ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

พี่น้ำใสครับ มีตัวละครสำคัญหลายท่านในเรื่องดวงแก้วสุขุมาลย์มารศรี และดวงแก้วสหัสสบดีมณีรัตนะ เกี่ยวเนื่องกับชาวเมืองคนไหนบ้างนอกจาก Miss Brown

 

จันทรกาล คุณพีระชัย พร้อมกลัยาณมิตร ร่วมบุญกฐินวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร

เพื่อร่วมสร้างศาลาหลวงพ่อพระราชพรหมยานอนุสรณ์ 100 ปีเกิด
สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ 100 องค์ ในที่ดิน 13 ไรเศษที่ร่วมกันซื้อไว้

จำนวน 4,000 บาท ​

ด้วยอานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ ขององค์พระรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐม องค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และเสด็จพ่อพันท้ายนรสิงห์ จงดลบันดาลให้ผู้เป็นเจ้าภาพร่วมบุญทุกท่าน จงหายทุกข์ หายโศก หายโรค หายภัย เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน บริบูรณ์ด้วย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เจริญในธรรม " มิเตพาหุหะติ สัมปะติจฉามิ " ขอให้ทุกๆท่าน จง รวย รวย รวย ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ๊
​

ขออนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ

จันทรกาล

 

น้องงจอม ร้านกาแฟภูย่า และ พนักงาน หจก.ออลทูลเซอร์วิส ร่วมบุญกฐินวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร

เพื่อร่วมสร้างศาลาหลวงพ่อพระราชพรหมยานอนุสรณ์ 100 ปีเกิด
สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ 100 องค์ ในที่ดิน 13 ไรเศษที่ร่วมกันซื้อไว้

จำนวน 5,999 บาท


ด้วยอานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ ขององค์พระรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐม องค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และเสด็จพ่อพันท้ายนรสิงห์ จงดลบันดาลให้ผู้เป็นเจ้าภาพร่วมบุญทุกท่าน จงหายทุกข์ หายโศก หายโรค หายภัย เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน บริบูรณ์ด้วย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เจริญในธรรม " มิเตพาหุหะติ สัมปะติจฉามิ " ขอให้ทุกๆท่าน จง รวย รวย รวย ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ๊

ขออนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ

จันทรกาล​

 

น้องจอมทำบุญได้ด้วยหรือนี่ อิอิ โมทนาบุญด้วยนะคะ น้องจอม ว่างๆ มากระซิบน้าตาลทีว่าหวยจะออกอะไรนะ

 

จ้า...น้องตาล ถ้าบอกพี่ตาล ก็มาบอกพี่เอ๋ด้วยนะจ้าน้องจอม
พี่ตาลจะได้มีเพื่อนถูกหวย อิอิ.....

 

สรุปยอดเงิน ที่ผู้ร่วมบุญกฐิน วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร

สรุปยอดเงิน ที่ผู้ร่วมบุญกฐินวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร ค่ะ

เพื่อร่วมสร้างศาลาหลวงพ่อพระราชพรหมยานอนุสรณ์ 100 ปีเกิด
สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ 100 องค์ ในที่ดิน 13 ไรเศษที่ร่วมกันซื้อไว้​

จำนวน 71,999 บาท


ยังมีผู้ร่วมบุญเพิ่มเติมอีก(เป็นเงินสด นำไปสมทบที่วัดค่ะ)แล้วจะสรุปยอดให้ทราบอีกครั้ง หลังจากเสร็จงานบุญค่ะ

และขอเชิญทุกๆท่านไปร่วมบุญกันนะค่ะ เจอกันที่วัดค่ะ

กำหนดการ

วันอาทิตย์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ( ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 )
เวลา 08.39 น. ทำพิธีบวงสรวงท้าวมหาราชทั้งสี่
เวลา 10.00 น. สวดสะเดาะพระเคราะห์เสริมดวงชะตาชีวิต เพื่อเป็นศิริมงคล แก่ท่านและครอบครัว
เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล แด่พระจำนวน 76 รูป
เวลา 12.30 น. ฟังพระธรรมเทศนาเรื่องอานิสงส์การทอดกฐินสามัคคี โดยพระครูสาครธรรมโสภณ วัดโสภณาราม
เวลา 14.00 น. ถวายองค์กฐินสามัคคี โดยพร้อมเพรียงกัน พระสงฆ์กล่าวคำอนุโมทนา ประพรมน้ำพระพทุธมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี.... ​

ด้วยอานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ ขององค์พระรัตนตรัย มีสมเด็จองค์ปฐม องค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และเสด็จพ่อพันท้ายนรสิงห์ จงดลบันดาลให้ผู้เป็นเจ้าภาพร่วมบุญทุกท่าน จงหายทุกข์ หายโศก หายโรค หายภัย เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน บริบูรณ์ด้วย ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เจริญในธรรม " มิเตพาหุหะติ สัมปะติจฉามิ " ขอให้ทุกๆท่าน จง รวย รวย รวย ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ๊
​

ขออนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ

จันทรกาล

 

เหตุเกิดจากการรับร่วมบุญบวงสรวงที่วัดพระพุทธบาทห้วยทรายขาว


ขออนุญาตพี่น้ำใสนะคะ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดกับตนเอง
ก่อนที่ประวัติของดวงแก้วสขุมาลย์มารศรีและสหัสสบดีมณีรัตนะ
จะช่วยเฉลยเรื่องราวบางอย่างที่ได้รับมานานเกือบสองเดือน...
กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ เพราะเป็นปัจจัตตังจริง ๆ


เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ตาลได้ขอช่วยพี่น้ำใสบอกบุญบวงสรวงที่วัดพระพุทธบาทห้วยทรายขาว
ในตอนแรก ๆ ที่ตั้งกระทู้นั้น ตาลไม่ค่อยสบาย เป็นหวัด จึงทานยากะว่าจะนอนพักผ่อน
ตอนเคลิ้มจะหลับนั้นได้บังเอิญมองไปที่ปลายเท้าของตัวเอง
และได้พบกับคนสามคนยืนมองตนเองอยู่ ...


คนที่หนึ่งเป็นชายมีร่างสีขาวใสแต่ไม่สวมเสื้อผ้า
คนที่สองมีรูปร่างสูงใหญ่ประมาณสองเมตร กายสีดำ รัศมีกายสีดำ
ส่วนคนที่สามนั้นร่างเล็กกว่าเพื่อน ... ลักษณะไม่แน่ใจนัก
เพราะเมื่อมองถึงคนที่สอง จิตก็บอกว่าเขาคือ...มนุษย์เหล็กไหลแห่งวัดห้วยทรายขาว...


ในตอนนั้นได้อ่านเรื่องที่พี่น้ำใสเล่าเกี่ยวกับมนุษย์เหล็กไหล
แต่ยังไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร และเท่าที่ทราบ เขาได้จากไปแล้ว
จึงสงสัยว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นอาจจะไม่จริงก็ได้ ...
เพราะในเมื่อไปเกิดแล้ว เขาจะมาปรากฎตัวให้ตาลเห็นอีกทำไม...

 

..สรุปยอดทำบุญ-บูชาเพชรพญานาค ๘-๑๐ พย.๕๖ ค่ะ..



ขอให้ได้สมบัติอัศจรรย์ทันใช้ มีความคล่องตัวในการเงิน การงาน และทุกเรื่อง

ขอให้ครอบครัวมีความร่มเย็นเป็นสุข มีสุขภาพแข็งแรง และเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกว่าจะสำเร็จตามความปรารถนาแห่งตนค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

หมายเหตุ สำหรับการบูชาเพชรพญานาคที่มีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน เนื่องจากบางท่าน ขอรับด้วยตนเอง จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งค่ะ

 

..สรุปรายการร่วมบุญจากการประมูลดวงแก้ว ณ.วันที่ ๑๐ พย.๕๖



ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพเป็นอย่างสูงที่ได้ร่วมบุญอย่างเต็มกำลังตลอดมา

เดิมทีตั้งใจจะเปิดการประมูลดวงแก้วปฐพีธนสินธุ์ คู่กับดวงแก้วอีกดวง มีนามว่า "สีหบดินทร์ธนโชติ"
เนื่องจากเทวดารักษาดวงแก้วท่านให้เก็บไว้ก่อนไม่ให้นำออกประมูลในวันนั้น จึงรอดูว่า ท่านใดจะเป็นเจ้าของดวงแก้วสีหบดินทร์ธนโชติ หลังจากกลับจากงานกฐินวัดโพธิญาณรังสีแล้ว

เทวดาที่รักษาดวงแก้วได้ปรากฏตัวอีกครั้ง บอกว่า ให้นำดวงแก้วนี้มอบให้แก่คุณ mooom ด้วยเหตุผล ๒ ประการคือ

๑.เห็นควรได้ตามกำลังบุญ เนื่องจากคุณ mooom ได้เป็นเจ้าภาพใหญ่ในการถวายดวงแก้ว เพื่อเป็นบริวารกฐิน วัดศาลพันท้ายนรสิงส์ ท่านบอกว่า..

