พระเนื้อขาว กระทู้เปิดตำนานหลวงปู่ทิม ฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย น้าต๋อย เซมเบ้, 26 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,752
    ผมว่า น่าจะได้ลองใช้ไปจนเห็นผลแล้วมั้งครับ 55
     
  2. ป่านปริม

    ป่านปริม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +51
    จองรายการ391ครับ
     
  3. เอกรถไฟ

    เอกรถไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +2,093
    จององค์นี้ครับไม่ทราบว่ายังทันไหมครับ
     
  4. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,509
    ค่าพลัง:
    +9,414
    ระวังโดนเมียตีตายนะครับ..555
     
  5. sun2555

    sun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +6,619
    ผมได้โอนเงินเข้าธนาคารกรุงเทพแล้ววันที่ 27 ธันวาคม 2556 สถานที่ K00842 เวลา 09.55 น. จำนวนเงิน 1,050 บาท สำหรับการจองรายการที่ 390 พระเนื้อดิน พิมพ์กิมจ๊อ

    กรุณาจัดส่งที่อยู่แจ้งทาง PM
    ขอบคุณครับ
     
  6. มรรคเวทย์

    มรรคเวทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    598
    ค่าพลัง:
    +1,357
    สวัสดีครับ น้าต๋อย เซมเบ้
    วันนี้(28ธค56) เวลาประมาณ 12.45น.ผมโอนเงิน3,878บาท(รวมค่าส่ง) ธ.กรุงเทพฯสาขาพาต้าปิ่นเกล้า สำหรับพระรอบใหม่ -รายการที่384 ลูกอมบรอนซ์ลอก(1,299บาท)และรายการพิเศษต่างหาก (สำเนาสลิปที่แนบท้าย) ที่อยู่รายละเอียดแจ้งทางPMนะครับ
    มรรคเวทย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Tone2

    Tone2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +548
    สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ ขอคุณพระรัตนตรัยคุ้มครองทุกท่านให้ร่มเย็น เป็นสุข สมปราถนาในสิ่งที่หวังครับ
     
  8. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,076
    ค่าพลัง:
    +52,178
    <object width="960" height="720"><param name="movie" value="//www.youtube.com/v/HBmiz3wLvxQ?hl=;autoplay=1&amp;version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="//www.youtube.com/v/HBmiz3wLvxQ?hl=;autoplay=1&amp;version=3" type="application/x-shockwave-flash" width="960" height="720" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

    ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
     
  9. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    พนมกร วันทา สุรารักษ์
    จตุรพักตร์ องค์อินทร์ เทพินทร์วิศิษฏ์
    เทพธรณิน สุรบถ ทศทิศ
    โปรดนิมิต ลิขิตพร บวรชัย

    ให้ปวงชน เนียรทุกข์ สุขสงบ
    อุดมครบ สบศรี ในปีใหม่
    สมถวิล สิ้นโศก หมดโรคภัย
    นิรัติศัย จำเริญ พูนเงินทอง

    คิดสิ่งดี ดีตอบ ประกอบให้
    คนรักใคร่ ผูกจิต มิตรสนอง
    ได้ไพรู ฟูเฟื่อง ทรัพย์เนืองนอง
    รุ่งเรืองรอง ผ่องแผ้ว แคล้วคลาดพาล

    ยศ,ฐานะ หน้าที่ ทวีเลิศ
    ความประเสริฐ ตราตรึง ถึงลูกหลาน
    พละศักดิ์ มั่นคง ทั้งวงศ์วาน
    เกษมศานต์ กีรติ นิรามัย

    วอนเทพไท ดิน,ฟ้า ปาฏิหาริย์
    ขอประทาน ทีฆา อายุขัย
    อาราธนา หลวงปู่ทิม รัตนตรัย
    อำนวยให้ พรศักดิ์สิทธิ์ สำฤทธิ์เทอญ


    [​IMG]
     
  10. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ซึ่งเมื่อที่ผ่านมาไม่นานกาลเวลาได้ปิดตำนานบุคคลคนสำคัญคนหนึ่งผู้สร้างอุโบสถหลังใหม่ของวัดละหารไร่ในยุคสมัยหลวงปู่ทิม โดยที่กำเนิดการสร้างเมื่อครั้งปีพ.ศ.2516 หรือเมื่อประมาณ 40 ปีล่วงมาแล้ว ท่านคือช่างมงคล นาคแพน ซึ่งด้วยชื่อเสียงและผู้ที่ร่วมศรัทธากันมากจึงทำให้สร้างอุโบสถเสร็จโดยใช้เวลาเพียงปีเดียว

    นับตั้งแต่ปี2516 เรื่อยมา ช่างมงคลท่านพอจะได้เห็นการสร้างวัตถุมงคลมาพอสมควร ถึงแม้จะไม่ค่อยได้คลุกคลีกับหลวงปู่ท่านมากเพราะท่านต้องมีหน้าที่สร้างโบสถ์ แต่ยามเวลาว่างท่านก็ได้มากล่าวสนทนากับหลวงปู่ท่านเสมอ ช่างมงคลท่านกล่าวว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสเห็นหลวงปู่ทิมท่านลบผงที่หน้าห้องของท่าน โดยหลวงปู่ได้หยิบเอาไม้กระดานที่วางอยู่ในบริเวณที่ใกล้มือท่าน จากนั้นหลวงปู่ทิมท่านจะเอาดินสอพองที่ตำเป็นผงแล้วมาผสมกับน้ำข้าวก้นบาตรหรือข้าวที่ท่านฉันแล้ว มาปั้นเข้ารวมกันให้เป็นแท่งใหญ่ จากนั้นหลวงปู่ท่านก็ได้อธิษฐานลบผงต่างๆเข้ารวมกันลงในขันที่รองไว้ โดยผงที่หลวงปู่ท่านทำนั้นเวลาลบผงจะรอดกระดานทั้งสิ้น ผงที่ลบนั้นช่างมงคลท่านกล่าวว่าจะไม่มีการตั้งชื่อว่าเป็นผงใด เพราะหลวงปู่ท่านไม่ได้กล่าวบอกไว้ เพียงแต่บอกว่าผงนั้นสำเร็จแล้ว ไม่เคยกล่าวถึงผงพรายกุมารเลย ซึ่งคนที่ใกล้ชิดเขาจะย่อมทราบกันดี และผงที่ลบนั้นก็มีแค่อย่างเดียวเท่านั้นที่หลวงปู่ท่านทำไว้ไม่มีผงแยกหรือการลบแยกผงใดๆทั้งสิ้น

