ถ้าเราต้องการนำพระเครื่องวัตถุมงคลหลายชนิดติดตัว ใครมีวิธีอาราธนาอย่างไรบ้างครับ

ผมอยากทราบวิธีการอาราธนาพระเครื่องวัตถุมงคล หลายๆชนิดติดตัว ว่าแต่ละท่าน มีวิธีอาราธนาอย่างไรครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ

 

เข้ามารอคำตอบด้วยเช่นกัน เพราะผมก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน

 

อาราธนาพระเครื่อง แบบ วัดท่าซุง อย่างเดียวครับ....

ไม่ว่าจะมีมากี่สำนัก...

 

ถ้าเป็นพระเครื่องและตะกรุดควรอาราธนาดังนี้

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ ๓ จบ

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ *

(* อ่านว่า วิญญูฮีติ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย* ปาหุเนยโย* ทักขิเณยโย* อัญชะลี กะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ

(อ่านออกเสียง อาหุไนยโย ปาหุไนยโย ทักขิไณยโย โดยสระเอ กึ่งสระไอ)

พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง

พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม
สัพพะสิทธิภะวันตุเม

พุืทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา
อินทะรักษา พรหมะรักษา เทวะรักษา
มาตาปิตารักษา ครูอาจาริยารักษา
สะหัสสะโกฏิเทวานัง มัง รักขันตุสัพพะทา

หยิบสร้อยสวมคอ หรือคาดตะกรุด

อิมังองคะพันธะนัง อะธิษฐามิ
อิมังกายะพันธะนัง อะธิษฐามิ โสธายะ

เวลาถอดสร้อย ถอดตะกรุด ให้ว่าดังนี้

อิมังคลายพันธะนังอธิษฐามิ

 

ผมมีบทเสริมของโบรานตำหรับ หลวงปู่หมุน เผื่อมีคนชอบครับ

พระคาถาประจำตัวหลวงปู่หมุน (ตำรับล้านช้าง)
พุทธะจังงัง ธัมมะจังงัง สังฆะจังงัง พุทโธอยู่หลัง พุทธังอยู่หน้า ผู้ข้าอยู่กลาง พระบางอยู่เกล้า พระเจ้าอยู่หัว พุทโธล้อม ธัมโมล้อม สังโฆล้อม พุทโธอุด ธัมโมอุด สังโฆอุด อิกันอุกันอะ กูจะกันทั้งนอก กูจะกันทั้งใน กูจะกันทั้งตับ กูจะกันทั้งไต กูจะกันทั้งไส้ กูจะกันทั้งพุง กูจะกันทั้งอวัยวะธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม กันกันกัน

 

ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

 

ที่ใช้อยู่ครับ นะโมสามจบตามด้วย พุทธ้งอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ขออาราธนา หลวงพ่อ...... คุ้มครองให้แคล้วคลาดและปลอดภัยจากพยัญอันตรายทั้งปวง

 

ส่วนตัวผมนะครับ นะโมฯ 3จบตามด้วย พุทธ้งอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา บิดามารดาครูบาอาจารย์รักษา สาธุ

 

แบบมีเวลา
ตั้งนะโม ๓ จบ ว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราราธนานัง นะอยู่หน้า โมอยู่หลัง อะสังวิสุโลปุสะพุภะ มะอะอุ นะโมพุทธายะฯ ๑ จบ แล้วกลั้นใจ สวมพระเครื่อง
แต่ถ้าคาด ตะกรุด เชือกคาดเอว หรือ ชนิดผูกมัด รัดเอว ให้ กลั้นใจ แล้วว่า อิมังคงคะพันธะนัง อธิษฐามิฯจบเดียวในขณะคาด

ถ้าไม่มีเวลา ให้ว่า นะโม ๓ จบ
แล้วว่าคาถาอาราธนา... พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราราธนานัง นะอยู่หน้า โมอยู่หลัง อะสังวิสุโลปุสะพุภะ มะอะอุ นะโมพุทธายะฯ ๑ จบ..นอกนั้นวิธีเหมือนข้างต้น...

