ปู่อินทร์ตาทิพย์ 114 ปี

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Nirvana, 24 กรกฎาคม 2013.

  1. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    พิกัดชลบุรีค่า คุณพี่
    ถ้ามาระยอง พี่น้ำใสฯอาจจะได้มองแต่ต้นกล้วยที่มีลูกให้กินปีละหน
    กับมะนาวควายลูกโตๆจิ้มเกลือ

    คือว่า มะนาวควาย(แถวบ้านเรียกแบบนี้อ่ะ)มีที่มาดังนี้
    เมื่อครั้งไปเดินเที่ยวงานเกษตรที่ ม.เกษตร บางเขน
    เจอะเจอพ่อค้ามาขาย กิ่งต้นส้มจีน กิ่งละ 200 บาท
    เลยซื้อมาปลูกไว้ เวลาก็เนิ่นนานผ่านไป2ปี
    ก็ออกดอกออกผล ดูๆไป ทำไม๊ทำไม มันคล้ายมะนาวจังหว่า
    ลองชิมดู ก็มันมะนาว แน่แท้ เซงเบย
    จะเอาไปขว้างหัวพ่อค้า ก็มิรู้จะไปขว้างที่ไหน
    เลยเก็บไว้ดูเล่นๆเป็นอนุสรณ์


    ภาพเปรียบเทียบ สาลี่ กับ มะนาวควาย

    [​IMG]
     
  2. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    พี่น้ำใสฯ ยังไม่เคยเก็บ กระจับ
    มาบ้านน้องที่ ชลบุรี ได้เก็บแน่ๆ
    ดูรูปเป็นตัวอย่างไว้นะคะ ถ้ามาแล้ว จะได้เป็นงานเลย ^^


    [​IMG]

    ส่วนต้นนี้ เป็นมะละกอสีทอง ที่ตอนนี้ เหลือแต่รูปให้ดู
    ขอลาเจ้าของไปตั้งแต่น้ำท่วม ที่ผ่านไปนี้เอง
    ต้องรอ รุ่นใหม่ กว่า คุณพี่น้ำใสฯจะไป อาจได้กินก็ได้


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2013
  3. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    โห...ลูกเท่าควาย เจงๆ ฮ่าๆๆๆ

    พี่น้ำใสจำได้ติดตา รสชาดมะนาวพันธุ์นี้ มีหลายคนเตือน ห้ามบีบใส่น้ำพริก ส้มตำ ต้ม ยำ ทำแกง เด็ดขาด

    แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มะนาวลูกละ ๑-๒ บาท ที่บ้านพี่น้ำใสฯ ขี้เกียจออกไปซื้อ ก็ได้มะนาวพันธุ์นี้แหละค่ะรองท้อง

    รสชาติก็พออนุโลม อยู่น่ะจ้า
     
  4. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    ที่ระยอง เคยมีช่วงมะนาวลูกละ8บาทด้วยค่า
    แตนและบ้านข้างๆ ก็ได้ใช้เจ้าต้นนี้เป็นประโยชน์
    แต่ตอนนี้ เก็บมะนาวจากชลบุรีมาเป็นหอบ
    ถึงเจ้ามะนาวควายมันจะดกมาก ก็ไม่ค่อยจะแลซะเท่าไหร่ ^^
     
  5. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    เพิ่งเคยเห็นว่าเค้าเก็บกระจับกันแบบนี้ เป็นความรู้ใหม่ ค่ะ ปีหน้าขอเปลี่ยนอาชีพใหม่เลยน๊อ! ท่าจะเวิร์ค อิอิ

    ดูแล้วคิดถึงตอนงมหอย ( งม หอย ) ไม่รู้จะเหมือนการงมหอยในน้ำรึปล่าวนะ

    เมื่อก่อนพี่น้ำใสมีอาชีพงมหอย อาทิ หอยจูบ(หอยขม) หอยโข่งนา ฯลฯ

    มุดๆคลำๆ ก็พอรู้ว่าลูกไหนเต็มลูกไหนโหว่

    สำคัญคือ ระวังหอยบาดมือ และเศษหนามในน้ำ

    และที่สำคัญที่สุดมากกว่านั้น

    การเป็นหญิงกรรมมักคอยตามติดเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ตอนลงน้ำ

    ไม่อยากคิดเลยเน๊อ ...เหอ ๆๆๆ ...
     
