หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง กับ หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 13 มีนาคม 2010.

  1. dinso

    dinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,863
    ค่าพลัง:
    +9,562
    เพิ่งเคยแวะมา กระทู้นี้ เป็นไงบ้างครับพี่มดพงศ์
     
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...หวัดดี..ดินสอ..สบายดีครับ..
    ...กระทู้นี้..เป็นกระทู้เดิมเก่ากว่า..ผม..พระ..และ..สาระยุตก่อน..
    ....พอดี..พี่มาเขียนต่อ..เพราะมีหลายเรื่อง..ที่ควรจะชี้แจงต่อ...
    ...ถ้าหมดเรื่อง..ก็คงจบจริงๆ..แล้วพักยาวเลย..
     
  3. Wenger_June

    Wenger_June Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +69
    คุณ modpong น่าจะศึกษาประวัติเกจิแถวๆเพชรมาเยอะ ไม่ทราบพอจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อตัดมั่งหรือปล่าวครับ
     
  4. Wenger_June

    Wenger_June Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +69
    เพื่อนผมเป็นคนหัวหินเคยถูกดักยิงแต่ปืนยิงไม่ออก มันเล่าให้ฟังว่าในคอห้อยเหรียญรุ่น2ปี 98 ของหลวงพ่อทองศุขเหรียญเดียว
     
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    คุณ modpong น่าจะศึกษาประวัติเกจิแถวๆเพชรมาเยอะ ไม่ทราบพอจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อตัดมั่งหรือปล่าวครับ
    .......................................................................
    เพื่อนผมเป็นคนหัวหินเคยถูกดักยิงแต่ปืนยิงไม่ออก มันเล่าให้ฟังว่าในคอห้อยเหรียญรุ่น2ปี 98 ของหลวงพ่อทองศุขเหรียญเดียว

