ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ร้าน ทิเบต

    พลังปัญญาห้าสี
    ๑) พลังวัชระ (พลังปัญญาสีน้ำเงิน)
    วัชระนั้นเป็นอาวุธที่แข็งยิ่งกว่าเพชร เป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถทำลายวัชระได้ เอกลักษณ์ของพลังวัชระ คือ ความแกร่งที่สามารถตัดสิ่งต่างๆได้อย่างเฉียบคม พลังการตื่นรู้แบบวัชระเป็นพลังแห่งความเฉียบขาด ทิ่มแทงอย่างตรงจุด ตัดในส่วนที่เกินความจำเป็นได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังสามารถตระหนักรู้ถึงความเป็นไปรอบด้านอย่างแจ่มชัดอีกด้วย พลังวัชระแสดงถึงความสามารถในการคิดวินิจฉัยใคร่ครวญได้อย่างลึกซึ้ง มีความหลักแหลมเฉียบคมทางปัญญา ตัดสินใจเรื่องราวต่างๆได้อย่างรอบคอบถี่ถ้วน วิเคราะห์เหตุปัจจัย ผลลัพธ์ความเป็นไปได้อย่างตรงจุด แต่ในทางกลับกัน หากพลังวัชระตั้งอยู่โดยปราศจากความว่าง ข้อจำกัดแห่งตัวตนก็จะพลิกผันคุณสมบัติด้านบวกไปสู่ความบ้าคลั่งในแบบวัชระ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความโกรธ และการตัดสินผู้อื่นอย่างเสียๆหายๆ ความแหลมคมในการวิเคราะห์วินิจฉัยก็จะกลับกลายเป็นความยึดมั่นในหลักการของตน กลายเป็นความหยาบกระด้างและแข็งทื่อ อย่างที่ไม่ยอมเปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ส่วนความโกรธในแบบวัชระนั้น เปรียบได้กับน้ำแข็งที่เย็นจนบาดเข้าไปถึงเนื้อ เป็นความแหลมคมที่ไปทิ่มแทงผู้อื่นอย่างเย็นชา วัชระสัมพันธ์โดยตรงกับธาตุน้ำ น้ำที่ใสและนิ่งแสดงถึงธรรมชาติของความชัดเจน แน่วแน่ สะท้อนสรรพสิ่งตามที่เป็นจริงได้อย่างชัดเจน แต่น้ำที่ขุ่นและปั่นป่วน ก็แสดงถึงกลไกปกป้องตนเอง การเอาแต่ตนเองเป็นที่ตั้ง และความขุ่นมัวเย็นชา

    ๒) พลังรัตนะ (พลังปัญญาสีเหลือง)
    คุณสมบัติของพลังรัตนะ คือ ความโอบอุ้ม ดูแล เผื่อแผ่ และหล่อเลี้ยง มีความสัมพันธ์โดยตรงกับธาตุดิน เป็นพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์และความงอกงาม พลังรัตนะจะมีคุณลักษณะของความอ่อนโยน และการให้อย่างไม่มีข้อแม้ จิตรัตนะจะคิดถึงแต่ผู้อื่นและหมั่นหล่อเลี้ยงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้างอยู่เสมอ ความกว้างในแบบรัตนะจะให้ความรู้สึกของการโอบอุ้มและความอบอุ่นราวกับอ้อมแขนของแม่ ปัญญาแห่งรัตนะแสดงถึงความรุ่มรวยที่ออกมาจากความเต็มเปี่ยมภายใน ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจแห่งการให้ และการเผื่อแผ่แบ่งปันสู่ผู้อื่นอย่างเป็นธรรมชาติ อัตตาที่บ้าคลั่งในแบบรัตนะจะแสดงออกด้วยการเปิดขยายอย่างหมกมุ่น จนเป็นความเยิ่นเย้อ ความเกินพอดี ความสุรุ่ยสุร่าย “ให้จนเสียคน” หรือ ความ “เว่อร์” เป็นต้น ความกว้างโดยปราศจากพื้นที่ว่างภายในอาจพลิกกลับกลายเป็นความตระหนี่ หรือความตะกละได้เช่นกัน นั่นคือความต้องการที่จะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง จนกลายเป็น “ได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ” เหมือนผืนทะเลทรายที่แห้งแล้ง หรือธรณีสูบ นั่นเอง

    ๓) พลังปัทมะ (พลังปัญญาสีแดง)
    ปัทมะ แสดงถึงการเปิดกว้าง คลี่บานอันงดงามของดอกบัว การเปิดในแบบปัทมะเป็นไปในลักษณะของความสัมพันธ์ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และแรงดึงดูดที่รุนแรง พลังตื่นรู้ในด้านนี้มีเสน่ห์ ร้อนแรง น่าหลงใหล และยังสามารถสัมผัสได้ถึงความสดชื่นและมีชีวิตชีวายามที่ได้เข้าใกล้ การสัมผัสพลังปัทมะเหมือนกับการได้แช่ในอ่างที่หอมหวลไปด้วยสมุนไพรและพฤกษานานาพันธุ์ แต่ในความบ้าคลั่งแบบปัทมะ เราจะเริ่มรู้สึกถึงความร้อนของราคะที่เผาไหม้ การขาดพื้นที่ว่างทำให้พลังปัทมะรุนแรงจนทำเอาเราหายใจไม่ออก ไร้ซึ่งพื้นที่แห่งการสื่อสารปฏิสัมพันธ์ จนกลายเป็นความลุ่มหลงเกินพอดี แน่นอนว่าธาตุที่สัมพันธ์กับพลังปัทมะ ก็คือ ธาตุไฟนั่นเอง โดยปกตินั้นไฟให้อบอุ่นและแสงสว่าง และการพลิ้วไหวโชดช่วงของไฟนั้นดึงดูดสายตาให้จดจ้องอย่างไม่อาจละวางได้ ประกายและความร้อนของไฟยังปลุกให้เราตื่นจากอวิชชาความง่วงเหงา แต่กระนั้นหากไฟลุกโหมอย่างบ้าคลั่ง ก็จะเข้าเผาไหม้ทุกสิ่งอย่างไม่เลือก

    ๔) พลังกรรมะ (พลังปัญญาสีเขียว)
    กรรม ในที่นี่หมายถึงการกระทำ อันแสดงถึง การเลื่อนไหลดั่งสายธารของพลังทางปัญญา โดยพลังในรูปแบบกรรมะ แสดงถึงความกระตือรือล้นและแรงดลใจอันจะนำไปสู่การกระทำอย่างมีประสิทธิผล พลังกรรมะจะไม่เคยหยุดอยู่นิ่ง ชอบคิดประดิษฐ์ สรรค์สร้างสิ่งละอันพันละน้อยอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถทำไปได้เรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน และไม่รู้จักเหนื่อยอีกด้วย แม้แต่ในสถานการณ์คับขัน พลังกรรมะก็ยังสามารถพัดผ่านนำเอาความชุ่มชื้นมาให้ ความตื่นรู้ในลักษณะนี้จะมองเห็นความเป็นไปได้ที่ซ่อนอยู่ในทุกๆสถานการณ์ แล้วจึงแสดงออกมาในรูปแบบของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ กรรมะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับธาตุลมนั่นเอง ความบ้าคลั่งแบบกรรมะ ก็คือ ความจู้จี้จุกจิก ความเจ้ากี้เจ้าการ ความดันทุรัง การทำอะไรไปเรื่อยๆตามสิ่งเร้าอย่างไม่บันยะบันยัง เอาแต่ใจตัวเอง ขี้ใจน้อย ฉุนเฉียว และขี้อิจฉา ด้วยแนวโน้มของการทำอะไรตามแบบแผนคุ้นชิน และการพัดพาเอาแต่ความต้องการของตนเองเป็นที่ตั้ง

    ๕) พลังพุทธะ (พลังปัญญาสีขาว)
    พลังพุทธะสัมพันธ์กับธรรมชาติแห่งการตื่นรู้อันไพศาล หรืออากาศธาตุ พุทธปัญญา คือพลังพื้นฐานของจิตที่แผ่ออกมาจากพื้นที่ภายในอันกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต พลังพื้นฐานที่ว่านี้มีความสำคัญต่อการโผล่ปรากฏ ไหลเลื่อน หมุนวนของพลังปัญญาสีอื่นๆ พลังพุทธะมีคุณลักษณะของการใคร่ครวญพิจารณาหาคุณค่าและความหมายของสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา เป็นความใจกว้างในเชิงจิตวิญญาณที่รองรับความเป็นไปได้ในแบบต่างๆอย่างไม่ตัดสิน

    ความพลิกผันของพลังพุทธะ คือ ความเฉื่อยชาและน่าเบื่อ สามารถอยู่เฉยๆได้ทั้งวันโดยไม่ทำอะไร ชอบที่จะปิดตัวเองอยู่ในพื้นที่แคบๆ ความเงียบก็จะบูดเป็นความเย็นชาจนกลายเป็นความเหงา และความง่วงในที่สุด ความหงุดหงิดในแบบพุทธะอีกอย่างหนึ่งก็คือ การไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร และไม่ต้องการให้ใครมายุ่ง อีกทั้งยังขี้อาย และไม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ
    ปัญญาทั้งห้าสี คือ พลังการเรียนรู้ที่มีชีวิต การบ่มเพาะพลังทั้งห้าในด้านของปัญญาจำเป็นจะต้องมีพื้นที่ว่างให้กับการเลื่อนไหล และเกิดดับตามธรรมดาสภาวะ เราจะต้องละเลิกความเคยชินของการควบคุมและกดทับ แล้วฝึกฝนเปิดใจให้อยู่ในภาวะของการผ่อนพักตระหนักรู้โดยสมบูรณ์ นั่นคือความหมายที่แท้ของการภาวนาในฐานะกระบวนการเรียนรู้และการสร้างความสัมพันธ์ บนรากฐานของการปล่อยวางและศิโรราบ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    4 มี.ค. ตะลึง! เชื้อไวรัสดึกดำบรรพ์ 3 หมื่นปีคืนชีพ นักวิจัยเตือนอย่าขุดเจาะผืนน้ำแข็ง ระวังโรคร้ายฟื้น (ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเชื้อไวรัสดึกดำบรรพ์ซ่อนตัวอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งชั้นลึกสุดในพื้นที่ไซบีเรีย แต่เชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่มีอันตรายกับมนุษย์หรือสัตว์

    ศาสตราจารย์ ฌอง-มิเชล แคลแวรี่ นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเอ็กซ์ มาร์กเซ กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นไวรัสคงมีชีวิตโดยผ่านห้วงเวลาอันยาวนาน