    จะเห็นว่าลูกศิษย์ที่บอกว่าใกล้ชิดบางคนพยายามเอาผงโน่นผงนี่มาโชว์อย่างเช่น ผงจินดามณี ผงพรายกุมาร ผงอิทธิเจต่างๆหรือผงอะไรอีกหลายอย่าง เพื่อให้คิดว่าคนที่เข้ามาในยุคหลังว่ามีจริงตามคำลวงหลอกเพื่อการขายของบางอย่างกันขึ้นมา โดยแท้จริงแล้วช่างมงคลท่านกล่าวว่าตั้งแต่ที่ท่านอยู่มาไม่เคยเห็นเลย ซึ่งช่างมงคลท่านก็ได้ผงของหลวงปู่ท่านมาเพียงบางส่วนซึ่งก็ไม่มากเป็นผงสีขาวล้วนๆและไม่มีผงผีผงพรายมาผสมกันตามที่ลูกศิษย์บางคนเอามาอุปโลกกันทั้งสิ้นหลาย

    การเสกสร้างวัตถุมงคลต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดนั้นมีเพียงตามเท่าที่เห็นกันนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2516ลงมา โดยตามหลักใหญ่ๆเท่าที่ทราบจะมีพรายเดี่ยว พรายคู่ สีวลี พระขุนแผน พระเศียรโต เศียรเล็ก แต่มีอยู่พิมพ์หนึ่งที่หลายคนสงสัยว่าปิดตานางพรายที่มีกันมามันมีจริงหรือ! มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจในหมู่นักเล่นพระหลวงปู่ทิมกันมานาน พระปิดตานางพรายนั้นเพิ่งจะนำออกมาเล่นมาไม่นานเมื่อ10กว่าปีมานี่เอง ช่างมงคลท่านเล่าว่าตามที่เห็นของจริงๆนางพรายนั้นมีเพียงตัวเดียวตัวที่นายสายปั้นขึ้นมาเป็นรูปร่างเด็กนั่งดูดรกขนาดประมาณเท่าหัวแม่มือโดยทำเมื่อคราวตอนที่จะกดพระขุนแผน หรือพระห้าเหลี่ยมตามนามเรียกขานในยุคสมัยนั้น นางพรายที่เห็นตนนั้นเป็นลักษณะที่ปั้นขึ้นมาไม่ใช่แกะขึ้นมาตามที่เห็นพ้องตากัน

    ซึ่งคำถามนี้นายสาย แก้วสว่างท่านก็เคยกล่าวไว้เหมือนกันว่า ที่ว่านางพรายนั้นได้ปั้นขึ้นมาเองตามจุดประสงค์ตามรูปลักษณ์ที่ว่า” เด็กกำลังกุมสายรกในท้องมารดา” ไม่ใช่นั่งยองๆปิดตาตามที่เข้าใจกัน จะเห็นว่าศิษย์ที่เข้ามาในยุคหลังๆที่ทันๆหลวงปู่จะไม่เคยเห็นรูปแบบนางพรายกันเลย เพียงเพราะปั้นมาแค่ตัวเดียวเท่านั้นที่มีความจิตนาการที่เห็นตามหลักของการกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ขึ้นมา ไม่ได้ปั้นขึ้นมาให้บูชาจึงน้อยคนนักที่จะทราบเรื่องราวอันแท้จริงได้ และเป็นเรื่องราวที่เป็นเพียงการเกริ่นกล่าวเล่าเรื่องกันมา จึงเป็นเหตุประสงค์ที่คนในยุคหลังที่เพิ่งเข้ามาศึกษาและศรัทธาหลวงปู่ทิมจึงอยากได้กันขึ้นมา จากนั้นนายสายท่านก็ได้ดำหริปั้นขึ้นมาอีกโดยอธิษฐานบอกกล่าวหลวงปู่เพื่อเอาไว้ใช้กัน โดยนำเอาผงที่เก็บรักษาเดิมไว้มาผสมทำ โดยปั้นขนาดเล็กพอแขวนหรือพกติดตัวได้ประมาณ30-40ตัวเห็นจะได้ ซึ่งนายสายท่านจะปั้นกับมือล้วนๆทุกองค์ขนาดจึงไม่ค่อยเท่ากัน ซึ่งชุดดังกล่าวนี้สร้างหลังจากหลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้วทั้งนั้นปัจจุบันของเลียนแบบนั้นมีมากมายเพราะต่างก็คิดว่าทันยุคหลวงปู่และยังมีอีกชุดที่ลูกศิษย์ลูกหานำผงมาให้นายสายท่านปั้นแล้วนำไปให้หลวงปู่ธรรมรังษีเสกก็มีซึ่งชุดนี้เป็นเนื้อขาวล้วนไม่ทาทองเหมือนชุดก่อนมีจำนวนประมาณ 20ตัว จากนั้นก็นำมาแจกจ่ายในหมู่ๆกัน จะเห็นว่าภายหลังจะเริ่มมีของอุปโลกขึ้นมามากมายในของแบบลักษณะเช่นนี้จากลูกศิษย์ที่บอกว่าใกล้ชิดบางคน เพียงเพราะแค่เอามาเป็นบทบัญญัติเพื่อนำพาแล้วนำมาเสริมในเรื่องราวของพุทธพาณิชย์กันต่อมา ซึ่งเรื่องราวในวงการน่าจะทราบกันดีกับที่มาที่ไปว่ามันเป็นไปอย่างไร

    ช่างมงคลท่านได้เตือนสตินักเล่นทุกคนจะเล่นหาพระหลวงปู่ทิมต้องทำความเข้าใจกันให้แน่ชัดถึงที่มาที่ไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะของที่เป็นเอกเฉพาะหลัก หรือที่เป็นกิจนิยมหรือความชมชอบใดๆ ที่มันไม่เป็นหลักสาระบบ อย่างเชื่อที่มา อาจจะเป็นของเล่นของลูกศิษย์บางคนที่โฆษณาขายความน่าเชื่อถือ แล้วนำพาซึ่งความตะหง่านโดยไม่มีความรับผิดชอบชั่วดีใดๆ ด้วยความที่มนุษย์ทุกคนนั้นยังหลงในรูปลักษณ์ที่เป็นเอกถือครอง ยังคงรองซึ่งพุทธคุณที่แน่นขนัด ด้วยความสวยความคมชัดที่แนบแน่น จึงจำต้องทำของเลียนแบบขึ้นมาในหมู่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกันขึ้นมา ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติที่จักต้องทำขึ้นมาตามวัตถุประสงค์ของความเชื่อนั้นอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะพระห้าเหลี่ยมหรือพระขุนแผน

