ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

วันนี้ขออนุญาตพี่น้ำใส ขอพื้นที่เล็ก ๆ เล่าประสบการณ์จากการบูชาดวงแก้วจุลจักรพรรดินะคะ
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังค่ะ



ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเป็นอะไรไม่ทราบค่ะ
อาการคือไม่ค่อยมีสติ คิดฟุ้งซ่านเรื่องโน้นเรื่องนั้นเรื่องนี้
ทั้งเรื่องที่ทำงาน ทั้งเรื่องปัญหาส่วนตัวกับพี่ ๆ ในที่ทำงาน
บางเรื่องเราพูดอย่างหนึ่ง เขากลับเข้าใจอีกแบบหนึ่ง จนเรื่องราวบานปลายใหญ่โต
จากคนที่สนิทรักใคร่กลับทะเลาะกันจนเข้าขั้นเค้าหาว่าตาลก้าวร้าว T^T



ตอนนอนหลับก็นอนหลับไม่สนิท คือเรื่องที่คิดเอาไว้ตอนกลางวันเหมือนควันธูป
แต่พอตกดึกจะกลายเป็นความฝันที่ไม่มีเรื่องราว ไม่มีต้น ไม่มีปลาย ไม่มีตอนจบ
หลาย ๆ คืนเข้าก็เหนื่อยค่ะ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ
หลาย ๆ คนที่เคยประสบปัญหาแบบนี้คงพอเข้าใจนะคะ


ตาลพยายามเจริญอาณาปาณสติ กำลังก็ยังไม่แก่กล้าพอที่จะข่มมันลงได้ค่ะ
เจริญวิปัสนาญาณก็ยังกำลังไม่พอเช่นกันค่ะ ยังอ่อนหัดอยู่มาก
พยายามฟังเทปธรรมะของท่านจิตโตและหลวงพ่อวัดท่าซุงให้ใจรื่นเริงเบิกบาน
ก็เบิกบานประเดี๋ยวประด๋าว เลิกฟังเป็นอันเสร็จนิวรณ์ ๕ ค่ะ
เกิดทุกขเวทนาเล็ก ๆ หลาย ๆ วันติดกัน เป็นหลายคืน เป็นสัปดาห์ และเป็นเดือน


วันหนึ่งได้ถือดวงแก้วจุลจักรพรรดิในมือขณะนั่งสมาธิ (ที่แสนจะวุ่นวายเพราะใจไม่สงบ)
แล้วเผลอหลับนอนกอดค่ะ ก่อนนอนก็ขอบารมีท่านขอกระแสเย็น ๆ ให้ชื่นหัวใจหน่อยนะเจ้าคะ
ปรากฏว่าคืนนั้นไม่ฝันอะไรเลยค่ะ นอนหลับสนิทจนถึงเช้า
รู้สึกว่าได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง รู้สึกสดชื่นมาก ๆ ค่ะ
มีเรี่ยวมีแรงและมีกำลังจะสู้กับอุปสรรคต่อค่ะ


ตาลก็คิดว่ามันป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่านะ
จึงได้ทดลองเอาดวงแก้วจุลจักรพรรดิมานอนกอดอีกคืน
ปรากฎว่าหลับสนิทอีกคืนค่ะ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนพยายามอย่างไรก็ฟุ้งซ่าน
ตาลคิดว่ามันแปลกดีเลยนำมาเล่าสู่กันฟังตามประสาพี่ๆ น้อง ๆ ค่ะ

 

น้ำฝนขอเป็นเจ้าภาพถว่ายภัตตาหารแด่พระภิกษุ จำนวน ๒ รูป ที่มาปฏิบัติธรรม ณ วัดดอนธาตุ เป็นระยะเวลา ๑๕ วัน โอนแล้ว ๙๐๐ บาท วันนี้ เวลา 12:28:30 น. กราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ _/|\_

 

.....๑.วันอังคาร ที่ ๒๙ เม.ย. ๕๗ เวลา ๑๒.๒๗ น.

ได้โอนปัจจัยเข้า ธ. กรุงเทพ ๒๑๔-๔๐๖-๔๕๘๗

จำนวน ๕,๐๐๐ บาท

เพื่อสนับสนุนเป็นกำลังใจแก่พระภิกษุสามเณร อุบาสก และอุบาสิกาทั่วสารทิศ

ที่มาประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้งเป็นเวลา ๑๕ วัน
​

.....๒.วันอังคาร ที่ ๒๙ เม.ย. ๕๗ เวลา ๑๒.๒๘ น.

ได้โอนปัจจัยเข้า ธ. ไทยพาณิชย์ ๐๘๐-๒๕๒-๖๔๗๒

จำนวน ๓,๑๐๐ บาท

เพื่อบูชาดวงแก้ว ๓ ดวง (ชุดที่ ๑๑-๑๒-๑๓ ชุดละ ๑ ดวง)
​

 

ร่วมบุญถวายภัตตาหาร ฯ 155 บาท โอนวันนี้ เวลา 12:49 น. ธ.กรุงเทพ

อนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับพี่น้ำใสและทุกๆท่านด้วยค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณน้ำใสและญาติธรรมทุกท่านด้วยครับ สาธุ

 

<table class="tborder" cellpadding="6" cellspacing="1" align="center" border="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt1">
<hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> ผมขอร่วมเป็นเจ้าภาพต่อพระ 1 รูปทุกวัน ๆ ละ 1 จาม เป็นเวลา 15 วัน รวมปัจจัย 450 บาท

