ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๔ เรื่องของมิณฑิกะมานพ

    ขออธิบายเพิ่มเติมเรื่องระยะเวลาในการสร้างวัดปรมัตถวนาราม กับการสร้างวัดพุทธารามนั้น มีระยะเวลาห่างกันเป็นสิบปี (เทียบกับอายุมนุษย์ปัจจุบัน เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ เนื่องจากอายุขัยของมนุษย์ในยุคนั้น นับเป็นหมื่นปี สมเด็จพระพุทธกัสสปนั้นมีพระชนมายุ ๒๐๐๐๐ ปี พระศาสนาดำรงอยู่ ๒๐๐๐๐ ปี)

    ***********************************************

    หลังจากพระเจ้าปเสนทิศาทสวรรคตนั้น ในยุคนั้น หากกษัตริย์หรือเชื้อพระวงศ์สวรรคต จะต้องงดงาน รื่นเริงงานบุญต่าง ๆ เพื่อไว้ทุกข์ ๓ ปี จากนั้นนานนับปี จึงได้มีพิธีอภิเษกสมรสแก่พระเจ้าปศันทราช และพระนางจันทมาลย์ (Miss Brown) หลังงานอภิเษกสมรสไม่นานพระนางจันทมาลีเทวีสวรรคต

    ต่อมาเมืองใกล้เคียง เมื่อพระธิดาของตนไม่ได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าปศันทราชแล้ว คิดว่า พระราชาเมืองนี้ยังเยาว์วัย คิดจะตีเป็นเมืองขึ้น พระเจ้าปศันทราชใช้เวลาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเวลา ๓ ปี บ้านเมืองจึงสงบลง

    เมื่อการเมืองการปกครองเรียบร้อยแล้ว จากนั้นพระเจ้าปศันทราชคิดว่า ควรจะสร้างวัดตามเจตนารมย์ของพระเจ้าปเสนทิศาท จึงได้ประชุมเหล่าเศรษฐีเรื่องเกี่ยวกับการสร้างวัด
    _______________________________

    ขอย้อนกล่าวถึงสิณกภิกษุ(คุณ mooom) (ต่อเนื่องจากประวัติจักรสุทธิวงศา ฯ) ซึ่งบวชได้ที่วัดปรมัตถวนารามแล้ว ได้บำเพ็ญเพียรในถ้ำ

    จากนั้นได้ขอออกธุดงค์ ได้พบกับพระอัสดงฤาษีสำเร็จอภิญญา ท่านอัสดงฤาษีได้พาไปยังนาคพิภพ พบกับพระเกษรีฤาษี และท่านสีหบดินทร์ฤาษีได้เรียนวิชายังไม่สำเร็จดี จากนั้นด้วยวิบากกรรมเก่า ได้ถูกงูกัดตาย เมื่อสิณกภิกษุมรณภาพแล้ว ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิต

    (งูนี้ เดิมทีเคยเกิดเป็นพญานาคตระกูลสีดำ และเคยเป็นคู่อริกับสิณกภิกษุในอดีต ปัจจุบันยังอยู่ในนรก เนื่องจากได้ทำร้าย พระผู้ทรงอภิญญาจนมรณภาพ)

    จากนั้นท้าวสักกเทวราชได้ให้มหัทธกเทวบุตร ไปแจ้งเรื่องการลงไปจุติ เพื่อสร้างบารมีต่อ สิณกภิกษุนั้นจึงได้เกิดมาในตระกูลบริจาคเศรษฐีนามว่า มิณฑิกะ จากนั้นมหัทธกเทวบุตรได้ขออนุญาตท้าวสักกเทวราช จุติมาเพื่อสร้างบารมีร่วมกันกับสิณกภิกษุ


    สิณกภิกษุได้จุติมาเป็นมนุษย์อีกครั้งในตระกูลของบริจาคเศรษฐี เดิมทีบริจาคเศรษฐีมีนามว่า อทิตดามานพ ได้อพยพมาจากเมืองสันตนคร ทางทิศใต้ของเมืองสาเกต มีทรัพย์ไม่มากนัก ได้ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าเร่

    ต่อมาได้พบพระฤาษีตนหนึ่ง เกิดความเลื่อมใสศรัทธา นำอาหารที่มีเพียงเล็กน้อยของตน ถวายแด่พระฤาษีนั้น ท่านจึงได้มอบคาถารวมทรัพย์แก่ท่านเศรษฐี และบอกว่า...

    “หากอนาคต ท่านค้าขายร่ำรวยให้ตั้งโรงทานในเมืองนั้น ๑ โรง เพื่อให้ทานแก่คนยากจน พร้อมกับสวดคาถารวมทรัพย์นี้ ท่านจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีในที่สุด”

    พระฤาษีกล่าวจบก็หายตัวไป อทิตดามานพนั้น โดยคิดว่า เราจะไม่รอให้ร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีหรอก เราจะค่อย ๆ ทำโรงทาน และบอกบุญแก่ผู้ที่เราพบเห็น จากนั้น จึงได้ไปบอกแก่นางมัทนาเภรี ผู้เป็นภรรยา


    นางมัทนาเภรีนั้น ได้นำเครื่องประดับเพียงเล็กน้อยที่ได้จากเมืองอื่น จัดแต่งใหม่ให้สวยงาม และนำมาวางขายในตลาด เครื่องประดับของนางนั้น สวยงามมากแปลกตา วันนั้นนางนารถลดาได้ออกมาเดินตลาด ขณะนั้นนางท้องได้ ๗ เดือน (หลังจากทำบุญกับพระพุทธเจ้าไปแล้ว )
    นางพบเห็นสร้อยมุกเครื่องประดับ และของใช้อื่น ๆ นางจึงได้อุดหนุน และให้ราคามากกว่าที่นางมัทนาเภรีตั้งราคาไว้ นางมัทนาเภรีจึงคิดว่า..


    “เศรษฐีนีผู้นี้ มีจิตเป็นกุศล เราจะบอกเรื่องการสร้างโรงทานแก่นาง”

    มัทนาเภรีกล่าวว่า..

    “ข้าฯ แต่นายหญิง สามีข้าฯได้พบกับพระฤาษีตนหนึ่ง กล่าวว่า การสร้างโรงทานแก่คนยากจนนั้น มีกุศลมากนัก สามีของข้า ฯเป็นเพียงพ่อค้าเร่ธรรมดา ปรารถนาจะทำโรงทาน เกรงว่ากำลังเพียงคนเดียวอาจจะไม่สำเร็จโดยง่าย นายหญิง ท่านเป็นผู้มีทรัพย์มาก เราอาจจะได้สร้างบุญด้วยกัน”

    นางนารถลดานั้น รู้สึกปิติใจ คิดว่า ..

    “ก่อนหน้านี้เราปรารถนาจะสร้างวัด แต่ติดต้องรอพระราชากำหนดเวลา หากเราทำโรงทานแก่คนยากจนไปก่อน ก็ดีไม่น้อย”
    นางจึงกล่าวกับนางมัทนาเภรีว่า ..

    “น้องหญิง เราปรารถนาจะสร้างบุญกับนาง แต่เราจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาสามีของเราก่อนนะ เย็นวันนี้ ขอนางจงพาสามีไปยังเรือนวิมุตติเศรษฐี เพื่อเล่ารายละเอียดแก่สามีของเรา”

    นางมัทนาเภรีนั้น ยินดียิ่งนัก เหตุที่นางและสามีจะบอกบุญแก่ผู้อื่นด้วยเหตุที่ทั้งสอง เคยได้ฟังธรรมจาก พระพุทธกัสสปพุทธเจ้าว่า..