    ช่างมงคลท่านกดพระขุนแผนมาองค์หนึ่งซึ่งขณะนั้น ท่านกดเมื่อคราวที่นายสายเอาแม่พิมพ์ไปกดที่สวนมะพร้าวหลังบ้านซึ่งติดอยู่กับวัด พระนั้นเนื้อเดิมเป็นเนื้อขาวแบบขาวกรุ่นๆตามที่ชาวบ้านเขาเรียกกันไม่มีสีอื่นใด ไม่ใช้กาว เนื้อหาจึงร่วนเป็นธรรมดา จึงต้องเอาทองมาปิดทำเพราะเพียงแค่เอามาใช้เองเท่านั้น แต่ถ้าเป็นพระขุนแผนที่เป็นสีต่างๆเท่าที่เห็นจะเป็นรุ่นที่นายครอกกดทำเพราะใช้สีฝุ่นมาผสมกับเนื้อหาที่ทำ ขุนแผนมีแม่พิมพ์บล็อกเพียงตัวเดียวที่ตกแต่งกันเท่านั้น ไม่มีบล็อกสองบล็อกสามหรือบล็อกอื่นใดเลย ซึ่งก็ตรงตามที่นายสายท่านเล่าว่ามีเพียงตัวเดียวเท่านั้น นอกนั้นทำกันขึ้นมาใหม่จนวงการสับสนวนอลม่านกัน จนต้องมีนิยามคำตอบที่ว่า”นับถือหลวงปู่ใช้ได้หมดไม่ว่าจะบล็อกไหน” ซึ่งเรื่องราวนั้นมันผ่านมาเนิ่นนานแล้ว การที่จะขุดคุ้นขึ้นมามันก็ไม่มีประโยชน์อันใดเล่าเพราะราคามันขึ้นเพดานกันไปแล้ว อยู่ที่บล็อกไหนจะวิ่งแซงหน้ากว่ากัน อยู่ที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคนที่ถือหน้าถือหลังฉวยโอกาสที่ต่างคนต่างก็เสียชีวิตกันไปหรือกระเด็นกระดอนกันหมดแล้ว พยายามโยนความผิดไปให้กับคนโน้นคนนี้ เพื่อปิดบังหรือบิดเบือนความผิดของตนเองที่ได้เป็นตัวการสำคัญร่วมกระทำในเหตุกระนั้นด้วยโดยการจ้างทำในหลายครั้งคราว ซึ่งเหตุการณ์ก็น่าจะรู้กันดีลูกศิษย์คนในวงการนี้คือใคร! ถึงเรื่องราวมันจะผ่านมา30กว่าปีแล้วก็ตามที แต่ความจริงนั้นมันยังเป็นสิ่งไม่ตายไม่สามารถขายเอาความตัวรอดได้ สุดแท้แต่วาสนา ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ย่อมรับผลกรรมกันไปเอง หลวงปู่ทิมท่านจะช่วยลูกศิษย์ลูกหาที่มีใจเป็นกุศลกันเท่านั้น ไม่เคยช่วยลูกศิษย์คนใดที่ชอบแอบอ้างตัวว่าใกล้ชิดแต่มีจิตใจที่เป็นอกุศล ซึ่งแท้จริงมันอยู่ที่ผลกรรมของแต่ละท่านกันไปเองไม่มีใครเหนือสิ่งอื่นใด เท่านั้น........
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0163.JPG
      IMG_0163.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      167
    • IMG_1732.JPG
      IMG_1732.JPG
      ขนาดไฟล์:
      89.5 KB
      เปิดดู:
      274
    • IMG_1713.JPG
      IMG_1713.JPG
      ขนาดไฟล์:
      80.2 KB
      เปิดดู:
      230
  11. ResP

    ResP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,116
    สวัสดีปีใหม่ครับน้าต๋อย วันนี้เวลา19.40pm ได้ทำการโอนเงิน 1,460บ.(รวมค่าส่ง) รายการที่393 ลูกอมบรอนท์ลอก
    รายละเอียดที่อยู่แจ้งทางPMแล้ว ขอบคุณครับ
     
  12. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,752
    สวัสดีปีใหม่สมาชิกทุกท่านนะครับ
    ตอนนี้ผมยังอยู่ต่างจังหวัด พัสดุน่าจะ
    ได้ส่งช่วงอาทิตย์หน้า

    สุดท้ายนี้ ขอบารมีพระรัตนตรัย หลวงปู่ทิม
    ครูบาอาจารย์ที่ทุกท่านนับถือ ได้อำนวยพร
    ให้กับทุกท่านได้ประสบความสำเร็จในสิ่งใด
    ที่มุ่งหวังตั้งใจไว้ ทุกประการเทอญ
     
  13. ต้นบัว

    ต้นบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    382
    ค่าพลัง:
    +1,088
    ผมโอนเงินค่าพระองค์ที่ 383ให้แล้วนะครับที่อยู่จะส่งให้ใน PMครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CAM00010.jpg
      CAM00010.jpg
      ขนาดไฟล์:
      293.8 KB
      เปิดดู:
      141
  14. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    เมื่อกล่าวถึงพระขุนแผนห้าเหลี่ยมที่กดสร้างกันในวัดละหารไร่นั้นโดยแต่ก่อนนี้ลูกศิษย์ลูกหาที่ใกล้ชิดหรือพระเณรในวัดเขาย่อมที่จะทราบดีกันว่าพระที่ทำกันในตอนนั้นมีลักษณะรูปร่างและรูปทรงเนื้อหาเป็นเช่นใด โดยตามลักษณะความเป็นจริงการทำนั้นจะกดกันด้วยมือทั้งสิ้นนับตั้งแต่เมื่อครั้งแรก ซึ่งพระขุนแผนนี้เราจะเห็นว่าทำไมองค์ของพระจึงมีรูปทรงที่หนาบ้างหรือเอียงบ้างเพราะอะไร คนที่จะสามารถตอบเหตุผลได้ดีที่สุดคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น ไม่ใช่ลูกศิษย์ที่เข้ามาทีหลังหรือเพียงเพิ่งเข้ามาแต่ไม่เคยได้สัมผัสกับเหตุการณ์การกดทำพระหรืออาจจะอยู่ในเหตุการณ์เพียงช่วงเวลาหนึ่งที่เข้ามาเห็นแต่จะตอบเหตุผลการสร้างทั้งหมดกระนั้นไม่ได้เลย เพราะไม่ได้พักอาศัยอยู่กับวัดโดยตรงหรือการจะมาเป็นเด็กวัดแต่อย่างใด

