อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    ....ฝากไว้ในอัลบั้มครับ....​


    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wX8q6pdW3cVSGXZC" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/66b/DYNpj8.JPG" /></a>

    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wX8q8x61KEUrnbGE" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/ac6/nqi3mW.JPG" /></a>

    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wX0xMkNE2bMXy8U9" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/558/PhPWNW.JPG" /></a>

    <a href="http://image.ohozaa.com/view2/wX0xRivc0ogUge3C" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/c57/1nvVLO.JPG" /></a>

    หลวงปู่นาค ท่านเป็นพระเกจิที่มีเมตตา สมถะ สันโดษ เรียบง่าย จึงเป็นที่เคารพศรัทธาน่ากราบไหว้บูชาของคนในพื้นที่ยิ่งนัก อีกทั้งท่านยังท่านมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาษาขอมโบราณ โดยเฉพาะยันต์มหาอุต ยันต์ครอบจักรวาล ซึ่งเป็นภาษาขอมโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

    ประวัติพระอธิการนาค จันทิโม แห่งวัดมะม่วง อ.บ่อไร่ จ.ตราด
    ประวัติพระอธิการนาค จันทิโม
    เดิมชื่อ นาค นามสกุล ฉัตรหัสถ์ เกิดวันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ โยมบิดาชื่อ นายแก้ว โยมมารดาชื่อ นางเวก มีพี่น้องร่วมท้อง ๓ คน โยมพี่ชาย โยมพี่สาว ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว พระอธิการนาค จันทิโม เป็นบุตรคนสุดท้อง

    พระอธิการนาค จันทิโม ได้บวชเรียนพระคาถาอาคมกับพระอาจารย์ชาวกัมพูชา ( พระสายป่า ) ในประเทศกัมพูชา มีวิชาอาคมด้านเมตตามหานิยมสูงยิ่ง และ ด้านคงกระพัน
    ชาตรีเด่นดังเช่นกัน พระอธิการนาค ท่านมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับภาษาขอมโบราณ โดยเฉพาะยันต์มหาอุต ยันต์ครอบจักรวาล ซึ่งเป็นภาษาขอมโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

    วัตถุมงคลของท่าน
    เหรียญรุ่นแรก ( รุ่น ๑ ) สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ - พ.ศ.๒๕๓๕ ( จำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ )
    เป็นเหรียญเนื้อทองแดง ด้านหน้า เป็นรูปเหมือนท่านพระอธิการนาค ครึ่งองค์
    ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปยันต์มหาอุต ด้านบนมีชื่อวัดมะม่วง ด้านล่างเป็นที่อยู่ของวัด

    วัตถุประสงค์ของการสร้าง
    เพื่อแจกจ่ายให้ศิษยานุศิษย์ กับคณะผ้าป่าที่มาจากกรุงเทพฯ เพื่อนำเงินมาบำรุง ซ่อมแซมเมรุและสร้างซุ้มประตูวัด
    เหรียญพระอธิการนาค มีพุทธคุณเด่นในทางแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม

    ประสบการณ์จากเหรียญรุ่นแรกของท่าน ( รุ่น ๑ )
    เหรียญรุ่นแรก ( รุ่น ๑ ) ที่มีประสบการณ์เคยเกิดขึ้นมาแล้วขอนำยกตัวอย่างมาเล่าให้ฟังบางเรื่องดังนี้ครับ
    ครั้งที่ ๑,
    เด็กหนุ่มในหมู่บ้านเกิดการทะเลาะวิวาทในกลุ่มวัยรุ่นด้วยกัน เหตุเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๒ เด็กหนุ่มผู้นั้นถูกจ่อยิงในระยะประชิดตัว ด้วยอาวุธปืนสั้น กระสุนด้าน ไม่ออก

    ครั้งที่ ๒, เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓
    ผู้ใหญ่ประยงค์ เจียมสะอาด ผู้ใหญ่บ้านมะม่วง ได้ถูกกลุ่มมือปืน ซุ่มยิงในบ้านพัก เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. โดยกลุ่มมือปืน ใช้อาวุธปืนสั้น ลูกซองยาว อาก้า ยิงถล่มเข้าใส่ร่างผู้ใหญ่ประยงค์ เจียมสะอาด หวังให้เสียชีวิต แต่คมกระสุนไม่ถูกร่างผู้ใหญ่แม้แต่นัดเดียว ด้วยห่ากระสุนจำนวนมาก คมกระสุนทำให้ถูกเสาวิทยุมือถือขาด ซึ่งผู้ใหญ่ได้ถือวิทยุมือถือไว้ สอบถามผู้ใหญ่ประยงค์ เจียมสะอาด ได้ความว่า ช่วงที่ถูกยิง ได้ปรากฏม่านสีดำและตัวอักขระขอมโบราณสีทองลอยเป็นม่านบังห่ากระสุนอยู่ที่ด้านหน้าผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นหตุการณ์น่าอัศจรรย์ ผู้ใหญ่ประยงค์ เจียมสะอาด แขวนสร้อยคอมีเพียงเหรียญพระอธิการนาค เพียงองค์เดียว คดีอยู่ที่พนักงานสอบสวน สภ.บ่อไร่ จ.ตราด พ.ต.ท.รชตฯ

    ครั้งที่ ๓, ต้นเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๕๔
    นายรักษ์ พร้อมภรรยา ออกไปทำธุระนอกบ้าน ขากลับให้เส้นทาง ถนนบ่อไร่ - เขาสมิง โดยใช้รถยนต์ปิคอัพเป็นพาหนะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ถูกกลุ่มมือปีนไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มในระยะใกล้ตัวรถมาก จึงเป็นเหตุให้รถยนต์คันดังกล่าวตกไหล่ทาง ทำให้นายรักษ์ เสียชีวิตทันที กลุ่มมือปืนได้กระหน่ำยิงใส่รถคันดังกล่าวอีกชุดใหญ่ โดยหวังให้ผู้ที่อยู่ในรถเสียชีวิตทั้งหมด แต่ปรากฏว่า ภรรยานายรักษ์ตกใจกลัวแค่สลบ คมกระสุนเฉี่ยวศรีษะเป็นรอยถลอกเล็กน้อยเท่านั้น ที่คอภรรยานายรักษ์ มีเพียงเหรียญพระอธิการนาค เพียงองค์เดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ภรรยานายรักษ์กลัวมาก ไม่กล้าให้รายละเอียดกับบุคคลอื่น และเบอร์โทรฯ สอบถาม แต่เหตุการณ์ทั้งหมด สามารถสอบถามกับพนักงานสอบสวน สภ.บ่อไร่ พ.ต.ต.ศิลายุตท์ฯ และชาวบ้านมะม่วงได้โดยละเอียด