    ผลการศึกษาไวรัสได้รับการเผยแพร่ในรายงานกระบวนการของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า เมื่อสิบปีที่แล้วนักวิทยาศาสตร์พบเชิ้อไวรัสดึกดำบรรพ์ ฝังอยู่ใต้ผืนน้ำแข็งลึก 30เมตร และตั้งชื่อเชื้อชนิดนี้ว่า พิโธไวรัส ไซเบอริกัม (Pithovirus sibericum) ถือเป็นไวรัสที่มีขนาดยักษ์ สามารถส่องเห็นได้ด้วยกล้องไมโครสโคป วัดความยาวได้1.5ไมโครเมตร ใหญ่ที่สุดเท่าที่พ้นพบมา

    ไวรัสชนิดนี้เคยแพร่เชื้อครั้งสุดท้ายเมื่อ 30,000 ปีที่แล้ว และกลับมาฟื้นมีชีวิตอีกครั้งระหว่างอยู่ห้องทดลอง

    ในการทดสอบพบว่า เชื้อไวรัสโจมตี "อะมีบา" ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว แต่ไม่ทำลายเซลล์ของมนุษย์หรือสัตว์

    นักวิจัยชี้ว่า การพบเชื้อไวรัสใต้ผืนน้ำแข็งอันหนา แสดงว่า เชื้อโรคสามารถฟื้นคืนชีพได้ และหากสภาวะอากาศโลกเปลี่ยน อุณหภูมิร้อนขึ้น จะส่งผลต่อชั้นน้ำแข็ง ละลายลง ลดความหนาลง ภูมิภาคไซบีเรียกำลังอยู่ภายใต้การคุกคามจากสภาวะดังกล่าว

    "ถ้ามนุษย์ยังเสาะแสวงหาพลังงานและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการเจาะลึกเข้าไปในผืนน้ำแข็ง อาจเป็นไปได้ว่า เชื้อโรคที่ฝังอยู่ คืนชีพกลับมาอีกครั้ง และบางเชื้อทำลายเซลล์ของมนุษย์ หรือสัตว์ชนิดอื่นๆก็เป็นได้"นักวิจัยเตือนในตอนท้าย

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    (wow!! ขั้นแรกชักปืน ขั้นที่สองชักดาบ ><")

    4 มี.ค. รัสเซียขู่ "ชักดาบ" สหรัฐ

    [​IMG]

    รัสเซียขู่เลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ชำระเงินกู้ และไม่ขายก๊าซให้ยุโรปอีกต่อไป หากสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกดดันให้มอสโกล้มเลิกภารกิจทางทหารในยูเครน

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ว่านายเซอร์เก กลาซเยฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แถลงเตือนให้สหรัฐเตรียมรับมือมาตรการลดระดับการพึ่งพาทางเศรษฐกิจของรัสเซียต่อวอชิงตันให้เหลือระดับ "ศูนย์" และมาตรการยุติใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการติดต่อทำธุรกรรม โดยมอสโกจะจัดตั้งระบบติดต่อทางการเงินของตัวเองร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในตะวันออกและทางใต้ นอกจากนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งในรัสเซียจะไม่ชำระเงินกู้ยืมที่รับมาจากธนาคารในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของวอชิงตันล่มสลายอย่างไม่ต้องสงสัย

    ขณะเดียวกัน กลาซเยฟยังเตือนสหภาพยุโรป ( อียู ) ที่ขู่จะเดินตามสหรัฐด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อมอสโกเช่นกัน ว่าให้เตรียมรับมือ "หายนะ" จากการที่รัสเซียจะยุติการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้กับทุกประเทศในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อพลังงานธรรมชาติจากมอสโกทั้งสิ้น

    ท่าทีของกลาซเยฟมีขึ้นหลังทั้งสหรัฐและยุโรปพร้อมใจกันออกมาข่มขู่รัสเซียว่า อาจต้องเผชิญมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจขั้น "รุนแรง" หากมีการแทรกแซงทางทหารในภูมิภาคไครเมียของยูเครน

    รัสเซียขู่ 'ชักดาบ' สหรัฐ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    BBTV Channel7

    https://www.facebook.com/photo.php?...0038042972.125656.175246082972&type=1&theater

    [​IMG]

    สุดสงสาร!! วอนช่วย 'น้องเกล้า' หนูน้อยวัย 3 ขวบ ป่วยโรคเด็กดักแด้ ต้องใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมานจากอาการผิดปกติทางพันธุกรรม ผิวหนังหลุดลอก ซึ่งจะคันไปทั่วร่างกาย เกาจนเป็นแผลปวดแสบ สกู๊ปชีวิตจึงเป็นสื่อกลางให้คุณผู้ชมได้ช่วยเหลือหนูน้อยผู้สงสารได้ทุเลาความเจ็บปวดจากโรคภัย ธ. ออมสิน สาขา ท่าตะโก เลขที่บัญชี 051 960 686 361 ชื่อบัญชี บุญชนะ เกษรบัว ที่อยู่ 22/11 หมู่ 2 ต.ทำนพ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ 60160 ติดต่อพี่สโน โทร. 084-819-0611

    วอนช่วย น้องเกล้า หนูน้อยวัย 3 ขวบ ป่วยโรคเด็กดักแด้
    >> คลิปวอนช่วย น้องเกล้า หนูน้อยวัย 3 ขวบ ป่วยโรคเด็กดักแด้
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    วิกฤติยูเครนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

    [​IMG]

    บทวิเคราะห์ของCredit Suisse เชื่อว่าวิกฤติยูเครนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก ขนาดเศรษฐกิจของรัสเซียเทียบเท่าแค่2.9%ของจีดีพีของโลก หรือประมาณ$2.2ล้านล้านในปี2014นี้ ส่วนเศรษฐกิจของยูเครนเทียบเท่า0.4%ของจีดีพีโลก รัสเซียนำเข้า$11,000 ล้านจากสหรัฐฯ และ87,000ล้านยูโรจากสหภาพยุโรปต่อปี เพราะฉะนั้นผลกระทบของวิกฤติยูเครนต่อเศรษฐกิจโลกไม่มากนัก

    เยอรมันเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วที่อาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เยอรมันส่งออก3%ของการส่งออกทั้งหมดไปตลาดรัสเซีย ในขณะเดียวกันเยอรมันนำเข้าน้ำมัน50%จากรัสเซียเทียบกับการนำเข้าทั้งหมด และก๊าซธรรมชาติ39% เนื่องจากรัสเซียมีรายได้หลักจากการส่งออกพลังงาน มีแนวโน้มสูงที่รัสเซียจะไม่กล้าตัดลดการส่งออกพลังงานท่ามกลางความขัดแย้ง

    ถ้าหากมีเหตุจะต้องลดการพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซีย สต๊อคที่คงค้างอยู่จะพอทำให้สหภาพยุโรปถูไถไปได้ชั่วระยะหนึ่ง ประมาณ50% ของการส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป ส่งผ่านท่อส่งของยูเครน ในขณะเดียวกันยูเครนมีความต้องการเงินช่วยเหลือจากโลกตะวันตกอย่างน้อย$35,000ล้าน จึงมีความจำเป็นที่ต้องส่งก๊าซให้สหภาพยุโรปอย่างต่อเนื่อง

    พูดง่ายๆว่าผลประโยชน์ยังคานกันอยู่ สำหรับผู้เล่นทุกฝ่าย ยกเว้นสหรัฐฯอเมริกาที่อยู่นอกวง และกำลังเตรียมตัวเพื่อดึงยูเครนมาเป็นพวกให้ได้เพื่อการปิดล้อมรัสเซีย

    thanong
    4/3/2014

    Global Equity Strategy -- CS (March 7, 2014)
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol

    [​IMG]

    วันนี้คงคต้องนำการคาดการณ์เรื่องการสลับขั้วโลกทางกายภาพมาอธิบายอีกครั้งจากการสอบถามมราเป็นรายบุคคล
    ข้อมูลที่ออกไปเป็นสาธารณะ และทุกท่านสามารถตรวจสอบ และหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่าน GooGle และ Youtube

    [​IMG]

    ปัจจุบันนี้ สนามแม่เหล็กโลกอยู่ในระหว่างการสลัยขั้วจากใต้ไปเหนือในระยะที่ ๔ ช่วงที่ ๑ จากทั้งหมด ๔ ช่วง
    [​IMG]

    สนามแม่เหล็กโลกออกจากขั้วโลกใต้วนกลับเข้าทางขั้วโลกเหนือ
    สนามแม่เหล็กโลกเกิดจากพลังงานของแม๊กม่าใต้เปลือกโลกชั้นนอก ที่ขณะนี้มากกว่า ๕๐% ได้เคลื่อนผ่านเส้นศูนย์สูตรเข้ามาซีกโลกด้่านเหนือ และเมื่อไหรที่แม๊กม่าเหล่านั้นเคลื่อนเกินเส้น ๔๐ องศาเหนือไปได้ แนวสนามแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนทอศทางใหม่คือจะหยุดชั่วขณะ ไม่ทราบว่านานแค่ไหน ๑ ชั่วโมง ๑ วัน ๑ สัปดาห์ หรือ ๑ เดือน

    แต่ที่แน่นอนคือขณะนี้สนามแม่เหล็กโลกอ่อนลงเพราะกระบวนการเคลื่อนที่ของแม๊กม่าและการสลับขั้ว

    ดังนั้น ในระหว่างขันตอนที่ ๔ ระยะที่ ๔ หรือ ช่วงสุดท้ายนั้น
    นักวิทยาศาสตร์ต่างยืนยันว่า โลกจะไร้สนามแม่เหล็กที่แผ่ออกไปเป็นเราะให้โลกระยะ ๑ ซึ่งนั่นหมายถึง ความร้อน แสง รังสี อุกาบาต เชื้อโรค ฯลฯ จะเข้าสู่โลกได้โดยง่ายดาย ถึงขนาดที่เรียกกันว่าวันสิ้นโลก หรือ วันโลกแตก

    ที่เรียกกันวันสิ้นโลกหรือวันโลกแตกนั้น ก็ไม่น่าเกิดความเป็นตริง เพราะถึงแม้นโลกไม่ได้แตกระเบิดออกเป็นส่วนๆ แต่เปลือกโลกด้านนอกเกิดแผ่นดินไหวแตกหัก ที่คน ณ เวลานั้น จะเรียกว่าวันโลกแตกก็ได้

    ท่านเรียนหนังสือมา เขาสอนว่า ปิโตรเลี่ยม หรือ น้ำมันดิบ หรือ แก๊สธรรมชาติ อยู่ใต้ดินเป็นชั้นๆ เป็นแอง กระจายไปทั่วโลก แต่เขาบอกเพียงว่าปิโตรเลี่ยมเกิดจากซากพืชซากสัตว์ที่ตายทับถมกัน ผ่านกระบวนการบีบอัดควบกล้ำ ทำให้เป็นปิโตรเลี่ยม

    แต่นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการไม่ได้บอกว่า การที่ซากพืชซากสัตว์จะตายทับถมกันนั้น เป็นการตายหมู่ ตายผิดธรรมชาติที่ต้นไม้ตาย สัตว์ตายแบบในปัจจุบันที่ ต่อให้ต้นไม้ตายทั้งป่า สัตว์ตายทั้งป่า ก้ไม่มีโอกาสทับถมจนกลายเปแ็นปิโตรเลี่ยมได้

    การตายหมู่ของสิ่งมีชีวิต พรรณไม้ต่างๆนั้น เกิดจากการที่โลกสลับจั้วสนามแม่เหล็กโลก พร้อมการขยายตัว แม๊กม่าออกมาจากใต้เปลือกโลก แผ่นดินไหวจมลงไปใต้น้ำ น้ำเพิ่มขึ้นมาท่วมแผ่นดินอันทำให้สิ่งมีชีวิตตายหมู่ โดยท่านสามารถดูการขยายตัวของเปลือกโลกได้จากภาพยนตร์ปอมเปอีที่แสดงเหตุการการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียต

    เพราะการตายหมู่ของสรรพสัตว์และพรรณพืชพร้อมกันในคราวเดียวกัน เพราะแม๊กม่าออกมามากมหาศาลไหลกลบทับทั้งสรรพสัตว์และพรรณไม้ ทำให้เกิดเป็นชั้นหินปกคลุมสุสานสัตว์และพืืช ก่อนที่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติจะทำให้เกิดเป็นปิโตรเลี่ยม

    เหตุการเหลายนี้เกิดมาซ้ำแล้วซ้ำเรา เกิดมา ตั้งอยู่ ดีบไป
    เกิดมนุษย์ เกิดสังคม เกิด ศาสนา แล้วก็ล่มสลายตายไป
    แล้วก็เกิดใหม่ เฉกเช่น พุทธศาสนาที่กล่าวว่า มีพระพุทธเจ้ามาแล้ว ๕ พระองค์บ้าง ๒๕ พระองค์บ้าง ในยุคนั้นโน่นนี่ ที่ไม่มีบันทึกหรือหลักฐานทางกายภาพ หรือทางวิทยาศาสตร์ปรากฏให้เห็น แต่เป็นคำบอกเล่า คำสอนของผู้ทรงศีล หรือ การค้นพบบาตรพระ บาตรพระพุทธเจ้าองค์ปฐม องค์ที่ ๒ -๓-๔-๕ หรือ ฯลฯ

    หรือการค้นพบปิรามิดใต้น้ำที่ญี่ปุ่น เมร์ริเตอเรีเนี่ย หรือ ในขั้วโลกใต้ แอนตาร์กติก้า ในรัสเซีย ในแอตแลนติก อยู่มากมาย

    ดร.ก้องภพ ท่านอธิบายพร้อมการทดลองอย่างสมเหตุสมผลที่สุด สำหรับผม ใครได้พบได้สนทนากับ ดร.ก้องภพ เหมือนได้พบ ไอสไตน์กับสัพพัญญู (พระพุทธองค์ )พร้อมๆกันเลยที่เดียว

    ณ ขณะจิตที่ท่านทั้งหลายหายใจเข้าออกในปัจจุบันนี้ เปลือกโลกได้ขยับเขยื้อนมากมาย รถไฟตกรางทั่วโลก หลุมยุบ ดินถล่ม ลมฟ้าอากาศวิปริตผิดเพี้ยน แบบในภาพยนตร์ 2012 กับ The Day After Tomorrow เกิดพร้อมๆกัน อันเป็นเหตุการณืที่สนับสนุนว่าโลกกำลังสลับขั้วสนามแม่เหล็ก และในการสลับขั้วนั้น มีการเหนี่ยวนำ ทำให้ตัวโลกเองเกิดการเอียงใหม่

    จากหลักฐานที่แกนโลก และสนามแม่เหล็กโลกที่บ่งบอกทิศเหนือ เคลื่อนลงใต้มาทางไซเบเรียน เข้าหาจีน แสดงให้เห็นว่า แนวโน้ม ขั้วโลกเหนือจะย้านตำแหน่งลงมาทางใต้

    เมื่อขั้วโลกเหนือเคลื่อนตำแหน่งลงมาหาเส้นศูนย์สูตรทางรัวเซียจีย ย่อมทำให้ทวีปอเมริกาเคลื่อนขึ้นไปหาขั้วโลกเหนือปันจุบัน และอเมริกาการไปอยู่แทนในตำแหน่งขั้วโลกเหนือดังภาพที่ ๑ มีเทาดำได้ สยามประเทสเราก็จะเคลื่อนไปอยู่ทางซีกโลกใต้ ใกล้ขั้วโลกใต้ใหม่ ซึ่งรับรองว่า อากาศหนาวเย็นหิมะตกแน่นอน

    ที่นี้การสลับขั้วสนรามแม่เหล็กโลกที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ทำให้สนามประเทศน่าจะไปอยู่ ๔๐ องศาใต้นั้น

    น้ำในมหาสมัทรต้องกระฉอกขึ้นแผ่นดินตามพลังงานศักดิ์แน่นอน และการยุบตัวของแผ่นดินหลายๆส่วน ย่อมทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมาแน่นอน เหมือนถ้วยยูเรขาของกาลิเลโอ

    ดังนั้นแผ่นที่สยามประเทศใหม่จะเหลือเพียงภาคเหนือเป็นแผ่นดินหลัก บิเวณเขาใหญ่ วังน้ำเขียว ระนอง นครศรีบางส่วนจะกลายเป็นเกาะนั้น ย่อมเกิดขึ้นแน่นอน

    ที่กล่าวมานี้เพื่อให้ท่านเตรียมพ้อมรับสถานการณ์การพลัดพรากจากคนที่เรารัก เราห่วง เราเรียกว่าครอบครัว พ่อ แม่ ลูก เมีย สามี ญาติสนิทมิตรสหาย หรือ การไม่จากไปของรอบครัว พ่อ แม่ ลูก เมีย สามี ญาติสนิทมิตรสหาย แต่เป็นการบาดเจ็บ พิกลพิการ น่าอนาจใจแทนหละ

    น้อยครอบครัวนั้นที่จะตายพร้อมกันหมด หากท่านรอด ท่านจะเจริญมรณานุสติกับครอบครัวท่านอย่าไร

    หากท่านไม่รอด ก่อนท่านจะตาย ท่านจะเจริญมรณานุสติอย่างไร และความผูกพันธ์ห่วงใยต่อครอบครัวคนรัก จะทำให้จิตของท่านสงบนิ่งหรือไม่? จิตสุท้ายก่อนดับขันธุ์จะคิดถึงสิ่งใด เป็นกุศล หรือ อกุศล

    ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านที่ติดตามผมได้อ่านบทความของผมน่าจะรอดจากสงครามกลางเมืองในประเทศ และ/หรือ สงครามโลกโลกที่จะมีการรบกันในประเทศด้วย อยู่รอดได้พบประสบกับมหาพิบัติภัยการสลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก การเปลี่ยนตำแหน่งทวีปต่างๆทางกายภาพ ด้วยความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ผจญภัยในเหตุการณืที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อนนะครับ

    อย่าถามว่าจะเกิดไหม? อย่าถามว่าจริงหรือไม่จริง?
    ให้ถามตนเองว่า หากเกิดขึ้น ท่านพร้อมรับสถานการณ์ไหม?
    ท่านพร้อมไหม? ท่านพร้อมไหม? ท่านพร้อมไหม?
    ตอบตนเองให้ได้

    ความพร้อมนั้น ต้องพร้อมทางกายภาพ สถานที่ อุปกรณ์
    และที่สำคัญ ต้องพร้อมด้านจิตใจด้วย ยอมรับความเป็นจริง
    ดังที่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ย้ำเสมอกว่า กฏไตรลักษณ์
    ที่ไม่มีใครสามารถหลบหลีกได้ แม้นกระทั่งพระพุทธองค์ นะครับ
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ล.ลิง เจี๊ยก เจี๊ยก ได้แบ่งปัน รูปภาพ ของ Voice TV
    นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสฟื้นชีพไวรัส พบในดินเยือกแข็งอายุ 3 หมื่นปีที่แคว้นไซบีเรีย เตือนภาวะโลกร้อนอาจชุบชีวิตจุลชีพดึกดำบรรพ์ในแถบอาร์กติก แล้วขยายพันธุ์แพร่ระบาดได้
    อ่านต่อได้ที่ฟื้นชีพไวรัส 3 หมื่นปีในดินเยือกแข็ง - Voice TV

    Voice TV

    [​IMG]

    ฟื้นชีพไวรัส 3 หมื่นปีในดินเยือกแข็ง

    นักวิทยาศาสตร์ฝรั่งเศสฟื้นชีพไวรัส พบในดินเยือกแข็งอายุ 3 หมื่นปีที่แคว้นไซบีเรีย เตือนภาวะโลกร้อนอาจชุบชีวิตจุลชีพดึกดำบรรพ์ในแถบอาร์กติก แล้วขยายพันธุ์แพร่ระบาดได้

    ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส บอกว่า ไวรัสตัวนี้เป็นชนิดไพโธไวรัส ไซบีริคัม พบลึกลงไปใต้ดินเยือกแข็งในทุ่งทุนดราชายฝั่งที่เมืองชูกอตกา ใกล้กับทะเลไซบีเรียตะวันออก ซึ่งมีอุณหภูมิเฉลี่ยติดลบ 13.4 องศาเซลเซียส

    รายงานซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences (PNAS) ในสหรัฐ บอกว่า ทีมวิจัยได้ละลายไวรัสที่พบ แล้วดูมันแพร่เชื้อไปยังอะมีบา ซึ่งเป็นสัตว์เซลล์เดียว



    ผลการตรวจหาอายุธาตุคาร์บอนของพืชจากตัวอย่างดิน บ่งบอกว่า มันมีอายุกว่า 30,000 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์นีแอนเดอร์ธัลส์ และแมมมอธ ยังท่องโลก อยู่ในเวลานั้น

    เทียบกับไวรัสด้วยกันแล้ว พี. ไซบีริคัม (Pithovirus sibericum) นับว่ามีขนาดใหญ่มาก มันมียีน 500 ตัว ขณะไวรัสไข้หวัดใหญ่มียีนแค่ 8 ตัว เราสามารถมองเห็นมันได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดแสง ไม่จำเป็นต้องส่องดูด้วยกล้องอิเล็กตรอน

    ไวรัสชนิดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ เพราะมันแพร่เชื้อไปยังอะมีบาเท่านั้น

    การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ไวรัสสามารถอยู่รอดได้ในดินเยือกแข็งเป็นเวลานานมาก

    นักวิจัยบอกว่า ในระยะหลัง มีการเข้าถึงแหล่งพลังงานและแร่ธาตุในแถบอาร์กติกมากขึ้นเนื่องจากน้ำแข็งละลายเพราะโลกร้อน จึงเป็นข้อเตือนใจว่า ไวรัสอันตรายบางชนิด เช่น ไข้ทรพิษ ที่เราคิดว่าถูกกำจัดไปแล้ว อาจฟื้นชีพขึ้นมาใหม่ในวันหนึ่งก็เป็นได้.

    Source : AFP


    อ่านต่อได้ที่ฟื้นชีพไวรัส 3 หมื่นปีในดินเยือกแข็ง - Voice TV
    ‪#‎นักวิทยาศาสตร์‬ ‪#‎ไซบีเรีย‬ ‪#‎ไวรัส‬
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียทดสอบขีปนาวุธ ท่ามกลางวิกฤตไครเมีย

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันข่าวการทดสอบขีปนาวุธว่าเป็นเรื่องจริง ทำให้หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในเขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครน หลังจากที่รัสเซียส่งกองกำลังเข้าไปบุกยึดจุดยุทธศาสตร์ทั้งหลายเอาไว้ ด้านทางการสหรัฐฯก็ยืนยันชัดเจน ว่ารัสเซียกำลังรุกรานอำนาจอธิปไตยของยูเครน

    <iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=99037" ></iframe>

    กองทัพรัสเซียยืนยันข่าวการทดสอบขีปนาวุธ ว่าเป็นเรื่องจริง หลังจากที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ว่า ขีปนาวุธรุ่นโตโปล อาร์เอส-12 เอ็ม ประสบความสำเร็จในการปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวดคาปุสติน ยาร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับทะเลแคสเปียนของรัสเซีย โดยขีปนาวุธดังกล่าวเป็นขีปนาวุธแบบข้ามทวีป ซึ่งเคลื่อนไปตกที่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวเป็นแผนการที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว และทางการสหรัฐฯก็ได้รับคำเตือนในเรื่องนี้ก่อนหน้าที่จะมีการทดสอบขีปนาวุธดังกล่าว ตามข้อตกลงในสนธิสัญญาการครอบครองอาวุธในระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย

    โดยก่อนหน้านี้ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกมาปฏิเสธในเรื่องดังกล่าว แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่า ทางกองทัพรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดสอบขีปนาวุธในครั้งนี้หรือไม่ พร้อมกับย้ำว่า รัสเซียมีหน้าที่ในการปกป้องชาวรัสเซีย และพลเมืองชาติอื่นๆที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน ให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

    ด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับท่าทีของรัสเซีย ที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการส่งกองกำลังจำนวนมาก เข้าไปบุกยึดสถานที่ราชการ รวมถึงฐานทัพในเขตปกครองตนเองไครเมียของยูเครน โดยระบุว่า รัสเซียกำลังรุกรานยูเครนอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่รัสเซียกล่าวอ้างมาโดยตลอด เรื่องการที่มีชาวรัสเซีย และพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่มีการโค่นล้มอำนาจนายวิกเตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัสเซียพยายามสร้างเงื่อนไข ให้การเข้ารุกรานยูเครนมีความชอบธรรม

    ขณะที่ นักวิเคราะห์ก็มองว่า การที่รัสเซียตัดสินใจทดสอบขีปนาวุธในตอนนี้ อีกทั้งยังคงกองกำลังจำนวนมากเอาไว้ในเขตปกครองตนเองไครเมีย ทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรไครเมีย ตึงเครียดมากกว่าเก่า และไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสงครามเย็น

    ส่วนความเคลื่อนไหวที่เขตปกครองตนเองไครเมีย ล่าสุดขณะนี้ กองกำลังจำนวนมาก ยังคงประจำการอยู่ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งสหรัฐฯและชาติยุโรปเชื่อมั่นว่า กองกำลังดังกล่าวเป็นของรัสเซีย ขณะที่ ทางการรัสเซียยืนยันว่า กองกำลังเหล่านี้เป็นกองกำลังท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนรัสเซีย โดยเมื่อวานนี้มีเรือรบของยูเครนสองลำ ที่สัดกั้นไม่ให้แล่นเข้ามายังท่าเรือของเมืองเซวาสโตโปล ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กองกำลังดังกล่าวมีสามารถควบคุมจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆทั้งหมดในเขตปกครองตนเองไครเมียเอาไว้ได้แล้ว

    ขณะเดียวกัน องค์การป้องกันสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต รวมถึงสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าไกล่เกลี่ยความขัดแย้งทั้งหมด โดยนายอันเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโตเตรียมเข้าประชุมร่วมกับทางการรัสเซียในวันนี้ ขณะที่ นางแคธรีน แอชตัน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียู ก็ได้เข้าพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ที่กรุงมาดริดในประเทศสเปน ซึ่งท่าทีของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ยังคงแข็งกร้าว โดยยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่า หากอียูและสหรัฐฯเดินหน้ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย รัสเซียก็จะตอบโต้กลับไปอย่างสาสมเช่นกัน
    5 มีนาคม 2557 เวลา 10:19 น.

    รัสเซียทดสอบขีปนาวุธ ท่ามกลางวิกฤตไครเมีย - Voice TV
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตะวันตกควรทำอย่างไรในวิกฤตไครเมีย?

    ความตึงเครียดบนแหลมไครเมีย ของยูเครนในปัจจุบัน ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา แม้ชาติตะวันตกจะแสดงท่าทีสนับสนุนยูเครน แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางการยึดครองแหลมไครเมียของรัสเซียได้ ช่วงนี้ไปดูกันว่า ชาติตะวันตกมีวิธีใดเหลืออยู่บ้างที่จะสามารถนำมาใช้กดดันรัสเซีย

    <iframe width="640" height="330" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=99039" ></iframe>

    การบุกยึดครองแหลมไครเมีย ของกองทัพรัสเซียตลอดกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทหารยูเครนยอมจำนน เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสีย ระบบสื่อสาร และการคมนาคมในไครเมียถูกตัดขาด และดูเหมือนว่ารัสเซียกำลังสถาปนาอำนาจอธิปไตยแบบพฤตินัยขึ้นแทนยูเครน ขณะที่ ชาติตะวันตกระบุว่า รัสเซียกำลังละเมิดอธิปไตยของยูเครน ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง

    สถานการณ์เช่นนี้ยูเครนไม่ตอบโต้ทันทีด้วยปัจจัยหลายประการ หนึ่งในนั้นคือการขาดงบประมาณเพื่อทำสงคราม เนื่องจากยูเครนเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ และกำลังล้มละลาย ชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ หรือองค์การนาโต แม้ไม่เห็นด้วยต่อการรุกรานของรัสเซีย แต่ก็ยังไม่แสดงท่าทีตอบโต้รัสเซียอย่างจริงจัง ส่งผลให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า ชาติตะวันตกควรทำอย่างไรต่อไป

    สิ่งแรกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ "การเจรจาทางการทูต" รวมถึงการประณามรัสเซีย ตามด้วยการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เพื่อหาทางออกจากวิกฤต ซึ่งรวมถึงการแทรกแซงทางทหาร แต่รัสเซียที่เป็นสมาชิกถาวรของ UNSC สามารถวีโต้มติต่างๆได้

    ส่วนกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ หรือ G8 ก็เป็นอีกเวทีหนึ่งที่สมาชิกพยายามใช้มาตรการทางการทูตกดดันรัสเซีย ด้วยการยกเลิกการเตรียมพร้อมเพื่อจัดการประชุมสุดยอด G8 ที่เมืองโซชี ของรัสเซีย ในวันอาทิตย์นี้ แต่มาตรการนี้ก็แทบไม่ส่งผลใดๆ ต่อการใช้กำลังทหารของรัสเซีย

    "การควํ่าบาตรทางเศรษฐกิจ" จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ หลังการเจรจาทางการทูตกับรัสเซียไม่เป็นผล แต่อย่าลืมว่า ยุโรปหลายประเทศจำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานผ่านท่อส่งนํ้ามันจากรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ากว่าวันละ 3 พันล้านบาท หากยุโรปควํ่าบาตรไม่พึ่งพิงพลังงานจากรัสเซีย จะทำให้เกิดวิกฤตพลังงานภายในประเทศขึ้นได้

    นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของรัสเซียมองว่า อาวุธทรงอานุภาพที่สุดคือ การพุ่งเป้าไปที่ชนชั้นนำ และเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่มีเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะการควํ่าบาตรธุรกิจ ตัดท่อนํ้าเลี้ยงให้กับรัฐบาลรัสเซีย รวมทั้งเคร่งครัดในการออกวีซ่าให้ชาวรัสเซีย ซึ่งน่าจะกดดันทางการรัสเซียได้พอสมควร

    สุดท้ายคือ "การแทรกแซงทางทหาร" ซึ่งหลายฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดขึ้นและมีความเป็นไปได้น้อยมากที่สหรัฐฯ หรือองค์การนาโต จะแทรกแซงหากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเกิดขึ้น เนื่องจากยูเครนไม่ใช่สมาชิกนาโต และมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับตะวันตกเพียงเล็กน้อย

    อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การควํ่าบาตรรัสเซียอาจแตกต่างจากการควํ่าบาตรประเทศ ซึ่งตะวันตกมองว่าเป็นรัฐอันธพาล อย่างเกาหลีเหนือ หรือ ซีเรีย เนื่องจากการทำเช่นนั้นจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะประเด็นที่พวกเขายังคงต้องพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซีย เพราะอย่างไรแล้ว ความมั่นคงของสหภาพยุโรปฝั่งตะวันตกย่อมมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด

    5 มีนาคม 2557 เวลา 08:37 น.

    ตะวันตกควรทำอย่างไรในวิกฤตไครเมีย? - Voice TV
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พุฒิพงศ์ ก้อนวิมล

    เตือนภัยสูงสุดสีแดง ขั้วสนามแม่เหล็กโลกเลื่อนลงใต้แล้ว ๑๖๑ ไมล์

    ระยะเวลาเพียง ๖ เดือน นักวิชาการอิสระตรวจพบขั้วสนามแม่เหล็กเลื่อนลงใต้มาหาไซเบียเรีย ๑๖๑ ไมล์ ข้อมูลตามนี้หมายถึงว่าขั้วสนามแม่เหล็กโลกจะเลื่อนมาถึงไซเบีบเรียนก่อนสิ้นปี ค.ศ. 2014 หรือ พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งแน่นนอนทุกองศาที่เลื่อนลงมา หมายถึงพิบัติภัยที่เกิดมากขึ้น
    หากขั้วสนามแม่เหล็กโลกเลื่อนจากขั้วโลกลงมาถึง ๔๐ องศาเหนือเมื่อไหร เมื่อนั้นสนามแม่เหล็กโลกจะเลื่อนลงใต้ด้วยความเร็วสูง จาก ๔๐ องศาเหนือข้ามเส้นศูนย์สูตรมายัง ๔๐ องศาใต้ มหาพิบัติภัยแบบสุดๆจะเกิดในระยะเวลานี้

    จึงไม่น่าแปลกใจที่ภูมิอากาศซีกโลกเหนือปั่นป่วนหนัก ไม่ว่าพายุหิมะ อากาศหนาวเย็น และตามด้วยเทอร์นาโดและเฮริเคน เพราะสนามแม่เหล็กโลกเกี่ยวพันธ์กับภูมิอากาศโดยตรงมากกว่าดวงอาทิตย์ เส้นทางการไหวของแผ่นดินก็บ่งชี้ชัดว่าส่วนมากแรงจากเหนือลงเส้นศูนย์สูตรและข้ามไปนิวซีแลนด์

    ประเทศเราจะหนาวจัดเฉียบพลัน หิมะตกน้ำแข็งปกคลุมเช่นขั้วโลกเหนือในระยะเวลาหนึ่งไม่ไกลเกินที่จะเห็น พบ ประสบภัย สำหรับคนที่ร่างกายแข็งแรงอายุไม่เกิน ๙๐ ปี

    ก็ถือว่าผมนำข่าวสารมาเตือนแล้วนะครับ อุปกรณ์ฉุกเฉิน ผ้าห่มฉุกเฉิน ชุดกันหนาวแบบสุดโค่ย อาหาร น้ำ ยา ที่สามารถอยู่ได้ ๓ เดือน และที่สำคัญ สถานที่หลบภัยซักที่หนึ่งที่ดัดแปลงรองรับมหาพิบัติภัยที่ไม่ใช่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คร่าวๆดังนี้

    ๑.พื้นที่ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอย่างน้อย ๕๐๐ กิโลเมตร
    ๒.ความสูงจากน้ำทะเล
    ๒.๑ อย่างน้อยที่สุด ๒๓๕ เมตร หากมีเทือกภูเขาสูงเกิน ๘๐๐ เมตรกั้น
    ๒.๒ อย่างน้อย ๖๕๐ เมตร หากไม่มีเทือกภูเขาสูงกั้น
    ๓.หากเป็นไปได้ให้อยู่ใต้ดินน้อยที่สุด ต่ำกว่าผิวดิน ๑ เมตร ระยะปลอดภัย ๓-๕ เมตร
    ๔.อุปกรณ์กั้นความหนาวเย็น
    ๕.อุปกรณ์กรองฝุ่นจากเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ระเบิด(เป็นฝุ่นเหล็กหลอมเหลว)
    ๖. อาหาร น้ำ ยา อย่างน้อย ๓ เดือน
    ๗. เมล็ดพันธุ์พืชและอุปกรณ์เพื่อทำการเกษตรเลี้ยงตนเองและครอบครัว
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “กัวลาลัมเปอร์” เจอปัญหา “หมอกควัน” จากไฟป่า-มลพิษในอากาศเข้าขั้น “อันตราย” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มีนาคม 2557 16:17 น.

    [​IMG]

    หญิงสาวชาวมาเลเซียสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง หลังหมอกควันจากไฟป่าเริ่มปกคลุมกรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันนี้(4)

    เอเอฟพี – กรุงกัวลาลัมเปอร์กำลังเผชิญปัญหาหมอกควันจากไฟป่าเมื่อย่างเข้าฤดูร้อน ส่งผลให้มลพิษในอากาศเพิ่มสูงจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะที่รัฐบาลเสือเหลืองต้องมีมาตรการควบคุมการจ่ายน้ำเพื่อรับมือภัยแล้งที่ยาวนานผิดปกติ

    แม้ประเทศแถบศูนย์สูตรจะเผชิญสภาพอากาศแห้งแล้งเป็นปกติ ทว่าอุณหภูมิที่ร้อนจัดมานานถึง 2 เดือนในปีนี้ส่งผลให้เกิดไฟป่าขึ้นหลายจุด ขณะที่พลเมืองกว่า 2,000,000 คนได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการจ่ายน้ำประปาที่รัฐบาลนำมาใช้ หลังปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงมาก

    ดัชนีมลพิษทางอากาศในมาเลเซียวันนี้(4) พุ่งสูงถึง 150 ใน 7 พื้นที่ โดยเฉพาะกรุงกัวลาลัมเปอร์และรัฐสลังงอร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ

    ค่ามลพิษในอากาศระหว่าง 100-200 ถือว่าอยู่ในขั้น “ไม่ดีต่อสุขภาพ” (unhealthy)

    ช่วงเช้าที่ผ่านมา ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์มีทัศนวิสัยลดลงเหลือไม่ถึง 1 กิโลเมตร ขณะที่ตึกแฝดปิโตรนาสซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองก็ถูกหมอกควันบดบังจนเห็นไม่ชัดเจน

    ชาวกัวลาลัมเปอร์บางคนเริ่มนำหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองออกมาสวมใส่

    “ปัญหาหมอกควันระดับกลางที่มาเลเซียกำลังเผชิญอยู่เกิดจากปัจจัยภายใน เช่น ไฟป่าในบางรัฐ” ถ้อยแถลงจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมมาเลเซีย ระบุ

    ที่ผ่านมาปัญหาหมอกควันพิษมักมีต้นตอจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจังหวัดรีเอา (Riau) บนเกาะสุมาตราได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังหมอกควันจากไฟป่าปกคลุมทั่วทั้งเมือง

    ปีที่แล้ว ทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์เผชิญวิกฤตหมอกควันครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบสิบปี ซึ่งมีสาเหตุมาจากการแผ้วถางและเผาป่าเพื่อเตรียมพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย

    [​IMG]


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเครนติดต่อรัสเซียหวังเลี่ยง “สงคราม” แต่วอชิงตัน-มอสโกตั้งท่าแลกหมัด โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2557 03:33 น.

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/E4vPVjZNlzo?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/cq0y2lOuVB4?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - อาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรีรักษาการยูเครนเผยว่ารัฐบาลของเขาได้ติดต่อกับเหล่าผู้นำรัสเซียเป็นครั้งแรกในวันอังคาร (4) โดยมีเป้าหมายคลี่คลายวิกฤตในชาติอดีตสหภาพโซเวียต แต่อีกด้านหนึ่งอุณหภูมิแห่งความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับมอสโก ดูเหมือนจะร้อนแรงยิ่งขึ้น เมื่อประธานาธิบดีโอบามา ออกมาสวน ปูติน ที่อ้างว่าไม่ได้ส่งทหารเข้าไปในแหลมไครเมีย บอกใครเชื่อก็โง่ ขณะที่ทางเครมลิน เตือนจะเอาคืนแน่ หากวอชิงตันคว่ำบาตรพวกเขา

    คำแถลงอันพลิกผันที่ยืนยันถึงการติดต่อกันระหว่างรัฐบาลยูเครนกับรัสเซีย มีขึ้นเพียง 4 วัน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำมอสโก ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาให้ใช้กำลังกับชาติเพื่อนบ้านที่เกิดวิกฤตการณ์ประท้วงยาวนานหลายเดือน ซึ่งลงเอยด้วยประธานาธิบดีวิกตอร์ ยานูโควิช ผู้ฝักใฝ่รัสเซียถูกโค่นอำนาจและมีการแต่งตั้งรัฐบาลรักษาการที่ฝักใฝ่ตะวันตกเข้ามาบริหารงานแทน

    จนถึงตอนนี้ทางรัสเซียยังไม่ได้มีท่าทีใดๆ ต่อคำแถลงของนายยัตเซนยุค ขณะที่ตัวนายกรัฐมนตรียูเครนเองก็ยังยืนกรานอย่างหนักแน่นหนุนหลังการตัดสินใจของรัฐบาล ที่จะถอยห่างตนเองออกจากการปกครองของมอสโก

    อย่างไรก็ตาม การติดต่อครั้งนี้มีขึ้นระหว่างที่นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ อยู่ในกรุงเคียฟ และดูเหมือนว่ามันจะสะท้อนถึงความพยายามร่วมกันระหว่างวอชิงตันและพันธมิตรยุโรปที่ประสงค์หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทุกรูปแบบ “จนถึงตอนนี้ การเจรจายังเป็นไปอย่างเหนียมอาย แต่อย่างไรเสีย ก้าวย่างแรกก็เริ่มขึ้นแล้ว” ยัตเซนยุค ระบุในถ้อยแถลง หลังเขากับประธานาธิบดีรักษาการ โอเล็กซานเดอร์ ตูชีนอฟ พบปะกับนายเคร์รี ที่เดินทางเยือนยูเครนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วิกฤตการเมืองปะทุขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

    นายยัตเซนยุคยืนยันด้วยว่า รัฐบาลของเขายังยืดมั่นในคำสัญญาลงนามข้อตกลงการค้ากับอียู หลังจากอดีตประธานาธิบดียานูโควิช กลับลำยกเลิกข้อตกลงในเดือนพฤศจิกายน แล้วหันไปสานสัมพันธ์กับรัสเซีย จนกลายเป็นชนวนเหตุให้มีการประท้วงใหญ่ต่อต้านการปกครองของเขายาวนานกว่า 3 เดือน และจบลงด้วยการที่นายยานูโควิช ถูกโค่นอำนาจ ตามหลังสัปดาห์แห่งเหตุปะทะนองเลือดตายเกือบ 100 ศพ

    อย่างไรก็ตาม การโค่นล้มนายยานูโควิช นำมาซึ่งความเคลื่อนไหวของฝ่ายสนับสนุนอดีตผู้นำรายนี้ในไครเมียและตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับกระแสแบ่งแยกดินแดนในสาธารณรัฐปกครองตนเองแห่งนี้

    นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของยูเครนเปิดเผยว่า การปรึกษาหารือกับมอสโก ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินกู้จำนวน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ปูติน ให้สัญญากับนายยานูโควิชในเดือนธันวาคม เพื่อตอบแทนที่เขาตัดสินใจยกเลิกข้อตกลงกับอียู ด้วยเคียฟต้องการทราบว่ามอสโกจะยังคงให้เงินงวดถัดไปอีก 2,000 ล้านดอลลาร์ตามที่สัญญาหรือไม่ พร้อมระบุ “ยูเครนคาดหมายว่ารัสเซียจะตระหนักถึงความรับผิดชอบของพวกเขาต่อสถานการณ์ความมั่นคงที่กำลังไร้เสถียรภาพในยูเครน และยอมรับว่ายูเครนเป็นรัฐอิสระ”

    [​IMG]
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย(ซ้าย) และประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ(ขวา) ได้ประลองกันอีกครั้งในศึกยูเครน ดูรูป

    ความตึงเครียดในแหลมไครเมีย เริ่มต้นขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อกองกำลังนิยมรัสเซียซึ่งทางการใหม่ในยูเครนประเมินว่า มีประมาณ 16,000 คน เข้าควบคุมเขตปกครองตนเองแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทัพเรือภาคทะเลดำของมอสโก

    ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่กำหนดให้รัสเซียเช่าฐานทัพเรือในไครเมียโดยจำกัดการเคลื่อนไหวกำลังพล แต่รัสเซียอ้างว่า ดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้เพื่อปกป้องฐานทัพของตนและป้องกันการคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงในยูเครน

    ในวันอังคาร (4) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยืนยันว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้วิธีการทุกอย่าง เพื่อปกป้องคุ้มครองพลเมืองของตนในยูเครน แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งทหารเข้าไปในแหลมไครเมีย “ยังไม่มีความจำเป็น” ที่จะต้องส่งทหารรัสเซียเข้าไปในยูเครน พร้อมกับปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่ากองทหารรัสเซียเข้าร่วมการปฏิบัติการในไครเมียแล้ว โดยเขาบอกว่ามีเพียงกองกำลังป้องกันตนเองของท้องถิ่นเท่านั้น ที่กำลังรายล้อมค่ายทหารต่างๆ ของยูเครนในเขตปกครองตนเองแห่งนั้น ถึงแม้อาจจะเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้ เนื่องจาก “มีเครื่องแบบจำนวนมากที่ดูเหมือนๆ กัน”

    ผู้นำรัสเซียยังอธิบายเหตุผลสร้างความชอบธรรมให้แก่การกระทำของกองกำลังท้องถิ่นเหล่านี้ว่า ประชาชนในไครเมียซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกพูดภาษารัสเซีย กำลังวิตกที่มีพวกหัวรุนแรงจากองค์การชาตินิยมยูเครนหลั่งไหลทะลักเข้าไป

    อย่างไรก็ตาม คล้อยหลังไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็กล่าวตอบโตอย่างทันควัน ว่าคำชี้แจงของ ปูติน ต่อกรณีบุกรุกเข้าไปยังไครเมีย ทำเหมือนกับคนอื่นๆเป็นคนโง่และบอกว่าการเข้าแทรกแซงของรัสเซียครั้งนี้ จะผลักให้ประเทศอื่นๆ หันหลังให้กับมอสโก ด้วยสหภาพยุโรป และพันธมิตรอย่างแคนาดากับญี่ปุ่น ล้วนเชื่อว่ารัสเซียละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

    “ดูเหมือนประธานาธิบดีปูติน จะมีคนคอยแก้ต่างให้อยู่หลายกลุ่ม และมีคำชี้แจงเตรียมไว้อย่างหลากหลาย แต่ผมคิดว่ามันหลอกใครไม่ได้หรอก” โอบามา กล่าวที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในวอชิงตัน ดี.ซี.

    ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซีย “อยู่ผิดด้านของประวัติศาสตร์” ในยูเครน ละเมิดกฎหมายสากลและเมิดอธิปไตยของประเทศแห่งนี้ ขณะที่ทางสภาคองเกรสเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการคว่ำบาตรมอสโกกรณียูเครน

    ในเรื่องนี้ ทางรัสเซียก็ออกมาตอบโต้ในวันอังคาร (4) ว่าจะดำเนินการแก้เผ็ดสหรัฐฯ กลับไปอย่างแน่นอน หากวอชิงตันออกมาตรการคว่ำบาตรพวกเขาจริง “เราจะตอบโต้แน่” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุในถ้อยแถลง “ทุกสถานการณ์ลักษณะนี้ มักมีพฤติกรรมยั่วยุอย่างขาดความรับผิดชอบจากวอชิงตันเสมอ เราขอย้ำว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก” เขากล่าว “เราเคยอธิบายให้อเมริกาฟังหลายครั้งแล้วว่ามาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวไม่เป็นไปตามมาตรฐานความสัมพันธ์อันศิวิไลซ์ระหว่างรัฐ”

    อนึ่ง เวลานี้คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังปรึกษากับรัฐบาลของประธานาธิบดีโอบามา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการออกมาตรการคว่ำบาตรยกเลิกวีซาและอายัดทรัพย์สินบุคคล ระงับความร่วมมือทางทหารและคว่ำบาตรทางเศษรฐกิจต่อรัสเซีย

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยุโรปเครียด รัสเซียโชว์ยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป คุยลั่นถล่มเป้าหมายแม่นยำ
    วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 07:50:46 น.

    [​IMG]

    รัสเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธนำวิถีข้ามทวีป กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่าในการทดสอบครั้งนี้รวมไปถึงอาร์เอส-12เอ็ม โทโปล ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่สามารถยิงจากระบบเคลื่อนที่บนท้องถนน ซึ่งทางการรัสเซียเคยดำเนินการทดสอบครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปีที่แล้ว

    เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้ให้รายละเอียดของลักษณะความก้าวหน้าของขีปนาวุธ โดยบอกแต่เพียงว่ายิงออกจากฐานปล่อยจรวดคาปุสติน ยาร์ ของรัสเซีย ใกล้เมืองโวลโกกราด ทางใต้ของประเทศ และประสบความสำเร็จพุ่งชนเป้าหมายที่ตั้งอยู่ที่สนามทดสอบขีปนาวุธนำวิถีในคาซัคสถานอย่างแม่นยำ

    ข่าวแจ้งว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธของรัสเซียครั้งนี้ เกิดขึ้นในท่ามกลางวิกฤตการณ์ หลังกองทัพรัสเซียบุกเข้ายึดฐานทัพและที่ตั้งสำคัญของหน่วยงานรัฐบาลยูเครนในแคว้นไครเมีย รวมทั้งยังใช้เรือรบรัสเซียสกัดเรือรบของยูเครน2ลำ จอดที่ท่าเรือเซวาสโตปอล ฝั่งทะเลดำ ทำให้บรรดาชาติตะวันตกพากันคัดค้านรัสเซียโดยระบุการรุกล้ำดินแดนยูเครน เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

    ข่าวแจ้งว่า ระหว่างรัสเซียส่งทหารเข้าตรึงพื้นที่ของแคว้นไครเมียในยูเครน ยังขีดเส้นตายให้กองทัพยูเครนที่ประจำการในไครเมียยอมจำนน ถ้าไม่ยอมจะใช้กำลังทหารเข้าโจมตี ภายในรุ่งเช้าของวันที่ 4มีนาคม แต่ปรากฎว่า ยังมีเหตุใดๆเกิดขึ้นหลังจากเลยเส้นตายที่รัสเซียกำหนดไว้

    [​IMG]

    ก่อนหน้านี้นายวิตาลี เชอร์คิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวในการหารือฉุกเฉินเรื่องวิกฤติยูเครนที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่านายยานูโควิชได้ทำบันทึกคำร้องอย่างเป็นทางการถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย โดยระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงได้ยึดอำนาจในยูเครน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของกลุ่มคนเชื้อสายรัสเซียและกองเรือรัสเซียในทะเลดำ

    ผู้แทนรัสเซียกล่าวอ้างหนังสือคำร้องว่า ยูเครนใกล้เข้าสู่สงครามกลางเมือง เต็มไปด้วยเหตุจลาจล จึงขอให้ประธานาธิบดีปูตินส่งกำลังทหารเข้าไปรักษาสันติภาพและความสงบเรียบร้อย รวมทั้งปกป้องประชาชนในยูเครนด้วย

    ประธานาธิบดีปูติน มีคำสั่งให้ทหารและหน่วยงานที่เข้าร่วมการฝึกทหารกลับเข้าประจำการตามกรมกอง หลังจากมีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ให้ทหารซ้อมความพร้อมรบกะทันหัน โดยทำทีเหมือนเป็นการฝึกตามปกติ ประกอบด้วยทหารทั้งสามเหล่าทัพในพื้นที่ทหารตอนกลางและตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่ชายแดนติดกับยูเครน และขยายไปถึงเขตอาร์กติก แต่ไม่รวมทหารในพื้นที่นอกรัสเซียอย่างสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมีย ซึ่งเป็นจุดเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับรัฐบาลใหม่ยูเครน

    ทั้งนี้ สาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมีย รวมถึงหลายเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน กำลังเผชิญกับความไร้เสถียรภาพตั้งแต่การถอดถอนประธานาธิบดียานูโควิชออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ขณะเดียวกัน ทหารรัสเซียและกองกำลังไม่ทราบฝ่ายแต่สนับสนุนรัสเซีย ยังคงปิดล้อมค่ายทหารยูเครนหลายจุดในคาบสมุทรไครเมียเอาไว้

    นายยูรี เซอร์เกเยฟ ทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ ระบุว่า รัสเซียส่งกองทัพเข้าไปในคาบสมุทรดังกล่าวมากกว่า 16,000 นาย

    ยุโรปเครียด รัสเซียโชว์ยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป คุยลั่นถล่มเป้าหมายแม่นยำ : มติชนออนไล
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อึ้ง ยูเครนแฉอดีตผู้นำแสบ หอบทองคำกว่า 2 หมื่นล้านด.หนีออกนอกปท.-ทิ้งเอกสารเพียบ วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 11:15:56 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ว่า รัฐบาลรักษาการยูเครนกำลังปฎิบัติการตามล่าหาทองคำมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ที่หายไปจากกระทรวงการคลังซึ่งเป็นทองคำทุนสำรองของประเทศ โดยเชื่อว่าถูกขโมยโดยอดีตประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ที่ลี้ภัยไปยังรัสเซีย

    [​IMG]

    รายงานระบุว่า นายกรัฐมนตรีอาร์เซเนียฟ ยัตเซ็นยุค ได้กล่าวเผยต่อรัฐสภายูเครนวา อดีตรัฐบาลยูเครนของนายยานูโควิช ได้ทิ้งหนี้สินให้แก่ประเทศเป็นจำนวนมูลค่ากว่า 75,000 ล้านดอลลาร์ โดยเงินจำนวนกว่า 70,000 ล้านดอลลาร์ได้ถูกโอนย้ายเข้าบัญชีนอกประเทศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อดีตผู้นำยูเครน ยังได้ยักยอกทองคำซึ่งเป็นทุนสำรองของประเทศอีกกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ด้วย และส่งผลให้ธนาคารยูเครนต้องจำกัดการถอนเงินต่างประเทศจากระบบธนาคารไม่เกิน 1,500 ดอลลาร์ต่อวัน ด้านอัยการสวิตเซอร์แลนด์ยังได้เปิดการสอบสวนคดีฟอกเงินต่อนายยานูโควิช และนายอเล็กซานเดอร์ ลูกชายด้วย

    ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า อดีตผู้นำยูเครนได้ทิ้งเอกสารจำนวนมากในทะเลสาบในบ้านพักของเขา เชื่อว่าเพื่อทำลายหลักฐานเกี่ยวกับการยักยอกเงินของเขา โดยเอกสารดังกล่าวเชื่อว่ามีจำนวน 20,000-50,000 ฉบับ จำนวนนี้ถูกกู้คืนมาได้ 700 ฉบับ และยังคงกู้คืนมาได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเอกสารบางส่วนถูกทิ้งในสภาพหุ้มซองพลาสติกไว้

    อึ้ง ยูเครนแฉอดีตผู้นำแสบ หอบทองคำกว่า 2 หมื่นล้านด.หนีออกนอกปท.-ทิ้งเอกสารเพียบ : มติชนออ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทูตรัสเซียประจำยูเอ็น อ้างยานูโควิชขอปูตินให้ส่งทหารไปช่วยไครเมีย
    วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20:04:40 น.

    สำนักข่าวเอพีและรอยเตอร์รายงานว่า นายวิตาลี เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวต่อที่ประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ว่าด้วยสถานการณ์ในยูเครน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม โดยพยายามปกป้องความชอบธรรมของรัสเซียในการส่งกองกำลังทหารเข้าไปในไครเมียว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษารัสเซียในประเทศยูเครน ที่ถูกกดขี่ข่มเหงหลังเกิดการประท้วงรุนแรง พร้อมสำเนาจดหมายของวิคเตอร์ ยานูโควิช อดีตประธานาธิบดียูเครนที่ขอให้ปูตินส่งกองกำลังเข้าไปในยูเครนเสนอต่อที่ประชุม

    ขณะที่มีรายงานว่า การส่งกำลังทหารเข้าไปในไครเมีย กำลังเริ่มส่งผลทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย โดยทั้งตลาดหุ้น พันธบัตร และค่าเงินรูเบิล ต่างร่วงลงอย่างหนัก โดยตลาดหุ้นรัสเซียตกลงไปถึง 10.8 เปอร์เซ็นต์ และธนาคารกลางรัสเซียต้องใช้เงิน 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.9 แสนล้านบาท) เพื่อช่วยพยุงค่าเงินรูเบิลเอาไว้
    ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ ได้ประชุมร่วมกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐและพันธมิตรในการโดดเดี่ยวรัสเซียต่อไป

    ทูตรัสเซียประจำยูเอ็น อ้างยานูโควิชขอปูตินให้ส่งทหารไปช่วยไครเมีย : มติชนออนไลน์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ย้อนอดีต"ยูเครน" ลำดับเหตุการณ์วิกฤติซ้ำวิกฤต วันที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16:21:17 น.

    [​IMG]
    ชาวยูเครน พูดภาษารัสเซีย พากันดีใจที่ทหารรัสเซียเข้ายึดดินแดนไครเมีย ดูรูป

    สถานการณ์ในยูเครน กำลังหวนกลับเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถึงขั้นมหาอำนาจโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรปตะวันตกและรัสเซีย โผล่ออกโรงหนุนกันคนละฝ่าย

    สหรัฐฯและบรรดาชาติมหาอำนาจในยุโรปตะวันตก ไม่เห็นด้วยกรณีรัสเซียส่งกองทัพยึดไครเมีย ดินแดนของยูเครน

    แต่รัสเซียอ้างเหตุผลจำเป็นต้องทำเพราะต้องคุ้มครองพลเรือนและผลประโยชน์ในยูเครนโดยเฉพาะแคว้นไครเมีย มีชาวยูเครนพูดภาษารัสเซียเป็นจำนวนมาก

    ในทันทีที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้ายึดไครเมีย สถานการณ์เกิดความตึงเครียด

    สหประชาชาติต้องเรียกประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงเพื่อคลี่คลายวิกฤติ

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า พฤติการณ์ของรัสเซียกำลังย้อนกลับเข้าสู่ยุคสงครามเย็น เหมือนเมื่อปี 2499 ในครั้งนั้นสหภาพโซเวียตส่งกองทัพถล่มฮังการี และในปี 2511 รัสเซียใช้กำลังเข้ายึดครองเชคโกสโลวาเกีย โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากชาวโลก

    ต่อไปนี้เป็นลำดับเหตุการณ์ในยูเครน นำไปสู่ภาวะวิกฤติซ้อนวิกฤติ





    ------------------------------------
    ปี 2557

    มีนาคม


    4มีนาคม ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ อ้างต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า นายวิคเตอร์ ยานูโควิช อดีตผู้นำยูเครน ทำหนังสือถึงนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเรียกร้องให้รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าคุ้มครองพลเรือนในยูเครน ขณะที่เส้นตายของรัสเซียให้กองทัพยูเครนในแคว้นไครเมียยอมจำนนนั้นยังไม่มีผลใดๆ

    3 มีนาคม: กองทัพรัสเซียยื่นคำขาดให้ยูเครนยอมแพ้หรือเตรียมรับการโจมตี โดยผู้บังคับการเรือรบรัสเซียกำหนดเส้นตายในการโจมตียูเครนฃ ขณะที่โฆษกสำนักข่าวของรัสเซียเปิดเผยว่าคำพูดของผู้บังคับการเรือดังกล่าวไร้เหตุผล


    2 มีนาคม: ประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการส่งทหารเข้าไปในยูเครน ถือว่ารัสเซียตั้งใจละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

    1 มีนาคม: รัฐสภารัสเซียอนุมัติส่งทหารเข้าไปในยูเครน นายโอเล็กซานเดอร์ ทูร์คีนอฟ รักษาการประธานาธิบดียูเครนสั่งกองทัพเตรียมพร้อม
    ชาติตะวันตกได้แสดงความเป็นห่วงในเหตุการณ์ดังกล่าว ประธานาธิบดีโอบามาโทรศัพท์ถึงประธานาธิบดีปูติน เป็นเวลา90นาทีเพื่อขอให้รัสเซียถอนทหารจากไครเมีย แต่ประธานาธิบดีปูตินอ้างสิทธิที่จะดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาวยูเครนเชื้อสายรัสเซีย

    กุมภาพันธ์

    28 กุมภาพันธ์: พบมือปืนในเครื่องแบบคล้ายทหารซึ่งไม่สามารถระบุสัญชาติปรากฏตัว ที่ด้านนอกสนามบินไครเมีย ส่วนนายยานูโควิชได้ปรากฏตัวอีกครั้งหลังถูกขับไล่ออกจากยูเครนและยืนยันสถานะประธานาธิบดี และไม่สนับสนุนการแทรกแซงทางทหารและการแบ่งแยกดินแดน
    ธนาคารกลางยูเครนประกาศจำกัดการถอนเงินต่างประเทศไม่เกิน 15,000 เฮรียฟเนีย(สกุลเงินยูเครน) ราว 44,000 บาท นอกจากนนี้ยังพบมือปืนไม่ระบุสัญชาติใกล้สนามบินเซวาสโทโปลในแคว้นไครเมีย

    27 กุมภาพันธ์: เกิดการรวมกลุ่มของฝ่ายค้านในรัฐสภา ขณะเดียวกันมือปืนซึ่งสนับสนุนรัสเซียได้บุกยึดอาคารของรัฐที่เมืองซิมเฟอโรพอล เมืองหลักของไครเมีย นายยานูโควิชได้ประกาศผ่านสื่อรัสเซียว่าเขายังคงเป็นประธานาธิบดีตามกฎหมาย

    26 กุมภาพันธ์: ว่าที่สมาชิกรัฐบาลใหม่เปิดตัวผู้สมัครตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนายอาเซนิย์ ยาทเซเนียก ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยยกเลิกหน่วยตำรวจเบอร์คุต และตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วง

    25 กุมภาพันธ์: รักษาการประธานาธิบดีทูร์คินอฟเตือนถึงอันตรายของความแตกแยก

    24 กุมภาพันธ์: ประธานาธิบดียานูโควิชได้รับการประกันตัว

    23 กุมภาพันธ์: รัฐสภายูเครนได้ประกาศให้นายโอเล็กซานเดอร์ ทูร์คีนอฟ เป็นรักษาการณ์ประธานาธิบดี ซึ่งมีความเกี่ยวพันใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรียูเลีย ทีโมเชนโก และเขาได้ประกาศว่าสมาชิกรัฐสภามีเวลาถึงวันอังคารที่จะตั้งรัฐบาลใหม่

    22 กุมภาพันธ์: ผู้ประท้วงยึดอาคารสำนักประธานาธิบดีเรียกร้องให้เลือกตั้ง ขณะเดียวกันประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ปรากฏตัวที่เมืองคาคิฟทางตะวันออกเฉียงเหนือ
    รัฐสภายูเครน ลงคะแนนให้นายยานูโควิชออกจากตำแหน่งและให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม 2014 เป็นเหตุให้ประธานาธิบดียานูโควิชประกาศว่ายังเป็นประธานาธิบดีตามกฎหมายและอ้างรัฐประหารที่เกิดขึ้นเป็นโมฆะ นางยูเลีย ทีโมเชนโก อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกจำคุกตั้งแต่ปี 2554 และได้ออกเดินทางจากเมืองคาคิฟไปกรุงเคียฟ

    21 กุมภาพันธ์: ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิชลงนามข้อตกลงประนีประนอมกับผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาล มีคนกลางคือรัฐมนตรีจากฝรั่งเศส, เยอรมันนีและโปแลนด์ โดยหวังว่าจะจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติได้ภายในเดือนธันวาคม ในขณะที่ความรุนแรงยังคงมีอยู่ในเขตตะวันตกของยูเครนรวมทั้งยังคงยึดสถานที่ราชการ และกลุ่มรอบนอกเคียฟไม่ยอมรับข้อตกลงดังกล่าว

    20 กุมภาพันธ์: ผลจากการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ประท้วงนายยานูโควิช กลางกรุงเคียฟ ช่วง 48 ชั่วโมงมีผู้เสียชีวิต 77 คน ผู้บาดเจ็บนับร้อยคน มีการบันทึกภาพมือปืนสไนเปอร์ยิงผู้ประท้วง พยานให้การว่าผู้ตายตายโดยการยิงนัดเดียว รัฐมนตรีของสหภาพยุโรปสามคนได้บินเพื่อเจรจาเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน โดยรัสเซียจะส่งผู้แทนเข้าร่วมด้วย สภาพเมืองเคียฟเปลี่ยนไป โดยเฉพาะจตุรัสอินดิเพนเดนท์เต็มไปด้วยซากหักพัง

    14 กุมภาพันธ์: ผู้ประท้วงซึ่งถูกจับกุมได้รับการปล่อยตัว แต่ยังคงข้อหาเดิมไว้

    16 กุมภาพันธ์: ผู้ประท้วงไย้ายออกจากศาลาว่าการเมืองเคียฟหลังจากยึดไว้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2556 รวมถึงที่ทำการของรัฐแห่งอื่นด้วย หลังจากนั้นหนึ่งวันผู้ประท้วงซึ่งถูกจับกุมได้รับการนิรโทษกรรม

    18 กุมภาพันธ์: ผู้ประท้วงได้กลับเข้ายึดศาลาว่าการเมืองเคียฟอีกครั้ง ตำรวจปราบจราจลได้ล้อมปราบผู้ประท้วง 25,000คน มีผู้เสียชีวิตรวม 18 คน โดยมีตำรวจรวมอยู่ด้วย

    20 กุมภาพันธ์: ผลจากการปะทะระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ผู้นำยูเครน ช่วง 48 ชั่วโมงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 77 คน ผู้บาดเจ็บนับร้อยคน มีการบันทึกภาพมือปืนสไนเปอร์ยิงผู้ประท้วง

    มกราคม

    รัฐสภายูเครนผ่านกฎหมายต่อต้านประท้วงอย่างเด็ดขาด ถูกเรียกว่า”ดราโคเนี่ยน” เริ่มมีการนองเลือด
    ผู้ประท้วงสองคนถูกยิงจากเหตุปะทะกับตำรวจและมีผู้ศพของนักเคลื่อนไหวชื่อดังยูริย์ เวอบีทสกี
    การประท้วงแพร่ไปทั่วภูมิภาคตะวันตกของยูเครน นายกรัฐมนตรีไมโคลา อาซารอฟลาออกจากตำแหน่ง และสภาฯประกาศให้กฎหมายต่อต้านการประท้วงเป็นโมฆะ
    รัฐสภาผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมและต้้งเงื่อนไขจะไม่ดำเนินคดีกับผู้ถูกจับกุม หากเลิกยึดตึกรัฐสภา แต่ผู้ประท้วงปฏิเสธ

    2556
    ในเดือนธันวาคม เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่การเมืองเคียฟและจตุรัสอินดิเพนเดนซ์ ผู้ประท้วงเพิ่มจำนวนเป็น 800,000 คน ผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลชุมนุมที่บริเวณเดียวกันแต่น้อยกว่า
    รัสเซียประกาศยกหนี้ให้ยูเครนจำนวน 15,000ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ราว 483,000ล้านบาท) และลดค่าก๊าซให้ยูเครนหนึ่งในสาม
    ในเดือนพฤศจิกายน คณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิชประกาศยกเลิกการทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรป และให้เพิ่มความร่วมมือกับรัสเซีย
    นายกรัฐมนตรียูเครนปฏิเสธให้นางยูเลีย ทีโมเชนโก อดีตนายกรัฐมนตรีออกนอกประเทศ
    เกิดเหตุประท้วงและยกระดับเป็นการประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดนับแต่การปฏิวัติสีส้มในปี 2547 ตำรวจยูเครนเข้าปราบปรามมีผู้ถูกจับกุม 35 คน ทำให้นานาชาติให้ความสนใจเหตุประท้วง

    2553
    กุมภาพันธ์: วิคเตอร์ ยานูโควิชประกาศชัยชนะในตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งถูกจัดขึ้นภายใต้คณะสังเกตการณ์ พร้อมกับจับขังนางจูเลีย ทีโมเชนโก นายกรัฐมนตรียูเครนฐานใช้อำนาจในทางมิชอบ

    2547
    ธันวาคม: ฝ่ายต่อต้านวิคเตอร์ ยูเชนโก ชนะการเลือกตั้งที่จัดขึ้นใหม่ ฝ่ายต่อต้านวิคเตอร์ ยานูโควิชประท้วงผลการเลือกตั้งแต่เขาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    พฤศจิกายน จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติสีส้ม ท่ามกลางข่าวลือเรื่องการโกงเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยผู้สมัครซึ่งชนะการเลือกตั้งครั้งนั้นได้แก่วิคเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งนิยมรัสเซีย ฝ่ายต่อต้านผู้สมัครวิคเตอร์ ยูเชนโกได้ก่อให้เกิดการประท้วงและจลาจลขึ้นในประเทศ แต่ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นถูกประกาศให้เป็นโมฆะโดยศาลสูงสุดของยูเครน

    2534
    ยูเครนประกาศอิสรภาพจากสหภาพโซเวียต นำไปสู่การทำประชามติโดยคะแนนเสียง 90% ของผู้ออกเสียงต้องการอิสรภาพ
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียปัดเจรจา"ยูเครน" เผยรมต.กลาโหมแอบติดต่อลับๆเป็นครั้งแรกหลังวิกฤต"ไครเมีย" วันที่ 05 มีนาคม 2557

    สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานล่าสุดถึงความคืบหน้าสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน เนื่องจากรัสเซียส่งกำลังทหารเข้ายึดกุมพื้นที่สำคัญๆ เหนือคาบสมุทรไครเมียของยูเครน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากนานาชาติว่า รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนพยายามติดต่อกับรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเพื่อหารือคลี่คลายวิกฤต ถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายติดต่อสื่อสารกัน แต่ปรากฏว่าฝ่ายรัสเซียไม่ตอบรับร่วมเจรจาใดๆทั้งสิ้น

    ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ความพยายามของยูเครนชี้ให้เห็นว่า ยูเครนต้องหายุติปัญหาและเจรจาสันติภาพเพราะไม่ต้องการเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบานปลายจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบเหนือคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนเมื่อครั้งไครเมียกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนรัสเซียและยูเครนได้ไครเมียคืนกลับในสมัยนายนิกิตา ครุสซอฟ เมื่อปี 2487

    รัสเซียปัดเจรจา"ยูเครน" เผยรมต.กลาโหมแอบติดต่อลับๆเป็นครั้งแรกหลังวิกฤต"ไครเมีย" : มติชนอ
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รอบ 2 ห่างกัน ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ น่ะครับ

    ฮือฮา น้ำตกชื่อดังโลก"ไนแองการ่า"กลายเป็นน้ำแข็ง หลังเป็นเหยื่ออากาศหนาวในสหรัฐ(ชมคลิป) วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 11:55:32 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ว่า น้ำตก"ไนแองการ่า"ของสหรัฐ ในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐ ต้องประสบกับภาวะกลายเป็นน้ำแข็งเป็นครั้งที่สอง โดยน้ำตกได้จับตัวแข็งกว่า 6 ล้านลูกบาศก์ฟุต และไม่เหลือสภาพกลายเป็นน้ำตกเช่นปกติ หลังจากสถานที่ดังแห่งนี้ต้องประสบกับภาวะอากาศระดับอุณหภูมิหนาวถึง 9 องศาเซลเซียส โดยเมื่อเดือนม.ค.สหรัฐต้องประสบภาวะหนาวระดับขั้วโลกที่เปลี่ยนแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง และกระทบต่อประชากรสหรัฐ 240 ล้านคนในสหรัฐ และแคนาดา ขณะที่อุณหภูมิในบริเวณตะวันตกของนิวยอร์ก อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส เมื่อวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา

    [​IMG]

    ฮือฮา น้ำตกชื่อดังโลก"ไนแองการ่า"กลายเป็นน้ำแข็ง หลังเป็นเหยื่ออากาศหนาวในสหรัฐ(ชมคลิป)
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวล้อมรอบประเทศไทยเลยแฮะ

    แผ่นดินไหวไต้หวัน 4.3 ริกเตอร์ ลึกจากผิวดินแค่ 6 กิโลเมตร
    วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 07:17:51 น.

    [​IMG]

    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 เวลา 23.02 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ไต้หวัน วัดแรงสั่นสะเทือนได้4.3ริกเตอร์ ลึกจากระดับผิวดิน 6 กิโลเมตร

    แผ่นดินไหวที่ TAIWAN
    ขนาด : 4.3 ริกเตอร์
    จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : TAIWAN
    วันที่ : 04 มีนาคม 2557 23:02 น.
    ละติจูด : 23° 11′ 24′′ เหนือ
    ลองจิจูด : 120° 44′ 24′′ ตะวันออก
    ความลึกจากระดับผิวดิน : 6 กิโลเมตร
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อึ้ง ทีวีรัสเซียเตะโด่ง"พิธีกรข่าวสาว"ไป"ไครเมีย"ฐานวิจารณ์โจมตีรบ.-ชี้"จะได้รู้จริง" (ชมคลิป) วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12:02:04 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พิธีกรสาวข่าวรายหนึ่งสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซีย ได้ถูกสถานีส่งตัวไปยังดินแดนไครเมียในยูเครน ภายหลังแสดงทัศนะวิจารณ์โจมตีรัฐบาลมอสโก กรณีวิกฤตการณ์ไครเมีย

    รายงานระบุว่า น.ส.เอ็บบี้ มาติน พิธีกรข่าวสาวชาวสหรัฐ ประจำสถานีโทร"Russia Today" (RT) ได้ถูกสถานีฯส่งตัวไปยังดินแดนไครเมีย ภายหลังเธอได้แสดงทัศนะโจมตีรัฐบาลรัสเซีย กรณีเข้ายึดครองดินแดนดังกล่าว โดยเธอกล่าวว่า เพียงเพราะฉันทำงานให้กับสถานีฯแห่งนี้ ไม่ได้หมายความว่า ฉันจะไม่มีความเป็นอิสระในการแสดงความคิดเห็น และฉันขอแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นว่า ฉันคัดค้านการที่รัสเซียเข้าแทรกแซงทางทหารต่อประเทศที่มีเอกราชอธิปไตยเป็นของตัวเองและต่อมา ภายหลังแสดงทัศนะดังกล่าว เจ้าตัวยอมรับว่า เธอไม่มีความรู้มากนักเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยูเครน หรือกลไกลด้านวัฒนธรรมของดินแดนนี้ แต่เชื่อมั่นว่า การเข้าแทรกแซงไครเมียไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างแน่นอน

    อย่างไรก็ตาม ต่อมา ฝ่ายบริหารของ RT ได้ออกโรงตอบโต้น.ส.มาร์ติน บอกว่า เธอถูกชักจูงอย่างผิด ๆ จากสื่อกระแสหลักของอเมริกัน โดยสถานียอมรับความคิดเห็นของเธอ รวมทั้งนักข่าวและเจ้าหน้าที่ทุกคน ซึ่งในกรณีนี้สถานีฯก็ไม่ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนน.ส.มาร์ติน แต่อย่างใด แต่เพื่อให้เธอได้เข้าใจสถานการณ์ในไครเมียอย่างแท้ สถานีฯได้ส่งเธอไปยังไครเมียแล้ว เพื่อให้เธอมีโอกาสได้ใช้วิจารณาณเองว่า จริง ๆ แล้วสถานการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไร

    อึ้ง ทีวีรัสเซียเตะโด่ง"พิธีกรข่าวสาว"ไป"ไครเมีย"ฐานวิจารณ์โจมตีรบ.-ชี้"จะได้รู้จริง" (ชมค
     

แชร์หน้านี้

Loading...