ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Noinea

    Noinea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +1,902
    โอนแล้วค่ะ วันนี้เวลา 19:00 น. 999 บาทค่ะ
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,418
    วันที่ 12 ก.พ. 57 เวลา 19.18 น.

    ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ไทยพาณิชย์ เลขที่ 080-252647-2

    จำนวน 1,000 บาท เพื่อบูชาดวงแก้วจุลจักรพรรดิครับ

    ส่วนที่เหลือขอร่วมทำบุญตามแต่พี่น้ำใส จะเห็นสมควรครับ

    ขอน้อมบูชาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ตุั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม จนถึงสมเด็จองค์ปัจจุบัน
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย

    และน้อมถวายบูชาแด่พระสุทธิมงคลวิสุทธิเทพ และพระมัณฑนวิสุทธิเทพ ผู้มีพระคุณทุกท่าน
    อันมีหลวงปู่ปาน และหลวงพ่อฤาษี เป็นที่สุด

    อีกทั้งขออุทิศบุญนี้ให้กับ
    1.ท่านนารทธรรมราชาบดีบรมโพธิสัตว์
    2.พระปวณพราชโพธิสัตว์
    3.พระสุโภชนโพธิสัตว์
    4.เทวดาที่รักษาสมบัติแผ่นดิน เทวดาที่รักษาสมบัติพระศาสนา เทวดาที่รักษาสมบัติพระจักรพรรดิ
    เทวดาที่รักษาดวงแก้วของข้าพเจ้า และพญาอัศดรนาคราช พร้อมคณะของท่านทั้ง 49 ท่าน
    5.ท่านศิวสีหนาทโพธิสัตว์
    6.เทวดาที่รักษาตัวข้าพเจ้าทุกท่านทุกองค์

    ขอจงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้ามีทิพยจักขุญาณที่ชัดเจนแจ่มใส ในทุกภพทุกชาติจนกว่าจะถึงพระนิพพาน

    ขอให้ข้าพเจ้า สมหวังทุกประการ ทั้งทางโลก และทางธรรม ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน และ

    ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งด้วยเถิด

    อนุโมทนาบุญทั้งหมดกับพี่น้ำใส และทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ


    -----------------------------------------------------------------------------

    ขอกล่าวความในใจสักหน่อยนะครับ วันนี้ดีใจมากครับพี่น้ำใส และทุกท่าน
    ที่่ได้มีโอกาสบูชาดวงแก้วจุลจักรพรรดิของพระปัจเจกพุทธเจ้ากับเขาเสียที
    ตัวผมนั่งอ่านนิทานของพี่น้ำใส ที่ตัวผมไปเกิดสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะตั้งหลายรอบ
    สงสัยว่าทำไมตอนเขาเกิดมาถวายทานกับพระปัจเจกพุทธเจ้า 500 องค์ มันขาดเราไปได้ไงนะครับ
    เนื่องจากว่าท่านอธิษฐานให้คนที่เคยอุปฐากท่านในสมัยนั้น

    แต่วันนี้ดีใจแล้วครับ ว่าตัวเราก็เคยไปอุปฐากทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้าในสมัยนั้นเช่นกันครับ
    เหมือนกับทุกท่าน ดีใจ ปลื้มใจมากครับ

    ธรรมวิวัฒน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2014
  3. Onarmol

    Onarmol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +964
    โอนปัจจัยบูชาดวงแก้วจุลจักรพรรดิ์ ๙๑๙ บาท @ ๒๐.๐๓ น. ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสและกัลยาณมิตร ณ ที่แห่งนี้ทุกประการนะคะ

    ขอแจ้งที่อยู่จัดส่งดวงแก้วทางพีเอ็มค่ะ
     
  4. ขาล

    ขาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +4,466
    หลังจากได้รับแก้วจุลจักรพรรดิ์ มโนฯ ชัดขึ้นค่ะ อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องราว เหมือนอย่างหลายๆ ท่าน ก็ดีขึ้น เช่น หลังจากถวาย ดวงแก้ว ๙ ดวง แด่ท่านจิตโต นึกสงสัยว่า ผลบุญนี้จะปรากฎบนวิมานอย่างไร ก็เห็นเหมือนการฉายไสลด์ ชัด แบบไม่เบลอเลย แต่แค่แว๊บเดียว ดวงแก้วประดับบนหลังคาวิมานค่ะ ตามยอดหลังคา ส่องแสงด้วย เห็นแสงดวงแก้ว วิบวับแม้จะมองจากที่ไกลๆ อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญกันมานะค่ะ
     
  5. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    สาธุ สาธุ กับธรรมทานเจ้าค่ะ
    อ่านไปก็สะดุ้งไป กลัววันไหนปฏิบัติไม่ดีแล้วท่านจะเสด็จหนีค่ะ อิอิ


    อานิสงค์ของการได้บูชาดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้าของตาลคือ
    ท่านมีกระแสเย็นดีค่ะ ทำให้เจริญวิปัสสนาได้ง่าย เข้าสมาธิได้ง่าย นอนหลับก็เป็นสุข
    ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนคิดเรื่องทุกข์ เรื่องอริยะสัจไม่ค่อยออก
    คืออ่านเข้าใจ แต่...นำมาคิดให้เป็นปัญญาไม่ได้...
    เหมือนพวกมีความรู้แต่นำมาใช้ไม่ได้น่ะค่ะ
    ตอนนี้ก็เข้าใจบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ
    ส่วนเรื่องทรัพย์ก็คล่องตัวขึ้นเยอะเลยค่ะ


    ขอโมทนาบุญกับธรรมทานของทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ
     
  6. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ร่วมบุญหล่อพระและร่วมโรงทาน กับท่านจิตโต บ้านสบายใจ

    ผู้ร่วมบุญ
    คุณแม่เกิด กรองทอง = 100 บาท
    คุณกันตินันน์ กรองทอง พร้อมกัลยาณมิตร = 200 บาท
    คุณประสิทธิ์ กรองทอง = 200 บาท
    คุณอนุชา กรองทอง = 100 บาท
    น้องเอ็ม (ภาณุพงศ์ สีประหลาด) = 100 บาท
    น้องเจน (ขนิษฐา บัวทอง) = 100 บาท
    เอ๋ จันทรกาล = 400 บาท


    รวมจำนวน 1,200 บาท ค่ะ ตอนบ่ายไปโอนค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
    จันทรกาล




    แจ้งการโอนเงินแล้วค่ะ


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ
    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  7. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พระนางยโสธราเถรี เอตทัคคะสาวิกา "ผู้บรรลุอภิญญาใหญ่"

    "เอตะทัคคัง ภิกขะเว มะมะ สาวิกานัง ภิกขุนีนัง มหาภิญญาปปัตตานัง ยะทิทัง ภัททากัจจานา"


    ความรู้ความสามารถของพระนาง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า พระนางประทับนั่งขัดสมาธิครั้งเดียว ทรงระลึกชาติที่ล่วงมาแล้ว
    ได้ถึง หนึ่งอสงไขยกัปกับอีกแสนกัป ด้วยการนึกคราวเดียว (หรือระลึกเพียงชวนจิตเดียว คำว่า ชวน อ่านว่า ชะวะนะ แปลว่า ความเร็ว หรือ ความไว)

    ท่านผู้ที่ได้อภิญญาใหญ่ ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งๆ มีเพียง ๔ ท่านเท่านั้น ส่วนพระสาวกที่เหลือทั้งหมด
    จะระลึกชาติในอดีตได้เพียงหนึ่งแสนกัปเท่านั้น ไม่อาจระลึกได้เกินไปกว่านี้

    แม้ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย ก็มีพระสาวกผู้มีอภิญญาใหญ่ระลึกชาติก่อนได้ "๑ อสงไขยกัป"
    กับอีก "๑ แสนกัป" มีอยู่เพียง ๔ ท่าน คือ

    พระอัครสาวกทั้ง ๒ ท่าน ได้แก่ พระสารีบุตรเถระกับพระมหาโมคคัลลานะเถระ พระพากุลเถระ และพระนาง
    ภัททากัจจานาเถรี (พระนางยโสธราเถรี หรือพระนางพิมพาเถรี)


    หลังจากที่พระนางยโสธราเถรีได้ทรงบรรลุพระอรหัตผล (ผลคือความเป็นผู้ไกลจากข้าศึกคือกิเลส) เป็นพระอรหันต์
    แล้ว ได้ตรัสเล่าถึงพระชีวประวัติของพระนางไว้ มีอยู่ในบาลีคัมภีร์ขุททกนิกาย อปทานว่า

    อนึ่ง พระชีวประวัติบางตอนก็คล้ายกับที่มีปรากฏอยู่ในคัมภีร์อื่นๆ ส่วนบางตอนก็มีเนื้อความแตกต่างกันไป แต่จะขอนำมากล่าวไว้
    ทั้งหมดดังต่อไปนี้ ตามพระวาจาที่พระนางยโสธราเถรีที่ตรัสเล่าไว้ ว่าดังนี้




    ข้าพเจ้าผู้มีฤทธิ์มาก มีปัญญามาก มีพระภิกษุณี ๑,๑๐๐ องค์เป็นบริวาร ไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถวายบังคมแล้วจึงนั่ง
    ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ได้กราบทูลว่า


    "หม่อมฉันมีอายุไ้ด้ ๗๘ ปี ล่วงเข้าปัจฉิมวัยอันเป็นวัยสุดท้ายแล้ว หม่อมฉันถึงความเป็นผู้ที่มีกายโน้มลง (หลังค่อม) แล้ว
    หม่อมฉันขอกราบทูลพระมหามุนีว่า วัยของหม่อมฉันแก่แล้ว ชีวิตของหม่อมฉันเหลือน้อยแล้ว หม่อมฉันจะลาพระองค์ไป หม่อมฉัน
    ได้กระทำที่พึ่งของตนแล้ว มรณะ (ความตาย) ได้ใกล้หม่อมฉันเข้ามาในวัยสุดท้าย



    ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันจะถึงความดับลงในคืนวันนี้ หมดสิ้นชาติ ชรา พยาธิ มรณะ จะไปสู่พระนิพพานอันไม่มีปัจจัย
    ปรุงแต่ง เป็นบุรีที่ไม่มีความแก่ ความตาย และไม่มีภัย บริษัทเข้าเฝ้าห้อมล้อมพระองค์อยู่เวลานี้ หม่อมฉันขอประทานโทษพระองค์
    ณ เฉพาะพระพักตร์พระองค์



    ข้าแต่พระมหาวีระ เวลาที่หม่อมฉันยังท่องเที่ยวไปในสงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด) หากมีความผิดพลั้งพลาดต่อพระองค์
    ขอพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดประทานอภัยโทษแก่หม่อมฉันด้วยเถิด พระเจ้าข้า"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  8. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พระนางยโสธราเถรี เอตทัคคะสาวิกา "ผู้บรรลุอภิญญาใหญ่" (๒)

    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า "ท่านจงแสดงฤทธิ์ และตัดความสงสัยของบริษัททั้งปวงในพระศาสนาของตถาคตเถิด"


    พระนางยโสธราเถรี กราบทูลว่า "ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันชื่อ ยโสธรา เป็นปชาบดี (ภรรยา) ของพระองค์ เมื่อยังดำรง
    อยู่ในเพศฆราวาสได้เกิดในศากยสกุล ตั้งอยู่ในองค์สมบัติของหญิง ประเสริฐกว่าหญิง ๑๖๙,๐๐๐ (หนึ่งแสนหกหมื่นเก้าพัน) นาง



    ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันเมื่ออยู่ในพระราชวังของพระองค์ ได้เป็นประธาน เป็นใหญ่กว่าหญิงทั้งปวง สมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ
    และคุณสมบัติ ดำรงอยู่ในความเจริญทุกสมัย



    นารีทั้งปวงย่อมเคารพหม่อมฉัน เหมือนพวกมนุษย์เคารพเทวดา ฉะนั้น หม่อมฉันเป็นประมุขแห่งนางกัญญา (นางสาวน้อย)
    ๑ พันนาง ในพระราชนิเวศน์ของพระองค์ นางกัญญาเหล่านั้นได้ร่วมสุขร่วมทุกข์กันปานประหนึ่งว่าพวกเทวดาในสวนนันทวัน (สวนอยู่
    ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์) หม่อมฉันเป็นบัณฑิต ล่วงกามธาตุ (ธาตุคือกาม) ด้วยรูปธาตุ (ธาตุคือรูป) ไม่มีใครๆ มีรูปร่างเหมือนรูปร่าง
    ของหม่อมฉัน เว้นแต่พระองค์ผู้ทรงเป็นนายกของชาวโลก หม่อมฉันขอถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วจะแสดงฤทธิ์ถวาย
    พระเจ้าข้า"



    พระนางยโสธราเถรี ถวายบังคมพระชินศรี แล้วทรงแสดงฤทธิ์ชนิดต่างๆมากมาย เช่น แสดงกายให้ใหญ่เท่าภูเขาจักรวาล
    แสดงศีรษะเท่าอุตรกุรุทวีป แสดงแขนสองข้างเท่าทวีปทั้งสอง แสดงสรีระเป็นต้นหว้าอันเป็นต้นไม้ประจำทวีป มีกิ่งด้านใต้มีลูก
    เป็นพวง กิ่งต่างๆมีลูกดก แสดงดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เป็นนัยน์ตา แสดงภูเขาพระสุเมรุเป็นกระหม่อม แสดงภูเขาจักรวาลเป็น
    หน้า เอาต้นหว้าพร้อมทั้งรากทำเป็นพัดเดินไปเข้าเฝ้า ถวายบังคมพระบรมศาสดาผู้เป็นพระโลกนายก



    ต่อจากนั้นทรงเนรมิตให้เป็นช้าง เป็นม้า เป็นภูเขา เป็นทะเล เนรมิตเป็นดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ เป็นภูเขาพระสุเมรุ เป็นสมเด็จ
    อมรินทราธิราช (พระอินทร์) แล้วกราบทูลว่า



    "ข้าแต่พระมหาวีระผู้ทรงมีพระจักษุญาณ หม่อมฉันชื่อ ยโสธรา ขอถวายบังคมพระยุคลบาท แล้วพระเถรีเอาดอกไม้ปิดหนึ่งพัน
    โลกธาตุไว้แล้วเนรมิตเป็นพรหมแสดงสุญตธรรม (ธรรมะที่ว่างเปล่า) อยู่ กราบทูลว่า



    "ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันชื่อ ยโสธรา ขอถวายบังคมพระยุคลบาท หม่อมฉันเป็นผู้มีความชำนาญในฤทธิ์ ในทิพโสต เจโต
    ปริยญาณ (หยั่งรู้ใจผู้ือื่นได้) ย่อมรู้บุพเพนิวาสญาณ มีทิพยจักษุญาณอันหมดจดวิเศษ อาสวะทั้งปวงหมดสิ้นแล้ว บัดนี้ ภพใหม่ไม่มี
    อีกแล้ว ข้าแต่พระมหาวีระ หม่อมฉันมีความรู้ในปฏิสัมภิทา ๔ คือ ในอรรถะ ธรรมะ นิรุตติ และในปฏิภาณ ที่เกิดขึ้นในสำนักของ
    พระองค์ ความพร้อมเพรียงแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก พระองค์ทรงแสดงดีแล้ว พระเจ้าข้า



    ข้าแต่พระมหาวีระ ขอพระองค์พึงทรงระลึกถึงกุศลกรรมเก่าของหม่อมฉันเถิด หม่อมฉันได้สร้างสมบุญไว้เพื่อประโยชน์แก่พระองค์
    หม่อมฉันได้งดเว้นสิ่งที่ไม่สมควรประพฤติ แม้ชีวิตก็ยอมสละเพื่อประโยชน์แ่ก่พระองค์ได้ พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อให้เป็นภรรยา
    ผู้อื่นมาหลายพันโกฏิกัป ก็เพื่อประโยชน์แ่ก่พระองค์ หม่อมฉันก็ไม่ได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่ออุปการะ
    มาหลายพันโกฏิกัป เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อประโยชน์เป็นอาหารมาหลายพันโกฏิกัป หม่อมฉันมิได้
    เสียใจในเรื่องนั้นเลย หม่อมฉันบริจาคชีวิตมาหลายพันโกฏิกัป เมื่อประชุมชนต้องการพ้นภัย ก็ยอมสละชีวิตของหม่อมฉันให้ได้



    ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันไม่เคยหวงเครื่องประดับและเครื่องนุ่งห่มนานาชนิด และภัณฑะ คือตัวหญิง เพื่อประโยชน์แ่ก่พระองค์



    ข้าแต่พระมหามุนี ทรัพย์ ข้าวเปลือก ปัจจัย เครื่องบริจาค บ้าน นิคม ไร่ นา บุตร ธิดา ช้าง ม้า โค ทาสี ภรรยา มากมาย
    นับไม่ถ้วน พระองค์ทรงบริจาคแล้วเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ เวลาที่พระองค์ทรงบริจาคทาน หม่อมฉันไม่เคยมีใจขุ่นหมองเลย
    หม่อมฉันได้เคยเสวยทุกข์ต่างๆมาเป็นอันมากจนนับไม่ถ้วน ในสงสารเป็นเอนก (มิใช่น้อย) เพื่อประโยชน์แ่ก่พระองค์ เวลาที่พระองค์
    ทรงมีความสุขหม่อมฉันก็พลอยมีความสุขด้วย แต่เวลาที่พระองค์ทรงมีความทุกข์ หม่อมฉันก็พลอยมีความทุกข์ด้วย หม่อมฉันมีความ
    ยินดีในที่ทั้งปวง เพื่อพระองค์มาแล้ว



    ข้าแต่พระมหามุนี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมะโดยทางที่สมควร เสวยสุขและทุกข์แล้ว ได้บรรลุพระโพธิญาณ
    หม่อมฉันได้ร่วมมาเป็นอันมากกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า โคดม ผู้ทรงเป็นพระโลกนายก ทรงเป็นเทพผู้ประเสริฐ พระองค์
    ก็ได้ทรงร่วมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆผู้ทรงเป็นนาถะ คือที่พึ่งของชาวโลกมาจำนวนมาก



    ข้าแต่พระมุนี อธิการ (กิจการหรือการกระทำอันยิ่ง) ของหม่อมฉันมีมาก เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ หม่อมฉันเมื่อแสวงหาพุทธธรรม
    (ธรรมะของพระพุทธเจ้า) อยู่ ก็ได้เป็นบาทบริจาริกา คือผู้รับใช้ของพระองค์
     
  9. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    พระนางยโสธราเถรี เอตทัคคะสาวิกา "ผู้บรรลุอภิญญาใหญ่" (จบ)

    ใน ๔ อสงไขยกัปกับอีก ๑ แสนกัป ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระทีปังกร" ผู้ทรงเป็นพระโลกนายก เสด็จ
    อุบัติขึ้นในโลก ประชาชนในปัจจันตประเทศ (บ้านปลายแดน) มีจิตใจยินดี กราบทูลนิมนต์พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วร่วมกัน
    กระทำหนทางสำหรับเป็นที่เสด็จพระพุทธดำเนินด้วยความยินดี


    ณ กาลครั้งนั้น พระองค์ทรงเป็นพราหมณ์ มีนามว่า สุเมธ ได้รับอาสากระทำหนทางยาวเพื่อถวายรับเสด็จพระทีปังกร
    สัมมาสัมพุทธเจ้า ในคราวนั้น หม่อมฉันได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ เป็นหญิงสาวชื่อ สุมิตตา ได้ไปสู่ที่ประชุมนั้น และได้พบ
    พระองค์ หม่อมฉันได้ถือดอกบัวไปด้วย ๘ กำ เพื่อจะบูชาพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ได้ถวายแด่พระองค์ผู้ทรงเป็นฤาษี
    (ผู้แสวงหาธรรมะ) ในท่ามกลางประชุมชนนั้น



    (อนึ่งการกระทำหนทางของพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้งเป็นสุเมธฤาษีในบาลีคัมภีร์ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ว่า สุเมธฤาษีรับทำ
    หนทางยาวมาก และกระทำไม่ทันเสร็จ ก็ถึงเวลาเสด็จพระพุทธดำเนิน ท่านจึงสยายผมใช้ผ้าคากรองและหนังสัตว์ปูลงบนเปือกตม
    แล้วท่านนอนคว่ำหน้าลง ณ ที่นั้น เพื่อเอาตัวต่างสะพาน ด้วยคิดว่า ขอพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระสาวก จงทรงเหยียบเราไปเถิด
    อย่าทรงเหยียบเปือกตมเลย เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่เราและท่านได้คิดว่า ขอให้พระพุทธเจ้าทรงเผากิเลสของเราและท่านปรารถนา
    บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ แล้วช่วยหมู่สัตว์ให้พ้นทุกข์ เข้าสู่พระนิพพาน)



    ครั้งนั้น หม่อมฉันได้เห็นพระองค์ทรงประกอบศุภกิจอยู่นาน มีความกรุณา เมื่อฤาษีนั้นเดินเลยไปแล้ว ยังดึงจิตใจหม่อมฉัน
    ให้นิยมอยู่ จึงได้สำคัญว่า ชีวิตของเราจะมีผลดี และในคราวนั้น หม่อมฉันก็เห็นความพยายามนั้นของพระองค์เป็นของมีผลดี จึงได้
    ถวายดอกบัวแด่พระองค์ ผู้เป็นฤาษี ด้วยบุญที่ทำมาก่อน จิตของหม่อมฉันได้เลื่อมใสพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก่อนแล้ว หม่อมฉันยิ่งมี
    จิตเลื่อมใสพระองค์ผู้เป็นฤาษีที่มีจิตใจสูง มิได้เห็นสิ่งอื่นที่ควรถวาย จึงได้ถวายดอกบัวแด่พระองค์ผู้เป็นฤาษี พร้อมด้วยกล่าวว่า
    "ข้าแต่พระฤาษี ดอกบัว ๕ กำ จงเป็นของท่าน ส่วนอีก ๓ กำ จงเป็นของดิฉัน ข้าแต่พระฤาษี ดอกบัวเหล่านั้นจงมีเสมอกับท่าน
    เพื่อประโยชน์แก่พระโพธิญาณของท่าน เจ้าค่ะ"



    ฝ่ายสุเมธฤาษี รับดอกบัวแล้วก็นำไปบูชาพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงแสวงหาพระคุณธรรมยิ่งใหญ่ มีบริวารยศมาก เสด็จ
    พระพุทธดำเนินมาในท่ามกลางประุชุมชน เพื่อประโยชน์แก่พระโพธิญาณ พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ทอดพระเนตรเห็นสุเมธฤาษี
    ผู้มีจิตใจสูง จึงทรงพยากรณ์ในท่ามกลางประชุมชนนั้น



    ข้าแต่พระมหามุนี ในกัปอันนับประมาณมิได้ โดยนับถอยหลังไปจากภัทรกัปนี้ พระมหามุนีทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์
    กุศลกรรมของหม่อมฉันอันเป็นกุศลกรรมตรงกันว่า



    "ดูก่อนฤาษีผู้ใหญ่ อุบาสิกานี้ จะเป็นผู้ที่มีจิตเสมอกัน มีกุศลกรรมเสมอกัน กระทำกุศลร่วมกัน เป็นที่รักของท่าน และเป็นผู้มีบุญ
    กรรมเพื่อประโยชน์แก่ท่าน จะเป็นที่น่าดูน่าชม น่ารักน่าชอบใจยิ่ง มีวาจาอ่อนหวาน จะเป็นธรรมทายาทผู้มีฤทธิ์ของท่าน อุบาสิกานี้
    จะรักษากุศลธรรมทั้งหลายเหมือนพวกเจ้าของทรัพย์รักษาทรัพย์ที่เก็บไว้ในคลังฉะนั้น ประชาชนจะอนุเคราะห์อุบาสิกาผู้เป็นที่รักของ
    ท่าน อุบาสิกานี้จะมีบารมี (คุณความดีที่ควรบำเพ็ญอย่างยิ่งยวด เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงสุด) เต็ม จักละกิเลส (ความชั่วที่แฝงอยู่
    ในความรู้สึกนึกคิดทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์) ได้ดังราชสีห์ละกรงขัง แล้วจะบรรลุโพธิญาณในกัปอันประมาณมิได้จากกัปนี้ไป"



    พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์หม่อมฉันไว้แล้ว หม่อมฉันก็ได้เป็นอย่างนั้น และเป็นผู้ทำกรณียกิจอย่างนี้ หม่อมฉัน
    ได้มีจิตในพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้ทำจิตให้เลื่อมใสในกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้แล้ว จึงได้เสวยผลในเทวดาและมนุษย์
    มากมาย ได้เสวยสุขและทุกข์ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ชาตินี้อันเป็นชาติสุดท้าย หม่อมฉันได้เกิดในศากยสกุล เป็นผู้มีรูปสมบัติ
    มีโภคสมบัติ มียศ มีบริวาร มีศีล สมบูรณ์ด้วยอวัยวะทั้งปวง ได้รับสักการะอย่างยิ่งในตระกูลทั้งหลาย เวลามีลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    และสักการะ หรือเวลาเสื่อมลาภ ยศ สุข สรรเสริญและสักการะ ใจของหม่อมฉันก็เป็นปรกติ ใจของหม่อมฉันไม่มีทุกข์ หม่อมฉัน
    ไม่มีภัยจากที่ไหนๆ สมจริงตามที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า



    นารีใด เป็นผู้มีอุปการคุณต่อสามี ร่วมสุขร่วมทุกข์กับสามี บอกสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สามี มีความรักสามี นารีนั้น
    นับเป็นนารีผู้ประเสริฐ นารีนั้น คือยโสธรา ผู้มีความเพียร ผู้มีอุปการคุณแ่ก่พระตถาคต แสดงอุปการคุณทั้งภายใน
    พระราชฐาน และแก่พวกเจ้าในพระนคร



    หม่อมฉันได้ถวายทานแด่พระพุทธเจ้ามาแล้ว เป็นจำนวนมาก มีจำนวนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าห้าร้อยโกฏิเป็นต้น จนกระทั่งมีจำนวน
    ถึงแสนโกฏิ และได้ถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้ามากมาย ตลอดถึงพระขีณาสพ (ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว หรือพระอรหันต์) ผู้เป็นพุทธสาวก
    เป็นจำนวนมาก


    บุคคลผู้ประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ควรประพฤติธรรมให้เป็นสุจริต ไม่ควรประพฤติธรรมให้เป็นทุจริต
    (ประพฤติชั่ว)




    หม่อมฉันเบื่อสงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด) จึงออกบรรพชาในพระธรรมวินัยพร้อมด้วยบริวารชน ๑ พัน พอหม่อมฉันบรรพชา
    ยังไม่ถึงครึ่งเดือน ก็รู้แจ้งชัดจตุราริยสัจ (อริยสัจ ๔) มีคนมากมายนำจีวร อาหาร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานเภสัชปัจจัย (ปัจจัย
    คือยาสำหรับคนไข้) มาถวายหม่อมฉันไม่ขาดสาย เหมือนลูกคลื่นในทะเลฉะนั้น



    หม่อมฉันได้เผากิเลสทั้งหลายให้สิ้นไปแล้ว ได้ถอนภพทั้งปวง ได้ตัดเครื่องผูก (สังโยชน์) ให้ขาดไป เหมือนนางช้างพัง
    ทำลายเครื่องผูกให้ขาดไปฉะนั้น หม่อมฉันไม่มีอาสวะ (กิเลสที่หมักหมมหรือดองอยู่ในสันดานที่ไหลซึมซ่านไปย้อมจิตเมื่อประสบ
    อารมณ์ต่างๆ) แล้ว