    “หากสร้างบุญใด และบอกกล่าวบุญนั้นแก่ผู้อื่น ทั้งชาตินี้ และชาติหน้าจะได้พบกับกัลยาณมิตรที่ดี”


    เย็นวันนั้นทั้งสองจึงได้พบกับท่านวิมุตติเศรษฐี และเล่าเรื่องการสร้างโรงทานแก่คนยากจน และนักเดินทาง ท่านวิมุตติเศรษฐีเห็นชอบด้วย จึงได้มอบทรัพย์จำนวนมากแก่อทิตดาเศรษฐี จากนั้นจึงได้สร้างศาลาโรงทาน ใช้เวลา ๑ เดือนจึงสำเร็จ

    จากนั้นได้ตั้งโรงทานนี้ว่า “บริจาคทานศาลา” ชาวเมืองต่างก็เรียกอมิตดามานพว่า

    “บริจาคมานพ”
    ผลบุญจากการตั้งโรงทาน ส่งผลให้วิมุตติเศรษฐีได้มอบทรัพย์จำนวนหนึ่งแก่บริจาคมานพ และมอบเรือสินค้า เพื่อไปค้าขายให้แก่บริจาคมานพ เพื่อเป็นทุนค้าขาย ส่วนเรื่องโรงทานนั้น นางมัทนาเภรี และนางนารถลดาเป็นผู้ดูแล


    ต่อมาบริจาคเศรษฐีได้ค้าขายได้กำไร จนมีทรัพย์มากถึงขั้นเศรษฐี ต่อมานางมัทนาเภรีได้ตั้งครรภ์ และเป็นเวลาที่สิณกภิกษุในอดีตมาจุติทันที เกิดเหตุอัศจรรย์ อยู่ ๆ ก็มีทรัพย์ปรากฏขึ้นในคลังของบริจาคเศรษฐี ทำให้มีทรัพย์มากนับ ๔๖๐ โกฏิ เทียบเท่ากับตระกูลของวิมุตติเศรษฐี และนางอัจฉมาเศรษฐีนี

    ท่านบริจาคเศรษฐีนั้น ได้ตั้งชื่อบุตรชายว่า “มิณฑกมานพ” แปลว่า ผู้มีทรัพย์มาก (คุณmooom)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๕ สัณชัยมานพ

    IMAG2103.jpg



    ฝ่ายมหัทธกเทวบุตรนั้นได้จุติในเมืองสาเกตในเวลาใกล้เคียงกัน โดยจุติในครรภ์ของนางประภาวดี ภรรยาคนที่ ๒ ของท่านสิทธิกะเศรษฐี มีทรัพย์ประมาณ ๘๐ โกฏิ

    ท่านมีภรรยา ๒ คนนามว่า นางมินตรา และนางประภาวดี ทั้งสองต่างเป็นบุตรเศรษฐีทั้งคู่ นางมินตรานั้น มีแต่บุตรสาว ๓ คน แต่ไม่มีบุตรชาย บุตรสาวทั้ง ๓ นามว่า “มัทธนาวลี –มุตตรา-พนาวดี” นางพนาวดีนั้นได้เกิดในป่า บิดาจึงตั้งชื่อว่า พนาวดี

    เนื่องจากสิทธิกะเศรษฐีอยากมีบุตรชาย จึงขอนางมินตราแต่งภรรยาคนที่สอง ซึ่งทั้งสองต่างรักใคร่กันดีนางประภาวดี มีอายุห่างจากสิทธิกะเศรษฐี และนางมินตรา ถึง ๑๐ ปี

    เมื่อนางประภาวดีกำเนิดบุตรชายคนแรก ทำให้ท่านสิทธิกะเศรษฐี และทุกคนต่างดีใจมาก ตั้งชื่อว่า “สัณชัย” และได้มอบทรัพย์ให้เป็นการรับรับขวัญบุตรชายคนแรกของตระกูล

    พี่สาวทั้ง ๓ ของสัณชัยกุมารนั้นได้ดูแล โดยหาอาหารที่มีประโยชน์จากต่างเมือง และจัดเตรียมของใช้ต่าง ๆ ดูแลนางประภาวดี และเลี้ยงสัณชัยกุมารเป็นอย่างดี จนกระทั่งสัณชัย และมิณฑกะอายุได้ ๑๓-๑๔ ปี

    พระเจ้าปศันราชได้ได้ประกาศเรื่องการสร้างวัด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เมื่อสิทธิกะเศรษฐี ได้ยินข่าวการสร้างวัด จึงได้ให้สัณชัยก็นำทรัพย์ของตนมาเพื่อบริจาคเป็นจำนวนมาก แต่มิได้บอกบุญแก่ใคร เนื่องจากรู้สึกเกรงใจ และเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคย

    ___________________________________________

    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ
    ตอน ๖ ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี-สหัสสบดีมณีรัตนะปรากฏ

    กล่าวถึงพระเจ้าปศันทราช หลังจากพระนางจันทรมาลย์ทรงประสูติเจ้าหญิงปศันทริมาแล้ว พระองค์ทรงยุ่งกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง มิได้มีเวลาดูแล พระมเหสี และพระธิดามากนัก

    ต่อมาหลายปี เมื่อเสร็จกิจการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง จนเจ้าหญิงเจ้าหญิงปศันทริมา มีพระชนมายุได้ ๖ ชันษา ทรงดำริเรื่องการสร้างวัด จึงได้เรื่องนี้แจ้งแก่บรรดาเศรษฐี และชาวเมืองทั้งหลาย ปรากฏว่าแผนที่เคยวางไว้กับท่านวิมุตติเศรษฐีใช้ไม่ได้ผล

    หลังจากได้ออกประกาศเรื่องรวบรวมปัจจัยในการสร้างวัด มีปัญหาเกิดมากมาย เนื่องจากในเมืองนี้มีเศรษฐีหลายตระกูลล้วนแต่มีทรัพย์มาก บรรดาเศรษฐีเหล่านั้น ต่างก็อยากได้ชื่อของตนเป็นชื่อวัด เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตระกูลของตน

    พระเจ้าปศันทราชรู้สึกเป็นทุกข์อย่างยิ่ง มิเคยคิดว่า การสร้างวัดจะนั้นจะมีปัญหามากมายอย่างคาดไม่ถึง จึงคิดว่า หากเป็นเช่นนี้คงไม่ดีแน่ ทรงนึกถึงพระเจ้าปเสนทิศาท พระเชษฐา และคิดว่า

    “เมื่อพระเชษฐาสวรรคต จักรแก้วที่เป็นของพระเชษฐา กลับอันตรายหายไป เรื่องราวต่าง ๆ กลับเกิดขึ้นให้เราแก้ไขอย่างไม่รู้จบสิ้น ในอดีตเราน่าจะมีของวิเศษคู่บารมี เราควรอธิษฐานจิตเรียกของเหล่านั้นให้มาช่วยดีกว่า มิฉะนั้น บ้านเมืองมิมีความสงบสุขดังเช่น สมัยพระเชษฐายังอยู่เป็นแน่”

    จากนั้นจึงได้ให้วิสิทธิพราหมณ์ จัดเครื่องบวงสรวงเทวดา เพื่ออธิษฐานเรียกของคู่บารมีแต่อดีตขึ้นมา ในวันนั้น ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ปีจอ หลังพิธีบวงสรวงปรากฏเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วเขตอุทยาน มีแสงเกิดขึ้นกลางอุทยาน และมีรอยแยกของดิน

    ปรากฏดวงแก้วมณี ๒ ดวงขึ้นมา ผู้เฝ้าอุทยานได้ทูลเชิญพระเจ้าปศันทราช มาเพื่ออัญเชิญดวงแก้วมณีขึ้นมา กาลนั้นปรากฏเทพบุตรองค์หนึ่งขึ้น และกล่าวว่า..

    “มหาบพิตรดวงแก้วมณีนี้ มีนามว่า “สหัสสบดีมณีรัตนะ –สุขุมาลย์รัตนวดี” เป็นดวงแก้วที่ท่านเคยเป็นพระดาบสได้ใช้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ อธิษฐานไว้ตั้งแต่ก่อนสมัยสมเด็จพระปทุมมุตรพุทธเจ้า ปรากฏมา เพื่อให้ท่านสามารถเรียกบุญเก่ามาใช้ได้ เพื่องานในพระศาสนาสำเร็จ

    เหตุที่มีเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ เกิดขึ้น อันเกิดจากวิบากกรรมเก่าของพระองค์ และพระมเหสีเคยทำไว้แต่กาลก่อน ที่เคยขวางบุญคนอื่น เจ้ากรรมนายเวรได้รับทุกขเวทนาเหล่านั้น มิอยากให้บุญนี้สำเร็จโดยง่าย จึงทำให้เกิดความวุ่นวาย จนพระองค์ทุกข์ร้อนพระทัย เราบอกได้เพียงเท่านี้
    ขอพระองค์นำดวงแก้วมณีทั้ง ๒ ประดิษฐานในที่ที่เหมาะสม เพื่อสักกบูชาด้วยเถิด”

    เมื่อกล่าวจบเทวดาองค์นั้นก็หายไป พระเจ้าปศันทราชรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งพระทัยว่า เรื่องของกรรมเก่าคงไม่สามารถแก้ไขได้ พระองค์จะทำกรรมใหม่ให้ดี ดวงแก้วทั้งสองนี้ พระองค์ทรงเก็บไว้ในห้องพระส่วนพระองค์

    มิได้ให้ผู้ใดล่วงรู้ ยกเว้นวิสิทธิพราหมณ์ และผู้เฝ้าอุทยาน และได้มอบทรัพย์ให้แก่ผู้เฝ้าอุทยาน เพื่อให้เก็บความลับนี้ไว้ ทุกวันพระองค์จะไปยังห้องพระส่วนพระองค์ เพื่อนั่งสมาธิ และแผ่เมตตาแก่เจ้ากรรมนายเวร จากนั้นปัญหายุ่งยากต่าง ๆ ก็มลายหายสิ้นไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์ฯ และดวงแก้วสหัสสบดีฯ ตอน ๗ อาราธนาพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า ๔๕ วัน ..


