อยากรู้ว่า จะดูคนยังไงว่าเป็นเทวดามาเกิด

ผู้มีบุญมาเกิด
แม้อยู่ในที่ที่มีแต่ตม สกปรก ต่ำเตี้ยแค่ไหน เขาจะสูงตระหง่าน เป็นบัวที่พ้นน้ำเสมอ
นิยมการทำบุญ ละอายเมื่อต้องทำบาป และจะไม่ทำเด็ดขาดถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นคนผิวดำ ขาว ดำแดง ขาวเหลือง หรืออะไรก็แล้วแต่ จะดูโดดเด่น เป็นผิวพรรณสวยงาม สะดุดตา

อันนี้ความเห็นส่วนตัว ลองถามคุณแม่คุณ(หรือคนที่คุณอยากรู้)ดูว่าตอนท้อง เคยฝันอะไรดีๆไหม พวกดวงแก้ว หรืออะไรประมาณนี้น่ะ

 

เราว่าทุกคนคงเคยเป็นเทวดานางฟ้ามาทุกคนละ เพราะเกิดมาหลายชาติ ต่อหลานชาติเหลือเกิน

 

จริงค่ะ. ดิฉันยืนยัน

 

เหมือนไม่เข้าใจคำถามเลยนะคะ

ก็เขาถาม ด้วยอยากรู้ ด้วยสงสัย หรือด้วยอะไรก็แล้วแต่
แค่ตอบให้ตรงคำถาม เท่าที่รู้ก็พอ
ถ้าไม่รู้ หรือไม่เห็นด้วยกับคำถามก็พอ...จบ...แค่นั้น
ไม่เห็นต้องตอบเลี่ยงๆ พอเข้าใจค่ะว่าวัตถุประสงค์ของผู้บอกเจ้าของกระทู้คืออะไร
แต่เท่าที่อ่านมาหลายๆ กระทู้ ก็ยังคงเห็นคนเช่นเดิมมากมาย
มีน้อยมาก..ที่เห็นตอบตรงคำถาม...เหอะๆ
(ไม่ได้ว่าใคร ไม่ได้ใส่อารมณ์ค่ะ แต่แค่สงสัยเฉยๆ ว่า "ทำไม" ไม่ตอบให้ตรงคำถามก็พอ)

 

ผมว่าดูยากนะสำหรับคนธรรมดา แต่ถ้าให้เดาทั่วไปคงเป็นคนมีหิริโอตตัปปะ และชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอและมีเมตตาสูงต่อคนรอบข้างส่วนใหญ่คนพวกนี้จะรอดตายปาฏิหารเสมอเนื่องจากมีเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและสามารถปฏิบัติธรรมขั้นสูงได้โดยง่ายเพราะมีบารมีเก่าคอยหนุนนำ

 

จะชัวร์เหรอครับ ขนาดพระสีวลีท่านบารมีขนาดนั้น ก่อนถึง Last point ท่านก็ขึ้นมาจากอบายภูมินะครับ

 

เป็นเรื่องตามตำนานที่เล่าสืบทอดกันมาแต่หากพิจารณาให้จับตรงประเด็นที่สำคัญ ด้วยเหตุและผลที่ตามมา โดยเฉพาะเรื่องประเทศไทยและศาสนาพุทธเป็นจริงทุกประการคะ ขอกล่าวเฉพาะเรื่องพรหมนะคะ ผู้เป็นใหญ่ในนามของพรหมบนโลกมนุษย์เดาเอาว่าเรียกว่า ท่านเท้ามหาพรหม ส่วนพระพรหมนั้นคือภาคต่างๆของท่านที่มารับหน้าที่สร้างคนให้เป็นอาริยะบนโลกนี้ทุกเชื้อชาติศาสนาให้มากที่สุด ซึ่งเวลานี้ท่านอวตารลงมาแล้วก่อนยุคของท่านซึ่งคือยุคที่สองคนเรียกกันว่ายุคพระศรีอาริยะเมทไตร ด้วยความเมตตาท่านต้องการปรับจิตใจของคนให้สูงขึ้นเพื่อเป็นอาริยะจึงอวตาลลงมาก่อนถึงยุค ท่านอวตารลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดา นับถือศาสนาพุทธในประเทศไทยแต่หน้าที่ของท่านคือดูแลคนทั่วโลก บางคนที่เป็นสมาชิกในเว็บนี้อาจจะรู้จักท่านแล้ว ตามแต่บุญบารมีที่สร้างมาว่าเราจะได้พบท่านหรือไม่ซึ่งก็น้อยคนมากที่ทราบอยู่คือคนไทยประมาณสี่ร้อยคน แต่มีคนมากมายที่อาจรู้จักท่านแต่ไม่มีบารมีสูงพอที่จะได้พบท่าน ท่านเป็นคนเดินดินธรรมดาแต่ชาตินี้ไม่ได้แบ่งภาคมา ท่านเพิ่งอวตารลงมาด้วยตัวท่านเองเป็นครั้งที่สองจึงตามโลกที่มันกำลังจะวิบ้ัติไม่ค่อยทัน และกิจท่านเยอะมาก