  6. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ช่วงนี้ขออนุญาตกระทู้ แชร์รูปภาพเรื่องราวในรั้วในสวน ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติโดยตรง ก็พยายามมองว่าเกี่ยวโดยอ้อมก็แล้วกัน ค่ะ

    วันก่อนเราชมผลไม้ในสวนแถวระยอง ชลบุรี อันอุดมสมบูรณ์จากน้องแตนกันไปแล้ว

    วันนี้เราลองมาชมสวนสมุนไพรแถวทางเมืองน้ำดำ (อันแห้งแล้ง)จากคุณน้ำใสฯกันบ้างค่ะ

    อยากให้สมาชิกคนเมือง คนบางกอก อย่างคุณมณีจำปา เป็นต้น อิอิ...


    ได้เห็นรูปต้นไม้พันธุ์ไม้ ในบ้านของเราเอง ถ่ายรูปเอง ไม่ได้ตัดต่อค่ะ

    ส่วนคุณประโยชน์ของต้นไม้เหล่านี้ เดี่ยวเราค่อยมาดูกันจ้า


    [​IMG]

    เครือหมาน้อย

    [​IMG]

    ทองพันชั่ง

    [​IMG]

    พลู

    [​IMG]

    ฝางแดง

    [​IMG]

    ใบชะมวง

    [​IMG]

    ต้นศรีชมชื่น

    [​IMG]

    ดาหลา
     
  7. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ขอคั่นบรรยากาศสวนป่าและผลไม้ไทยสักเล็กน้อยครับ
    ลองตามLink นี้ดูครับ

    http://www.kroobannok.com/blog/7046

    ....ขออนุญาตสานต่อเรื่องปู่เทพโลกอุดร...เพราะครูรัชนีได้ติดตามเรื่องราวลี้ลับนี้พอสมควรจึงได้นำ

    ข้อมูลบางส่วนมาเพิ่มเติมให้ผู้อ่านได้ทราบ ถึงปาฏิหารย์หลวงปู่ทราบมาว่าบางครั้งปรากฎกายเป็นเด็ก..บางครั้งเป็นคนแก่..บางครั้งเป็นคนพิการ..เพื่อทดสอบจิตมนุษย์เรา..

    ประสบการณ์ลี้ลับ:พระภิกษุลึกลับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร”

    จากได้ติดต่อสัมภาษณ์ คุณพิศมัย ทรัพย์สุคนธ์ “หมอดูลายเท้า” ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับท่านหนึ่ง ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เมื่อได้พูดคุยกันคุณพิศมัยได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ประหลาดที่ได้พบเห็นหลากหลายเรื่องราว นับจากวัยเด็กที่คุณพิศมัยฝึกนั่งสมาธิ ท่านก็ได้ไปเยือนในภพภูมิเทวดาและได้ติดต่อพูดคุยกับโอปปาติกะชั้นสูง แม้แต่การจะช่วยเหลือคนในบางครั้งก็ได้วิธีที่ “ข้างบน” กำหนดลงมา


    คุณพิศมัยเป็นอีกคนหนึ่งที่เวลาพูดอะไรออกไปแล้วมักจะเกิดเหตุการณ์นั้น นั่นเป็นเพราะครั้งหนึ่ง คุณพิศมัยเคยพบกับพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชา ท่านได้ให้พรอันหนึ่งว่า “เมื่อจะพูดอะไรออกไปขอให้เป็นจริงตามนั้น” เรื่องนั้นเกิดขึ้นนานแล้ว คุณพิศมัยยังจำได้ไม่ลืม เธอได้เล่าให้ฟังว่า

    “สมัยนั้นสามีฉันเป็นนายสถานีรถไฟใหญ่ที่หัวลำโพง ฉะนั้นเวลาคนสำคัญมาก็ต้องต้อนรับ หลวงพ่อท่านคล้ายวาจาศักดิ์สิทธิ์ ท่านนั่งรถไฟมาลงที่หัวลำโพง มีคนไปต้อนรับท่านเยอะ ขาท่านไม่มีข้างนึงนะ ไปไหนต้องมีคนอุ้ม ก็ได้พบและกราบท่าน ครั้งนั้นท่านได้ให้พร คือให้ฉันพูดอะไรเป็นจริงเหมือนท่าน แล้วก็เป็นจริงๆ จนหลายคนบอกว่าฉันนี่มีอะไรแปลกๆ ในตัวเสมอ”

    ภายในห้องกระจกที่ใช้รับแขกหรือตรวจดูลายเท้าที่บ้านของคุณพิศมัยนั้นมีลักษณะที่น่าสนใจ เพราะเต็มไปด้วยรูปเคารพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และรูปภาพของเหล่าเกจิอาจารย์มากมาย และมีอยู่รูปหนึ่งเป็นรูปของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ซึ่งคุณพิศมัยให้ความนับถือ เคารพบูชากราบไหว้อยู่ทุกวัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาจารย์ได้พบปรากฏการณ์มหัศจรรย์เกี่ยวกับพระภิกษุรูปนี้มาแล้วนั่นเอง คุณพิศมัยย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

