บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

[ame="http://m.youtube.com/watch?v=o77YGzEtYjM"]???????2556 ??????????2013 ????????????????????? ???????????????? - YouTube[/ame] หากปีน้ี่ไม่เกิดเหตรุนแรงขึ้นในไทย ก็อย่าเลิกเตรียมพร้อมนะครับ

 

ผมอ่านว่า "ไม่มีที่ยืนในบอร์ด"

ก้อแสดงว่ามี กลุ่มที่คอยเก็บ คนที่หาผลประโยชน์จิงๆ หรือ คิดไปเองว่าเค้าหาผลประโยชน์ ผมสงสัยว่า คนไม่ดี หรือ คนดี ที่ มีความละอายมากกว่ากัน ละอายต่อบาป พิมพ์อย่างนี้เดวหาว่าผม ว่าคนที่หายไปไม่โพสต์ว่าไม่ดี ไม่ใช่เจตนาผม บอกว่าคนดีมักถอยห่างออกจากคนพาล ด้วยความเคารพ

 

สวัสดีครับ.. ทุกท่าน

ช่วงนี้วุ่นๆอยู่หลายเรื่องเลยครับ
เมื่อคืนวันศุกร์ขับรถขึ้นไปร่วมงานบุญที่ตาก ถึงตากก็ตีสามพอดี
เลยจอดรถนอนมันหน้าตลาดสดริมแม่น้ำปิงซะเลย..
ไฟสว่าง มีคนในตลาดเตรียมขายของกัน..
ได้ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาทุบหัวตอนนอนหลับอยู่.....555 !!!

พอเช้าวันเสาร์.. ก็มารวมพลตั้งขบวนรถกันที่ศาลสมเด็จพระเจ้าตาก
เตรียมขึ้นไปร่วมงานบุญและบริจาคปัจจัยและสิ่งของให้กับทั้งวัดและโรงเรียนบนดอยภูกา แม่ตื่น ตาก
งานนี้จัดโดยสมาพันธ์อ๊อฟโร็ดแห่งประเทศไทยครับ...

ก็มีรถ 4WD จากชมรมอ๊อฟโร็ดต่างๆมาร่วมลงทะเบียนกัน 100 กว่าคันจาก 23 ชมรมครับ..
กว่าจะตีธงปล่อยขบวนรถได้ก็เกือบจะสิบโมงเช้า.. มุ่งหน้าไปอำเภอบ้านตาก
จากด่านป่าไม้ ที่อยู่ริมถนนกึ่งกลางสายบ้านตาก-แม่ระมาด
ระยะทางจากด่านป่าไม้ถึงดอยภูกา 23 km... ใช้เวลาขาขึ้น 2 ชั่วโมงพอดี
ทางค่อนข้างดีครับ มีถนนปูนสลับถนนดิน แต่มุมชันช่วงปีนเขามันชันใช้ได้ใจดีจริงๆครับ.. 555

พอบ่ายสองโมง.. กลุ่มแรกก็มาถึงบนยอดดอบภูกากันครับ..
สายลมบนยอดดอยที่พัดมาโดนตัว เย็นสดชื่นดีเลยครับ..

............................................................................

พอวันอาทิตย์ขากลับ..ผมขับรถออกจากแม่สอดไปปทุมธานี
พอดีพรรคพวกกลุ่มอ๊อฟโร็ดอีกชมรมที่ไปงานกฐินที่ห้วยขาแข้ง
นัดทานข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารแถวๆเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท...

ทานข้าวกันเสร็จก็ทุ่มกว่านิดๆ
พรรคพวกบางส่วนที่ออกเดินทางจากวัดเข้ากรุงเทพไปก่อน
ไลน์มาบอกว่ารถเข้ากรุงเทพเยอะมาก
ติดตามแยกไฟแดงต่างๆ หางยาวมากจริงๆ
ถ้าหาทางกลับทางอื่นได้... ก็ไปทางอื่นเถอะ !!!