    จากนั้นบรรดาเศรษฐีทั้งหลาย ต่างนำทรัพย์ของตนมาร่วมบริจาคตามกำลังศรัทธา ผู้ที่มีที่ดินใกล้เคียงกับสถานที่สร้างวัด และนำที่ดินมาถวายแด่พระเจ้าปศันทราชเพิ่มเติม

    บางส่วน ผู้มีที่ดินเพียงผืนเดียว ท่านวิมุตติเศรษฐีได้มอบที่ดินแห่งอื่นของท่านแก่บุคคลเหล่านั้นแทน บรรดาเศรษฐีตระกูลต่าง ๆ ต่างนำทรัพย์ของตนมาถวายแด่พระเจ้าปศันทราช

    กล่าวสันตสิทธิ์อำมาตย์ และภรรยานั้น พระบิดาพระมารดาของพระนางจันทรมาลย์ คิดว่า พระธิดาของตนได้นำทรัพย์ไปบริจาค ตนก็จะมีส่วนในบุญนั้นด้วย ได้แต่อนุโมทนาบุญด้วยความตระหนี่ ไม่ได้นำปัจจัยของตนมาสร้างแต่อย่างใด
    การสร้างวัดนั้นใช้เวลาเพียง ๖ เดือนก็สร้างสำเร็จสามารถรองรับพระพุทธเจ้าและพระสาวกนับแสนรูป

    วัดพุทธารามบพิตรนั้น ประกอบด้วยมณีรัตนะ ๗ ประการ มีไพลิน มรกต บุษราคัม มุกดา เพทาย ไพฑูรณ์ และเพชร และมีทองคำ และเงิน เป็นสิ่งที่สร้างลวดลายวิจิตรรวมเป็นรัตนะ ๙ ประการ สวยงามตระการตา

    ด้วยอานุภาพของดวงแก้วมณีทั้งสอง ได้บันดาลให้มหาเศรษฐีทั้ง ๘ ตระกูล ต่างก็นำทรัพย์ของตนมาร่วมบุญ นอกจากนี้ยังมีทรัพย์ส่วนของพระเจ้าปเสนทศาทอีกด้วย พระเจ้าปศันทราชได้จ้างช่างประกอบมณีรัตนะจากต่างเมืองมาเป็นช่างฝีมือ การสร้างวัดจึงใช้เวลาเพียง ๖ เดือนก็สร้างสำเร็จสามารถรองรับพระพุทธเจ้าและพระสาวกนับแสนรูป


    ครั้นเมื่อสร้างวัดสำเร็จแล้ว พระเจ้าปศันทราชได้อาราธนาพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าโปรดชาวเมืองเป็นเวลา ๔๕ วัน ก่อนพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าเสด็จมา เกิดฝนประหลาดเป็นรัตนมณี ๗ สี มีไพลิน มรกต บุษราคัม มุกดา เพทาย ไพฑูรณ์ และเพชร

    ฝนประหลาดนี้ตกเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน ชาวเมืองในยุคนั้น ต่างเก็บรัตนชาติทั้ง ๗ ได้ตามบุญบารมีของตน ทำให้ชาวเมืองจากฐานะที่ยากจนก็ร่ำรวยขึ้นทั้งเมือง

    วันที่ ๘ ก็ปรากฏพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาทางอากาศพร้อมพระสาวกจำนวน ๒๐๐๐๐ รูป ซึ่งรวมทั้งพระอัฒการภิกขุด้วย

    พระเจ้าปศันทราช พร้อมมหาเศรษฐีของเมือง ๘ ตระกูล มีท่านบูรณเศรษฐี สิทธิกะเศรษฐี อมรติโยคเศรษฐี บริจาคเศรษฐี วิณฑกเศรษฐี นางอัจฉิมาเศรษฐี และท่านวิมุตติเศรษฐี ได้จัดเตรียมสถานที่ประทับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้อย่างสวยงามประมาณค่ามิได้

    ในวันนั้นสัณชัยมานพได้เห็นพระอรหันต์รูปหนึ่งมีลักษณะสำรวม เนื่องจากในชาตินั้นตนเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของตระกูล ไม่สามารถบวชได้ จึงอธิษฐานขอให้ชาติหน้าตนได้บวชเป็นพระภิกษุใน พระพุทธศาสนาของพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า

    (หลังพุทธกาล ๕๐๐ ปี สัณชัยมานพได้เกิดมาในตระกูลเดิม และได้บวชสมความปรารถนาเป็นพระเวณปัญญาเถระ ได้ทิพยจักขุญาณ แต่ไม่ถึงอภิญา ๕ )
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์ฯ และดวงแก้วสหัสสบดีฯ ตอน ๘ พระเจ้าปศันทราชได้รับพุทธพยากรณ์..


    เมื่อสมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าได้รับอาราธนาให้ประทับที่วัดพุทธารามบพิตร ผ่านไปเป็นเวลา ๗ วัน รุ่งเช้าวันที่ ๘ หลังจากพระองค์ได้รับภัตตาหารแล้ว พระเจ้าปศันทราช และพระมเหสี มีความปลื้มปิติในบุญได้ถวายผ้าสาฏกแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจำนวน ๒๐,๐๐๑ ผืน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

    จากนั้นเหล่าบรรดาเศรษฐีทั้ง ๘ ตระกูลต่างถวายของที่ตนได้เตรียมมา จากนั้นทุกคนต่างกลับสู่อาสนะของตน องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้า ทรงกล่าวอนุโมทนาคาถา และทรงให้พุทธพยากรณ์แก่พระเจ้าปศันทราชว่า....


    “ผลบุญในครั้งนี้ ส่งผลให้แก่ผู้ปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณได้สำเร็จ และผู้ปรารถนาพระนิพพานในชาติก็สำเร็จตามความปรารถนาได้เช่นกัน อันเนื่องจากการถวายทานครั้งนี้ เต็มเปี่ยมด้วยความประณีต และความบริสุทธิ์ในทานบารมี อีกครั้งมีความเสียสละในสิ่งที่สละได้ยาก อันมีแก้วแหวนเงินทองเป็นต้น”


    อันพ่อเมืองคือ พระเจ้าปศันทราช นั้นเดิมทีมีความปรารถนาจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล ขอทานบารมีอันเต็มเปี่ยมด้วยมหากุศลนี้ เราขอให้คำพยากรณ์ว่า ..

