พระโพธิสัตว์ ตอนนี้มีใหมครับ และท่านอยู่ใหน

คน-ไทย สงสัยจะเป็นญาติกะ คน-ดูไบ

 

ในโลกนี้ก็แปลกแบบนี้แหละ ความจริงไม่ค่อยอยากฟัง แต่อยากฟังสิ่งที่อยากฟัง หรือ อยากได้ยินสิ่งที่ตรงใจ

เรื่องนี้ลามไปถึงระบบการศึกษาไทย เพราะนอกจากจะตอบได้ถูกแล้วยังต้องตอบให้ตรงใจคนตรวจอีก
มันก็แบบนี้แหละ มันไม่ใช่ตรงๆนะโลกนี้ เพราะอะไรลองคิดกันดู

 

อ้อ ไม่ใช่ครับ

 

อันที่จริง คิดดูดีๆ มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก นะ ^^
ปล่อยวางดีกว่า .. ใครเค้าจะมีอัตตาบ้าง ก็ปล่อยเค้าบ้าง จะเป็นไรไป ^^

 

ต้องดูกันที่ใจนะ ผมว่า

 

ออกทะเลไปใหญ่แล้วคับ .. ขอโทษที่พาออกทะเลนะคับ ^^

 

เออ นั่นดิ ผมว่าจะเตือนแล้วนะ ผมไม่เอาห้า เอาสิบกับใครนะ ผมมีเป้าหมายที่คำตอบที่โดนใจ ของใครบางคน

 

การที่ท่านพูดออกมาทั้งหมดนี้
ไม่เพียงแต่ท่านพูดได้ คนที่อ่านหนังสือมาพูด หรือจำมา
เขาก็พูดได้ ไม่เห็นต้องฟังท่านเลย

 

ท่านกำลังบอกว่า การยึดมั่นถือมั่นมีอัตตา ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยใช่หรือไม่

แต่ผมได้กล่าวถึงการปล่อยวาง ซึ่งก็คือ การละการยึดมั่นถือมั่น ถูกต้องหรือไม่

แล้วผมไปสนใจมีอัตตาตรงไหน .. ครูบาอาจารย์ท่านว่าแก้ที่ตัวเรา ไม่ได้บอกให้ไปแก้ที่เขา ใช่หรือไม่

 

แล้วตัวเจ้าของกระทู้เป็นพระโพธิสัตว์ หรือคิดว่าเป็นไหมครับ

 

ขอบคุณครับ

ที่ผมถาม ผมถามว่าหนึ่งบวกหนึ่ง เท่ากับเท่าไหร แค่นั้นหละ
ผู้รู้ท่านใหนจะตอบ ก็ตอบมา ผมจะฟัง ถ้าโดนใจผม ผมจะถามต่อ
ผมต้องการฟังจากนักปฏิบัติ
ธรรมมะที่เกิดขึ้นของท่านเองเพื่อมาตอบคำถามนี้
คงเข้าใจนะครับ
ผมไม่ต้องการคำตอบอันเป็นลักษณะของการสาธยายธรรมของครูบาอาจารย์ ของพระพุทธเจ้าของเรา ไม่ใช่ผมว่าไม่สำคัญ เพียงแต่ธรรมมะเหล่านั้น เราๆท่านๆหาฟังได้
จากท่านผู้รู้ ผู้ปฏิบัติดีชอบ หรือ พ่อแม่ครูอาจารย์ โดยไม่จำเป็นต้องมาถาม ในที่นี่หรอกนะ และก็ไม่ตรงกับคำถามครับ
ท่านยังไม่ทราบอีกเหรอครับ
ว่าผมต้องการคำตอบจากนักปฏิบัติ
ที่เป็นฆาราวาส เผื่อในนี้จะมี ก็แค่เป็นกำไร
ส่วนจะเป็นใบไม้นอกกำมือหรือไม่
ขอให้มันเจอสักใบก่อนเถอะ ในชีวิตนี้

บางคนบอกว่าสักวันจะมีเงินเป็นเจ้าของสิบล้าน
เงินห้าบาทยังมองไม่เห็นเลย มันยังไงๆอยู่นะ
สำนวนท่าน ดูโอหังในธรรมนะ
ธรรมมะที่เกิดจากการปฏิบัติ
ไม่ใช่ของง่ายๆนะ
ผมไม่ได้สอนท่านนะ ผมแค่เตือนสติ