ผมก็เลยวางแผนใช้ถนนสายรองวิ่งกลับกรุงเทพกันครับ..
เลยคิดว่าเอามาแชร์ในกระทู้นี้สักหน่อยดีกว่าครับ..

เผื่อท่านที่ต้องใช้ถนนสายเอเซีย ( ถนนหมายเลข 32 )
แล้วเจอรถมาก.. รถติด.. อยากจะหาทางเลี่ยง
ก็ลองรับเส้นทางนี้เอาไว้พิจารณาดูนะครับ..???

.............................................................

เอาขาล่องเข้ากรุงเทพก่อนนะครับ...

>> เริ่มที่ตัวเมืองชัยนาท ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้ถนนหมายเลข 311 วิ่งไปที่เขื่อนเจ้าพระยา
>> ที่เขื่อนเจ้าพระยา.. ขับข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ ตามถนน 311
>> ข้ามแม่น้ำมาแล้ว 1 km เจอแยก T ตัน.. ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนน 311
>> เลี้ยวซ้ายไปแล้ว จะเจอป้ายบอกอีก 50 km ถึงตัวเมืองสิงห์บุรี ให้วิ่งตรงอย่างเดียวเลยครับ 50 km !!!
>> วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนมาถึงตัวเมืองสิงห์บุรี.. ที่สี่แยกไฟแดงบริเวณหน้า อบจ. สิงห์บุรี ก็ให้ขับรถตรงไปตามทางครับ
เลยสี่แยกไฟแดงนี้ไปแล้วถนนจะกลายเป็นถนนสาย 309 ครับ.. ขับตรงต่อมุ่งหน้าอ่างทอง 39 km
>> ให้ขับตรงไปตามป้ายอ่างทองเรื่อยๆ จนมาถึงตัวเมืองอ่างทอง โดยราวครึ่งระยะทางจะเจอกับสามแยกใหญ่ ป้ายจะบอกให้เลี้ยวซ้ายไปอ่างทอง ก็ขับไปตามป้ายได้เลยครับ
>> จนมาถึงตัวเมืองอ่างทอง คราวนี้ถนน 309 มันจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาวิ่งทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำครับ
>> ที่ตัวเมืองอ่างทอง.. ขับตามทางชิดซ้ายผ่านตลอดเพื่อขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ เมื่อถึงแยกไฟแดงใหญ่ในตัวเมือง
>> ลงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตัวเมืองอ่างทองได้ 200 เมตร จะมีสี่แยกไฟแดง
>> ติดที่สี่แยกไฟแดงให้ชิดเลนขวา ถนน 309 มันจะเลี้ยวไปทางแยกขวามือนะคับ...
>> เมื่อเลี้ยวขวาไปแล้ว ซ้ายมือจะมีป้ายเขียนว่าอีก 13 km อำเภอป่าโมก... ขับตรงไปตามทางตามถนน 309
>> เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงป่าโมก ก็ขับตรงต่อตามถนน 309 ต่อไปเรื่อยๆ
>> ขับไปอีก 13 km ต่อมา ก็จะถึงสี่แยกไฟแดงแยกทุ่งมะขามหย่อง ซึ่งอยู่หลังตัวเมืองอยุธยาครับ
>> เมื่อถึงแยกมะขามหย่องแล้ว ให้เลี้ยวขวาเข้าถนน 347 มุ่งหน้าปทุมธานี 45 km ครับ
(ถนน 309 มันจะวิ่งตรงเข้าตัวเมืองอยุธยานะครับ)

สภาพถนน 311 + 309 + 347
ถนนลาดยางอย่างดี ไม่มีหลุมมีบ่อ..
ไหล่ทางกว้าง.. ขับสบายมากๆเลยครับ.. !!!

ส่วนถ้าท่านจะอาศัยขับจากกรุงเทพหลบสายเอเซียขึ้นเหนือ
ก็ไล่ย้อนกลับจากที่ผมลงเอาไว้เลยนะครับ..