    “ในอนาคตกาล พระเจ้าปศันทราช จะได้จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัทรกัปนี้ พระองค์ทรงให้คำพยากรณ์โดยละเอียดแก่พระเจ้าปศันทราชนี้

    อีกกาลนานไกลพระพุทธเจ้าพระนามว่า “พระพุทธนารถโลกนาถพุทธเจ้า” จะเป็นผู้ให้การพยากรณ์เป็นองค์สุดท้าย ก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตกาล ขอเธอจงมีความเข้มแข็งในการบำเพ็ญมหาทานบารมีต่อไป”


    จากนั้นพระเจ้าปศันทราชนั้น ได้มีความปิติใจเป็นอย่างสูง จึงก้มกราบองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นจึงได้น้อมใจถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา ใช้พระขรรค์บั่นพระศอของพระองค์ จากนั้นก็สิ้นพระชนม์ ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดุสิตทันที


    วิสุทธิโชติเทวบุตร(คุณวาสุเทพ- เป็นเทวดาที่ติดตามพระอัฒจักรเถระ เพื่อร่วมบุญครั้งนี้) ได้เกิดความปิติใจ อธิษฐานขอเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลของพระเจ้าปศันทราชในอนาคตกาล จากนั้นได้ลาพระอัฒจักราเถระ เพื่อกลับสู่วิมานของตน เพื่อเข้าสมาบัติรอการจุติต่อไป

    (พระอัฒจักรเถระกาลนั้นได้บรรลุอภิญญาสมาบัติ ๕ มีทิพยจักขุญาณสามารถติดต่อกับโลกทิพย์ได้ทันทีที่ต้องการ)
     
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๙ สู่ขอพระนางจันทมาลย์


    เมื่อพระเจ้าปศันทราชเสด็จสวรคตแล้ว องค์สมเด็จพระพุทธกัสสปพุทธเจ้าทรงให้จัดพิธีอย่างสมพระเกียรติ และทรงจำพรรษาอยู่ที่วัดพุทธารามบพิตรจนครบ ๔๕ วัน จากนั้นก็เสด็จไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังเมืองอื่น

    ก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จไป ได้แต่งตั้งให้พระมังคลียะเถระ เป็นหัวหน้าอารามแห่งนี้ พร้อมด้วยพระภิกษุอีก ๕๐๐ รูป ให้อยู่จำพรรษาในเมืองสาเกต เพื่อเผยแผ่พระศาสนาต่อไป

    ต่อมาดวงแก้วมณีทั้งคู่ก็หายไปจากเมืองสาเกตอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่มีใครทราบว่าหายไปไหน ฝ่ายพระนางจันทมาลย์นั้น เกิดความเศร้าโศกเสียพระทัย พระนางมีพระชนมายุเพียง ๒๒ ชันษา หลังจากพระสูติพระธิดายิ่งทำให้มีความงดงามมากขึ้น ความงามนี้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแคว้น

    นายสักกวัฒน์ เป็นศิลปินที่เดินทางท่องเที่ยวยังต่างเมืองได้มีโอกาสมาเยี่ยมเมืองสาเกต และมีโอกาสได้ยลโฉมพระนางจันทมาลย์ จึงได้แต่งกวี ร้องเพลงยังเมืองต่าง ๆ จนกระทั่งถึงเมืองสันติราชยาตะนคร


    เมืองสันติราชยาตนครนี้ ปกครองเมืองโดยพระเจ้าสวัสดิราช มีพระชนมายุ ๓๐ ชันษา แต่ยังไม่อภิเษกสมรส วันหนึ่งพระองค์ได้ตรวจเยี่ยมราษฎรต่าง ๆ ทรงได้ฟังเพลงของนายสักกวัฒน์โดยบังเอิญ จึงเกิดความปรารถนาจะเห็นพระพักตร์ของพระนางจันทมาลย์ พระมเหสีของพระเจ้าปศันทราช

    กล่าวถึงเมืองสาเกตยังว่างกษัตริย์ เป็นที่น่าสังเกตว่า กษัตริย์ของเมืองนี้ หลังได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงถวายชีวิตเป็นพุทธบูชาไปถึง ๒ พระองค์ ทำให้พระมเหสีเป็นม่ายตั้งแต่ยังเยาว์วัย

    พระเจ้าสวัสดิราช จึงได้ปลอมพระองค์เป็นพ่อค้า ให้มาเยี่ยมชมเมืองสาเกต ได้พบพระนางจันทมาลย์ ขณะที่ทอดพระเนตรงานแสดงประจำเมือง จึงเกิดความรักและเสน่หาตั้งแต่แรกพบ

    เมื่อกลับยังเมืองของตนได้ส่งราชทูต และเครื่องบรรณาการณ์ มายังสันตสิทธิ์อำมาตย์ เพื่อสู่ขอพระนางจันทมาลย์

    สันตสิทธิ์อำมาตย์นั้น คิดว่า พระมเหสียังเยาว์วัย ควรมีผู้คุ้มครองดูแล อีกทั้งพระเจ้าสวัสดิราชนั้น เป็นกษัตริย์มีฐานันดรทัดเทียมกัน จึงอนุญาตให้พระนางจันทมาลย์ อภิเษกกับพระเจ้าสวัสดิราช


    เดิมทีพระนางจันทมาลย์นั้นไม่ทรงยินยอม เนื่องจากยังทรงรักพระเจ้าปศันทราชอยู่อย่างเต็มหัวใจ แต่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากทางเมืองสันติราชยาตนครนี้ ได้ยกทัพมาประชิดเมือง จึงได้ยินยอมอภิเษกสมรสอีกครั้ง โดยได้มอบพระธิดาไว้ให้นางจันทราศี มารดาเลี้ยงดู ขณะนั้นพระธิดามีพระชนมายุเพียง ๒ ชันษา

    เมื่อพระนางจันทมาลย์ได้อภิเษกกับพระเจ้าสวัสดิราชแล้ว ทรงมีพระครรภ์ พระนางจันทมาลย์ไม่เคยได้กลับมายังเมืองของตน


    กล่าวถึงพระเจ้าปศันทราชนั้น หลังปลงพระชนม์เอง เหมือนกลับแล้วตื่นอยู่กลางวิมานบนสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อระลึกได้แล้ว จึงตรวจดูว่า เหตุใดจึงได้มาผุดกลางวิมานที่งดงามเช่นนี้ จากนั้นก็ได้ระลึกถึงพระนางจันทมาลย์ เมื่อทราบว่า พระมเหสีอภิเษกสมรสใหม่ เกิดความหึงหวงปรารถนาที่จะกลับมาครองคู่กับพระมเหสีดังเดิม

    กาลนั้น พระญาติห่าง ๆ ของพระเจ้าสวัสดิราช พระนามว่า “เจ้าชายโรมายนะ” มีพระชนมายุ ๒๕ ชันษา เดิมทีเป็นผู้มีร่างกายอ่อนแอ ได้ถึงกาลสวรรคตด้วยโรคเรื้อรัง ด้วยบุพกรรมแต่กาลก่อน ทำให้ดวงจิตของพระเจ้าปศันทราชในอดีต ถูกดูดมายังร่างของเจ้าชายโรมายนะ ทันที

    การจุติของพระเจ้าปศันทราชนี้ คล้ายการหลับแล้วตื่นขึ้นมา ฝ่ายพระญาตไม่มีใครล่วงรู้ ส่วนพระเจ้าปศันทราชนั้นก็ลืมเรื่องราวแต่กาลก่อนไป การตื่นของเจ้าชายโรมายนะนี้ ทำให้โรคหาย อีกทั้งทรงมีสุขภาพแข็งแรง ทำให้พระนางโหรินีมาตา พระมารดาของเจ้าชายปิติใจยิ่งนัก

    ก่อนหน้าที่เจ้าชายโรมายนะจะหายป่วย พระนางโหรินีมาตาได้ทำการบวงสรวงปวงเทพยดาให้เจ้าชายหายจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยพระนางถืออุโบสถศีลถึง ๘ เดือน ด้วยโหรทำนายว่า ชะตาของเจ้าชายโรมายนะจะถึงฆาต เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๒๕ ชันษา พระนางจึงเร่งทำความดีทุกอย่างให้พระโอรสหายป่วย โดยไม่ทรงทราบว่า พระโอรสพระองค์ใหม่ หาใช่มีดวงจิตดวงเดิมไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๑๐ พบคู่บารมีแต่กาลก่อน


    พระเจ้าปศันทราชเองก็จำความต่าง ๆ ในอดีตชาติไม่ได้ ทรงรับรู้ว่า พระองค์คือ เจ้าชายโรมายนะ ทรงเคยประชวร และหายประชวรเป็นปลิดทิ้ง หลังจากหายประชวรแล้ว ทรงตั้งใจฝึกฝนวิชาการรบอย่างเคร่งครัด ทำให้ฝีมือทางด้านการรบไม่เป็นสองรองใคร

    ต่อมาเจ้าชายโรมายนะ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าสวัสดิราช ทรงพบพระนางจันทมาลย์โดยบังเอิญ ด้วยบุพเพสันนิวาสแต่กาลก่อน ทำให้เกิดหลงรักพระนางจันทมาลย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น เนื่องจากมีพระชันษาห่างกันเพียง ๒ ชันษา ไม่ว่าจะย่างเดินไปที่ใด เห็นแต่ใบหน้าของพระนางจันทมาลย์ จึงดำริว่า

    “กรรมอันใดหนอ มาพบพระนางไม่ถูกกาลเวลา แค่คิดเราก็ผิดแล้ว”

