กรรมอันใดที่ทำให้เราต้องมาอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมไม่ดี

ดิฉัน ขอเริ่มเล่าเรื่องสั้นให้ฟังนะค่ะ เมื่อก่อนทำงานอยู่แถวๆรังสิต และเริ่มซื้อรถมาใช้ เอง แต่ติดปัญหาเงินเดือนไม่แน่นอน คือที่ทำงานเก่ากินรายวัน บางทีก็มีโอที บางทีก็ไม่มีเป็นเดือน กลัวเงินไม่พอส่งงาวดรถ ก็เลยย้ายมาทำงาน ที่บ้านแฟน และได้อาศัยบ้านแฟนอยู่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อยู่ใหม่ๆก็ดี พอผ่านไปได้สักปี อะไรๆก็เปลี่ยน คนที่นี่มีครบของความเลว ทั้งค้ายา เด็กเสพยา การพนันเล่นได้ทุกวัน เหล้ายากินได้ไม่เบื่อ วันดีคืนดี ก็ทะเลาะกัน ตี1 ตี2 ไม่รู้จักหลับนอน อยากจะเปิดเพลงดังก็เปิด ไม่รู้จักเวลาร่ำเวลา ว่าควรไม่ควร ไม่มีความเกรงใจ การพูดจาก็มักจะมีคำด่านำหน้ามาก่อน ไอ้แฟนเราก็ใช่ย่อย แต่ก่อนชอบเล่นการพนัน จนชนิดขายของกิน ก็ยังไม่เข็ด ก็พอทะเลาะกับเรา เราไม่ยอม ก็ห่างที แต่ก็ใช่ว่าจะเลิก เผลอเมื่อไร หรือเราไม่อยู่ ก็ไปเล่นเหมือนเดิม พอเราพูดก็บอก ไม่ได้ขอตังค์ใครมาเล่น อย่าเดือดร้อน เราไม่ทะเลาะ ก็เลยเงียบ ไม่ต่อปากต่อคำ มันเป็นเวรกรรมอะไรของเรานะ ถึงได้ต้องทนอยู่ อยากจะหนีออกไปให้ไกลก็กลัวจะไปไม่รอด เพราะต้องส่งงวดรถด้วย เงินเดือนก็ไม่เยอะเท่าไร ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้มีโชคลาภก้อนใหญ่สักครั้ง จะหนีไปให้ไกล ๆ เบื่อสภาพ แวดล้อมแบบนี้เต็มทน สำหรับถามว่าถ้าอยู่ๆแยกจากกัน แล้วไม่เสียใจ เหรอ ก็อาจจะมีบ้าง แต่อยากพาตัวเองหนีจากขุมนรกแบบนั้นมากกกว่า ใครพอจะช่วยแนะนำวิธีทำใจให้เราเย็นลงได้บ้าง เข้าบ้านเขาทีไร เหมือนมีไฟอยู่ในบ้านเลยมันร้อน มันหงุดหงิด เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เลย

 

พึ่งผ่านพ้นมาครับเป็นเวลาหลายปีเลยครับที่ต้องทนตอนนี้ผ่านมาแล้วครับรู้สึก โล่งมากเลยครับ อนาคตต่อจากนี้ขอให้เจอที่ดีๆ ครับ

 

กรรมที่ทำให้ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวทรามทั้งหลายดังที่ท่านจขกท เล่ามา ไม่ใช่เพียงกรรมอย่างใดเพียงอย่างเดียว..แต่เกิดจากกรรมหลายอย่างมาส่งผล ..พึงทราบหลักการเสียก่อนว่า กรรมนั้น จะให้ผลสอดคล้องตามเจตนาเดิมที่ตนเคยทำมาแล้วในอดีต เช่น เคยอุปการะเอื้อเฟื้อใครๆให้ได้พักอาศัยสะดวกสบายใกล้ถิ่นอยู่สะดวกตามที่ตนปรารถนามาในอดีต บัดนี้ตนจึงได้รับความเอื้อเฟื้อจากแฟนให้ได้มาพักที่บ้านเขา ซึ่งสะดวกต่อการเดินทางไปทำงาน นี้เรียกว่าเป็น"ผลของบุญ"...

สำหรับความไม่บริบูรณ์ด้วยโภคะหรือต้องเข้าถึงความมีหนี้สินนั้น อย่างแรกมาด้วยกรรมที่เคยตระหนี่มาก่อน..อย่างหลังมาด้วยกรรมที่เคยทุจริตบิดพลิ้วไม่ชำระหนี้ที่ยืมมา ..

ส่วนการที่ต้องได้เห็นคนชั่วขายยาบ้าง เด็กเสพยาบ้าง ก็ด้วยบาปกรรมที่ตนเคยล่วงทำมาด้วยการเกี่ยวข้องกับการค้าขายหรือเป็นคนส่งสิ่งเสพติดต่างๆให้ชาวบ้านมาก่อน แม้ใครๆเขารังเกียจตนก็ไม่สนใจไม่เลิกหรือไม่พาตนให้พ้นไปจากชุมชนนั้น สร้างความรังเกียจอึดอัดคับข้องแก่ชาวบ้านอย่างไม่เกรงใจ ผลที่สอดคล้องจึงมาปรากฏเหมือนถูกนำมาโยนมาทิ้งท่ามกลางดงยาเสพติดฉะนั้น...

ทั้งความที่ตนเองเคยทำเสียงรบกวนชาวบ้านในทำนองเดียวกับที่เหล่าคนพาลในชุมชนที่ท่านอยู่ทำกัน ท่านจึงต้องถูกเสียงรบกวนด้วยอาการต่างๆ ดังที่ท่านได้เล่ามานั่นเเหละ

และยิ่งกว่านั้น ความที่ตนก็เคยบันเทิงในอบายมุขมีการพนันเป็นต้นมาแล้วเช่นกันในกาลก่อน กรรมนั้นจึงจัดสรรค์คู่ที่มีอุปนิสสัยคล้ายกันมาให้..พึงทราบว่า ไม่มีสิ่งใดเกิดเองได้โดยปราศจากเหตุหรือเกิดลอยๆแบบบังเอิญเลย..

บัดนี้ท่านจขกท พึงเห็นโทษภัยว่าบาป(เจตนาชั่ว)ทั้งหลายย่อมนำแต่ทุกข์โทษมาให้ตนเท่านั้น เมื่อเราแก้ไขกรรมเก่าที่ล่วงสำเร็จไปแล้วไม่ได้ ก็พึงทำกรรมใหม่ที่ดี มีการประพฤติศีล ให้มั่นคง กระตุ้นเตือนตนให้ยินดีในการให้ทานหรือใส่บาตรบ้างตามโอกาส สวดมนตร์ ศึกษาพระธรรมให้มาก ย่อมได้ปัญญารักษาตนไว้ในความเกษมสวัสดี เป็นการเพิ่มพูนกุศลให้ตนได้ในปัจจุบัน หากทำได้มากและบ่อยก็อาจมีกำลังมากสามารถปัดเป่าอุปัทวะ(อุบาท)ทั้งหลายที่ต้องพบเจอให้หมดหรือลดลงไปได้..แต่แม้ไม่อาจช่วยอะไรๆในเวลานี้ได้ กุศลเหล่านี้ย่อมไม่สูญหายไปใหน จะตามเกื้อกูลอุปการะท่านในภายหน้าหรือ..สัมปรายอีกมากชาติได้ พึงยินดีในการเจริญกุศลทุกชนิด แม้ด้วยการแผ่เมตตาไปยังเหล่าชนผู้หลงทำชั่วในละแวก..รวมทั้งแฟนเนืองๆ..บางทีหากอกุศลของท่านมีกำลังอ่อนลง กุศลที่ท่านหมั่นทำอาจเบียดแทรกให้สิ่งเลวร้ายปราศไป ความสงบสันติเหมือนในช่วงปีแรกที่ท่านได้พบอาจย้อนกลับคืนมาก็ได้....

เรื่องแฟนนั้น หากท่านพูดคุยกันด้วยดี หว่านล้อมให้เขาเลิกการพนันเสียได้ ย่อมเป็นเรื่องดีแก่ชีวิตคู่ มิฉะนั้น ท่านจะเข้าถึงความเดือดร้อนขาดแคลนยิ่งกว่านี้ในภายหน้า เพราะ นักเลงการพนัน ไม่ได้ทำลายเฉพาะตนเองเลย แม้ครอบครัวบริวารย่อมถูกผลาญย่อยยับไปด้วยได้...จึงควรตกลงกับแฟนเสียตั้งแต่เวลานี้..ที่ยังไม่สายเกินไป..

หากสภาพแวดล้อมยังไม่ดีขึ้น ก็พึงพิจารณา หาทางยุติวิบากบาปด้วยการโยกย้ายไปที่อื่นที่ดีกว่าถ้าตนไม่เดือดร้อนจนเกินไป เพราะการอยู่ร่วมกับคนเสพยาขายยาเสพติดนั้น ค่อนข้าง"อันตราย" ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงเลย...

เป็นกำลังใจให้พ้นทุกข์และปลอดภัยตลอดไปครับ..

 

กรรมในอดีตชาติไม่รู้ครับ แต่กรรมในชาตินี้คือคบคนพาล
"อเสวนา จ พาลานํ " หนึ่งในมงคล 38 คือไม่คบคนพาล
คุณคบคนพาล คุณก็ต้องอยู่ในหมู่คนพาล ก็ต้องทุกข์ใจเป็นธรรมดา
แล้วควรจะเลิกมั้ย ก็ขึ้นอยู่กับคุณ แต่คนที่จะเป็นคู่กันต้องมี ศีล ศรัทธา ปัญญาเสมอกัน
ไม่งั้นอยู่กันไม่ยืด ต่อให้รักกันแค่ไหนก็ต้องเลิกกัน คนดีกับคนชั่วทนกันไม่ได้นานหรอก
นอกเสียจากมีเวรต่อกัน เรื่องรถ,ที่อยู่ก็หางานใหม่ ที่พักใหม่ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ขาย ของนอกกายหาใหม่ได้ อย่าไปเสี่ยงกับคนพาล เกิดเขาแอบขโมยรถไปขายคุณกล้าแจ้งตร.จับเขามั้ย(สมมุติน่ะ)

 

บุคคลพึงเสวยทุกขเวทนานอกจากวิบากกรรม ไม่มี

อันนี้ผมไม่รู้ใครกล่าวไว้นะครับ แต่ผมว่าเป็นความจริงเลยทีเดียว เมื่อเราต้องทนทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นย่อมไม่ใช่บังเอิญ นั่นย่อมสมควรเกิดขึ้นแล้ว ขอให้คุณอดทนผ่านมันไปแล้วตั้งมั่นอยู่ในกุศลธรรมให้มาก พยายามอดทนอดกลั้นอย่าก่ออกุศลใหม่เพิ่ม ปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นนะครับ แล้วหมั่นเจริญพรหมวิหาร 4 ความทุกข์ทั้งหลายเมื่อตั้งอยู่แล้วย่อมมีวันสิ้นสุดลงเหมือนกับทุกๆ อย่าง สุดท้ายแล้วมันก็ต้องผ่านไปอยู่ดีครับ

 

ขอบพระคุณอย่างสูง ที่ทำให้ดิฉันระลีกได้ และได้สติ ดิฉันคงอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะใช้ ขันติเข้าช่วย พร้อมจะบำเพ็ญกุศลทุกกรณี ที่มีโอกาส สักวัน ดิฉันคิดว่า ดิฉันต้องหลุดพ้นมันไปได้ และก็จะไม่ขอจองเวรกับใคร หากสิ่งนี้มันคือผลพวงจากอดีตชาติ ที่ดิฉันได้ก่อกรรมไว้ ก็จะขอชดใช้ ให้หมดสิ้นภพกันในชาตินี้ให้จบสิ้นกัน สาธุๆ

 

ขอบคุณค่ะ ดิฉันจะอดทนค่ะ ภาวนาขอให้ผ่านพ้นในเร็ววันด้วยค่ะ555

 

ก็คิดเหมือนกันค่ะ ว่าสักวัน เราคงต้องเดินถึงทางแยก ถ้าตราบใด เขายังไม่ยอมเลิก อบายมุข ก็คงต้องทางใครทางมัน สำหรับรถ ตอนนี้ยังขายไม่ได้ เพราะที่ทำงานไม่มีรถรับส่ง แถมอยู่บ้านนอก ไม่มีแม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ให้เห็น ขืนขายคงได้เดินมาทำงานแน่ อีกสักพัก คงจะมี่ทางแก้ที่ดีกว่านี้แน่ ดิฉันเชื่อไว้อย่างนั้น

 

อนุโมทนาท่านจขกท ในการปวารณาไม่จองเวรใครๆครับ ส่วนคำกล่าวที่ว่าจะขอชดใช้กรรมอะไรๆให้หมดนั้นใคร่ขอติงว่า เป็นท่าทีที่ไม่ถูกต้องเลย ...

หากเราสามารถจะแก้ไขหรือหลีกเลี่ยงผลของบาปกรรมที่เลวร้าย หรือมีลู่ทางอื่นที่ดีกว่าที่เลือกทำได้ ก็ควรทำทันที พระผู้มีพระภาคไม่เคยตรัสสอนใครๆให้อยู่รอชดใช้ผลของกรรมที่ไม่ดีเลย แต่กลับตรัสสอนให้ "เพียร"เพื่ิอพ้นทุกข์...การปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม มีแต่ส่งตัวไปสู่ความไม่เกษมสวัสดี เหมือนกอสวะที่ลอยตามกระแสน้ำย่อมถูกคลื่นซัดไปกระแทกฝั่งหรือหินโสโครกแตกพังไปเท่านั้น...หากเรายังไม่อาจพาตนพ้นวิบากเลวได้ในเร็ววันก็ไม่ละความขวนขวายที่จะพาตนให้พ้นจากวิบากบาปให้เร็วที่สุดในอนาคต วิบากบาปบางอย่างเป็นท่อธารนำผลของบาปอื่นๆมาส่งผลท่วมทับให้ตนได้รับได้ ถึงขนาดเป็นภัยแก่ชีวิตได้ ดังนั้นพึงใคร่ครวญเพิ่มความระมัดระวังให้มากในขณะที่ยังต้องอยู่ท่ามกลางพาลชนนะครับ...

เป็นกำลังใจให้ท่านจขกท พ้นวิบากทุกข์ เข้าถึงความหมดหนี้และบริบูรณ์ในโภคะตลอดจนปลอดภัยทุกเมื่อครับ...

 

ขอเอาใจช่วยด้วยนะคะ
ขอให้คุณหลุดพ้นจากเวรกรรมนี้โดยเร็วพลันด้วยเทอญ
ด้วยคุณพระและกุศลค่ะ


-----------------------------------------------------

 

ขอขอบคุณและอนุโมทนาสาธุกับคุณddmanที่ให้คำตอบนี้มาแ่ก่
เจ้าของกระทู้ เพรา้ะอ่านแล้วทำให้เข้าใจหลายอย่าง
ทำให้ฉันซึ่งไม่ใช่เจ้าของกระทู้อ่านแล้วเห็นถึงข้อบกพร่องของตัวเอง
สมควรแก้ไขปรับปรุงตัวเองเพื่อลดการก่อโทษหรือบาปกรรมให้แก่ตัวเอง
โดยไม่รู้ตัว

คิดว่าคำอธิบายของคุณddmanเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอีกหลายท่าน
นอกเหนือจากเจ้าของกระทู้และฉันเองด้วย

อีกทั้งขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ส่งคำถามนี้มาด้วยนะคะ

นอกเหนือจากนี้ ก็ขอขอบคุณคำตอบของทุกท่านด้วยเพราะ
ให้มุมมองและความเข้าใจอย่างอื่นๆอันเป็นการเพิ่มเติมจาก
คำตอบของคุณddmanด้วย ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ


------------------------------------------------

 

อขอบคุณและอนุโมทนาสาธุกับคุณddmanที่ให้คำตอบนี้มาแ่ก่
เจ้าของกระทู้ เพรา้ะอ่านแล้วทำให้เข้าใจหลายอย่าง
ทำให้ฉันซึ่งไม่ใช่เจ้าของกระทู้อ่านแล้วเห็นถึงข้อบกพร่องของตัวเอง
สมควรแก้ไขปรับปรุงตัวเองเพื่อลดการก่อโทษหรือบาปกรรมให้แก่ตัวเอง
โดยไม่รู้ตัว

คิดว่าคำอธิบายของคุณddmanเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านอีกหลายท่าน
นอกเหนือจากเจ้าของกระทู้และฉันเองด้วย

อีกทั้งขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ส่งคำถามนี้มาด้วยนะคะ

นอกเหนือจากนี้ ก็ขอขอบคุณคำตอบของทุกท่านด้วยเพราะ
ให้มุมมองและความเข้าใจอย่างอื่นๆอันเป็นการเพิ่มเติมจาก
คำตอบของคุณddmanด้วย ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
ดีใจค่ะ ที่ทุกๆคำตอบ นั้นเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆคน ขออนุโมทนา กับddman ด้วยคนค่ะ