โดยท่านมาสามารถขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา มาลงที่วงแหวนตะวันตก
ซึ่งปลายทางด่วนจะห่างจากถนน 347 เพียง 2 km เท่านั้นเองครับ..

และเมื่อท่านถึงตัวเมืองชัยนาทแล้ว..
ก็สามารถขับถนนหมายเลข 1 พหลโยธิน ซึ่งเป้นถนนกว้าง 6 เลน
จากตัวชัยนาทขึ้นไปถึงแยกไฟแดงจุดบรรจบของสายเอเซียที่อุทัยธานีได้เลยครับ..

เท่านี้.. ท่านก็สามารถขับรถจากกรุงเทพขึ้นนครสวรรค์
โดยไม่ใช้ถนนสายเอเซีย ( ถนนหมายเลข 32 ) เลยครับ..

Note 1 : ถนนสายเอเซีย ( ถนนหมายเลข 32 ) มีระยะทาง 150 km
Note 2 : ถ้าท่านยังไม่มั่นใจ แต่อยากลองวิ่งดู แนะนำให้วิ่งในเวลากลางวันจะมั่นใจมากกว่าครับ !!!
Note 3 : ช่วงที่ผ่านอำเภออินทร์บุรี สิงห์บุรี.. จะมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชื่อกับถนนสายเอเซียได้ครับ..!!!

 

เอาข่าวสารมาแปะให้ครับ เหมือนๆเคยอ่านจากคุณหมอพรานบอกไว้ ว่าจะมีอีก 2ลูกที่ไทยต้องระวังครับ

ฟ้าอาเพศ .. มาอีก 2 ลูกไต้ฝุ่นมหึมา มีนัด 8 พฤศจิกาฯ ในอ่าวไทย
จากภาพ - พายุลูกใหม่ (หมายเลข 30) เพิ่งออกเดินทางจากบริเวณทะเลแปซิฟิกทางตะวันออกหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในค่ำวันอาทิตย์ 3 พ.ย. และกำลังจะเป็น "ไต้ฝุ่นไห่แย่น" (Haiyan) ตามชื่อในภาษาจีนในไม่กี่ชั่วโมงถัดไป นี่คือแผนภูมิพยากรณ์ชิ้นแรกโดยศูนย์ร่วมเตือนภัยไต้ฝุ่นหรือ JTWC ของกองทัพเรือสหรัฐที่ออกในช่วง กลางคืน แสดงให้เห็นขนาดอันมหึมาของพายุที่ปกคลุมอ่าวไทยจนถึงทะเลอันดามันและที่ราบภาคกลางของไทยจนมิด ในอีก 5 วันข้างหน้าขณะเป็นดีเปรสชั่นกำลังแรง.. วันเวลาที่เหลืออยู่ต้องวัดใจกัน

- ดีเปรสชั่นลูกมหึมา 2 ลูก เคลื่อนตามหลังกันกระชั้นชิดในทะเลแปซิฟิกทางตะวันออกหมู่เกาะฟิลิปปินส์ค่ำวันอาทิตย์ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ในภาพดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา MTSAT โดยองค์การการอวกาศและสมุทรศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ ทั้งสองลูกกำลังปั่นความเร็วและจะกลายเป็นไต้ฝุ่นไห่แย่น (Haiyan) กับไต้ฝุ่นโพดุล (Podul) ในที่สุด ลูกแรกจะเดินทางไกลไปจนถึงอ่าวไทยขณะเป็นพายุโซนร้อนรุนแรง ทั้งนี้เป็นแผนภูมิพยากรณ์ของสำนักสหรัฐกับสำนักอังกฤษมาชิ้นแรกในคืนวันอาทิตย์ http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000137137

 

การเมืองก่อนภัยพิบัติ

มีปัญหาการเมืองก่อน หรือ มีภัยพิบัติก่อน รัฐบาลใส่เกียรถอยหลัง แต่ จะทันหรือไม่ คือ ปัญหา

 

ขออนุญาตนำเอาบทความของคุณดังตฤณมาโพสหน่อยนะครับ.. ผมว่าคุณดังตฤณอธิบายอะไรหลายๆอย่างได้อย่างดีเลยละครับ.... ขอบคุณดังตฤณมากๆเลยครับ..!!!