    ..หวัดดีครับ..คุณWenger....ไม่เยอะหรอกครับ..สำหรับ..หลวงพ่อรุ่นใหม่ๆ..ก็แทบไม่รู้เลย...อย่างหลวงพ่อตัด..นี่..ผมว่า..ในGoogle..มีให้อ่านเพียบนะครับ...
    ................................................................................
    ........ส่วนเรื่องเหรียญปี ๙๘ นี่..ก็เป็นที่มา..ของ..เหรียญอันดับ ๑ ที่แสวงหากันของ
    มือปืนเมืองเพชร..และ..ประจวบ..อยู่แล้วครับ....ของท่านส่วนใหญ่จะยิงไม่ออก..
    ..หรือ..ถ้าออกก็ไม่เข้า...มือปืน..ก็..ไม่อยากเจ๊บตัวเหมือนกัน.....
    ....จึงไม่นิยม..เหรียญที่เหนียวอย่างเดียวครับ..อย่างของ..หลวงพ่อเพลิน..วัดหนองไม้เหลือง..นี่เท่าที่ทราบ
    ...เท่าที่ทราบ..จะออกเหนียวอย่างเดียว.....อย่างนี้..เจ็บตัว..ถ้าถูกเข้าไปเยอะ..ก็ทรุด..แล้วก็ถูกตำรวจจับ...อย่างงี้..มือปืน..ไม่ชอบครับ....
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............
    ..............................
    .....................................................................................
    ..............สมัยที่พ่อผม..รับราชการทหารที่เมืองเพชร..ต้องตรวจพื้นที่รับผิดชอบ....นอกจากการ
    ตรวจพื้นที่..การสอบถามข้อมูลความเป็นมาแต่ละแห่ง..ที่ไปก็มีส่วนสำคัญที่เอามาประกอบ
    ด้วย...(พ่อย้ายไปที่เมืองเพชร..เมื่อปี ๒๔๙๓)....การสอบถามข้อมูล..ก็ต้องมีประวัติความเป็น
    มาแต่ละที่..ประกอบด้วย..............
    .............ทั้งพ่อและแม่เคยเล่า..เรื่องบริเวณ..แถบวัดโตนดหลวงให้..ผมฟัง...โดยประกอบกับ
    การเล่าเรื่อง..หลวงพ่อศุข..อย่างที่ผมได้ถ่ายทอดให้ท่านทั้งหลายฟังมาแล้ว....ว่า...ตอนนั้น..
    ถ้า..ถัดจาก..หนองศาลา..(ที่เป็น..ที่มีสถานีรถไฟตั้งอยู่แล้ว)...มันก็จะเป็นท้องนา..และ..ที่เวิ้ง
    ว้าง..สลับกับ..มีต้นตาลโตนด..กระจายกันห่างๆ....หาบ้านคน..แทบไม่ได้...แต่ละบ้านก็ตั้งกัน
    ห่างลิบลับ...อย่างที่ผมเคยเล่า..ว่ารถบรรทุก..ที่ขน..ภรรยาทหารในกองพัน..รวมทั้งแม่ผม..
    จะไปทำบุญ..แล้ว..เกิดเสีย...เป็นชั่วโมง..ก็มองหาชาวบ้านเพื่อไปบอกหลวงพ่อศุข..ไม่ได้..
    นั่นแหละครับ....ชัดเจนว่า..มันเวิ้งว้าง...ขนาดไหน......
    .................พ่อได้เล่าว่า...ชาวบ้านสูงอายุ..ที่อยู่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕..(อย่าลืมนะครับนั่นคือ
    ..เหตุการณ์เมื่อปี ๒๔๙๓-๙๔)...เล่าว่า...แถวนี้..มามีผู้คนมา..ตั้งบ้านเรือน..ประกอบอาชีพ
    ทำนา..กันได้..ก็เมื่อ..มีคลองชลประทานจากเขื่อนเพชร..มานั่นแหละ..(เขื่อนเพชรนี้..ไม่ใช่
    เขื่อนแก่งกระจาน..นะครับ..เป็นประตูน้ำกั้นแม่น้ำเพชรบุรี..ที่มีต้นน้ำมาจาก..แก่งกระจาน
    ..สร้างเมื่อสมัย..รัชกาลที่๖...อยู่ตอนล่าง..ในเขคอำเภอท่ายาง..เขื่อนแก่งกระจาน..สร้างอยู่
    เหนือน้ำขึ้นไป...สร้างทีหลัง..สมัยผมเป็นเด็กรู้เรื่องแล้ว)...คนเก่าที่นั่นบอกก่อนนั้น.แถวนี้..เวลา
    หน้าแล้ง..หาน้ำจืดยังยากเลย...เพราะ..ลำน้ำย่อย..ที่ไหลผ่านแถวนี้..หน้าแล้ง..ก็เรียกว่า..
    แห้ง..หรือ..เกือบแห้ง....พวกมาตัดงวงตาลโตนด....กับ..พวกประมงขนาดเล็ก..แถวบ้านเก่า
    ...ต้องเก็บน้ำฝนใส่ตุ่มใช้กัน....ชุมชนเล็กๆมีกันอยู่ไม่กี่หลัง..แถวบ้านเก่า....นา..ก็มีทำมั่ง..
    ไม่ทำมั่ง..แต่ก็ไม่เกินครั้งเดียวแน่นอนใน๑ปี...พื้นที่ข้างล่างก็เป็นทราย...หมดสิทธิ์..จะทำพืชสวน
    ..อย่างแถบท่ายาง..เพราะดินไม่ดี.............................
    ........จากการสืบประวัติการก่อสร้างโครงการชลประทานเพชรบุรี..ก็เห็นได้ชัด...รวมถึง
    เมื่อพิจารณาจาก..จากภูมิประเทศก็ชัดเจนว่า...พื้นที่นี้เดิม..แห้งแล้ง..เพราะ..แม่น้ำเพชรบุรี..
    ซึ่งไหลข้นทางเหนือ..เฉียงไปทางตะวันออกเล็กน้อย..นั้น..อยู่ห่างบริเวณนี้..และ..แถบนี้..
    พื้นที่..เทไปหา..ทางทะเล..ทางตะวันออก..น้ำที่ได้..ก็มาจากน้ำฝนอย่างเดียว...ดังนั้น..จึงต้อง
    ทำ..ระบบคลองชลประทาน..มาช่วยที่นี่...ในสมัยรัชกาลที่ ๖ ....เมื่อพื้นที่..แห้งแล้ง...จะมีชุมชน
    ใหญ่ได้ยังไง....สมัยก่อน..แถบนี้..จึง...มีแต่ชุมชนเล็กๆ...และอยู่ห่างๆกัน...ไม่ใช่แบบที่..ลงกัน
    ในเว็บ.....
    .................ที่ผมเล่ามานี้..เพื่อให้ทราบว่า..บริเวณนี้..สมัยโบราณ..นั้นเป็นยังไง....ก็คือ...เรียก
    ว่า..เป็นที่..แย่..ของเมืองเพชร...ชุมชนอยู่บางเบามาก.....ที่เรียกว่า..พอมีผู้คนบ้าง...ก็คือ...
    แถบ..หนองศาลา..เพราะอยู่ใกล้เข้าไปในพื้นดิน.....(ดูรูป..ประกอบได้ครับ).......ชักเอะใจ
    รึยัง..ว่าผมจะพูดว่าไง.....
    ............ก็นั่นแหละครับ....ก็เมื่อ..แทบจะไม่มีผู้คน....แล้วมามี..วัดตั้งอยู่ได้ยังไง...ตั้งแต่ไม่น้อย
    กว่า..๓๐๐-๔๐๐ ปี....ผมก็เคยสงสัย...เพราะพ่อสมัยก่อนตอนเล่า..พ่อเองก็ยังแปลกใจ...
    (....ยุคนี้ผม..เคยไปเปิดเว็บอ่าน..เรื่อง..พระนเรศวรมาแถบนี้..บอกว่า..แถบนี้อดีต..เคยมีชุมชน
    ใหญ่และสำคัญ...ผมก็หัวเราะในใจ..เพราะข้อสันนิษฐานเลื่อนลอย...ถ้าตรงไหน..ไม่มีน้ำจืด..และ..
    ดินไม่ดี..มันจะมีชุมชนใหญ่ได้ยังไง...ผมทำงานชลประทานมา..เข้าใจเรื่องนี้อย่างดี...ขอยืนยัน
    ว่า..ไม่จริงครับ...เพราะคนที่ตั้งสันนิษฐาน..มาดูเอาสมัยนี้...สมัยที่มีคลองชลประทานเข้ามาแล้ว
    ...ก็เลยมาโมเม..กันเอง...แล้วไอ้พวกที่บอกนี้..เคยได้ไปสัมภาษณ์..คนที่อยู่ตั้งแต่สมัยยังไม่มีคลอง
    ชลประทานรึเปล่า.....)......
    .................ผมว่า..พระนเรศวรและน้องชาย..คงเห็นว่า..แถบนี้เงียบ..และ..สงบดี...ไม่รบกวนชาว
    บ้าน..เพราะอย่างน้อย..พระองค์ท่านก็ต้องมีกองทหาร..ส่วนนึง..มาด้วย..ตั้งค่ายพักแรมกัน...
    .............แล้ว..พระองค์..ก็คงต้องใช้เวลา..อย่างน้อยเป็น..อาทิตย์ขึ้นไป...เพราะการเดินทาง...
    ไม่ได้ใช้..รถยนต์....ย่อมเหนื่อยล้าเป็น..ธรรมดา...แล้วการล่องเรือ..ตกปลาทะเลก็ไม่ใช่ของง่าย
    ...คนที่ชอบตกปลาทะเล..จะทราบ...บางครั้งออกเรือไปทั้งวัน..ได้แต่ปลาตัวเล็กๆ......
    ........คนที่มาตกปลาทะเล..ก็เพราะ..เขาอยากได้ปลาตัวใหญ่ๆ..ตกยากๆ..จึงจะสมใจอยาก....
    ....................คราวนี้...ปัญหาก็เข้ามาในกบาลผมเยอะแยะ....ด้วยความสงสัยใคร่รู้.........
    ........คือ ๑. วัดโตนดหลวง...สร้างมาก่อน..พระเนรศวรเสด็จรึเปล่า.........
    ๒. หรือ วัดโตนดหลวง สร้างหลังจาก พระนเรศวร..เสด็จมาแล้ว....
    ๓. ทำไม..หรือ..วัตถุประสงค์ใด..ถึง...สร้างวัดโตนดหลวงทั้งๆที่..ไม่ได้มีชุมชนอยู่
    ๔. วัดโตนดหลวง..จะเกี่ยวข้องกับ..การเสด็จมา..ของพระนเรศวร..หรือไม่..
    ๕. ชื่อวัด..คำว่า.."หลวง"....ถ้าเป็นภาษาเหนือ..แปลว่าใหญ่..แต่นี่..เป็น ภาคกลาง
    ...คำว่า.."หลวง"...ก็มีความหมาย..ถึงอะไร..ที่ไม่เป็นชาวบ้านด้วย...เป็นไปได้มั้ย....ที่ไม่ได้หมาย
    ความว่า..ใหญ่
    ................................ต่อตอนหน้าครับ....................
    ...อธิบายภาพ.......
    .............A คือ วัดโตนดหลวง B คือ โรงเรียนวัดโตนดหลวง...ชายหาดเหนือแผนที่ขึ้นไปคือ
    ...หาดปึกเตียน...ใต้แผนที่ลงไปคือ..หาดชะอำ...ตะวันตกนอก..แผนที่จะเป็น..อำเภอท่ายาง
    ..........ทางน้ำ..ที่แสดงเป็นเส้นสีฟ้า...จะเป็นส่วนของ..คลองย่อย..ของคลองส่งน้ำชลประทาน..
    ...โดยบางส่วน..จะใช้ทางน้ำเดิม...ซึ่งทางน้ำเดิม..ในภาษาแผนที่...ถ้าทำแผนที่ก่อนมีคลองชลประ
    ทาน..คือ..ยุคต้นรัชกาลที่๖...จะมีแต่..เป็นเส้นประ..หมายถึง..น้ำไหลไม่ตลอดเวลา..หน้าแล้งน้ำไม่มี
    ...ที่เห็นเป็นเส้นค่อนข้างตรง(โค้งเล็กน้อย)..นั่นเป็นคลองขุดของชลประทาน..ไม่ใช่คลองธรรมชาติ
    ....แถวนี้เดิม(ก่อนมีคลองฯ)..ถ้ามี..จะเป็นห้วยขนาดเล็ก..ทั้งสิ้น..จะเห็นได้ว่า..บริเวณวัดโตนดหลวง
    ..ไม่มีห้วยผ่านเลย....นั่นเป็นข้อสังเกตว่า..ชุมชนที่บ้านโตนดหลวง..อาจเกิดขึ้น..หลังมีวัด
    (..ขอขอบคุณ..ภาพจาก GOOGLE MAP )

    [​IMG]
     
  7. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา มาติดตามอ่านบทความ ความรู้ สาระดีๆเหมือนเดิมครับ
     