"ผู้ที่ถวายของที่เลิศ ควรได้รับของที่เลิศเป็นการตอบแทน"

๒. เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม และกระทำความดีต่อไปค่ะ

ส่วนจักรชมพูของคุณ phuya นั้น เป็นจักรที่ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือในเรื่องธุรกิจ และเป็นกำลังใจในการทำความดีค่ะ จักรที่ขึ้นมาชุดนี้มี ๔ องค์ค่ะ หนึ่งในนั้นเป็นของดิฉัน ๑ องค์

สำหรับปัจจัยที่เกินมาของทั้งสองท่าน ดิฉันได้แบ่งเป็น ๓ ส่วน ตามที่ได้แจ้งไว้ในตารางค่ะ เพื่อให้ต่อยอดบุญต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพ คุณ mooom และคุณ phuya อีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ขอโมทนาด้วยนะคะ กับทุก ๆ ท่านที่จะไปร่วมบุญในวันพรุ่งนี้
ไม่ได้ไปด้วยก็ขอเอาใจฝากไปทำบุญด้วยนะคะ
ทั้งบุญกฐินและบุญถวายดวงแก้วด้วยค่ะ
ว่าแต่พี่หม่อนหรือเปล่า ปิดยอดบุญสวยขนาดนี้ อิอิ...

 

ต่อนะคะ...


ในคืนนั้นได้นั่งสมาธิก่อนนอนตามปกติ
แต่น่าแปลกที่ในสมาธิยังเห็นสามคนนั้นยืนมองอยู่...
โดยเฉพาะพ่อหนุ่มคนที่สองที่ไม่ยอมใส่เสื้อผ้า
ดวงตาที่มองมานั้นมีแววเย้ยหยัน ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นชัดขึ้น...ชัดขึ้นเรื่อย ๆ
ร่างสีขาวเมื่อครู่หายไป เริ่มมีผิวหนังสีน้ำตาลห่อหุ้ม...และแล้ว ไคลแม็กซ์ก็มาถึง...


เมื่อผิวหนังทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นเนื้อสีแดง ๆ
เห็นชัดเจนแม้กระทั่งลายเนื้อทุกกล้ามบนร่างกายและใบหน้า
เนื้อสีแดงนั้นเริ่มมีเลือดแดงฉานไหลเยิ้มออกมาจากตัว มีกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง
ดวงตาสีดำเปลี่ยนเป็นสีแดง...กลวงและลึกโบ๋



เขาน่ากลัวมากค่ะ...และตาลก็ไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรมากขนาดนี้มาก่อน
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายไปทั้งกลุ่ม ก็รู้สึกโล่งใจ
คิดในใจว่าใครกันหนอมาก่อกวนถึงในบ้าน สงสัยจะไม่ใช่ระดับธรรมดาซะแล้ว...
ตาลจึงแอบตั้งชื่อพ่อหนุ่มคนที่สองว่า "มนุษย์เนื้อ"

 

คืนแรกที่เห็นนั้นไม่เจอกับอะไรอีก
ส่วนคืนต่อ ๆ มาก็ไม่เจออะไร...


ตาลก็ถอนหายใจโล่งอก และคิดว่าสงสัยเราจะคิดไปเองจริง ๆ ...
จนกระทั่งวันนั้น วันที่พี่น้ำใสโทรมาและให้ตาลหยุดบอกบุญบวงสรวง
โดยพี่น้ำใสจะรับผิดชอบเครื่องบวงสรวงทั้งหมดเอง
เพราะกำลังเจอกับศัตรูลึกลับที่มองไม่เห็น...เกรงว่าตาลจะโดนหางเลขไปด้วย...
ตาลก็ยินดีให้ตามที่พี่ขอเพราะรู้ว่าตนเองยังไม่แก่กล้าพอ...
ตาลก็เหมือนกับนกกระจิบหัดบิน... แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงพญาเหยี่ยว ถ้าฝืนคงจะโดนบี้ขี้แตกแน่
ในใจแอบกังวลกลัวพี่น้ำใสจะเป็นอะไรไป...แต่พี่เขาก็ยืนยันว่ารับมือไหว...
ซึ่งขอนับถือน้ำใจมาก ๆ ค่ะ พี่หม่อนด้วยที่กล้าประกาศออกสื่อว่าหากจะทำให้มาทำพี่หม่อนแทน
ซึ่งก็โชคดีมากที่พี่น้ำใสและพี่หม่อนยังอยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้...อิอิ

 