 

ใช่คะ บุญเก่ามีผลค่อนข้างเยอะอย่างน้อยสิ่งที่เจอกับตัวเองมาตลอดชีวิต คือ ไม่เคยทำบาปสำเร็จเลย เคยพยายามลองดูเล่นๆหลายครั้งแต่แปลกใจ ทำไมไม่เคยทำได้ ถึงชาติปัจจุบันไม่ได้ทำดีอะไรมากแต่ทำบาปไม่ขึ้นแน่นอน อดีตชาติผ่านมาแล้วเป็นแสนๆชาติ ความจริงแล้วการระลึกชาติได้แทบไม่สำคัญเลย ระลึกได้สองชาติก็พอแล้ว ไม่ได้ยากอะไรและอย่าไปถามหมอดู ให้ฝึกสมาธิปกติและระลึกถึงองค์พระพุทธเจ้าถามท่าน ท่านจะทำให้เรากลายเป็นรูปเดิมได้ในสมาธิ แต่ท่านมีกุสโลบายเสมอ ถ้าเรารู้ว่าชาติก่อนเราไม่ใช่คนสิ่งต่อมาที่เราจะคิดและทำคือกรรมดี เพราะเราจะรู้สึกว่าเราเคยอยากเกิดมาเป็นคนมากแค่ไหน ชาตินี้เราได้เกิดเป็นคนแล้ว เราโชคดีมากควรทำแต่กรรมดีเพราะไม่รูว่าชาติหน้าจะได้เกิดเป็นคนอีกไหม นี่คือเรื่องจริงของตัวเอง หลังจากที่เห็นในสมาธิก็ยังคิดว่าเราจินตนาการไปเอง แต่ไม่นานเราก็ได้เห็นด้วยตาของเราเองหลายครั้ง เพราะชาติก่อนเราไม่ได้เกิดเป็นคนแต่มีบุญบารมีที่สูงกว่าคน แต่ที่น่าเสียใจคือ เราไม่มีโอกาสได้กราบไหว้พระพุทธเจ้าได้แต่บำเพ็ญเพียรสมาธิเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้ทำกรรมดี และการรอดตายอย่างปฏิหารเป็นจริง ชาติที่เรารู้อีกชาติหนึ่งคือ เราเกิดเป็นคนไทยเชื้อสายจีนและมีความรักชาติรักแผ่นดินมากเป็นลูกสาวของหน่อเนื้อกษัตริย์องค์หนึ่งซึ่งคนไทยแทบจะหลงลืมท่านไปแล้ว เราไม่ยึดติดอดีต รู้แต่ปัจจุบัน ต้องทำกรรมดี มีเมตตาและตอบแทนคุณแผ่นดินให้มากที่สุด ส่วนเรื่ององค์เทพคุ้มครองมีมากมาย เรื่องจริงคะ

 

จริง ๆ ก็ฟันธงไม่ได้สะทีเดียวครับ

เพราะบางคนอาจจะเกิดเป็นเทวดาเสร็จ แล้วลงนรกเลย แล้วไปเกิดเป็นสัตว์ แล้วค่อยมาเป็นคน

แล้วคนที่เป็นเทวดา แล้วลงมาเป็นมนุษย์ เลย ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะมีบุคลิกทีดี
มีศีล มีหิริโอตะปะ เสมอไป บางคนก็อาจจะไม่มีเลยก็ได้