ขอแจ้งการโอนเงินครับ วันที่ 29/04/2557 เวลา 12.09 น. ผมโอนเงินจำนวน 450 บาทเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้วนะครับ


ขอบคุณครับ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
สาธุ อนุโมทนามิ </td></tr></tbody></table>

 

ขออนุโมทนาในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยค่ะ คุณสมบัติดวงแก้วพระปัจเจกฯ นั้น ท่านจะช่วยปรับธาตุของเราให้อยู่ในสภาวะปกติ

ในช่วงวิบากกรรมส่งผล กระแสของพระปัจเจกพุทธเจ้า และเทวดารักษาดวงแก้วจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา เบาจะหายไป

ขอเพียงเรามีความเคารพ และศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างแนบแน่นไม่สั่นคลอน ทุกท่านจะส่งกระแสหลั่งไหลมาช่วยเราอย่างเต็มที

ขออนุโมทนาบุญกับน้องตาลอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ได้ติดตามอ่านกระทู้ตลอด สำหรับดวงแก้วจุลจักรพรรดิ์ ดิฉันเห็นคุณน้ำใสเปิดโอกาสให้ได้บูชา ดิฉันมีความรู้สึกอยากได้ แต่เกรงว่า เมื่อได้มาแล้วจะบูชาได้ไม่เหมาะสม เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ ไม่แน่ใจว่า สามารถนำดวงแก้ววางไว้ รวมกับพระบูชาได้หรือไม่ หากไม่รบกวนจนเกินไป ขอความรู้คุณน้ำใส หรือคุณน้ำตาล ในเรื่องการบูชาดวงแก้วด้วยค่ะ
ขอสอบถามเพิ่มเติมค่ะ ดิฉันยินดีที่จะร่วมทำบุญถวายเทียน ๑๐๘ เล่ม และปล่อยปลา ๑๐๘ ตัวทุกสัปดาห์ ไม่ทราบว่า โอนเข้าบัญชีเดียวกับ กองบุญพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร แล้วให้แจ้ง รายละเอียด หรือมีบัญชีแยกเฉพาะคะ

ขอโมทนาสาธุการ กับการสร้างบุญกุศลที่ต่อเนื่องของคุณน้ำใส และขอบพระคุณที่ให้โอกาสดิฉัน และผู้ร่วมบุญท่านอื่นๆ ได้สร้างกุศลร่วมกันค่ะ

 

ร่วมบุญโรงทาน 100 บาท
ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับทุกท่านด้วยค่ะ​

 

วันนี้ 29/4/57 เวลา 8:46น. ได้โอนเงินจำนวน 1800.บาทเพื่อร่วมบุญดวงแก้วชุดที่ 11 สองดวง เข้าบัญชี SCB เลขที่ 0802526472

โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธู

 

ดวงแก้วจุลจักรพรรดิของพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น เป็นเรื่องของบุพกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันมาแต่อดีต หรือแม้แต่ธาตุกายสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ดิฉันนำมาประมูล หรือให้บูชาก็ตาม ล้วนแต่เป็นเรื่องบุญที่สั่งสมมาแต่อดีตทั้งสิ้น

เนื่องจากดวงแก้ว หรือธาตุกายสิทธิ์นี้ ล้วนแต่มีเจ้าของ หรือเป็นเรื่องของปวงเทพยดาที่ท่านรักษาได้สงเคราะห์ให้ได้ไปบูชา หรืออาจจะเป็นเรื่องบุญส่งผล ถึงวาระโอกาสที่จะได้ดวงแก้ว หรือธาตุกายสิทธิ์ไปครอบครองเป็นไปตามเหตุปัจจัย

ดิฉันเองเห็นปาฏิหาริย์ของดวงแก้วจุลจักรพรรดิของพระปัจเจกพุทธเจ้าหลายครั้ง ปรารถนาที่จะนำเก็บไว้แก่ญาติของตน แต่ถ้าไม่มีบุพกรรมเนื่อง หรือบุญยังไม่ถึง เป็นเหตุให้ดวงแก้วเหล่านั้น อันตธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย นี้เป็นประสบการณ์ที่พบด้วยตนเองค่ะ

การบูชาดวงแก้วนั้น ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เหมือนกับการบูชาพระพุทธรูปทุกประการ คือ

๑.อามิสบูชา ควรถวายผลไม้ ดอกไม้หอม หรือน้ำเปล่า ๑ แก้ว งดอาหารคาวทุกชนิด

๒.สร้างบุญใดก็ตาม อุทิศบุญนั้นแก่เทวดารักษาดวงแก้วทุกครั้ง

เนื่องจากเทวดารักษาดวงแก้วนั้น เป็นเทวดาชั้นสูง ส่วนใหญ่จะบำเพ็ญบารมีมานานมาก โดยเฉพาะเทวดาที่รักษาดวงแก้วพระปัจเจกฯนั้น

แต่ทรงอารมณ์พระอริยเจ้า หรือบางท่านก็เป็นพระอริยเจ้า ซึ่งได้รับการคัดเลือกมาจากท้าวสักกเทวราช เพื่อให้ทำหน้าที่สงเคราะห์แก่ผู้มีบุญที่ได้ครอบครองดวงแก้วมณี อย่างน้อยไม่ให้ตกทุกข์ได้ยาก ยามเกิดกลียุค หรือยุคเข็ญ

๒.ปฏิบัติบูชา คือ การสวดมนต์ไหว้พระ และเจริญพระกรรมฐาน แล้วน้อมถวายบุญนั้นแก่เทวดารักษาดวงแก้ว



สำหรับการวางดวงแก้วให้วางในระดับต่ำกว่าพระพุทธรูปจะเหมาะสมตามสมัยนิยม

สำหรับผู้ที่ไม่มีเชื้อสาย หรือไม่เึคยเกี่ยวเนื่องกับดวงแก้วมณี และธาตุกายสิทธิ์ในสายนพเก้าไตรกาลนี้ จะไม่เชื่อถือ และอาจจะมองว่า เป็นสิ่งไร้สาระ เปรียบเสมือนไก่ได้พลอย หรือลิงได้แก้ว

ดังนั้น ท่านใดที่มีดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือแก้วจักรพรรดิอื่น ๆ ขอให้รักษาดวงแก้ว ดุจรักษาใจตนเองให้ใส เพื่อเทวดารักษาดวงแก้วจะได้สงเคราะห์ให้เรา ยามตกทุกข์ได้ยาก ยามวิบากกรรม หรือความเดือดร้อนต่าง ๆ ส่งผล

หรือหากท่านใด ผลบุญส่งผลอยูู่่่แล้ว ก็ยิ่งจะทำให้ได้รับความสุข ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ


ส่วนเรื่องการร่วมบุญถวายเทียน และปล่อยปลานั้น เข้าบัญชีกองบุญพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตรค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ kratium อีกครั้งค่ะ

Numsai

 

เดิมทีตั้งใจจะลงประวัติดวงแก้วชุดดำรงดิเรกฤทธิ์ต่อ แต่เนื่องจากติดภารกิจหลายอย่าง ประกอบกับจำกัดด้วยเวลา และหน้าที่บางอย่าง อันเกิดจากผู้เคยมีพระคุณท่านหนึ่งเสียชีวิตลง และต้องช่วยท่านผู้นั้นด้วยการบำเพ็ญภาวนา

ต้องขออภัยกับทุก ๆ ท่านอีกครั้งหนึ่ง และเนื่องจากดิฉันได้รับปากคุณน้ำฝนที่จะนำดวงแก้วมณีนาคราชของท่านพญามุจลินทร์นาคราช และคู่บารมีออกประมูล เพื่องานบุญในพระพุทธศาสนา

วันนี้ขออนุญาตนำดวงแก้วมณีนาคราชสีเขียว ซึ่งคุณน้ำฝนได้นำมาประมูล ซึ่งจะนำปัจจัยจากการประมูลดวงแก้ว ๑๐๐% โดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่องานในพระพุทธศาสนา โดยปิดประมูลในวันแรงงานที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๔๕ น. ตามมหัทธโณฤกษ์

วันนี้จึงขึ้นไปกราบท่านท้าวสักกเทวราช เพื่อขอพบท่านมุจลินทร์เทวบุตร ซึ่งบัดนี้เคลื่อนภพอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราช เป็นอินทกะองค์หนึ่งของท่านท้าววิรูปักษ์ ด้วยเหตุที่จะนำดวงแก้วของท่านออกประมูล

ขอนำข้อความการสนทนาบางส่วนกับท่านมุจลินทร์เทวบุตร ต่อหน้าพระพักตร์ท้าวสักกเทวราช เพื่อเป็นธรรมทานแก่ท่านผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ และนางแก้วทุกท่าน

".................................

แท้จริงพระโพธิสัตว์ไม่ว่า บารมีใดก็ตาม หากยังไม่ได้ทรงอารมณ์พระอรหันต์ ยังมีความพร่องอยู่เสมอ

หากนางแก้วถือสาหาความ ก็จะทำให้ศรัทธาไม่มั่นคง และปรารถนาจะลาขาด เรื่องบางอย่างเป็นเรื่องเล็กน้อย ยอมได้ก็ยอมไป เพื่อความสำเร็จในการโปรดสรรพสัตว์ในวันหน้า

อย่าให้ท่านเสียกำลังใจ ผู้ที่รู้ใจที่สุดเป็นผู้ที่มีผลต่อกำลังใจของพระโพธิสัตว์มากที่สุด จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่การสนับสนุนของนางแก้วเป็นกำลังสำคัญ

ยิ่งนางแก้วไม่มีศรัทธาที่เข้มแข็งแล้ว จะไม่มีแรงผลักดันให้พระโพธิสัตว์เร่งรัดในการเรียนรู้ หรือสร้างบารมีต่อ เหตุที่พระโพธิสัตว์ลาพุทธภูมินั้น ส่วนหนึ่งขาดการสนับสนุนจากนางแก้วนั่นเอง เอาละเราไม่รบกวนเวลาของเธอแล้ว ขอให้เธอจงเร่งทำหน้าที่ของเธอให้เต็มที่เถิด"

ผลบุญใดที่ได้จากการให้ธรรมทานครั้งนี้ มีผลเพียงใด ขอจงบังเกิดแก่ท่านท้าวสักกเทวราช ท้าววิรูปักษ์ และท่านมุจลินทร์เทวบุตรด้วยเถิด สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

๑ พค. ๕๗ ๑๓.๔๕ น.-ประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา..

​

ดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา ก่อนสมัยพุทธกาลพระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้า

ดวงแก้วมุจลินทรราชันย์ เป็นดวงแก้วประจำตัวพญามุจลินทร์นาคราช ปัจจุบันเคลื่อนภพอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ผู้ดูแลดวงแก้ว คือ พญาจักรภพโภคะนาคราช พร้อมบริวาร

ส่วนดวงแก้วอัปสรสวรรค์มนตรา เป็นดวงแก้วประจำกายของพระนางสุวรรณฑริกาเทวี พระมเหสีองค์แรกของพญามุจลินทร์นาคราช ผู้ดูแลปัจจุบัน คือพระนางอัปสรสวรรค์ พร้อมบริวาร

ดวงแก้วทั้งสองดวงนี้ เป็นดวงแก้วของคุณ NanfonBaanfa ได้นำออกประมูล เพื่อนำปัจจัยมาบำรุงพระศาสนา ๑๐๐% โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ

เริ่มต้นประมูลที่ ๒๓,๗๗๗ บาท​

กติกาในการประมูล


๑. ประมูลวันพฤหัสบดีที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ภายใน ๑๓.๔๕ น. ตามมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง

๒. รายการประมูลจะมอบแด่ท่านที่ประมูลราคาสูงสุดภายในเวลาที่กำหนด (ตามเวลาเว็บพลังจิต.org)

๓. หากที่มีผู้ประมูลราคาสูงสุด และเวลาเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยผู้ที่ทำการโพสต์ก่อนเป็นอันดับแรก

๔. เมื่อปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-ด้วยค่ะ

กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

พุทธารา โรจนฤทธิกร
เลขที่ 732-2-41469-9
ธ.กสิกรไทย
สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ

​

ปัจจัย ๑๐๐% โดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อร่วมบุญดังนี้

๑. ๔๐ % คุณน้ำฝนได้ร่วมบุญทำอุณาโลม และเครื่องประดับองค์พระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ

๒ ๖๐% คุณน้ำฝนจะนำไปร่วมบุญต่าง ๆ ดังนี้

- ร่วมสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้า หน้าตัก ๔ ศอก ณ วัดวีระโชติธรรมาราม จ.ฉะเชิงเทรา

- ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ ทรงจตุรมุข ๔ ชั้น วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี

- ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ ปางเปิดโลก สูง ๕๙ เมตร ณ สถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ สาขาเชียงดาว จ.เชียงใหม่

- ร่วมบุญโครงการเนกขัมมภาวนา ณ วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๔ พ.ค.๒๕๕๗ (ช่วงวิสาขบูชา)

ขออนุโมทนาบุญกับคุณน้ำฝน และผู้ร่วมประมูลทุกท่านด้วยค่ะ

Numsai


หมายเหตุ สำหรับสีของดวงแก้วทั้งสอง หากอยู่ในห้องจะมีความเข้มมากกว่าตามที่เห็นในภาพ

 

..ประวัติดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา..


ย้อนหลัง ๔๘๐๐ ปี ก่อนสมัยพุทธกาล เกิดมีเมืองบาดาลปรากฏขึ้นด้วยบุญฤทธิ์เมืองหนึ่ง นามว่า “ศรีสัตตนคร” ผู้ปกครองเมืองคือ พญามุจลินทร์นาคราช จุติแบบโอปปาติกะ

พญามุจลินทร์นั้นมีความองอาจ ผึ่งผาย สง่างามดุจเทพจุติลงมาเกิด ทรงจุติพร้อมดวงแก้วประจำกาย สีเขียว ด้วยเดิมนั้นทรงเคยเป็นพระโอรสของท้าวสักกเทวราช(พระอินทร์)มาจุติ และได้รับพร ๘ ประการ ก่อนลงมาสร้างบารมีในนาคพิภพ

ต่อมามีปรากฏเทพธิดาจุติจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จุติบนแท่นบรรทมของพญามุจลินทร์นาคราช มีสิริโฉมงดงามดุจเทพอัปสร มีฉวีสีทองทา มีกลิ่นกายหอมดุจมวลบุพชาติ พระองค์ทรงตั้งให้พระนามว่า “พระนางสุวรรณฑริกาเทวี”

พระนางมีความเมตตาต่อมวลนาคนาคีทั้งหลาย ทุกวันธรรมสวนะ พระนางจะถืออุโบสถศีล และได้พาสนมแลนางกำนัล ไปยังพระเจดีย์แห่งนาคพิภพ เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน

ส่วนพญามุจลินทร์นาคราชนั้น ทุกวันธรรมสวนะจะต้องขึ้นไป เฝ้าท้าวสักกเทวราช พร้อมท้าววิรูปักษ์ และเหล่ากษัตริย์จากเมืองบาดาลอื่น ๆ กาลนั้นพญาสุนันโทนาคราช ทรงเป็นนาคธิบดีราชาแห่งกษัตริย์ทั้ง ๗ เมือง ขณะนั้นพญาโภคนาคราช ดำรงตำแหน่งผู้เฝ้าคลังจักรพรรดิ

ทุกวันธรรมสวนะ พญามุจลินทร์นาคราชได้นำโอวาทจากท้าวสักกเทวราช มาปกครองเมืองโดยธรรม เหล่านาคานาคีทั้งหลายอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
วันหนึ่งพระองค์ปรารถนาจะเดินทางท่องเที่ยวในเมืองมนุษย์ จึงมอบหมายให้พญามัทราชนาคราช พระโอรสเป็นตัวแทนของเมืองไปเฝ้าท้าวสักกเทวราช แทนในทุกวันธรรมสวนะ

พญามุจลินทร์นาคราชนั้น ได้ยินพ่อค้าจากแดนสุวรรณภูมิได้กล่าวถึงพระฤาษีผู้ทรงอิทธิฤทธิ์องค์หนึ่ง นามว่า วาสุเทพ จึงปรารถนาที่จะพบพระฤาษีตนนั้น เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ จึงอธิษฐานแทรกดินให้ปรากฏต่อหน้าท่านวาสุเทพฤาษีทันที

แท้จริงท่านวาสุเทพฤาษีนั้น ก็คือพระเกษรีฤาษีนั้นเอง เหตุมีผู้เรียกนามท่านว่า วาสุเทพนั้น มีจากคำว่า วาสุ แปลว่า พื้นดิน เทพ หมายถึงเทวดา

ทุกครั้งที่เหล่าบรรดาพ่อค้าในสมัยนั้น เมื่อเดินทางค้าขาย และถูกโจรปล้นจะปรากฏพระฤาษีตนหนึ่งคอยช่วยเหลือให้พ้นไป อีกทั้งทรัพย์สินต่าง ๆ ไม่สูญหาย อีกผู้ใดอุปัฏฐากพระฤาษีตนนั้นดี ๆ จะมีทรัพย์เพิ่มขึ้นมากมาย หรือค้าขายได้กำไรงาม เหล่าบรรดาพ่อค้าเหล่านั้น ไม่มีผู้ใดทราบนามของพระฤาษีตนนี้แต่อย่างใด จึงเรียกท่านว่า “วาสุเทพฤาษี” หมายถึง เทวดาบนดินนั่นเอง

พญามุจลินทร์นั้น เพื่อพบกับท่านวาสุเทพฤาษี มีความเลื่อมใสศรัทธา ปรารถนาจะติดตามเพื่ออุปัฏฐาก

พระเกษรีฤาษีนั้น ทราบด้วยญาณว่า อดีตโอรสแห่งท้าวสักกเทวราชจะมาหาตน เพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์ จึงตรวจดูด้วยบุพกรรมแล้ว ไม่มีความเนื่องกันกับท่านโดยตรง อีกทั้งท่านจะต้องเข้าสมาบัติ

จึงได้พาพญามุจลินทร์นาคราช ได้แนะนำกับศิษย์อื่น ๆ ได้แก่ พญาอัสดรนาคราช พญาโภคนาคราช พญาวโรรสนาคราช และพญาภุชงคบดีนาคราช (พญาชมภุบดี)

จากนั้นได้แจ้งว่า ท่านจะต้องเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๕๐๐๐ ปี และได้พาศิษย์ทั้ง ๕ ไปฝากพระสีหบดินทร์ฤาษี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของศิษย์ผู้น้อง นามว่า อนันตฤาษี ซึ่งเคลื่อนภพไปก่อนหน้านี้

พระสีหบดินทร์ฤาษีนั้น เป็นผู้แตกฉานในวิชานพเก้าไตรกาลเช่นกัน จากนั้นท่านจึงไปยังเมืองสัตตรัตนนครเพื่อเข้าสมาบัติ โดยมอบหมายให้พระอินทรปัตต์ ซึ่งเป็นศิษย์ของพระอัสดงฤาษี เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์นาคเมืองต่าง ๆ

เนื่องจากทราบด้วยญาณทัสสนะว่าจะมีภัยจากพญาครุฑ จึงได้มอบหน้าที่นี้ให้แก่พระอินทร์ปัตต์ฤาษี

 

ประวัติดวงแก้วมุจลินทรราชันย์ ตอน ๒ ทราบข่าวการอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


พญามุจลินทร์ได้เรียนวิชาต่าง ๆ จากพระสีหบดินทร์จนสำเร็จ แล้วจึงลากลับเมือง ก่อนจะที่ศิษย์แต่ละเมืองจะแยกย้ายกันไป พระสีหบดินทร์ได้กล่าวว่า

“ในอนาคตกาลจะมีผู้สำเร็จพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า พระนามว่า “พระพุทธสมณโคดม” ขอพวกเจ้าทั้งหลายรอฟังข่าวไว้”

จากนั้นพญานาคราชทั้ง ๕ ต่างแยกย้ายกลับเมืองของตน พญามุจลินทร์นาคราชนั้น ได้ออกจากนาคพิภพเป็นเวลา ๑๕ วันของนาคพิภพ ( ขณะนั้น ๑ วันนาคพิภพเท่ากับ ๑ ปีในโลกมนุษย์)

เมื่อกลับยังเมืองศรีสัตตนครแล้ว ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้พระมเหสีและพระโอรสฟัง หลังจากที่พญามุจลินทร์นาคราชกลับจากโลกมนุษย์แล้ว มีความรู้สึก ต้องการปลีกวิเวกประพฤติพรหมจรรย์ จึงขอปลีกวิเวกฝึกจิตในถ้ำ ด้วยจิตน้อมระลึกถึงพระพุทธสมณโคดม และได้มอบหมายการดูแลเมืองแก่พญามัทราชนาคราช พระโอรส

การที่เคยเอาอกเอาใจพระมเหสีนั้น เริ่มห่างลดน้อยลงไป ทำให้พระนางสุวรรณฑริกาเทวีเกิดความเข้าใจผิดคิดว่า พญามุจลินทร์อาจจะพบหญิงอื่น และนอกใจพระนาง คิดต่างๆ นานาตามวิสัยสตรี


พระนางจะพบพระสวามี เพียง ๗ วัน/ครั้ง พญามุจลินทร์นาคราชออกมาสั่งการเรื่องงาน และทรงไม่สนพระทัยพระนาง ทำให้พระนางเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงได้นำดอกไม้ไปบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และอธิษฐาน ขอเกิดเป็นมนุษย์ในภพเบื้องหน้า และเกิดในยุคพระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้า ไม่ขอเกิดในนาคพิภพอีก

ด้วยบุญกุศลที่พระนางได้ถืออุโบสถศีลสม่ำเสมอ และบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วยความเคารพ ทำให้พระนางจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นพระมเหสีพระองค์หนึ่งของท้าวสักกเทวราชทันที


หลังจากที่พระนางสุวรรณฑริกาเทวีเคลื่อนภพแล้ว เหลือเพียงดวงแก้วมณีประจำกายของพระนางเป็นเครื่องดูต่างหน้า พญามุจลินทร์รู้สึกเสียพระทัยยิ่งนักที่พระองค์เฝ้าคิดถึงแต่เรื่องของพระพุทธเจ้า จนขาดความเอาใจใส่แก่พระมเหสี จึงได้นำดวงแก้วมณีของพระนางเก็บไว้ในถ้ำที่พระองค์ประพฤติธรรม ความรักความอาลัยในพระมเหสี ทำให้พระองค์จึงได้มอบราชสมบัติแก่พญา จมอยู่ในกองทุกข์
พระสีหบดินทร์ฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ได้ทราบด้วยพระญาณ จึงได้ลงจากมนุษยโลก เพื่อให้สติแก่พญามุจลินทร์นาคราชว่า..
“มุจลินทร์เอ๋ย..เจ้าอย่าได้เป็นทุกข์เลย ขณะนี้มเหสีของเจ้าได้ไปเสวยสุขบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว นางลือเรื่องในนาคพิภพจนหมดสิ้น เจ้าจงตัดใจเสียเถิด อย่าได้เป็นทุกข์ร้อนใจเลย อย่าให้ความกังวลใจมาทำให้บุญกุศลที่จะสร้างต่อไปนี้เศร้าหมอง
การที่มาเกิดในนาคพิภพ เพียงเพราะบาปเก่า ทำให้เคลื่อนจากดาวดึงส์สู่นาคพิภพ ดังนั้น จงตั้งใจเสียใหม่ เร่งสร้างบารมีให้มาก เพื่อให้พ้นจากความเป็นนาคเสียเถิด”

พญามุจลินทร์นาคราชได้ฟังพระอาจารย์กล่าวเช่นนั้นจึงได้สติ จึงได้ก้มกราบพระสีหบดินทร์ฤาษี เมื่อเห็นเช่นั้น พระสีหบดินทร์ฤาษี จึงได้ขึ้นจากภพบาดาล และเหาะกลับยังที่ของตนทันที

_____________________________________

ประวัติดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา ตอน ๓ สร้างมหาบารมี​

จากนั้นพญามุจลินทร์นาคราชได้ลาพระโอรสเข้าสมาบัติ โดยก่อนเข้าสมาบัตินั้นได้ตั้งจิตอธิษฐานขอออกจากสมาบัติก่อนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไปจะบังเกิดขึ้นในโลก นับเป็นเวลา ๔๗๐๐ กว่าปีก่อนสมัยพุทธกาล

หลังจากเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๔๗๕๘ ปีแล้ว ได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะว่า กาลนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกแล้วหรือยัง


ปรากฏว่า กาลนั้นพระโพธิสัตว์เคลื่อนจากดุสิตลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว พญามุจลินทร์จึงเข้าสมาบัติต่ออีก ๗ วัน (๗ ปี) โลกมนุษย์ เมื่อออกจากสมาบัติก็พบว่า พระโพธิสัตว์เคลื่อนจากพระครรภ์มารดาแล้ว พระชนมายุได้ ๗ ชันษา

จึงเข้าสมาบัติต่อ ๑๕ วัน(นาคพิภพ) เมื่อออกสมาบัติพบว่า พระโพธิสัตว์ยังเสวยสุขอยู่ แต่ยังไม่มีพระโอรส-ธิดา และทรงยังไม่ออกผนวช พระองค์จึงเข้าสมาบัติอีก ๗ วัน(นาคพิภพ) เมื่อออกสมาบัติพบว่า พระโพธิสัตว์ออกผนวชแล้ว แต่ยังไม่เห็นธรรม


จึงตั้งใจว่า จะเข้าสมาบัติออกอีกครั้ง เมื่อใดมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น เมื่อนั้นจะออกสมาบัติอีกครั้ง ครั้นเวลาผ่านไป ๖ วันนาคพิภพ หรือ ๖ ปีของโลกมนุษย์ เกิดแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่ว ทำให้สะเทือนพญามุจลินทร์นาคราช ทรงทราบว่าพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกแล้ว จึงได้ตรวจดูด้วยญาณว่า พระพุทธองค์เสด็จอยู่ที่ใด จึงได้แทรกกายไปปรากฏบริเวณสระน้ำใกล้กับต้นมุจลินทร์

พญามุจลินทร์จึงได้อาศัยในสระน้ำนั้น เพื่อว่า พระพุทธองค์จะเทศนาสั่งสอนธรรม ปรากฏว่าผ่านไป ๗ วันพระพุทธองค์ก็ไม่ทรงเปล่าพระพุทธจนใด ๆ
ฝ่ายพญามัทราช พระโอรส ทราบว่า พระบิดาได้ออกจากสมาบัติ จึงได้ให้บริวารตามหา พบว่า พระบิดาไปเฝ้าพระพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใสพาบริวารออกติดตามพญามุจลินทร์นาคราช ที่ใดมีพญานาครวมตัวกัน เมื่อนั้นจะเกิดฝนตกลงมา

พญามุจลินทร์เห็นเช่นนั้น เกรงว่า ฝนอันเกิดจากบริวารของตนจะทำให้พระพุทธองค์เปียก จึงได้เนรมิตกายให้ใหญ่ เป็นอาสนะรองรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และทรงอธิษฐานขยายเศียร เป็น ๗ เศียร เพื่อบังลมและฝนแก่พระพุทธองค์


การสร้างกุศลคราวนี้ ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน พระสีหบดินทร์ได้ตรวจดูด้วยญาณทัสสนะจึงทราบว่า ศิษย์ของตนได้สร้างกุศลใหญ่ จึงได้สั่งญาณไปยังศิษย์ที่เหลือ และปรากฏกายบริเวณใกล้เคียง เห็นภาพพญามุจลินทร์นาคราช ได้บังแดดทนร้อนอยู่ มีทุกขเวทนามาก

ธรรมดาแล้ว เหล่านาคราชทั้งหลาย แม้โดดแดดเพียงวันเดียว แทบจะทนไม่ไหว แต่พญามุจลินทร์นาคราชนั้น ทำให้สหายของท่าน คือ พญาอัสดรนาคราช พญาโภคนาคราช พญาวโรรสนาคราช และพญาภุชงคบดีนาคราช

เกรงพญามุจลินทร์จะเป็นอันตราย จึงได้ผลัดเปลี่ยนมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ทำให้มีฝนตกตลอดทั้ง ๗ วัน เพื่อป้องกันแก่พญามุจลินทร์นาคราช

พระสีหบดินทร์ฤาษีนั้น จึงคิดว่า โอกาสนี้หาได้ยาก เราจะสร้างพระพุทธรูปนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีของมุจลินทร์นาคราช ศิษย์ของเรา

จากนั้นได้เหาะมายังที่พักของตนเข้าสมาบัติ ๓ เดือน อธิษฐานพระเบญจนาคินทร์ขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องระลึกที่เหล่าศิษย์ทั้งหลายได้สร้างความดีร่วมกัน

เมื่อออกจากสมาธิ ๗ วันแล้ว ได้อธิษฐานพระเบญจนาคินทร์ มีสีแดง-น้ำตาล สีเหลืองทอง สีฟ้าเข้ม สีแดงสด และสีม่วง มอบแก่พญานาคราชที่เป็นลูกศิษย์ ๕ องค์ คือ พญาอัสดรนาคราช พญาโภคนาคราช พญาวโรรสนาคราช พญาภุชงคบดีนาคราช และพญามุจลินทร์นาคราช

จากนั้นต่างแยกย้ายกันกลับเมือง ส่วนพญามุจลินทร์นั้นมิได้กลับเมืองของตน ได้อยู่แดนสุวรรณภูมินับแต่นั้นมา โดยได้คอยอุปัฏฐาก

กล่าวถึงพระนางสุวรรณฑริกาเทวี หลังจากได้จุติเป็นพระมเหสีของท้าวสักกเทวราชองค์เดิม และมีท้าวสักกเทวราชองค์ใหม่ปรากฏ จึงได้จุติเป็นมนุษย์นามว่า มัลลิกา เป็นธิดาเศรษฐีของเมืองหนึ่ง ต่อมาเมื่อโตขึ้น นางระลึกชาติได้ว่า เคยเป็นพระมเหสีของพญานาคราชมาก่อน


นางจึงได้ถวายทานแก่พระภิกษุสงฆ์ อุทิศบุญแก่พญานาค อดีตพระสวามี ทำให้ผลเกิดทิพยวิมานขึ้นมาบริเวณพญามุจลินทร์ได้อาศัยอยู่ จึงได้ทราบว่า อดีตพระมเหสีอุทิศบุญแก่ตน จึงได้เข้าในนิมิตของนางว่า ได้รับบุญที่อุทิศให้แล้ว

นางมัลลิกาจึงได้อุทิศบุญอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดทิพยวิมาน และทิพยสมบัติแก่พญามุจลินทร์มากมาย จนกลายเป็นเมือง ๆ หนึ่งขึ้นมา ภายหลังมีชาวนาคพิภพมาอาศัยอยู่เมืองนี้ จนกลายเป็นเมืองใหญ่อีกเมือง

ภายหลังพญาวโรรสนาคราช ได้ถวายพระธิดานามว่า พระนางวรางคนางค์ เป็นพระมเหสีแก่พระเจ้ามุจลินทร์ มีพระโอรส-ธิดา ๘ พระองค์ จากนั้น มีผู้ถวายพระธิดาให้อีกองค์นามว่า พระนางศิริรัตน์เทวี เป็นพระมเหสีองค์ที่ ๒ นับแต่นั้นมา

ปัจจุบันพญามุจลินทร์ พระนางวรางคนางค์ พระนางศิริรัตน์เทวีได้เคลื่อนภพจากนาคพิภพแล้ว

 

ร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรากับคุณน้ำฝน

๒๕,๐๐๐ บาท​

 

สาธุ สาธุ ขออนุโมทนา และขอขอบคุณคุณพี่น้ำใสมากครับ ได้รับดวงแก้วแล้วครับ
และต้องขอขมาและอโหสิกรรมกับคุณพี่น้ำใสด้วยครับ ผมไม่มีเจตนาในกรรมนี้เลยครับ แต่มันแวบมาในความคิด พอรู้ทันก็พยายามวางใจใหม่ กลาง ๆ ครับผมขออโหสิกรรมกับคุณพี่น้ำใสในกรรมนั้นด้วยนะครับ
pity_pigpity_pigpity_pigpity_pig

มีข้อถามด้วยความไม่รู้ครับ
ก่อนไปรับดวงแก้วที่บ้านคุณน้า ผมได้ไปสวดมนต์เย็นที่วัด เริ่มสวดก็มีพายุฝนตกมาจนสวดจบครับ พอสวดบทธัมมจักรฯ จบแล้วพระท่านก็สวดต่อ ผมนั่งหลับตา เห็นพระภิกษุกลุ่มหนึ่งปรากฎท่านนั่งหันหน้ามาทางผม มือวางหน้าตัก เห็น 3 รูปนั่งเรียงด้านหน้า1 รูปอยู่กลางอีก 2 รูป ซ้ายขวาครับ ท่านครองผ้าสีส้มเข็มมาก จากนั้นท่านก็เปลี่ยนเป็นหันหน้าเข้าหากันเหมือนประชุมกันครับแต่มีมากกว่า 3 รูปครับ จากนั้นผมรู้สึกมีคนมาจับที่ผ้าปูนั่งของผม สมาธิผมก็เคลื่อนหลุดไม่เห็นอะไรแล้วครับ
ถ้าไม่เป็นการรบกวน ช่วยอธิบายทีครับว่าหมายถึงอะไร
สาธุ สาธุขออนุโมทนาครับ

 

อนุโมทนาบุญในธรรมทานกับพี่น้ำใสด้วยนะครับ สาธุ สาธุ

1.สำหรับผมตั้งแต่ได้รับดวงแก้วของพระปัจเจกพุทธเจ้ามาก็มีความคล่องตัวขึ้นมากครับ สมาธิก็ดีขึ้นครับ จะได้สัมผัสถึงกระแสเย็นๆตลอดเวลาครับ ทำให้มีความชุ่มชื่นใจมากครับ

2.สำหรับเรื่องนางแก้ว ผมเห็นด้วยครับ ผมว่านางแก้วมีส่วนช่วยมากในการบำเพ็ญพระโพธิญาณให้สำเร็จ คนเราได้อยู่ใกล้ก็เป็นคู่คิดและกำลังใจให้กันครับผมเห็นด้วยครับ
ยังจำที่เคยอ่านในเรื่องนางแก้วสายปราบมารของพี่น้ำใสได้ อ่านแล้วนางแก้ววิริยะธิกะน่าสงสารที่สุด เรื่องนางแก้วนี่มีคนปรารถนาเยอะ
แต่จะทำได้ดีก็ต้องมีพรหมวิหาร 4 และรักพระโพธิสัตว์เหมือนมารดารักบุตรที่คอยหวังดีและรักโดยปราศจากอคติ ศรัทธาและช่วยเหลือพระโพธิสัตว์ทุกประการ
เพื่อให้พระโพธิสัตว์สามารถบำเพ็ญเป็นพระพุทธเจ้าได้สำเร็จ มีความชุ่มชื่นใจให้แก่พระโพธิสัตว์ดุจน้ำที่ซึมบ่อทราย
เวลาพระโพธิสัตว์ขี้เกียจก็ต้องเป็นแรงกระตุ้นให้รีบๆสร้างบารมีครับ อันนี้สำคัญจริงๆครับ
ถ้าขี้เกียจมากๆ ก็เอาไม้ตีพริกเคาะหัวสักทีสองที จะได้ดีขึ้น อันนี้ล้อเล่นนะครับ นางแก้วเขาต้องเป็นกุลสตรีเรียบร้อยคงไม่ทำหรอกครับ555+

แต่คนที่ปรารถนาพุทธภูมิกำลังใจโดยเนื้อแท้ อ่อนน้อมอ่อนโยน มีเมตตาปราณีเป็นปกตินิสัย
ไม่มีวันอีกเหมือนกันที่จะข่มเหงทำร้ายน้ำใจนางแก้วคู่บารมี จะมีก็แต่ปกป้องดูแลคุ้มครองเอาใจใส่เป็นห่วงเป็นใย มากกว่าตัวเองด้วยซ้ำไป

และสุดท้ายขออนุโมทนาธรรมทานกับท่านมุจลินทร์ด้วยนะครับ ผลบุญใดที่ทำมาขออุทิศเป็นการบูชาแก่ท่านมุจลินทร์ครับ สาธุ สาธุ

 

ขอร่วมบุญประมูลดวงแก้วมุจลินทรราชันย์-อัปสรสวรรค์มนตรา 25100บาทครับ

 

สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ภาพที่เห็นเป็นภาพของพระปัจเจกพุทธเจ้าประชุมรวมกันค่ะ เป็นกลุ่มพระปัจเจกที่เป็นอดีตพระฤาษีที่เคยอธิษฐานดวงแก้ว ๕๐๐ รูป ก่อนสมัยพุทธกาลพระสมณโคดมพุทธเจ้า

มีคนเห็นภาพพระปัจเจกฯ ด้วยอิริยาบทต่าง ๆ ในดวงแก้วกำพลแดงดวงขนาด ๒๐ กก.ที่บ้านพี่เหมือนกัน แต่พระปัจเจกฯ กลุ่มนั้นเป็นพระปัจเจกฯจาก ๑๐๐๐ รูปก่อนสมัยพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า

ขออนุโมทนาบุญกัยน้อง Prar ด้วยค่ะ

Numsai