ไม่เป็นไร ผมจะคอยคำตอบ
ไปอีกสักระยะ
เผื่อจะมีคนมาตอบ

ถ้าท่านใดตอบหลายครั้งแล้ว
ให้ท่านอื่น ได้ตอบบ้างนะครับ

 

เหมือนคนนั่งรอเห็นปลาโลมาที่หาดบางขุนเทียน .. โดยที่คนนั่งข้างๆเป็นนักส่องโลมา
เหมือนคนนั่งรอเห็นปลาบึกในแม่น้ำเจ้าพระยา .. โดยที่คนนั่งข้างๆ เรียนประมง
เหมือนคนตกปลาด้วยเบ็ดเปล่า .. โดยที่คนนั่งข้างๆ เป็นคนขายเหยื่อ

ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้ง่าย
แต่ถ้ามีคนอยากจะทำ ก็คงว่าเค้าไม่ได้

 

แหม่ใหญ่โตเหลือเกินมาสั่งพระโพธิสัตว์

แค่ดูว่าใครเป็นพระโพธิสัตว์ก็ยังดูไม่ออกแล้วจะมีปัญญาอะไรมาพิสูจน์ เด็กน้อยเอ๋ย

ไปนั่งทำการบ้านให้เสร็จ แล้วไปนั่งดูการ์ตูนขบวนการมดเอ๊กซ์ปะทะจอมปีศาจหน้าเหลี่ยมเหอะ ฉายวันที่13 นี้ ทั่วกรุงเทพ

 

ตั้งคำถามเช่นนี้ได้ คงเจอแล้วกระมังครับ แต่อยากรู้ว่าจะมีอีกไหมคงประมาณนี้ สักวันต้องได้เจอ สาธุครับ

 

ผมขออนุญาติใช้ข้อความท่านผู้นี้ มาสรูป แล้วผมจะไม่เข้ามาแสดงความเห็นในคำถามที่ ผมตั้งไว้ ตั้งแต่บัดนี้เลยนะครับ ผมอ่านความเห็นหลายท่านแล้ว ผมไม่อยากจะสาวเรื่องราว หรือ เอาผิดเอาถูกอีกแล้ว มันไม่ใช่วิสัยของนักปฏิบัติ
ผมเรียนให้ทราบนะครับ คำถามที่ผมถามนั้น เรียนตามตรงว่า เป็นความคิดหลังจากที่ผมได้เข้ามาอ่านเรื่องพระโพธิสัตว์ ในเวบนี้ และเป็นช่วงได้รับรู้เรื่องราวพระท่านหนึ่ง ที่เป็นมหายาน และได้สนทนากับท่าน ในเรื่องการปฏิบัติเรื่องจิตภาวนา วันหนึ่งผมก็เลยเข้ามาโพสข้อความว่า พระโพธสัตว์ มีจริงใหม และท่านอยู่ที่ใหน ซึงผมก็อยากรู้จริงๆว่าจะมีใหม ในช่วงชีวิตที่เราอยู่นี้
ท่านที่ตอบมา โดยยกตัวอย่าง เจ้าแม่กวนอิม หรือ พ่อหลวงนั้น คงไม่มีใครค้านแน่นอน รวมถึง ท่านอยู่ในนี้ ก็คงไม่มีใครค้านอยู่แล้ว และเป็นที่ทราบโดยทั่วไปอยู่แล้ว
ต่อมา มีท่านบางท่าน มากระชับให้ผมทราบว่า คำถามที่ผมถามนั้น เขาเรียกว่า นิตยโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง พยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต อันนี้ผมก็พึ่งรู้เหมือนกัน และตรงกับคำถามผมอย่างนั้นจริงๆ
แต่กลับเป็นเรื่องอัศจรรย์ ขอใช้คำนี้เลยก็แล้วกัน เมื่ออยู่ๆต่อมาผมกลับได้คำตอบด้วยตัวผมเองแล้ว ว่านิตยโพธสัตว์ตอนนี้ มีจริงๆและท่านมีตัวตนจริงๆ ผมเชื่อโดยสติปัญญาอันน้อยนิดของผมแล้ว ผมเคยสัมผัสเฉพาะพ่อแม่ครูอาจารย์สายหลวงปู่มั่นมาไม่คิดว่าจะมาเจอ
ดังนั้น ผมจึงขอยุติ คำถามไว้เพียงเท่านี้ บางท่านบอกว่า ผมไม่ใช่นักปฏิบัติ จะมาถามหานักปฏิบัติทำไม ผมเป็นลูกศิษ พ่อแม่ครูบาอาจารย์สายกรรมฐาน มาเป็นสิบๆปี สวดมนต์ ภาวนาเป็นกิจวัตร แต่ยังเป็นเพียงผู้น้อย
ก็ขอบอกให้ทราบแค่ว่า หากท่านได้ตอบคำถามต่อ ผมคงไม่ได้เข้ามาอ่านแล้ว และขอขอบคุณทุกคำตอบ และหากมีคำพูดใดเป็นการล่วงเกินท่าน กระผมขอคาราวะและอโหสิกรรมมา ณ ที่นี่ด้วยครับ