คือการที่เทวดาจะมาเกิดเป็นคน แสดงว่าหมดบุญแล้ว
ที่นี้เราต้องย้อนมาดูอีกว่า ก่อนเป็นเทวดา เขาทำอะไรไว้
ถ้าเขาทำบุญไว้เยอะมาก
หลังจากเกิดเป็นเทวดา แล้วหมดบุญแล้วมาเกิดเป็นคน ก็อาจจะเกิดในตระกูลที่รวย
แล้วมีผิวพรรณดี แล้วมีโน้นนั้นนี้ ฯ

แต่ถ้าก่อนชาตินู้น ทำบุญนิดเดียว แล้วฟรุ๊ค ได้ไปเป็นเทวดา
พอหมดบุญ กลับมาเป็นคน ก็อาจมาเกิดเป็นคนจน ผิวพรรณทรามเลยก็ได้

อีกอย่างบาปบุญ ทำงานซับซ้อนกว่าที่เราคิดเยอะ
คือมันต้องมองย้อนไป ย้อนไป ย้อนไปอีก
ไม่ได้มองแค่ตอนเทวดาก่อนเป็นคนชาติเดียว
แต่ต้องมองย้อนไปอีกอาจจะ 2 ชาติ 5 ชาติ 10 ชาติ 20 ชาติ 100 ชาติ? จะกี่ชาติก็ไม่รู้
แล้วก็ต้องรู้ด้วยว่า ผลบุญจากชาติที่ 7 ได้แสดงในชาตินี้
และผลบาปในชาติที่ 5 จะแสดงต่อชาติหน้า
หรือบางที บาปบุญแสดงพร้อมกันเลย
ผลจะออกมาเป็นอะไร อันนี้เราไม่รู้เลยจริง ๆ

มันเหมือนกับ เราเล่นเคมีธาตุ
เอาธาตุนั้นผสมธาตุนี้ ออกมาเป็นธาตุนี้
เอาธาตินี้ผสม 3 ตัว ออกมาเป็นอีกธาตุ
ผสมกันบางทีก็เป็นธาตุเดิม

คือบาปบุญ ก็เหมือนกัน ทำผลแบบนี้ จะได้กรรมแบบนี้
ทำผลอีกแบบ จะได้กรรม อีกแบบ
ที่นี้ เรื่องของเรื่องคือ เราไม่รู้นะสิว่า ทำแบบนี้จะได้แบบไหน
แล้วไอ่แบบนี้ มันมาจากเพราะอะไร

ก็เหมือนที่เล่นแร่แปรธาตุ เราอาจรู้แค่ 3 ตัว
ว่าผสมแบบนี้จะได้แบบนี้
เผอิญธาตุ มีเป็น 100 แล้วเราก็ย้อนกลับไม่เป็นด้วย

ก็เหมือนกับบาปบุญ เราก็พอจะรู้บางนิดหน่อย (ขอใช้คำว่านิดหน่อย ถ้าเทียบกับที่มีอยู่ทั้งหมด) (ที่รู้นี้ก็ไม่ใช่รู้เองอีกนะ แต่เพราะพระพุทธเจ้าบอก)(คือถ้าเราไม่ได้อยู่ศาสนาพุทธเราอาจจะไม่รู้จักคำนี้ด้วยซ้ำ)
แต่บาปบุญจริง ๆ มีเยอะมาก คือเกือบอินฟินิตี้ คือเราจำไม่หมดหรอก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดลึก ๆ ว่า ถ้าทำแบบนี้ปุ๊บ ชาติหน้าจะต้องเกิดเป็นลิง ทันที
หรืออย่างเช่น เหยียบมดตอนทำกรรมฐานแบบหลับตาอยู่ กับเหยียบมดตอนทำกรรมฐานแบบลืมตาเห็นแล้ว กับเหยียบมดตอนกำลังรีบวิ่ง ฯลฯ

ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงเปรียบเหมือน บิดาเล่นแร่แปรธาตุ
คือรู้หมดทุกธาตุแล้วว่า ผสมแบบนี้ จะออกมาแบบไหน
ผสม 3 ตัวจะออกมาแบบไหน
แถมย้อนธาตุกลับไปกลับมาได้ด้วย
เช่น ธาตุใหม่ตัวนี้ เป็นเพราะการผสมมาจากธาตุอะไรกับอะไร
ก็คือพระพุทธเจ้ารู้แล้วในเรื่องของการแสดงผลของกรรม
แบบรู้แจ้งแทงตลอดแล้ว

คือพูดมายาวขนาดนี้ ประเด็นผมก็คือ คุณจะไม่ได้คำตอบจริง จากคำถามนี้
เพราะคนที่จะตอบได้จริง คือคนที่สามารถมองดูอดีตชาติได้
คุณถามว่า ดูยังไงว่า เขาเป็นเทวดา มาเกิดเป็นมนุษย์
ก็แสดงว่าหมายถึง ชาติที่แล้วพึ่งเป็นเทวดามาหมาด ๆ แล้วพึ่งจะลงมาเกิดเป็นคน
ซึ่งอันนี้ไม่สามารถจะใช้ตรรกะไหนๆ มาตอบได้เลย
ต้องอภิญญาดูเอาล้วน ๆ

ซึ่งที่ผมตอบคุณ ก็ไม่ใช่อนุมานเอาเอง หรือใช้ตรรกะอันไหน
หรือคิดว่ามันน่าจะต้องเป็นแบบนั้น มันน่าจะต้องเป็นแบบนี้...
แต่ที่ผมตอบคุณคือ ตอบตามหลักฐานที่มีในพระสูตร
ตอบตามที่ผมพบ ผมเห็น ผมอ่านเจอในไตรปิฎก ในชาดก
ซึ่งมันเยอะมาก จนบางครั้งผมก็หาตัวที่เคยอ่านเจอมาอ้างอิง ไม่เจอด้วย
คืออันนี้ มันเป็นมาจากการสะสม มาเรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้นคือ ผมอ่านมาเยอะพอ เลยตอบมาแบบนี้

เอาเป็นว่า คำถามนี้ ให้ตอบเล่น ๆ อาจจะตอบได้
เช่น คนที่ผิวดี ผิวสว่าง เรียบร้อย มีศีล มีธรรม รู้ธรรมเร็ว
ก็น่าจะเป็นเทวดามาเกิด มันก็น่าจะเป็นแบบนัั้น เพราะพวกนี้เคยทำบุญมาเยอะ
พอหมดเทวดา ก็เป็นคนที่ดูดีด้วย รวยด้วย อะไรด้วย ก็เพราะบุญมันเยอะ มันก็ยังเหลืออยู่

แต่ให้วิเคราะห์จริง ๆ เอาคำตอบแบบลึก ๆ โดยละเอียดแล้ว
ก็อย่างที่ผมบอก เราจะดูแค่ชาติเดียวไม่ได้ มันต้องย้อน ๆๆๆๆๆ
บาปอันนี้ มันแสดงผล ตอนไหน บุญตัวนี้ มันแสดงผลตอนไหน
จึงสรุปออกมาว่า เกิดมาเป็นคนในชาตินี้
ซึ่ง คุณจะไม่มีทางได้คำตอบที่ถูกต้องจริง ๆ
นอกจากคนที่สามารถดูอดีตชาติได้จริง
จึงเป็นอีก 1 อจินไตย (เทวดามาเป็นคน ก็คือการแสดงผลของบาปบุญอย่างหนึ่ง ก็คือเรื่องของกฎแห่งกรรมนั้นแหละ ที่พระพุทธเจ้าไม่ให้ถามถึง)
ก็เพราะว่า พวกเอ็งตอบไม่ถูกกันหรอก

อีกอย่างเทวดามาเป็นคน ก็คือหมดบุญแล้ว
เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่ตัวบุญ มากกว่า ตัวเทวดาเอง
ดังนั้น น่าจะถามมากว่า ว่าผลบุญแบบไหน ที่จะทำให้ได้เกิดเป็นเทวดา
แล้วพอกลับมาเกิดเป็นคน ก็เป็นคนรวย มีทรัพย์ ไม่ลำบาก มีผิวพรรณดี
แล้วทำแบบไหน จะได้กลับไปเกิดเป็นเทวดาอีก
อะไรแบบนี้มากกว่า ซึ่งนี้ น่าจะเป็นคำถามที่สำคัญ
และก็ควรจะรู้คำตอบด้วย