    “ตอนนั้นฉันไปอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ท่านก็ไปเข้าฝัน คือปกติท่านจะมาในนิมิตบ่อย มาบอกคาถาให้หรือมาเตือนด้วยเรื่องต่างๆ คราวนี้ท่านมาเข้าฝันบอกเรื่องราวบางอย่าง ทำให้เรานึกไปถึงลูกชายที่เมืองไทย ก็เลยโทร.มาหาลูกชายบอเขาว่า ถ้ามีคนแก่ขอทานมาที่บ้าน มาในลักษณะของท้าวแสนปม หน้าตาไม่ดีก็อย่าไปว่า อย่าไปไล่เขานะ ให้ทานเขาไป แล้วก็จริงๆ พอ 3 วันจากนั้นท่านก็มาเลย มาให้เห็น ลูกชายบอกเห็นยืนอยู่หน้าบานแว๊บเดียว พอหันมาอีกทีก็หายไปแล้ว ท่านมาลองว่าลูกชายใจบุญมั้ย (หัวเราะ)

    ผู้เขียนบังเอิญไปเห็นรูปของคุณพิศมัยที่ถ่ายไว้ที่ประเทศฮอลแลนด์ และได้เห็นรอยภาพปริศนาที่ประทับอยู่หน้าผากของเธอ ซึ่งเป็นรอยอะไรนั้น คุณพิศมัยบอกว่า

    “ผู้หญิงที่ถ่ายกับฉันในรูปคือคนไทยชื่อ ซูซาน เขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แล้วคนนี้เขานับถือหลวงปู่เทพโลกอุดรอยู่แล้ว แต่ฉันไม่รู้ เพราะตอนไปที่นั่นก็ไปดูให้กับลูกศิษย์ พอดีเขารู้ข่าวเขาก็ต้องการจะลองดูบ้าง ก็เชิญฉันไปพักที่บ้านเขาคืนนึง ปรากฏว่าคืนนั้นฉันก็นอนไม่หลับ ก็บอกกับเขาว่า สงสัยในบ้านเธอต้องมีอะไรซักอย่าง เขาบอกว่า มี‚เดี๋ยวจะเอามาให้ดู ก็เห็นเขาถือก้อนหินมาก้อนนึง ฉันก็ไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เขาก็เอามาให้ถือ ให้อธิษฐาน พออธิษฐานปุ๊บ‚เชื่อมั้ย รูปหลวงปู่เทพโลกอุดรก็ปรากฏอยู่บนหน้าผากฉันเลย ฉันร้องไห้เลย ร้องโดยไม่รู้ตัว ประหลาดมาก และทำให้ฉันนับถือท่านยิ่งขึ้น”

    คุณพิศมัยให้คาถาบูชาหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งอาจารย์บอกว่าหลวงปู่มานิมิตบอกให้โดยตรง ซึ่งหากใครท่องบูชาและอธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครอง สิ่งต่างๆ ที่ไม่ดีก็จะถูกปัดเป่าให้พ้นไป บางคนท่องบูชามากๆ เข้าจะสามารถสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างได้ คาถาบทนนั้นเริ่มต้นด้วย นะโม 3 จบ และตามด้วย
    “โลกุสสะโร มหาเถโร อะหังวันทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ”

    “หลวงปู่เทพโลกอุดร” คือใครนั้นเป็นความลึกลับอย่างหนึ่งในวงการสงฆ์ มีการกล่าวขานถึงท่านมานานว่ามีอยู่จริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวง เรื่องราวของท่านเคยขึ้นหน้า 1 เป็นข่าวครึกโครมเมื่อราวกลางปี 43 เนื้อข่าวระบุว่าเรื่องของ หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นและดูงมงาย พิสูจน์ไม่ได้ แต่พาดหัวข่าวไม่กี่วันเรื่องก็เงียบไป จริงๆ แล้วพระภิกษุรูปนี้จะมีจริงหรือไม่ ผู้เขียนไม่ขอชี้นำ แต่ขอให้ผู้อ่านลองฟังเรื่องราวจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรงได้เล่าไว้ถึงความเป็นมาของพระภิกษุรูปนี้ดูก่อน