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................
    ....หวัดดี..เฉียวฟง..มากับเขาเหมือนกันเรอะ....
    ...................................................
    ................................................................................................
    .....หลายท่านอาจจะคิดว่า...นี่มันเหมือนถามนำ..นี่หว่า..มีคำตอบอยู่แล้ว...พยายามจะจูงเข้าไป
    ..บรรจบ..กับ..คำตอบที่ตั้งใจไว้.......
    ............ผมตอบได้เลยว่า..ไม่หรอกครับ..ผมไม่ใช่คนแบบนั้น...เพียงแต่..ผมเสนอ..ในสิ่งที่มีโอกาศ
    เป็นไปได้...ในทุกแง่..มากกว่า..........อาจจะทั้ง...ไม่เกี่ยวข้องกันเลย....หรือ..เกี่ยวข้อง...และ..ถ้า
    เกี่ยวข้อง..น่าจะเกี่ยวข้องแบบไหนมากกว่า......
    .............ผมเริ่มจาก..ที่ผมค้นคว้า..จนค่อนข้างแน่ใจ..ว่า...โบสถ์วัดโตนดหลวง..สร้างประมาณ..
    อยู่ในช่วง...อยุธยาตอนกลาง......แล้วก็มาที่..พระนเรศวร..กับ..น้องชาย...ก็เป็น..ยุคอยุธยาตอน
    กลางเช่นกัน....แล้วบังเอิญ...พระองค์ท่านมาพักผ่อน..บริเวณนี้.....
    ...........................................................................................................................
    ......มันก็จะเริ่ม..ตรงนี้ก่อน..ว่า..ถ้า..วัดโตนดหลวง...สร้างมาก่อน...พระนเรศวร..เสด็จมาแถวนี้
    ..........เป็นไปได้มั้ย...............
    ...ถ้าจากข้อมูล..ที่ผมให้ไปตอนที่แล้ว...โอกาศที่วัดโตนดหลวง...จะสร้างก่อนนั้น...ก็เป็นไปได้
    น้อย...เพราะ...ชุมชน..ที่ผมบอกไป...ตรงที่ตั้งวัด..ผมว่า..ไม่น่าจะมีด้วยซ้ำ...เพราะ..ในแผนที่ภูมิ
    ประเทศของทหาร ๑ ต่อ ๕๐,๐๐๐ ที่มีชั้นความสูงประกอบ...ก็แสดงว่า...ตรงนั้น..ไม่มีห้วย
    ผ่านเลย...แล้วคนจะไปตั้งบ้านเรือน..ยังไง...ถ้าอยู่ติดห้วย..ก็ยังตักน้ำจากห้วยมาใช้ได้..ใน
    หน้าฝน..หรือ..หลังหมดฝนใหม่ๆ....แล้วเรื่องอะไร..จะต้องบ้านเรือนอยู่ไกลห้วย...ไปหาบน้ำ
    เป็นกิโล..มาใช้ทำไม................
    ............เมื่อชุมชน..ไม่มี..แล้ววัด..เกิดขึ้นมาได้ยังไง......มีอะไร...ที่พิเศษ...ทำให้เกิด..วัดขึ้นได้
    .....อย่าลืมว่า..สำหรับ..คนไทย..วัดคือ..จุดรวมของทุกอย่าง.....แต่ถ้ามี..วัด...เกิดขึ้นก่อน....
    ..ก็มีโอกาศที่..ชุมชน..จะมาอยู่ใกล้ๆวัดได้..เพราะคนไทย..เราทำนุบำรุงพุทธศาสนาอยู่แล้ว
    ......มีลูกเต้า..ก็มีโอกาศ..ได้เรียนหนังสือ..พอมีความรู้....ได้ทำบุญ..ได้มีที่รวม..ของชุมชนใน
    กิจกรรมต่างๆ.......................
    ..............................แล้วจาก..ประวัติศาสตร์..แถวนี้..ไม่ใช่เส้นทางเดินทัพ....แล้วจะมีอะไรพิเศษ
    ที่ทำให้เกิด..วัด..ขึ้นมาก่อนได้...ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน.....
    ..............................................................................................................................................
    ...............เอาละ..สมมุติว่า...มีมาก่อน..ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด..ก็ตาม......
    .....แถวบริเวณนั้น.....แม้แต่ใกล้ชายฝั่ง....ร่วม ๑๐ ตารางกิโลเมตร...ถ้านับใกล้ชายฝั่งเป็น..สิบ
    กิโล..ไม่มีวัดยุคนี้อยู่เลย.....มีอยู่วัดหนึ่ง...แต่ห่างจากวัดโตนดหลวงเข้ามาในแผ่นดิน..๒ กม.
    (อยู่ทางทิศตะวันตก..ของวัดโตนดหลวง)..คือ..วัดหนองศาลา..สร้างสมัยอยุธยาเหมือนกัน..
    แต่ก็น่าจะเป็น..ตอนปลาย....อีกอย่างที่ไม่น่าเป็นคือ..ห่างจากชายฝั่งเกินไปด้วย...ก็ตัดออกไป
    .....ก็มี..วัดโตนดหลวงอยู่วัดเดียว...........
    .................ถ้าเราจะคิด..ว่า..พระองค์ท่าน..อยู่อย่างน้อยที่นี่..เป็นอาทิตย์...แล้วบังเอิญ...มีวันพระ
    ..อยู่ในช่วงนั้น...เป็นไปได้มั้ย..ที่ท่านจะเสด็จมา..ทำบุญที่นี่....ก็อาจเป็นไปได้...เพราะพระมหา
    กษัตริย์สมัยอยุธยา...ตามปกติ(ไม่ได้ติดทำศึก)..จะต้องไปทำบุญที่วัด..อยู่แล้ว.......
    .......แต่ก็มีโอกาศที่..ข้าราชบริพาร..อาจไปนิมนต์พระ..ที่วัดมาทำบุญ...ที่ๆพักพระองค์ท่านก็ได้
    ..................แต่โอกาศ..มันจะพอดี..อย่างนั้นรึเปล่า...น่าจะน้อย....เพราะ..วันพระ..๒ อาทิตย์..มี ๑
    ครั้ง...................
    ...................แล้วถ้า..พระองค์..จะเสด็จ..มาเดินเล่นแถวๆวัดละ....ก็น้อยเช่นกัน..เพราะพระองค์
    ท่านมาตกปลา...เป็นหลัก..อยู่กลางทะเล..ทั้งวัน..กลับเข้าฝั่ง..ก็น่าจะพักผ่อนมากกว่า......
    ..................แล้วถ้า..พระที่วัดออกไปบิณฑบาท..แถวนั้น...แล้วท่านมา..ทำบุญใส่บาตร.....
    ....อันนี้..น่าจะมีโอกาศสูงกว่า..แบบอื่น...แล้วพระองค์ท่านก็ไม่ต้องเสด็จไปที่วัดด้วย.....
    ..........สรุปคือ..แบบนี้...มีโอกาศเป็นไปได้น้อย..ที่พระองค์ท่านจะเสด็จไปที่วัด........นั่นเอง
    .........................................ต่อตอนหน้าครับ........................................