ความรัก กับ บุพเพสันนิวาสและเนื้อคู่

คู่หญิงชายนั้นมีหลายแบบ ไม่ได้มีแต่คู่เวรกับคู่แท้ คำว่า ‘คู่แท้’ จะทำให้คุณนึกถึงเพศตรงข้ามที่ติดตามกันไปทุกภพทุกชาติ เป็นตัวเป็นตนจับจองกันอย่างถาวรไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งธรรมชาติไม่ได้มีอะไรอย่างนั้น ตามกฎเหล็กข้อแรกสุดคือ‘ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป’

หากหันมาใส่ใจกับคำว่า ‘คู่บุญ’ และ ‘คู่บาป’ แทน อย่างนี้จะเห็นอะไรกระจ่างขึ้น เพราะคนเราทำบุญทำบาปสลับกันได้ ไม่มีใครทำบุญทำบาปร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตลอดไป และนั่นก็แปลว่า คู่บุญอาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบุญกันมามากกว่าร่วมทำบาป ส่วนคู่บาปก็อาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบาปกันมากกว่าร่วมทำบุญ

มองอย่างนี้อคติจะลดลงอย่างฮวบฮาบทันที ประเภทขัดเคืองใจนิดหน่อยก็เหมาว่านี่คู่เวรของเรา หรือประเภทต้องตาต้องใจเมื่อเริ่มพบก็เหมาว่านี่แหละคู่แท้ของฉัน เราจะเห็นตามจริงว่า ถ้าต้องตาเมื่อเห็น ถ้าเย็นใจเมื่อใกล้ อันนั้นก็เป็นคะแนนทางความรู้สึกด้านดีชั้นแรก ต่อเมื่อมีความผูกพันผ่านเหตุการณ์ดีร้าย หรือที่เรียกง่ายๆว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ตรงนั้นค่อยเป็นคะแนนสะสมในชั้นต่อๆมา กระทั่งปักใจเชื่อได้ว่าเป็นคู่บุญกันจริงๆ

 

ความรู้สึกด้านดีชั้นแรกในระยะแรกพบสบตานั้น เป็นผลบุญจากการอยู่ร่วมกันมาก่อนในอดีตชาติ ส่วนการร่วมทุกข์ร่วมสุขผ่านเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆมาด้วยกัน เป็นบุญใหม่ที่เกิดจากการเกื้อกูลในปัจจุบันชาติ พระพุทธเจ้าตรัสว่าความรักจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากเหตุปัจจัยทั้งอดีตและปัจจุบันประกอบกัน

ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่ บุญที่สร้าง ‘คู่บุญ’ ขึ้นมาจะเหมือนๆกัน พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ได้แก่

 

๑) มี ศรัทธา ไปในแนวทางเดียวกัน เช่นถือศาสดาองค์เดียวกัน เชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องกรรมวิบากด้วยกัน เชื่อว่าโลกกลมหรือโลกแบนเหมือนๆกัน เชื่อแนวทางในการดำรงชีวิตรูปแบบเดียวกัน เป็นต้น เมื่อศรัทธาไม่ตรงกันก็คุยเรื่องไม่ตรงกัน เมื่อคุยเรื่องไม่ตรงกันก็คุยกันได้ไม่นาน เมื่อคุยกันได้ไม่นานก็เบื่อกันเร็ว อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นกับทุกรูปนาม ไม่จำเพาะเฉพาะคู่รักเท่านั้น ขนาดเพื่อนกันแต่เชื่อไม่เหมือนกันยังยากที่จะเป็นเพื่อนสนิทเลยครับ ศรัทธาที่ร่วมกันปลูกฝังให้มั่นคงย่อมทำหน้าที่สร้างสายตาที่มองไปในทิศเดียวกัน ไม่ก่อความรู้สึกเป็นอื่นจากกัน

 