    นายพราม คำมี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายหลวงปู่แก้ว เกสาโร ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายที่เข้ามาหาหลวงปู่ทิมมีใครบ้างที่ไม่รู้จักท่าน เพราะท่านอยู่กับวัดละหารไร่มานานกว่า 17 ปีตั้งแต่เมื่อคราวเป็นเด็กวัด ส่วนใหญ่แล้วมีหน้าที่หลักหุงข้าวให้หลวงปู่ฉันมาตลอดในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา นายพรามท่านเล่าว่าหลวงปู่ทิมท่านเป็นพระอริยะที่ทรงคุณค่ากับการนับถือแก่สาธุชนทั้งหลายที่มีความศรัทธา จะเห็นว่าในยุคสมัยก่อนนี้หลวงปู่ท่านมีชื่อเสียงที่ร่ำลือกันมาก ในเรื่องของวัตรปฏิบัติอย่างแน่วแน่ และการอาคมไสยศาสตร์ที่ท่านนำมาใช้อย่างเป็นเอก และท่านก็ได้เห็นเหตุการณ์การสร้างวัตถุมงคลของวัดมาตลอดตามช่วงเวลาการสร้างที่มีกันมาแต่เดิม

    นายพรามท่านเล่าว่าหลวงปู่ทิมจับท่านให้บวชอีกครั้งเมื่อตอนช่วงเวลาเข้าพรรษาปีพ.ศ.2514 โดยบวชพร้อมกันสามองค์โดยมีโยมป่อก(ลูกชายโยมติ๊ด วิเชียรเสนาะกรรมการวัดละหารไร่ในยุคนั้น) และสามเณรฉ่ำ งามศรี (หลานชายหลวงปู่ทิม) โดยแต่ก่อนนี้การสร้างพระเครื่องของวัดละหารไร่ก็ได้เริ่มละการสร้างลง หลังจากที่ทางอาจารย์ทวนเจ้าอาวาสวัดแม่น้ำคู้เก่าได้เดินทางมากับเณรหนึ่งองค์และโยมวัดอีกหนึ่งคนมาหาหลวงปู่ทิมเพื่อขออนุญาตเอาวัตถุมงคลของวัดละหารไร่ไปออกบูชาในงานยกช่อฟ้าของวัด ซึ่งหลวงปู่ท่านเห็นเจตนาที่ดีกับงานบุญสถานก็ได้อนุญาตและจากนั้นท่านก็ได้ใช้ให้นายสาย แก้วสว่างไวยาวัจกรของวัดไปยกเอามาจากห้องของท่านโดยพระที่นำไปให้อาจารย์ทวนนั้นเป็นพระเนื้อขาวที่ทางวัดทำไปทั้งสิ้นจำนวนหนึ่งลังกระดาษใหญ่ไม่ใช่ลังเหล็กใบใหญ่ตามที่เคยได้อ่านมาจากหนังสือเล่มหนึ่ง แต่หลังจากนั้นมาไม่นานอาจารย์ทวนก็ได้มาพร้อมกับเณรและโยมวัดคนเดิมนำเอาพระเครื่องที่เอาไปครั้งก่อนกลับมาคืนที่วัดละหารไร่ โดยอาจารย์ทวนท่านกล่าวเหตุผลว่าเมื่อให้ไปก็มีแต่คนติ ติกันอย่างโน้น ติกันอย่างนี้ มีแต่คนว่าทำไมพระถึงร่วนติดมือ ไม่สวยเอาซะเลย บางองค์ก็บิดๆเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้วอาจารย์ทวนก็ไม่รู้จักทำยังไงได้จึงต้องนำเอากลับมาคืนให้หลวงปู่ที่วัดละหารไร่ ซึ่งหลวงปู่เองท่านก็ไม่ว่ากระไร ท่านก็ได้ใช้ให้นายสายเอาไปเก็บไว้ที่ห้องของท่านดังเดิม ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้รู้เห็นกันมากโดยเฉพาะพระเณรและลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่วัดในคราวนั้น


    และในคราวต่อมาน่าจะช่วงปลายปีพ.ศ.2515 ถึงเวลาการกดทำพระพุทธห้าเหลี่ยมหรือพระขุนแผนตามที่เรียกกันนั้น โดยตามหลักความเป็นจริงแล้ว อ.ดุษฎี ศิริโวหารท่านได้ไปทำแม่พิมพ์มาจากกรุงเทพ โดยทำพิมพ์ใหญ่ขึ้นมาก่อนแต่จะมีเพียงตัวหน้าเพียงด้านเดียวที่ทำมาไม่มีตัวหลัง ไม่มีเบ้าประกบ จึงได้ใช้แบบไม้มาทำเป็นตัวประกบครอบแบบหลังอีกที จึงทำให้ส่วนใหญ่องค์พระจะหนา บางองค์จะเอียงข้าง ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ในตอนนั้นเขาจะทราบกันดีว่าพระที่ออกมาเป็นเช่นไร พอกดสร้างกันไปได้ในจำนวนพอควรก็ช่วยกันยกนำไปให้หลวงปู่ท่านเสกต่อไป


    ซึ่งด้วยเนื้อหาและแบบทรงที่ยังไม่ถูกตาถูกใจตามแบบอัตลักษณ์ความเข้าใจของในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาเพราะการกดสร้างพระขุนแผนในยุคแบบแรกๆนั้นเนื้อหาหลักคือการใช้ดินสอพองผสมกับผงที่หลวงปู่ทิมท่านทำไว้ยังไม่มีการใช้ว่านต่างๆมาผสมเข้าช่วย จึงมีเนื้อหาตามที่เห็นกัน ซึ่งจะหาความสวยงามหรือความเรียบร้อยชัดเจนไม่ได้เลยเพราะเป็นการกดทำแบบชาวบ้านด้วยเหตุผลฉะนี้จึงได้มีการพัฒนารูปแบบทรงกันต่อไป

