อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    บันทึกไว้ในอัลบั้ม


    ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ dom007 เวปอุดร108
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญญโญ - หน้า 126
    ยอดพระปิดตา เนื้อผง 3 กษัตริย์

    [​IMG]


    หลังจากพระปิดตา เนื้อตะกั่วเถื่อน ยุดแรกได้หมดลง และผ่านไปเป็นระยะเวลานาน ความต้องการและปรารถนาพระปิดตาของหลวงปู่กับทวีความต้องการมากล้น ทั้งเพิ่มพูนตลอดเวลา และในวันหนึ่งของช่วงเวลาเช้าอันหนาวเหน็บ หลังจากหลวงปู่ฉันเช้าแล้ว มีชาวบ้านหลากหลายหมู่บ้านเอาเครื่องสังฆทานแบบชาวบ้านมาถวายท่าน เนื่องในเทศกาลฉลองปีใหม่ที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน หลวงปู่ทนการรบเร้าของเหล่าชาวบ้านที่ต้องการพระปิดตา ที่ท่านสร้าง ด้วยเหตุผลสารพัด ในที่สุดท่านรับนิมนต์ว่าจะสร้างให้ นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคมของปี พ.ศ. 2515 หลวงปู่ท่านมอบหมายให้ผู้มีความสามารถในด้านต่าง ๆ ไปแสวงหาสิ่งที่ท่านจะผสมลงผงที่จะสร้างพระ จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือนถึงจะครบรอบ และเสมือนฟ้าบันดาล ขณะนั้นข่าวจากชาวบ้านมหาชัยที่บอกเล่ากันต่อว่า หลวงปู่รับนิมนต์จะสร้างพระปิดตาให้ญาติโยม เข้าถึงหูท่านปลัดพิศาล มูลศาสตร์สาทร ขณะนั้นท่านรับราชการอยู่ที่ จ.นครพนม ท่านปลัดพิศาล ได้เดินทางเข้านมัสการหลวงปู่ที่วัดทันทีและปวารณาตัวเป็นผู้จัดหาบล็อกแม่พิมพ์มาถวายหลวงปู่ เนื่องเพราะท่านปลัดพิศาล ท่านเป็นผู้เลื่อมใสในวัตถุมลคลอย่างยิ่งยวด และเมื่อองค์ประกอบ วงจรสมบูรณ์ พระปิดตา 3 กษัตริย์ จึงบังเกิดขึ้น และเป็นปฐมบทกำเนิดเป็นนพระปิดตา ลุ่มน้ำโขงอันเกรียงไกร

    [​IMG]

    องค์ประกอบพระปิดตาผง 3 กษัตริย์ คือ 1. ดินจากสถานที่สำคัญ 9 แห่ง 2. คำภีร์โบราณที่เก่านำมาเผาเป็นผงใบลาน 3. ใบโพธิ์แห่งพุทธะ นำมาตากแห้งและบดเป็นผงใบโพธิ์ นำผงหลักทั้ง 3 ส่วนผสมคลุกเคล้ากับวัตถุอาถรรพ์ธรรมชาติที่บดแล้วผสานกับตัวประสานเนื้อพระ นวดจนเข้าเนื้อแน่นเหนียวดีแล้วจึงกดลงในแม่พิมพ์ที่ท่านปลัดพิศาลถวายให้ อีกทั้งหลวงปู่ยังลงอัขระ จารหลังองค์พระด้วยตัวท่านเอง จึงถือว่า พระปิดตา เนื้อผงรุ่นแรกหลังจาร ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ หลวงปู่ท่านอธิฐานอย่างเต็มกำลังในช่วงเข้าพรรษา หลังจากออกพรรามาแล้วหลวงปู่จึงได้แจกญาติโยมชาวบ้านที่เคารพนับถือท่านเป็นมงคลชีวิต

    [​IMG]

    แม่พิมพ์พระปิดตา ผงรุ่นแรกของท่าน โครงสร้างขอบด้านนอกเป็นลักษณะคล้ายตัว ? ก ? ในบริเวณด้านในองค์พระปิดตา ปรากฏเป็นรัศมีรอบองค์พระ แบบซุ้มรัศมี ตั้งแต่หัวเข้าขวาดึงหัวเข่าซ้าย ด้วยรูปแบบที่ในขณะนั้น จึงเรียกขาน พระพิมพ์เพื่อการจดจำว่า ?พระปิดตา? พิมพ์ซุ้มกอรัศมีหลังจาร รุ่นแรก ปี พ.ศ. 2515-2516 วัดธาตุมหาชัย? จำนวนปริมาณการสร้างไม่ได้มีการบันทึกไว้แต่คาดว่าน่าจะไม่เกิน 500 องค์ ด้วยเหตุในช่วง พ.ศ. 2515-2516 ชุมชนท้องถิ่น มีจำนวนไม่มากนัก อีกทั้งในปัจจุบันจะหาพระปิดตา รุ่นแรก เนื้อผง หลังจารพิมพ์ซุ้มกอรัศมีชมสักองค์ยังหาชมยากเนื่องเพราะท่านผู้ใดที่มีไว้ต่างหวงแหนยิ่งนัก ยากที่จะแบ่งปันหลายท่านกล่าวว่า สตางค์พอหาได้ แต่พระปิดตา รุ่นแรก ยุคแรกของท่านที่หลวงปู่ท่านตั้งใจสร้างกับมือของท่านเอง จะไปที่ไหน? ทั้งยังมีคำกล่าวไว้ว่านี่คือ มรกดวัตถุธรรม ที่หลวงปู่คำพันธ์ ท่านมอบไว้ให้ปวงสานุศิษย์และลูกหลานไว้เป็นมรดกเฉพาะตนและวงศ์ตระกูล
     