หลังจากนั้นตาลก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติ ...
แต่ในใจลึก ๆ ยังกลัวว่ามนุษย์เหล็กไหลจะไม่ยอกเลิกรา
จึงได้นอนจับพระขรรค์นาคราชและจักรในมือไม่ยอมห่าง
คืนนั้นก็ได้เรื่อง...เมื่อนอนไปสักพักจิตพลัดเข้าสู่ฌานสี่
กายทิพย์ที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ออกมาถือดาบไล่แทงคนแปลกหน้าพร้อมใช้กสิณไฟเผา
ทำเสร็จก็ถึงกับทรุดฮวบ... ที่แทงและเผาไปเมื่อครู่...
คือเทวดาในจักร...ท่านพ่อฐารปัตรออกมาตรวจดูความเรียบร้อยให้
เห็นท่านยืนยิ้มเย็น ๆ อยู่และไม่เป็นอะไรก็สบายใจ
แต่ก็ยังอดระแวงไม่ได้ ได้ลองเรียกหาท่านสิทธิสัตตะดู ...
ก็ดูเหมือนว่าสัญญาณจะไปไม่ถึง...
ท่านหายไปไหนหนอท่าน? ทำไมเวลาคับขันแล้วชอบหาตัวไม่เจอ แอบตัดพ้อรำพึงในใจเบา ๆ



หลังจากนั้นอีกหลายวันความระแวงจึงเริ่มลดลง
และเมื่อลดลงก็ได้พบกับเขา...มนุษย์เนื้อ...อีกครั้ง
มาคราวนี้ไม่พาเพื่อนมาด้วย มาคนเดียว แต่มาไม่ยอมเลิกรา
นั่งสมาธิก็เห็น ไม่นั่งสมาธิก็เห็น ไม่ต้องกำหนดจิตก็เห็น... เห็นทั้งวันทั้งคืน
ไม่รู้ทำไม...ตาลกลัวเนื้อสีแดง ๆ นั่นจนแทบบ้า ... สติจะหลุดเอาให้ได้
ความอดทนที่มีต่ำอยู่แล้วก็ยิ่งลดลงต่ำสุด ๆ สติเริ่มแตก...
นั่งสมาธิไม่ได้...เพราะกลัวจับใจ สุดท้ายจึงตะโกนร้องในใจ


"แน่จริงก็เข้าเอาชีวิตเราไปเลยสิ รออะไรอยู่ล่ะ มาบีบคอให้ตายคามือไปเลยดีไหม"


มนุษย์เนื้อยิ้มแสยะ เสร็จแล้วหายตัวไป
ตาลโล่งใจขึ้นมาอีกรอบ...แต่ไม่นานเขาก็โผล่มาอีก
คราวนี้ลูกบ้าตาลมันเยอะ นึกขึ้นได้ว่าท่านพระอาทิตย์เคยมอบจักรให้ไว้เพื่อป้องกันตัว
จึงอธิษฐานเรียกจักรออกมา ขยายจักรให้ใหญ่ขึ้น คมจักรหมุนเป็นเกลียวน่ากลัว
ได้ผล ดูจากสีหน้ามนุษย์เนื้อเหมือนกลัวจักร เขาจึงหายตัวไปอีกรอบ

 

อิอิ... พี่แทบเอาตัวไม่รอด มีอาการตกเลือดอย่างไม่ทราบสาเหตุ นาน ๒ เดือน จึงได้อธิษฐานกับครูอาจารย์ว่า ..


"หากอาการนี้เกิดจากโรคภายใน เช่น โรคมะเร็ง หรือเนื้องอก หรืออื่น ๆ อันเกิดจากกรรม ขอให้เลือดจงอย่าหยุดไหล แต่ถ้าไม่ใช่ ขอให้ภายใน ๓ วันนี้ เลือดหยุดไหลโดยฉับพลันทันที"

เป็นเรื่องแปลกว่า หลังอธิษฐานเสร็จ คืนนั้น ทุกอย่างหยุดเป็นปกติ ไม่มีอาการตกเลือดแต่อย่างใด แต่พอหลังจาก ๓ วันทุกอย่าง ก็กลับมาเหมือนเดิม คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ปกติ

จากนั้นได้ตั้งจิตอธิษฐานขอครูบาอาจารย์ทั้งสายพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน และสายหลวงปู่ฤาษีช่วยให้หายเป็นปกติ

อยู่มาคืนหนึ่งได้ฝันแปลก ๆ ว่า ตนเองและบุตรสาวได้ไปดูภาพยนต์ที่จัดทำ เพื่อบูชาพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง

หลังจากชมภาพยนต์เสร็จ เราอยู่ในห้องคล้ายห้องประชุมมีโต๊ะประชุมอยู่ตรงกลาง ท่านหนึ่ง เป็นสุภาพสตรีได้ออกมากล่าวว่า...

"ฉันขอขอบคุณพวกเธอที่ตั้งใจสืบสานวิชามโนมยิทธิอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ขอโมทนาสาธุการกับพวกเธอด้วย ขอให้รักษาวิชานี้ไว้ สืบต่อไปรุ่นลูกรุ่นหลานให้ครบ ๕๐๐๐ ปีนะ"

จากนั้นก็กล่าวแก่บุตรสาวของดิฉันว่า "ต่อไปหนูต้องช่วยแม่นะลูก"

ในที่แห่งนั้น ดิฉันไม่เคยรู้จักท่านเหล่านั้นเลย แต่เห็นว่า มีเด็กเพียง ๒ คน คือ เด็กชายคนหนึ่ง และบุตรสาวของดิฉัน ท่านผู้นั้นกล่าวต่อไปว่า..