 

ตอนไม่รู้ก็มาถามนะครับ ขอให้คนอื่นแชร์ข้อมูลให้
แต่พอรู้แล้วก็ไปเลยไม่มีแชร์กันบ้างเลยนะครับ
เม้นแรกๆ ก็มีคนฝากว่าถ้ารู้แล้วอย่าลืมมาบอกกันบ้างไม่ใช่เหรอ
พอมีดีแล้วเก็บเงียบเลยนะท่าน ^^

หากเป็นสายกรรมฐานผมคงนึกถึงองค์นี้ครับ "หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต"

 

นานาจิตตังครับ เป็นธรรมดาของการแลกเปลี่ยน สนทนาธรรมย่อมมีสีสันความคิดเห็นต่าง ตัวเราเองย่อมมีภูมิธรรมอยู่บ้างไม่มากก็น้อย สิ่งใดดีมีสาระประโยชน์ที่ยังไม่เคยได้รับรู้ ก็นำมาคิดทบทวนปฏิบัติ ได้เห็นกระบวนการคิดปฏิบัติของผู้มีธรรมที่มีความรู้จากภูมิต้นไปยังภูมิสูง ที่มีสติปัญญาบารมีที่ได้สั่งสมมาแล้วในอดีต ใคร่ครวญในเหตุของการปฏิบัติเห็นเป็นจริงตามสภาวะของธรรมที่เกิดจากการกระทำ ที่มีประสบการณ์มามาก เห็นได้ึถึงเหตุของการที่จะไม่นำมาคิดให้เป็นที่มัวหมองของจิต เห็นเหตุและสิ่งที่ไม่ดี มีโทษ จึงได้กล่าวบอก สอน แนะนำ ตักเตือน จขกท.เมื่อได้รู้ได้ยินได้ฟัง สิ่งที่เป็นไปก็สามารถนำมาวิเคราะห์หาเหตุผลเองได้น่ะครับ เพราะสิ่งที่ท่านทั้งหลายกล่าวมาอาจจะพูดในสิ่งที่มีความเป็นภูมิของธรรมขั้นสูงคือการไม่ยึดติดปล่อยวาง เพราะการกล่าวอาจจะไม่เหมือนกันแต่สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนต้องมุ่งหวังจริงๆในการปฏิบัติก็มีเป็นไปในทางเดียวกัน มันต่างกันที่ระยะทางและเวลาเท่านั้นแหละครับ ยกตัวอย่าง มีมหาเศรษฐีที่มีเงินแสนล้าน หรือมากกว่าแสนล้าน (บุคคลที่เป็นมหาเศรษฐี)เป็นจำนวนมาก แต่เราก็ไปเสาะถามกับบุคคลเหล่านั้นว่าทำอย่างไรผมจะมีเหมือนท่านบ้าง คำตอบจากบุคคลเหล่านั้นจะมีสักกี่คนที่ให้คำตอบเรามาว่า ต้องขยันอดออมน่ะพยายามเก็บเงินใส่กระปุกไว้วันล่ะ1บาท ส่วนมากที่เขาบอกได้ก็คงประมาณ คุณต้องรู้จักขยันอดทน อดออม พยายามทำธุระกิจส่วนตัวขยายฐานลูกค้าสาขาให้แบบนี้ หรือไม่ก็ไปเล่นหุ้นเพื่อเป็นทุนต่อไปเพื่อจะได้มีเงินก้อนไปทำธุระกิจ ฉนั้นคำตอบที่คุณถามก็จะได้คำตอบแบบฐานะภูิมิธรรมที่ท่านบุคคลเหล่านั้นเป็นเพราะบางคนส่วนมากจะสอนไห้ท่านมีฐานะแบบเร่งรัดโดยที่ตัวเองเหนื่อยน้อยหน่อย และมีบางคนส่วนน้อยที่จะแนะนำสั่งสอนให้ท่านนับหนึ่งใหม่แบบต้องคอยมาเสียเวลากับท่านมาก ท่านถามว่าพระโพธิสัตว์ท่านอยู่ที่ไหน ท่านก็ไม่ได้บอกเหตุผลมาว่าท่านต้องการจะได้อะไรกับท่านที่เป็นพระโพธิสัตว์ ถ้ามีผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเหล่าพระโพธิสัตว์มาบอกกับท่านว่า นี่ท่านมาหาเราสิเราเป็นพระโพธิสัตว์น่ะ ท่านจะไปหาใครต่อไปนี้