    ครั้งที่ ๔, เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔
    รถยนต์ชนเด็กปฐมวัยโรงเรียนบ้านมะม่วง เป็นเด็กชายโดยถูกรถชนแล้วลากตัวไปกับถนนประมาณ ๑๐ เมตร เด็กชายผู้นั้นไม่ได้รับอันตรายแม้แต่รอยถลอก บาดเจ็บแม้แต่เล็กน้อยก็ไม่มี

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นเพราะพุทธคุณจากเหรียญ พระอธิการนาค จันทิโม ซึ่งชาวบ้านมะม่วงต่างหวงแหนนัก ต่างเก็บสะสมห้อยคอให้บุตรหลานตนเองแทบทุกคน

    ขอคุณเจ้าของข้อมูลครับ
     
  2. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
     
  3. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG].....ครับ น้องข้าวโอ๊ต [​IMG]

     
  4. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ฝากไว้ในอัลบั้ม

    ลงไปหรือยังก็ไม่รู้ ลง ลง ลบ ลบ เบลอ เลย catt3​



    [​IMG]


    [​IMG]

    ขอขอบคุณรองศาสตราจารย์ทันตแพทย์เกรียงไกร คุ้มไพโรจน์ ที่ได้กรุณาเผยแพร่ข้อมูลไว้ที่ เชียงใหม่ - หน้าแรก

    รองศาสตราจารย์ทันตแพทย์เกรียงไกร คุ้มไพโรจน์ ได้ขออนุญาติสร้าง กับหลวงปู่เจี๊ยะโดยใช้ทันตธาตุ หลวงปู่มั่นที่มอบให้หลวงปู่เจี้ยะเก็บรักษาไว้เป็นองค์ต้นแบบ เริ่มดำเนินงาน สร้างตั้งแต่ ปีพ.ศ.2542
    จำนวนการสร้าง

    สร้างครั้งแรก
    เนื้อทองคำ 35 องค์ มีผู้ถวายหลวงพ่อทุยบรรจุเจดีย์ไปแล้วไม่น้อยกว่า 11 องค์
    เนื้อเงิน 85 องค์
    เนื้อโลหะ 2543 องค์
    ลองพิมพ์ 55 องค์ (จะมีแต่รูปฟันยังไม่มีองค์หลวงปู่มั่น)

    สร้างครั้งที่สอง
    หลังจากได้จัดสร้างพระชุดแรกเสร็จแล้ว ขณะที่นำพระไปกราบครูบาอาจารย์ท่านเมตตาอธิษฐานจิต หลวงพ่อทุยมีความประสงค์ให้สร้างเนื้อพิเศษขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่งโดยมีมวลสาร 5 ชนิด ทองคำ 5 บาท, นาค, เงิน, เหล็กเปียก, ฝาบาตรของหลวงปู่คำตัน นำมาหลอมรวมกัน ในการสร้าง ผู้สร้างจึงมากราบขออนุญาติหลวงปู่เจี๊ยะ อีกครั้ง ใน ครั้งนี้เทพระได้จำนวน ประมาณ ๓๖๘ องค์ เท่านั้น

    สร้างครั้งที่สาม
    หลังวันงานเททอง 23 ธันวาคม 2545 ชนวนที่เทเหลือ หลวงปู่ลี ใด้เมตตาสั่งให้เก็บ ทางผู้สร้างทันตธาตุได้นำไปเทพระทันตธาตุ โดยใช้ทองชนวนล้วนๆ เทเป็นองค์พระได้พระจำนวน 42 องค์ โดยนำขึ้นขอเมตตาจาก หลวงปู่ลีและถวายท่านแจก เป็น 2 วาระ ที่ผาแดง 22 องค์ ที่สวนแสงธรรม 20 องค์ ลักษณะพระจะมีสีออกเหลือง เพราะเป็นเนื้อทองเหลืองไม่ออกแดง เหมือนแบบแรก
    หลังจากสร้างเสร็จได้นำไปขอเมตตาจาก หลวงปู่เจี๊ยะ หลวงปู่บุญมี หลวงปู่เพียร หลวงปู่ลี ท่านพระอาจารย์เปลี่ยน ท่านพระอาจารย์เลื่อม ท่านพระอาจารย์ฟิลิป หลวงพ่อทุย วัดป่าดานวิเวก ตลอดทั้งพรรษา
    ระหว่างนั้นได้นำพระเข้าพิธีต่างๆที่วัดหลวงปู่เจี๊ยะ ตลอดเวลาที่ทางวัดจัดงาน และได้นำพระทั้งหมดเข้าพิธีงานบุญข้าวเปลือกที่วัดป่าบ้านตาด ปี2545 กับพิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ที่สวนแสงธรรม ในวันที่ 23 ธ.ค 45 เป็นวาระสุดท้าย จึงเริ่มแจกโดยถวาย
    ...หลวงปู่เจี๊ยะบรรจุในเจดีย์ท่านประมาณ 500 องค์
    ...หลวงพ่อทุยแจกและบรรจุเจดีย์ อีกประมาณ 700-800 องค์
    ที่เหลือถวายครูบาอาจารย์ หลายท่านและแจกจ่ายกันในหมู่ศิษย์