"ต่อไปให้ขอขมาครูฝึกนะ เพื่อลดวิบากกรรม"
ท่านผู้นั้นมานั่งอยู่ตรงหน้าดิฉัน ดิฉันได้ก้มลงกราบที่ตักของท่าน ท่านรับไหว้ความรู้สึกของดิฉัน รู้สึกว่า ท่านผู้นั้นไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เป็นอาจารย์ในอดีตหรืออย่างไร เคยพบกันชาติไหนมาก่อน พยายามคิด ท่านบอกว่า..

"ฉันนะ เป็นคนสมัยเดียวกันกับเธอนั่นแหละ ไม่ใช่คนโบราณอะไร เวลานี้ฉันหลุดพ้นแล้ว แต่มาช่วยหลวงพ่อท่าน.."
ท่านหยุดพูด มองดูดิฉัน และกล่าวว่า..

" เธอนะมีโรคภายในอยู่ มา..ฉันจะช่วยถอนออกจากตัวเธอให้"

จากนั้นก็เห็นท่านล้วงเข้าไปในกาย และถอนสิ่งหนึ่งออกมา เป็นรากสีดำ และยาวมาก ดิฉันรู้สึกว่า ตัวเองไอ หลายครั้งจนตกใจตื่น และไอเป็นก้อนเลือด จากนั้นอาการตกเลือดก็ไม่ปรากฏอีกเลย

ความจริงเรื่องเดิมไม่คิดจะกล่าวในที่สาธารณะ แต่เมื่อน้องตาลได้เล่ามา และขออนุญาตทุกท่าน ท่านอนุญาตให้เผยแพร่เป็นธรรมทาน จึงมาบอกกล่าวเรื่องนี้ค่ะ

ภายหลังหลวงปู่เกษรี ท่านบอกว่า "อาการที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากไปยุ่งเรืองวัดทางเหนือ เขาทำให้เกิดโรคนี้ ต้องล้วงเอาของเสียภายในออกมา ครูบาอาจารย์มีแต่ผู้ชาย สัมผัสผู้หญิงไม่ได้ ได้ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีอาสามาช่วยแก้ให้"

ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในคุณของครูบาอาจารย์ ดิฉันได้ทำบุญกฐิน ๙ วัดแด่ทุก ๆ ท่าน เพื่อเป็นการบูชาครู แม้ว่าหลายท่านจะก้าวสู่แดนนิพพาน ไม่กลับมาเกิดแล้วก็ตาม

ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลในธรรมทานนี้ และโมทนาบุญในคุณความดีของทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ค่ะ

Numsai

 

เช้าวันต่อมาได้ปรึกษาพี่น้ำใสเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ตาลไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้เขาได้ นั่งสมาธิก็งู ๆ ปลา ๆ
แล้วทำไมต้องมาลงที่ตาล เห็นตาลเป็นอะไรฮึ ...
ถ้าจะขวาง ไปขวางคนที่เขาเก่งกว่านี้ ขี้เกียจน้อยกว่านี้สิ ...
พี่น้ำใสนิ่งไปสักครู่ก็บอกตาลว่า ... เขาเป็นเจ้ากรรมของตาลนะ


เฮ้ย ...คิดในใจ.....ในที่สุดความซวยสุด ๆ ก็บังเกิด...
เหมือนที่เคยพูดกับเพื่อนเสมอ ๆ...
สุดยอดของความซวยคือการเจอเจ้ากรรมนายเวรฝ่ายมอ...อา...รอ
ธรรมดาฝ่ายตรงข้ามธรรมดา ๆ ก็เหนื่อยจะแย่ ...
ทำไมเจ้ากรรมนายเวรเราต้องเป็นมิจฉาทิฎฐิด้วย แย่สุดสุดอ้ะ


"ตาลเคยเป็นมเหสีเขาค่ะ แล้วทีนี้ก็หนีตามผู้ชายไป" พี่น้ำใสบอก ส่วนตาลสะดุ้งโหยง
"คนที่หนีตามกันไปก็ไม่ใช่ใคร...ท่านสิทธิสัตตะค่ะ"
"เขารักมากก็แค้นมาก ทั้งรักทั้งแค้น"
โห...เราเคยเป็นหญิงโฉดใจชั่วขนาดนั้นเชียวหรือ...


"เพราะอายุห่างกันมาก เลยทำให้มีช่องว่าง ตอนนั้นตาลก็ยังเด็กด้วยค่ะ"
โธ่....นี่เรากำลังจะเจอกับเรื่องอะไรอยู่เนี่ย?