    เมื่อได้สัมผัสพูดคุยกับผู้ที่เคยพบเห็นพระภิกษุรูปนี้หลายๆ คนแล้วจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนว่า ถ้าหลวงปู่เทพโลกอุดรไม่มีตัวตนจริงในโลก เหตุใดจึงมีใครหลายๆ คนเคยพบเห็นภาพลักษณ์ของท่านและบรรยายลักษณะของท่านออกมาได้ตรงกัน คือเป็นพระภิกษุที่มีลักษณะเหมือนคนโบราณ มีผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศรี น่าเคารพนับถือ ดูจากรูปร่างภายนอกดูหนุ่มแน่น แต่ศีรษะกลับมีผมหงอกขาวโพลนและมีเท้าใหญ่กว่าคนปกติทั่วไป

    จากข้อมูลเกี่ยวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ที่ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ กล่าวได้ว่า หลวงปู่ฯมีประวัติความเป็นมาที่ลึกลับซับซ้อน ไม่มีหลักฐานใดมายืนยันได้ว่าท่านเกิดในสมัยใด มาจากไหน ทำให้มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องของท่านกันอย่างกว้างขวาง สำหรับผู้ที่สนใจความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนา จนมีข้อสรุปและสันนิษฐานว่า “หลวงปู่เทพโลกอุดร” คือพระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา มีความเป็นอมตะไม่ตาย โดยอาจเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งเมื่อครั้งพุทธพาลที่นิพพานไปแล้ว แต่ยังมีธาตุขันธ์อยู่

    คำว่า “นิพพาน” ตามหลักพุทธศาสนา หมายถึง การดับกิเลสและกองทุกข์ ซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ซึ่ง “นิพพาน” นั้นมีอยู่ 2 อย่าง คือ
    1. สอุปากิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสขณะยังมีเบญจขันธ์เหลืออยู่
    2. อนุปาทิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสโดยไม่มีเบญจขันธ์เหลืออยู่



    เสียงจีวรสะบัดพรืดเดียว ปรากฏว่ารถทั้ง 31 คันได้รับการเจิมเป็นอักขระด้วยแป้งที่หอมมาก และแต่ละคันอักขระจะไม่เหมือนกันเลย แต่หอมและติดอยู่นานเป็นเดือน เมื่อท่านเดินขึ้นมาบนศาลา ท่านเดินไปที่ตุ่มน้ำมนต์ แล้วชี้ไม้เท้าไปที่ตุ่มน้ำมนต์เป่าลมเสียงดัง 3 ครั้ง อ่างน้ำมนต์กระเทือนจนน้ำมนต์กระฉอกขึ้นทั้งสามครั้ง พอท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่กองมะพร้าวน้ำหอม 20 กว่าลูกที่ทุกคนถวาย กองมะพร้าวก็สั่นสะเทือนและแห่งหมดทุกใบ เสร็จแล้วท่านก็เดินวนรอบคณะผู้มาทอดกฐินที่นั่งเรียงแถวกันอยู่

    ทุกคนพากันเอาเงินทำบุญใส่เบญจขันธ์หรือขัน 5 ในที่นี้ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขารและ วิญญาณ มีผู้อ่านหลายท่านเข้าใจว่า “การนิพพาน” คือศัพท์ที่ใช้เรียกพระอรหันต์ที่มรณภาพแล้วเท่านั้น และเมื่อพระอรหันต์นิพพานก็ต้องหายไปจากโลกนี้ เพราะได้ตายจากไปแล้ว แต่แท้ที่จริง “การนิพพาน” ของพระอรหันต์นั้นมี 2 แบบ อย่างที่กล่าวไว้และหลายท่านอาจจะเข้าใจขึ้นว่า เพราะเหตุใด หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านจึงยังคงมีร่าง มีฤทธิ์ให้ใครต่อใครได้เห็นอยู่อีก?

    ผู้เขียนเคยได้พูดคุยกับพระภิกษุและฆราวาสที่ฝึกจิต ปฏิบัติธรรมหลายท่านที่ต่างเคยได้พบเห็น “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ทั้งเห็นใน “จิต” และเห็นจาก “ตาเนื้อ” เคยถามว่าถ้าหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านอยู่ที่ไหน คำตอบได้มาเหมือนกัน ทุกคนบอกว่า ท่านมักอยู่ในดงลึกที่เงียบสงบและอยู่ในทุกภพทุกภูมิที่ท่านต้องการไป ผู้ที่จะเจอท่านได้ต้องปฏิบัติธรรมให้ได้ญาณและบารมีสูงพอที่จะเข้าไปสู่มิติของท่านได้

    และในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมา หลวงปู่เทพโลกอุดร มักนำพาบุคคลที่มีความพิเศษพอที่จะฝึกจิตได้ทั้งพระและฆราวาสไปฝึกในป่าลึก บุคคลเหล่านั้นหลายท่านยั้งมีชีวิตอยู่ในสมัยปัจจุบันที่เรารู้จักก็มี อาทิ หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี พ.อ.ชม สุคันธรัต ครูบาลุ่ม สันตจิตโต วัดจันทาราม จ.เพชรบูรณ์ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล จ.อยุธยา หลวงปู่โงน โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ปู่โทน หลำแพร (เป็นฆราวาส เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2543) ฯลฯ

    เรื่องราวของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” มีบุคคลหลายวงการให้ความสนใจและพิสูจน์ เมื่อครั้งที่ท่านมาปรากฏตัวและแสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์ที่วัดโนนชาด อ.คำตะกร้า จ.สกลนคร นั้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ บุคคลสำคัญ นักวิชาการบางท่าน รวมถึงชาวบ้านได้ไปรอดูเพื่อพิสูจน์กันอย่างมากมาย และก็ได้เห็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เหตุการณ์ในวันนั้นทางวัดโนนธาตได้จัดให้มีการทอดกฐินเพื่อถวาย หลวงปู่เทพโลกอุดร

    เมื่อตั้งองค์กฐินเสร็จ ทุกคนก็สวดมนต์ พอทั้งหมดสวดมนต์จบขณะที่ก้มลงกราบพร้อมกันก็ปรากฏเหตุมหัศจรรย์ มีพระภิกษุรูปหนึ่งสูงเกือบ 2 เมตร ห่มจีวรลึกลับเข้มคลุมตลอดศีรษะ ผมของท่านเป็นหางเปียขนาดใหญ่ยาวเกือบถึงพื้น ท่านปรากฏกายให้ทุกคนเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ ท่านกระแทกไม้เท้ากับพื้นดังสนั่นแล้วชี้ไปที่องค์กฐินที่ทุกคนต้องถวาย กุฎิทั้งหลังสั่นสะเทือน พอทุกคนก้มลงกราบเสร็จเงยหน้าขึ้นมาดู ท่านก็หายไปแล้ว เหลือแต่กลิ่นหอมประหลาด กลิ่นหอมนี้ไม่เหมือนดอกไม้ที่มีในโลกมนุษย์ หอมมาก

    และสักครู่ทุกคนก็ได้ยินเสียงไม้เท้ากระทบพื้นอีกครั้ง เมื่อต่างเหลียวไปดูที่ทางเดินก็เห็นพระภิกษุรูปนั้นเดินมาบนถนน ท่านเดินผ่านรถทั้งหมด 31 คันที่จอดอยู่ ทุกคนได้ยินเสียงจีวรสะบัดพรืดเดียว ปรากฏว่ารถทั้ง 31 คัน ได้รับการเจิมเป็นอักขระด้วยแป้งที่หอมมาก และแต่ละคันอักขระจะไม่เหมือนกันเลย แต่หอมและติดอยู่นานเป็นเดือน เมื่อท่านเดินขึ้นมาบนศาลา

    ท่านเดินไปที่ตุ่มน้ำมนต์ แล้วชี้ไม้เท้าไปที่ตุ่มน้ำมนต์เป่าลมเสียงดัง 3 ครั้ง อ่างน้ำมนต์กระเทือนจนน้ำมนต์กระฉอกขึ้นทั้งสามครั้ง พอท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่กองมะพร้าวน้ำหอม 20 กว่าลูก ที่ทุกคนถวาย กองมะพร้าวก็สั่นสะเทือนและแห้งหมดทุกใบ เสร็จแล้วท่านก็เดินวนรอบคณะผู้มาทอดกฐินที่นั่งเรียงแถวกันอยู่ ทุกคนพากันเอาเงินทำบุญใส่ย่ามท่าน มีบางคนเมื่อเอาเงินใส่ไปในย่ามแล้วก็พยายามล้วงไปจนสุดย่าม แต่ปรากฏว่าล้วงเท่าไหร่ก็ไม่ถึงก้นย่าม มีแต่ความว่างเปล่า ทั้งๆ ที่เห็นว่าทุกคนเอาเงินใส่ย่ามถวายท่านจนเต็ม

    ขณะกลับท่านเดินลงบันได ทุกคนเห็นท่านเดินลงไปที่ถนนแล้วก้าวลอยขึ้นไปบนอากาศหายไปบนท้องฟ้าท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ศรัทธาและผู้ที่มาดูเพื่อพิสูจน์จำนวนมากเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง

    ยังมีเรื่องราวหลักฐานที่น่าสนใจอีกมากเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดร ถ้าท่านสนใจอยากติดตามหรือค้นคว้าก็ลองหาอ่านได้จากหนังสือที่ผู้เขียนใช้อ้างอิง ซึ่งเมื่อท่านได้อ่านแล้วเชื่อว่าจะวางไม่ลงทีเดียว ในส่วนของการจะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องของ หลวงปู่เทพโลกอุดร นี้ ผู้เขียนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เราควรพิสูจน์ให้รู้ได้ด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่ยังสงสัยไม่แน่ใจเมื่อได้อ่านเรื่องราวของหลวงปู่ฯแล้วลองฝึก “จิต” ดูบ้างซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น

    พระพุทธเจ้าท่านยังตรัสว่า “ผู้ใดอยากรู้ในสิ่งที่ตาเนื้อมองไม่เห็น อยากรู้สภาวะแห่งนามธรรมต้องทำจิตให้ว่างและผนึกความว่างแห่งตนเข้ากับความว่างของจักรวาล จึงจะรู้ทุกสรรพสิ่ง เพราะ “จิต” เท่านั้นที่จะสามารถอธิบายความลี้ลับของวิญญาณได้”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2013
  8. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    "อนุโมทนา" เพียงกดปุ่มด้านขวามือ ก็ใช้ได้แล้วครับ
    เว้นแต่มีเจตนาอื่นแฝง

    เพราะคำว่า "อนุโมนา"...จะถูกลบออกจากกระทู้โดยผู้ดูแลบอร์ด
     
  9. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    มีโอกาสพบพูดคุยคนที่อยู่ในงานเหตุการณ์...หลวงปู่ใหญ่เหาะมางานครั้งนั้น 2 ท่าน ด้วยกัน และอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งนานมาแล้ว..
    แต่ไม่คิดว่าจะเจออีกคนในเน็ท

    คนแรก...เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรใหญ่ในกรุงเทพ
    คนที่สอง...เพื่อนบ้านที่ชอบเรื่องการปฏิบัติธรรม เรื่องลี้ลับ


    (รายหลังนี้พอหลวงปู่ใหญ่เดินมาในศาลา บรรยากาศมืดปราศจากแสงไฟใดๆ ..แต่พอหลวงปู่ใหญ่มา ร่างท่านสูงใหญ่ กว่าคนปกติมาก และมีบรรรยากาศกลิ่นหอม...กระจายไปทั้งศาลา
    หอมมาก หอมแบบไม่เคยเจอที่ไหนเลยทั้งชีวิต

    พอหลวงปู่เดินเข้ามาใกล้ๆตัวแก...แกก็หยิบเอาเหรียญบาท ช้างสามเศียร สมัยร.5 ราคา เช่าหากันหลายตังค์ หยอดใส่ลงในย่ามหลวงปู่ใหญ่เพื่อหวังให้ท่านปลุกเสกให้..

    แต่แกพิเรนหน่อย ดันยื่นแขนเข้าไปล้วงในย่ามคว้านมือด้วยจนสุดแขน...ปรากฏว่าสุดแขนแกพบแต่ความว่างเปล่าในย่าม...ไม่เจออะไรแม้แต่ก้นย่าม
    ทั้งที่ย่ามใบนั้น ก็ดูไม่ใหญ่โดอะไรเลย)

    พอคณะท่านหลวงปู่ใหญ่เหาะหายไป พร้อมกับย่ามนั้น
    ตอนเช้าก็มีคนนำเหรียญนั้นกลับมาคืนให้
    " บอกหลวงปู่ท่านให้เอามาคืน"

    ...งงมึนตึ๊บเลย " มืดก็มืดในศาลา..มองหน้าคนใกล้ๆยังดูไม่เห็น
    ดูไม่ออก..ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

    แล้วเขารู้ได้อย่างไงว่าผมใส่อะไรลงไปในย่าม...ทั้งที่ก็มีคนยัดของลงย่ามกันเยอะแยะรวมทั้งกล่องพระสร้างใหม่...ใส่ในย่ามเป็นลังใบใหญ่ๆเบอเริ่มเทิ่ม..แต่ก็ใส่ลงในย่ามใบนั้นได้หมด

    แล้วทำไมมีคนนำเหรียญ ร.5 เหรียญเดิม
    มาคืนตัวเจ้าของเก่าได้ถูกต้อง.....มหัศจรรย์ไหมล่ะ!!
    ???
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2013
  10. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    เกิดมาเพิ่งเคยเห็นต้นกระจับ ประหลาดมาก !!!
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    เดี๋ยวบ้านบางบาดาลของป้าท่วมอีกทีนึงก่อน

    จะเอาต้นกระจับซัก 1 กอ ไปฝากปลูกไว้ด้วย
    เผื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ของป้า ยามน้ำท่วมถาวร....จร้า
    [​IMG]
     
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    อ่ะ..นี่สนใจเรื่องที่ผมเอามาลงบ้างมั๊ยนี่ฮึ?
    มาคุยกันแต่เรื่องกระจับอยู่นั่นแหละ...