    หลังจากเริ่มมีการพัฒนามาบ้างแล้วอ.ดุษฏีก็ได้นำแม่พิมพ์ไปแต่งทำขึ้นมาใหม่ คราวนี้มาเป็นแบบเลยมีบล็อกตัวยันต์หลังพร้อมกับมีตัวกดเป็นเครื่องหนีบคล้ายๆกล้วยทับ โดยที่ข้อมูลก็ไม่แน่ใจว่าใครทำตัวหนีบกดมาให้ ซึ่งมันก็เป็นงานยากเหมือนกันถ้าคนไม่เคยทำ มันจะออกมาในรูปแบบใดกัน ครั้งนี้จึงทำไปแบบพัฒนาฝีมือกันไป กดกับมือบ้างสลับกับการใช้ตัวหนีบกดบ้างตามแต่ความถนัดกัน เนื้อหาก็เริ่มมีการพัฒนาให้มีความคงตัวหรือรัดตัวแน่นขึ้น และก็ยังใช้สูตรเดิมที่ทำมา แต่ก็ยังไม่มีการนำสูตรกาวมาใช้ในตอนนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่เนื้อหาขององค์พระเมื่อแห้งตัวดีแล้วจะต้องร่วนเป็นธรรมดาอยู่ที่จะร่วนมากร่วนน้อยตามแต่สูตรผสม ซึ่งตอนนั้นยังไม่ใช้แล็คเกอร์กับทองผงทาเพราะยังไม่มีใครคิดดำหริขึ้นมาว่าสามารถทาเพื่อป้องกันความร่วนของเนื้อพระได้

    นายพราม คำมี ซึ่งตอนนั้นยังถือบวชเป็นพระภิกษุอยู่ในวัด ท่านเล่าว่าได้เห็นเหตุการณ์การทำพระขุนแผนเพราะตอนนั้นยังกดทำกันที่หอฉันท์ของวัด โดยส่วนใหญ่คนที่กดทำหลักๆจะมีหลวงตารอดขรัวรองของวัดและนายสาย แก้วสว่าง ที่จะช่วยกัน ส่วนคนอื่นๆก็มาช่วยกันบ้างก็มีกันตามแต่ใครจะว่างส่วนใหญ่คนที่ทำๆกันจะเป็นคนหนุ่มๆหรือรุ่นใหญ่ๆ ส่วนเด็กวัดและเณรจะให้ช่วยกันยกไปตากและยกเอาเข้าไปในห้องหลวงปู่

    ในยุคการสร้างพระขุนแผนนี้สามเณรที่มีบทบาทในการช่วยงานมากจะมีเณรลาว เณรเสือ เณรฉ่ำ เณรเติ่มซึ่งปัจจุบันที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นจะมีเณรลาวและเณรเสือ ส่วนเณรฉ่ำและเณรเติ่มปัจจุบันได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ซึ่งเรื่องราวการสร้างนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นก็ยังคงมีกันโดยเฉพาะเณรลาวและเณรเสือ ถือเป็นมูลเหตุที่สำคัญมากอย่างยิ่งกับการสร้างวัตถุมงคลในแต่ละครั้งของวัดละหารไร่ตั้งแต่ยุคเก่าที่มีกันมาโดยสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

    ผมจะขอนำพระขุนแผนที่ได้ตกแต่งขึ้นมาซึ่งเริ่มมียันต์หลังและเริ่มมีการพัฒนาเนื้อหาให้มีความรัดตัวแน่นขึ้น ซึ่งเนื้อหาจะมีแต่วรรณะเป็นสีขาวทั้งสิ้น ไม่มีสีอื่นใดเลยตามที่เข้าใจกันแบบครุ่นคิดกันมาตลอด พระชุดนี้บางหนก็เริ่มที่จะมีการใช้ว่านต่างๆตำผสมรวมกับเนื้อหาไปด้วยเพื่อเพิ่มพลังพุทธคุณของพระตามความเชื่อกันมา ซึ่งด้วยเหตุผลอันใดนั้นอยู่ที่จิตศรัทธาความเชื่อมั่นของแต่ละคนเท่านั้นที่จะสามารถเกิดพลานุภาพที่ดีได้ตามคำสอนของหลวงปู่ที่ท่านให้เน้นในเรื่องของจิตที่ทรงคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0065.JPG
      IMG_0065.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      184
    • IMG_0066.JPG
      IMG_0066.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      148
    • IMG_0067.JPG
      IMG_0067.JPG
      ขนาดไฟล์:
      988.2 KB
      เปิดดู:
      171
    • IMG_0068.JPG
      IMG_0068.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      153
    • IMG_0069.JPG
      IMG_0069.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      137
    • IMG_0070.JPG
      IMG_0070.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      146
    • IMG_0075.JPG
      IMG_0075.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,009.1 KB
      เปิดดู:
      155
    • IMG_0076.JPG
      IMG_0076.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,003.6 KB
      เปิดดู:
      164
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2014
  15. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    แล้วเครื่องรางเสือ หละครับน้าต๋อย
    ดีทางโชคลาภบ้างไหม ช่วงนี้ช็อตแล้วช็อตอีก อิอิ​
     
  16. ดาบทอง

    ดาบทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +966
    กราบหลวงปู่ทิมครับ อ่านเรื่องราวหลวงปู่ทิม พอที่จะเข้าใจกับเหตุการณ์อีกหลายๆอย่างเลยครับ จึงไม่แปลกว่าทำไมเรื่องราวมันถึงสับสนกันมาตลอดในระยะเวลาที่ผ่านมา
     
  17. prabangkam

    prabangkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,638
    ค่าพลัง:
    +7,098
    กราบนมัสการหลวงปู่ทิม และสวัสดีทุกๆท่านครับ
     
  18. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    "การละบาป เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการทำบุญ
    ถ้าทำบาปแลกบุญจะขาดทุนเรื่อยไป"

    "ใจจะสงบได้ ก็เพราะความเห็นที่ถูกต้อง"
    "ธรรมดาจิตนั้นนะ..มันมีเวลาขยัน และขี้เกียจ
    ถ้าทำเพียรด้วยสัจจะ เราต้องทำเรื่อยทั้งที่ขี้เกียจ
    ทำจิตให้จิตรู้อยู่ การรู้ภายใน การฉลาดภายในจิตจะเป็นอย่างนี้
    การทำทุกวัน บางทีสงบ บางทีไม่สงบ เป็นอนิจจัง"

    "เมื่อมีปัญญาเกิดขึ้นในจิตใจของเราแล้ว
    จะมองไปที่ไหน..จะมีแต่ธรรมะทั้งนั้น
    เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตลอดเวลา"


    [​IMG]
     