    ฝ่ายพระนางจันทมาลย์นั้น เมื่อประสบพักตร์ของเจ้าชายโรมายนะ ก็รู้สึกต้องชะตา คล้ายได้พบอดีตพระสวามีของพระนาง เวลาที่เจ้าชายโรมายนะรับสั่ง ก็คล้ายกันทุกอิริยบท ต่างกันตรงที่เจ้าชายโรมายนะมีความสง่างามมากกว่า ทรงพระเยาว์กว่า และมีความเข้มแข็งดุจนักรบ

    _________________________________

    พระนางจันทมาลย์นั้น ตั้งแต่อภิเษกกับพระเจ้าสวัสดิราช หาได้มีความรักความเสน่หาต่อพระสวามีไม่ แม้พระนางจะมีพระโอรสกับพระองค์ก็ตาม พระนางทำไปเพียงหน้าที่ของพระมเหสีเท่านั้น

    ครั้นเมื่อมาพบเจ้าชายโรมายนะ ความรู้สึกหนุ่มสาวกลับมาอีก ปรารถนาที่จะพบพักตร์ของเจ้าชายโรมายนะ จึงนึกได้ว่า พระเจ้าปศันทราชในอดีต ทรงชอบอาหารคาว คือ ไก่งวงอบ และทรงชอบขนมหวานที่ทำด้วยข้าวหอม พระนางจึงได้ทำอาหารคาว-หวานที่อดีตพระสวามีชอบ โดยต้องการพิสูจน์ว่า เจ้าชายโรมายนะ เป็นดวงจิตเดียวกันหรือไม่ และได้กราบทูลพระเจ้าสวัสดิราชให้เชิญเจ้าชายโรมายนะมาร่วมเสวยพระกระยาหารเที่ยงในวันรุ่งขึ้น

    เจ้าชายโรมายนะนั้น เป็นพระโอรสของพระปิตุลาของพระเจ้าสวัสดิราช ซึ่งอยู่อีกเมืองหนึ่ง ในวัยเด็กทรงเอ็นดูเจ้าชายดุจพระอนุชาร่วมสายโลหิต เมื่อทรงทราบว่า หายประชวร จึงได้ชักชวนมาเที่ยวเมืองของตน โดยพระองค์หาทราบไม่ว่า นี้เป็นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมของความรักในอนาคต
    เมื่อพระมเหสีตั้งใจทำพระกระยาหารด้วยพระนางเอง

    พระเจ้าสวัสดิราชคิดว่า พระมเหสีนับแต่อภิเษกกับพระองค์มา ไม่เคยสักครั้งที่จะแสดงฝีมือในการทำพระกระยาหาร ครั้งนี้ได้ชิมฝีมือของพระนาง ทำให้พระองค์เกิดความปิติเบิกบานใจ เมื่อพระนางต้องการให้พระอนุชามาร่วมเสวย ยิ่งรู้สึกเอ็นดูพระนางมากขึ้น อย่างน้อยทั้งสองมีวัยใกล้เคียงกัน น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ จึงให้ทหารคนสนิททูลเชิญเจ้าชายโรมายนะร่วมเสวยพระกระยาหารเที่ยงยังพระราชฐานของพระเจ้าสวัสดิราช


    ฝ่ายเจ้าชายโรมายนะ เมื่อได้รับข่าวเช่นนั้น กลับรู้สึกวิตกกังวลเกรงว่า พระเจ้าสวัสดิราชจะทรงทราบความในใจของพระองค์ถึงกับบรรทมไม่หลับทั้งคืน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2013
  7. Prar

    Prar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +4,048
    ต้องขออภัยก่อนครับที่โอนเงินช้า
    เวลา 14.56 น. จำนวน 1,400 บาทครับ
    เป็นค่าบูชาเพชรพญานาค+ค่าจัดส่งครับ
    ส่วนที่เกินนั้น ขอร่วมบุญตามแต่คุณพี่เห็นสมควรครับ[/COLOR]
    ขออนุโมทนาบุญในทุกบุญกับทุกท่านครับ
     
  8. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    โอ้... เหตุการณ์ครั้งนี้เองที่ทำให้หนูไปนอนเล่นในสิมพลีนรกหลายปี
    บรึ๋ยยย... ยังกลัวหนามงิ้วและกระทะทองแดงไม่หายเลยค่ะ ... แหะ ๆๆ
    พอจะรู้แระว่าพระเจ้าสวัสดิราชนี่เป็นไผ...
    ว่าแต่ตอนนี้ท่านอยู่ที่ใดคะ พอจะทราบไหมคะพี่น้ำใส? เพราะหนูหาท่านไม่เจอเลยค่ะ
     
  9. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    อนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใส ที่ให้ธรรมทานค่ะ แต่ตอนนี้ขนที่นอนหมอนมุ้งมา นั่งรอ นอนรอ แล้วค่ะ อยากฟังต่อ กำลังได้ที่เลย อิอิ...​
     
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677


    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาโดยฉับพลันค่ะ เพชรพญานาคชุดนี้ ผ่านการบวงสรวงในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่วัดพระพุทธบาทห้วยทรายขาว จ.ลำพูนมาค่ะ

    พระและเทวดาสายปราบมาร เป็นผู้ประสิทธิประสาทให้ อีกทั้งครูบาอาจารย์ในสายหลวงปู่ฤาษีมากันครบค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
  11. Prar

    Prar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +4,048
    ขอบคุณและอนุโมทนาอีกครั้งครับภูมิใจมากครับที่มีโอกาสได้มา
    ต้องขอบคุณ คุณพี่น้ำใสและคณะครับ
     
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๑๑ เหตุแห่งรักเป็นทุกข์


    ครั้นรุ่งสางเจ้าชายโรมายนะ ได้พยายามตัดใจที่จะไม่ระลึกถึงพระนางจันทมาลย์ คิดว่า พระนางเป็นพระมเหสีของพระเชษฐา ไม่ควรคิดเรื่องไม่ดี จึงใช้ทมะในการข่มใจไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน

    เมื่อไปถึงพระราชฐานของพระเจ้าสวัสดิราช พระนางจันทมาลย์เสด็จมารออยู่ก่อนแล้ว แม้จะทอดพระเนตรไกล ๆ กลับเหมือนรู้สึกคุ้นเคยกันมา เจ้าชายโรมายนะเริ่มมีจิตใจหวั่นไหว ทรงพยายามทำใจให้ปกติ และไม่มองพระพักตร์ของพระนางจันทมาลย์แม้แต่น้อย

    ทำให้พระนางจันทมาลย์รู้สึกน้อยพระทัย และพยายามทำตัวใกล้ชิดกับเจ้าชายโรมายนะ เมื่อถึงเวลาเสวยพระกระยาหาร นางกำนัลได้ยกพระกระยาหารแต่ละอย่าง ทำให้เจ้าชายโรมายนะเห็นภาพซ้อนในอดีตเกิดขึ้น สมัยที่พระองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าปศันทราช

    เมื่ออภิเษกสมรสกับพระนางจันทมาลย์ใหม่ ๆ ภาพนั้นผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พระองค์รู้สึกว่า รับไม่ไหว เมื่อทราบว่า แท้จริงพระองค์คือ พระเจ้าปศันทราชกลับชาติมาเกิด จึงทำให้เกิดหน้ามืดเป็นลม และสลบไป


    ฝ่ายพระเจ้าสวัสดิราชนั้น หาทราบเรื่องไม่ ทรงเข้าใจว่า พระวรกายของพระอนุชาไม่ทรงแข็งแรง จึงสั่งให้ทหารคนสนิทพาไปยังห้องประทับส่วนพระองค์ และสั่งให้พระนางจันทมาลย์เป็นผู้ดูแล


    ****************

    พระนางจันทมาลย์นั้น รู้สึกปิติใจยิ่งนัก พระนางความมั่นใจว่า เจ้าชายโรมายนะ เป็นพระเจ้าปศันทราชกลับชาติมาเกิดแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเป็นการที่ใช้กายของผู้อื่นเป็นเรือนเกิดก็ตาม

    ทำให้พระนางดูแลเจ้าชายโรมายนะด้วยความปิติสุข กลับคิดว่า ฟ้าคงประทานพระสวามีกลับมาให้แก่พระนาง แต่ทรงไม่ได้คิดเรื่องการผิดจารีตประเพณี เนื่องจากหลังพระเจ้าปศันทราชทรงสวรรคต พระนางได้ทำบัดพลีอ้อนวอนปวงเทพยดาให้คืนชีวิตของพระเจ้าปศันทราชกลับคืนมา โดยขณะนั้นไม่ทรงคิดจะอภิเษกสมรสใหม่ เฝ้าแต่ระลึกถึงพระสวามีเพียงอย่างเดียว

    ฝ่ายพระเจ้าปศันทราชนั้น เมื่อสลบไป คล้ายหลับบรรทมและนิมิตไปว่า พระองค์ไปปรากฏบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พบท้าวสักกเทวราช ท้าวสักกเทวราชได้ทรงกล่าวเตือนว่า..

