ขอความรู้จากท่านที่ปฏิบัติธรรมเป็นประจำค่ะ..

ส่วนตัวแล้วก่อนนอนจะต้องสวดมนต์ที่เคยสวดเป็นประจำทุกคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาเมตตาใหญ่ ถ้าคืนไหนไม่สวดหรือรู้สึกว่าขี้เกียจจะรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีอะไรมาดลใจว่าถึงเวลาต้องสวดแล้วนะ พอลองจะไม่สวดทีไรจะต้องมีอะไรมาสะกิดใจอยู่ตลอด พอสวดแล้วก็สบายใจ แล้วก็นั่งสมาธิต่อ เวลานอนก็กำหนดสมาธิและสวดมนต์บทอื่น ๆ ในใจไปด้วย สวดมนต์พร้อมกับดูลมหายใจตามไปพร้อม ๆ กัน ก็ทำอย่างนี้มาเป็นประจำจนหลับไปนอนไหนก็ไม่รู้ แต่ทุกครั้งจะไม่ลืมแผ่เมตตาตลอด ถึงแม้จะฝันส่วนใหญ่ก็เป็นแค่นิมิต ไม่ได้เคยเป็นการบอกเหตุดีเหตุร้ายอะไร แต่ก็ไม่ค่อยฝันร้าย มีแต่อาจจะฝันอะไรไปเรื่อยเปื่อยบ้าง แต่ก็หลับสบายทุกคืนเพราะคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาคุ้มครองอยู่เสมอ เพราะเช้าก็ใส่บาตร มีเวลาก็ทำบุญอยู่ตลอด กลับมาถึงบ้านก็สวดมนต์ แผ่เมตตา ทำสมาธิทุกวัน หากมีเวลาว่างหรือมีวันหยุดก็เข้าวัดปฏิบัติธรรม แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขจากบุญกุศลที่สร้างอยู่เป็นประจำค่ะ

 

http://palungjit.org/posts/8842674

ตามไปตอบกันหน่อยก้อดีค่ะ สงสัยมาก ถามคุณพ่อก้อไม่ทราบ กลัวเป็นพิธีกรรมที่ไม่ดีค่ะ
..ขอบคุณค่ะ

 

การนอนหลับแล้วฝัน ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมขอรับ เพราะการฝันเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ หากมีจิตใจจดจ่อ หรือมีความเป็นห่วงหาอาลัย กับหลายๆเรื่องฯลฯ ระบบการทำงานของร่างกาย ก็จะนำเอาความที่มีจิตใจจดจ่อที่ได้ประสบมา มาผสมรวมกัน (ปรุงแต่ง) เป็นเรื่องเป็นราวต่างๆ เกิดขึ้นขณะเรานอนหลับอยู่
ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะฝันขณะหลับ คุณก็ต้องอย่าห่วงหาอาลัยในหลายสิ่งหลายๆอย่าง อย่าเอาใจจดจ่อหรืออย่าได้สนใจในสิ่งที่คุณได้ประสบพบเห็น ซึ่งก็เป็นเรื่องยาก ที่จะทำได้เพราะหากเราสนใจหรือเอาใจจดจ่อ เกิดความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ฯลฯ โดยไม่รู้สึกตัว ก็จะเกิดฝันเป็นบางครั้ง หรืออาจจะไม่ฝันก็ได้ หากข้อมูลเหล่านัน ไม่ได้ถูกระบบการทำงานของร่างกายกระตุ้น ขอรับ

 

ก่อนนอน ผมก็ นับลมหายใจเข้าออก ลมเข้ารู้ ลมออกรู้ ...........
หายใจเข้า หายใจออก นับในใจ 1
หายใจเข้า หายใจออก นับในใจ 2
ทำไปเรื่อยจนครบ 10 ก็เริ่มใหม่ นับลมหายใจต่อเรื่อย ๆ ก็หลับเอง
สมาธิดี ๆก็ไม่ฝันเลย....ถ้าสมาธดีจริง ๆ กำหนดตื่นได้ตามเวลาที่ต้องการครับ...ถ้าสมาธิดี ๆ เราไม่ฝัน แต่จะให้คนอื่นฝันเห็นเราก็ได้.

 

เจริญสมาธิก่อนนอนช่วยได้มากๆค่ะ คือเมื่อสวดมนต์เสร็จก็กำหนดลมหายใจเขาก็รู้ชัดว่าเข้า ออกก็รู้ว่าออก จะใช้คำภาวนาว่าพุทโธ ก็ไ้ด้ ในท่านอนหลับตาค่ะ ภาวนาจนหลับไป ทำได้แบบนี้จะไม่ฝัน ไม่ฟุ้งซ่าน การฝันหรือไม่ฝัน อยู่ที่มีสติก่อนนอน กำหนดจิตจนเกิดความสงบ นิ่ง สบาย และยังกำหนดเวลาตื่นได้อีกด้วยค่ะ ลองทำดูนะคะ

 

นอนสวดมนต์ค่ะ สวดในใจนะคะ ถ้าฟุ้งมากจริงๆ สวดไปเลยค่ะบทไหนก็ได้ที่ตนเองชอบ สวดไปจนหลับนั่นแหละ...รับรองได้ผลค่ะ

 

วิธีทำสมาธิที่มายใช้ ก่อนนอน (ไม่สงวนลิขสิทธิ์) คือ

1. วิธีทำสมาธิช่วงเย็น คือ ออกไปเดิน+วิ่งจงกลม ถ้าไม่ได้ออกไปสนาม ก็เอ็กเซอร์ไซร์จงกลมอยู่ในบ้าน เหมือนๆในวีดีโอ อย่างน้อย 30 นาที - 1 ซม. อิอิ
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=1LCtBSv_nCc"]流行瘦身襙 - YouTube[/ame]


2. วิธีทำสมาธิเมื่อเข้านอน ตอนแรกรู้ลมหายใจ แล้วปล่อยวางผ่อนคลายร่างกายทุกส่วนให้เบาสบาย บางเบา ว่างบางเบา (รู้ตัวทั่วพร้อม) แล้วอยู่กับสภาวะนั้นจนหลับ
(คือวิธีเดียวกันกับที่คุณธรรมชาติอธิบาย แต่อธิบายคนละแบบ ในทางปฏิบัติคือสิ่งเดียวกัน)

ไม่ค่อยฝันค่ะ เคยมีฝันบ้างเหมือนกันค่ะ เวลาจะมีคนมาจีบ จะฝันให้รู้ล่วงหน้า 1 อาทิตย์
และเวลาคนนั้นจะจากไปก็จะฝันให้รู้ล่วงหน้า 1 อาทิตย์ เคยเป็นเช่นนี้กับคนที่เข้ามาจีบประมาณ 4 คน
ทุกคนมาเองแล้วก็ไปเอง ก็ได้แต่รู้ไปตามธรรม แล้วก็วาง (อย่างงี้ก็มีด้วย เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป) อิอิอิ

 

ส่วนตัวผม อาจไม่เหมือนท่านอื่นนะครับ

ผมเปิด MP3 ฟังพระท่านเทศน์ไปเรื่อยๆ จนหลับไปเองครับ

ถ้าจิตจดจ่อกับธรรมะที่ได้ฟังไปเรื่อยๆ มักจะไม่ฝัน

แต่ถ้าฝันก็จะเป็นฝันที่เรียบง่าย ไม่มีฝันร้ายน่ะครับ

ลองๆ หาโหลดไปทดลองดู ก็น่าจะไม่เสียหายนะครับ

ปล. โดยจริตผม ชอบเสียงท่านปราโมทย์ ครับ เสียงเย็นๆ ฟังสบายดีครับ