  2. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระปิดตาหลวงปู่เจียม อติสโย สุรินทร์
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  3. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448


    [​IMG]
     
  4. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    งามอีหลี(สวยจริงๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2014
  5. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]
     
  6. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ฮ่าๆๆๆ สวยมากนี่เป็นอีกเหรัยญหนึ่งที่แกะแม่พิมพ์ได้ดีมีจินตนาการ ผมเรียก รุ่นหยุดปืนใหญ่ครับ...ลูกน้องผมบังคับให้ผมแจกจนหมด ที่เหลือคงจะอยู่ที่สุโขทัย..คงต้องส่งข่าวให้น้องชายค้นดูแล้วละครับ
     
  7. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระภาคเหนือ(ต่อ) จ.กำแพงเพชร
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  8. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    แกะแม่พิมพ์ได้ดี ใช่เลยครับพี่ตี๋....:cool::cool::cool:
     
  9. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,020
    สวัสดีครับคุณปู พี่โญ พี่ตี๋ คุณนอร์ คุณเอ็ม คุณโอ๊ต และพี่ๆน้องๆทุกท่าน ^__^

    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญหลวงพ่อกวย รุ่น ๓ พ.ศ.๒๕๒๑ หรือที่เรียกกันว่า"เหรียญหลังยันต์"
    จำนวนการสร้างประมาณ ๔๐,๐๐๐ เหรียญ โดยแบ่งออกเป็นเหรียญกะไหล่ทองประมาณ ๕๐๐ เหรียญสมนาคุณแก่
    ผู้ที่จองบริจาคข้าวสาร ๑ กระสอบ ในงานผูกพัทธสีมา พ.ศ.๒๕๒๑ ก็จะได้รับเหรียญรุ่น ๓ กะไหล่ทอง ๑ เหรียญ
    ที่เหลือเป็นเหรียญเนื้อทองแดง มีทั้งรมดำและรมน้ำตาล ออกให้บูชาเหรียญละ ๒๐ บาท

    เหรียญด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์
    มียันต์ "นะอุดปืน" อยู่สองข้าง ใต้องค์หลวงพ่อระบุ "หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม"
    ด้านหลังจะเป็น ยันต์ไตรสรณคมณ์
    "ที่ระลึกในงาน ผูกพัทธสีมา พ.ศ. ๒๕๒๑ "

    คาถาที่ใช้กำกับเหรียญรุ่นนี้ คือ
    "พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2014
  10. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    .... ฝากไว้ในอัลบั้ม ....