    “ในการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์นั้น จำต้องสละภรรยาและบุตร มาชาตินี้ท่านต้องสละพระมเหสีแก่ผู้อื่น อย่าให้ผิดศีลเด็ดขาด ท่านต้องเอาชนะใจตนให้มาก อย่ายอมแพ้กิเลสของตน”

    เมื่อรู้สึกพระองค์ พบว่า พระนางจันทมาลย์อยู่ใกล้ ๆ พระองค์จึงรีบลุกขึ้นทันที และตรัสว่า..

    “ขอบพระทัยพระพี่นางมากพะยะค่ะ หม่อมฉันดีขึ้นแล้ว อาจจะบรรทมไม่พอ วันนี้หม่อมฉันขอทูลลา”

    จากนั้นพระองค์รีบเสด็จออกจากที่ประทับของพระเจ้าสวัสดิราชทันที ทิ้งให้พระนางจันทมาลย์อยู่อย่างผิดหวัง ดำริว่า..

    “เจ้าพี่ ไยท่านกระทำเยี่ยงนี้ ไยท่านทิ้งน้องไปอย่างไม่ไยดี กาลก่อนพระองค์ไม่ค่อยมีเวลาได้ดูแลหม่อมฉน กาลนี้หม่อมฉันจะไม่ยอมให้พระองค์ห่างไปไกล”

    ต่อมาเกิดข้าศึกประชิดชายแดนของเมืองสันติราชยาตนคร เกิดความวุ่นวายฝั่งชายแดน พระเจ้าสวัสดิราชจะต้องออกรบกับข้าศึก การไปครั้งนี้อาจจะเป็นเวลานานหลายเดือน พระนางจันทมาลย์นั้นรู้สึกปิติยินดีที่พระสวามีไม่อยู่ จึงบอกกับพระเจ้าปศันทราชว่า..

    “ข้าฯแต่พระสวามี เมืองนี้มีแต่การรบพุ่งอยู่เป็นประจำ หม่อมฉันเกรงว่า ไส้ศึกอาจจะแอบเข้ามาในเมือง ขอพระองค์ส่งคนที่มีฝีมือ มาช่วยดูแลหม่อมฉัน และพระโอรสได้หรือไม่”

    พระเจ้าสวัสดิราชได้สดับดังนั้นก็ทรง เห็นด้วย ทราบว่า ปกติพระมเหสีไม่เคยสนิทสนมกับใคร และค่อนข้างไว้พระองค์ เห็นมีเพียงแต่เจ้าชายโรมายนะเท่านั้นที่พระนางทรงมีความไว้พระทัย

    จึงตรัสถามว่า “น้องหญิง เจ้าเห็นสมควรว่าใครมีความสามารถปกป้องน้องหญิงได้ละ”

    เมื่อพระเจ้าสวัสดิราชตรัสเช่นนั้น พระนางจึงแสร้งว่า...

    “พระองค์เป็นผู้รู้พระทัยหม่อมฉันที่สุด พระองค์ทรงจะให้ผู้ใดที่หม่อมฉันไว้ใจเพคะ”

    พระเจ้าสวัสดิราชทรงพระสรวลเสียงดังที่พระมเหสีตรัสชม จึงตรัสว่า...

    “พี่รู้ว่า น้องต้องการให้โรมายนะมาช่วยใช่มั๊ย พี่เองก็คิดเช่นนั้น หากมีโรมายนะอยู่ พี่ก็สบายใจ”

    จากนั้นทรงส่งสาส์นไปแจ้งเจ้าชายโรมายนะมาช่วยดูแลเมืองหลวง ส่วนพระองค์ทรงเสด็จไปยังชายแดน

    ส่วนเจ้าชายโรมายนะนั้นรู้สึกหนักพระทัยอย่างยิ่ง แต่ต้องจำใจมา ทั้ง ๆ ที่รู้สึกไม่สบายพระทัย ส่วนพระนางจันทมาลย์นั้น ทรงหาทางพูดคุยกับเจ้าชายโรมายนะอยู่เสมอ เจ้าชายโรมายนะพยายามหาทางหลีกเลี่ยงเสมอเช่นกัน ทำให้พระนางอยากเอาชนะพระทัยของเจ้าชายโรมายนะอย่างจริงจัง

    วันหนึ่งแสร้งประชวร บอกให้เจ้าชายโรมายนะเสด็จไปเยี่ยม เมื่อเจ้าชายเสด็จไปถึงพระนางได้แสร้งกรรแสงอย่างหนัก และเล่าถึงเรื่องของพระเจ้าปศันทราช เจ้าชายโรมายนะจึงกล่าวว่า..


    “พระพี่นาง เหตุใดเล่าเรื่องของอดีตพระสวามีของพระนาง ไม่เกรงหม่อมฉันจะนำเรื่องไปกล่าวแก่เสด็จพี่หรือพะยะค่ะ”

    คำตรัสของเจ้าชายโรมายนะดุจมีดกรีดพระทัยของพระนางจันทมาลย์ พระนางจึงกรรแสงและตรัสว่า..

    “เจ้าพี่ หม่อมฉันรู้ว่า พระองค์คือพระเจ้าปศันทราชกลับชาติมาเกิด พระองค์อย่าปิดบังหม่อมฉันเลย ไม่ว่าทรงเปลี่ยนร่างเป็นแบบไหน แต่จิตใจของพระองค์ยังคงเดิม รู้มั๊ยหม่อมฉันเฝ้ารอโอกาสนี้มานานแล้ว เหตุใดพระองค์เอาแต่เฉยชาไม่สนพระทัย”

    เจ้าชายโรมายนะนั้นเช่นนั้น ทรงตรัสว่า..


    “พระพี่นาง ภพชาติเปลี่ยนไปทุกอย่างเปลี่ยนไป ขอพระนางอย่าได้คิดถึงอดีตเลย”


    จากนั้นทรงให้นางกำนัลเข้ามา ทำทีไม่สนพระทัยพระนางจันทมาลย์ และเสด็จกลับตำหนักของตน
    เมื่อกลับมาถึงตำหนักก็เฝ้าครุ่นคิดถึงแต่พระนางจันทมาลย์ ยิ่งรู้ว่าพระนางสามารถระลึกได้ว่า พระองค์กลับชาติมาเกิดก็ยิ่งหนักพระทัย ไม่รู้ทำอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2013
  13. Prar

    Prar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +4,048
    เอ่อ ขอโทษครับพี่ครับ ๆ
    ตอนที่ 11 ไปไหนครับ คือผมกลัวอ่านข้ามครับ
    กำลังติดตามอยู่ครับ
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    อิอิ..น้องไม่ได้อ่านข้ามหรอกค่ะ พี่เขียนเลขผิดเองค่า :D.. แก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่บอกค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

    Numsai
     
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๑๒ ม่านหมอกบังใจ


    เวลาผ่านไป ๓ เดือน พระนางจันทมาลย์ได้รับพระราชสาส์นจากพระเจ้าสวัสดิราช พระองค์ได้ส่งสาส์นมาถึงพระมเหสีว่า ..