  19. แก้วสว่าง

    แก้วสว่าง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    3,232
    ค่าพลัง:
    +49,927
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ภูวดิท อ่านข้อความ
    ขอถาม อ.แก้วสว่าง หน่อยครับ ไม้แกะหลวงปู่ทิม แบบนี้มีมั๊ยครับ ถ้ามีพอจะทราบมั๊ยใครเป็นคนแกะครับ
    สวัสดีครับคุณภูวดิทที่นับถืออย่างสูง

    เรื่องวัตถุมงคลประเภทไม้แกะต่างๆในรูปแบบต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องใช้การวิเคราะห์และความละเอียดละอ่อนมาก จะเห็นว่าในยุคปัจจุบันนั้นมีให้เห็นอยู่กันมากจนดาษดื่นเอามาลงโฆษณาขายกัน อยู่ลึ่มหาคนที่เชื่อถือได้มาเป็นตัวหลักเพราะความที่มันขายกันง่ายโดย แกะเอาตามศิลปะตามแบบอย่างที่มีมาแต่ก่อนและการแกะนำเอาศิลป์จากเกจิอาจารย์ในยุคเก่ามาเป็นแบบเพื่อพ้องให้มันมีอารมณ์ศิลป์ทางจิตที่สามารถตอบเร้าสนองกับคนที่เห็นแล้วเกิดมีอารมณ์ที่สุนทรีต้องกับอารมณ์ทางจิตที่กร่อนคิดจนเกิดอาการอ่อนไหวเป็นที่บาดตาบาดใจอยากได้กันขึ้นมา เมื่อมันเป็นเหตุผลกับเหตุการณ์ที่มันต้องสะกดกับอารมณ์ที่เป็นเช่นนี้ เมื่อผู้ที่สร้างจริงก็ได้เสียชีวิตกันไปแล้วก็จักหาความจริงได้ยาก จึงทำให้ ลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคนนำเอาเหตุการณ์ที่เสมอเหมือนคิดว่าคงไม่มีใครคาดถึงมาฉกฉวยโอกาสต่อเล่าเอาความรับรองจากความเป็นศิษย์ที่ว่าตนเองเป็นอยู่ใกล้ชิดแล้วมีจริตจัดทำของสิ่งนี้ขึ้นมาโดยใช้รูปถ่ายแบบเดิมๆมาให้ดูสมจริงจนมีความน่าเชื่อถือกับผู้ที่ไม่เคยมีฐานความเข้าใจมาก่อนเลยแล้วมาโปรโมทยืนยันรับรองของดังกล่าวกันไป แต่ดันลืมไปว่าในยุคสมัยนี้มันเป็นยุคที่ทันสมัยแล้วต้องเอาเหตุผลที่แท้จริงให้มันสมเหตุสมผลว่าไม้แกะที่แท้จริงแล้วนั้นมีลักษณะความเป็นมาชัดเจนอย่างไรกัน ยุคนั้นใครเป็นคนแกะสร้างขึ้นมา! เคยมีลูกศิษย์คนใดไหมที่เอามาขายกันแต่ลืมเล่าถึงความเป็นที่มาให้กระจ่างกับคนที่เช่ากันไปบ้างล่ะท่าน และสิ่งสำคัญมีลูกศิษย์ลูกหาต่างๆอีกหลายคนที่ได้เคยเข้าไปสัมผัสกับหลวงปู่กันหรือแม้กระทั่งลูกศิษย์ลูกหาหรือชาวบ้านที่เคยอยู่วัดละหารไร่ว่าเคยได้เห็นหรือได้ครอบครองศิลปะไม้แกะในรูปแบบต่างๆเป็นแบบนี้กันบ้างไหมล่ะ ทั้งๆที่เมื่อก่อนนี้วัตถุมงคลประเภทนี้ไม่เคยลุกล้ำกันมากเพียงนี้ ทุกท่านเคยลองใช้วิจารณญาณถึงข้อนี้กันบ้างไหมล่ะครับ อย่าสับแต่ว่าเช่าอาจเพราะหลงเชื่อตามความคิดเห็นว่าลูกศิษย์บางคนเคยอยู่ใกล้ชิดหลวงปู่ แล้วเช่าไปโดยไม่รู้หลักหมายที่แท้จริง อาจต้องตกเป็นเหยื่อของความละโมบกันไป เพราะเป็นวัตถุมงคลที่ต้องใช้ฝีมือการแกะทำที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะคนเท่านั้น โดยวัตถุมงคลประเภทไม้แกะแต่ละอย่างนั้นจะเหมือนกันทุกองค์ไม่ได้เพราะแกะแบบแฮนด์เมด จึงต้องวัดใจกันตามแบบมาตรฐานที่ชัดเจนกันไป ซึ่งมันก็ไม่ยากเกินที่จะวิเคราะห์กันได้ถ้ารู้จักความเข้าใจกันอย่างถูกต้อง

    ถ้าพูดกล่าวถึงเรื่องวัตถุมงคลที่เป็นประเภทไม้แกะนั้น ซึ่งตามจริงแล้วผู้ที่ริเริ่มการแกะขึ้นมานั้นก็คือนายพิณ สัมฤทธิ์ ลูกศิษย์รุ่นเก่าของหลวงปู่ทิม ซึ่งถ้าถามในวงการอาจจะไม่มีใครรู้จัก เพราะหนังสือส่วนใหญ่จะเขียนบทบาทเฉพาะคนไปกัน หรือจะเขียนเฉพาะตนให้เป็นบุคคลสำคัญไปจนลืมไปว่าต่างก็ไม่ได้อยู่วัดกัน เพียงแค่ไปๆมาๆ หรืออาจจะมานอนค้างกันคืนสองคืนหลังจากที่ลูกศิษย์บางคนอาจจะเดินทางมาไกลถึงเมืองเหนือ จึงทำให้เรื่องราวต้องบิดเบือนไปเพราะทราบเพียงเขาเล่ากันว่า จะทราบเพียงตอนเมื่อครั้งหนึ่งช่วงเวลาที่เคยมาให้หลวงปู่ท่านรักษาโรคอะไรบางอย่างในครั้งแรกๆ หรือทราบเวลาบางบทบางตอนที่มาเยี่ยมเยียนกันในครั้งต่อๆมาเท่านั้น แต่ไม่ค่อยทราบเรื่องราวที่แท้จริง หรือบางทีเอาเรื่องราวที่เกิดจากคำบอกเล่ามาเป็นแม่บทอย่างเช่นผงพลายกุมาร เป็นต้นจากนั้นจึงต้องเขียนร่ำนิยายผสมกันเพราะไม่รู้จะเขียนเรื่องราวอะไรให้เป็นบทตัวแปรบทบาทที่สำคัญของความถูกต้องไปได้


