส่น้ำ สัก ๑ ลิตร เคี่ยวเหลือสัก ๒-๓ ถ้วยกาแฟ (เหลือประมาณ ๓-๔๐๐ ซีซี)
(โบราณว่า ใส่น้ำ ๓ เอา ๑)
กินวันละ ๒ ครั้ง เช้าเย็น ครั้งละ ๑๕๐ ซีซีโดยประมาณ
ทำกินวันต่อวัน(เปลี่ยนยาใหมทุกวัน)

อาการของท่านผู้นี้ ต้องกินติดต่อกัน ประมาณ ๗-๑๐ วัน จึงจะหาย
หลังจากนั้น ก็ต้มกินป้องกัน ติดต่อกันสัก ๒-๓ วันต่อเดือน พออยู่ตัวก็เว้นๆไปบ้าง ไม่ต้องกินทุกเดือน

 

เจ็บตรงหัว แสดงว่า มีปัญหาที่หัว ซึ่งเป็นไปได้ทั้งโรคเวรโรคกรรม โรคปัจจุบัน และความประพฤติของเราเอง

ลองดูซิว่าเราเป็นคนเครียดหรือไม่ ใช้สมองเยอะหรือไม่ ถูกบีบคั้นทางจิตใจบ่อยๆ มาเป็นเวลานานหรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่เราจะมองข้ามไม่ได้นะครับ
เพราะความเครียดก็ส่งผลถึงการทำงานของประสาท กล้ามเนื้อ และสมอง บางทีก็กล้ามเนื้อหดรัดตัวที่หัว ก็จะทำให้เจ็บปวด
หรือนั่งทำงานนานๆ จนกล้ามเนื้อคอ เกร็ง โดยไม่รู้ตัว

ลองฝึกช่างมันบ้าง ทำบุญสุนทานให้เจ้ากรรมนายเวรบ้าง ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องแบกรับความกดดันบ้าง
ถือเสียว่าเราเข้าใจตัวเอง เยียวยาตัวเองให้ดีก่อน
โรคเครียดนี้รักษาหลายปีนะครับจึงจะหายขาด ดังนั้นต้องฝึกผ่อนคลายตัวเองบ่อยๆ ก็อาจจะดีได้
หรือลองทานวิตามินบำรุงประสาทด้วยก็ได้นะครับ

 

ขอบพระคุณมากค่ะ จะลองทดลองทำยาทานค่ะ
อนุโมทนาสาธุด้วยน่ะค่ะ

 

ลองฝึกช่างมัน ประโยคนี้ช่วยผ่อนคลายได้มากเลยค่ะ
งั้นหากวันไหน วิตก มีสติปัญญาเกิดขึ้นขอให้นึกได้ว่าช่างมันค่ะ

สาธุค่ะ

 

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ พ่อผมก็เคยเป็นโรคนี้เหมือนกันครับ สำคัญที่กำลังใจ และจิตใจที่เข้มแข็ง สู้ๆนะครับ ถ้าพอรู้จักว่านรางจืด ลองหามาต้มดื่มดูนะครับ