แต่ก็ไม่ต้องเชื่อผมทั้งหมดก็ได้นะ ผมอาจจะไม่ถูกหมดก็ได้

ส่วนคนที่มาสร้างบารมี คุณก็ดูพฤติกรรมเขานั้นแหละ
ถ้าเขาปฏิบัติเยอะ ๆ ก็คือเขาสร้างบารมีนั้นแหละ
อันนี้ตอบได้ง่าย ๆ
แต่อีกอันนี้ ต้องใช้เป็นกระดาษ A4 มาตอบ
เพราะไม่สามารถอธิบายให้มันชัดเจนได้ภายใน 2-3 ประโยค -"-

 

เขาว่าดูจากดวงได้นะครับ ตามนี้เลยครับ อยู่ท้าย ๆ
PANTIP.COM : Y10044500 (

 

. .

 

คนที่เป็นเทวดามาเกิด จะมีจริตทางธรรม แม้ว่าช่วงชีวิตหนึ่งอาจเคยทำบาปเกเรมาบ้าง แต่ก็สำนึกกลับใจมาทำดีก็มี เพราะช่วงระยะวัยบางคนอาจหันเหไปทางผิดได้ แต่สุดท้ายจริตที่ดี ทำให้เขามีความมุ่งมั่นที่จะเข้าถึงพระนิพพานให้ได้ การดูลักษณะรูปร่างไม่อาจบอกได้ แต่ทางพฤฒิกรรม ถ้ามีใจใฝ่ทางธรรมกุศล ปฏิบัติจิตเพื่อให้ได้มรรคผล ก็น่าจะเป็นเทวดามาเกิดเพื่อสร้างบุญบารมี

 

สนใจทำความดี สร้างสะสมบุญให้ตัวเองเยอะๆ กันดีกว่าค่ะ

อย่าไปสนใจมองคนอื่นเลย.... พิจารณาตัวเราเองนี่แหล่ะ

ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ สุดแสนจะวิเศษสุดแล้ว สร้างบารมีต่อ สั่งสมบุญต่อ จะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

 

มาสว่าง ไปมืด
มาสว่างไปสว่าง
มามืดไปมืด
มามืดไปสว่าง
ปัจจุบันนิสำคัญ

 

แต่ละคนเกิดมาแล้วทั้งพรหม สวรรค์ มนุษย์ เดรัจฉาน นรก ถ้าหมายถึงก่อนเกิดเป็นคนชาตินี้มาจากภูมิใด มีวิธีสังเกตุดังนี้

จากภูมิเทวดานางฟ้า สังเกตว่า เป็นคนเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย พูดจาไพเราะ อ่อนน้อมถ่อมตน (เด็กจากภูมินี้มักเป็นที่รักที่ชอบใจของบิดามารดาและคนทั่วไป)

จากพรหมลงมาเกิด สังเกตว่า พูดน้อย เพื่อนน้อย สันโดษ รักสงบ เข้มแข็ง มีเหตุมีผล มักเป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ตาม มีความยุติธรรมมาก (เด็กจากภูมินี้มาเกิด หากบิดามารดาเป็นคนดีมีคุณธรรมมีความเข้าใจ มีเหตุมีผลจะส่งผลให้บุตรมีความก้าวหน้าเป็นผู้นำทั้งทางโลกและทางธรรม หากบิดามารดาไม่มีคุณธรรม เลี้ยงไม่ดี ไม่มีเหตุผล จะกลายเป็นคนดื้อรั้น ควบคุมบุตรไม่ได้เพราะบุตรประเภทนี้ไม่อ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ )

จากอบายภูมิมาเกิด ว่านอนสอนยาก ก้าวร้าว ดื้อรั้นไม่มีเหตุผล

จากภูมิมนุษย์ คือชาติก่อนตายจากคนและเกิดเป็นคนเลยทันที จะจำเรื่องราวของชาติที่แล้วได้ หรือระลึกชาติที่แล้วได้ ซึ่งมีตัวอย่างมากมายทั้งไทยและต่างชาติ หาอ่านได้จากอากู๋