    วัตถุมงคลประเภทไม้แกะนั้น คนที่เขาทันเหตุการณ์ในยุคนั้นจะทราบกันดีว่ามีลักษณะรูปร่างเป็นเช่นใด ไม้แกะที่หลวงปู่ทิมเสกทุกชิ้นไม่มีฝีมือระดับช่าง ไม่มีแกะจากโรงงาน ไม่มีโค๊ดตอก ไม่มีฝีมือการแกะที่กลมกลืนประณีตหรือการเจียรระไนตกแต่ง แต่อย่างใด เพราะอะไร! สมัยนั้นไม่มีเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย และยังไม่มีความนิยมชมชอบกันเท่าไหร่ จะแจกใช้กันในหมู่ผู้คนชาวบ้านละหารไร่และลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาหลวงปู่กัน ของจริงจะเป็นฝีมือชาวบ้านล้วนๆ เราจะเห็นว่าในยุคปัจจุบันมันมีโผล่หราในหนังสือบางเล่มที่ออกขายในบางตอนที่กล่าวถึงเรื่องไม้แกะในรูปลักษณ์ต่างๆของหลวงปู่ทิมโดยโชว์รูปมาอ้างอิงแล้วนำเสนอขายโดยมีลูกศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้สนับสนุนอยู่แนวหลัง แล้วของไม้แกะที่ว่ามันมาจากไหน เป็นของเดิมหรือเป็นของทำขึ้นมาใหม่ จะเขียนแต่อารัมภบทเล่ายาวๆให้มันเทียบเคียงกับเหตุผลแต่ถ้าลองสังเกตกันดีๆว่า ทำไมไม่เขียนยกกล่าวอ้างถึงที่มาที่ไปให้มันชัดเจนกับคนที่อ่านล่ะว่าใครเป็นคนแกะ ใครเป็นคนทำกันขึ้นมา!


    วัตถุมงคลประเภทไม้แกะนั้นถ้าจะประมาณกันจริงๆจะมีสองยุคด้วยกัน คือในช่วงยุคแรกๆกับช่วงในยุคก่อนสร้างโบสถ์ หรือจะกล่าวกันง่ายๆยุคที่มีการใช้มีดขอหรือมีดพกมาถากเหลาหรือการใช้ตะไบมาถากถู กับยุคที่มีวิวัฒนาการใช้กระดาษทรายมาขัดเพื่อให้มีความเรียบร้อยและสวยงามขึ้น แต่รูปทรงต่างๆก็ยังถือว่าเป็นเอกลักษณ์แบบฝีมือชาวบ้านอยู่ดี ซึ่งชาวบ้านยุคเก่าๆหรือแม้กระทั่งพระและเณรที่บวชอยู่ทันเหตุการณ์ในครั้งนั้นย่อมทราบกันดีว่าของแต่ละอย่างแต่ละยุคที่จัดสร้างไปนั้นมันเป็นแบบไหนถ้านำมาเล่าถึงตามความเป็นหลักที่แท้จริงกัน


    นายสาย แก้วสว่างท่านเล่าว่าไม้แกะที่แกะกันจะมีกันเพียงแค่สองยุคกันเท่านั้นที่สร้างในสมัยที่หลวงปู่ทิมท่านมีชีวิตอยู่ แต่ต่อมาหลังจากนั้นยังมีกำเนิดมียุคสามขึ้นอีกครั้ง โดยในยุคนี้สร้างหลังจากหลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้ว ไม่มีการเสกแต่อย่างใด แต่จัดสร้างโดยการจ้างจากคณะลูกศิษย์ลูกหาที่ไปจ้างท่านแกะขึ้นมาอีกครั้งด้วยจุดประสงค์อันใดลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดคงน่าจะทราบดีกันไม่ต้องมีคำบรรยาย แต่ยุคนี้ลักษณะฝีมือจะต่างกันไปมากเพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยแล้ว ซึ่งในยุคสามนี้จะแยกแยะกันไม่ยากเลย เพราะความเก่าของไม้และฝีมือที่เป็นเอกเฉพาะนั้นจะแตกต่างกันมาก ถึงแม้จะเป็นฝีมือเดียวกันก็จริง ทุกคนที่เพิ่งเข้ามากันในยุคหลังหรือที่เข้ามากันในช่วงปลายๆหลวงปู่หรือช่วงตั้งแต่ปี17ลงมาเพราะช่วงเวลานั้นไม่มีการสร้างแล้วแต่อาจจะมีได้กันบ้างจากลูกศิษย์ลูกหาที่เข้าไปกันและน่าจะรู้ดีกันว่าไม้แกะที่ได้กันมาในตอนนั้นมีรูปร่างหน้าตาและลักษณะรูปทรงเป็นเช่นใดกัน ยิ่งถ้าคนหรือเซียนที่เข้ามาในยุคหลังๆแทบไม่ต้องวิเคราะห์กันเลยมีสิทธิ์โดนกันหมดถ้ามีจิตที่ยังไม่ยั้งคิดพอตามประมาณการรูปแบบทรงที่มันลึกล้ำกันได้

    ด้วยความที่เป็นวัตถุมงคลเครื่องรางที่มันสามารถขายกันแบบดิ้นๆกันไปเฉพาะตน ด้วยเพราะความที่ไม่มีอะไรเป็นตัวบ่งบอกความแน่นอนชี้ชัด จึงขายกับแบบไม่มีหลักประกัน อาศัยความเชื่อและที่มาเล่าความกันไปแบบน้ำขุ่นๆหรืออาจเปรียบใช้วิธีการตามแบบฉบับสาริกาล่องลม ด้วยความที่เป็นเหตุฉะนี้ต่อมาจึงกำเนิดเป็นรุ่นสี่รุ่นห้าตามแบบอย่างที่เห็นกันในทุกวันนี้โดยลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ทำธุรกิจขายพระไปจ้างแกะมาจากช่างฝีมือแห่งหนึ่งแล้วเอามาหลอกขายต่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งผู้คนผู้ศรัทธาที่รู้ไม่เท่าทันเหตุการณ์ก็ต้องซื้อกันไปแบบฉับฉลหรือคิดเข้าข้างตัวเองว่าคงน่าจะใช่ และมันก็ทำให้เป็นเรื่องราวที่มันกำกวมและสับสนกันเรื่อยมาไม่ว่าใครทั้งนั้นเฉกเช่นเดียวกับพระขุนแผนผงพลายกุมารที่ต้องถูกมนต์สะกดเอาไว้โดยทิ้งไว้กับคำถามที่ต้องรบเร้ากันงุนงงเรื่อยมาในตลอดระยะเวลา กว่า30 ปีที่ล่วงมาแล้ว จึงเป็นเรื่องยากที่จะให้ความกระจ่างที่ชัดเจนกับคำตอบที่เกิดขึ้นเมื่อขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้กับลูกศิษย์ใครบางคนที่จัดสรรกันไปเนิ่นนานแล้ว