    กระจับเป็นพืชน้ำคล้ายๆผักตบฯ
    แต่มีสีออกแดงๆเข้มๆ ลำต้นเล็กกว่า ผลของมันคงจะเป็นรากแบบแปลกๆ

    กระจับปลูกกันเยอะๆก็ดีครับ
    นักมวยชาย ใส่ไว้ขึ้นชก เวลาโดนตีเข่า ...จะได้ไม่จุก
     
  13. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    โถๆๆๆ อารัยน๊า ทำให้ใจน้อยได้ถึงขนาดนี้ ดูอายุก็ยังหนุ่มยังแน่นนี่นา... หุหุหุ

    เรื่องปู่เทพฯเป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนนะ อยากถามอยากสนใจเหมือนกันจ้า
    แต่เกรงใจว่าถ้าหากถามไปเราคงเปิ่นแน่เรย และคงไม่มีใครเข้าใจคำถามเรา

    เมื่อก่อนสวดมนต์ยาวก่อนนอนทุกวัน ตามด้วยนั่งสมาธิจนสงบ ไม่เคยคาดหวังอะไร

    (เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้สวด ได้นั่ง แต่รู้ว่าทุกอย่างมีจริง)

    มีช่วงหนึ่งได้บทสวดบูชาปู่เทพฯมา ก็เลยสวดทุกบทที่เกี่ยวข้อง รู้สึกเลยว่าขนลุกซู่แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    และที่น่าแปลกคือมีเสียงจิ้งจก ตุ๊กแก ที่บ้านมีประมาณ3-4 ตัว ร้องตุ๊กแกๆๆๆ พร้อมๆกัน

    หลังจากนั้นเราเลยค้นหาอ่านประวัติความเป็นมาของปู่เทพฯ จนเกลี้ยง หมดสงสัย

    และอื่นๆ ก็มีที่ไปที่มาคล้ายๆกับทีคุณtoplus นำมาแชร์ นี่ล่ะจ้า ขอบคุณหลายๆ

    น่าน! เห็นมะ มีคนสนใจแล้วน๊า .... มีอะไรจะคอมเมนท์ ว่ามาท่าน..........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2013
  14. Twana

    Twana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +725
    555555 มุุขตลก กระจับ เราไปชลฯกันดีกว่า

    สาธุ ดีใจเหลือเกิน ที่ได้คาถาสวดเคารพหลวงปู่ เป็นผู้หญิง ก็จะสวด แต่ กลัว ตุ๊กแกจัง ให้อยู่บ้านน้ำดำไปก็แล้วกัน ม่ายรู้ หน้าตาเหมือนลุง รึเปล่าน่ะสิ 55555
     
  15. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    ก็ขอเชิญชวนมาดำน้ำจับกระจับกันที่ ชลฯ กันเลยค่า ^^

    ส่วนตุ๊กแก ก็ ขอให้อยู่แค่บ้านน้ำดำเช่นกัน
    ไม่ต้องเอามาเป็นของฝากนะเจ้าคะ ท่านพี่น้ำใสฯ
    เพราะเคยมี มาอยู่ที่บ้าน1ตัว เราบ่นนิดหน่อยว่า
    ถ้าจะอยู่อย่าได้ไปเสนอหน้าชวนเพื่อนฝูงมาอยู่นะเธอ
    เท่านั้นหล่ะ ทำน้อยใจ หนีหายอกจากบ้านไปอยู่บ้านอื่นเลย
    นี่ถ้าไม่บ่นดักไว้ก่อน ได้ชวนฝูงมายึดบ้าแน่ๆ ชิชิ

    *******************************

    กราบขอบพระคุณ ท่านอ.toplus99 ที่ได้นำบูชาหลวงปู่มาให้
    เริ่มรู้จักหลวงปู่ตั้งแต่ สมัยไปอยู่วัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ
    คือ รู้จักแต่เรื่องราวท่าน ผ่านอักษรน่ะค่า
    เคยมีอาจารย์นำจินตนาการ ไปกราบหลวงปู่
    แล้วถามว่า หลวงปู่บอกอะไรบ้าง
    แฮะๆ นู๋ก็เห็นแค่ท่านยิ้มๆหล่ะค่า ปัญญานู๋มีเท่านี้
     
  16. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    [​IMG]

    ป้าไม่ต้องกลัว....จร้า

    Nirvana หล่อกว่าตุ๊กแก...ตุ๊กเข้ เยอะนะจ๊ะ... [​IMG]
     
  17. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    งั้นปีหน้าเราลุยไปเก็บกระจับที่ชลฯกันค่ะ

    .........