    ...............................................
    รายละเอียดในการสร้าง

    ประวัติความเป็นมาของทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น คือ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๒ พระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะ จุณฺโท(พระครูสุทธิธรรมรังสี) ขณะนั้นท่านศึกษาปฏิบัติธรรมอยู่กับท่านพระอาจารย์มั่น ที่อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ บ่ายวันหนึ่งได้เข้าไปถวายน้ำล้างหน้าให้ท่านพระอาจารย์มั่น ขณะที่ท่านพระอาจารย์มั่นล้างหน้าอยู่นั้น ฟันรองเขี้ยวของท่านพระอาจารย์มั่นหลุดออกและท่านพระอาจารย์ได้ยื่นฟันที่หลุดให้หลวงปู่เจี๊ยะ หลวงปู่เจี๊ยะ จึงเก็บรักษาฟันนั้นไว้
    ในเวลาต่อมาฟันท่านพระอาจารย์มั่นได้กลายเป็นพระทันตธาตุเป็นที่เจริญศรัทธาแก่การกราบไหว้ พระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะดำริสร้างเจดีย์ให้เป็นที่ประดิษฐานพระทันตธาตุของท่านพระอาจารย์มั่น เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระคุณ ตลอดจนเมตตาอันยิ่งใหญ่ของท่านพระอาจารย์มั่น
    เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ข้าพเจ้าทันตแพทย์เกรียงไกร คุ้มไพโรจน์ ได้มีโอกาสกราบพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะ จุณโท โดยคุณลุงชิน เนียวกุล ท่านเป็นประธานหมู่บ้านเกษตรนิเวศน์(แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.) ได้กราบนิมนต์พระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะมาที่หมู่บ้าน คุณลุงชินได้กรุณาเชิญข้าพเจ้าให้ไปร่วมทำบุญกับหลวงปู่ ซึ่งเป็นพระอาจารย์สายวิปัสสนาสายท่านพระอาจารย์มั่น
    หลวงปู่เจี๊ยะท่านเมตตากรุณาสอนภาวนาอยู่ ๒-๓ ครั้ง แล้วก็กลับไปที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี คุณลุงชินท่านได้กรุณานำบุญมาให้แก่ข้าพเจ้าด้วยการนิมนต์หลวงปู่เจี๊ยะมารักษาฟันที่คลีนิค ข้าพเจ้าได้ไปที่วัดหลวงปู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่ในระยะ ๑๐ ปีหลังข้าพเจ้าจะไปวัดหลวงปู่บ่อยขึ้น โดยปกติจะไปทำบุญกับหลวงปู่เจี๊ยะ เกือบจะทุกวันเสาร์ หรือบางครั้งในบางโอกาสก็จะไปในช่วงเวลาอื่นๆ ในระยะที่จะมี”
    การจัดสร้างเจดีย์พระทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ” หลวงปู่เจี๊ยะ ท่านได้เอาพระทันตธาตุของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาให้ลูกศิษย์ชมกัน คุณทวีวรรณ บุญญานุศาสน์ ท่านได้เสนอที่จะทำผะอบทองคำบรรจุองค์พระทันตธาตุของหลวงปู่มั่น กระผมจึงเกิดความคิดว่าเมื่อบรรจุพระทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น แล้วอาจจะไม่ได้เห็นหรือเห็นได้ในระยะไกล ข้าพเจ้าจึงขอประทานอนุญาตจากท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะ เพื่อที่จะจัดสร้างรูปเหมือนองค์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตต ไว้บนองค์พระทันตธาตุของท่าน ไว้เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจต่อไป โดยกราบเรียนท่านว่าจัดสร้างเป็นเนื้อนวโลหะ ๒,๕๔๓ องค์ เป็นเนื้อเงิน ๘๕ องค์ และเป็นเนื้อทองแล้วแต่ผู้ที่ต้องการของศิษยานุศิษย์

    ท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะ จุณฺโท ได้เมตตาให้ท่านเขียว (พระประสิทธ์ สิทธิจิตต) มาเปิดตู้นิรภัยเอาองค์พระทันตธาตุของท่านพระอาจารย์มั่น ออกมาให้คุณหมอฯ ใช้วัสดุทำฟันที่จัดเตรียมมาพิมพ์ลอกแบบรายละเอียดองค์พระทันตธาตุของท่านพระอาจารย์มั่นเก็บเอาไว้ คุณหมอฯ ได้จัดทำรูปเหมือนองค์ท่านพระอาจารย์มั่นบนองค์พระทันตธาตุตามที่ได้กราบเรียนหลวงปู่เจี๊ยะ ตั้งแต่ต้นแล้ว โดยได้เริ่มจัดสร้างในปีพ.ศ. ๒๕๔๒ และได้ไปอธิฐานจิตขอกับองค์หลวงปู่มั่นที่เจดีย์วัดป่าสุธาวาสจังหวัดสกลนคร เพื่อให้การจัดสร้างได้สำริดตามความประสงค์ทุกประการเพื่อเป็นการเทิดทูลองค์ท่าน ที่ศิษยานุศิษย์เคารพบูชาอย่างสูง

    ขณะที่จัดสร้างพระทันตธาตุ ได้รองทำก่อน มีเนื้อโลหะที่ใช้ทำฟันปลอมที่เรียกว่า "Vitalium" 2 ชิ้น เป็นโลหะที่แปลกออกไป ได้ให้ ดร. ไพทูรย์ กิติสุนทร ลูกศิษย์ท่านอาจารย์เดียวกัน ไปหนึ่งองค์อยู่ที่เจ้าของหนึ่งองค์ ดร.ไพทูรย์ กิติสุนทร บอกว่าเนื้อแปลกดี ระยะที่เริ่มสร้างเจดีย์พระทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เกิดความคิดว่าจะจำลองพระทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่นที่ไม่มีองค์ท่านบนตัวฟันบ้างเพื่อให้ได้ดูกัน เพื่อที่จะจัดสร้างรูปเหมือนองค์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตต ไว้บนองค์พระทันตธาตุของท่านทันตธาตุพระอาจารย์มั่นเปล่าๆ มี 55 องค์ (ขนาดเท่าฟันจริงของท่าน) เป็นทองคำ ๑ องค์ นอกนั้นเป็นทองแดง กับชินตะกั่ว หลังจากถอดแบบจากองค์พระทันตธาตุหลวงปู่มั่นแล้ว ก็พยายามเพิ่มชนวนหุ่นเองโดยใช้วัสดุทางทันตกรรมความละเอียดจะใกล้ของจริงมาก และหล่อแบบเอามาให้ช่างขึ้นรูปเป็นองค์หลวงปู่อยู่บนทันตธาตุ(จากหินสบู่) และหล่อขึ้น