    รูปหล่อหลวงพ่อเร่ง รุ่น๑

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงพ่อเร่ง วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี เกจิสายหลวงพ่อเคลือบองค์สุดท้าย
    พระอธิการเร่ง ฐานธมโม หรือ หลวงปู่เร่ง วัดดงแขวน อุทัยธานี
    ประวัติย่อ หลวงปู่เร่ง นามเดิม เร่ง นามสกุล สุวรรณพยัคฆ์ เกิดวันพุธที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2470 เป็นบุตรของพ่อกำไร แม่กรี สุวรรณพยัคฆ์ มีพี่น้องร่วมท้อง 11 คน ท่านเป็นบุตรคนโต ต้องช่วยแม่เลี้ยงดูน้องๆท่านจึงได้รับการศึกษาเพียงชั้น ป. 4 (การศึกษาภาคบังคับสมัยนั้น) ก็ต้องออกมาทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เมืออายุได้ 20 ปีได้อุปสมบท แล้วลาสิขามาใช้ชีวิตเหมือนฆราวาสทั่วไปแต่ท่านก็มิห่างวัดยังได้ไปปรนนิบัติรับใช้ หลวงพ่อเคลือบ ซึ่งสมัยนั้นท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก หลวงพ่อเคลือบ ได้มาพักวัดดงแขวนเป็นประจำบั้นปลายชีวิตท่านได้มาอยู่ที่วัดดงแขวนแห่งนี้ นายเร่งก็เป็นหลานชายของหลวงพ่อเคลือบปรนนิบัติรับใช้ และได้ศึกษาพุทธาคม เมื่อได้ใช้ชีวิตฆราวาสผ่านทุกสิ่งทุกอย่างได้เห็นว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง นายเร่ง ได้อุปสมบทอีกครั้ง พัทธสีมาวัดดงแขวน ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาส รูปปัจจุบัน ใครอุปสมบทที่วัดดงแขวนแห่งนี้ หลวงปู่เร่งท่านเป็นคู่สวดให้ท่านทุกๆรูป หลวงปู่ท่านได้ให้ความเสมอภาคกับศิษย์ทุกคน ใครมากราบท่านต้องนั่งกับพื้นเหมือนกันหมด ท่านใจดีเมตตา คุยสนุก ท่านได้นำความรู้ทางพุทธาคมมาสงเคราะห์แก่ศิษย์ทั้งเจิม การปลุกเสก การรักษาโรค (บางชนิด)รวมไปถึงการอาบน้ำมนต์ซึ่งมีศิษย์มาให้ท่านสงเคราะห์เป็นประจำ
    วัตถุมงคลของท่านก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่นตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุดหม้อผี ตะกรุดโละพร้อมชายจีวร และอีกหลายอย่างมากๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2014
  11. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    ผู้เข้มขลังน้ำมันกันภัย พระครูวิมลสีลาภรณ์ (ครูบาสุรินทร์ สุรินโท)
    วัดหลวงศรีเตี้ย ต.ศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน


    โดย รณธรรม ธาราพันธุ์

    กระบวนวัตถุมงคลที่มีอภินิหารนอกเหนือไปจากคงกระพันกันเขี้ยวงา แคล้วคลาด เมตตา มหาอุด ซึ่งเป็นฤทธิ์ระดับ ‘มาตรฐาน’ นั้นดูจะหาได้ยาก อภินิหารดังกล่าว เช่น เฝ้าบ้านให้เห็นเป็นตัวตน มีเสียงร้องเตือนได้ ฯลฯ เป็นของมีฤทธิ์เกิน ‘มาตรฐาน’ ด้วยสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนวิชาเฉพาะในแต่ละสำนัก และต้องเป็นบารมีของแต่ละองค์ที่จะทำได้หรือไม่อีกด้วย

    หากของขลังที่ ‘ขลัง’ แปลกไปจากหมู่เพื่อนเขาก็มีอยู่ อาทิ เข็มทองของสำนักวัดหุบมะกล่ำ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่เมื่อฝังเข้าสู่ร่างกายแล้วอภินิหารชนิด ‘มาตรฐาน’ ย่อมมีแน่นอน ทว่าที่เหนือกว่านั้นคือสามารถ ‘วิ่ง’ หรือ ‘สั่น’ เพื่อเตือนภัยล่วงหน้าก่อนเกิดเหตุได้ราว 3-7 วัน

    ถ้าเข็มเคลื่อนที่หรือสั่นแล้วเป็นอันมั่นใจได้ว่าภัยกำลังมาถึงตัว หลวงพ่อท่านก็สั่งว่าให้อยู่กับบ้านอย่าไปไหนอย่างน้อย 3 วัน และไม่ใช่อยู่เฉย ๆ แต่ต้องสมาทานศีล สวดมนต์ เจริญภาวนาให้มาก ๆ เพื่อเคราะห์หนักจะได้กลายเป็นเบา เรื่องร้ายจะกลายเป็นดี

    คนที่ฝืนเจอมานักต่อนัก

    ผมเองยังโดน !

    แหวนแขน ของ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม ต.บางขุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ก็ใช่ย่อย เมื่อนำมาอาราธนาและสวมแขน วันดีคืนร้ายเกิดแหวนแขนรัดติ้วคับแน่นขึ้นมา หรือมีอาการรัดแล้วคลายเป็นระยะ ๆ ล่ะก็ จงเตรียมตัวให้ดีเถิด ท่านว่าอันตรายใหญ่หลวงกำลังจะเกิดแก่เรา

    ส่วนตุ๊กแกหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ หรือ ตัว พ.พาน ของหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ แม้จะร้องได้ก็จริง แต่ก็เป็นไปทางโชคลาภ มหานิยม มิใช่เตือนเพื่อกันภัยแต่อย่างใด

    ยังมีอีกหนึ่งสำนักที่ของขลังในท่านขลังจริงอย่างไม่ลังเลจะสรรเสริญ เพราะประสบการณ์ที่ยาวนานและเชื่อถือได้ ทำให้ท่านมีชื่อเสียงและมีคนเสาะหาวัตถุมงคลของท่านมิใช่น้อย

    ท่านชื่อครูบาสุรินทร์


    [​IMG]