๒) มี ศีล อันเป็นเครื่องหอมทางใจเสมอกัน คือมีความคิดงดเว้นข้อประพฤติผิดแบบเดียวกัน เป็นเหตุให้ไม่รังเกียจหรือหมั่นไส้กัน พรานหนุ่มกับพรานสาวทนกลิ่นอายฆ่าฟันของกันและกันได้ แต่ให้หมอศัลย์ที่มีรังสีช่วยชีวิตมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับมือปืนร้อยศพที่ทะมึนด้วยรังสีเอาชีวิต อย่างไรก็คงทนกลิ่นอายที่เป็นตรงข้ามของกันและกันไม่ไหว และนั่นก็เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งเจ้าชู้ ร้อยลิ้นกะลาวน สำส่อนไปเรื่อยโดยไม่สนใจความสกปรกหมกมุ่น ย่อมน่ารังเกียจยิ่งสำหรับคนใจซื่อถือความสะอาดผัวเดียวเมียเดียว ศีลที่ร่วมรักษาให้บริสุทธิ์ดีแล้วย่อมทำหน้าที่สร้างความอบอุ่นเชื่อมั่นในกันและกัน สนิทใจ ไว้วางใจกันเป็นมั่นเหมาะ

 

๓) มี จาคะ อันเป็นวิธีคิดแบ่งปันเสมอกัน อย่างน้อยต้องเป็นผู้ให้ซึ่งกันและกันในทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่มีแต่ฝ่ายหนึ่งคิดอยู่ข้างเดียว อีกฝ่ายเอาเปรียบตลอด เช่นอีกฝ่ายสละเงินให้ใช้ อีกฝ่ายสละแรงปรนนิบัติ เป็นต้น การเอารัดเอาเปรียบเกิดจากจาคะที่ไม่เสมอกันเป็นมูล ยิ่งหากต่างฝ่ายต่างคิดเจือจานคนอื่น เห็นข้าวของอะไรไม่ใช้แล้วก็คิดตรงกันว่าน่าบริจาคแก่คนที่เขาไม่มี อย่างนี้ยิ่งไปกันได้ มีโอกาสร่วมบุญกันบ่อยๆ ยิ่งให้คนอื่นมากก็ยิ่งได้ความสุขในการสละมาเสริมใยแก้วร้อยสัมพันธ์ให้กันแน่นแฟ้นขึ้น จาคะที่ร่วมกันยินดีโดยพร้อมเพรียงย่อมก่อความรู้สึกซึ้งใจอย่างใหญ่ เหมือนอยู่ด้วยกันจะเป็นที่พึ่งให้กัน ปลอดภัยร่วมกัน ประคับประคองกัน ไม่มีวันล้มพร้อมกัน

 

๔) มี ปัญญา เสมอกัน กล่าวทางโลกคือคุยกันรู้เรื่อง กล่าวทางธรรมคือมีระดับการเห็นตามจริงใกล้เคียงกัน หรืออย่างน้อยเป็นไปไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่พูดคนละภาษา ฝ่ายหนึ่งทำก่อนคิด อีกฝ่ายคิดก่อนทำ หรือฝ่ายหนึ่งเอาอารมณ์พูด อีกฝ่ายพูดด้วยสติปัญญา หรือฝ่ายหนึ่งเห็นชัดว่าอะไรๆไม่เที่ยง ความยึดมั่นถือมั่นเหลือน้อย แต่อีกฝ่ายหนึ่งแค่เรื่องน้อยก็ยึดมั่นถือมั่นเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ก็คงนึกระอาหรือหมั่นไส้ในกันเป็นอย่างยิ่ง ปัญญาที่ร่วมเสริมส่งกันและกันย่อมทำหน้าที่สร้างความร่าเริงในการสนทนา และความไม่พรั่นที่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน

 