    เมื่อการจัดสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอฯ ได้นำเอาพระหลวงปู่มั่นที่ติดบนองค์พระทันตธาตุของท่านให้ท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะ ได้เมตตาอธิฐานจิตให้ และเมื่อวันคล้ายวันเกิดท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะในปี พ.ศ.๒๕๔๓ ได้นำขึ้นบนเจดีย์ทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เพื่อร่วมพิธีสวดพุทธมนต์ในวันงานท่านโดยขออนุญาตจากท่านชิน (วัดธรรมสถิตย์) โดยมีอาจารย์สายวิปัสสนาธุระหลายองค์ เสร็จพิธีมีการเทศน์ของท่านพระอาจารย์คำพอง ติสโส และได้นำมาเพื่อร่วมพิธีสวดพุทธมนต์ เนื่องในงานวันคล้ายวันเกิดท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่ปรำพิธีด้านล่าง และได้นำมาเพื่อร่วมพิธีสวดพุทธมนต์เนื่องในงานวันคล้ายวันเกิดท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะในปีพ.ศ. ๒๕๔๕ ที่ปรำพิธีด้านล่าง ตลอดพรรษาในปีพ.ศ. ๒๕๔๔ ได้กราบเรียนท่านพระอาจารย์ปรีดา (ทุย) ฉันทกโร ไว้ที่พระประธาน บนศาลาที่วัด ณ. ศาลาวัดป่าดานวิเวก อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย หนึ่งพรรษา ในปีพ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับความกรุณาจากท่านพระอาจารย์บุญมี ปริปุณโณ วัดป่าบ้านนาคูณ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ท่านพระอาจารย์เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง ต.บ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานีและท่านพระอาจารย์ลี กุสลธโร วัดป่าเกสรศีลคุณ ธรรมเจดีย์(ภูผาแดง)วิเวก อ. หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ นำเข้าพิธีเทหล่อรูปเหมือนท่านพระอาจารย์มั่น โดยองค์พระอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณโนเป็นองค์ประทานฝ่ายสงฆ์รวมทั้งประทานเททองและสวดพุทธมนต์ พร้อมพระพุทธพจน วราจารย์ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ และท่านอาจารย์ ลี กุสลธโร วัดป่าเกสรศีลคุณ ธรรมเจดีย์(ภูผาแดง)วิเวก อ. หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ตอนที่เททองพระประธานที่วัดโพธิญาณ เพื่อไปประดิษฐานที่ประเทศออสเตเรีย พระสายหลวงพ่อชา ท่านพระอาจารย์เลี่ยม ขออธิษฐานจิตจากท่านพระอาจารย์เปลี่ยนในวันนั้นด้วย เนื่องจากท่านมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และอีกครั้งประทายข้าวที่บ้านตาด(ขอท่านอาจารย์กนก)ไว้ใต้พระประทานที่พิธี ต่อมาคุณหมอฯ ได้ขออนุณาตท่านอาจารย์กนก นำทันตธาตุทั้งหมดไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาของพระประธานในพิธี
    หลวงตามหาบัวท่านเทศน์อบรมฆราวาส ณ. สวนแสงธรรมเมื่อ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ (เช้า) เรื่องหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ว่า “ หลวงปู่มั่นท่านเป็นต้นลำอันสำคัญ คือครูบาอาจารย์ที่ได้รับการอบรมศึกษามาจากท่านเต็มที่แล้ว กระจายไปแน่ะนำสั่งสอนโลก คือออกจากองค์หลวงปู่มั่นเป็นอันดับหนึ่ง แตกกิ่งก้านออกไปก็ไปเป็นครูเป็นอาจารย์ แน่นำสั่งสอนพี่น้องทั้งหลาย ”

    การสร้างครั้งที่สอง
    ขณะที่นำพระไปกราบครูบาอาจารย์ท่านเมตตาอธิษฐานจิต หลังจากเก็บไว้ที่พระประธานที่วัดป่าดานวิเวก ท่านพระอาจารย์ปรีดา(ทุย) ฉนฺทกโร ท่านให้ขออนุญาตท่านพระอาจารย์หลวงปู่เจี๊ยะ จุณฺโท พระทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตต โดยใช้เนื้อ ๕ ชนิด ได้แก่ทอง ๕ บาท , เงิน (เป็นเงินแผ่นหนาของประเทศจีนแบบเก่า (เป็นเงินฮาง)), นาก ๕ บาท, เหล็กที่เหลือจากจัดสร้างพระชัยวัฒน์ หลวงปู่คำตัน, และทองเหลืองฝาบาตรหลวงปู่คำตัน รวมเป็น ๕ อย่างโดยดร. ไพทูรย์ กิติสุนทรนำเอาไปหลอมรวมกัน ได้ประมาณ ๓๖๘ องค์ (ตามที่ได้บันทึกไว้) สร้างเสร็จถวายท่ายพระอาจารย์หมด