    ครูบาสุรินทร์มีชื่อเดิมว่า สุจา เกิดในสกุล เสมอใจ เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2441 ที่บ้านศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ท่านอุปสมบทเมื่ออายุได้ 21 ปี ที่วัดหลวงศรีเตี้ย โดยมีพระอธิการญาวิไชย สิริวิชโย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์คำ คัมภีโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์คันธา คันธวังโส เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    เมื่อบวชแล้วท่านได้ศึกษาทั้งปริยัติธรรมและการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน โดยได้ออกธุดงค์ร่วมกับ ครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ครูบาคำ คันธิโย วัดบ้านดง และ ครูบาเฮือน สิริวิชโย วัดสันเจดีย์ริมปิง

    กระทั่งท่านบรรลุในศาสตร์ต่าง ๆ เจนจบ ก็ได้รับอาราธนามาเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงศรีเตี้ยเมื่อปี พ.ศ. 2474 จนถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2532 สิริอายุได้ 91 ปี

    ครูบาสุรินทร์นับได้ว่าเป็นผู้แตกฉานในพระเวทย์วิทยาคุณอย่างเอกอุ เครื่องมงคลที่ท่านสร้างขึ้นนั้นล้วนแต่มีอภินิหารแก่ผู้นำไปบูชาอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น เหรียญ ตะกรุด ผ้ายันต์ แต่ที่ถือเป็นสุดยอดของท่านคือ

    น้ำมันงาดำ


    [​IMG]

    น้ำมันงาดำของหลวงปู่ครูบาสุรินทร์นั้นท่านได้เล่าเรียนมาจากองค์อาจารย์คือ ท่านครูบาถาวรเถระ ผู้เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงศรีเตี้ย อันน้ำมันงาดำนี้หากสร้างได้ถูกต้องตามตำรา จะมีอิทธิฤทธิ์นานัปการอย่างที่เรียกว่าฝอยท่วมหลังช้างทีเดียว ใช้ได้ทั้งอยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ค้าขายดี ทากันและแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ฟกช้ำดำเขียว กระดูกแตกหักก็ทาเพื่อต่อได้ มีบาดแผลแล้วทาก็จะสมานติดกันในเวลาอันรวดเร็ว ผีเข้าเจ้าสิงก็ป้ายเข้าไปผีจะรีบหลีกลี้ในทันใด เป็นโรคกระเพาะให้กลืนกินเข้าไปจะรักษาแผลในกระเพาะและลำไส้ได้อย่างวิเศษ ฯลฯ และเหนืออื่นใดคือ

    เดือดได้ ?!

    เดือดได้จริง ๆ เมื่อผู้ครอบครองนำไปเก็บรักษาไว้ยังที่สูงในตำแหน่งอันสมควร เช่น บนหัวนอน แล้วมีการสวดมนต์ไหว้พระเป็นนิจสิน หากมีภัยถึงตัวหรือจะเกิดอันตรายจาก มนุษย์ อมนุษย์ ภัยธรรมชาติ ภัยจากสัตว์ร้าย แม้แต่อันตรายจากโรคภัยไข้เจ็บในตัว น้ำมันงามหาวิเศษนี้ก็จะเกิดอาการเดือดเป็นฟองขึ้นในขวดได้เองอย่างมหัศจรรย์ที่สุด เดือดปุด ๆ ให้เห็นก็มี เป็นฟองขึ้นเองอย่างฟองสบู่ก็มี มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่คน หากไม่ว่าจะเป็นอย่างใดนั้นก็คือให้เตรียมรับมือจงหนัก

    คุณทวี เย็นฉ่ำ หรือ เจดีย์ทอง นักเขียนชื่อดังได้เคยเล่าให้ผมฟังอย่างออกรสถึงวาระหนึ่งที่เดินทางไปกราบศพครูบาพรหมา พรหมจักโก ณ วัดพระพุทธบาทตากผ้า อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ตอนขากลับได้แวะไปนมัสการครูบาสุรินทร์ สุรินโท ถึงวัดหลวงศรีเตี้ย ซึ่งขณะนั้นครูบาสุรินทร์กำลังจะประกอบพิธีหุงน้ำมันงาดำอยู่พอดี

    ในวันงานนั้นมีพระเถรานุเถระมาร่วมพุทธาภิเษกมิใช่น้อย ที่แน่ ๆ ก็มี ครูบาหล้า จันโทภาโส วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ครูบาธรรมชัย ธัมมชโย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน เป็นต้น

    โดยพระเถระนั่งปรกอยู่ในวิหารหลวง มีการตั้งราชวัติ ฉัตร ธง โยงสายสิญจน์ลงมาอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ภายนอกวิหารตั้งกระทะใบบัวขนาดใหญ่ถึง 9 ใบ ทุกใบกำลังเคี่ยวน้ำมันงาดำควันโขมง และรอบบริเวณก็ตั้งราชวัติ ฉัตร ธง เช่นเดียวกัน กั้นสายสิญจน์เป็นปริมณฑลห้ามสตรีเพศเข้าโดยเด็ดขาด