หากอดีตกาลคุณเคยครองเรือนกับผู้มีบุญเสมอกันทั้ง ๔ ข้อ (อาจหย่อนนิดหย่อนหน่อยได้) ขอเพียงได้มาพบกันในชาตินี้ ก็จะเกิดแรงดึงดูดที่ก่อความรู้สึกแสนดีอย่างประหลาด เหมือนเข้ากันได้ทุกอย่าง เหมือนเห็นกันได้ทุกแง่มุมด้วยความเข้าใจกระจ่าง

และขอเพียงเกื้อกูลกันนิดๆหน่อยๆ เช่นฝ่ายหนึ่งมาถามทาง อีกฝ่ายบอกทางให้ เท่านี้ก็จะเกิดแรงปฏิพัทธ์ขึ้นอย่างรุนแรง ชนิดที่ฝ่ายชาย (ซึ่งมีธรรมชาติเป็นรุก) อาจยื่นข้อเสนอเดินพาไปส่ง และฝ่ายหญิงก็ตกลงรับข้อเสนออย่างยินดีเต็มใจทันที แล้วการตกลงร่วมทางกันไปจนกว่าจะตายก็ติดตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีเหตุการณ์น่าปวดหัว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคู่บุญประเภทนี้


แน่นอนว่าสายตาทั่วไปมองแล้วย่อมนึกอิจฉา โดยไม่มีใครเข้าใจต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดจึงมีคู่ที่น่าอิจฉาได้ปานนั้น รู้แต่ว่ามีจริง แต่ไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ต้องต่อว่าใครที่แกล้งลำเอียง ความจริงคือคู่บุญได้รับความยุติธรรมจากธรรมชาติกรรมวิบากต่างหาก แต่อาจเป็นความยุติธรรมที่ลึกลับ เพราะนำอดีตชาติมาแสดงให้เห็นเป็นภาพยนตร์ตามโรงไม่ได้...

อ้างอิง : http://www.dungtrin.com/watha_love/index2.html

 

หวัดดีครับคุณบอย ผมชัยภัทร แอบมาดูครับ ไม่ได้เข้ามานานแรมปีแล้ว

 

สวัสดีครับ.. คุณชัยภัทร

ผมกำลังคิดว่าจะขับรถไปทำงานเส้นไหนดีนะคับ.???
ปทุม-สุวรรณภูมิ... โดยไม่โดนกองกำลังที่ทราบฝ่ายปิดถนน
( เพราะว่าคราวที่แล้ว.. พวกเขาเหล่านั้นก็ปิดถนนกัน )

เพราะว่าบริษัทผมคงไม่ใจดีหยุดงานให้พนักงานอยู่บ้านหรอกครับ.???

เรื่องระบบไฟฟ้าสำรอง.. อาหารแห้ง.. เครื่องดับเพลิง..
ก็เตรียมๆเอาไว้ซะหน่อย.. เพราะว่าปกติผมก็เอาไป Camping ในป่าอยู่แล้ว

มีรุ่นพี่ที่ชมรมฯ.. เพิ่งปลดระวาง BMW 740 ออกไป
และเพิ่งจะรับ New E-class ฝูงนึง 15 คัน
พี่เค้ามีธุรกิจ Limo รับส่งแขกโรงแรมใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อราว 6 เดือนที่แล้ว..ไอ้ผมก็เล่าให้พี่เค้าฟังว่า...
..."หลวงปู่หลวงตาท่านเตือนมานะ..!!!
ว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนั้นแบบนี้ขึ้น..!!!.."

..." พี่จะไม่วางแผนหาทางหนีทีไล่ซะหน่อยเหรอ..???
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง.. นักท่องเที่ยวที่ไหนจะมากรุงเทพละ..???
แล้วธุรกิจพี่... จะเอาอย่างไรดี..???

.....พี่เค้าบอกผมว่า..
...." ตอนเผาเมือง.. Limo ผมก็จะตายอยู่แล้ว.. เหนื่อยมาก!!!
อย่ามาเลย... ไม่งั้น.!!!....ผมจะไปผูกคอตาย.??? "

จะคิดอะไรก็คิด..
จะทำอะไรก็ทำ...เตรียมตัวรับเหตุการณ์ฯกันนะครับ..
และถ้าจะเป็นตามนั้น...