     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........
    ............................
    ........................................................................................................
    ......วัดโตนดหลวง...สร้างหลัง...จาก..พระนรศวร...เสด็จมาแล้ว.....................
    ............เรื่องนี้...ในความหมาย...ยังมีจข้อจำกัด..อยู่ในวินิจฉัยของผม...ในตอนแรกๆ..ก็คือ
    ..ยังอยู่ในสมัย..อยุธยาตอนกลาง....ซึ่งถือว่าจุดเปลี่ยนเข้าอยุธยาตอนปลาย..อยู่ในสมัย..
    พระเจ้าปราสาททอง...ดังนั้น...เวลา...ก็ไม่ควรเกิน ๖๐ ปี....เป็นช่วงที่..ปลอดสงครามทางพม่า
    ...บ้านเมืองแถบนี้..สงบสุข...ผมว่า...คงแทบ..จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง....อาจมีคนอพยพมา
    เพิ่มบ้าง..แต่คงน้อยมาก..เพราะกันดาร..หมู่บ้านประมงแถบบางเก่า..ก็คงไม่ขยายอะไรมาก..
    ....ถ้าไม่เอาเรื่อง..วาระที่พระนเรศวรเสด็จมาแถบนี้..มาประกอบ....เหตุผล..ที่จะสร้างวัด
    โตนดหลวง..ก็คงน้อย..พอๆกับ...ข้อวิเคราะห์ที่ผ่านมา...............................
    ................แต่ถ้า...เอาเรื่องพระนเรศวร...เสด็จมา....เกี่ยว....น้ำหนักเหตุผล..จะขยับขึ้นมาทันที..
    .....จากประวัติศาสตร์...เราจะเห็นได้ว่า...พระมหากษัตริย์เวลาเสด็จไปที่ไหน....ข้าราชบริพาร
    ..หรือ..ชาวบ้าน...ก็อยากจะมี..อะไร..ที่เป็นสิ่งเตือนใจ...หรือแม้แต่..องค์กษัตริย์เอง.......
    ........อย่าเอาไปเปรียบเทียบ..กับ..สิ่งที่สร้างเป็นอนุสรณ์เหตุการณ์สำคัญ...อย่าง...
    ................เจดีย์ยุทธหัตถี...ภูเขาทอง...หรือ..วัดโพธิ์ประทับช้าง..........
    ....เพราะมัน..ไม่ได้ยิ่งใหญ่..แบบนั้น....แค่เคยมาอยู่ที่นี่.....เราเคยเห็น..พระปรมาภิไทยของ..
    รัชกาลที่ ๕ สลัก อยู่ตามหิน...ที่ๆพระองค์เคยไปเยือน.....เราเคยเห็น...ในหลวง..พระราชินี..
    หรือ..แม้แต่..พระราชชนนี..พระเทพฯ...ทรงปลูกต้นไม้....ในที่ๆท่าน..เสด็จไปเยือน...อันนี้..
    ...เป็นเรื่องไม่แปลก.....แต่เกือบทั้งหมด..เป็นเพราะ..ข้าราชบริพาร..ข้ราชการท้องถิ่น..เป็นผู้
    ทูลขอ.....
    ..................เมื่อเรามาดูเหตุการณ์..ในขณะนั้น...เจ้าเมืองเพชรบุรี..กรมการเมือง...ก็ต้องมาเฝ้า
    เพื่อถวายการคุ้มกัน...และรับใช้...ในที่ประทับ..ตลอดเวลาที่..สองกษัตริย์..ทรงเพลิดเพลิน..
    อยู่ที่นี่....
    ..................................................
    .....ข้อความที่ผมจะเขียน..ต่อไปนี้...โปรดใช้วิจารณญาณ...และ..ไตรตรอง..ให้ดี.....
    ............ผมจะเสนอแนะ...ตามความน่าจะเป็น...ในกรณี...ที่วัดนี้..ถ้ามีการสร้างขึ้น..เพราะ
    เกี่ยวพัน..กับ..การเสด็จมา..ของ..พระนเรศวร....ซึ่ง...จริงๆแล้วจะเป็น..แบบไหนไม่ทราบ
    แต่...ผมจะใช้เหตุผล..ตามที่กล่าวมาข้างต้นประกอบด้วย....ซึ่งจะแบ่งเป็น ๓ กรณีหลักๆ
    ..ก็คือ
    ๑. เป็นไปได้ใหม...ที่..เจ้าเมืองเพชร..ในนามของชาวเพชรบุรี...จะมาสร้างวัดนี้...
    ไว้เป็นอนุสรณ์..ในการเสด็จมา..ประทับแรม..ณ ที่แห่งนี้...เมื่อสร้างวัดแล้ว..ก็ชักชวนชาวบ้าน
    ..ให้มาอยู่..รอบๆวัดเพื่อ..ทำนุบำรุงวัด..และ..พระสงฆ์...เวลาที่สร้าง..ก็น่าจะไม่นาน..เกินปีสองปี
    ...และยังอยู่ในสมัยของพระนเรศวร....
    ๒. เป็นไปได้ใหม...ที่..เมื่อ...พระเอกาทศรถ..ขึ้นครองราชย์แล้ว...ทรงรำลึกถึงพี่ชาย
    ช่วงที่มีความสุข..ในการพักผ่อนอยู่ที่นี่..ด้วยกัน...สั่งให้ทางเจ้าเมืองเพชรบุรี...สร้างวัดขึ้นมา
    เพื่อ..เป็นอนุสรณ์ในการนี้...เมื่อมีวัดแล้ว..ก็ชักชวนชาวบ้าน..ให้มาตั้งบ้านเรือนใกล้วัด..เพื่อ
    เหตุผล..ทำนองเดียวกับ ข้อที่ ๑
    ๓. เป็นไปได้ใหมว่า...ทางเจ้าเมืองเพชรบุรีและกรมการเมือง..ที่มาเฝ้า..อาจขอประทาน
    ให้..ท่านทรงปลูกต้นไม้...เพื่อเป็นอนุสรณ์..ให้ชาวเมืองเพชรได้ชื่นชมยินดี..และ..จดจำในภายหลัง
    ..ว่า..พระองค์ท่าน..เคยเสด็จมาที่แห่งนี้...แล้ว..ต้นไม่ใหญ่..ที่จะงอกได้..และอยู่คงทน..ในดิน
    แบบนี้...มีอายุยืนยาว...ก็มีอย่างเดียว..คือ....
    .....................................ต้นตาลโตนด...............................................................
    ..........ต่อมาภายหลัง....ทางกรมการเมืองเพชรหรือก็คือ..เจ้าเมืองเพชร..จึงมาสร้างวัด..อยู่ใกล้ๆ
    ..เพื่อ..เป็นจุดสังเกตได้ชัดเจน..แถมยังได้..คอยดูแล..ต้นตาลโตนดดังกล่าว...คือนอกจากพระสงฆ์
    ...ชาวบ้าน..ที่ย้ายมาอยู่รอบๆ..จะได้ช่วยคอยดูแลด้วย...และอีกประการ..แม้ต้นตาลตายไป...
    แต่วัดก็ยังอยู่.................แล้วเป็นไปได้มั้ยว่า...นี่คือที่มา..แห่งชื่อ...............
    ................................วัดโตนดหลวง.....................................

    ................................ต่อตอนหน้าครับ.................................
     