1.สัตว์ผู้เลี้ยงบิดา มารดา และช่วยเหลือพักพวกพ้องอยู่เป็นนิจ
2.บุคคลผู้เลี้ยงบิดามารดา และคอยช่วยเหลือเพื่อนสัตว์มนุษย์
มีความเมตตากรุณา อยู่เป็นนิจ
3.ผู้มีความใจบุญสุนทาน มีเมตตา กรุณา ทะนุบำรุง เผยแผ่
ศาสนาอยู่เป็นนิจ
4.บุคคลหรือสมณะ ฤาษี ชี ผู้ได้ฌานสมาบัติอภิญญาอิทธิฤทธิ์
ปาฏิหาริย์
5.ผู้ที่สามารถแตกฉานในธรรม เป็นผู้ชี้นำไปหาหนทางสู่ความเป็น
จริงธรรมชาติแห่งโลกธาตุในวัฏฏะ
เหล่าก็ได้ขึ้นชื่อว่าโพธิสัตว์ แต่ต่างกันในวาระและเวลาในบารมีภูมิธรรมที่ตนได้สั่งสมมา แต่ยุคสมัยนี้บุคคลผู้มีความรู้นั้นย่อมมีมากแต่ปฏิบัติเข้าถึงนั้นได้น้อยมาก ต่างคนต่างก็ว่าตัวเองรู้มากกว่าคนอื่นแล้ว แต่สิ่งที่เราหรือบุคคลที่ต้องการที่เป็นของจริงนั้นในยุคสมัยนี้คือต้องการข้อ4. คือ บุคคลหรือสมณะ ฤาษี ชี ผู้ได้ฌานสมาบัติอภิญญาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เพราะสิ่งเหล่านี้หาได้ยากที่เป็นของจริงที่มันได้หายไปในยุคนี้ ถ้ามองให้เป็นพื้นฐานฉนั้นไม่ว่าคุณจะแกมโกง จะฆ่า พูดเท็จ เห็นประโยชน์ส่วนรวมในกลุ่มน้อยหรือมากโดยการโกง ฆ่า พูดเท็จ ลักขโมย ก็สามารถเป็นพุทธภูมิโพธิสัตว์ได้ มันอยู่ที่เจตนาเวลาวาระ ที่ยังประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยมีความชอบธรรมเป็นที่ตั้ง แต่สิ่งที่ผิดก็มีอยู่แต่สิ่งนั้นมันเป็นกรรมที่จะเป็นเงาติดตามผู้มีความเกิดเป็นสัตว์ที่เวียนว่ายไปในวัฏฏะจนถึงวาระสุดท้ายแห่งการหลุดพ้นตามภูมิธรรมที่ตนมีอยู่
(แอบเหน็บ นิดๆว่า) พุทธภูมิเหล่านั้น อาจมีอยู่ในบุคคลเสื้อเหลือง เสื้อแดง เสื้อหลากสี ไม่มีสีก็เป็นได้ มันอยู่ที่อย่างที่บอกภูมิธรรมบารมีและกรรมเป็นเครื่องกั้นตัดสินลงทัณฑ์เป็นไปตามกำลังวิบากของผู้ที่ได้เลือกทางเดินของตนเองไว้แล้ว แล้วอย่างนี้ จขกท จะตามหาโพธิสัตว์แบบไหนครับ


​

 

อ้าวไปแล้วหรอคับ ไปซะแล้ว :''''pig_cryy2

 

ไปหาเสียงมั้ง ใกล้เลือกตั้งแล้วนิ 555+

คงกะมาอวยคนดูไบ แต่พอไม่มีใครเล่นด้วย เลยเผ่นแนบ 555+

 

อย่าไปว่าเค้าคับ ผมว่าคนนี้ไม่เกี่ยวกับคนดูไบเลย
ดูพูดน้อยซะมาก และบางทีคำถามอาจฟังดูแล้วมันแปลกๆ แหม่งๆ ก็ตาม