ท่านที่มีภูมิธรรมสูงๆ..
ท่านว่ายังพอจะมีเวลาได้เตรียมกัน....
ก็น่าจะอีกอย่างน้อยๆก็เดือนนึงนะครับ..!!!!!

ขอให้คุณพระคุ้มครองทุกๆท่านนะครับ...

 

สวัสดีครับ.. ทุกๆท่าน

ผมเองได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับคุณประชา...
คุณประชาเลยขออนุญาตฝากเรียนชี้เแจงท่านที่ติดตามอ่านกระทู้ของคุณประชาทุกๆท่านมาครับ..

เรื่องของเรื่องก็คือว่า.. ปกติคุณประชาจะทำสมาธิอยู่เป็นประจำ
สิ่งต่างๆที่คุณประชาได้เห็นหรือรับทราบจากการนั่งสมาธิ
คุณประชาจะจดบันทึกเอาไว้ด้วยทุกๆครั้ง...!!!

เมื่อเวลาผ่านไป.. คุณประชาก็เอาบันทึกที่ตนเองจดเอาไว้นั้นมานั่งทบทวนดู
ก็พบว่ามีหลายๆเหตุการณ์ก็สอดคล้องเป็นแบบที่รับรู้รับทราบจากในนิมิตร
จะแตกต่างก็เรื่องของ"เวลา" ที่จะเกิด..
บางเหตุการณ์ก็ 6 เดือน... บางเหตุการณ์ก็เป็นปี...เป็นต้น

หลังสุดมานี้.. คุณประชาก็รับรู้รับทราบเหตุการณ์บางอย่างจากในนิมิตรเช่นเดิม
...และ.... เรือที่คุณประชาตั้งใจจะสร้างให้เสร็จ.. มันก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อยเสียที !!!

คุณประชาเลยขอเอาเวลาทั้งหมด ไปทุ่มสร้างสิ่งที่ค้างคาให้มันเสร็จอย่างที่วางแผนเอาไว้นะครับ..!!!

มิได้เกี่ยวกับการที่มีคนที่ไม่เห็นด้วย แล้วเข้ามาป่่วนกระทู้หรอกครับ..!!!

หลายท่านที่ดูหายๆไป.. เท่าที่ผมทราบ
ก็กำลังเตรียมตัว.. เตรียมทั้งทางกายและทางใจกันครับ..

จึงเรียนทุกๆท่านมาเพื่อทราบ..

 

มีท่านใดสนใจทำธุรกิจบ้านพักรีสอดท์ที่สุโขทัยบ้างใหมครับ พี่ทีทำงานต้องการขายกิจการน่ะครับ มีทั้งหมด 10 หลังรวมทั้งจุดรับลูกค้า1 หลังและบ้านสำหรับพักเอง1 หลังรวม 12หลัง ตกแต่งพร้อมอุปกรณ์ต่างๆเปิดทำต่อได้เลย ด้านหลังติดคลองแม่น้ำใหลผ่านด้วย
รายละเอียดติดต่อโดยตรงกับพี่เขาได้เลยครับชื่อ รัชดา(น้อง) โทร0803408884
บอกว่าติดต่อมาโดย นายอุทัย(ใหม่) ครับผม เป็นข่าวสารประชาสัมพันธ์นะครับ มิมีเจตนาอื่น ขออนุญาติผู้ดูแลเว็ปด้วยครับผม

 

รออ่านอยู่นะคะ คุณหมอพรานและผองเพื่อน

 

สวัสดีครับ... ทุกๆท่าน

เดือนนึงพอดีครับ.. ไม่ได้เข้ามาโพสอะไรเลย
เกรงใจครับ.. ไม่ค่อยจะมีท่านใดมาร่วมโพสกันสักเท่าไร ???
มีผมมาโพสจะเป็นเสมือน Facebook ส่วนตัวไปอยู่แล้วครับ.. !!!