    นายสาย แก้วสว่างไวยาวัจกรของวัดละหารไร่ท่านเล่าว่าในช่วงยุคหลังๆถ้าเป็นวัตถุมงคลประเภทไม้แกะโดยส่วนใหญ่จะจัดสร้างทำกันมาทีหลังเกือบจะทั้งนั้นด้วยเหตุผลหลายประการที่จำเป็นต้องพึงประสงค์ ซึ่งของแต่เดิมนั้นมันอาจไม่ค่อยมีเอกลักษณ์เด่นถูกตาถูกใจกับคนที่เห็นแต่จะมีลักษณะของความเป็นเอกบุรุษกับคนที่ศรัทธาและเชื่อมั่นกันเท่านั้น เพราะถ้ายิ่งคนที่เข้ามาในยุคหลังๆถ้าได้เห็นของจริงๆที่แน่ชัดแล้วก็คงไม่มีใครแขวนใช้หรือคงต้องถอดใจกันแน่ เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้คนยังติดหลงในรูปลักษณ์อันเรียบร้อยสวยงาม จึงเป็นเรื่องธรรมดาต้องมีของแบบนี้กันขึ้นมาเพราะความชั่งใจกับเหตุผลและเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่างที่จำเป็นต้องสนองกันขึ้นมาเพื่อความผูกใจกันกับทุกฝ่าย นายสายท่านเล่าว่าส่วนใหญ่แล้วโดยหลังจากที่หลวงปู่ทิมท่านมรณภาพไปคนที่เข้ามาในยุคหลังๆส่วนใหญ่จะเป็นผู้คนที่ศรัทธากันมากเพราะด้วยความที่ท่านมีชื่อเสียงที่ร่ำลือกันมากโดยเฉพาะเมื่อคราวที่หลวงปู่ท่านเพิ่งมรณภาพไปใหม่ๆเมื่อวันที่16 ต.ค.2518โดยมีอายุกาลถึง 96 ปีก็เกิดความอัศจรรย์เมื่ออายุของหลวงปู่ท่านไปตรงกับรางวัลเลขท้ายรางวัลที่หนึ่งของรัฐบาลในงวดที่ออกนั้นพอดีคือเลข096 ทำให้งวดนั้นมีผู้คนที่นับถือและศรัทธาหลวงปู่ได้ซื้อเลขตามอายุของท่านจนถูกกันล้นหลามเป็นข่าวที่ฮือฮามากในช่วงเวลานั้น จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนนั้นล้วนมีความศรัทธาต่อเนื่องตามลำดับกันเรื่อยมา

    นายสายท่านเล่าว่าไม้แกะที่ท่านแกะครั้งสุดท้ายในยุคสมัยหลวงปู่จะเป็นพระปิดตารุ่นอธิบดี โดยใช้ไม้รากรักแดงแกะขึ้นมาจำนวน60กว่าองค์ พระที่แกะจากไม้รักแดงชุดนี้จะมีพระปิดตาเท่านั้นนะครับ ถ้าเป็นพิมพ์อื่นๆอย่างเช่นรูปเหมือนหรือพระปิดตาหรือในรูปทรงอื่นๆนั้นจะแกะกันมาทีหลัง หลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้วไม่มีการเสกเสริมจากเกจิอื่นๆแต่อย่างใด ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ที่ได้เอาไปจำหน่ายขายกันอย่างสะบั้นก็น่าจะเข้าใจกันดีกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา นายสายท่านเล่าว่าส่วนใหญ่แล้วในยุคหลังๆเมื่อหลวงปู่ท่านมีชื่อเสียงที่มากขึ้นวัตถุมงคลต่างๆที่ท่านเสกสร้างก็เริ่มมีราคาค่างวดมากขึ้นตามลำดับตามแต่ค่าของเงินในขณะนั้น สมัยนั้นยังไม่มีราคาที่แพงมากไม่เหมือนกับสมัยนี้ที่ลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคนยังถือจริตเดิมที่จำเป็นต้องใช้โอกาสอันควรนำชื่อเสียงของหลวงปู่มาเป็นเครื่องธุระบังหน้าแล้วจัดสรรวัตถุมงคลไปตามแบบยุทธวิธีของตนเอง โดยเอาชื่อเสียงที่เคยร่ายรำไปในอดีตและรูปถ่ายมาเป็นหลักประกันความเชื่อว่าครั้งหนึ่งได้เข้าไปใกล้ชิดหลวงปู่

    ฉะนั้นวัตถุมงคลประเภทไม้แกะนี้เป็นเรื่องราวที่มันต้องมีความเข้าใจกันอย่างสูงเพราะต้องมีความเชื่อมั่น กับเหตุผลที่พึงพอจะมี อย่าเชื่อมั่นกับตนเอง อย่าคิดเกินเลย สังหรณ์ใจกันบ้างก็ดีจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่ออันโอชะของลูกศิษย์ใครบางคน ซึ่งเรื่องราวของหลวงปู่ทิมมันมีอีกมากมายที่ใครหลายคนอาจจะยังหลงทิศหลงทางกับความเชื่อเดิมๆที่ตกแต่งกันขึ้นมาให้มีเชื่อมั่นและความสรรสร้างทางจิตใจจนเป็นความเข้าใจที่คิดว่าเป็นจริง สิ่งต่างๆเหล่านี้มันล้วนเป็นสัจธรรมนำชีวิตที่ต้องก้าวล้ำสู่โลกอันทันสมัย แต่มีคำกล่าวอยู่อย่างหนึ่งที่โบราณนั้นเขามีความเชื่อถือกันมาว่า สวรรค์มีตา ฟ้าดินมีใจ คนเราทำอะไรไป ย่อมได้กรรมดีและผลกรรมสนองผลกันไปตามนั้น
     
  20. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,752
    อีกหนึ่งพัฒนาการของพิมพ์พระพุทธห้าเหลี่ยม

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...