    การสร้างครั้งที่สาม
    วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ มีพิธีการเทหล่อรูปเหมือนท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตต มีเศษทองเหลือมีคนเก็บไว้ ท่านพระอาจารย์หลวงปู่ลี กุสลธโร ท่านเรียกคืนและอนุญาตให้ข้าพเจ้าไปหล่อพระทันตธาตุท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตต ได้ ๔๒ องค์ ไม่ได้ผสมเนื้ออื่นเลย ถวายท่านที่วัด ๒๒ องค์ เพื่อให้ศิยษ์ที่อุดรได้และถวายที่วัดป่าภูริทัตตฯ ๒๐ องค์ ลักษณะพระจะมีสีออกเหลือง เพราะเป็นเนื้อทองเหลืองไม่ออกแดง เหมือนแบบแรก สำหรับทันตธาตุพระอาจารย์มั่นที่ขออนุญาตพระอาจารย์หลวงปู่ลี จะมีโค๊ตว่าลี เป็นอักษรธรรม " ลี " ตอกอยู่คู่โค๊ตเดิม
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,083
    ค่าพลัง:
    +53,094
    เหรียญรุ่นแซยิด " ครบรอบอายุ 93 ปี " หลวงปู่หุน วัดบางผึ้ง จ.ฉะเชิงเทรา ปี2553
    ดังตั้งแต่วันออกเลยครับ เหรียญนี้วัดสร้างเอง ไม่มีวางจำหน่ายตามศูนย์ครับต้องบูชาที่วัดอย่างเดียวเหรียญแซยิด 93 ปี มหาเศรษฐีเสริมบารมี ดังคำวาจาสิทธิ์ ของหลวงปู่หุน ว่าใครก็ตามที่ได้บูชาเหรียญรุ่นนี้ แล้วจะทำให้ร่ำรวยมีบารมีเป็นที่นับน่าถือตาของคนทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พ ย 2553 เป็นวันทอดกฐินประจำปีของวัดบางผึ้ง ได้มีประชาชนชาวตำบลบางผึ้งและต่างตำบลมากันมากมาย มาช่วยกันมากมาย มาช่วยทำบุญทอดกฐินกันตั้งแต่เช้า มีร้านอาหารมาช่วยกันมากมายหลายร้อยคนบางตนเข้าไปกราบหลวงปู่ ที่กุฏิหลวงปู่เปิดให้บูชาเหรียญแซยิด 93 ปี
    หลวงปู่บอกว่าเหรียญรุ่นนี้หลวงปู่ตั้งใจทำให้เป็นพิเศษ ปลุกเสกเต็มกำลัง มีลูกศิษย์บางคนถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่อายุ 93 ปีแล้วงวดนี้จะออกไหม หลวงปู่บอกว่า ออกยังไงก็ต้องออก ครับ ผลออกมา งวดวันที่ 16 พ ย 53 เลขท้ายรางวัลที่ 1 ออก 993 ตรงๆเลยไม่ต้องกลับ คนตำบลบางผึ้งถูกกันทั้งตำบลเลยไม่เชื่อลองไปถามคนบางผึ้งดูเองเรื่องนี้ เป็นเรื่องโจทย์ขานของคนบางผึ้งมาก ถ้าวันไหนว่างก็ไปกราบหลวงปู่ดูจะได้รู้ว่าท่านมีเมตตากับลูกศิษย์ทุกคน ข่าวว่าเหรียญรุ่นนี้บางเนื้อได้หมดลงอย่างรวดเร็ว เพราะฤทธิ์ 993 นั่นเอง
    เหรียญรุ่นแรกของท่านซึ่งออกปีเดียวกันตอนนี้ราคาไปไกลลิบแล้ว ดังเพราะประสบการณ์ ดังจากในพื้นที่หากันให้วุ่นเลยครับตอนนี้ เหรียญนี้เป็นเนื้อเงินไม่เจาะห่วงตามภาพครับ

    **พระสุปฏิปันโนแห่งภาคตะวันออก พระหนุ่มที่ช่วยม้วนและพันตะกรุดให้หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
    พระหนุ่มที่เรียนวิชากับหลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว นานถึง 7 ปี พระหนุ่มที่ใช้พระเวทย์เสกมนต์คาถาลูบตะขาบให้กลายเป็นท่อนฟืนได้ พระที่ช่วยคนล้มละลายให้กลายเป็นเศรษฐีร้อยล้าน และพระผู้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้**


    [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  6. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    หลวงปู่ทา จารุธมโม (ต่อนะครับ)
    พระครูญาณโสภิต(หลวงปู่มี ญาณมุนี)แห่งวัดป่าสูงเนินในยุคนั้น ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก มีหลวงปูทองรัตน์ กันตสีโล เป็นสหธรรมมิก เพราะต่างก็เป็นศิษย์ของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโรและหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่เป็นฝ่ายมหานิกายที่ไม่ต้องญัตติแต่ถือเคร่งครัดเหมือนพระธรรมยุต
    หลวงตาบัว ญาณสมัปันโน มักเดินทางมาพักสนทนาธรรมและคารวะหลวงปู่มีเสมอ
    หลวงปู่ทา จะปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่มี อย่างเคร่งครัดทุกอย่าง ไม่ว่าทางธรรมวินัย และการปฏิบัติธรรมะตามคำสอนอย่างสม่ำเสมอและเอาจริงเอาจัง
    เบื้องแรกคือ การรักษาศีลที่พระต้องถือปฏิบัติ
    ข้อที่ ๒ เรื่องสมาธิ
    ขั้นที่ ๓ เรื่องปัญญา
    หลวงปู่มี มักสอนท่านเสมอว่า"ถ้าเราต้องการเป็นพระนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน หากยังยึดติดกับ ใบลาน กระดาษ หรือแนวทางปริยัติธรรมอยู่ แม้ขยันหมั่นเพียรก็ยังหาบรรลุธรรมขั้นสูงไม่ เหมือนคนยังโง่อยู่ หอบขี้ปอย่อมเอาไปทำประโยชน์ไม่ได้ ฉันใด การยึดติดแต่ใบลาน กระดาษ หรือเพียงการเรียนปริยัติ ก็ฉันนั้น"
    หลวงปู่ทา ท่านได้รับการอบรมสั่งสอนและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามที่หลวงปู่มี สั่งสอน
    จนท่านเกิดเห็นจริงและปิติยินดียิ่ง เหมือนคนกำลังหลงทางแล้วมีคนมาชี้ทางให้ ท่านยิ่งเร่งปฏิบัติก็ยิ่งเห็นสิ่งต่างๆและเข้าใจธรรมะมากขึ้น ท่านจึงมีความมั่นใจและมุ่งมั่นในการก้าวไปในด้านปฏิบัติว่า เป็นการถูกต้องที่สุด ส่วนเรื่องปริยัติเรียนให้รู้เป็นแนวทางบก็เพียงพอ
    ขอพักแค่นี้ก่อนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3914.JPG
      IMG_3914.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      72
    • IMG_3915.JPG
      IMG_3915.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      98
    • IMG_3993.JPG
      IMG_3993.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      124
    • IMG_3995.JPG
      IMG_3995.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      140
  7. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,020
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  8. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***ประวัติ สุดยอดมากๆเลยครับ ***
     