ผมเองก็ยังวุ่นๆเรื่องปลูกบ้านอยู่เช่นเดิม..
ก็พอจะเข้าไปอาศัยภายในบ้านได้แล้วละครับ.. แต่ก็ยังไม่เสร็จ 100%

แถมช่วงนี้ทางกลุ่มเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ พูดคุยกันผ่านทาง Line
เลยใช้ช่องทางนั้น ซะเป็นส่วนใหญ่นะครับ.. !!!

มีหลายท่านสนใจอยากจะขอคุยผ่าน Line ด้วย
ต้องขอเรียนให้ทราบจริงๆว่า.. ผมเองมิใช่เจ้าของกลุ่มใน Line
แค่ได้ถูกชวนให้เข้าไปเข้ากลุ่มด้วยเท่านั้นเองครับ..

ครั้งจะชวนท่านอื่นเข้ากลุ่มด้วยนั้น ทางผมเองก็เลยไม่สามารถจริงๆครับ

แต่เราก็ยังพูดคุยกันผ่านทางกระทู้พระคุณลุงแห่งนี้ได้นะครับ..
ผมเองก็ไม่ได้ไปไหน.. ยังคงเข้ามาอ่าน&แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในการเตรียมตัวเช่นเดิมนะครับ..!!!

ขอบคุณทุกๆท่านที่ได้เข้ามาพูดคุยกันมากๆนะครับ..

 

ทุกๆท่านที่รวมกันอยู่ในกลุ่ม Line ก็ยังคงเตรียมตัวกันเช่นเดิมครับ..
ตามกำลัง...ตามเวลา.. ที่แต่ละท่านมี

ในช่วงปีนี้ที่ผ่านมา..
ผมได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมฐานหรือที่มั่นรับมือกับภัยพิบัติใหญ่ของ 2 คุณหมอใหญ่...

ฐานที่ลี้ของคุณหมอพราน..
ก็จัดสร้างตัวอาคารที่พักหลบภัยซะแข็งแรงจริงๆ
หลายๆไอเดียในการก่อสร้างนั้น..
ผมเองยอมรับว่า... คาดไม่ถึงจริงๆ

อุปกรณ์หลายๆอย่าง.. ก็เตรียมเอาไว้พร้อม !!!

ฐานริมโขงของคุณหมอนก..
ก็จัดเต็ม... เต็มไปเสียทุกด้าน
หลายไอเดียในการดำเนินชีวิต.. ทั้งในขณะเกิดและหลังเกิดภัยพิบัติ
ให้มุมมองเปิดโลกทัศน์สุดๆดีจริงครับ..

ถึงชื่อบอกอยู่ริมโขง.. แต่ห่างจากโขง 2 km++ นะครับ
ครูบาอาจารย์ทางสายนี้.. ท่านให้อยู่ห่างจากริมโขงไม่น้อยกว่า 1 km น้อยกว่านั้น.. ท่านว่ายังเป็นเขตอันตรายจากน้ำโขงหลากครับ..!!!

ช่วงปีใหม่นี้..
ผมกับเพื่อนๆชวนกับไปเที่ยวโซนเขาค้อกัน
ก็กะว่าอยากจะขอไปเยี่ยมชมฐานโซนผาซ่อนแก้วสักเล็กน้อยครับ..
ทางโซนนั้นก็มีหลายๆท่านปลูกสร้างฐานกันอยู่ที่นั่น..!!!
ก็น่าจะได้ไอเดียหรือแนวความคิดเด็ดๆติดหัวกลับมาบ้างครับ..

ก่อนกลับถึงกรุงเทพ..
ผมก็ว่าจะแวะไปเยี่ยมฐานของคุณ Pracha ที่ลพบุรีซะหน่อยด้วยเลยครับ..

ผมว่า.. คนภายนอกที่เขาไม่ทราบเรื่อง
เห็นผู้คนเหล่านี้เตรียมตัวอะไรกันอย่างนี้..???
คงจะมองว่า.. ไอ้พวกนี้มันบ้า.. บ้ากันจริงๆ ???