 

ในตอนนั้นที่ทราบเรื่องราวในอดีตเป็นเรื่องราวคร่าว ๆ ไม่คิดว่าจะมาโยงเกี่ยวกับประวัติดวงแก้วได้เลยค่ะ
ตาลก็พอเข้าใจว่ากฎของกรรม เราก็ต้องยอมรับ แต่รอให้เขาทำฝ่ายเดียว มันยุติธรรมที่ไหน
ถ้าสู้ได้ ตาลก็จะสู้สุดใจ อย่างมากก็แค่ตาย ทำนองตาต่อตา ฟันต่อฟัน ...


คืนนั้นเขาก็มาอีก... คราวนี้มาโดยไม่มีลักษณะของความแข็งกร้าวหลงเหลืออยู่
มานั่งคุกเข่าลงใกล้ ๆ ดวงตากลับเป็นสีดำธรรมดา...ตาลรู้สึกสงสารเลยนั่งคุยด้วย
"อดีตก็ผ่านมาแล้ว ท่านจะยึดติดไปทำไมกัน ชาติภพก็จบสิ้นแล้ว ที่ท่านถือเอาไว้รู้ไหมว่ามันหนักมันทรมานนะ"
เห็นเขาก้มหน้านิ่ง ตาลก็พูดต่อ
"อโหสิกรรมให้เราได้ไหม เราจำไม่ได้หรอกว่าอดีตเราเคยทำอะไรไว้ แต่ตอนนี้เราก็รับรู้แล้วและคิดว่าตัวเองทำสิ่งที่ผิดมาก ๆ ลงไป"
"ถ้าท่านอโหสิกรรมให้เรา เราทั้งสองก็จะเป็นอิสระนะ"


เขาดูเหม่อลอยแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?"
ตาลถอนหายใจยาว ๆ เฮ้อ... "ท่านก็รู้นี่ว่าเราแต่งงานแล้ว ทุก ๆ คนบนสวรรค์รับรู้หมดว่าเราเป็นใคร"
แววตาเขาดูแข็งกร้าวอีกครั้ง และจู่ ๆ ก็หายตัวไป
ตาลยักไหล่ คงหนีไปทำใจที่ไหนซักแห่ง แต่หารู้ไม่ว่าเขา...ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายดายอย่างนั้น


หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา...ตาลก็รู้สึกว่าตัวเองนั่งสมาธิไม่ได้เอาเสียเลย
กำหนดภาพพระไม่ได้ สวดพระคาถาเงินล้านไม่ได้
สวดพระคาถาเรวตะสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้
แม้กระทั่งนั่งสมาธิกำหนดพุธโธ ...ได้แค่คำว่าพุธคำเดียว ส่วนโธหายไปกับนิวรณ์
กำหนดใหม่ก็เป็นแบบเดิม และรู้สึกว่าตนเองฟุ้งซ่านสุดขีด
ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ไม่สามารถทำสมาธิได้ขนาดนี้...
รู้สึกได้เลยว่าตนเองฟุ้งซ่านยิ่งกว่าตอนยังไม่ได้ฝึกสมาธิอีก
เหมือนมีคนมากวนสมอง การจะจดจ่ออะไรเกินห้านาทีนี่ทำแทบไม่ได้...
จึงได้แต่นั่งจ้องพระพุทธรูปบนหิ้งพระเล่น ๆ พี่น้ำใสสั่งให้ฝึกวิปัสสนาญาณ
พิจารณาตามความเป็นจริง...ตาลบอกตรง ๆ ว่าตาลไม่ค่อยชอบเลย ตาลชอบสมถะมากกว่า
จึงได้อาศัยแต่ฟังท่านจิตโตเล่านิทาน แต่ก็ฟังไม่รู้เรื่องอีก ได้ยินแต่เสียงท่าน แต่จำไม่ได้ว่าท่านพูดว่าอะไร


หยิบหนังสือคำสอนของอาจารย์หมอสมศักดิ์เรื่องธรรมะที่นำไปสู่ความหลุดพ้นมาอ่านก็ไม่เข้าหัว
ช่วงนั้นตาลเลือกคำสอนของสมเด็จองค์ปฐมฯ มาหนึ่งย่อหน้าแล้วนั่งท่องทีละคำ ๆ
ต้องท่องถึงสองวันกว่าจะจำได้ทั้งหมดย่อหน้า และวันต่อมาก็ลืมหมดสิ้นทุกคำ
ปัญญาทรามลงอย่างเห็นได้ชัด ก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
แต่ก็ได้พยายามมากขึ้นทั้งนั่งสมาธิและเดินจงกลม อ่านหนังสือธรรมะและพิจารณาไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งจิตกลับมารวมกันอีกครั้งในวันหนึ่ง และวันนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น ...