  9. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***สวัสดี จ๊ะ น้อง บอย
    หลวงปู่ ทิม รุ่นนี้ พี่ รักเลยครับ เอิ๊กเอิ๊ก***
     
  10. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    ***สวัสดีครับ ทุกๆท่าน รวย รวย รวย***
     
  11. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เยี่ยมจริงๆครับ
     
  12. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระภาคเหนือ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  13. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เล่าเรื่องหลวงปู่อ่อนสา โดยครูนก
    โพสต์ที่ 344 หน้าที่ 35






    [​IMG]

    นโม วิมุตฺตานํ

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย

    นโม วิมุตฺติยา

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรมความหลุดพ้นของท่านเหล่านั้น


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2014
  14. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435
    " ขอ จารึก ไว้ ใน อัลบั้ม "




    [​IMG]




    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2014
  15. sellcat

    sellcat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +6,706
    มัจฉานุ เนื้อทองแดง อุดด้วยผงพรายกุมาร อาบสีผึ้ง ลป.ทาบ จารหัวใจมัจฉานุใต้ฐานทุกองค์ ปลุกเสกโดยหลวงปู่คำบุ สร้างโดยมูลนิธิ หลวงปู่ทิม
    พุทธคุณส่วนใหญ่จะไปทางด้าน หน้าที่การงาน การค้า
    ปลุกเสกหลายพิธี
    มัจฉานุเป็นลูกของหนุมานแต่เก่งกว่าหนุมานเพราะเก่งทั้งบนบกและในน้ำ จากที่ อ.ชินพร สุขสถิตย์ เคยสร้างมัจฉานุรุ่นแรก จนมีประสบการณ์มากมายโด่งดังมาแล้ว จึงได้มีการสร้างอีกครั้ง ปี56 เพื่อสร้างหลวงปู่คำบุองค์ใหญ่ อุดผง
    - ผงพรายกุมารเข้มข้น และผงพุทธคุณที่ได้สะสมมา ต่างๆ
    - ผงหนุมานที่หลวงปู่ทิม ทำไว้เฉพาะ เมื่อครั้งที่สร้างหนุมาน ปี 18 (รุ่นแรก) ผงนี้หลวงปู่ผาดถึงกับเอยปากว่า ผงนี้แรงจนท่านแทบจะรับไม่ไหว เมื่อครั้งที่เคยบรรจุหนุมานผ่านศึก ให้หลวงปู่ผาดเสก จนมีประสบการณ์กล่าวถึงมากมาย
    - ผงเหล็กเปียก
    - ผงขี้เหล็กไหล
    - ผงเหล็กน้ำพี้ ที่บ่อน้ำพี้ เมือง อุตรดิตถ์
    - สีผึ้งเขียว (ในตลับ) หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง ซึ่งหลวงปู่ทิมเสกไว้
    และผงพุทธคุณ อิทธิคุณอื่นๆ
    น้ำมันที่ใช้แช่ มัจฉานุ รุ่นนี้ ประกอบด้วย
    - น้ำมันเหล็กไหล หลวงปู่ พรหมมา อิสีขลัง จ.อุบลราชธานี
    - น้ำมันเหล็กไหล ของคุณอวยพร เจ้าหน้าที่จัดหาที่ดิน กรมชลประทาน ซึ่งเคยมีประสบการณ์ทดลองยิงไม่ออกมาแล้ว มอบไว้ให้..
    - น้ำมันแต่งกองทัพพระเจ้าตาก ของเดิม ที่ได้ขุดพบในบริเวณวัดละหารไร่ ตามคำบอกของหลวงปู่ทิม
    - น้ำมันเสือ หลวงปู่ทิม
    - น้ำมันงา หลวงปู่ทิม
    ปลุกเสกหลายพิธีทั้งที่วัดป่าฉันทนิมิต(หลวงปู่ฤทธิ์) ที่วัดกุดชมพู ที่มูลนิธิหลวงปู่ทิมงานไหว้ครู
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    พระปางอุ้มบาตร

    ภายหลังจากส่งพระอรหัตนสาวกทั้ง 60 องค์ออกไปประกาศเผยแผ่พระศาสนาแล้วพระพุทธองค์ได้เสด็จไปยังเมืองราชคฤห์เพื่อปลดเปลื้องปฏิญญาที่ทรงให้ไว้กับพระเจ้าพิมพิสารตั้งแต่สมัยที่ยังแสวงหาโมกขธรรม เมื่อแสดงธรรมโปรดพระเจ้าพิมพิมพิสารพร้อมข้าราชบริพารให้เกิดความเลื่อมใสได้แล้ว ก็ได้เสด็จไปประทับที่พระเวฬุวันซึ่งพระเจ้าพิมพิสารสร้างอุทิศถวายให้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา

    เมื่อพระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบว่าพระโอรสได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว และตอนนี้กำลังประกาศพระศาสนาอยู่ ณ เมืองราชคฤห์ จึงทรงส่งทูตพร้อมบริวารไปทูลนิมนต์ให้พระพุทธองค์เสด็จมายังเมืองกบิลพัสดุ์ แต่คณะทูตที่ทรงส่งไปถึง 9 ครั้ง ต่างเงียบหายไปหมดในที่สุด ครั้งที่ 10 จึงทรงส่งกาฬุทายีอำมาตย์พร้อมบริวารไปทูลนิมนต์จึงสำเร็จตามประสงค์