    เป็นที่น่าสังเกตว่ามีธรรมาสน์หนึ่งปูเบาะและผ้ารองนั่งไว้เป็นอย่างดี มีพานวางสายสิญจน์โยงออกมาอย่างเรียบร้อย และตั้งอยู่ในตำแหน่งประธาน คะเนว่าน่าจะจัดเตรียมไว้ให้พระเถระผู้ใหญ่ หากเริ่มพิธีไปโขแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครมา

    ไม่นานใครหลายคนก็เริ่มสังเกตโดยเฉพาะพวกมีกล้อง ว่ายกกล้องประทับเล็งไปธรรมาสน์นั้นคราวใด มักได้เห็นเงาคนนั่งอยู่บนนั้นบ่อยครั้ง ต่อมาเมื่อเพ่งหนักเข้าคราวนี้ก็เห็นกันด้วยตาเปล่าหลายคนทีเดียว

    เงาดำดังกล่าวมีลักษณะที่ชัดเจนว่าศีรษะโล้น ห่มและพาดผ้าอย่างสังฆาฏิ รูปร่างเป็นคนท่าทางอ้วนใหญ่ไม่น้อย จากลักษณะที่พบเดาได้ว่าน่าจะเป็นพระมากกว่าโยม ทุกคนที่เห็นเก็บความอัศจรรย์ใจไว้ไม่อยู่เล่าขานกันปากต่อปากอย่างรวดเร็ว

    ขณะที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้นก็เกิดเหตุประหลาดที่นอกวิหารกระทะน้ำมันงาดำทั้ง 9 ใบ ค่อย ๆ ทยอยระเบิดทีละใบ... ทีละใบ... สร้างความแตกตื่นและฉงนใจให้พระภิกษุและประชาชนที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างยิ่ง กระทะระเบิดไปเรื่อยจนเหลือใบสุดท้ายทุกคนที่ลุ้นตัวโก่งก็โล่งใจเพราะเหตุประหลาดยุติลงแต่เพียงแค่นั้น กระทะใบสุดท้ายยังอยู่ดีและดำเนินการเคี่ยวพร้อมปลุกเสกไปได้ตลอดรอดฝั่งจนจบพิธีโดยสมบูรณ์

    เหตุการณ์ทั้งหมดสร้างความอัศจรรย์และเสียงวิจารณ์อยู่ไม่น้อย ใครหลายคนอดสงสัยไม่ได้จึงกรูเกรียวกันเข้าไปกราบเรียนถามหลวงปู่ครูบาสุรินทร์ว่าเงาดำที่เห็นคืออะไรและทำไมกระทะจึงระเบิดได้

    หลวงปู่ท่านตอบขรึม ๆ ว่า เงาดำที่เห็นนั้นคือครูบาถาวรเถระปฐมเจ้าอาวาสวัดหลวงศรีเตี้ยผู้เป็นเจ้าของวิชาหุงน้ำมันงาดำนี้ และธรรมาสน์อาสนะนั้นท่านก็ได้จัดถวายไว้ให้ครูบาถาวรผู้เป็นบูรพาจารย์ เพราะได้อาราธนาท่านลงมาร่วมพิธีด้วย

    ซึ่งท่านก็มาจริง ๆ

    และที่น้ำมันระเบิดจนเสียหายใช้การไม่ได้นั้น ครูบาถาวรท่านบอกว่า ท่านเป็นผู้ระเบิดทิ้งเอง เพราะหากทำมากก็จะเป็นการช่วยคนมากเกินไป เพราะคนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีศีลมีธรรม ช่วยเขาแล้วเมื่อเขารอดตัวพ้นภัย เขาก็จะไปทำไม่ดีขึ้นอีก ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรม ท่านประสงค์ให้น้ำมันวิเศษนี้สงเคราะห์แก่คนดีมีศีลธรรมเท่านั้น

    เป็นสุดยอดเหตุผลโดยแท้


    เมื่อได้รู้เหตุผลแล้ววัตถุมงคลในพิธีก็ถูกบูชาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะน้ำมันงาดำที่ทำยากเย็นแสนเข็ญที่สุด และถือเป็นเอกลักษณ์ของวัดหลวงศรีเตี้ยกับครูบาสุรินทร์โดยปริยาย