    “น้องหญิง พี่ยังต้องดูแลความเรียบร้อยอยู่ที่นี่สักพัก ข้าศึกต่างเมืองยังไม่ถอยทัพ ต่างพลัดกันแพ้พลัดกันชนะ ขอให้น้องดูแลลูกชายของเราให้ดี แล้วพี่จะกลับมา..อีกอย่างพี่คิดว่า มีโรมายนะคอยช่วยว่าราชการแทน พี่ก็สบายใจ ยังรักน้องหญิงของพี่เสมอ
    คิดถึงน้องหญิงตลอดเวลา ”


    เมื่อพระนางได้รับสาส์น รู้สึกยินดีที่พระสวามียังรักตนอยู่ และไม่คิดนอกใจ อันพระเจ้าสวัสดิราชนั้น เป็นชายชาตินักรบ พระองค์พูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ทั้งยังทรงมีน้ำใจแก่ทหารหาญที่ร่วมรบ ทุกครั้งกลับจากการรบ พระองค์จะปูนบำเหน็จแก่เหล่าทหารทั้งหลายทุกครั้ง ทำให้เป็นที่รักของบริวาร และชาวเมืองทั้งหลาย

    ส่วนพระเจ้าปศันทราชในอดีตนั้นมีความแตกต่าง เนื่องจากเมืองสาเกตเป็นเมืองที่มีความสงบปราศจากการสู้รบ ดังนั้นกษัตริย์ไม่มีความจำเป็นต้องฝึกปรือเรื่องการรบ พระเจ้าปศันทราชในอดีตจึงไม่เก่งเรื่องการรบ ทำให้พระองค์มีอุปนิสัยอ่อนโยน มีความนิ่มนวล มีเมตตาสูง

    ต่างจากพระเจ้าสวัสดิราชมีนิสัยห้าวหาญดุจนักรบ พระนางจันทมาลย์ไม่คุ้นเคยกับผู้ที่มีนิสัยหยาบของพระเจ้าสวัสดิราช อีกทั้งการอภิเษกสมรสครั้งนี้ พระนางไม่ได้เต็มใจ แต่เกรงว่าเมืองสาเกตจะมีภัย จึงต้องยอมอภิเษกด้วย แต่ไม่ได้มีความผูกพันฉันสามีภรรยาทั่วไป

    เมื่อได้มาพบเจ้าชายโรมายนะ ทรงรู้สึกว่า คุ้นเคยกันมากกว่า พระนางจันทมาลย์นั้น เห็นเจ้าชายโรมายนะพยายามหลบหน้าตน ทำให้พระนางรู้สึกอยากเอาชนะใจ ด้วยการทำของเสวยมาถวายบ้าง ปักผ้าสำหรับสวมใส่ให้บ้าง เจ้าชายโรมายนะ เริ่มพระทัยอ่อน ไม่ทำทีปั่นปึ่งดุจเดิม


    พระนางจันทมาลย์มีความสุขสดชื่นที่อยู่ใกล้คนที่รัก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ยังเป็นความสัมพันธ์ทางใจ ยังไม่มีอะไรผิดประเพณีแต่อย่างใด แท้จริงแล้ว พระนางจันทมาลย์นั้น มิได้มีจิตคิดทรยศต่อพระเจ้าสวัสดิราช เพียงแต่รู้สึกอยากอยู่ใกล้เจ้าชายโรมายนะ เพื่อชดเชยความห่างเหินในอดีต เมื่อครั้งพระองค์เสวยเป็นพระเจ้าปศันทราชนั่นเอง

    ต่อมาพระเจ้าสวัสดิราชมีเหตุยังกลับเมืองไม่ได้ อีกทั้งความห่างเหิน จึงส่งสาส์นมาแจ้งว่า พระองค์จะอภิเษกพระมเหสีอีกพระองค์หนึ่ง พระนามว่า “เจ้าหญิงปชาเทวี” อันเป็นพระธิดาของกษัตริย์เมืองปวารปุระ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่พระองค์ต้องการเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี เพื่อช่วยปราบข้าศึกนั้นเอง จึงต้องเดินทางไปยังปวารปุระ เพื่อจัดงานอภิเษก ในสาส์นนั้นบอกเพียงว่า หากบ้านเมืองสงบแล้ว จะนำเจ้าหญิงปชาเทวีกลับมาให้ได้รู้จักกัน

    เมื่อทราบข่าวพระนางจันทมาลย์รู้สึกว่า พระองค์เหมือนถูกทรยศ รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง เสมือนอยู่ตัวคนเดียว พระนางจันทมาลย์สั่งให้นางกำนัลออกไปรอด้านนอก พระนางทรงกรรแสงแต่เพียงลำพัง คิดว่า..


    “การจากบ้านเมืองมาคราวนี้ ก็เหมือนถูกทิ้งจากบิดามารดาแล้ว พระสวามีกลับนอกใจไปมีใหม่ เหตุใดไม่เหมือนท่านพี่ปศันทราชเลย ท่านพี่ไม่เคยนอกใจน้อง ท่านพี่อยู่ที่ใด ช่วยน้องด้วยเถิด...”


    ความทุกข์ของพระนางจันทมาลย์นั้น ส่งกระแสจิตไปถึงเจ้าชายโรมายนะ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินเยี่ยมราษฎร พระองค์ทรงทำหน้าที่เช่นเดียวกับพระเจ้าสวัสดิราชทุกประการ เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข เมื่อเจ้าชายรู้สึกถึงความทุกข์ของพระนางจันทมาลย์จึงรีบเสด็จกลับพระราชฐาน

    เมื่อทราบจากนางกำนัลว่า พระนางจันทมาลย์ได้รับพระราชสาส์นจากพระเจ้าสวัสดิราชแล้ว ทรงให้ทุกคนออกจากห้องส่วนพระองค์ ไม่พบใครอีกเลย ทำให้เจ้าชายโรมายนะรู้สึกไม่สบายพระทัย รีบเข้าไปหาพระนางโดยไม่ได้คิดว่าเป็นการไม่สมควร

    ครั้นพระนางจันทมาลย์เมื่อเห็นเจ้าชายโรมายนะก็ทรงโผเข้าหา ร่ำไห้ปิ่มจะขาดใจ โดยลืมไปว่า พระองค์ไม่ใช่พระสวามีของตน ความรักความเสน่หาที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เจ้าชายลืมคำเตือนของท้าวสักกเทวราชไปหมดสิ้น ความรู้สึกเป็นเจ้าของกลับมาอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองทำผิดประเพณีโดยไม่ได้ตั้งใจ

    จากนั้นมีการนัดพบกันบ่อยครั้ง แต่ไม่มีผู้ใดสังเกต จนเวลาผ่านไปเกือบ ๒ ปี พระเจ้าสวัสดิราชทรงปราบปรามข้าศึก กลับมาพร้อมกับพระนางปชาเทวี เมื่อทราบข่าว พระนางจันทมาลย์เกิดความไม่สบายพระทัย คิดหาทางหนีออกจากราชวัง ขณะนั้นพระโอรสมีพระชนมายุกว่า ๓ ชันษา พระนางจึงได้ชักชวนเจ้าชายโรมายนะหนีออกจากวัง โดยทิ้งพระโอรสไว้ให้พระเจ้าสวัสดิราชดูต่างหน้า
     
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอน ๑๓ อกุศลกรรมนำไปเกิด

    IMAG2106.jpg

    พระเจ้าสวัสดิราช เมื่อทราบข่าวถึงกับกระอักพระโลหิต ไม่คาดคิดว่า พระมเหสี และพระอนุชาจะกระทำเยี่ยงนี้ ด้วยความที่ตรากตรำกรำศึกมานานนับปี พระวรกายอ่อนแอ ต่อมาทรงประชวรหนักและสวรรคตในกาลต่อไป

    ก่อนพระองค์จะสวรรคตนั้น ด้วยจิตคิดอาฆาตพระนางจันทมาลย์และพระอนุชา และด้วยบุญสร้างสาธารณประโยชน์ และปกครองบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข ทำให้ไปจุติเป็นเทวดาฝ่ายมิจฉาทิฐิ บนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตีทันที

    ส่วนเจ้าชายโรมายนะและพระนางจันทมาลย์นั้น หลังจากหนีออกจากวัง ตั้งใจว่าจะเดินทางกลับเมืองสาเกตด้วยความที่ไม่ชำนาญทาง และไม่เคยได้รับความลำบากมาก่อน ทำให้เจ้าชายโรมายนะเกิดประชวรหนัก ก่อนสิ้นพระชนม์ ระลึกถึงกุศลที่เคยสร้างวัดพุทธารามบพิตร ทำให้ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทันที

    ฝ่ายพระนางจันทมาลย์นั้น มีความเศร้าโศกเสียพระทัยที่เจ้าชายโรมายนะสิ้นพระชนม์ พระนางได้แต่ร่ำไห้จนสลบไปถึง ๓ วัน เมื่อฟื้นขึ้นมา พบสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง เป็นชาวป่า และไม่ทราบที่มาที่ไปของทั้งสองพระองค์ ได้พบพระนางจันทมาลย์นอนกอดพระศพเจ้าชายอยู่ระหว่างทาง และได้ทำการถวายพระเพลิงเจ้าชายโรมายนะเป็นที่เรียบร้อย และได้พาร่างของพระนางจันทมาลย์มายังเรือนของตน

    พระนางจันทมาลย์ทราบว่า พระศพของเจ้าชายโรมายนะถูกเผาเรียบร้อยแล้ว ก็กรรแสงถึงกับสลบไปอีกครั้ง เป็นเช่นนี้ถึง ๓ ครั้ง เมื่อได้สติจึงระลึกได้ว่า...