    ในการเสด็จโปรดพระประยูรญาติครั้งนั้น พระพุทธองค์ได้ตรัสมหาเวสสันดรชาดกในท่ามกลางสมาคมพระญาติ เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมเทศนาจบแล้ว บรรดาพระญาติทั้งหลาย มีพระเจ้าสุทโธทนะ พระพุทธบิดาเป็นประธาน ต่างเกิดปิติยินดี แล้วกราบทูลลากลับมายังพระราชนิเวสน์ของตนๆ โดยไม่มีใครทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์และภิกษุสงฆ์เสวยพระกระยาหารของเช้าวันรุ่งขึ้นเลยเนื่องจากดำริว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมายังเมืองของพระองค์เองแล้ว ถึงเวลาก็คงเสด็จเข้าไปเสวยในพระราชวังเอง
    ในวันรุ่งขึ้น พระพุทธองค์จึงพาหมู่ภิกษุเข้าไปบิณฑบาตในเมืองกบิลพัสดุ์จนทำให้เกิดแตกตื่นกันขึ้นทั่วทั้งพระนคร เมื่อพระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบข่าว จึงเสด็จออกไปประทับยืน ณ เบื้องพระพักตร์พระศาสดาและตรัสพ้อว่าเหตุไฉนพระศาสดาจึงทำให้พระองค์ได้รับความอับอายเยี่ยงนี้ เพราะวงศ์ของพระองค์เป็นกษตริย์ ไม่เคยมีกษัตริย์พระองค์ใดที่จะต้องเสด็จเที่ยวภิกขาจาร (เพื่อขออาหารคนอื่นยังชีพ) เช่นนี้เลย


    พระพุทธองค์จึงตรัสชี้แจงว่า พระองค์กำลังทำตามพุทธวงศ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายปวงอันมีพระพุทธทีปังกร เป็นต้น ล้วนสำเร็จการเลี้ยงชีพด้วยการภิกขาจารทั้งนั้น แล้วตรัสพระคาถาว่าบุคคคลไม่ควรประมาท ในบิณฑบาตที่ตนจะพึงลุกรับ

    ควรประพฤติธรรมให้สุจริต
    บุคคลผู้ประพฤติธรรม
    ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า


    ในเวลาจบพระคาถา พระเจ้าสุทโธทนะก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันในท่ามกลางถนนนั่นเอง และได้ทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์พร้อมหมู่ภิกษุเสด็จเข้าไปเสวยภัตตาหารในพระราชนิเวสน์
    ด้วยพระพุทธจริยาวัตรดังกล่าวจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสติรำลึกถึงการเสด็จออกโปรดเวไนยสัตว์ในตอนเช้าของพระพุทธองค์ และกลายเป็นพระพุทธรูปประจำวันเกิด สำหรับผู้เกิดวันพุธ(กลางวัน)


    ที่มา: วัดธัมมปทีป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2014
  17. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เล่าเรื่องหลวงปู่อ่อนสา โดยครูนก
    โพสต์ที่ 360 หน้าที่ 36





    โพสต์ที่ 445 หน้าที่ 45










    [​IMG]



    นโม วิมุตฺตานํ

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย

    นโม วิมุตฺติยา

    ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่วิมุตติธรรมความหลุดพ้นของท่านเหล่านั้น


     
  18. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่รุ่ง คุณบอย นอร์ น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องนิก คุณตั้น คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณEYEOFVENUS และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ

    ปล. 1วันนี้ได้รู้จักพระดีอีกองค์จากพี่เอ๊ะ ขอบคุณคร๊าบบ
    2พีโญมาเช้ามากก
     
  19. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    คงอยู่เป็นเพื่อนพี่ปูไม่ถึง ๗ โมงแน่ ๆ[​IMG]
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]





    หลวงปู่เรือง อาภัสสโร พระเกจิแห่งลพบุรี
    คอลัมน์ มงคลข่าวสด
    วันที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7220 ข่าวสดรายวัน

    หลวงปู่เรือง อาภัสสโร เป็นพระสงฆ์ที่เล่าขานกันว่าทรงคุณพุทธาคม แห่งวัดเขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

    เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดพระธรรมวินัย และเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

    ชื่อเสียงของท่าน เป็นที่รับรู้กันทั่วเมืองลพบุรี โดยเฉพาะวัตถุมงคล

    ปัจจุบัน สิริอายุ 96 ปี พรรษา 76 (***ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2556 อายุ 101 ปี)

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า บุญเรือง สุขสันต์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2457 ที่ ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี โยม

    บิดา-มารดา ชื่อ นายคำพันธ์และนางศรี สุขสันต์ มีพี่น้อง 8 คน ท่านเป็นคนที่ 2

    ในช่วงวัยเยาว์ได้เข้ารับการศึกษาชั้นประถม ที่โรงเรียนขุนโคกปีบปรีชา จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ท่านเก่งทั้งภาษาไทย และภาษาขอม

    เมื่อเรียนจบแล้วทางราชการได้ให้ท่านช่วยสอนหนังสือ แต่ท่านไม่รับกลับมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำสวนหาเลี้ยงชีพ

    ครั้นอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้ารับการอุปสมบทตามประเพณีชายไทย เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2477 ณ

    พัทธสีมาวัดสระข่อย ต.โคกปีบ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

    มีพระสมุห์จำปา วัดสระข่อย เจ้าคณะตำบลโคกปีบ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพัด ธัมมธีโร วัดโคกมอญ ต.โคกปีบ เป็นพระกรรมวาจา

    จารย์ และพระอาจารย์ฉัตร คังคปัญโญ วัดต้นโพธิ์ ต.โคกปีบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสระข่อย อยู่รับใช้อุปัฏฐากพระสมุห์จำปา พระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้ง

    ศึกษาวิทยาคมไปในตัว พร้อมกับเรียนนักธรรมชั้นตรี-โท-เอกจนสำเร็จ

    จากนั้น ท่านได้ไปศึกษาวิชาบาลีมูลกัจจายน์ วิชาโหราศาสตร์ แพทย์สมุนไพร พร้อมด้วยวิทยาคมต่างๆ จากพระอาจารย์ฉัตร วัดต้นโพธิ์

    ต่อมา ท่านได้กราบพระอุปัชฌาย์ ออกท่องธุดงควัตรแสวงวิเวก ตัดสินใจออกสะพายย่ามแบกกลดเดินทางออกจากวัด เดินทางธุดงค์ไป

    ตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคอีสานนั้นเดินทางธุดงค์ไปจนทั่ว

    มีอยู่ครั้งหนึ่งเดินทางธุดงค์แวะจำพรรษาที่วัดท่าหลวง จ.นนทบุรี ในช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารฝ่ายพันธมิตร ได้นำเครื่องบิน

    มาทิ้งระเบิดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นจำนวนมาก

    วัดที่ท่านจำพรรษาอยู่ใกล้ฐานกองกำลังญี่ปุ่น จึงมีระเบิดหล่นใส่ใกล้วัดเป็นประจำ ชาวบ้านในเขตนั้นก็ย้ายอพยพย้ายหนีไปจนหมด

    มีญาติโยมมาถามหลวงปู่ด้วยความเป็นห่วงว่า "หลวงปู่ไม่ย้ายไปต่างจังหวัดหรือ? ไม่กลัวโดนระเบิดหล่นใส่หรือไง?"