    อานุภาพของน้ำมันงาดำนี้คุณทวี เย็นฉ่ำ ได้เคยประสบกับตนเองเมื่อมีพระภิกษุรูปหนึ่งอาพาธอยู่โรงพยาบาล และคุณทวีได้มอบน้ำมันงาดำนี้ให้ไว้บูชาที่หัวเตียง ปรากฏว่าบูชาไประยะหนึ่งน้ำมันก็เดือดเป็นฟองขึ้น ท่านเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะท่านก็อาพาธอยู่แล้ว อยู่มาไม่นานท่านก็ถึงแก่มรณภาพ

    ทหารหาญของไทยรายหนึ่งชื่อ สิบเอกเจริญ ทิพย์กาญจนกุล เป็นทหารชุดปฏิบัติการที่สมรภูมิร่มเกล้า พิษณุโลก เมื่อปี พ.ศ. 2532 ก่อนไปรบได้มากราบนมัสการครูบาสุรินทร์เพื่อขอพรและบูชาวัตถุมงคลไปหลายอย่างที่ขาดไม่ได้คือน้ำมันงาดำ

    ก่อนออกปฏิบัติการ ส.อ.เจริญจะอาราธนาน้ำมันงาดำขอให้ปกป้องคุ้มครองทุกครั้ง จากนั้นก็จะกินเท่าเมล็ดพุทราและทายังจุดต่าง ๆ ในร่างกายตามที่หลวงปู่สั่ง

    วันหนึ่งกองกำลังของ ส.อ.เจริญได้ปะทะกับพวกทหารลาวแดงอย่างจัง พวกมันโจมตีด้วยการปาระเบิดสังหารเข้าใส่ ส.อ.เจริญอยู่ใกล้จุดที่ลูกระเบิดตกที่สุดจึงหลบไม่ทัน โดนผลงานลาวแดงเข้าเต็ม ๆ เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายก็รีบทำการสำรวจตัวเองก่อน ปรากฏว่าไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทำให้ผู้หมู่มีขวัญและกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นกอง นึกเชื่อมั่นในน้ำมันงาดำและครูบาสุรินทร์อีกเป็นเท่าทวีคูณ ครั้นหันไปดูเพื่อนร่วมชะตากรรมก็พบว่าทหารบางนายเสียชีวิตคาที่ด้วยอานุภาพระเบิด หลายคนบาดเจ็บมากบ้างน้อยบ้างทั่วกัน มีแต่ ส.อ.เจริญเพียงคนเดียวที่ไม่มีอาการบาดเจ็บเลย

    ครั้นเหตุการณ์ศึกร่มเกล้าผ่านไป ส.อ.เจริญก็ตรงแน่วมากราบหลวงปู่ครูบาสุรินทร์ถึงวัดหลวงศรีเตี้ยด้วยความเคารพอย่างที่สุด อะไรที่ว่าดีของหลวงปู่เป็นอันว่าผู้หมู่เก็บหมดด้วยนับถือสุดหัวใจ

    อภินิหารของตะกรุดก็มีมาก ที่สร้างชื่อให้ท่านที่สุดเห็นจะเป็นตะกรุดโทนและตะกรุดจำปาสี่ต้น ปกติตะกรุดจำปาสี่ต้นวัดไหน ๆ ทางภาคเหนือเขาก็สร้างกันและจะมีสี่ดอกตามอักขระยันต์ที่บังคับไว้ แต่จำปาสี่ต้นของครูบาสุรินทร์จะมี 5 ดอก 4 ดอกแรกจะอยู่รวมเป็นกลุ่มตามแบบดั้งเดิมแต่ดอกที่ 5 นี้จะอยู่เดี่ยวข้างบนสุด

    ท่านบอกว่าดอกเดี่ยว ๆ นั้นคือ ‘ตะกรุดพระสิวลี’ เพราะท่านต้องการให้ลูกหลานมิได้มีแต่ความแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยมเพียงอย่างเดียว แต่ท่านต้องการให้มีโชคมีลาภ จะทำงานทำการค้าขายสิ่งใดก็ให้เป็นเงินเป็นทองร่ำรวยทั่วหน้ากัน จึงถือได้ว่าเป็นตะกรุดจำปาสี่ต้นสำนักเดียวที่แตกกิ่งออกมาเป็น ‘จำปาสี่บวกหนึ่ง’

    เหรียญรูปเหมือนของท่านดูเหมือนจะมีเพียง 4 รุ่นที่สืบค้นได้เป็นหลักเป็นฐาน แต่รุ่นที่น่าสนใจที่สุดคงต้องยกให้เหรียญรุ่น 2 เพราะรุ่นนี้มีจำนวนสร้างราว ๆ 3,000 เหรียญเห็นจะได้

    และที่สุดยอดเหนืออื่นใดคือครูบาสุรินทร์ท่านใส่ใจกับเหรียญนี้มาก ด้วยการจัดเตรียมบาตรไว้สองใบ ใบหนึ่งใส่เหรียญที่ศิษย์นำมาถวายจนหมด แล้วท่านก็จะหยิบมาทีละเหรียญ เรียกสูตร เรียกนาม ปลุกเสกอักขระเลขยันต์บนเหรียญอันเป็นยันต์ที่ท่านเป็นผู้กำหนดเองไปเรื่อย ๆ

    เมื่อเรียกสูตรปลุกเสกเหรียญในมือจนมั่นใจแล้วท่านก็จะวางลงในบาตรอีกใบที่เตรียมไว้ แล้วก็หยิบเหรียญใหม่ขึ้นมาเสกด้วยวิธีการเดียวกันนี้อีก ทีละเหรียญ... ทีละเหรียญ...

