อันวิชาอาคม

ในเรื่องคาถาอาคม หากจะเรียนกันจริงๆแล้ว ต้องเรียน คัมภีร์ปถมังก่อน ซึ่งเป็นบาทแรกของการศึกษาพระเวทย์ กล่าวคือ ต้องรู้จักการทำดินสอ ต้องรู้วิธีการตั้งธาตุ หนุนธาตุ การเรียกสูตรเรียกนาม วัตถุต่างๆที่นำมาประกอบพิธี อักขระขอม การเรียนรู้เรื่องธาตุเคล็ดการเสก-ปลุกและการทำ อย่างคาถาที่เห็นบ่อยๆที่ขึ้นต้นด้วย ปถมังพินทุกังชาตังฯลฯ นี่เป็นคาถาของการเขียนตัวอักขระ ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่อเป็นอุบายให้ศิษย์ตั้งใจเขียน ทีนี้มีบางคนความจำไม่ดี ท่านอาจารย์ก็จะสอนหัดให้เขียนตัวนะ ซึ่งมีมากกว่า 108 ตัว ซะอีก เพราะการเขียนนะนั้นมีสูตรการเรียก-เขียนที่คล้ายกัน ต่างกันเพียงคาถาปลุกเสก ดังนั้นจึงได้บังเกิดคำนี้ขึ้นมาคือ "หัดทำผง ลงตัวนะ" จากนั้นก็มาเรียนคาถา รู้จักการถอนถอด เรียกว่า อนุโลม ปฏิโลมและการถอดแบบนารายณ์กรึงจักร-คลายจักร ที่สำคัญอย่างมากคือคำว่า คาบ ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้เสียก่อนจึงจะใช้คาถาได้สำเร็จผล หากท่านใดมีข้อติงก็จะขอบคุณหรือสงสัยก็ถามมาได้

 

เพิ่มเติม
กระผมโชคดีที่ได้เรียนตามแบบฉบับของจริง คาถาอาคม นั้นมีจริงหาดเรียนรู้กระทำถูกต้อง ย่อมเกิดผลแน่นอน ขอเพียงแค่อย่าหมดซึ่ง อิทธิบาท 4 อย่างไรก็ย่อมสำเร็จผล

 

หากคุณสนใจอยากจะศึกษาก็เมลล์มาถามผมได้ที่ cadet63@thaimail.com แต่ถ้าพื้นฐานคุณไม่มีความอดทนและขาดคุณธรรมแล้วล่ะก็กลับไปทำอะรก็ได้ตามความชอบของคุณแล้วกัน ผมยินดีจะสอนให้ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้เก่งอะไร เพียงแต่ได้รับการศึกษามาอย่างถูกต้องจริงๆ และอยากจะบอกกล่าให้ทราบเรื่องเวทย์มนต์คาถา ว่าจะเรียนกันจริงๆต้องเป็นแบบนี้

 

ของพวกนี้ผมไม่เรียนหรอก มันทำให้มีกิเลสมากขึ้น

 

ทุกอย่างมันเป็นกิเลสหมด เว้นเสียแต่ว่าทำไปเพื่อ เจตนาอะไร วิชาในโลกนี้ล้วแต่เป็นกิเลส สุดแท้แต่ เจตนาของผู้เรียน ว่ามีเจตนาอย่างไร อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะ คุณต้องศึกษาอีกเยอะ คนที่ดีไม่จำเป็นต้องบวชหรอก คนเรา จะทำตัวให้เหนือกว่าเทพก็ได้ อะไรก็ได้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ คุณอย่าลืมนะว่าศาสตร์ต่างๆเหล่านี้ บรรพบุรุษของเราได้ใช้กู้ชาติมามากแล้ว หากจะกล่าวว่าวิชาพวกนี้ไม่ดีก็ไม่ถูกต่อง ถ้าคุณพูดว่ามันทำให้กิเลสมากขึ้นก็เพราผู้ที่เรียนไม่มีคุณธรรม ศาสตร์ทุกอย่างเรียนรู้ได้แต่อย่าไปยึดติด เค้าเรียกว่า รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม จะใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ เช่นนั้นพระโมคคัลนานะก็กิเลสหนาน่ะสิ เพราะท่านที่ฤทธิ์มาก แต่ท่านมีสติมีเจตนาดี กิเลสจึงไม่มีขอให้คุณ kakarot เข้าใจไว้ด้วย

 

ขอบคุณครับ

 

ขอความกรุณาครับว่า คาบ นี่ทำอย่างไร แบบไหนครับ การตั้งธาตุและหนุนธาตุด้วยครับ

 

ผมมีอาจารย์ท่านหนึ่ง ในอดีตท่านเป็นข้าราชการดีเด่น ทำงานได้สองขั้น ติดต่อกันถึง 15 ปี วันหนึ่งท่านได้ปฏิบัติหน้าที่โดยกระทบกระทั่งกับเจ้านายใหญ่ จึงถูกกลั่นแกล้งจนต้องออกจากงาน โดยนิสัยรักสงบ ท่านจึงไปอยู่วัดกับพระอาจารย์ ท่านไปอาศัยอยู่แต่ในกุฏิพระ สวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิ อยู่ 9 เดือน และศึกษาตำราคาถาต่างๆได้หมดเป็นเล่ม จนกระทั่งสามารถเสดาะกุญแจได้ ผมกับเล็บก็ตัดไม่เข้า กลายเป็นคงกระพันชาตรี จนสุดท้ายท่านพระอาจารย์ก็มาเคาะประตูกุฎิแล้ว เรียก "ลูกเอ๋ยพอเถอะนะเรื่องอิทธิฤทธิ์ เอาเท่านี้พอ" จากนั้นหลวงพ่อท่านก็ทำการถอนวิชาทั้งหมดออกจากตัว โดยการทำมือสองข้างเป็นวงรอบศรีษะแล้วทำการดึงขึ้นไปด้านบน เป็นอันถอนวิชาได้หมด แล้วท่านก็กล่าวว่า "ต่อไปนี้ขอให้สร้างบุญฤทธิ์กันเถอะ" จนปัจจุบันท่านจึงได้สร้างบุญฤทธิ์ และ สามารถช่วยเหลือและรักษาคนผู้ตกทุกข์ ให้บรรเทาเบาบางมาจนถึงบัดนี้ ปัจจุบันท่านได้เตือนให้เร่งทำความดีกันเข้าไว้ให้เป็นบุญคุ้มกันตนเองให้พ้นภัยพิบัติอันจะเกิดขึ้นในเวลาไม่นานนี้ เหมือนที่ท่านเคยเตือนเรื่องคลื่นยักษ์ และ เหตุภัยพิบัติทางภาคใต้

 

แล้วแต่สายวิชา
ไม่ใช่ว่าต้องตั้งธาตุหนุนธาตุทั้งหมดทุกวิชาหรอกครับ
คาถาไม่ได้มีสายเดียวครับ

 

หากไม่ตั้งธาตุ หนุนธาตุนั้นก็ย่อมได้ แต่อย่าลืมว่าในโลกของเรา นั้นประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 หากได้แต่ร่างก็คงไม่มีอะไร แต่ถ้ามีซึ่งธาตุทั้ง 4 ย่อมมีคุณอนันต์มากขึ้น ไม่ว่า สำนักไหนก็แล้วแต่ ขนาดหมดสวดในยอกพระกัณฑ์ไตรปิฏก ยังได้มีบทสวดถึงธาตุไว้เลย แม้กระทั่ง หลวงปู่ศุขเอง ท่านก็ยัง ยึดเอาธาตุเป็นสำคัญ ไม่ว่าสายวิชาไหนก็ต้องรู้ธาตุทั้งนั้น ยกเว้นเสียแต่อาจารย์หรือสำนักหรือผู้ที่ศึกษาไม้ได้เรียนมาอย่างครบกระบวนการ อย่าว่าอย่างนั้น อย่างนี้เลย สมัยนี้คนที่เรียนวิชาไสยศาสตร์รุ่นใหม่ ยังไม่รู้ถึงการเรียกขระและการตั้งอาการหรือเรียกธาตุเลย นั้นเป็นความคิดที่ผิดแม้จะถูกบ้างก็ไม่ถูกหมด หากคนที่เรียนรู้จริง แค่คำว่า นะโมพุทธายะ เค้าก็รู้แล้วว่าเป็นธาตุอะไร แล้วจะถอดถอนอย่างไรให้ครบแม่ธาตุ และใช้ถูกทาง ฝากไว้ด้วยนะ

 

พี่ Magic99 ครับ ถ้าตั้งธาตุสุ่มสี่สุ่มห้า จะเกิดอะไรขึ้นมั๊ยครับ
___________________________________
เดี๋ยวนี้ไม่ตอบเมลล์ผมเลย เป็นอะไรครับ ผมยังคอบคำชี้แนะอยู่

 

พี่ magic99 ขอผมเรียนกับพี่ด้วยคนได้มั้ยครับ
ถ้าพี่อนุญาติ ผมจะได้เมลล์ไปหาพี่ครับ

 

ตกลง ผมจะขอความรู้ได้ไหมเหนื่อย เรื่องวิชา ปถมัง เนี่ย

 

เรียนเพื่ออะไร ผมไม่ได้มาสอนใคร แต่ได้แค่แนะนำเท่านั้น ผมยังไม่มีบารมีที่จะรับลูกศิษย์หรอกครับ แล้ว คุณธีรพงศ์117 จะขอความรู้เรื่องปถมัง คำว่าปถมัง มันก็มีความหมายตรงตัวอยู่แล้ว หากตีความออก ก็จะเข้าใจ

 

ล้อเล่นนะ เอาเป็นว่าผมจะตอบกว้างๆ ให้เป็น วิทยาทานจะดีกว่า คนอื่น จะได้รู้ด้วยนะครับ

 

อยากรู้อักขระ41ตัว กะ ขะ คะ ฆะ งะ.........................................ฬะ
ใครรู้ข่อยบอกหน่อย takna_201@hotmail.com

 

เรา ก็สนใจนะ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะเริ่ม ยังงัย phanit_tay@hotmail.com สอนบ้างนะ

 

คาถาอาคมนี้ คนสมัยใหม่เรียนกันไม่ถูกวิธีจริงๆ พอใช้ไม่ได้ผลก็มาโวยวายว่าไม่มีจริงบ้างล่ะ ลวงโลกบ้างล่ะ ขอบอกไว้ก่อนว่าสมัยก่อนน่ะ ประเทศไทยไปรบกับพม่า มีคนน้อยกว่าแต่ทำไมยังชนะ อันดับแรกก็คงจะเป็นความสามัคคี ส่วนเรื่องรองๆลงไปนั้นก็คือเวทย์มนต์คาถานี่แหละ

คุณMagic99ครับ สะเดาะกลอนผมก็ทำได้นะ ใช้คาถาบทนะมะพะทะ ผมว่าอันนี้ง่ายสุดเลย สำคัญอยู่ที่ใจครับ อยากจะขอถามพี่ว่า พี่รู้จักวิชาธนูมือไหมครับ พอดีผมมีตัวคาถาพร้อมวิธีฝึก เพียงแต่ผมไม่กล้าฝึกเพราะเขาบอกว่าถ้าไปทำงานที่นุ่มนวลเช่นทอผ้าหรือปลูกข้าวอะไรอย่างนี้ ข้าวจะไม่ยอมขึ้นเลย กลับมาบ้านถ้าเพื่อไปตบหัวหยอกๆน้อง ก็สามารถตายขึ้นมาได้ ท่านบอกว่ากลับมาบ้านให้ล้างมือก่อน จากนั้นจะทำอะไรก็ทำได้ ตบหัวน้องเล่นก็ไม่เป็นไรแต่ผมก็ไม่กล้าฝึกอยู่ดี เพราะไม่แน่ใจว่าล้างมือแล้วอาคมจะคลายหรือไม่ ขอให้พี่ช่วยตอบทีนะครับ

 

วิชาธนูมือหรือมนต์ธนูเวทย์นั่นแหละ เป็นวิชาที่เอาไว้ทำศึกโดยเฉพาะ มีเรื่องเล่าว่า สมัยก่อนนู้นพวกเทวดารบกับพวกอสูรอย่างไรก็มิอาจที่จะชนะได้ จนตอนหลังก็ได้พบหนทางได้ไปเรียนวิชานี้กับพระพรหม(ถ้าจำไม่ผิดนะคับ) ซึ่งมนต์ธนูมือนี้ ตามตำราโบราณจิงๆแล้ว หาดจะเอาชนะให้ถึงขั้นเด็ดขาดโดยที่รู้ผลแพ้ชนะจริงๆแล้ว ต้องภาวนาถึง 32000 คาบ ทีเดียว แล้วที่ว่ากันว่าหากเรียนวิชานี้นั้น ห้ามไปตบหัวคนเด็ดขาดอันนี้เรื่องจริงคับ ผมสาบานได้เลย หากจะลองดูว่าวิชาที่เรียนนี้ใช้ได้หรือยังให้ท่องแล้วไปชกที่ต้อนกล้วยดู หากเรียนขึ้นแล้ว ไม่เกิน 3-7 วัน ต้นกล้วจะใหม้ตายเลย
ดีใจจังเลยที่ได้กลับมาอีก สวัสดีคับทุกๆท่าน
Magic99

 

สวัสดีครับ ผมอยากถามว่า
บุญฤทธิ์ กับ อิทธิฤทธิ์ หมายถึงอะไรครับ และต่างกันอย่างไร และมีที่มาต่างกันอย่างไรครับ และแบบไหนเหมาะกับฆราวาส บ้างครับ

ขอบคุณครับ