    หลวงปู่เรือง บอกว่า "คนเราเมื่อถึงที่ตาย อยู่ตรงไหนก็ตาย ไม่มีใครหนีพ้นหรอก"

    ครั้นถึงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงปู่เรือง ได้ออกเดินธุดงค์ขึ้นไปยังภาคอีสานอีกครั้ง ก่อนย้อนกลับมาภาคกลาง ที่ จ.ลพบุรี ณ

    ถ้ำพิบูลย์ในปี พ.ศ.2489

    ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารได้มานิมนต์ให้ท่านไปอยู่วัดที่สร้างใหม่ที่ใหญ่โตกว่าที่เดิม อีกทั้งไม่ทุรกันดาร เนื่องจากที่ท่านอยู่นี้เป็นเขตทหาร

    อีกทั้งมีการซ้อมยิงอาวุธอยู่เป็นประจำ เกรงว่าจะได้รับอันตราย หลวงปู่เรือง จึงเก็บเครื่องอัฐบริขารสะพายย่ามออกธุดงค์เข้าป่าลึกไป

    ทันที

    พ.ศ.2493 ท่านเดินธุดงค์อยู่ในป่า จนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งที่เขาสามยอด หลวงปู่เรือง ตัดสินใจจะปักหลักสร้างสำนักสงฆ์ ณ ที่แห่งนี้ไม่เดิน

    ทางไปไหนอีก จะขออยู่จำพรรษาที่นี่ตลอดไป

    ในระยะแรกที่หลวงปู่เรือง อยู่บนเขาสามยอด ท่านไม่ได้ออกบิณฑบาต ท่านได้เล่าให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ในตอนนั้น ท่านอาศัยอยู่

    เพียงลำพัง ฉันผลไม้ป่า เผือก มัน กล้วยป่า ยอดไม้ ส่วนน้ำดื่ม ท่านไปตัดเถาวัลย์ให้น้ำไหลจากเถาวัลย์ เอากระติกรอง แล้วนำมาฉัน

    พอแก้กระหาย

    เป็นธรรมดาที่หลวงปู่เรือง พระนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน อันประกอบด้วยความเพียร มีจิตสงบปราศจากกิเลส ได้หมั่นปฏิบัติสมาธิ

    ภาวนา จนพบความสงบแห่งจิตใจ ย่อมทำให้จิตของท่านสว่างไสว สามารถรับรู้สื่อสารกับสิ่งต่างๆ ที่ปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปไม่อาจเห็น

    หรือรับรู้ได้

    แต่ท่านไม่เคยสำแดงหรือโอ้อวดให้เป็นที่ประจักษ์ของผู้ใดทั้งสิ้น

    ต่อมา มีชาวบ้านในแถบนั้น ได้มาพบเห็นท่าน เกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัด จนบอกต่อๆ ไป ทำให้มีคนมากราบ

    เยี่ยมเยียนบ่อยขึ้น พร้อมทั้งนำภัตตาหารมาถวาย รวมทั้งได้มาสร้างกุฏิหลังเล็กให้ ภายหลังมีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่

    เรืองอีก 2 รูป

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เรือง ไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้น ทำให้วัตถุ

    มงคลของท่านมีจำนวนไม่มากรุ่น แต่ได้รับความนิยมสูง

    เช่น เหรียญสุริยุปราคา ปี 2538, พระขุนแผนรุ่นแรกหลวงปู่เรือง สมเด็จฝังตะกรุด 3 กษัตริย์รุ่งเรืองร่ำรวย และอื่นๆ เป็นต้น

    สำหรับพระคาถาของหลวงปู่เรือง มีใจความว่า "ปุพพะนิมิตตัง ทัฬหังนิติ อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ มะอะอุ"

    "พุทธังแคล้วคลาด พระเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดด้วยพระพุทธัง ธัมมังแคล้วคลาด พระเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดด้วยพระธัมมัง สังฆัง

    แคล้วคลาด พระเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดด้วยพระสังฆัง"

    ด้วยล่วงเลยเข้าสู่วัยชราแล้ว และมีอายุใกล้ร้อยขวบปี ท่านได้สั่งสมประสบการณ์ รู้หนาวรู้ร้อน ผ่านกาลฝนมามาก มีประสบการณ์

    ทุกอย่าง

    เกียรติคุณของหลวงปู่เรือง เป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส เป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ความชราไม่เป็นปัญหากับหลวงพ่อสิน ด้วยความ

    เมตตาที่เปี่ยมล้น หากมีใบฎีกานิมนต์มา ท่านไม่เคยปฏิเสธ ทำให้ท่านมีอาการอาพาธอ่อนเพลียอยู่เป็นประจำ จนลูกศิษย์ของท่านต้อง

    ขอร้อง ให้ท่านงดกิจนิมนต์ เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ

    เกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคม ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีบารมีเข้มขลังแก่กล้า ระดับแนวหน้าของ

    ลพบุรีอีกรูปหนึ่ง

    ปล.หลวงปู่เรือง ละสังขารอย่างสงบแล้วด้วยโรคชรา สิริอายุย่างเข้า 101 ปี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2556 เวลา 19.29 น. ที่ห้อง ICU

    อาคารกัลยาณิวัฒนา รพ.อานันทมหิดล ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...