    จนในที่สุดเหรียญอันสุดท้ายก็จะย้ายจากบาตรหนึ่งไปสู่อีกบาตรหนึ่ง จากนั้นท่านก็จะทำการปลุกเสกรวมอีกคำรบหนึ่งจึงเป็นอันว่าเสร็จพิธี

    สุดยอดไหม ?

    พิถีพิถันปานนี้ ไม่หา ไม่สน ผมก็ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรแล้ว ครูบาสุรินทร์เป็นพระภาคเหนือเพียงองค์เดียวในสายตาผม ที่มองว่าท่านเป็นมหาเถระผู้แตกฉานในวิทยาคุณอย่างแท้จริง ท่านเก่งและเคร่งในวิชาอย่างน่าศรัทธายิ่ง

    เหรียญทั้ง 4 รุ่นเป็นของที่ยังพอหาได้ แต่ตะกรุดและน้ำมันงาดำเป็นอะไรที่ดูค่อนข้างยาก หากไม่ใช่จากคนที่เชื่อถือได้แล้วล่ะก็ อย่าได้คิดหามาบูชาเลยครับ ผมกลัวท่านผู้อ่านจะไปเจอ ‘ตะกรูด’ กับ‘น้ำมันกุ๊ก’ เข้าล่ะสิ

    หมายเหตุ – ขอขอบคุณคุณอาทวี เย็นฉ่ำ และ คุณสุธันย์ สุนทรเสวี ที่กรุณาเอื้อเฟื้อข้อมูลและวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาสุรินทร์ครับ


    ที่มา: บทความ-เรื่องราวน่ารู้ เว็ปนวรัตน์



    ปล.ในความเห็นส่วนตัวปัจจุบันน้ำมันงาดำครูบาสุรินทร์หาได้ยากยิ่ง แต่หลวงพ่อฤาษีได้สร้างน้ำมันชาตรีขึ้นมาซึ่งหลวงพ่อเคยปรารภว่าในชีวิตท่านสามารถทำได้แค่ครั้งเดียวเพราะทำได้ยากมาก และมีประสบการณ์มากมายแก่ผู้ศรัทธา จึงเชื่อว่ามีอานุภาพไม่ต่างจากน้ำมันงาดำครูบาสุรินทร์คร๊าบบ
     
  12. ryan boy

    ryan boy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +22,020
    สวัสดีครับพี่เอ๊ะ ^__^

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    สวัสดีครับคุณบอย...
     
  14. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448


    สวัสดีครับคุณบอย

    เก็บแต่เหรียญสวย ๆ ทั้งนั้น
    :cool::cool::cool:
     
  15. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
    MrCHAN, jumbo_a44, ปู ท่าพระ, ryan boy


    สวัสดียามบ่ายครับทุก ๆ ท่าน
     
  16. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435

    น้อมกราบหลวงปู่เอี่ยม ....พิธีดีมากเลยคับพี่ปู ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆคับ ^^

    *** ส่วนรูปถ่ายนั้น ไม่มีคำบรรยายใดๆแล้วครับ เพราะฝีมือระดับนี้ได้ข้ามขีดจำกัดไปเรียบร้อย ^_^

    [​IMG]
     
  17. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,435

    สวัสดีครับพี่บอย พี่เอ๊ะ
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,071
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]
     
