เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    พลังงานส่วนเกินกับความฝัน

    พี่นักเขียนไม่มีความรู้ทางด้านชีววิทยามากพอที่จะอธิบายได้ว่าสาระเคมีในร่างกายที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เรามีความฝันนั้นคืออะไรบ้าง และมันมีกระบวนการ การเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่พอจะแนะนำหนังสือได้ค่ะ

    Growth, Change and Transformation in Dreams
    Ernest Lawrence Rossi


    เท่าที่พี่นักเขียนค้นพบหลังจากได้เขียนหนังสือไปแล้ว พบว่าเด็กทารกเติบโตก็ต่อเมื่อเขานอนหลับและฝัน เพราะช่วงเวลาที่เขาฝันหรืออยู่ในภาวะของ REM (Rapid Eye Movement) เป็นภาวะที่ร่างกายหลั่งสารฮอร์โมนที่ทำให้เติบโต ส่วนผู้ป่วย ร่างกายจะรักษาโรคให้กับตนเองในช่วงที่มีความฝัน และอยู่ในภาวะ REM เช่นกันค่ะ

    ตามความเข้าใจของพี่นักเขียน การสะสมพลังงานส่วนเกินในยามตื่น น่าจะมาจากการใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดมากมาย ซึ่งบางอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดก็ไม่ได้ถูกนำไปสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า โลกแห่งความเป็นจริง-ยามตื่น

    ในวันหนึ่งๆนักวิทยาศาสตร์พบว่าเรามีความคิดประมาณ 60,000 กว่าความคิดใน 24 ชั่วโมง แต่เราก็นำความคิดเพียงไม่กี่ความคิดมาใช้สร้างสรรค์ให้เป็นจริง ความคิดเป็นพลังงาน อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด-เป็นพลังงานที่เกิดจากการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณ หรือเรียกได้ว่าเป็นพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของจิตวิญญาณ และในทางกลับกันก็เรียกได้ว่าเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนจิตวิญญาณ
    [​IMG]
    [​IMG]

    ในยามฝันเรานำพลังงานส่วนเกินไปสร้างโลกอืนๆ มิติอื่นๆ เราพบธรรมชาติความเป็นจริงข้อนี้ได้เสมอๆในความฝันที่เราเผชิญกับสิ่งที่เราเคยมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด แล้วไม่ได้เป็นจริงยามตื่น แต่มันกลายเป็นความจริง-ในโลกของความฝัน เช่น ยามตื่นมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด หรือฝันกลางวัน ฝันหวานอยากจะได้เดินทางรอบโลก แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสเดินทางสมความปรารถนา ยามฝัน-ฝันว่าเดินทางรอบโลก เป็นต้น พลังงานส่วนเกินที่เกิดจากการมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดว่าจะเดินทางรอบโลก ถูกนำไปใช้สร้างโลกแห่งความเป็นจรีิง โลกอื่น มิติอื่น ในความฝัน

    เราสะสมหรือสร้างพลังงานส่วนเกินได้จากการใช้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นจริงทั้งหมด ซึ่งไม่ได้หมายความถึงโลกแห่งความเป็นจริงยามตื่นเพียงโลกเดียวที่เรารู้จัก แต่ครอบคลุมถึงโลกแห่งความเป็นจริงทุกโลก ทุกมิติ ทั้งยามตื่น ยามหลับ ยามฝัน(rose)
     
  2. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ส่งให้แล้วนะครับ
    ถ้าใน inbox ไม่เจอให้ดูใน junk mail นะครับ
    เนื่องจากไฟล์ ใหญ่เกินไป ต่อไปอาจจะย่อยเล่มเพื่อให้ไฟล์เล็กลงครับ
    ขอให้เก็บเอาไว้ใช้เองนะครับ
    ผมยังไม่ได้ขออนุญาติอาจารย์เลยครับ
     
  3. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เป้ามหมายของการสับเปลี่ยนไปสู่การใช้สมองซีกขวา

    เรากำลังค้นหาว่า :
    1. ภาพวาดสะท้อนให้เราเห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ึคล้อยตามความเชื่อส่วนบุคคลของเราในทิศทางใดบ้าง
    2. หากมันสะท้อนให้เราเห็นข้อบกพร่อง เราจะปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นได้อย่างไร
    3. เราจะสร้างสรรค์อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ึคล้อยตามความเชื่อในแง่บวกด้วยการวาดภาพได้อย่างไร
    4. หากมันสะท้อนให้เราเห็นอารมณ์อันลุ่มลึก และความเชื่อในแง่บวก เราจะนำมันมาสร้างสรรค์อะไรได้บ้าง

    การค้นพบคำตอบจากข้อ 1-4 จะทำให้เราค้นพบคุณภาพอันเป็นอมตะของเรา เราจะทำความเข้าใจและรู้จักตนเองได้อย่างถ่องแท้

    พี่นักเขียนขอขยายความ สิ่งที่เรากำลังค้นหาจากภาพ ข้อ 1 ก่อน อันได้แ่ก่สาระที่ว่า
    1. ภาพวาดสะท้อนให้เราเห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ึคล้อยตามความเชื่อส่วนบุคคลของเราในทิศทางใดบ้าง
    จากภาพวาดของพวกเรา คำถามแรกคือ อะไรคือสัดส่วนที่ถูกต้อง? เพราะภาพวาดทั้งหลายจะถูกต้อง เป็นไปตามความเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อมันมีสัดส่วนที่ถูกต้องตามความเป็นจริง

    สัดส่วนมักเกี่ยวพันกับตัวเลขเสมอ ซึ่งเป็นทักษะที่เป็นความชำนาญของสมองซึกซ้ายโดยเฉพาะ แต่ถ้าหากเรามอบหน้าที่การคำนวณสัดส่วนให้สมองซึกซ้ายแต่เพียงซึกเดียว สิ่งที่เราจะได้คือ สัดส่วนอันจำกัดด้วยความเชื่อ จำกัดด้วยมุมมอง จำกัดด้วยช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา ซึ่งทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ความบิดเบือนและความลำเอียงไปตามความเชื่อส่วนบุคคล

    การใช้สัญชาติญาณ = การใช้สมองซีกขวา (R-Mode)
    การใช้เหตุผล = การใช้สมองซึกซ้าย (L-Mode)

    สัญชาติญาณ VS เหตุผล = ความขัดแย้ง
    สัญชาติญาณ + เหตุผล = ความสมดุลย์

    การแบ่งสัน ปันส่วน ตามเหตุผล กับ การแบ่งสัน ปันส่วน ตามสัญชาติญาณ
    Dr. Betty Edwards กล่าวไว้ว่า เรามักจะวาดภาพโดยแบ่งสัดส่วนบนใบหน้า ด้วยการใช้สมองซึกซ้ายคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลว่า ระดับตาของเราควรจะอยู่ค่อนขึ้นไปทางด้านบนของศีรษะมากกว่า เนื่องจากสมองซึกซ้ายจะทำการคำนวณว่า หน้าผากเป็นพื้นที่ว่างที่ไม่มีส่วนสำคัญอะไรมากมาย นอกจากคิ้วที่อยู่เหนือตา แต่ส่วนของใบหน้าที่อยู่ใต้ตามีทั้งจมูก มีทั้งปาก ซึ่งน่าจะกินเนื้อที่ของใบหน้ามากกว่าคิ้ว ความคิดนี้มักทำให้เราวาดภาพตา อยู่ค่อนไปทางด้านบนของใบหน้าโดยปริยาย

    การใช้เหตุผลเหล่านี้ เป็นหน้าที่ของสมองซึกซ้าย (L-Mode) ซึ่งคิดเป็นเหตุ-เป็นผลตามความเชื่อ ไม่ใช่ตามความเป็นจริงเสมอไป

    เราสามารถประยุกต์ใช้หลักการนี้ได้กับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เช่น การแบ่งสัดส่วน หรือการแบ่งสันปันส่วนเกี่ยวกับธุรกิจ การงาน การแบ่งสันปันส่วนหน้าที่ ความรับผิดชอบ การแบ่งสันปันส่วนให้กับผู้บังคับบัญชาหรือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา การแบ่งสันปันส่วนให้ลูก ให้คนรักคนใกล้ตัว ให้ผู้อื่น การแบ่งสันปันส่วนการใช้งานส่วนต่างๆของร่างกาย การแบ่งสันปันส่วนเวลาในการทำงาน ในการเล่น ในการให้เวลากับตนเองและผู้อื่น เป็นต้น

    เมื่อใดก็ตามที่เราแบ่งสันปันส่วนด้วยการใช้เหตุผลส่วนตัว-ตามความเชื่อ เรามักจะลำเอียงโดยไม่รู้ตัวด้วยการตั้งข้ออ้าง ข้อจำกัด ตั้งสมมุติฐานว่า
    ใครหรืออะไรคือผู้ที่สมควรจะได้รับ ใครหรืออะไรคือผู้ที่ไม่สมควรจะได้ร้บ มาก-น้อยเท่าไร เมื่อไร อย่างไร


    การตัดสินทั้งหมดมักเป็นไปโดยลำเอียงเสมอ เพราะเราไม่อาจมองเห็นความเป็นจริงอื่นๆได้ เมื่อเราคิดว่า หน้าผากไม่สำคัญ หรือว่างเปล่า และใต้ตาลงไปมีสาระ มีอวัยวะสำคัญอื่นๆอีกมากมาย เราเป็นผู้กำหนดความสำคัญและเน้นความสำคัญเหล่านั้นขึ้นเอง และเราก็ใช้พื้นที่ หรือแบ่งสันปันส่วนอย่างลำเอียงโดยใช่เหตุ

    ใบหน้าจะเป็นใบหน้าที่งดงามสมส่วนตามธรรมชาติความเป็นจริงไม่ได้ เมื่อมันผิดสัดส่วน
    ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น ภาวะจิตวิญญาณจะงดงามหรือพัฒนาก้าวหน้าไม่ได้ หากจิตวิญญาณจมปลักอยู่ในความเชื่อที่ทำให้เราขาดความสมดุลย์ ขาดความเข้าใจในความเป็นจริง หรือเข้าข้างตนเองอย่างตาบอด


    เราใช้เหตุผลเดียวกันนี้กับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเสมอ เมื่อเราต้องแบ่งสันปันส่วน เรามักพิจารณาว่าใครหรืออะไร มีความสำคัญมากกว่ากัน เช่น เมื่อเราต้องแบ่งทรัพย์ แบ่งเวลา แบ่งงาน แบ่งการดูแล การรับผิดชอบ เราพิจารณาความสำคัญของบุคคล เวลา สถานการณ์ อวัยวะ หรือสุขภาพร่างกาย ฯลฯ ตามความเชื่อของตนเองเป็นหลัก เรามักจะไม่ได้ตั้งคำถามว่า ความยุติธรรมที่แท้จริงคืออะไร เราจะสร้างความยุติธรรมที่ชอบธรรมได้อย่างไรให้สมบูรณ์ที่สุด บ่อยครั้งผู้ที่ไม่ได้นำเอาความยุติธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องในการแบ่งสันปันส่วน จะใช้สิ่งที่เขาเรียกว่าเหตุผลแต่เพียงอย่างเดียว และจบลง ณ จุดนั้นเพราะคิดว่าความยุติธรรมจะมาพร้อมกับเหตุผลโดยปริยาย

    การใช้แต่เหตุผลหรือสมองซีกซ้าย (L-Mode) แต่เพียงอย่างเดียว จะทำให้เราลงเอยด้วยการเห็นผิดเป็นถูก เห็นสัดส่วนที่ไม่ถูกต้องเป็นถูกต้อง หรือแม้แต่เห็นผิดเป็นชอบ เช่นเดียวกับการแบ่งสันปันส่วนพื้นที่เหนือตา-ใต้ตา พื้นที่สำหรับส่วนที่ไม่สำคัญถูกตัดทอนขาดหายไป พื้นที่สำหรับส่วนที่สำคัญถูกเน้น ถูกขยายออกไปจนผิดสัดส่วน

    ผลลัพธ์ที่ได้จากภาพวาด : เราได้ภาพใบหน้าที่ผิดความเป็นจริง
    หากเราไม่ได้พิจารณาเกี่ยวกับสัดส่วน ตา-ซึ่งเป็นประสาทสัมผัสหนึ่งในห้าที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า มักจะพร้อมใจกันโกหกเราอย่างน่ารักเพื่อเอาใจเรา ด้วยการคล้อยตามความเชื่อของเรา และทำให้เรามองเห็นภาพวาดที่ผิดสัดส่วนว่า ถูกต้อง ถูกสัดส่วน ใช้ได้ คล้ายตัวจริง คล้ายรูปถ่าย

    ผลลัพธ์ที่ได้จากประสบการณ์ชีวิตอื่นๆ : เราจะขาดความสมดุลย์จากการแบ่งสันปันส่วนที่ไม่ถูกต้อง เพราะเราสร้างสถานการณ์ สัมพันธภาพ หรือสุขภาพที่ขาดความสมดุลย์ คล้อยตามความเชื่อที่ผิด ยังผลให้เราทำลายสัมพันธภาพ มิตรภาพ สุขภาพของตนเองหรือผู้อื่น หรือ ทำลายความไว้เน้ือเชื่อใจ ความรัก ความเคารพที่ผู้อื่่นมีต่อเราไปอย่างน่าเสียดาย

    ผู้ที่ไม่ให้ความสำคัญกับงานศิลปะ หรือการวาดภาพมาก่อนอาจมีความเห็นว่า การวาดภาพไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับสัดส่วนอิื่นๆ ในสาระอื่นๆที่พี่นักเขียนกำลังกล่าวถึงนี้เลย แต่ตามธรรมชาติความเป้นจริงแล้ว ไม่ว่าเราจะวาดภาพหรือตัดสินสิ่งต่างๆในชีวิต เราไม่ได้ใช้ปัจจัยที่แตกต่างกันเลย ไม่ว่าเราจะแบ่งสันปันส่วนในการวาดภาพ ในการใช้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แบ่งสันปันส่วนในการเงิน การงาน ความรับผิดชอบ ฯลฯ เราใช้สติสัมปัญญะที่ตั้งอยู่บนรากฐานแห่งความเชื่อของเราเสมอ

    พี่นักเขียนเชื่อว่า ความยุติธรรมที่แท้จริงไม่ต่างไปจากความงาม ความสมดุลย์ในภาพวาด เราทั้งหลายมักชื่นชมความยุติธรรมไม่ต่างไปจากที่เราชื่นชมความงามของภาพวาด หากมันเป็นความยุติธรรมที่แท้จริง หรือเป็นภาพวาดที่งดงามอย่างหมดจด ไม่ว่าจะมองจากมุมมองใด ผู้ชมหรือผู้รู้เห็นจะสัมผัสกับความงามนั้นได้เสมอเหมือนกัน

    ความงาม ความยุติธรรมที่แท้จริงย่อมทำให้ทุกฝ่ายมองเห็นความงดงาม ความสมดุลย์จากภาวะหรือสถานการณ์เสมอ เมื่อใดก็ตามที่เราตัดสินใจตามความเชื่อที่ผิด ตามเหตุผลที่คล้อยตามความเชื่อที่ผิด เรามักจะลงเอยด้วยความลำเอียงหรือเข้าข้างตนเองอย่างตาบอดเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้จากการแบ่งสันปันส่วนที่ผิดจะฟ้องด้วยการก่อให้เกิดความบิดเบือน ผิดความเป็นจริง ขาดความสมดุลย์ ขาดความเป็นหนึ่งเดียวหรือเอกภาพ หรือแม้แต่ก่อให้เกิดความผิด ความน่าเกลียด ความแตกแยก

    ภาพวาดของพวกเราแม้จะยังผิดสัดส่วนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ในระดับหนึ่งเราก็ควรภาคภูมิใจว่า เราได้ใช้ความพยายาม
    พี่นักเขียนภูมิใจแทนพวกเราชาวห้องวิทย์ฯค่อนข้างมากเป็นพิเศษค่ะ เพราะพวกเราดูเหมือนว่าจะเป็นศิลปินผู้มีดวงตาของผู้มีความสมดุลย์และยุติธรรมไม่น้อยทีเดียว ต่อไปเราจะเห็นความงามของความเชื่อของเราที่เปลี่ยนไปได้ในภาพวาด


    ณ วันนี้ นิ้วมือของเราก็ทำหน้าที่ไปตามความเชื่อของเรา วันหน้าที่เราวาดภาพได้เหมือนจริงมากกว่านี้ เราจะพบว่าน้ิวมือของเราไม่ได้จับดินสอได้ชำนิชำนาญไปกว่าที่มันกำลังเป็นอยู่เลย เพราะเราทุกคนจับดินสอปากกาได้ดีอยู่แล้ว หากแต่ว่าความเชื่อของเราต่างหากที่จะแปรเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมากมายค่ะ

    ต่อไปพี่นักเขียนจะขอนำเสนอเทคนิกในการวาดภาพให้สมดุลย์ และเทคนิกในการเปลี่ยนความเชื่อเพื่อสร้างความสมดุลย์ในชีวิต(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2007
  4. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    พูดถึงมะเขือเทศ ถ้าเอามาแช่แข็ง แล้วนำมาฝานจิ้มเกลือก็อร่อยนะ
    และ ถ้าทำเป็นน้ำปั่นผลไม้่เนี่ยยิ่งอร่อยมากๆ
    และถ้าเอาเห็ดนางฟ้า มาชุบแป้งทอด แล้วราดซอสมะเขือเทศก็น้ำลายไหลแล้ว
    ก็มีความสุขกับการกินฮะ
     
  5. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ก็ไม่ถนัดอ่านจากในเว็บครับ
    ใช้ copy มา paste ใน word เพื่อที่จะได้อ่านหลายๆเที่ยว
    ใหม่ๆ ใช้ word 2007 จะช้ามาก เพราะต้องคอยแกไข Font
    แต่พอมาใช้ word 2003 ก็ใช้ได้เลยครับ
    MERRY CHRISTMAS
    ทุกๆท่านครับ
     
  6. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ยินดีเเละเต็มใจอย่างยิ่งเลยครับ
    ทีได้ช่วยอาจารย์แบ่งเบาภาระ
     
  7. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    สภาวะที่พี่นักเขียนกล่าวถึง ทำให้นึกถึงช่วงที่ขจรวรรณรู้สึกป่วยร่วมกับคุณพ่อและน้องชาย ก่อนที่คุณพ่อจะเสียชีวิตเลยค่ะ คือจิตดับวูบไม่มีความรู้สึก มีแต่ความมืดมิด สงบนิ่ง และเข้าใจว่าตัวเองตายแล้ว ไม่ทราบว่าเวลาที่เกิดอาการนี้นานแค่ไหน แต่ก็รู้สึกตัวขึ้นมาอยู่กับรูปกายทางกายภาพในที่สุด ไม่รู้ว่าเป็นอาการที่สัมผัสกับความว่างปล่าวรึปล่าวน๊า..: bat:
     
  8. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    สงกะสัยต้องปลูกมะเขือเทศและทำโรงเห็ดนางฟ้าไว้บ้างแล้ว เผื่อท่านเค้าท์แด๊กคิวล่าเหลยฝันว่าไปเยี่ยมแถวบ้านจะได้มีของโปรดไว้รับรองเนอะ.. แล้วจะให้ใครดูแลละเนี่ย.. อิอิ..(ping)
     
  9. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    Merry x - mas ด้วยคนค่ะทุก ๆ คน..:cool:
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]
    (||)MERRY CHRISTMAS (||)
    ***เติมเสียงเพลงสร้างบรรยากาศครับผ้ม***

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.255116/[/music]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2007
  11. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    ขอบคุณมากค่ะ แล้วคืนนี้จะเอามะเขือเทศฝาน จิ้มเกลือไปฝากในฝันนะคะ

    ว่าแต่เมื่อคืนฝันว่าไปบ้านใครไม่ทราบ หลังใหญ่เชียว ในฝันเราก็ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเรา แต่พอเข้าไปมีครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่เสียแล้ว (น่าจะเป็นบ้านของตัวตนต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์คนหนึ่งแน่ โดยเรามองเห็นผ่านสายตาของเขา) และได้เจอเด็กผู้ชายอายุประมาณ6-8 ขวบหน้าตาน่ารักคนหนึ่งกำลังวิ่งเล่นอยู่ แล้วเด็กก็เห็นเราด้วย ยังมาทักและเล่นกับเราเหมือนเล่นกับเด็กด้วยกันเลย (เอ หรือเรามองผ่านตัวตนที่เป็นเด็ก ) ว่าแต่บ้านหลังนี้เป็นบ้านของใครแถวนี้ไหมเนี่ย(deejai)
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    Eggnog เป็นเครื่องดื่มสำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะ มีส่วนผสมของ นม ครีม น้ำตาล ตีกับไข่ไก่สด cinnamon nutmeg และเหล้า rum, brandy หรือ whisky ซึ่งเป็นเครื่องดื่มอีกชนิดที่ทานแล้วอุ่นสบายท้องเหมาะกับอากาศ เช้านี้พี่นักเขียนก็เริ่มต้นด้วยรายงานอากาศ รายงานอาหาร จากนี้จะขอตอบคำถามที่คั่งค้าง และอธิยายเกี่ยวกับแบบฝึกหัดภาพวาดของพวกเราค่ะ(rose)

    ว้าว จินชอบ รัมค่ะ อยากลองทานจัง แต่เสียดายค่ะ นันแอลกอฮอล์มานานแย้วววว
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. obniti

    obniti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +305
    สวัสดีครับ ของส่งการบ้านชุดที่2 แล้วรีบไปดูทีวีลุ้นรัฐบาลใหม่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0002.jpg
      scan0002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.3 KB
      เปิดดู:
      51
  14. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    วันนี้ออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันหรือเปล่าจ๊ะ
    ไม่ว่าใครได้เป็นรัฐบาล ก็ขอให้ตั้งใจมาบริหารประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าจริงๆซะที
    เป็นไรไม่รู้ฝันโหดอีกล่ะ เมื่อคืนฝันว่าถือมีดทั้ง 2 มือเลย อีกฝ่ายพลาดโดนฟันที่ท้อง
    วันนี้นอนกลางวัน ฝันว่ายิงปืนอีกแล้ว แต่หยิบผิดกระบอก ไม่มีกระสุนซะงั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2007
  15. wiszard111

    wiszard111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +167
    วันนี้ได้เข้ามาอ่านแล้วค่ะ อย่าเพิ่งงอนนะคะ และต้องขอขอบคุณคุณขจรวรรณมากๆที่ให้คำแนะนำ และแบ่งปันสิ่งดีๆให้ ขอมอบดอกไม้แทนหนมก่อนละกันนะคะ
    (f)(f)(f)
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    Merry X'mas
    อ่านที่พี่นักเขียนถึงคริสตมาสที่เมืองนอกแล้ว รู้สึกว่าเค้ามีฉลองกันใหญ่โตดีจัง
    ที่ไทยจะมีฉลองกันในแง่ของศาสนามากกว่า ในคืน Christ mas eve ที่โบสถ์ก็จะมีกิจกรรมให้เล่นสนุก เช่นจับฉลากแลกของรางวัล ในตอนเที่ยงคืนก็จะมีพิธีมิสซา บางบ้านก็อาจจะมีประดับต้นคริสตมาส แต่เดาว่าอาจจะไม่ถึงขนาดทำอาหารมื้อพิเศษมากินกัน

    ตามโรงเรียนคริสต์ก็จะหยุดเรียนให้นักเรียนจัดปาร์ตี้กันในห้อง

    อ่านที่พี่นักเขียนอธิบายถึงการวาดรูปแล้ว รู้สึกว่าโดนตัวเองเข้าเต็มๆ เลย เพราะว่าตอนที่วาดเสร็จแล้ว แล้วมาดูภาพที่วาด รู้สึกว่าวาดผิดสัดส่วน รู้สึกว่าหน้าจะยาวไปแฮะ

    ในช่วงที่วาดนั้น ก็ลากเส้นโครงหน้าก่อน แล้วก็วาดตา วาดจมูก วาดปาก ตอนที่วาดส่วนไหนก็จดจ่อไปส่วนนั้น พยายามจะวาดให้เหมือน แต่พอวาดเสร็จแล้ว มาดูภาพโดยรวม สัดส่วนกลับเพี้ยนไป

    สงสัยว่าต้องเอาที่พี่นักเขียนเขียนเกี่ยวกับการวาดรูปมาอ่านหลายๆ รอบล่ะมั๊ง
     
  17. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    พี่นักเขียนครับ ตอนนั้นจากที่ได้เห็นภาพนี้แล้ว
    [​IMG]

    ก็ได้คิดอะไรต่อ

    อันที่จริงแล้ว คนเราทุกคน รวมถึงสิ่งที่มีสภาพเป็นกายทิพย์ด้วย ล้วนก็เชื่อมต่อกันด้วย จิตวิญญาณหรือเปล่า ถ้าโดยในแนวนี้ สิ่งที่มีสภาพเป็นกายทิพย์ก็ไม่ได้เป็นจิตวิญญาณ แต่เป็นสภาวะ/รูปร่าง ทางกายภาพอีกรูปแบบนึง ถ้าเข้าใจจากที่อ่านไม่ผิด จิตวิญญาณที่ท่านโนวาบอก คือไม่ได้หมายถึงวิญญาณที่เป็นกายทิพย์แบบเทวดาอย่างที่เราใช้กัน/เข้าใจกัน ถ้าจะเปรียบเทียบก็เหมือนอะตอม สิ่งที่เราเห็นและไม่เห็น(ก๊าซ) ก็เกิดจากอะตอมเหมือนกัน ฉันใดฉันนั้น ทั้งสิ่งที่เป็นกายหยาบและกายละเอียดก็เกิดจากจิตวิญญาณเหมือนกัน (จิตวิญญาณ = อะตอม)

    ในภาพ พื้นสีชมพูเปรียบเหมือนจิตวิญญาณโดยรวม ส่วนสีชมพูที่เข้าไปอยู่ในตัวคนนั้น ก็เปรียบเหมือนจิตวิญญาณที่มาแสวงหาประสบการณ์ในการเป็นตัวตน/เป็นคน ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าแต่ละคนนั้น {isolate ออกจากกัน / แยกออกจากกันจนเหมือนว่าแปลกแยกออกจากกันไม่ใช่สิ่งเดียวกัน/แยกออกจากกันจนเป็นเอกเทศ} แต่ก็เชื่อมต่อกันด้วยจิตวิญญาณ

    ตามความเป็นจริงที่อ.โนวาสอนแล้ว มันเป็นอย่างนี้หรือเปล่า?

    ปล. ตรงที่ใช้ {} ก็เพราะว่าพยายามจะอธิบายในช่วงตรงนั้น แต่ไม่รู้จะใช้คำไหน แต่ก็รู้สึกว่าคำว่า isolate น่าจะสื่อความหมายได้ตรง แต่ก็จะลองอธิบายเป็นภาษาไทยด้วย (ด้วยความไม่แน่ใจว่าใช้คำว่า isolate ได้ตรงความหมายหรือเปล่า อิอิ) ยังกะคนอ่อนภาษาเลยเรา -_-''
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2007
  18. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ส่งการบ้านจ้า

    nah2.jpg

    ...หายไปวันเดียว พี่นักเขียนมาเฉลยคำตอบซะแย้ว...ส่งการบ้านช้าไปหน่อย...อ่านเฉลยไป ดูรูปตัวเองไป...เข้าใจถึงคำตอบของพี่นักเขียนเลย...[Embarrass
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เผลอเผลบเดียวกระทู้พี่นักเขียน 69,666 Hit..แล้วนะครับ พี่นักเขียนบอกว่ามีแฟนกระทู้ชาวไทยต่างรัฐเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันๆ น่ายินดีเป็นอย่างมากครับ เลยเอาข่าวมาให้เพื่อนๆร่วมแสดงความยินดีด้วยนะครับ

    [​IMG][​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.gif
      1.gif
      ขนาดไฟล์:
      36.5 KB
      เปิดดู:
      484
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2007
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG][​IMG]

    เห็นคุณ ณ.คุณโอบนิธิ เพิ่งส่งรูปเขียนกันมา ทั้ง L mode & R mode
    เส้นสายการวาดใช่ย่อยครับ เก่งๆกันทุกคน
    ยังส่งรูปกันมาได้เรี่อยๆได้ครับ (คุณWebsnow ก็ส่งมาได้นะ)
    ได้รู้จักเพื่อนๆต่างร่าง+ร่วมวัตถุประสงค์กันเยอะๆ
    คุณณ. ลงแสงเงาดีครับ รูปนี้มีพลังสะกดสายตาผมนิ่งเลยครับ
    คุณโอบนิธิ เขียนเหมือนการ์ตูนคอลัมส์นิสต์ เส้นสายมีพลังเหลือล้น
    ทำให้นึกถึงลายเส้น John Lenon เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...