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...........
    .......................................................................................................................
    .......แล้วถ้า...เรื่อง..การเกิดขึ้นชอง...วัดโตนดหลวง..ไม่เกี่ยวกับ..พระนเรศวรเลย....ละจะเป็นยังไง
    ...................ผมว่า...น่าจะมีโอกาศจาก..๒ ประการคือ...................
    ๑. คือ..มีพระสงฆ์ที่แก่กล้าวิทยาคม...ธุดงค์มา..แล้วมาปักกลด..อยู่ที่นี่...แล้วมีชาวบ้าน
    มาพบ...แล้วก็สร้างศรัทธา..ให้ชาวบ้าน...แต่ท่านไม่ยอมไปที่อยู่อื่น....ชาวบ้านก็เลยต้องมา
    สร้างวัดให้ท่านที่นี่...ต่อมามีผู้เลื่อมใส..มากๆขึ้น...ชาวบ้านก็..เริ่มย้ายเข้ามา..อยู่ใกล้ๆวัด...
    ...หรือ..
    ๒. มีเศรษฐี..ที่มีศรัทธา..แก่กล้า..อยากจะสร้างวัดขึ้นมา...แล้วด้วยอะไรไม่ทราบ..ดลใจ
    มาเลือกสถานที่แห่งนี้...เมื่อสร้างวัด..เสร็จก็..ชักชวนบ้าน..ที่กระจายอยู่ห่างๆ...ให้มาอยู่ใกล้ๆ
    วัด..แล้วกลายเป็นชุมชนขึ้นมา..........
    .......................................................................................
    ...........ก็นี่แหละครับ..ผมก็นำเสนอ..ตามแนวคิดของผม..เท่าที่เป็นไปได้...ท่านผู้อ่านก็..วิเคราะห์
    เอาเอง......
    ...........เรื่องนี้...ผมคิดก่อนที่...ผมจะไปวัดโตนดหลวง..ครั้งที่ ๓ และยังไม่รู้เลยว่า...วัดโตนดหลวง
    สร้างโบสถ์ใหม่แล้ว..ด้วยซ้ำ...และก่อนจะ...ได้อ่านประวัติวัดจากเว็บ..ของจังหวัด..และ..พวกนำเที่ยว..
    ทราบว่า..เขาแก้ไขใหม่..ให้วัดโตนดหลวง..สร้างสมัยอยุธยาตอนกลาง..
    ...............................................................................................
    ...................ผมก็คงจะจบสว่นนี้..แค่นี้ก่อน.....ผมจะมาเล่าต่อ..จากตอนที่ผมถึงวัดแล้ว....ตรงรี่
    ไปที่..โบสถ์..ผมยังไม่ได้..มองความเปลี่ยนแปลงของตัวโบสถ์..ด้วยซ้ำ........เพราะรอมาหลายปี
    ...ที่จะพิสูจน์..หลักการของผมว่า..จริง..หรือ..ไม่...สิ่งพิสูจน์ได้..ก็คือ..ใบเสมา........
    ..................พอผมเห็นปุ๊บ...ผมก็โล่งอกทันที..แม้จะผิดหวัง...ที่ทางวัดเอา..สีทอง..ไปทาหุ้ม...
    หุ้ม..อย่างเดียวไม่ว่า..ล่อซะหนาเตอะเลย.................................
    ......................ครับ.....เป็นใบเสมาทำจากหินทรายแดง..แกะสลักลวดลาย...รูปทรง..และ..ลวดลาย
    ..ชัดเจน....เป็นสมัยอยุธยาตอนกลาง..แน่นอน...และช่วงกลางๆด้วย......
    ..................ทำไม..ผมถึงทราบ..ก็เพราะผมศึกษาเรื่องใบเสมา..มาเต็มที่เลย...ทีแรกเพราะ..ชอบ
    ลวดลายที่..แกะ..และ..รูปร่างที่หลากหลาย....................แล้วผม..ก็..ได้ศีกษาอ่านจาก...ผู้ที่ชอบ
    ..และค้นคว้า..ด้านนี้...ท่านเป็นนักโบราณคดี..และเป็น..ปราชญ์....ท่านคือ...
    .........................................น. ณ ปากน้ำ.........................................................
    ....ท่านเขียน..ทั้ง..หลักการพิจารณา..แยกรุ่น...จากการที่ไปเที่ยววัดมาทั่วเมืองไทย...และความรู้
    ทางประวัติศาสตร์..และ..โบราณคดี..ของท่าน..เอามาใช้...และวิเคราะห์..แยกออกมา....
    .........เรื่อง..เกี่ยวกับใบเสมา..นี้..ท่านเขียนไว้..หลายที่..ทั้ง..ในหนังสือ..รอยอดีต..และ..อะไรอีก
    เล่ม(ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว)...และยังมีลงใน...วารสารต่างต่างๆ..อย่างรายเดือน..ของศิลปากร..
    ...เมืองโบราณ..และ..อื่นๆ...ผมก็ตามไปอ่านมา..มากที่สุดที่จะทำได้..............
    ............ใบเสมาที่นี่....มีขนาดเล็กครับ...คงเพราะโบสถ์..เล็กด้วย...และไม่ผิดภาค..เพราะ..รายละ
    เอียดลวดลาย..ก็..สามารถบอกแหล่งได้....จุดเด่น..ที่บอกคือ..ลายดอกพุตตาน..ดอกเดี่ยว..ตรง
    กลางยอด...ใบเสมา....ตั้งแต่แถบ..ราชบุรี..มา..ใบเสมาในยุคเดียวกันนี้...ก็จะดอกพุตตาน..อยู่ที่
    ยอด...อย่างเช่นที่วัดหลุมดิน ราชบุรี...และที่สำคัญคือ วัดใหญ่สุวรรณาราม เพชรบุรี.....
    ........สำหรับวัดใหญ่สุวรรณาราม..นี่มีคนเข้าใจผิดกัน..นึกว่าสร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย...
    ...ไม่ใช่นะครับ...ศาลาการเปรียญที่พม่าจามประตู..นั่นละครับที่...สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย
    ....ขนาด..คนที่เอาไปลงใน..วิกิพีเดี่ย..ยังเขียนผิดเลย....รูปภาพที่เขียนด้านใน..นะ..ใช่ครับ..
    อยู่สมัยอยุธยาตอนปลาย....แต่วัดไม่ใช่..โบสถ์..ไม่ใช่...ผมตรวจดู..หลายเว็บ..ก็ลงถูกต้อง..
    ..หลายเว็บผิด............สิ่งที่บอกได้ชัดๆก็คือ.....
    .................วัดในสมัยอยุธยา..ตอนปลาย..จะไม่สร้างใบเสมา..ด้วยหินทรายแดง..ครับ........
    ...รวมทั้งรูปร่างใบเสมา..จะแตกต่างกัน..เห็นได้ชัดเจน...............
    ......................โดยเฉพาะ..ใบเสมาที่วัดใหญ่ฯ...ลวดลายจะคล้ายกันมาก..แต่วัดโตนดลวงจะหยาบ
    กว่า..และ..มีรายละเอียดไม่เท่า...คงทั้งจากฝีมือช่าง..ขนาดของใบ..ส่งผลให้เป็นดังนั้น...
    ...วัดใหญ่ฯ..เป็นใบเสมาคู่(วัดหลวง)...เป็นหน้าเป็นตา..ของเมืองเพชรมาแต่โบราณ...คู่มากับ..
    วัดมหาธาตุ....มีเหตุการณ์สำคัญๆ..เกิดที่วัดนี้..หลายครั้ง......................
    ....................................ต่อตอนหน้าครับ...................................