    บ้านที่กล่าวถึงเป็นบ้านน้องน้ำใสฯ เป็นบ้านไม้ ห้องพระเป็นห้องโถงค่ะ จิ้งจก ตุ๊กแก จะชอบและเข้านอกออกในได้สะดวก

    เวลาเราสวดมนต์บรรดาสัตว์โดยเฉพาะตุ๊กแกจะเข้ามาฟังแล้วอนุโมทนาตาม เป็นเรื่องปกติ จนชินแล้วค่ะ

    ส่วนมากพวกเค้าจะร้องอนุโมทนาทีละตัว ถ้าวันไหนมีอนุโมทนาพร้อมกันหลายๆตัว เราก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองว่ามีอะไรที่แปลกไปจากเดิม

    เป็นการซักซ้อมไว้เวลาไปนอนวัดหรือนอนป่าก็ต้องเจอแบบนี้


    ส่วนบ้านลุง มิชิดดีมาก แม้แต่มดก็ต้องขออนุญาตก่อนเข้าไปค่ะ

    อย่างป้าจะเข้าไปก็ต้องโดนสกรีนก่อนทุกครั้ง คุณสมบัติไม่ผ่าน ก็ อด จ้า

    เพราะขืนเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้า บรรดาเครื่องรางของขลัง เวทย์มนต์คาถา อาจเสื่อมอิทธิฤทธิ ดั่งนั้นแล....
     
  18. pegaojung

    pegaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +9,448
    อ่ะโห!! อย่างงั้น น้องคงหมดสิทธิ์เดินเข้าบ้านลุง
    คุณสมบัติไม่ผ่านตั้งแต่อ่านข้อความแล้วหล่ะค่า คุณพี่น้ำใสฯ ^^
     
  19. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ไม่พลาดอย่างแน่นอนค่ะน้องแตน เก็บกระจับครั้งแรกในชีวิตงานนี้ท้าทาย ท้าทาย เฮ่อ เฮ่อ.....

    ....................

    ตุ๊กแก ... คงอยู่ที่การจัดทำเลบ้านด้วยล่ะ อีกอย่างคนที่บ้านไม่มีใครรังแกเค้าก็เลยไม่หนีไปไหน ชวนเพื่อนๆมาอยู่ตรึมเลย ไม่นับรวมกับพวกที่อยู่บนต้นไม้อีกน่ะ

    ข้อเสียคือทุกเย็นต้องคอยทำความสะอาดพื้นบ้าน เก็บขี้ตุ๊กแก ค่ะ

    .......

    เรื่องราวของปู่ใหญ่ มีว่างัยบ้าง รอคุณtoplus99 มาเสริมปัญญาอยู่นะค๊า
     
  20. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    คงต้องปล่อยคุณป้ามานอนเล่นที่กระท่อมน้อย Nirvana เนี่ยแระ

    เพราะท่าทางคุณป้าท่านขลังมาแต่ไกล
    ดูยังงัยหุ่นคุณป้าก็ใกล้เคียงแม่มดมากจริงๆ

    ขนาดบ้านยังสร้างไม่เสร็จ ประตูเปืด/ปิดเองได้
    ทำเอาคนงานไม่กล้าขึ้นชั้นบนกันทั้งคณะ

    เดือนก่อนมีคนงานสาวตกนั่งร้านชั้นสอง
    ไปนอนให้น้ำเกลือหลายวัน (สงสัยจะนินทาเจ้าของบ้าน...เลยโดนซะ)

    เอาคุณป้ามานอนเล่นท่าทางจะคุยกันรู้เรื่อง
    เพราะเป็นพวกเดียวกัน....แหงๆ
    เผลอๆอาจจะให้คุณป้าขอหวยมาเผื่อด้วย
    (หวังฟลุ๊คจริงๆ เพราะตัวเองไม่มีโชคทางนี้....อิอิอิอิ)

    ถ้าคุณป้าเหงาจริงๆเด๋วจะส่งกุมารทอง (แก้ว+ชวัญ) ไปให้เลี้ยงดู
    เชื่อว่าไม่กี่วันคุณป้าคงยุ่งจนลืม.....แก่ ไปแล้ว

    จะได้เลิกบ่นให้หลานๆฟัง.....ซะที


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...