  19. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    หลวงพ่อสุพีร์ สุสญญโม วัดถ้ำซับมืด(ต่อ)พออกพรรษา หลวงปู่มี ให้ท่านและพระลูกวัด ๔ รูปพร้อมโยม ๑ คน ขึ้นไปที่วัดถ้ำซับมืดเพื่อชี้เขตกับเจ้าหน้าที่ และสร้างกุฏิไว้เพื่อให้หลวงปู่มีได้ขึ้นมาพำนัก ท่านและคณะอยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องกลับวัดป่าสูงเนินเพราะป่วยเป็นไข้มาลาเรีย หลังจากรักษาตัวหายแล้ว ท่านได้กลับขึ้นไปที่วัดถ้ำซับมืดเพื่ออยู่เป็นเพื่อน หลวงพ่อสีลา
    ปี๒๕๐๔โยมแม่ป่วยหนักแล้วก็สิ้นใจ เมื่อได้จัดงานศพโยมแม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านจึงเดินทางขึ้นไปกราบนมัสการหลวงปู่มี ที่วัดดอยพระเกิ๊ด ซึ่งหลวงปู่มีได้ตักเตือนไว้ว่า" คนที่นี่เขาไม่ค่อบพระที่มาจากทางใต้ เพราะเขากลัวว่า มาอยู่ไม่นานก็สึกเอาเมีย หรือไม่ก็มาตามหาลายแทงสมบัติของพวกเขา หาแต่ความร่ำรวย ถ้ามีความคิดอย่างนี้ก็ขอให้กลับไปเสีย" ซึ่งท่านได้ยืนยันว่าที่ขึ้นมาก็เพื่อปรนนิบัติรับใช้ ดูแลครูบาอาจารย์
    เมื่อถึงวันปวารนาออกพรรษา จะมีพิธีกวนข้าวทิพย์ ชาวบ้านจะหาของต่างๆ เช่น น้ำออ้ย กะทิ นม น้ำผึ้ง ข้าวเหนียว ถั่ว งา และจะคัดหญิงสูงอายุที่วัยหมดระดูแล้ว ตอนหัวค่ำ จะมีการจุดโคมประทีปตามวิหารและเจดีย์ สว่างไสวเต็มวิหาร พิธีกวนข้าวทิพย์ก็จะเริ่มขึ้น โดยใช้บริเวณหน้าวิหาร มีชาวบ้านมาดูพิธีกวนข้าวทิพย์กันมากพอสมควร ท่านจะออกมาดูความเรียบร้อบตอนใกล้เที่ยงคืน ก็เห็นชาวบ้านช่วยกันกวนข้าวทิพย์อย่างไม่เห็นแก้่เหน็ดเหนื่อย พอฟ้าสางพิธีกวนข้าวทิพย์ก็เสร็จพอดี โยมแม่ออกได้เดินมาเล่าให้ฟังว่า"เมื่อคืนมีเด็กสาววัยรุ่นมาดูการกวนข้าวทิพย์เดี๋ยวมานั่งอยู่ข้างโยมแล้วก็ลุกขึ้นไปวนดูเขากวนข้าวทิพย์แล้วก็วนไปรอบๆ ไม่รู้ลูกใคร ตุ๊เจ้าเห็นไหม" ท่านก็ตอบว่า "ไม่เห็นเลย ก็มีแต่โยมนั่งดูเขากวนข้าวทิพย์อยู่คนเดียว" ทำให้เกิดคำเล่าลือว่าเทพเทวดามาช่วยกวนข้าวทิพย์
    พอป๊๒๕๐๕เมื่อถึงวันปวารนาออกพรรษา ก็มีการเตรียมกวนข้าวทิพย์เหมือนทุกปี แต่ปีนี้ชาวบ้านตั้งใจมากจะมาดูเทพเทวดามาช่วยกวนข้าวทิพย์ แต่ก็ผิดหวังไม่เห็นเด็กสาวคนนั้นอีกจึงผิดหวังไปตามๆกัน ท่านจึงปลอบพวกโยมว่า"ตั้งใจมากเกินไป เขาเลยไม่มาให้เห็น"
    ปี๒๖๐๖ หลวงปู่มี หลวงพ่อทองพูล และท่านได้เดินทางกลับวัดป่าสูงเนินเพื่อฉลองศาลาการเปรียญที่สร้างเสร็จแล้ว เมื่อเสร็จธุระ หลวงปูมี ท่านและหลวงปู่ทา ได้เดินทางกลับขี้นไปที่วัดดอยพระเกิ๊ด
    การที่ท่านได้อยู่ที่วัดดอยพระเกิ๊ด ทำให้ท่านได้ไปตามหมู่บ้านยางกับคณะพระธรรมฑูต เดินทางกันด้วยเท้าปล่าวเพื่อเผยแผ่พระธรรม ซึ่งเจ้าคณะอำเภฮ เจัาคณะตำบลเป็นผู้ทำหน้าที่เผยแผ่พระธรรม ส่วนท่ายและโยมจะช่วยกันแจกยา รักษาโรคให้แก่ ชาวบ้านยาง ท่านว่าสาวเผ่ายางบางคน กิริยามารยาทเรียบร้อยมาก ผิวพรรณดีน่าชื่นชม มิน่า หลวงปู่มีจึงเตือนสติท่านและโอกาสนี้ท่านได้พิจารณาเห็นเข้าไปถึงภายในกายของสาวๆเหล่านั้น เห็นแต่สิ่งปฏิกูลของเน่าเหม็น เห็นเป็นโครงกระดูก ทำให้ท่านเข้าใจในธรรมของพระพุทธเจ้าและสิ่งที่หลวงปู่มีได้พร่ำสอน
    ขอพักก่อน


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  20. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124
    สวัสดีครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...