    "เหตุที่เกิดทั้งปวงล้วนเกิดแต่ความรักที่พระนางมีต่อพระสวามีในอดีตชาติ และไม่ยอมปล่อยวางเรื่องความรัก ทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากเช่นนี้"

    พระนางจึงอยู่ด้วยความทุกข์ระทมพระทัย เฝ้าแต่โทษตนเองว่า เป็นคนไม่ดี และอธิษฐานว่า..

    “หากความรักเป็นทุกข์เช่นนี้ ในชาติต่อไปข้าพเจ้าจะไม่ขอมีคู่ต่อไป ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดมาด้วยจิตคิดประพฤติธรรม อย่าให้กรรมเช่นในชาตินี้อีกเลย”

    จากนั้นพระนางก็สิ้นพระชนม์ ด้วยบุญที่เคยถวายเครื่องประดับ ถวายผ้าสาฏกแก่พระพุทธเจ้า ตลอดทั้งบุญสร้างวัดพุทธารามบพิตร ส่งผลไม่ให้พระนางตกลงมหานรกขุม ๓ ด้วยกรรมผิดศีลข้อ ๓ พระนางจึงต้องไปใช้กรรมในฉิมพลีนรกในยมโลกเท่านั้น
    _______________________
    หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เหตุใดเจ้าชายโรมายนะไม่ตกนรกขุมเดียวกัน เนื่องจากร่วมกระทำผิดเช่นเดียวกัน เนื่องจากพระองค์ทรงระลึกถึงบุญได้ทัน จึงไปเสวยผลบุญที่ทำมาแต่กาลก่อน
     
  17. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    โอ้ จบได้เศร้าจังค่ะ รักมากก็ทุกข์มากจริงๆค่ะ. แต่เรื่องผ่านมานานแล้วคิดมากไปก็เปลืองหมองอยู่กับปัจจุบันดีที่สุด และขอชูจั๊กกะแร้ถามพี่น้ำใสหน่อยนะคะ หนูเกิดใช้กรรมเป็นกระเทยครบห้าร้อยชาติยังคะถ้ายังจะได้เตรียมตัวอิอิ
     
  18. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พรุ่งนี้ขออนุญาตเล่าเรื่องเศษกรรมจากการผิดศีลในชาติที่เกิดเป็นพระนางจันทมาลย์นะคะ ตอนนี้ได้รับอนุญาตจากผู้เกี่ยวข้องแล้ว เพื่อเป็นอุธาหรณ์แก่ชาวเมืองและผู้ที่ผ่านเข้ามาอ่านค่ะ
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    มีอีกนิดค่ะ กฏแห่งกรรมยุติธรรมเสมอค่ะ มีพระเอก(หลายคน)ขี่ม้าขาวมาช่วยค่ะ อิอิ รออ่านต่อไปค่ะ

    ขออนุโมทนาในธรรมทานของน้องน้ำตาลค่ะ

    Numsai

     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ ตอนจบ กลับสู่สวรรค์


    หลังจากพระนางจันทมาลย์สิ้นพระชนม์แล้ว นายกลกัทธ์ –นางปาณีนั้นได้นำพระศพของพระนางจันทมาลย์ถวายพระเพลิงบริเวณเดียวกันกับเจ้าชายโรมายนะ

    ต่อมามีราชบุรุษที่ติดตามหาทั้งสองพระองค์ผ่านมา จึงได้ทราบว่า ทั้งสองพระองค์สวรรคตแล้ว จึงได้นำอัฐิของทั้งสองกลับยังเมืองสันติราชยาตนคร

    พระนางปชาเทวีได้ทราบจากนางสิฐี นางกำนัลคนสนิทเกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าชายโรมายนะ และพระนางจันทมาลย์ว่า แท้จริงแล้ว เจ้าชายโรมายนะนั้น คือ พระเจ้าปศันทราชกลับชาติมาเกิด ทำให้พระนางปชาเทวีนั้นรู้สึกสลดพระทัยคิดว่า เป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรัก

    พระนางเองก็เป็นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นกัน จึงได้จัดตั้งบำเพ็ญกุศลใหม่แก่กษัตริย์ทั้งสามพระองค์ และได้จัดโรงทาน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักให้กษัตริย์ทั้งสอง และพระนางจันทมาลย์ โดยนำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์มาแจกจ่ายแก่คนยากจน ในเมืองนี้ยังไม่มีวัด หรืออารามใด ๆ จึงไม่มีการบำเพ็ญกุศลเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

    ต่อมาพระนางปชาเทวีได้ส่งราชทูตแจ้งข่าวสวรรคตของพระนางจันทมาลย์ ทำให้สันตสิทธิ์อำมาตย์ ผู้เป็นบิดา ถึงกับเป็นลมล้มพับไป เมื่อได้สติกลับคืน วันรุ่งขึ้นจึงได้ออกเดินทางมายังเมืองสันติราชยาตนคร

    ครั้นถึงเมืองสันติราชยาตนครแล้วได้นำข้าวของพระนางจันทมาลย์แจกจ่ายให้กับคนยากจน เพื่ออุทิศบุญให้แก่พระนาง จากนั้นได้สันตสิทธิ์อำมาตย์ได้ขอเจ้าชายโสรัจนะกลับมาเพื่อเลี้ยงดู และได้นำพระอัฐิกลับยังเมืองสาเกต


    กลับถึงเมืองสาเกตแล้ว สันตสิทธิ์อำมาตย์ได้ไปปรึกษากับท่านวิมุตติเศรษฐีเกี่ยวกับการบำเพ็ญกุศลให้กับพระนางจันทมาลย์


    กาลนั้นพระอัฒจักรเถระได้เดินทางมาเยี่ยมบ้าน และได้จำพรรษา ณ.วัดพุทธารามบพิตร

    เนื่องจากนางอัจฉมา ผู้เป็นมารดาขอร้องให้อยู่ ท่านวิมุตติเศรษฐีจึงได้พาสันตสิทธิ์อำมาตย์ไปปรึกษากับพระอัฒการเถระ พระเถระนั้นได้ทราบว่า พระนางจันทมาลย์ปัจจุบันอยู่ฉิมพลีนรก แต่ไม่กล้าบอก จึงกล่าวว่า...


    “ขอให้ท่านนำทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระนางจันทมาลย์ นำไปแลกข้าวของที่สามารถเป็นประโยชน์แก่หมู่สงฆ์ และนำมาถวายแก่พระสงฆ์อย่างน้อย ๔ รูป จากนั้นอุทิศบุญให้แก่พระนาง ที่เหลืออาตมาภาพจะเป็นผู้จัดการต่อไป”


    สันตสิทธิ์อำมาตย์จึงได้ทำการที่พระเถระแนะนำทุกประการ จึงนำเครื่องอาหารคาวหวาน และเครื่องใช้ที่จำเป็นของพระภิกษุ จากนั้นได้ทำการถวายแก่พระภิกษุ ๔ รูป

    คืนวันนั้นพระอัฒจักรเถระได้บำเพ็ญภาวนา อธิษฐานอุทิศบุญแก่พระนางจันทมาลย์ และได้ไปปรากฏกาย ณ.สถานที่ตัดสินบุญ-บาป พระนางจันทมาลย์นั้น เมื่อได้เห็นพระอัฒจักรเถระก็ระลึกถึงบุญเก่า ทำให้จิตสว่างพ้นจากการทรมานในฉิมพลีนรกในยมโลก ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานใกล้กันกับพระเจ้าปศันทราช

    จากนั้นมีเทพบุตรได้เชิญไปพบท้าวสักกเทวราช เพื่อให้เทวธรรม ท้าวสักกเทวราชได้กล่าวถึงผลกรรมของการผิดศีล และให้ทั้งสองเข้าสมาบัติเพื่อชำระจิตให้สะอาด โดยสั่งห้ามไม่ให้พบกันอีกเป็นเวลา ๑๐๐๐๐ ปีมนุษย์ จากนั้นทั้งสองต่างก็เข้าสมาบัติในวิมานของตน

    จบเรื่องของประวัติดวงแก้วทั้งสองค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...