    [​IMG]

    ใบเสมาหินทรายแดง..สมัยอยุธยาตอนกลาง วัดราชประดิษฐาน อยุธยา
    (ขอขอบคุณ ภาพจาก siamfishing.com)

    [​IMG]

    ใบเสมาหินทรายแดง สมัยอยุธยาตอนกลาง วัดใหญ่สุวรรณาราม เพชรบุรี
    (สัวเกต ลายดอกพุตตาน..ตรงปลายยอด)
    (ขอขอบคุณ ภาพจาก ruenthai.com)

    [​IMG]

    ...ใบเสมาหินทรายแดงสมัยอยุธยาตอนกลาง จาก วัดใน ราชบุรี
    (..สังเกต..มีลายดอกพุตตาน..บนยอดเช่นกัน)
    (ขอขอบคุณ ภาพจาก nationalmuseums.finearts.go.th/ratchaburi)
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......
    .....................................
    ...............................................................................................................
    .........น่าเสียดาย...ที่ผมไม่ได้ถ่าภาพ..ในวันนั้น..อย่างที่บอกว่า..กล้องผมเสีย..และ..มือถือ
    ก็คุณภาพไม่ดี..ถ่ายไม่ชัด......สำหรับ..ใบเสมาของ..วัดโตนดหลวง...ก็ให้ดูที่...วัดใหญ่ฯได้
    ..แต่ย่อขนาดซัก ๓ ใน ๔ และ..รายละเอียดปลีกย่อย..น้อยกว่า...เท่านั้นเอง....
    .................ส่วนตัวโบสถ์..ผมช็อคมาก..เพราะมีการ..ปรับปรุงใหม่..อย่างที่ไม่น่าจะเป็น...
    อย่างที่ชัดเจนคือ..ไปทำเสา..มารับชายคาด้านข้าง...ซึ่งโบสถ์ขนาดเล็ก...ไม่ควรทำ...น่าจะ
    รักษารูปแบบเดิม..เลยทำให้ดู..รก..ไปหมด...แต่ที่..งงมาก..หรือ..สมัยก่อน..ผมตาฝาด...
    .....เมื่อ..ประมาณ ๔๐ ปีก่อน..ที่ผมตั้งใจดูนั้น(..ไปครั้งที่ ๒ ผมดูผ่านๆ..แต่ก็คิดว่าน่าจะ..
    เหมือนๆกับ..ครั้งแรก)...ผมจำได้เลย..ว่า..โบสถ์นี้..แปลก...ผมยังเล่าไปก่อนหน้านั้นเลย..
    ว่า..มี..หน้าต่าง..แค่ข้างละ ๑ บาน...(โบสถ์มหาอุตม์..หลายแห่ง...ไม่มีหน้าต่าง..แม้แต่บาน
    เดียว).......แต่คราวนี้...กลับมามี ๒ บาน....มันยังทำให้ผมข้องใจจนทุกวันนี้...ว่าความจำผม
    ฝั่นเฟือนเรอะ.......ผมไม่ได้เข้าไปข้างใน..หรอกครับ...เพราะว่า...มีโบสถ์ใหม่..ทางวัดก็
    ล็อคปิดตาย...................
    ............สำหรับโบสถ์ใหม่..หรุหรามาก..(แต่ไม่ได้เข้าไปดู..ข้างในเหมือนกัน..เพราะเร่งรีบ
    จะกลับบ้านกัน)....สิ่งที่เห็นที่หน้าบัน...ทำให้แปลกใจ...เพราะเป็นไปตามกระแสเลย...
    ....เป็น..รูป..พระนเรศวร..กับ..พระเอกาทศรถ..นั่งตกปลา..อยู่บนเรือ......
    ...............เขาทำป้ายอธิบายไว้..เหมือนกัน..แต่ผมขี้เกียจอ่าน...เพราะไม่สนใจ..ของใหม่....
    ....................................................................................
    ........พอพี่ผมมา...เราก็ขึ้นบนศาลากัน...โอ้โห..คราวนี้..ภาพเปลี่ยนไปชัดเจน...ด้านตะวันออก
    ...ทำใหม่ทั้งหมด....เป็นที่..สำหรับทำพิธีสงฆ์...กว้างขวาง...เห็นรูปเรซิ่น..ขนาดเท่าคน..ของ..
    หลวงพ่อศุข..กับ..หลวงพ่อเทียน(เจ้าอาวาสองค์ก่อน..หลวงพ่อศุข)...ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน..ผมก็เข้าไป
    กราบ...เมื่อเสร็จแล้ว..ผมก็เดินดู..ส่วนที่เหลือ...แล้วก็ถามคนบนวัดว่า..เจ้าอาวาสท่านอยู่ไหน....
    ........เขาก็ชี้ให้ดู...ผมเห็นท่านกำลังง่วนอะไรอยู่ไม่ทราบ....ผมเข้าไปหาท่าน...และก็บอกว่า...
    ..ผมมากับ..คณะผ้าป่า..นี่ละครับ..ท่านก็ยิ้มต้อนรับ..รูปร่างท่านทะมัดทะแมงดี..และดูไม่แก่..
    ....แล้วผมก็ท่านว่า..ท่านทันหลวงพ่อศุขรึเปล่าครับ....
    ................ท่าน(หลวงพ่อย้อน)..ก็บอกว่า..ฉันบวชได้พรรษาเดียว..คุณพ่อก็เสีย...แล้ว..ท่านก็
    บอกต่อว่า...แต่ ฉันอยู่กับท่านตั้งแต่เป็น..เณร..........
    ........ผมก็บอกว่า...ผม..กับ..พ่อ..และ..พี่ชาย..เป็น..ศิษย์สายนี้..ทั้งหมดครับ...
    ...............พ่อสักยันต์ครู..ที่..หน้าอก..กับหลวงพ่อศุข....
    ...............พี่ชาย..หลวงพ่อศุข..ลงกระหม่อม..ให้.....
    ................ตัวผมเอง...หลวงพ่อจันทร์...ลงกระหม่อมให้.....
    ......................ท่านก็ยิ้ม...และ..บอกว่า..เออดี....แล้วก็เพิ่มว่า....พวกที่หลวงพ่อศุข..ลงกระหม่อมให้
    ..หลายๆคน...เผา..แล้ว..ยันต์ครูยังติดอยู่ที่..กระโหลกเลยนะ....ใกล้วัด..นี่ก็หลายคน....
    ........(...ก็..เผาแบบเก่า..แล้วก็เป็นเมรุชั่วคราว..ถ่านไม้..สไตล์เมืองเพชร..ดังนั้น...กระดูกจะเป็น
    ชิ้นใหญ่ๆ...ประเภท..กระโหลก..นี่เหลือเกือบทั้งใบ...ถ้า..ยุคนี้..ก็คงไม่มีทางเห็นหรอกครับ)
    .............แล้วสักพัก...หลวงพ่อย้อนกับ..พระองค์อื่น..ก็ไปเข้าประจำที่ทำพิธีกัน...พี่ชายผม..
    ฐานะ..ประทานในพิธี...ก็แนะนำ..พ่อ..กับ..หลวงพ่อ...สักพัก..ก็ทำพิธี...พอเสร็จพิธี...พ่อก็คุยกับ
    หลวงพ่อย้อน...เรื่องสมัยก่อนบ้าง..แล้วพ่อก็บอกท่านแบบที่ผม..บอก...ว่าพี่ชายผมหลวงพ่อศุข
    ท่าลงกระหม่อมให้...ท่านก็บอกกับ..พ่อแบบที่บอกผม..แต่มีคนแก่ๆที่ประจำวัดอีกคน..ได้ยิน..เขา
    ก็ช่วยยืนยันกัน..บอกชื่อ..มา ๒-๓ คนแต่..ผมจำไม่ได้แล้ว...สักพัก..ผมก็เลี่ยง..มาคุยกับ..ชาวบ้าน
    ..ที่ว่าเมื่อกี้...แกยังบอกว่า..คนที่ทัน..หลวงพ่อศุข..ตอนที่ท่านยังไม่แก่มาก..อย่างพ่อผม..นี่..แทบ
    ไม่เหลือแล้ว..(ตาคนนี้..ก็น่า..จะแค่ ๗๐ กว่าๆ เท่านั้น)..แล้วแกก็เล่าว่า..หลวงพ่อศุขนี้ท่านสุดยอด
    ยังไง..ผมก็นั่งฟังไป....พอก่อนจะกลับ...หลวงพ่อย้อนท่านก็..เอาเหรียญรุ่น..ที่..เป็น..รูปหลวงพ่อ
    ศุข..คู่กับ...หลวงพ่อเทียน..มาให้...แล้วพวกเรา..ก็ลากลับ.............
    .....ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ..แค่เล่าสู่กันฟังเล่นๆ...บรรยากาศวัด..ไม่ประทับใจ...มีตู้ขาย..พระอยู่
    บนศาลาการเปรียญด้วย...ผมไม่ค่อยคุ้นครับ..ดูแล้ว..มันไม่ชลังเหมือน..สมัยตอนโน้น..สมัยที่
    หลวงพ่อแผ่วยังอยู่....ผมพอรู้ๆมาน่าจะจริง(เพราะผมเจอตัวท่านมา)..เหตุผลตอนนั้น..ที่ท่าน
    ไม่ค่อยดัง..ในตลาดกลาง...เพราะท่านไม่ยอม...ให้คนอื่น..พวกผู้หวังดี..มายุ่งย่าม..พวกหนังสือ
    จะมาทำประวัติท่าน..ท่านยังไม่เออออด้วย...(ที่พูดถึงนี่..เมื่อประมาณ ๓๐ ปีก่อนนะครับ..หลัง
    จากนั้น..ผมไม่ทราบ).........
    ...........ส่วนศิษย์ท่านอื่นๆ..ผมก็ไม่ค่อยทราบครับ...รู้แค่เป็นเลาๆ...ก็เลยไม่เล่าดีกว่า.......
    .......ครับ..ก็แค่นี้...ไม่มีอะไร.........ตอนหน้าผมยังมีค้างอีก ๑ เรื่องเท่านั้น...คือ..เรื่องแหวน
    ...หัวนะ..ของหลวงพ่อศุข............
    ..............................................ต่อตอนหน้าครับ........................................