 

อนุโมทนาบุญกับคุณวาสุเทพ และคุณ moom ด้วยนะคะ กราบขอบคุณพี่น้ำใสด้วยค่ะ วันนี้ได้อ่านกระทู้นี้แล้วเกิดปิติขึ้นในใจอย่างท่วมท้น หายเหนื่อยกับการทุ่มเท แรงกาย แรงใจ กับทุกๆ งานบุญ ที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มีกำลังใจในการทำความดีขึ้นมาอย่างฉับพลัน ชื่อจักรก็เพราะมากกกก " โชติการัศมี " เห็นชื่อจักรแล้วมีความสุขอย่างประหลาด (เฮ้อเป็นอะไนมากมั๊ยเนี่ย)

กราบขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับเทวดา นางฟ้า ที่เมตตาสงเคราะห์ นะเจ้าคะ

 

หากวันไหนที่ตาลนั่งสมาธิก่อนนอน จิตตกลงสู่อุปจารสมาธิแล้ว
คืนนั้นเป็นอันว่าจะได้ออกไปเที่ยวแน่ ๆ
เพราะจิตจะกำหนดจดจ่ออยู่ในอารมณ์นั้น ๆ เข้าฌานไปเรื่อย ๆ จนลึกลงสู่ฌานสี่
พอถึงจุดนั้น จิตจะดีดตัวเองออกมาจากร่างทันที คืนนั้นตาลก็เป็นแบบนี้
ทันทีที่ออกมาก็พบกับมนุษย์เนื้อที่ยอมสวมใส่เสื้อผ้า ... ตาลเบี่ยงตัวหนีเขาไปรอบบ้าน
รู้แต่ว่าตนเองหนีไปเรื่อย ๆ เขาก็ตาม ๆๆๆ จนกระทั่งถูกจับตัวได้...


ตาลจำได้แค่ว่าถูกขืนใจ ตื่นเช้าขึ้นมาก็รู้สึกแย่มาก อยากจะร้องไห้และกรีดร้องออกมาดัง ๆ
ทำไมเขาถึงสามารถทำเรื่องอย่างนี้ได้?
และทำไมเขาเป็นแค่เจ้ากรรมนายเวรถึงมีอำนาจมากระทำชำเราคนอื่นได้ขนาดนี้
ทั้งคิดทั้งแค้นและทั้งหวาดกลัว เมื่อถึงเวลากลางคืนก็รู้สึกกลัวจับใจ ไม่กล้านอน
หวาดผวา...ถึงจะได้นอนก็นอนหลับไปด้วยความกระสับกระส่าย
ความฝันในช่วงนั้นมีอยู่ฝันเดียวคือฝันว่าตัวเองวิ่งหนีไปรอบ ๆ
บางครั้งก็เหาะหนีแล้วเขาเหาะตาม เหาะไปก็ร้องเรียกให้คนอื่นช่วย
เรียกใครก็ไม่มีใครโผล่ออกมาช่วยสักคน เหาะหนีไปร้องไห้ไป
รู้สึกว่าตนเองถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครช่วย เป็นกรรมเป็นเวรอะไรของเราหนอ...
จนกระทั่งวันหนึ่งตาลฝันแบบเดิม...แต่ครั้งนี้มีนางฟ้าองค์หนึ่งลอยมาช่วย
ท่านมัดผมเป็นหางม้า ถือดอกบัวสีเขียวดอกน้อยอยู่ในมือข้างขวา มายืนประจันหน้าระหว่างตาลกับเขา

ตาลรีบแอบไปหลบข้างหลังท่านนางฟ้าท่านนั้น
เห็นมนุษย์เนื้อหยุดสะดุดกึกเหมือนไม่กล้าเข้าใกล้ จากนั้นก็เหาะหนีไป


ตื่นขึ้นมาวันนั้นตาลก็รู้สึกว่าเหมือนเคยพบท่านที่ไหนมาก่อน
จากนั้นก็ร้องอ๋อ เพราะบังเอิญไปเปิดเจอรูปหล่อของท่านแม่ทั้งสามในเว็บวัดท่าขนุน
องค์ที่ถือดอกบัวอยู่ในมือมีเพียงองค์เดียวคือ....ท่านแม่ใหญ่ แม่ศรีผู้เป็นมิ่งขวัญและดวงจิตของหลวงพ่อวัดท่าซุง


สาธุ ลูกขอน้อมกราบท่านแม่ด้วยความเคารพและซาบซึ้งอย่างสูงสุดเจ้าค่ะ

 

ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลที่นำประสบการณ์ต่าง ๆ มาเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่พวกเรา พระพุทธองค์ตรัสว่า..

"ทุกคนมีกรรมนำมาเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ไม่มีใครล่วงพ้นจากกรรมไปได้ ตนจะได้รับผลของกรรมนั้น"

สิ่งที่น้องตาลประสบมา เป็นเพียงเศษของกรรมเท่านั้น เพราะคู่กรณีเป็นกายละเอียด เพียงขวางการปฏิบัติธรรมของเราให้ล่าช้าเท่านั้น

หากเราศึกษาเรื่องกฏของกรรมจริง ๆ แล้ว ผู้ที่ผิดศีลข้อ ๓ นั้น พี่จะสาธยายให้ฟังตามลำดับ เพื่อจะได้ไม่ประมาท ขอกล่าวถึงฝ่ายหญิงก่อนค่ะ

จิตเศร้าหมองก่อนตาย ไปเกิดในนรกแห่งน้ำกามกรด เป็นนรกขุมย่อยจากขุมมหานรก ๘ ขุม สัตว์นรกจะแหวกว่ายในน้ำกรดนั้น ผู้เป็นชู้กันตกนรกพร้อมกัน จะถูกดึงดูดไปในขุมเดียวกัน ต่างเห็นกัน และว่ายน้ำเข้าหากัน น้ำกรดนั้นกัดร่างทั้งสองจนละลายแล้ว ฟื้นใหม่ จนกว่าจะหมดกรรมในนรกขุมนั้น

กล่าวอย่างคร่าว ๆ ว่า หลังจากใช้กรรมในนรกขุมใหญ่ ขึ้นมา->สิมพลีนรก-> ขึ้นมาเป็นเปรต --> อสูรกาย-->สัตว์เดรัจฉาน ประเภทสุนัข หรือลา -->มนุษย์

ระยะเวลาการใช้กรรมแต่ละคนไม่เท่ากัน ยัง ๆ กรรมนั้นยังไม่หมด หากเป็นหญิงที่เคยผิดศีลที่ไม่สำรวมในกาม จะไปเกิดเป็นหญิงโสเภณี ๕๐๐ ชาติ -->เกิดเป็นหญิงที่ทำงานกลางคืน ต้องใช้รูปร่างหน้าตา ไม่ว่าจะใช้คำว่า อาชีพอะไรก็ล้วนแต่เป็นผลของกรรมทั้งสิ้น อีก ๕๐๐ ชาติ

-->เกิดเป็นหญิงธรรมดา แต่ถูกข่มขืน ๕๐๐ ชาติ --> เกิดเป็นหญิงดี ๆ แต่เป็นโรคเช่น มะเร็งในมดลูก มะเร็งเต้านม อีก ๕๐๐ ชาติ --> เป็นผู้หญิงปกติ


เห็นได้ว่า ผลของกรรม ผิดศีลเพียงชาติเดียว กลับต้องใช้กรรมยาวนาน หากเราเห็นผู้ใดที่ยังใช้กรรมอยู่ อย่าไปวิจารณ์กรรมของใคร เพราะไม่แน่ว่า กรรมนั้นจะย้อนกลับมาหาผู้ตำหนิเอง

ขออนุโมทนาในธรรมทานของน้องน้ำตาลอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ต่อไปขอกล่าวถึงการผิดศีลข้อ ๓ ของฝ่ายชาย ก็ไม่น้อยหน้า จิตเศร้าหมองก่อนตายไปนรก (ตรงมหานรกนี้ กรรมจำแนกต่างกัน ไม่ขอเล่าละเอียดนะคะ)

เอาเป็นว่า ตกนรกขุมใหญ่ไปแล้ว ขึ้นมาสิมพลีนรก -->เปรต (ไม่ขอสาธยายความน่ากลัว) --> อสูรกาย ประเภทที่อยู่บริเวณโรงแรง แหล่งอโคจร กินน้ำกามเป็นอาหาร -->สัตว์เดรัจฉาน ประเภทสุนัข หรือลา -->มนุษย์


ขึ้นมาเกิดเป็นกระเทย/ทอม ๕๐๐ ชาติ-->เกิดเป็นเกย์ ๕๐๐ ชาติ -->ผุ้ชายที่มีอาชีพเกี่ยวกับการขายบริการ/ผู้ชายธรรมดา แต่โดนล่วงละเมิดทางเพศ --> ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นโรคเกี่ยวกับช่วงล่าง --> ผู้ชายปกติ

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุงเคยกล่าวว่า..

"กรรมใดที่เราเคยพลาดไป อย่าตามไปคิด ให้ตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ โดยเริ่มจากรักษาเป็นชั่วโมง รักษาครึ่งวัน รักษา ๑ วัน และรักษาเป็นปกติ

จากนั้นให้พิจารณาขันธ์ ๕ มันเป็นทุกข์ ให้คิดว่า ตายจากชาตินี้ไป ขอไปพระนิพพาน "

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai