ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ่านข้อมูล คุณพุฒิพงศ์ ก้อนวิมล คิดว่าข้อมูลด้านล่างมีความเป็นไปได้ที่น่าจะเกิดไหมถ้าเกิดการยุบตัวตามแนวที่เห็น

    พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล

    [​IMG]

    49 จังหวัดเสี่ยงธรณีสูบ รอยเลื่อนใหม่กาญจนบุรี กทม.ผ่านตัวเมืองชลบุรี บางแสน สิ้นสุดบางพระชลบุรี โอกาสเสี่ยงเหมือนกันที่จะโดนแผ่นดินไหวแบบเต็มๆ

    ผอ.สำนักธรณีวิทยาเตือนว่า
    ในเมืองไทยพื้นที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยง เกิดแผ่นดินยุบตัว
    หลังเกิดแผ่นดินไหว มีมากถึง 49 จังหวัด
    จังหวัดที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินยุบสูงมี 24 จังหวัด ได้แก่
    กาญจนบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ สระแก้ว
    ขอนแก่น นครสวรรค์ แม่ฮ่องสอน
    สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ชลบุรี น่าน ระนอง สุราษฎร์ธานี ชัยนาท
    ปราจีนบุรี ราชบุรี อุดรธานี ชุมพร
    พะเยา ลำปาง อุทัยธานี เชียงใหม่ พัทลุง และ เลย

    [​IMG]

    จับตา ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย ทำนาย14-18ก.พ.57 ประเทศไทยจะเจอกับภัยพิบัติใหญ่
    ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ นอสตราดามุสเมืองไทย ได้ทำนายวันที่ 14-18 ก.พ. 57กรุงเทพฯถนนจะยุบ ตึกจะถล่ม
    เคยสร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนมาแล้ว เกี่ยวกับคำทำนายของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ ในเรื่องภัยพิบัติ ตั้งแต่ครั้งเหตุการณ์ตึกเวิล์ดเทรดถล่ม เหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 และล่าสุดเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของประเทศไทยเมื่อปี 2554 จนได้รับฉายานามว่า.. 'นอสตราดามุสเมืองไทย

    ส่วนเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น ดร.กัญจีรา ได้เปิดเผยว่า จะมีเรื่องที่หน้าตื่นเต้นหลังจากวันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ 2557 ถึงเวลาที่มนุษย์ จะเจอฟ้าดินจะชำระล้างเมืองไทย..เธอเห็นปรากฏการณ์แผ่นดินทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ในหลายพื้นที่ มีในภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งการทรุดตัวของแผ่นดินนั้น เธอเรียกมันว่า ธรณีพิโรธ

    ดร.กัญจีรา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เธอยังเห็นสายฟ้าฟาด เห็นไฟไหม้และตึกทรุดตัวลงมามากมาย... เมื่อมีการถามว่าเหตุการณ์นี้เห็นจริงหรือตัว ดร.กัญจีรา มโนมันขึ้นมา เธอตอบว่า ตัวเธอสว่างมาเป็นจิตประภัสสร คือ 1 ในสิบล้านคนที่จะได้เห็นอย่างเธอ ต้องคอยดูว่าคำทำนายจะเป็นจริงหรือไม่
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเห็นผมน่ะครับ ผมว่าจัดซื่อไว้รอรัสเซียน่ะครับ

    ซาอุฯทุ่ม $10,000 ล้าน สั่งซื้อ “ยานเกราะ” ล็อตใหญ่จากบริษัทอาวุธมะกัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2557 10:42 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเซ็นสัญญาสั่งซื้อยานเกราะล็อตใหญ่รวมมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัทอาวุธแคนาดาซึ่งอยู่ในเครือ เจเนอรัล ไดนามิกส์ ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐฯ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์แคนาดา เอ็ด ฟาสต์ แถลงเมื่อวานนี้ (14)

    ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ริยาดเริ่มสะสมอาวุธเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ส่อเค้าลุกลาม

    การสั่งซื้ออาวุธจากบริษัทอเมริกัน ซึ่งแม้ในที่นี้จะเป็นเพียงบริษัทลูกในแคนาดาก็ตาม สื่อให้เห็นว่า สหรัฐฯและซาอุดีอาระเบียยังคงประสานความร่วมมือด้านกลาโหมอย่างใกล้ชิด แม้จะมีปมขัดแย้งกันเรื่องอิหร่านและซีเรียในระยะนี้

    ประธานาธิบดี บารัค โอบามา จะเดินทางเยือนกรุงริยาดในเดือนหน้า เพื่อกระชับสัมพันธ์ระหว่าง 2 รัฐบาลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังซาอุดีอาระเบียไม่พอใจที่วอชิงตันหันไปผูกมิตรกับอิหร่าน ทั้งยังไม่แสดงบทบาทผู้นำเต็มที่ในการแก้ไขวิกฤตซีเรีย

    ยานเกราะล็อตนี้จะผลิตโดยบริษัท Genral Dynamics Land Systems’Canada (GDLS) ที่เมืองลอนดอน รัฐออนแทรีโอ และมูลค่าของสัญญาอาจขยับขึ้นเป็น 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหากมีการใช้สิทธิ์ออปชันทุกประเภท

    สัญญาสั่งซื้อยังครอบคลุมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง, การฝึกใช้งาน และบริการเสริมต่างๆ

    รัฐมนตรีพาณิชย์แคนาดาชี้ว่า ข้อเสนอที่ดีกว่าของ GDLS ทำให้สามารถเอาชนะบริษัทอาวุธคู่แข่งในเยอรมนี, ฝรั่งเศส และประเทศยุโรปอีกหลายแห่ง โดย “สัญญาซื้อขายครั้งประวัติศาสตร์” นี้จะช่วยสร้างงานในแคนาดาเพิ่มอีกกว่า 3,000 ตำแหน่ง และสนับสนุนภาคธุรกิจอีกกว่า 500 บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ส่งให้แก่ เจเนอรัล ไดนามิกส์

    ด้าน เจสัน ไมเออร์ส ประธานสมาคมผู้ผลิตและส่งออกแคนาดา ก็ระบุว่า สัญญาสั่งซื้อนี้เป็นดั่ง “เหรียญโอลิมปิกส์” สำหรับแคนาดาและผู้ผลิตในแคนาดา

    อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านแคนาดาได้ตั้งคำถามเรื่องจริยธรรมในการขายอาวุธให้แก่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งยังเตือนว่าอาวุธเหล่านั้นอาจถูกนำไปใช้กดขี่ข่มเหงพลเมืองซาอุฯ

    เมื่อปี 2011 ซาอุดีอาระเบียเคยส่งทหารและยานเกราะเข้าไปช่วยบาห์เรนปราบปรามผู้ประท้วงมุสลิมชีอะห์

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รมว.“เคร์รี” ของสหรัฐฯพบผู้นำจีน หารือทั้งเรื่องเกาหลีเหนือ, ความตึงเครียดปักกิ่ง-โตเกียว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2557 17:40 น.

    [​IMG]

    *รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ (ซ้าย) เข้าพบหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ (14 ก.พ.)

    เอเอฟพี/เอพี/เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ เข้าพบหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และผู้นำอาวุโสคนอื่นๆ ของจีนในวันนี้ (14 ก.พ.) โดยที่ประเด็นปัญหาเกาหลีเหนือคือเรื่องที่ทรงความสำคัญลำดับสูงในวาระของเขา แต่พร้อมๆ กันนั้น บุคคลหมายเลขหนึ่งในด้านการทูตของอเมริกาผู้นี้ก็มุ่งประสงค์ที่จะแสดงบทบาทในความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในเอเชีย ระหว่างปักกิ่งกับพวกชาติพันธมิตรในเอเชียของวอชิงตันอย่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์

    เคร์รีเริ่มต้นการเยือนจีนเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเที่ยวนี้ ด้วยการเข้าพบเจรจากับ สี ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง จากนั้นก็ตามมาด้วยการเข้าพบกับผู้นำแดนมังกรอีกหลายคน รวมทั้ง นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง และรัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้

    การเดินทางสู่เอเชียของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯครั้งนี้ บังเกิดขึ้นในช่วงจังหวะที่กำลังมีความตึงเครียดอย่างสูงในภูมิภาค จากการปะทุขึ้นมาของข้อพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ในประเด็นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลอดจนการช่วงชิงกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งกำลังทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจเอเชีย 2 รายนี้อยู่ในอาการย่ำแย่เลวร้ายที่สุดในรอบระยะไม่กี่ปีหลังมานี้

    ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือก็เป็นสิ่งที่มีลำดับความสำคัญสูงในวาระการทัวร์เอเชียเที่ยวนี้ของเคร์รี โดยที่วอชิงตันกำลังวาดหวังว่าปักกิ่งจะให้ความช่วยเหลือในการเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวโสมแดง ผู้เป็นพันธมิตรที่ก้าวร้าวและเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ของแดนมังกร แสดงออกซึ่งปฏิบัติการที่มีความหมายในการมุ่งสู่กระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์

    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศหวัง เคร์รีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวว่า การเข้าพบหารือกับสี ของเขา “เป็นการหารือที่สร้างสรรค์มาก เป็นไปในทางบวกมากๆ และผมรู้สึกยินดีที่เราได้มีโอกาสขุดคุ้ยลงไปในรายละเอียดเกี่ยวกับความท้าทายบางอย่างบางประการของเกาหลีเหนือ”

    เคร์รี กล่าวย้ำขอให้จีน ซึ่งเป็นชาติใหญ่เพียงรายเดียวที่เกาหลีเหนือยังนับเป็นพันธมิตร เพิ่มแรงกดดันต่อโสมแดง “จีนสามารถที่จะแสดงบทบาทอันโดดเด่นและสำคัญอย่างยิ่งได้” เขาบอก “ไม่มีประเทศไหนอีกแล้วที่มีศักยภาพมากยิ่งกว่าจีนในการส่งอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเกาหลีเหนือ ถ้าหากพิจารณาถึงความสัมพันธ์ทางการค้าอันใหญ่โตกว้างขวางซึ่งจีนมีอยู่กับเกาหลีเหนือ”

    บุคคลหมายเลขหนึ่งทางด้านทูตของอเมริกัน ไม่ได้พูดถึงปัญหาด้านความมั่นคง หรือข้อพิพาทอื่นๆ ที่กำลังเผชิญหน้าสหรัฐฯและจีนอยู่ แต่ชี้ว่าทั้งสองฝ่ายมีหนทางที่จะบริหารจัดการกับความแตกต่างกันที่มีอยู่และค้นหาหนทางที่จะสามารถร่วมมือกันได้ในทางปฏิบัติ “เรากำลังประสบความสำเร็จในการค้นหาเรื่องที่เราเรียกว่าเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตต่างๆ ซึ่งเราสามารถที่จะแสดงบทบาทอันสร้างสรรค์ได้” เป็นต้นว่า ซีเรีย, อัฟกานิสถาน และอิหร่าน เคร์รีกล่าว

    สำหรับทางด้าน หวัง เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า จีนนั้นพรักพร้อมอยู่แล้วที่จะทำงานกับสหรัฐฯ “เพื่อให้เราสามารถแสดงออกอย่างแท้จริงถึงหลักการแห่งการไม่เผชิญหน้ากัน, การไม่ขัดแย้งกัน, การเคารพกันและกัน และความร่วมมือกันแบบให้ได้ชัยชนะกันทั้งสองฝ่าย ในทุกๆ ด้านทุกๆ มิติแห่งความสัมพันธ์ของพวกเรา”

    ในเวลาต่อมา เคร์รี ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้อง “สร้างตัวอย่างให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจใหญ่” 2 รายนี้ และบอกว่า “ผมคิดว่าโลกนั้นกำลังเฝ้ารอคอยเรื่อยมา เพื่อให้จีนกับสหรัฐฯสามารถค้นหาสิ่งที่มีอยู่ร่วมกัน ถึงแม้จะมีบางสิ่งบางอย่างแตกต่างกันก็ตามที”

    เกี่ยวกับความกังวลของพวกชาติพันธมิตรของสหรัฐฯในเรื่องความแข็งกร้าวของจีน ทั้งในประเด็นการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนพิพาท ตลอดจนการวิวาทอันขมขื่นที่ปักกิ่งมีอยู่กับโตเกียว เคร์รีไม่ได้แถลงพูดถึงโดยตรง ถึงแม้พวกเจ้าหน้าที่อเมริกันซึ่งอยู่ในคณะติดตามของรัฐมนตรีผู้นี้บอกว่า เคร์รี แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะหยิบยกเรื่องนี้มาพูดกับฝ่ายจีน โดยที่จะเร่งเร้าให้ปักกิ่งแสดงความยับยั้งชั่งใจ, ลดทอนความดุเดือดทั้งในด้านถ้อยแถลงและการกระทำ, ตลอดจนอธิบายขยายความการอ้างกรรมสิทธิ์ของตนให้สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

    [​IMG]

    *จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (ที่2 จากซ้าย) เดินทางยังเครื่องบินของเขาเพื่อออกเดินทางต่อไปยังปักกิ่งในวันศุกร์ (14) ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือกับผู้นำเกาหลีใต้ที่กรุงโซล เคร์รีกำลังอยู่ระหว่างตระเวนเยือน 3 ชาติเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้, จีน, และอินโดนีเซีย จากนั้นก็จะต่อไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในทริปเดินทางที่ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วัน

    เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางออกจากกรุงโซล ซึ่งเป็นจุดแวะจุดแรกในทริปเยือนเอเชียของเขาเที่ยวนี้ เคร์รีได้แถลงข่าวโดยย้ำยืนอีกครั้งว่า หมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลจีนตะวันออกซึ่งญี่ปุ่นกับจีนช่วงชิงกันอยู่ โดยที่โตเกียวเรียกชื่อว่า “เซงกากุ” แต่ปักกิ่งขนานนามว่า “เตี้ยวอี๋ว์” นั้น ถือเป็นดินแดนที่อยู่ใต้การคุ้มครองของสนธิสัญญาความมั่นคงสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ซึ่งกำหนดผูกมัดให้สหรัฐฯต้องเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือญี่ปุ่น ถ้าหากถูกโจมตีโดยประเทศที่สาม

    “นี่คือจุดยืนของสหรัฐฯในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหมู่เกาะเหล่านี้” เขากล่าวโดยที่เอ่ยชื่อหมู่เกาะด้วยนามเรียกของฝ่ายญี่ปุ่น

    อย่างไรก็ตาม เคร์รีพยายามหลีกเลี่ยงเมื่อถูกถามถึงกรณีที่เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2013 นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ได้เดินทางไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิ อันเป็นสถานที่รำลึกถึงทหารและอาชญากรสงครามชาวญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนทำให้จีนกับเกาหลีใต้โกรธเกรี้ยวมาก รวมทั้งวอชิงตันเองก็ไม่สู้พอใจ

    เคร์รีใช้ถ้อยคำระมัดระวังในการตอบคำถามนี้ โดยกล่าวว่า ในขณะที่มี “ความวิตกกังวลอย่างถูกต้องชอบธรรมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาในอดีต” แต่ก็มี “ประเด็นปัญหาต่างๆ ซึ่งเป็นความวิตกกังวลอันใหญ่โตในปัจจุบัน ที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับความมั่นคง และมีความสอดคล้องเป็นจริงกับเงื่อนไขต่างๆ ของทุกวันนี้ ไม่ใช่มีความสอดคล้องเป็นจริงกับเงื่อนไขต่างๆ ของประวัติศาสตร์”

    “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพวกเราที่จะต้องสามารถโฟกัสไปที่เรื่องซึ่งมีเดิมพันสูงๆ ในเงื่อนไขซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกผู้ทุกคนในปัจจุบันนี้” เขาบอก

    เคร์รียังกล่าวย้ำระหว่างอยู่ในกรุงโซลว่า สหรัฐฯจะไม่มีวันยอมรับให้เกาหลีเหนือมีฐานะเป็นรัฐผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และจะไม่ยอมถูกดึงให้ถลำลงไปใน “การพูดจากันเพียงเพื่อให้เกิดการพูดจากันเท่านั้น” กับทางโสมแดง พร้อมกับย้ำว่า เปียงยางจะต้องมี “การกระทำอันมีความหมาย” ซึ่งมุ่งสู่กระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์เสียก่อน จากนั้นการพูดจากันจึงจะเริ่มต้นขึ้นมาได้

    สำหรับท่าทีของฝ่ายจีนนั้น ถ้าหากพิจารณาจากสื่อมวลชนของทางการจีนแล้ว ก็เห็นชัดเจนว่ายังคงมุ่งโฟกัสเน้นย้ำไปที่ประเด็นปัญหาทางประวัติศาสตร์ โดยที่หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ฉบับวันศุกร์ ได้ตีพิมพ์การ์ตูนในหน้าบทบรรณาธิการ ซึ่งวาดเป็นภาพของอาเบะกำลังยื่นดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์ ให้แก่หัวกะโหลกนักบินกามิกาเซ่ของญี่ปุ่น

    ภาพการ์ตูนนี้ดูเหมือนต้องการพาดพิงถึงการที่เมืองมินามิ-คิวชู ในญี่ปุ่นยื่นเสนอให้องค์การยูเนสโก รับรองจดทะเบียนพวกจดหมายลาตายของนักบินกามิกาเซชาวญี่ปุ่นเมื่อตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าเป็น “มรดกโลก” โดยที่ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้ปักกิ่งและโซลออกมาประณามอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

    ส่วนหนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ ซึ่งเป็นกิจการอยู่ในเครือของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ตีพิมพ์บทบรรณาธิการในฉบับวันศุกร์กล่าวว่า ขณะที่การเยือนปักกิ่งของเคร์รีได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นการเยือนที่ดำเนินไปอย่าง “ราบรื่น” แต่การที่สหรัฐฯประกาศใช้นโยบาย “ปักหมุด” ในเอเชีย “กำลังกระตุ้นให้เกิดแรงบีบคั้นต่อยุทธศาสตร์ต่างๆ ของจีน”

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลคุณ Tor Bkk Bkk

    ระนอง เตือนภัย

    [​IMG]

    ประเทศอังกฤษ
    พายุ และกระแสลมแรงกว่า 160กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมหนักทางตะวันตกของอังกฤษ และแคว้นเวลส์ ประชาชนกว่า 80,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้
    Environment Agency - Live Flood Warning map
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิจัยสเปนค้นพบหลุมดำแรกที่โคจรรอบ Be-type star 10 กุมภาพันธ์ 2557

    [​IMG]

    ค้นพบใหม่! หลุมดำโคจรรอบดาวฤกษ์ซึ่งหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วที่พื้นผิวเกิน 1 ล้าน กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    นักวิทยาศาสตร์ชาวสเปนค้นพบระบบดาวคู่ นับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบระบบดาวคู่ที่ประกอบด้วยหลุมดำ และ spinning star หรือเรียกว่า ดาวฤกษ์ชนิด Be (Be-type star) แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ทางทฤษฎี ก็ยังไม่มีการค้นพบระบบดาวประเภทนี้มาก่อน การค้นพบครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ Liverpool และ Mercator ที่ the Observatorio del Roque de los Muchachos ใน Canary Islands ประเทศสเปน

    Be-type star ถูกพบโดยทั่วไปในกาแลกซี่ทางช้างเผือกของเรา มีดาวฤกษ์ชนิดนี้มากกว่า 80 ดวงที่พบในระบบดาวคู่ ที่อยู่ร่วมกับดาวนิวตรอน

    “สมบัติที่โดดเด่นของ Be-type star คือแรงสู่ศูนย์กลางที่มีค่ามาก โดยดาวฤกษ์ชนิดนี้หมุนเร็วมาก มีความเร็วเข้าใกล้ break-up speed เลยทีเดียว เหมือนกับว่ามันมีการหมุนรอบตัวเองแบบลูกข่างขนาดยักษ์” Jorge Casares จาก the Institute of Astrophysics in the Canary Islands (IAC) กล่าว

    หลุมดำที่ถูกค้นพบใหม่ที่โคจรรอบ Be-type star มีชื่อว่า MWC 656 อยู่ใน กลุ่มดาวกิ้งก่า (Lacerta constellations) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 8,500 ปีแสง “เราเริ่มศึกษาดาวฤกษ์นี้ในปี 2010 เมื่อกล้องโทรทรรศน์อวกาศตรวจจับรังสีแกมมา ที่ถูกปล่อยออกมาจากทิศทางนั้น” Marc Ribó จาก the Science Institute of the Cosmos at Barcelona University กล่าว “แม้ว่าในเวลาต่อมา ไม่มีการตรวจพบรังสีแกมมาอีก แต่เราพบว่าดาวฤกษ์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของระบบดาวคู่”

    การวิเคราะห์สเปกตรัมของ Be-type star ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทราบลักษณะของสิ่งที่อยู่คู่กับมัน “มันแสดงให้เห็นว่า เป็นวัตถุที่มีมวลเป็น 3.8 ถึง 6.9 เท่าของดวงอาทิตย์” Ignasi Ribas จาก CSIC, the Institute of Space Sciences กล่าว “วัตถุที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยกล้องโทรทรรศน์ และมีมวลมาก สามารถเป็นได้เพียงอย่างเดียว คือ หลุมดำ เนื่องจาก ไม่มีดาวนิวตรอนที่มีมวลมากเป็น 3 เท่าของดวงอาทิตย์”

    หลุมดำ โคจรรอบ Be star ที่มีมวลมากกว่า โดยที่หลุมดำจะได้รับสสารที่หลุดออกมาจาก Be star ความเร็วที่สูงในการหมุนของ Be star ทำให้สสารหลุดออกมา กลายเป็น equatorial disk

    สสารนี้จะถูกดึงดูดโดยหลุมดำ และเกิดการรวมตัวกันเป็น disk อีกอันหนึ่ง เรียกว่า accretion disk เราสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนที่และมวลของหลุมดำได้จากการศึกษาสิ่งที่หลุดออกมาจาก accretion disk นี้

    “เราคิดว่าระบบเหล่านี้จะมีมากกว่าที่เราคิดไว้ แต่พวกมันตรวจวัดได้ยาก เพราะหลุมดำจะดูดกลืนแก๊สที่หลุดออกมากจาก Be star โดยไม่มีการแผ่รังสี หรืออาจกล่าวได้ว่า มันเกิดขึ้น “แบบเงียบๆ” นั่นเอง” Casares กล่าว “อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าจะตรวจพบระบบดาวคู่อื่นๆในกาแลกซี่ทางช้างเผือก และกาแลกซี่ใกล้เคียงอื่นๆได้อีก โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ขึ้น เช่น the Gran Telescopio Canarias”

    [​IMG]

    หลุมดำ ความท้าทายที่ยังไม่สิ้นสุด

    การค้นพบหลุมดำนับเป็นความท้าทาย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ที่ John Michell และ Pierre Laplace ได้สันนิษฐานว่าหลุมดำอาจมีอยู่จริง แต่เราไม่สามารถมองเห็นหลุมดำได้เพราะแรงดึงดูดมหาศาลของมันทำให้แสงไม่สามารถหลุดออกมาได้ กล้องโทรทรรศน์แบบใช้แสงธรรมดาจึงไม่สามารถตรวจจับได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งหลุมดำสามารถทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวมันแผ่รังสีพลังงานสูงออกมาได้ และนั่นคือ X-ray

    นักวิจัย ใช้วิธีการนี้และสามารถค้นพบหลุมดำถึง 55 หลุมดำในระยะเวลา 50 ปี ในจำนวนนี้ มี 17 หลุมดำ ซึ่งนักดาราศาสตร์เรียกว่า “dynamic confirmation” การค้นพบดาวฤกษ์ที่เป็น feeding star (ถ่ายเทมวลไปยังวัตถุข้างเคียง) ทำให้สามารถทราบมวลของวัตถุที่มองไม่เห็นที่อยู่ใกล้ๆกับมัน และถ้ามวลของมันมีค่ามากกว่า 3 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ วัตถุนั้นก็คือหลุมดำ นั่นเอง

    ปัญหาหลักคือ หลุมดำ “ที่หยุดการโตชั่วคราว” อาทิ หลุมดำที่ถูกพบโดยนักวิจัยชาวสเปน “การแผ่รังสี X ของมันนั้นแทบไม่สามารถตรวจวัดได้ ดังนั้นมันแทบจะไม่อยู่ในความสนใจของเรา” Casares กล่าว นักวิจัยเชื่อว่า มีหลุมดำที่อยู่ในระบบดาวคู่อีกนับพันในกาแลกซี่ทางช้างเผือก โดยบางหลุมดำนั้น อยู่คู่กับ Be-type star

    เรียบเรียงโดย อาจวรงค์ จันทมาศ

    ภาพจาก http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/0/0d/Roque_z04.jpg

    ข้อมูลจาก
    สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน) - นักวิจัยสเปนค้นพบหลุมดำแรกที่โคจรรอบ Be-type star
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล ▶ รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    [​IMG]

    นี้คือภาพที่มนุษย์โลกมีโอกาสได้เห็นการชนกันครังใหญที่สุดตั้งแต่มนุษย์ได้มีโอกาสมองบนท้องฟ้านั้นคือในวันที่16-22 กรกฎาคม พ.ศ. 2536เกิด ดาวหาง Shoemaker-Levy 9 พุ่งเข้าชนดาวพฤหัสบดี นักวิทยาศาสตร์ประมาณว่าพลังงานในการชนครั้งนั้นรุนแรงพอๆ กับการระเบิดของลูกระเบิดไฮโดรเจนประมาณ 3 แสนลูก พร้อมกันและได้เกิดลมพายุมหาศาลรวมทั้งเกิดแผ่นดินก็ได้สั่นไหวไปทั้งดาวเลยที่เดียว
    แต่ถ้าวั้นนั้นมันได้พุ่งเข้าชนโลกแทนดาวพฤหัสทุกชีวิตบนโลกก็จะตายหมดทันที
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุหิมะทำรถไฟชนกันในญี่ปุ่น ผู้โดยสารเจ็บเล็กน้อย. เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม. ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ WestPacWx สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

    [​IMG]

    [​IMG]

    เกิดเหตุรถไฟชนกันในญี่ปุ่น ขณะเกิดพายุหิมะในช่วงคืนที่ผ่านมา เป็นผลให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย

    วันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2557) เว็บไซต์เจแปนไทมส์ มีรายงานว่า เกิดเหตุรถไฟชนกันที่สถานีรถไฟโมโตซูมิโยชิ เมืองคาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีสาเหตุจากพายุหิมะ เป็นผลให้ผู้โดยสารราว 20 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยแผนกดับเพลิงเทศบาลคาวาซากิ เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินจากผู้โดยสารที่สถานีโมโตซูมิโยชิ เมื่อเวลาประมาณ 00.30 วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ว่ารถไฟสายโตกู โตโยโกะ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโตเกียว-โยโกฮาม่า เกิดอุบัติเหตุและตกราง

    ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระบุว่า รถไฟคันดังกล่าวได้ชนเข้ากับรถไฟอีกขบวนหนึ่ง ที่อยู่บนรางรถไฟของสายโยโกฮาม่า

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=28Mix2NFChU&feature=player_embedded]Tokyo Snow Storm Footage Feb 14th 東京雪嵐映像2月14日2014 - YouTube[/ame]

    คลิป Tokyo Snow Storm Footage Feb 14th 東京雪嵐映像2月14日2014 โพสต์โดยคุณ WestPacWx

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดเหยื่อ “ภูเขาไฟเคลุด” เพิ่มเป็น 3 ศพ-สนามบิน 3 แห่งบนเกาะชวาเปิดให้บริการ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2557 13:28 น.

    [​IMG]

    เครื่องบินของสายการบิน Citilink ซึ่งจอดอยู่ที่สนามบิน Adi Sucipto เมืองยอกยาการ์ตา เมื่อวานนี้(14) - ดูรูป

    เอเจนซีส์ – สนามบิน 3 แห่งบนเกาะชวาของอินโดนีเซีย กลับมาเปิดให้บริการตามปกติในวันนี้ (15) ภายหลังจากที่มีการสั่งปิดชั่วคราว เนื่องจากผลกระทบของเถ้าถ่านภูเขาไฟเคลุด ซึ่งเวลานี้คร่าชีวิตพลเรือนไปแล้ว 3 ศพ และทำให้รัฐบาลต้องสั่งอพยพชาวบ้านอีกหลายแสนคน

    เมื่อค่ำวันพฤหัสบดี (13) ทางการอิเหนาได้ประกาศยกระดับคำเตือนภูเขาไฟเคลุด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีอันตรายที่สุดบนเกาะชวา ก่อนที่การระเบิดครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในเวลา 22.56 น.ตามเวลาท้องถิ่น

    “สนามบินในเมืองมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก และอีก 2 แห่งที่เมืองจิลาจัป และเซมารังในจังหวัดชวากลาง กลับมาให้บริการตามปกติแล้ว เครื่องบินสามารถขึ้น-ลงได้ไม่มีปัญหา ส่วนสนามบินอื่นๆ เรายังอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์” บัมบัง เออร์แวน โฆษกกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

    สนามบินบนเกาะชวา 7 แห่ง รวมถึงสนามบินนานาชาติในเมืองสุราบายา, ยอกยาการ์ตา, โซโล และบันดุง ต้องปิดบริการลงชั่วคราวเมื่อวานนี้ (14) หลังการระเบิดของภูเขาไฟเคลุดทำให้มีเถ้าถ่านตกลงมาปกคลุมหลายเมืองทางตะวันออกของเกาะชวา

    เออร์แวน ระบุว่า สนามบินเมืองบันดง และสุราบายา น่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในวันนี้ (15) ส่วนสนามบินเมืองโซโลอาจจะต้องรอถึงวันจันทร์ (17) ขณะที่สนามบินยอกยาการ์ตาจะเปิดบริการในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์

    เถ้าถ่านและควันสีเทาเข้มจากปากปล่องภูเขาไฟเคลุดยังคงลอยสูงขึ้นไปบนฟ้ากว่า 3,000 เมตรในวันนี้ (15) ขณะที่ สุโตโป ปุรโว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติอินโดนีเซีย ระบุว่า กิจกรรมภูเขาไฟเริ่มจะบรรเทาเบาบางลงบ้างแล้ว

    เฮอร์รี บักตี ผู้อำนวยการฝ่ายการบินของกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย แถลงว่า ทางการจะเฝ้าจับตาทิศทางของเถ้าถ่านภูเขาไฟอย่างใกล้ชิดด้วยภาพถ่ายดาวเทียม

    “เราได้รับแจ้งจากสำนักงานด้านภูเขาไฟเมื่อเช้าวันนี้ว่า ไม่น่าจะมีการระเบิดรุนแรงเกิดขึ้นอีก ดังนั้นการสัญจรทางอากาศ จึงสามารถให้บริการได้ตามปกติ และเราจะแจ้งความคืบหน้าให้เจ้าหน้าที่การบินทราบต่อไป” เออร์แวน ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีวันนี้(15)

    เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุภูเขาไฟเคลุดระเบิดแล้วอย่างน้อย 3 ราย ขณะที่ชาวบ้าน 200,000 คนได้รับคำเตือนให้อพยพ

    อย่างไรก็ดี มีประชาชนบางคนที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนของทางการ หรือพยายามกลับเข้าไปเอาทรัพย์สินมีค่าที่บ้าน ทำให้เวลานี้ที่ศูนย์พักพิงมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงราวๆ 75,000 คน

    ภูเขาไฟเคลุดซึ่งมีความสูง 1,731 เมตร มีประวัติคร่าชีวิตมนุษย์มาแล้วกว่า 15,000 คน ตั้งแต่ปี 1500 โดยเฉพาะในการปะทุครั้งใหญ่เมื่อปี 1568 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากถึง 10,000 คน

    เคลุด เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังมีพลังกว่า 130 ลูกทั่วอินโดนีเซีย เนื่องจากหมู่เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นแนวรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่จะมีกิจกรรมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ภูเขาไฟซินาบุงบนเกาะสุมาตรา ซึ่งปะทุอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เพิ่งจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนบนเกาะนั้นไปแล้ว 16 คน

    [​IMG]

    เถ้าถ่านจากภูเขาไฟเกอลุดปกคลุมเต็มท้องฟ้า เมื่อมองจากเขตมาลังในจังหวัดชวาตะวันออก เมื่อวานนี้(14) - ดูรูป

    [​IMG]

    คนปั่นรถถีบ "เบจะก์" ที่หน้าวังสุลต่านในเมืองโซโล ทางตอนกลางของเกาะชวา - ดูรูป

    [​IMG]

    สภาพท้องถนนในเมืองยอกยาการ์ตา เมื่อวานนี้(14) - ดูรูป

    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียนำผ้าใบชนิดพิเศษมาคลุมองค์เจดีย์ชั้นบนของมหาสถูปบุโรพุทโธเพื่อป้องกันเถ้าถ่านภูเขาไฟ - ดูรูป

    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียนำผ้าใบชนิดพิเศษมาคลุมองค์เจดีย์ชั้นบนของมหาสถูปบุโรพุทโธเพื่อป้องกันเถ้าถ่านภูเขาไฟ - ดูรูป

    [​IMG]

    เถ้าถ่านจากภูเขาไฟเกอลุดจับเป็นคราบบนรูปสลักพระพุทธองค์ในมหาสถูป "บุโรพุทโธ" เมืองยอกยาการ์ตา - ดูรูป
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

    [​IMG]

    โลกแกว่งเป็นรูปเลข 8 และเอียง 23.5 องศา

    ช่างภาพญี่ปุ่นชื่อ "Shiraishi" ได้ทำการถ่ายภาพดวงอาทิตย์แบบแอนาเล็มมา ที่ Kumagaya เป็นเมืองในจังหวัดไซตะมะของประเทศญี่ปุ่น โดย"Shiraishi"ได้เริ่มถ่ายภาพตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.2013 - 22 ธ.ค.2013 ทุกๆเช้าเวลา 7.00 น. และทำการนำมาเรียงภาพเข้าด้วยกันทั้งหมด 50 กว่าภาพ

    เนื่องจากแกนโลกที่เอียง 23.5° และวงโคจรที่เป็นรูปวงรีรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ตำแหน่งของดวงอาทิตย์ที่ปรากฏในเวลาเดียวกันของแต่ละวันต่างกัน และความเอียงของวงวนของแอนาเล็มมาจะขึ้นอยู่กับตะแหน่งละติจูดบนโลกที่ต่างกัน (แต่เป็นรูปเลขแปดเหมือนกัน)

    แอนาเล็มมาที่วาดโดยขยายแกนออก แสดงให้เห็นถึงความไม่สมมาตรเล็กน้อยของวงวน เกิดจากการทำมุมระหว่าง apse line กับเส้นตรงของอายัน

    https://www.facebook.com/situation7...8957411922037/266535166830928/?type=1&theater
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล

    [​IMG]

    อุตุฯ โลกออกเตือนภัยธรรมชาติกำลังทวีความแรงทวีคูณพร้อมกำลังสอนบทเรียนราตาแพงให้มนุษย์!!

    นักวิชาการเตือนรัฐบาลไทยไม่พร้อมรับมือแน่นอนที่ไทยกำลังเจอภัยพิบัติขนาดใหญ่ พร้อมเตือนคนไทยทั้งประเทศรับมือหายนะภัยธรรมชาติเต็มรูปแบบ หลายฝ่ายเชื่อว่านี้ไม่ใช้โลกแตกแบบโลกระเบิด แต่เป็นการกวาดล้างมนุษย์โดยธรรมชาติ
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankij ได้แชร์ลิงก์

    คงจะเป็น Talk of the Town ของปี 2557 แน่นอนค่ะ กับคำทำนายของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกตุ
    - หลุมยุบ ตึกถล่ม กทม & ปริมณฑล ภาคกลางตอนล่าง
    - ฟ้าผ่่า ไฟไหม้ตึก ไฟฟ้าดับทั้งเมือง มีนบุรี หนองจอก
    - พค 57 มนุษย์จะกลายพันธุ์
    - สนามแม่เหล็กจะแปรปรวน โลกจะกลับขั้ว

    ถึงเวลา ออกกำลังกายให้แข็งแรง ช่วยกันสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาให้สรรพสิ่งแล้วค่ะ

    ...
    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/rfZdxKgXrzA?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดาริน กานต์

    คนไทยในญี่ปุ่น...ขอความช่วยเหลือ..ใครช่วยได้ช่วยกันด้วยนะคะ...!!!!!

    [​IMG]
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    นายแบงค์อีก43คนอยู่ในภาวะอันตรายที่จะโดนฆ่าปิดปาก

    ข่าวเว็ปใต้ดินSteve Quayle.comรายงานว่า มีนักการเงินการธนาคารอีก 43คนที่อยู่ในข่ายที่จะโดนฆ่าปิดปาก เพราะรู้ข้อมูลลึกเกินไปที่จะทำให้สาวถึงปลาตัวใหญ่ได้

    รายต่อไปคือผู้บริหารCitiGroupที่เกี่ยวโยงกับการเทรดอัตราแลกเปลี่ยนที่ฉ้อฉล JP Morganอาจจะไม่มีทองเหลือเพื่อทำshortทอง ไลบอร์และอนุพันธ์ฉาวจะทำให้นายธนาคาร"ฆ่าตัวนายมากขึ้น" คลื่นลูกยักษ์กำลังช๊อคระบบการเงิน

    (อ่านโพสท์ก่อนหน้านี้ในแฟนคลับนี้ เรื่องนายแบงค์โดนฆ่าปิดปาก))))))))

    ธนาคารกลางและbullion banksในโลกตะวันตกไม่มีทองคำเหลืออยู่แล้ว เพราะทองโดนจีนและเอเซียซื้อไปหมดแล้ว

    16/2/2014

    Alerts
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Awaken Your Third Eye (in 5 minutes)

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/dAAmGPvtqQE?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    ภาพและเสียง การทำสมาธิ มองลึกเข้าไปในโลกที่คุณอาศัยอยู่ในและเดินตาม ตาที่สามปิด เมื่อเวลาผ่านไป หากไม่ได้ใช้
    Great visual and audio meditation. See deeper into the world you live in and walk upon. The Third Eye closes over time if not used. Everything from the day-t.

    ข้อมูลจากคุณ ความรักไม่ใช่หมีแพนด้า จะได้มาเป็นช่วงช่วง

    One of those places allows us to see deeper into everything and gives us a deeper understanding of what we are seeing. That place is "the third eye." It is a conduit to "the source," or "the universe." The ancient being that you are is accessible only through this portal. We lose connection to this ancient self, that is us, as we grow into young children and start mimicking what we see and hear, and over time, the years of our youth and sometimes beyond, we close that eye that allows us to look deep inward, and without even noticing, we begin to only see outwards.

    But, there are those of us who seek to see clearly, and have understanding for the self and the world. Opening the third eye once again, and allowing once again the magic and curiosity that once was part of our lives and is vital to us all.

    The "third eye," or pineal gland, is located at the center of our mind, and can be activated by certain frequencies, and that is the foundation of this music/soundscape; that particular frequency. I have studied the affects of different frequencies on our bodies and minds for over thirty years and have found that sound waves of certain frequencies can alter the frequency patterns in our brains. Patterns caused mostly by external stimuli, can shift into "not so healthy" frequencies and cause depression, lethargy, etc.. Opening/stimulating the "third eye" can allow us to see much deeper into the world around us, and give us far more understanding of it. It can enhance empathy, compassion and understanding. With no one else around, relax, dim the lights, and listen to and watch this video (preferably with headphones). Watch it more than once, watch it daily over a period of a week and you will start to see different patterns in the visuals. The patterns are along the same lines as "The Rorschach test" (inkblot test) which is a psychological test in which subjects' perceptions of inkblots are recorded and then analyzed. You can understand a lot about an individual, or yourself, based on the perception you have of the inkblot imagery. Same with the imagery in this video; what do you see, what images dominate, stand out? This can give you an understanding of your perception of the world you live in. Perception creates attitude, attitude becomes character. Who you are is based firmly in how you perceive the world around you. By opening/stimulating the third eye, you can look deeper into yourself and your world.

    (excerpt from Wiki) The third eye (the inner eye) is a mystical and esoteric concept referring to eye which provides perception beyond ordinary sight. In certain dharmic spiritual traditions such as Hinduism, the third eye refers to the ajna, or brow, chakra. In Theosophy it is related to the pineal gland. The third eye refers to the gate that leads to inner realms and spaces of higher consciousness. In New Age spirituality, the third eye often symbolizes a state of enlightenment or the evocation of mental images having deeply personal spiritual or psychological significance. The third eye is often associated with religious visions, clairvoyance, the ability to observe chakras and auras, precognition, and out-of-body experiences. People who are claimed to have the capacity to utilize their third eyes are sometimes known as seers.
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol

    อากาศหนาวเย็น 5 วันทำวัวควายในเวียดนามตายอีกเป็นเบือ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2557 06:26 น.

    [​IMG]

    เจ้าของปศุสัตว์ที่ล้มตายจากอากาศหนาวเย็นในเขต อ.ซาปา จ.หล่าวหาย แล่เนื้อสัตว์ที่ตายอยู่ริมถนนเพื่อนำไปเก็บเป็นอาหาร อากาศเย็นจัดช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วได้ทำให้วัวควายในย่านนี้ล้มตายอีกนับร้อยตัว หลังจากหิมะตกในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วสร้างความเสียหายแก่พืชผลอย่างหนัก. -- ภาพ: ซเวีนเหวียดออนไลน์.


    ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องระหว่างวันที่ 10-15 ก.พ.ทำให้มีวัวควายล้มตายจำนวนมากในจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จ.หล่าวกาย (Lao Cai) ซึ่งตัวเลขที่รวบรวมได้ยังไม่ครบถ้วนระบุว่ามีจำนวนนับร้อย ส่วนมากเป็นวัวควายที่ยังอายุน้อย กับพวกที่อายุมาก

    นอกจากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ล้มตายจากความหนาวเย็นที่ทำให้ร่างกายช็อกแล้ว อุณหภูมิที่ลดลงถึงจุดเยือกแข็งยังทำให้พื้นดินถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งติดต่อกันนานหลายวัน วัวควายไม่สามารถหาอาหารกินตามธรรมชาติได้ สำนักข่าวซเวินเหวียดออนไลน์รายงาน

    เหตุการณ์สภาพภูมิอาอากาศผันแปรรุนแรงระลอกล่าสุดนี้ได้เข้าซ้ำเติมเกษตรกรในเขต อ.ซาปา (Sapa) กับ อ.บ๊าตสาต (Bat Xat) ซึ่งในช่วงกลางเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วเกิดหิมะตกหนักในพื้นที่ 2 อำเภอดังกล่าว สัตว์เลี้ยงล้มตายจำนวนมาก เทือกไร่นาสวนของเกษตรกรเสียหายหนักจนสิ้นเนื้อประดาตัว

    อากาศหนาวเย็นระลอกล่าสุดปลายสัปดาห์ที่แล้ว แผ่ปกคลุมทั้งจังหวัดทางตอนเหนือ และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเกิดหิมะตกอีกครั้งหนึ่งในเขตที่บราบสูงแหล่งท่องเที่ยของ จ.ลังเซิน (Lang Son) สื่อของทางการรายงาน.

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หิมะตกรอบที่ 2 ในภาคเหนือเวียดนาม นักท่องเที่ยวเฮโลอีกครั้ง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2557 18:16 น.

    [​IMG]

    น้ำค้างแข็งปกคลุมทั่วแหล่งท่องเที่ยวในเขตที่ราบสูงเหมิวเซิน (Mau Son) อ.ล็อกบี่ง (Loch Binh) จ.ลังเซิน (Lang Son) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามในช่วงวันสองวันมานี้ขณะที่สื่อของทางการรายงานว่าช่วงเดียวกันได้เกิดหิมะตกในเขตเขาของอาณาบริเวณที่ราบสูงแห่งนี้และนักท่องเที่ยวหลายพันคนเดินทางไปที่นั่น. -- ภาพ: TuoiTreOnline .

    ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เกิดหิมะตกอีกครั้งหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือเวียดนาม และน้ำค้างแข็งปกคลุมอาณาบริเวณกว้าง อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศล่าสุดหลังช่วงเทศกาลตรุษซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆ ในช่วงหลายปีมานี้ หลายท้องถิ่นอุณหภูมิติดลบ 1-2 องศาเซลเซียส ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย กล่าวว่า อากาศหนาวเย็นจะปกคลุมภาคเหนือตลอดสุปดสัปดาห์นี้ สื่อของทางการรายงาน

    อุณหภูมิเริ่มลดลงตั้งแต่วันพฤหัสบดี 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เขตที่ราบสูงใน จ.ลังเซิน (Lang Son) ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศติดเขตแดนมณฑลหนานหนิง ของจีน หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม

    หิมะตกหนักก่อนหน้านี้เกิดขึ้นในเขตอำเภอซาปา (Sapa) จ.หล่าวกาย (Lao Cai) ทางตอนเหนือสุดติดชายแดนมณฑลหยุนหนันของจีน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางที่นั่นระหว่าง 15,000-20,000 คน ครั้งนี้เกิดขึ้นในแถบที่ราบสูงเหมิวเซิน (Mau Son) จ.ลังเซิน นักท่องเที่ยวหลายพันคนได้เดินทางไปที่นั่น ไปทดสอบความหนาวเย็นจากหิมะกันอีกครั้งหนึ่ง

    อุณหภูมิลดลงต่ำสุดถึง 2.5 องศาเซลเซียสในวันศุกร์ที่ผ่านมา และเกิดหมอกหนาปกคลุมไปทั่วท้องถิ่น มองเห็นได้ในระยะ 2-3 เมตรเท่านั้น ขณะเดียวกัน อุณหภูมิในกรุงฮานอยก็ลดลงเหลือ 13 องศา ในวันเสาร์ 15 ก.พ.นี้ จาก 19 องศา เมื่อวันศุกร์ ทั้งนี้ เป็นรายงานของศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กลาง

    การเกิดหิมะตกในประเทศแถบร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรเช่นในเวียดนามได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ ไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวทั้งชาวเวียดนามเอง และจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งจ้องรอคอยโอกาสเช่นนี้ และไม่รีรอที่จะเดินทางไปสัมผัส ทำให้โรงแรม รีสอร์ตทุกแห่งในเขตที่ราบสูงเหมิ่วเซิน มีแขกเข้าพักจนเต็มหมดแล้ว เตื่อยแจ๋รายงานอ้างสัมภาษณ์ผู้จัดการโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ล็อกบี่ง (Loch Binh) ที่อยู่ใกล้หิมะตกมากที่สุด

    นับเป็นเหตุการณ์หิมะตกครั้งที่ 2 ในเวียดนามตั้งแต่ฤดูหนาวเริ่มขึ้นปลายปีที่แล้ว และ จ.ลังเซิน ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ประจำแทบจะทุกปี ในฤดูกาลนี้เขตที่ราบสูงเหมิ่วเซินมีอุณหภูมิเฉลี่ย 6-10 องศา เตื่อยแจ๋กล่าว.

    [​IMG]

    [​IMG]

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Tor Bkk Bkk ได้แบ่งปัน รูปภาพ ของ Pone Poyepoloye

    Pone Poyepoloye กับ Hellotik Pumkong

    [​IMG]

    กรุงโตเกียวและหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกของญี่ปุ่นเผชิญหิมะตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุด สังสาร สาร์นจาก ดร.ก้องภพ

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/XGeLzeNIPNo?feature=player_detailpage" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ความเชื่อมโยงระหว่างอวกาศกับภัยธรรมชาติบนโลก

    การอธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยนอกโลก ที่สามารถส่งผลกระทบกับโลกในรูปแบบของภัยธรรมชาติ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankij ได้แชร์ รูปภาพ ของ Andy Thoo Wai Kiat

    ยานบิน UFO ลงจอดที่แท่นจอดของ ISS เมื่อวันที่ 31-01-14

    [​IMG]

    กำลังเป็นข่าวเลื่องลือในเน็ตขณะนี้ค่ะ
    Schematic of ISS with screenshot of docked UFO
    exopolitics.org

    February 6, 2014

    Yesterday the entire footage of what appears to be a UFO docked at the International Space State (ISS) was released and uploaded to Youtube. The video shows the sleek looking yellow UFO docked at the ISS for just over two minutes with the Earth slowly rotating in the background. The video ends with ISS live feed going into blue screen mode. This likely indicates that NASA cut the ISS live feed once it was realized that the video of the UFO docked at the ISS was going live to the world. The docking positioning of the UFO suggests that it is not the result of a camera anomaly but a genuine spacecraft of unknown origin.

    The incident happened on January 29, 2014 and was transmitted by NASA’s live camera feed of the ISS which is made freely available on the internet to the general public on Ustream. The live camera feed was recorded and part of it was initially uploaded to Youtube by the user Streetcap1 on January 29. After requests by users to see the full camera feed, Streetcap1 uploaded all that was recorded yesterday, February 5.

    The full video shows that the UFO was stationary and appeared to be docked with the ISS. The UFO is seen clearly in relation to the ISS thereby allowing for an accurate estimate of its size. One estimate was 10 meters in length. While the earth slowly rotates, the UFO remains stationary suggesting it is not a lensflare, glare, reflected image or other kind of camera anomaly. A schematic of the ISS (see attached picture) shows the UFO was docked between the Soyuz escape module and the Russian research and service module. If a UFO was to dock with the ISS, this would be one of the five active docking locations where it could so in order for personnel to be transferred on to the ISS.

    The location of the docking is very suggestive. Was this a veiled warning by the UFO’s occupants involving the lives of the ISS astronauts? Was there some kind of communication between the ISS and the UFO’s occupants? If the UFO had occupants, did they actually enter the ISS? Finally, why the blue screen at the end of the live video feed, was this done by NASA to cover up what was happening at the ISS which was possibly an unannounced visit? NASA has a lot of questions to answer. — กับ Law Abider
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    RiseEarth ได้แชร์ลิงก์

    [​IMG]

    ทางฝั่งตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกาจะถูกย่างอย่างแน่นอนโดยรังสีจากภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟูกูชิม่า และสื่อกระแสหลักไม่ได้บอกความจริงกับเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ สิ่งที่คุณกำลังจะเห็นเป็นชุดของหลักฐานที่น่าตกใจมาก หลักฐานนี้แสดงให้เห็นว่ารังสีนิวเคลียร์จากฟูกูชิม่ามีผลกระทบต่อชีวิตทางทะเลในชีวิตมหาสมุทรแปซิฟิก และสัตว์ตามแนวชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือในสภาพที่ผิดธรรมดา แต่สื่อกระแสหลักยังคงยืนยันว่าเราไม่ได้มีสิ่งที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับ... สื่อกระแสหลักยังคงยืนยันว่าระดับรังสีในมหาสมุทรแปซิฟิก และตามแนวชายฝั่งตะวันตกมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขากำลังโกหกเราอยู่หรือไม่ ประเมินจากหลักฐานที่รวบรวมด้านล่าง และหาข้อสรุปด้วยตัวคุณเอง ...

    The west coast of the United States is being absolutely fried by radiation from the Fukushima nuclear disaster, and the mainstream media is not telling us the truth about this. What you are about to see is a collection of evidence that is quite startling. Taken collectively, this body of evidence shows that nuclear radiation from Fukushima is affecting sea life in the Pacific Ocean and animal life along the west coast of North America in some extraordinary ways. But the mainstream media continues to insist that we don’t have a thing to worry about. The mainstream media continues to insist that radiation levels in the Pacific and along the west coast are perfectly safe. Are they lying to us? Evaluate the evidence compiled below and come to your own conclusions…


    36 Signs The Media Is Lying To You About How Radiation From Fukushima Is Affecting The West Coast ~ RiseEarth
     

แชร์หน้านี้

Loading...