    [​IMG]

    ...ในรูป..จะเห็น..เสารับชายคา..ด้านข้าง..สมัยก่อนไม่มีครับ..คาดว่าเพราะ...ซ่อมใหญ่ใหม่หมด..หลังคายันพื้นเลย.....ส่วน..เสารับ..พาไล(ชายคาด้านหน้า)นั้น..ก็คาดว่า..เพราะซ่อมคงรื้อเสาเดิม..และ..ทำใหม่ไปด้วย...สมัยก่อนโบสถ์ไม่ได้ทาสี..นี่ก็ของใหม่...(เลยเอาสีไปทาเสมาซะเลย)
    (...ขอขอบคุณ..ภาพจาก G-pra.vom)
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ........
    .......................
    .............................................................................................................................
    ............เรื่องแหวนนี่..มีสมาชิกเคยถามผม..มาแล้ว...ผมก็อธิบายเคร่าๆไป...มาเปิดเว็บดูตอนนี้..
    ตกใจ...โอ้โห...ออกกันมาเพียบเลย....ยิ่งแหวนเงินแล้ว...มีแต่ราคาโทรถาม..ทั้งนั้น..สงสัยราคา
    คง..น้องๆ..แหวนหลวงพ่อเดิม..แล้วมั้ง.....
    ...............ผมดูแล้ว....มีอยู่ไม่กี่แห่ง...ที่บอกตามจริง...แต่เกือบทั้งหมด...เหมาให้..หลวงพ่อศุข
    ทั้งนั้น......จากที่ผมทราบ...ท่านทำครั้งเดียว..ครับ...ทำพร้อมกับ...เหรียญปี ๙๘ เพราะ..บ้านผม
    ได้รับมา..พร้อมกัน....ก่อนหน้านั้น..ก็คงไม่มี..เพราะถ้ามีทำ..หลวงพ่อศุข..ก็คงให้พ่อผมแน่...
    ....แล้วตอนที่พ่อผมไปรับเหรียญรุ่นสุดท้ายท่าน..เหรียญปี๒๕๐๐ ก็ไม่มีแหวน..มาด้วย...
    ..................ผมจะบอก..สิ่งที่ต้องจำ..อันดับ ๑ คือ......
    .........แหวนท่าน..หัว..กับ..ตัวเรือน..คนละชิ้นกัน...ต้องมาเชื่อมกัน..........
    .....................อันดับ ๒ คือ.................
    ......หัวแหวน..จะโค้งมน..ไม่แบน..และไม่โค้งน้อยๆ...ถ้าใครรู้จัก..กระทะทองเหลืองที่เขาหยอด
    ฝอยทอง..ก็คล้ายๆแบบนั้นละครับ..กลับเอาท้องกระทะขึ้น..................
    ....................อันดับ ๓ คือ..............
    .......ตัวอักขระ..ที่อยู่บนหัว...จะเล็กมาก..และ..ลึก..จมลงไปในเนื้อ..ขนาดความกว้าง..น่าจะประมาณ
    เส้นผม..เท่านั้น.......เส้นคมชัด..ไม่บิดเบี้ยว..เส้นวงกลม..ที่ล้อมรอบตัว..นะ..๒ ชั้น ก็กลมดิก..และ..
    ขนานกันดี....ส่วนที่..ตัวแหวน(ข้างนึง..พุ..อีกข้างนึง..(ท)โธ..นั้น..เส้นจะหนากว่า..ตัวหัวแหวน
    หน่อยนึง..แต่ลึก(ย้ำว่า..ลึก)..ชัด..และ..คม........
    ...............อันดับ ๔ คือ.....
    ....ใต้ท้องแหวนจะเรียบ..ไม่มีอักขระใดๆ..ไม่มีตัวตอก..เพิ่มเติม..อะไรทั้งสิ้น.....
    ...............อันดับ ๕ คือ...
    ..ผมไม่แน่ใจว่า..มีแบบ..ตัวเรือน..เป็นทองแดง...และ..หัวเป็นทองแดง...หรือไม่...เพราะแต่ก่อน
    ผมไม่เคยเห็นครับ..เคยเห็นที่มีวางในสนาม..ก็มีแต่..เรือนทองแดง..หัวเงิน...ส่วนหัวเงิน..เรือนเงิน
    ..นี่ทำน้อยครับ.....ส่วนหัวทอง...ตัวทอง...อันนี้...ผมยิ่งไม่ทราบใหญ่.......
    .............เรื่อง..ของเรื่อง...ผมก็ไม่ติดตามเรื่อง..แหวนนี่เท่าไหร่...เอาแค่เท่าที่ผมทราบ.ก็แล้วกัน
    .......ในบรรดา..ลูกศิษย์หลวงพ่อศุข..นี้...ที่น่าจะทำ..แหวนหัวนะ..ก่อนใคร..น่าจะเป็น....
    ...หลวงพ่อจันทร์...ท่านมาทำเอาเมื่อ..หลวงพ่อศุข...น่าจะเสียแล้ว...ก็ตือคติ..ไม่วัดรอยเท้า
    อาจารย์ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่.....ท่านอาจเริ่ม..ออกตั้งแต่ปี ๒๕๐๐ ลงมา...ท่านทำหลายรุ่นครับ..
    เท่าที่..ผมเห็น...แล้วรุ่นแรกๆ..ของท่านก็คล้ายอาจารย์มาก..แม้แต่รูปทรง...เพียงแต่ลายเส้น..
    จะใหญ่กว่า...อย่างหัวเงิน..เรือนทองแดง...เส้นล้อมตัวนะ..ท่านจะลงยา..สีน้ำเงินไว้..คงกลัว
    จะสับสน..กับอาจารย์...แล้วใต้ท้องแหวน...ก็จะมีตัวตอก..เป็นตัว..นะ..ล้อมด้วยกรอบ สี่เหลี่ยม
    ไขว้กัน...(ดู..ในยันต์ครู...ตัว..นะ..ที่อยู่ด้านล่างนั่นแหละครับ)....รุ่นนี้..มีคนโมเมมา..ออกเป็น
    ของหลวงพ่อศุข..เยอะมาก....(แต่ยังไง..หัว..กับเรือน..ก็ยังแยกกัน..ต่อด้วยการเชื่อม)
    ........................รุ่นหลังท่าน..รูปร่างเปลี่ยนไป....หัวแหวนจะแบน...ไม่โค้งมน..อันนี้..หัวเป็น
    ทองแดง..ก็มี...(..หลวงพ่อจันทร์ให้ผมมา)...เส้นจะหนา..กว่ารุ่นแรก..และ..ฝีมือ..หยาบกว่า...
    ...................ส่วนอีกท่าน.....คือ....หลวงพ่อแผ่ว...ของท่านมีหัวทองแดง..ตั้งแต่แรก...แต่ของท่าน
    ตัวตอกใต้ท้องแหวน..รุ่นแรกๆ...จะเป็น..นะปัดตลอด..คือ..ตัวนะ..ที่เขียนแล้วต่อเส้นไปล้อม
    รอบตัว..เป็นวงกลม ๒ รอบ........รุ่นแรกๆ..ก็คล้ายๆ..หลวงพ่อศุขเหมือนกัน..แต่เส้นหนากว่า
    ....ส่วนรุ่นหลังๆ...หัวกับเรือน...ไม่แยกกันแล้ว...เป็นชิ้นเดียวกัน..ฝีมือหยาบขึ้น....แล้ว..ตอก
    แค่..ตัว..นะ..เฉยๆ..ใต้ท้องแหวน......สำหรับรุ่นแรกๆ..ของหลวงพ่อแผ่ว..ก็มีคนมาโมเม..เป็น
    ของ..หลวงพ่อศุขเช่นกัน.....
    ..................ส่วนของหลวงพ่อท่านอื่น..นี่...ผมไม่ทราบครับ.....แต่ถ้าอาศัย..หลักการ..จากตอนที่แล้ว
    มา..ดูไม่น่ายากครับ..เว้นแต่อย่างเดียวคือ...พวกที่ทำปลอม..ขึ้นมาใหม่เลย..อันนี้ต้องระวัง..
    เพราะ..ราคาแหวน..ไปไกลมาก..ยิ่ง..หัวเงิน..เรือนเงิน..เป็นหมื่นแล้วมั้ง...ของปลอมคุณภาพ..ก็
    จะใกล้เคียงขึ้น.......
    ..........ผมคงไม่แนะนำ..เว็บที่..น่าเชื่อถือ..หรอกครับ..เดี๋ยวเค้าจะมา..ลบ..ของผมอีก....
    ..............ขอให้อาศัย..หลักการ..และ..ข้อสังเกตที่ผมบอก...เวลาเข้าไปsearch...น่าจะแยกแยะ
    ออกได้................
    ..............ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว..สำหรับ....เรื่องหลวงพ่อศุข..หลวงพ่อจันทร์...ผมมาเก็บตก..บาง
    อย่างให้แค่นี้..คงพอแล้วนะครับ...หวังว่า..ผู้อ่านคงจะได้อะไรไปบ้าง....สวัสดี..ลาก่อนครับ....
    ...........................................................................
     