หมายเหตุ : ผมแนะนำว่า ควร อาราธนาทุกวัน ครับ เพราะ จากคำบอกเล่า ปสก. จริง หลายๆคน(จากเหตุการณ์จริงในภาคใต้) ..คนโดนๆ(บาดเจ็บสาหัส,เล็กน้อย) ไม่ค่อย อาราธนา... คนที่แคล้วคลาด หรือ โดนน้อยมาก อาราธนา ทุกวัน..

 

ผมเอง..

ตั้งนะโม ๓ จบ ว่า
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง

พุทธังประสิทธิ ธัมมังประสิทธิ สังฆังประสิทธิ

พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม

พุทธังอาราธนานังกะโรมิ ธัมมังอาราธนานังกะโรมิ สังฆังอาราธนานังกะโรมิ

อิทธิ ฤทธิ พระพุทธนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด

อาราธนา อัญเชิญ บอกกล่าว...."

พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังคังนิพพาหะนะ ปัจจะโยโหตุ

 

ผมอาราธนาด้วยบทพระมหาจักรพรรดิ์ 3จบแล้วต่อด้วย อรหัง ร่มเย็นเป็นสุข ชนะมารชนะโรค อรหัง ชนะอุปสรรค บันดาลโชคพ้นภัย อรหังสำเร็จ ชัยมงคล นะโมพุทธายะ อรหังสุขติ 3จบ

 

ขอบคุณทุกๆท่่านครับ

 

อยากทราบว่าตอนอาราธนานำพระพนมเหนือศรีษะหรือพนมไว้ตรงหน้าอกแล้วท่องคาถาครับ

 

แล้วอย่างพระเครื่องวัตถุมงคลหลายชนิดแต่ของหลวงพ่อองค์เดียวกัน กับของหลวงพ่อหลายๆองค์ที่เรานับถือ จะอาราธนารวมทีเดียวเลย ต้องทำไงครับ ? หรือว่าทำตามที่ทุกท่านแนะนำมาครับ

 

ผมมีความเห็นเหมือนคุณเดชครับคุณเกียรติศักดิ์

จะเป็นพระเครื่องวัตถุมงคลหลายชนิดของหลวงปู่หลวงพ่อองค์ต่างๆหรือองค์เดียวกัน ก็ใช้คำอาราธนาแบบวัดท่าซุงได้หมด เพราะการปลุกเสกอธิษฐานจิตทุกองค์ทุกท่านก็น่าจะอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้ามาเช่นกัน บางท่านก็อาจใช้กำลังของท่านเองผ่านทางคาถาอาคมก็แล้วแต่

คำอาราธนาของวัดท่าซุงครอบคลุมไ้ว้หมดแล้วนะครับ

ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหมด ครูบาอาจารย์ทั้งหมดมีหลวงปู่ปานวัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษี เป็นที่สุด พรหมทั้งหมด เทวดาทั้งหมด ขอให้....

แล้วต่อด้วยคาถาปลุกพระของพระร่วง

ผมว่าครบถ้วนสมบูรณ์อยู่ในนี้แล้วครับ

 

ขอบคุณครับคุณวรรณ

 

ตามพี่วรรณเลยครับ ครบถ้วนแล้ว

 

สำหรับผมนะพี่

นะโม 3 จบ

อิติปิโส...............1 จบ

ขออาราธนา บรามี พระพุทธเจ้าทุกรพองค์ พระปัจเจกพุทเจ้า พระอรหันต์ พระโพธิสัต พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทุกพระองค์ ขอบารมี........จบ

 