    การที่หม่อมฉันได้เข้ามาสู่สำนักพระพุทธเจ้าผู้ทรงประเสริฐสุด จัดว่าเป็นการมาดีแล้ว หม่อมฉันได้สำเร็จวิชชา (ความรู้แจ้ง) ๓
    ปฏิสัมภิทา (ความรู้แตกฉาน) ๔ วิโมกข์ (ความหลุดพ้นจากกิเลส) ๘ และอภิญญา (ความรู้ยิ่ง, ความรู้ชั้นสูง) ๖ ประการ
    และได้กระทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว



    หม่อมฉันได้รับทุกขวิบัติมามากมายหลายอย่าง และได้เสวยสุขสมบัติมาเป็นอันมาก ถึงพร้อมความเป็นผู้บริสุทธิ์ (ใสสะอาด) แล้ว
    สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมทั้งปวง



    บุคคลผู้ถวายตนของตนแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้แสวงหาพระคุณอันยิ่งใหญ่ เืพื่อประโยชน์แก่บุญ ก็ย่อมได้สหายพรั่งพร้อม
    บรรลุถึงพระนิพพานอันเป็นอสังขตะ (ธรรมะที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง)



    กรรมทั้งปวงที่เป็นอดีต ปัจจุบันและอนาคตของหม่อมฉันหมดสิ้นไปแล้ว หม่อมฉันขอกราบถวายบังคมพระยุคลบาทของพระองค์
    พระเจ้าข้า



    (นี้เป็นพระวาจาครั้งสุดท้ายที่พระนางยโสธราเถรีกราบถวายบังคมทูลลาเข้าสู่พระนิพพาน อันเป็นปริโยสาน คือ ที่สุดลงโดยรอบ
    แห่งชีวิตที่จะได้รับบรมศานติสุขทุกประการ)



    ที่มา : ชีวประวัติพุทธสาวิกา : พระนางยโสธราเถรี เป็นเลิศด้าน มหาอภิญญา รวบรวมเรียบเรียงโดย จำเนียร ทรงฤกษ์

    ศึกษา ค้นคว้า ในพระไตรปิฎก (ดู ขุ.อป. ข้อ ๑๖๘) (องฺ.อ.๑/๒/๔๘-๙)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  10. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ไปอ่านเจอมาในเว็บพันทิปค่ะ เลยลองมาแชร์ให้อ่านแทรกระหว่างรอประวัติตอนต่อไปนะคะ
    เห็นว่าผู้เขียนเรียบเรียงเรื่องราวได้ดี ทั้งยังมีแหล่งอ้างอิงน่าเชื่อถือ จึงนำมาให้พี่ ๆ น้อง ๆ อ่านค่ะ

    ส่วนตัวอ่านเรื่องนี้ทีไร น้ำตาตกในโฮก ๆ
    ธรรมรักษาค่ะ
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..พระพิมพายโสธราเถรี..

    ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามกระทู้นี้มาโดยตลอด และขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาลที่นำธรรมทานเกี่ยวกับพระนางพิมพาเถรีมาให้อ่าน

    ขอเล่าประสบการณ์ของตนเองสักเล็กน้อย ย้อนหลังไปเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ ดิฉันเพิ่งฝึกมโนมยิทธิใหม่ ๆ มโนฯยังไม่แจ่มใสนัก แต่ได้ทิพยจักขุญาณเพียงเล็กน้อย เวลานั้นได้รับทราบว่า ตนเองปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน เรื่องนี้ได้รับการรับรองจากพระอาจารย์ที่สอนกรรมฐานองค์แรกว่า ปรารถนาพุทธภูมิจริง

    จากนั้นช่วงเดือนพย.-ธค.๔๙ ดิฉันได้รู้จักบุคคลท่านหนึ่ง ได้กล่าวว่า..

    "คุณน้ำใส คุณน่ะปรารถนานางแก้ว" พร้อมทั้งพูดหลายเรื่องที่ดิฉันฟังไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับเนื่องจากคนปรารถนานางแก้ว ต้องเกิดเป็นหญิง เวลานั้นตนเองไม่ปรารถนาจะเป็นหญิงเลย ตั้งจิตอธิษฐานตลอดว่า

    "ชาติหน้าขอเกิดเป็นชาย เกิดมาให้ระลึกชาติได้ทันที และในชาตินั้นขอบวชตลอดชีวิต"
    เมื่อมีคำว่า "นางแก้ว" ปรากฏขึ้นมา จึงได้ค้นหาใน internet เวลานั้นแทบจะไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับนางแก้วเลย มีแต่คำว่า "นางแก้ว"ในรัตนะ ๗ ของพระเจ้าจักรพรรดิ ซึ่งความหมายก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

    จนกระทั่งวันหนึ่งได้ค้นพบ link สตรีที่โลกลืม โดยเว็บพลังจิต ซึ่งเป็นเอกสารเก่ามาก ๆ มีท่านหนึ่งเคยบอกว่า..

    "หากอยากพบพระแม่พิมพาจะต้องท่องบท พาหุงฯ ห้องแรก ๑๐๘ จบ จะพบพระองค์"

    จากนั้นก็ลองนั่งสมาธิพร้อมท่องบทพาหุง ฯ แต่ปรากฏว่าในวันนั้นไม่เกิดอะไรขึ้นเลย ดิฉันจึงไม่มีความเชื่อเรื่องนางแก้ว อีกทั้งยังปรามาสว่า เป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระต่อมาได้ร่วมคณะอัญเชิญพระธาตุครั้งแรก (ไม่เอ่ยนามคณะนะคะ) เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นหลายอย่างเช่น...

    เมื่อเดินทางไปที่แห่งใดที่มีอดีตเกี่ยวเนื่อง ดิฉันจะมองเห็นภาพในอดีตได้โดยไม่ต้องนั่งสมาธิ และทราบว่า บุคคลในอดีตเป็นใครในชาตินี้ เวลานั้นได้เล่าให้หัวหน้าคณะฟัง ท่านก็บอกว่า..

    "คุณนะ อุปทาน ภาพที่ปรากฏขึ้นมาโดยไม่นั่งสมาธินะเชื่อไม่ได้"


    เวลานั้นดิฉันรู้สึกไม่มั่นใจทิพยจักขุญาณของตน เนื่องจากท่านผุ้นั้นบอกว่า ต้องเข้าฌาณ ๔ ให้ได้ก่อน แล้วถอยออกมาอธิษฐาน(ตามแบบกรรมฐาน ๔๐)

    เป็นเหตุให้ช่วงนั้น ดิฉันมีความปรารถนาจะให้มโนฯแจ่มชัด จึงไปฝึกที่บ้านสายลมทุกเดือน ทั้งเสาร์-อาทิตย์ เป็นเวลาติดต่อกัน ๗ เดือน ปรากฏกลับมาก็ทำไม่ได้ ต้องอาศัยครูฝึกอยู่ร่ำไป จนท้อและเลิกฝึก กลับมาภาวนาพุท-โธเหมือนเดิม

    ต่อมาเดือนมิถุนายน ๒๕๕๐ เวลานั้นหลวงปู่สวัสดิ์ วัดจันทร์ใน ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ถึงแก่มรณภาพ ทำให้ดิฉันรู้สึกท้อแท้ไม่ทราบจะปรึกษาเรื่องสมาธิกับใครดี จึงอธิษฐานขอให้ได้ครูบาอาจารย์ดี

    ในเดือนนั้นเอง ขณะที่นั่งเคลียร์งานที่บ้าน(เวลานั้นทำงานประจำกับบริษัทต่างชาติสายโทรคมนาคม) ระหว่างทำงานก็ภาวนาพุท-โธไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ก็ปรากฏภาพพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ(ฤาษีลิงดำ) ขึ้นมา

    คิดในใจว่า หลวงพ่อมา กราบหลวงพ่อดีกว่า


    เมื่อกราบเสร็จ เห็นหลวงพ่อฯ ยิ้ม และกล่าว่า ตามพ่อมา

    ภาพหลวงพ่อหายไป ปรากฏภาพวิมานแก้วสวยมาก และเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากายมนุษย์ปรากฏ นั่งห้อยพระบาท หลวงพ่อให้กราบขอขมา ถวายบุญ และอนุโมทนาบุญกับพระพุทธองค์


    จากนั้นท่านให้นั่งสมาธิมาที่วิมานของพระพุทธเจ้า และกล่าวว่า.."จำไว้นะลูก อารมณ์เบาสบาย เป็นอารมณ์ใช้งานของมโนมยิทธ ให้จำอารมณ์นี้ไว้ให้ดี"

    จากนั้นดิฉันได้สามารถท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าสำนักพระยายมราช นาคพิภพ สวรรค์แต่ละชั้น และพระนิพพาน ช่วงนั้นไม่เคยแวะพรหมโลก เนื่องจากรู้สึกเกรงใจไม่ต้องการรบกวนการเข้าสมาบัติของท่านพรหมทั้งหลาย จะไปเพียงวิมานของตนเองเท่านั้น


    หลังจากพบหลวงพ่อได้ไม่นาน เวลานั้นได้ทำเว็บของกลุ่มขณะนั้นได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพระนางปชาบดีโคตมีเถรี รู้สึกปิติใจเกี่ยวกับการกำเนิดพระภิกษุณี

    ขณะที่นั่งทำงานเว็บอยู่นั้น อยู่ ๆ ก็ปรากฏภาพพระภิกษุณีชราผู้หนึ่ง แม้จะชราภาพ แต่มีความงามยิ่งนัก ท่านลอยอยู่กลางอากาศ จึงตั้งจิตถามท่านว่า..


    "]"ท่านคือ พระปชาบดีโคตมีหรือเปล่าเจ้าค่ะ"

    พระภิกษุณีผู้นั้นแย้มโอษฐ์ และกล่าวด้วยสุรเสียงอันไพเราะว่า

    "เราคือ พระภัททากัจจานาเถรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  12. Phuya

    Phuya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +10,966
    วันมาฆะบูชานี้...ขอเชิญกัลยานมิตรร่วมบุญหล่อพระและร่วมโรงทาน
    กับท่านจิตโต บ้านสบายใจ​


    ปิดรับบุญ...หล่อพระและร่วมโรงทาน บ้านสบายใจ วันนี้ค่ะ เวลา 17.00 น....อนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านนะคะ ที่ร่วมบุญเข้ามามาก (พี่น้ำใสแจ้งมา...ประมาณหมื่นกว่าบาทแล้วค่ะ) จนต้องเพิ่มขนมจีนน้ำยาและแกงเผ็ดเป็ดย่าง

    ...สรุปรายการอาหารที่จะนำไปร่วมโรงทาน

    --- ขนมจีน 20 กิโล
    --- น้ำยาไก่ 4 หม้อ
    --- แกงเผ็ดเป็ดย่าง 2 หม้อ
    --- ผลไม้ อีกจำนวนหนึ่ง

    *** สาเหตุที่ต้องเพิ่มอาหาร เพราะในวันพรุ่งนี้เป็นวันพระใหญ่ และมีบุญหล่อพระ คาดว่าจะมีผู้มาร่วมบุญมาเป็นจำนวนมาก เกรงว่าอาหารจะไม่เพียงพอค่ะ

    *** จำนวนเงินที่เหลืออีกส่วนหนึ่งจะนำไปร่วมบุญหล่อพระ

    ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับทุกๆ ท่าน ... ขอให้มีกินมีใช้ ไม่ขัดสนในทุกๆ ชาตินะคะ

    ร่วมบุญหล่อพระและโรงทานเพิ่มค่ะ
    คุณมนต์ภัสสร ภูกัก 1,000 บาท
    คุณอุมาพร อวยสวัสดิ์ 100 บาท
    เจ้าจอม 500 บาท...โอนเงินแล้วค่ะ
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    วันนี้ ๑๕.๑๕ น.เปิดประมูลพระเขี้ยวแก้ว เทพเนรมิต จำนวน ๒ องค์

    พระเขี้ยวแก้วเทพเนรมิต ชุดที่ ๓ พระเขี้ยวแก้วนี้ ผู้รักษาเป็นพรหม และเทวดาดูแลรักษาเพื่อให้ผู้ที่สั่งสมบุญมาดีแต่กาลก่อน พระเขี้ยวแก้ว ๒ องค์ เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าในอดีต ดังนี้

    พระพุทธเรวตะ.jpg

    ๑.พระเขี้ยวพระพุทธเรวตพุทธเจ้า อธิษฐานโดย พระนิลวรมันตรฤาษี ภายหลังได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระนามว่า “พระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า

    เปิดประมูลที่ ๒๙๙๙ บาท

    พระพุทธกกุสันโธ.jpg

    ๒. พระเขี้ยวแก้วพระพุทธกกุสันโธพุทธเจ้า อธิษฐานโดย พระสังขสัตตฤาษี ภายหลังได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์ พระนามว่า “พระนารทพุทธเจ้า”เปิดประมูลที่ ๒๙๙๙ บาท


    เทียบขนาด.jpg

    กติกา
    ๑. เปิดประมูลวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗ สิ้นสุดเวลาประมูล ๑๕.๑๕ น. ตามมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง

    ๒. การประมูลพระเขี้ยวแก้วนี้ ประมูลเฉพาะกิจ เพื่อนำปัจจัยร่วมบุญสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ

    ๓. ขอสงวนสิทธิ์ให้ประมูล เพียงท่านละ ๑ องค์เท่านั้น เนื่องจากเป็นของสูงค่า และหายากให้ผู้มีบุญได้ไว้บูชา เพื่อยกระดับจิตให้สูงขึ้น

    ๔. กรุณาโอนปัจจัยบูชาภายใน ๒ วัน หลังจากโอนปัจจัยแล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้ว-ธาตุกายสิทธิ์ในวันทำการไปรษณีย์ต่อไป


    กรุณาโอนปัจจัยไปที่

    พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัย ๔๕% หลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อเข้าบัญชีสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ขนาด ๔ ศอกค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ
    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  14. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    จอง ๓,๕๐๐ บาท
    ๑.พระเขี้ยวพระพุทธเรวตพุทธเจ้า อธิษฐานโดย พระนิลวรมันตรฤาษี ภายหลังได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า พระนามว่า “พระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า”
     
  15. Onarmol

    Onarmol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +964
    ๒. พระเขี้ยวแก้วพระพุทธกกุสันโธพุทธเจ้า อธิษฐานโดย พระสังขสัตตฤาษี ภายหลังได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์ พระนามว่า “พระนารทพุทธเจ้า”เปิดประมูลที่ ๒๙๙๙ บาท
    ไม่มีผู้ประมูล ขอประมูลได้ไหมคะ หมดเวลาแล้ว ๓๑๒๔ บาท
     
  16. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ๒. พระเขี้ยวแก้วพระพุทธกกุสันโธพุทธเจ้า
    จอง ๓,๐๐๐
     
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับท่าน widya ด้วยเจ้าค่ะ ที่ได้เป็นผู้ดูแลพระเขี้ยวแก้วเทพนิรมิตของพระเรวตพุทธเจ้าต่อไปเจ้าค่ะ

    ขออนุโมทนาในศีลจริยวัตร และปฏิปทาของพระอาจารย์ทุกประการเจ้าค่ะ

    Numsai
     
  18. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677

    สำหรับพระเขี้ยวแก้วของพระกกุสันโธจะเปิดประมูลใหม่ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
  19. Onarmol

    Onarmol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +964
    รับทราบค่ะ
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..๑๘.๒๙ น.วันนี้เปิดประมูลพระเขี้ยวแก้ว เทพเนรมิต ชุด ๓ รอบ ๒..

    พระเขี้ยวแก้วเทพเนรมิต ชุดที่ ๓ พระเขี้ยวแก้วนี้ ผู้รักษาเป็นพรหม และเทวดาดูแลรักษาเพื่อให้ผู้ที่สั่งสมบุญมาดีแต่กาลก่อน พระเขี้ยวแก้ว ๒ องค์ เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้าในอดีต ดังนี้

    ๒. พระเขี้ยวแก้วพระพุทธกกุสันโธพุทธเจ้า อธิษฐานโดย พระสังขสัตตฤาษี ภายหลังได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์ ทรงพระนามว่า “พระนารทพุทธเจ้า”

    เปิดประมูลที่ ๒๙๙๙ บาท

    กติกา
    ๑. เปิดประมูลวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗ สิ้นสุดเวลาประมูล ๑๘.๒๙ น. ตามมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง

    ๒. การประมูลพระเขี้ยวแก้วนี้ ประมูลเฉพาะกิจ เพื่อนำปัจจัยร่วมบุญสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ

    ๓. กรุณาโอนปัจจัยบูชาภายใน ๒ วัน หลังจากโอนปัจจัยแล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้ว-ธาตุกายสิทธิ์ในวันทำการไปรษณีย์ต่อไป


    กรุณาโอนปัจจัยไปที่

    พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัยส่วนหนึ่ง ๔๕% หลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อเข้าบัญชีสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ขนาด ๔ ศอก

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ
    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...