  13. Caracciolo

    Caracciolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +398
    คุณอา modpong
    ติดตามอ่านกระทู้คุณอา ถึงแม้จะไม่ครบ แต่สิ่งต่างๆที่คุณอาบอกเล่า ได้ถ่ายทอดมาให้
    จากเรื่องราวที่คุณอาบอกกล่าว เล่าประสบการณ์ให้กับคนรุ่นหลังๆ (อาจจะหลังไม่มาก) นั้นคงจะหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วน่ะครับ

    แต่ว่าเก็บตกในทีวี ออกทุกวันนะครับคุณอา :'(
     
  14. joke k9

    joke k9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +182
    สวัสดีครับ พี่มด
    ก็ได้ความรู้ ทั้งเรื่องเก่า และเรื่องใหม่ สุดยอดครับ....

    ปล. เรื่องแหวนหัวนะ ที่ตลอดพระเครื่องก็เล่นหากันสับสน.... ชอบบอกเป็นของหลวงพ่อศุข ทั้งๆ ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ ... ขอบคุณความรู้ดีๆ จากพี่มด นะครับ....
     
  15. บุตรพุทธ

    บุตรพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +486
    ได้รูปหล่อของหลวงพ่อมา จึงเริ่มศึกษาประวัติท่านครับ
    ไม่ทราบรุ่นไหนครับ
    ดีไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2013
  16. punthai

    punthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +320
    ศึกษาได้ความรู้มาก ขอบคุณครับ
     
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ......
    ...จำไว้เลยว่า..อย่างที่ผมพูดไปเป็นสิบครั้งแล้วมั้๊ง......
    ...ว่า...สมัยท่านยังอยู่..ไม่มีการทำรูปหล่อครับ...
    ...พอดี..ผมก็ไม่ได้..สนใจ...พระ..หรือ..เหรียญที่เป็นรูปท่าน..
    ...หลังท่านเสียแล้ว...ก็เลยไม่ทราบ...แต่
    ...พุทธคุณ..คงดีครับ..เพราะ..ลูกศิษย์ท่านก็เยี่ยมยุทธ
    ...กันทั้งนั้น....
     
  18. mrchainarong

    mrchainarong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +2,006
    ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลดีดี คุณลุงมดพงศ์ ครับ ยังคอยตามอ่านอยู่เสมอครับ คิดถึงย้อนเมื่อซัก 2 ปีที่แล้วที่ผมได้ย้อยอ่านหลังจากได้ตามอ่านเรื่องหลวงพ่อศุข จากในกระทู้คุณลุงนี้แหล่ะ จนผมต้องให้คนสนิทผมขับรถจากค่ายนเศวร ไปย้อยรอยไหว้พระในวันปีใหม่ที่วัดโตนดหลวง วัดมฤคฯ มาจนถึงวัดห้วยทรายใต้ สวดมนต์ข้ามปีกับหลวงพ่อห่วย ก็มีแต่สิ่งดีดี เข้ามาครับ ที่วัดยังมีหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อศุขด้วยนะครับ ใครผ่านไปเที่ยวหัวหินไปแวะ กราบไหว้ได้ครับ...
     
  19. punthai

    punthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +320
    ผมสะสมหลวงพ่ิอยิด ซึ่งเป็นศิษย์ท่านองค์หนึ่ง ....
     
  20. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,322
    ***คุณพ่อกระผม เคยบอกกระผมว่า เคยมีมือปืนจะยิงคุณพ่อ ยกปืนขึ้นประทับ แต่กลับใจอ่อนยิงคุณพ่อของกระผมไม่ลงครับ ตอนนั้น ในตัวคุณพ่อของ
    กระผมมีผ้ายันต์หลวงพ่อสงวน จารมือ เหรียญหลวงพ่อ ทองสุขปี98 และเหรียญแม่ทัพของหลวงพ่อแดงครับ***
     

แชร์หน้านี้

Loading...