เป็นคนที่ช่างสงสัยดีแท้หนอ

จับพระ เครื่องมงคลทั้งหมดรวมใส่มือพนมไว้เริ่มสวดมนต์เมื่อไหร่
นั่นคือการอาราธนาขอบารมีพระคุ้มครองเรา จะกี่ร้อยกี่พันหลวงพ่อ
กี่ร้อยกี่พันครูอาจารย์ก็รวมอยู่ในบทสวดนี้ทั้งหมด

เพราะพระที่เสกมาย่อมต้องอัญเิชิญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ
และคุณของสิ่งศักดิ์สทธิ์ทั้งหลายรวมไปถึงคุณเทวดา คุณพรหม คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์มาบรรจุรวมไว้ด้วย

ดังนั้นบทอาราธนาที่ลงไว้ก็ครอบคลุมทั้งหมดแ้ล้ว

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ ๓ จบ

(ตรงนี้คือการขอน้อบน้อมนมัสการต่อพระพุทธเจ้า)

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

(ตรงนี้คือการประกาศยืนยันอย่างหนักแน่นว่าขอถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึกในครั้งที่ ๑ ครั้งที่๒ ครั้งที่๓)

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

(ตรงนี้คือระลึกถึงพระพุทธคุณ ๙ ประการ)

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ

(ตรงนี้คือระลึกถึงพระธรรมทั้งพระสุตันปิฎก พระวินัยปิฎก พระอภิธรรมปิฎก รวม ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย* ปาหุเนยโย* ทักขิเณยโย* อัญชะลี กะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ

(ตรงนี้คือระลึกถึงคุณของพระอริยสงฆ์สี่หมู่คู่แปดคือพระโสาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ )

พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง

(ตรงนี้คืออัญเชิญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คำว่า อาราธนา คือ อัญเชิญ ขอเชิญ)

พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม
สัพพะสิทธิภะวันตุเม

(ตรงนี้คือขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ประสิทธิ์ประสาทความเป็นสิริมงคลให้แก่เรา คำว่า เม คือ ข้าพเจ้า)

พุืทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา
อินทะรักษา พรหมะรักษา เทวะรักษา
มาตาปิตารักษา ครูอาจาริยารักษา
สะหัสสะโกฏิเทวานัง มัง รักขันตุสัพพะทา

(ตรงนี้คือขอบารมีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ให้มาคุ้มครองรักษาตัวเรา
บารมีของพระอินทร์ บารมีของพระพรหม บารมีของเทวดาให้รักษาคุ้มครองเรา
ขอบารมีคุณมารดา คุณบิดา คุณครูอาจารย์ให้รักษาคัุ้มครองเรา
ขอให้เทวดาทั้งพันโกฏิมารักษาคุ้มครองเรา)

หยิบสร้อยสวมคอ หรือคาดตะกรุด

อิมังองคะพันธะนัง อะธิษฐามิ
อิมังกายะพันธะนัง อะธิษฐามิ โสธายะ

(บทนี้คือผูกความศักดิ์สิทธิ์ไม่ให้เสื่อมคลาย)

เวลาถอดสร้อย ถอดตะกรุด ให้ว่าดังนี้

อิมังคลายพันธะนังอธิษฐามิ

(บทนี้คือลาความศักดิ์สิทธิ์ที่อาราธนาไว้)

สรุปแล้ว การอาราธนาคือขอให้บารมีพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษานั้นเอง
จะใช้คาถาบทไหนก็ตาม หนีไม่พ้นการเชิญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
คุณบิดามารดา คุณเทวดา-พรหม คุณครููบาอาจารย์ ให้มาคุ้มครอง

(คำว่า ครูบาอาจารย์ ตรงนี้หมายเอารวมครูผู้สั่งสอนวิทยาการต่าง ๆทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ครูคนแรกคือพ่อแม่ ครูภายหลังที่สั่งสอนวิทยาการทั้งหมดที่เป็น ครูพระ ครูฤๅษี ครูเทวดา ครูตำรา ครูพักลักจำ ทั้งที่ตายไปแล้วและยังมีชีวิตอยู่)

 

ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับ