เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ฝากคุณghostlinux ดูพื้นดวงให้หน่อย
ดูจร 26 พย.-24 ธค. 57
และชันษาปีหลังวันเกิดปีหน้าครับ

กำเนิด 6 กย.52 ลัคนาราศีสิงห์

 

แปะรูปดวงไว้ก่อน ดวงเด็กน้อยนี่ครับ แล้วเพศอะไรครับ
ถ้าเป็นดวงเด็กผมไม่ลงในรายละเอียดมากนะครับ ผิดมารยาทโหร
แต่ที่ดูคงเป็นห่วงเรื่องสุขภาพร่างกาย ถ้าเกิดสว่างวันอาทิตย์ก็อาจจะมีปัญหาทางสุขภาพได้

 

พี่นิ่มถามผม ว่ามีน้องๆอยากทำบุญพระปิดตารุ่นที่แจกทหารไหม ยังพอเหลือ(ไม่มาก)

ผมหาเหตุที่จะนำออกทำบุญไม่ได้ เลยฝากชะลอไว้ก่อน อย่างน้อยก็จะขอนำเข้าเสกกับสองเกจิฆราวาสที่เคยกล่าวถึงไว้ก่อน

เสร็จแล้วจึงจะว่ากัน.... เพราะเงียบกันไปนานแล้ว กลัวจะคิดถึง (จริงๆก็อยากจะให้เงียบๆแบบนี้ไปนานๆ)

หรือไม่ก็ว่าจะมอบให้ทางเวปฯเอาไปหาทุนบำรุงค่าโฮ้สฯ หรือไม่ก็หาทุนซัก 5,000 บาท ซื้อบริการทางเวปฯ(อุดหนุนกันหน่อย)

.....ผมว่างมานานหล่ะ ว่าจะส่งเหรียญฯที่เคยค้างๆกันไว้ให้หมดจด

 

สนใจ รุ่นนี้อยู่เหมือนกันครับ นึกว่าแจกทหาร หมด.ซะแล้ว รอบูชาครับ

 

6.50 เช้าวันอาทิตย์ครับ

เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ

 

ขอร่วมบุญด้วยครับ

 

รอร่วมด้วยอีกเสียง

 

สมัยที่หลวงปู่ฯยังอยู่ งานไหว้ครูทุกปีที่วัดตลุก ท่านฯจะไม่พลาด และวิธีไหว้ครูของท่านก็ไม่ยุ่งยาก

แค่เตรียมอาหารคาว-หวาน จุดธูปบูชาต่อหน้ารูปหล่อครูอาจารย์ แล้วเข้าไปเก็บทำความสะอาด จากนั้นกราบรูปหล่อครูอาจารย์ฯที่ตัก เสร็จแล้วก็กลับ!

ลูกศิษย์หลวงปู่ฯก็อยากจะทำรูปหล่อหลวงปู่ฯไว้ที่วัดโพธิ์ทองบ้าง เผื่ออนาคตหลวงปู่ฯไม่อยู่แล้ว วัดฯจะได้ไม่เงียบเหงา

หลวงปู่ฯฟังแล้วไม่ยินดียินร้าย แต่พูดมาให้คิดว่า "จะเอาอะไรกับคนโพธิ์ทอง.....ตัวเป็นๆยังไม่ตาย มันยังไม่ค่อยอยากจะมา....."

.....................

หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี แม้ตัวท่านจะไม่อยู่แล้ว แต่รูปเหมือนท่านที่เคยหล่อไว้ก่อนมรณะภาพยังอยู่ และยังอยู่เลี้ยงพระฯในวัดได้

มีคนมาแก้บนอยู่เสมอ ถ้าแก้บนด้วยน้ำเขียวน้ำแดง ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าแก้บนด้วยเลี้ยงเพลพระในวัดด้วย ก็มักจะได้ฉันแกงส้มปลาช่อนกันเสมอ


รูปหล่อนี้สร้างเมื่อครั้งเททองรูปหล่อลอยองค์เล็ก คณะจัดสร้างเอาแท่งทองชนวนไปให้ท่านอธิฐานจิตก่อนหลอม จากนั้นส่งให้ช่าง

ช่างก็เร่งไฟอย่างไรแท่งเหล็กก็ลอยอยู่อย่างนั้น ไม่จม ไม่ละลาย เร่งจนเบ้าแตก พิมพ์ลอยองค์รุ่นนั้นขี้เหร่ทุกองค์

หลวงพ่อกร่าย ท่านก็หัวเราะ พูดทำนองว่าทำเกินพอดีไปหน่อย........

หลวงพ่อกร่าย ท่านเก่งมาก พี่ศนิวารได้ผ้ายันต์ไปผมยังนึกยินดี ใครเจอตามตลาดไม่แพง ก็เก็บไว้บ้างเถอะครับ เป็นศรีเมืองวิเศษฯเลยเชียว

 

พี่ดุ๊คเห็นภาพแล้วตกใจ สงสัยว่าไปได้มาอย่างไร แกยังนึกว่าเป็นของแกเลยครับ

พี่ดุ๊คชี้ให้ดูลายเส้นที่พาดหน้าองค์พระฯลงมาที่ตัก จะมีเหมือนกันทุกองค์
ยันต์ด้านหลังพี่ดุ๊คเล่าเพิ่มว่า ตอนที่หลวงพ่อฯมายืนดูเค้าสร้างโรงสี ก็หยิบมาจารไปด้วยเหมือนกัน

พระฯพิมพ์นี้ตกอยู่กับครูเฉลียว เดชมา ไม่น้อย(น่าจะประมาณ50องค์) แล้วครูแป้น โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง ที่สรรคบุรีไปขอแบ่งมาได้หน่อยนึง

คุณเป็นคนเชียงใหม่ แต่ทำไมได้พิมพ์นี้ไป ยังสงสัยอยู่ (ได้มากี่บาท? บอกให้อิจฉาหน่อยครับ)

 

รูปของคุณ Pun จากเว็ปวัดโฆษิตาราม เห็นว่าสวยคมชัดดี เรียกพี่ดุ๊คมาถามว่าเป็นใคร แกว่าเคยเห็น แต่ไม่รู้จักชื่อ น่าจะเป็นเจ้าของโรงพิมพ์ที่สรรคบุรี มาฝากตัวเป็นศิษย์



ภาพของคุณ KBISMARCK จากเว็ปเดียวกัน ถ่ายในพื้นที่เดิมบาง

ใครทุกข์ร้อน ก็บอกหลวงพ่อฯมาทำน้ำมนต์ให้หน่อย ถ้าใจถึงก็น่าจะนิมนต์ท่านฯได้ พระที่รักลูกศิษย์แบบท่าน หาได้ยาก

 

ตรงอกองค์พระจนถึงมือกับแก้วขวาขององค์พระเป็นเกษาครับ
ผมไม่ทราบว่าเป็นเกษาของหลวงพ่อหรือเปล่าครับ
ผมได้มา 100 บาทครับ
ได้มาจากพิษณุโลกครับ
พอดีช่วงนี่ผมต้องมาคุมงานที่พิษณุโลกชั่วคราวนะครับ
ยังงง อยู่เลยครับตอนได้มาครับ(ตอนที่เห็นนึกถึงพี่numthipคนแรกเลยครับ)

 

วัตถุมงคล พระทุกองค์ของหลวงพ่อ ล้วนแต่มีเจ้าของแล้วทั้งสิ้นครับ จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง

ยินดีด้วยครับ (แอบอิจฉา(ping-love)

 

ผมมองภาพนี้ไม่เหมือนคนอื่น มีใครมองเหมือนผมบ้าง

 

ิขออิจฉาตาร้อนด้วยคน อยากจะขอพึ่งใบบุญสักองค์แบบดื้อๆ วาสนาอยู่ใก้ล แต่ใกล้ดาวอังคารโน่นแนะ

 

ขออภัยครับเน็ตรวนเข้ากูเกิ้ลไม่ได้เว็ปพลังจิตก็ไม่ได้ ต้องผ่านพร็อกซี่เข้ามา

ตอบดวงเด็กแบบคร่าวๆไปก่อน พื้นดวงลัคนาราศีสิงห์ อาทิตย์เป็นทั้งตนุลัคน์และตนุเศษกุมลัคน์อีกต่างหาก
ทำให้จุดรับแรงปะทะไปกองรวมหลักๆที่ราศีสิงห์เสียเยอะ จันทร์กุมมฤตยูในเรือนมรณะ
พฤหัสเป็นตนุจันทร์ก็อยู่เรือนอริ ลักษณะแบบนี้วัยเด็กน่าจะมีปัญหาโรคภัยเบียดเบียนเยอะ
เกิดวันอาทิตย์ ช่วงนี้อาทิตย์เสวยอายุศุกร์กำลังจะเสวยแทรก ถ้าสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่แล้วให้ระวังเป็นพิเศษ
อาจจะป่วยหนักได้ ศุกร์วินาสน์เป็นกาลีวันเกิดจะเสวยแทรกดาวอาทิตย์ ทำให้ช่วงนี้ร่างกายจะอ่อนแอลง
ต้องดูแลเป็นพิเศษ พอพ้นวันเกิดไปพฤหัสจะเป็นตนุชันษา ก็จรทับศุกร์ที่เสวยอายุต้องระวังเลย
ช่วงปลายปีที่พฤหัสเดินผิดปกติ เสริดเข้าราศีสิงห์และพักรกลับต้นปี58 ช่วงนั้นต้องระวังมีอาการป่วยพวกติดเชื้อกระทันหันได้
ส่วนปีหน้าถึงวันเกิด อายุพ้น6ขวบ จันทร์จะเสวยอายุต่อ ก็เป็นดาวในเรือนมรณะ(ดาวอายุด้วย)
ดวงแบบนี้ ผมให้ความเห็นว่าในวัยเด็กสุขภาพน่าจะมีปัญหา บวกกับมฤตยูจรยังกดเรือนพฤหัสที่มีนไปอีกเป็นปี
ช่วงสองปีนี้ต้องระวังเรื่องสุขภาพของเด็กเป็นกรณีพิเศษ มุมทางชันษาก็ค่อนข้างชี้ไปทางเจ็บป่วยได้ไข้ด้วย
เป็นความเห็นส่วนตัวที่สังเกตนะครับ ยังไม่ใช่หลักการข้อพิสูจน์ สุขภาพของเด็กตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ
ต้องรอดูกันต่อไปอีกทีว่าจะมีผลยังไง รอเน็ตเข้าที่ก่อนอีกทีครับ เข้าเว็ปอะไรไม่ค่อยได้

 

เรื่องเล่า : เล่าเรื่องที่ถูกพาดพิงเอามาเล่าซ้ำฯ

ตอน : ทั้งลอก/ทั้งจำที่ฟังเขามา เอามาเล่าฯ

นานมาแล้วหลังจากที่ผมเล่าเรื่องครูบุญชู ศรีผ่อง ที่ท่านตายไปแล้วฟื้น เรื่องเกิดประมาณปี 2490 ที่กิ่ง อ.สามโก้ อ.วิเศษชัยชาญ สมัยผมเป็นเด็กนั้น

เป็นกิ่งอำเภอ ผมโตแล้วจึงมาเปลี่ยนเป็นอำเภอ ผมลองไปเปิด Google ดู ด้วยคิดว่าอาจจะมี ปรากฎว่ามีจริงๆ ใครสนใจรายละเอียดก็ลองเปิดดูได้ ที่

ผมเอาไปเปิดดูก็เพราะฉงนใจที่คาถาของยมบาล ที่ให้ครูมา มันมีปรากฏในบทสวดมนต์ เนื้อของคาถาคือ "ปะโตเมตัง ปะระชิวินัง สุคะโต จุติ จิตะเมตะ

นิพพานัง สุขะโตจุติ"ซึ่งผมสวดอยู่เป็นประจำทุกๆ เช้า ตอนเย็นๆ ผมไม่ค่อยได้สวดมนต์ เพราะผมเป็นพวก"มังตรา" ที่หายไปนานก็เพราะมัวไปเดินหรือขี่

ม้าเลียบค่ายหงสาวดีกับยาขอบ ผมอ่านเรื่องผู้ชนะสิบทิศ พอถึงตอนของจะเด็ดผมจะเห็นเป็นหน้าของยาขอบ อ่านเพชรพระอุมา ก็เห็นหน้ารพินทร์ฯ เป็น

หน้าพนมเทียน ตอนนี้กำลังทบทวนพระอภัยมณีเพื่อให้ทันสมัยกับวันสุนทรภู่ ในหน้า 591 หนุ่มทิพย์พาดพิงถึงผมเกี่ยวกับไพลดำและหลวงพ่อปั้นวัดสี่

ร้อย ผมเลยต้องทิ้งพระอภัยมณี ให้เล่นบทอัศจรรย์กับนางเงือกต่อไป โดยลองมาเปิด Google หาเรื่องหลวงพ่อปั้นดู ดูในหลายๆ Version แล้วลอก

เขาเอามาให้อ่านกัน แต่คงไม่มีมากมายหลายเรื่องราวอย่างที่ผมฟังเขาเล่ามา ผมเป็นแฟนประจำของคุณพนมเทียน มาตั้งแต่ยังไม่เขียนเรื่องเพชรพระอุ

มา เป็นคนที่เขียนหนังสือให้ผมอ่านแล้วอยากมีพระท่ากระดาน,แร่บางไผ่ แต่ไม่อยากได้ทั้งเหล็กไหล/ไพลดำ/ไพรดำ เวลาใครหาเหล็กไหลได้ง่ายๆ ครั้ง

ใด ผมจะนึกถึงพนมเทียน และ ทต.วิชิต ตริชอบ ผมอ่านตั้งแต่ลงเดลินิวส์แล้ว แต่ผมไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเท่าที่อ่านๆ มา(เน้น...อ่านๆ มา)แร่เหล็กไหล

เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์(ไม่รู้จริงๆ ว่า ทางเคมี เขียนอย่างไร)มีถึง 3 ชนิด คือ 1.ตัวเหล็กไหล 2.รังเหล็กไหล 3.ขี้เหล็กไหล ผมไม่เคยเห็นเลยสักอย่าง นอก

จากจะเห็นในรูป ส่วนไพรดำ ที่เป็นธาตุกายาสิทธิ์ ก็ได้แต่เคยอ่าน ไม่เคยเห็นของ แต่ไพลดำเคยเห็น เป็นของพ่อตาผมเองเอามาปลูกไว้ที่บ้าน ซึ่งผมเคย

แอบค่อนแคะกับแม่บ้านว่า ช่วยขุดเอามาให้สักแง่งจะได้ไหม? จะเอาไปขีดที่ฝาหม้อข้าวดูซิว่าจริงไหม? จะยอมลงทุนไปซื้อหม้อมาให้ใหม่สักใบหนึ่ง ซึ่ง

ก็ไม่ได้ทำจนมันตายจากผมไปเมื่อสัก 2-3 ปีมานี้เอง คุณพนมเทียนอีกนั่นแหละ ที่ทำให้ผมเฉยๆ กับไพลดำ(อย่าสับสนกับไพรดำ)เพราะไปตั้งสมมติฐาน

ไพลดำไว้สูงเกินกว่าคนที่บ้านผมจะปลูกหรือครอบครองแล้วเป็นว่านที่มีคุณวิเศษได้ แต่ผมก็ยังเล่าได้ เพราะเรื่องเล่าของผมไม่ต้องการทฤษฎี เจ้าของ

เวปเขาห้ามผมเขียนเรื่องที่เป็นทางวิชาการ...ในสมองผมไพลดำก็อย่างที่"ตาคำ"เจอ

ไพลดำที่ผมฟังเขาเล่ามา ที่บอกว่าทำให้ข้าวในหม้อดำได้ทั้งหม้อ อย่างที่คุณหนุ่มทิพย์บอก ผมไม่แน่ใจหม้อที่คุณหนุ่มทิพย์บอกนั้นเป็นหม้ออะไร หม้อ

เก่าหรือหม้อใหม่เกี่ยวกับอายุของหม้อหรือไม่ ที่ผมได้ฟังมามันเป็นหม้อประเภท"หม้อดิน"และวิธีที่พิสูจน์ว่าเป็นไพลดำแท้หรือไม่ ก็เพียงแต่เอาไพลดำไป

ขีดที่บนฝาหม้อดินที่ปิดหม้อตอนหุงข้าว เขาว่า(เอา 5 หารด้วย)พอข้าวสุกแล้ว เปิดฝา(หม้อ)ดู ข้าวสุกจะเป็นสีดำ..........

แถมให้อีกเรื่อง "งิ้วดำ" เป็นเรื่องเล่าของคนรุ่นปู่ มีพวกคนตัดฟืนพวกหนึ่งพากันเข้าป่าไปตัดฟืน มีชายคนหนึ่งในกลุ่มตัดฟืนนั้นเป็นโรคผอมแห้งแรงน้อย

แบบป่วยเรื้อรัง เมื่อหาที่จอดเรือทำเพิงพักเรียบร้อยแล้ว ก็มีการตกลงกันเรื่องการทำงานประจำ คนอื่นๆ ก็ออกไปตัดฟืนกันเป็นกลุ่มๆ ส่วนคนไม่แข็งแรง

ให้ทำหน้าที่หุงหาอาหารอยู่กับเพิงที่พักไม่ต้องออกไปตัดฟืน วันหนึ่งคนหุงข้าวทำไม้ขัดหม้อหัก ก็เลยเดินหาไม้ที่ใกล้ๆ ตัดได้กิ่งต้นงิ้วมากิ่งหนึ่ง ก็เอามา

เหลาทำไม้ขัดหม้อ ประจวบเหมาะกับเป็นตอนพักกลางวันพอดี พวกที่ไปตัดฟืนก็กลับมากินข้าว มื้อนั้นเป็นข้าวต้ม ข้าวกำลังเดือดได้ที่ คนหุงข้าวก็เอาไม้

ขัดหม้ออันใหม่ลงไปคน แล้วยกข้าวเอามาตั้ง เมื่อถึงเวลาจะตักกิน เปิดฝาหม้อออกมา ปรากฏว่าข้าวดำทั้งหม้อ(แต่หม้อ...ไม่ดำ) คนอื่นๆ ก็อิหลัก

อิเหลื่อ เจ้าคนเป็นพ่อครัวก็เลยหุงให้ใหม่ ส่วนข้าวต้มในหม้อที่มีสีดำนั้นเขาเก็บเอามากินเองทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็นวันนั้นจนหมด พอรุ่งขึ้นอีกวันเจ้า

พ่อครัวรู้สึกแปลกใจตนเอง เพราะรู้สึกเป็นคนแข็งแรง หายเจ็บหายป่วย กลายเป็นคนแข็งแรงกว่าคนอื่นๆ ในคณะที่มาด้วยกัน พอทุกคนรู้ข่าว ก็ชวนกันไป

หาต้นงิ้วต้นนั้น ปรากฏว่า...หายไปแล้ว...ต้นงิ้วต้นนั้นย้ายหายไปแล้ว(แต่ก็ยังดีที่ย้ายไปเฉยๆ...ไม่มีใครไปเสี้ยมสอนให้พูดว่า...ได้ข่าวว่า...จะกวาด

ล้าง??? แต่ต้นงิ้วต้นนั้น...ถ้าไม่ย้ายหนีไปก่อน...ผมว่ารากก็ไม่เหลือไว้ในป่า) เป็นบุญของคนที่ได้กิน ส่วนคนที่ไม่ได้กินก็ถือว่ามีบุญที่ได้เห็นแต่ไม่ได้

กิน เรียกว่ามีบุญแต่กรรมมันบัง...วันนี้ผมมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับ"หม้อ"ล้วนๆ คือหม้อข้าว ผมจำไม่ได้ว่าผมเคยเล่าไปหรือยังเกี่ยวกับ หลวงพ่อปั้น วัดสี่ร้อย

นอกจากหุงน้ำมันไพลดำ/เรียนผูกควายธนูกับคนแก่เลี้ยงควายข้างวัด ยังมีย่นระยะทางและหายตัวได้ ถ้ามีเวลาจะตรวจย้อนหลังดู แล้วจะเอามาเล่าให้

อ่านกัน ส่วนต่อข้างล่างนี้ copy เอามาฝากกัน ขอบคุณเจ้าของเรื่องแบบจากใจ จริงๆ...ที่ช่วยกันไม่ให้เรื่องมันหายไป

ชื่อพระ : เบ็น วิเศษฯ...หลวงปู่ปั้น วัดสี่ร้อย

ราคา : โชว์พระ

สถานะ : โชว์พระ

รายละเอียด : พระกรุหลวงปู่ปั้น เนื้อผงน้ำมันผสมผง วัดสี่ร้อย วิเศษชัยชาญ. มีลงในหนังสือพระเครื่องเมืองอ่างทองฉบับสมบูรณ์ เล่มล่าสุดครับ. พระ

พิมพ์นี้พบในกรุใต้ฐานพระประธานหลวงพ่อโต วัดสี่ร้อย เมื่อครั้งที่หลวงปู่ปั้นมาบูรณะเมื่อเกือบร้อยปี(ปีนี้ 2556 ) ก่อนท่านได้สร้างและบรรจุไว้สืบทอด

พระศาสนา และเล่นหากันมานานมากแล้วครับ สมัยหลวงพ่อเข็ม วัดข่อย หรือสัญาบัตรพัดยศที่ พระครูสุกิจวิชาญท่านยังทรงสังขาร ก็คือก่อนปี 2477

ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอวิเศษชัยชาญ หลังจากที่พระแตกกรุ ท่านมานำกลับไปวัดถึงสองปี๊บ และแจกญาติโยมแถววัดข่อย จนคนเข้าใจว่าเป็น

พระของท่าน พุทธคุณเด่นด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยมชัดเจนครับ ส่วนหลวงพ่อปั้นนั้นท่านเป็นพระคณาจารย์ยุคเก่าเป็นพระอาจารย์หลวงพ่อปาน

วัดบางนมโค และหลวงปู่บุญวัดสี่ร้อย อภินิหารท่านจากที่เขาเล่าต่อๆกันมาจากคนพื้นที่นั้น ท่านเป็นพระที่มีอภินิหารมากมาย ล่องหนหายตัว ย่นระยะทาง

ทำให้ชาวสี่ร้อยนับถือและให้ความรพท่านอย่างมาก หลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสกัลอยุธยา กับ วัดสี่ร้อยนี้ก็องค์เดียวกันครับผม คงไม่ต้องบรรยายมากครับ

ขนาดหลวงพ่อปานยังให้ความนับถือท่านอย่างมากครับ ที่สำคัญพระพิมพ์นี้ เมื่อครั้งงานศพ หลวงพ่อเข็ม วัดข่อย เมื่อปี 2477 ก็เอาพระพิมพ์นี้มาแจก

ด้วย คือเป็นส่วนที่เหลืแจากที่ท่านแจกก่อนมรณะภาพ .....ของดีที่เขาเก็บกันมานาน แต่การเผยแพร่ไม่มี และพระมีจำนวนพอสมควร แต่ว่าปัจจุบันก็จะ

หายากแล้วครับพวกรู้ก็เก็บกันหมด บางท่านว่า เป็นของหลวงพ่อโน้น หลวงพ่อนี้ บ้างเล่นกันสับสน ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง พิมพ์นี้ เล่นหากันมานานรู้กัน

มานาน ในวิเศษชัยชาญ เท่าที่สืบหาข้อมูลมา นานจนเกินอายุคนบางคนไปแล้ว ฉะนั้นไม่ผิดที่ครับ เผยแพร่เป็นความรู้ ถ้าท่านใดสนใจสอบถามได้ครับ

จะแบ่งให้

ดูเพิ่มเติมอีกเเพียบบบ ได้ที่เวป บ้านพระอยุธยา ร้านเบ็น วิเศษฯ ลิ้งอยู่หน้าร้านด้านบนครับ ตัวอักษรสีเหลืองอร่าม

ชื่อร้าน : เบ็น วิเศษฯ

เบอร์โทรศัพท์ : 083-613-9417,083-3809064

เมื่อวันที่ : 2013-08-17 06:16:13

จำนวนการเข้าดู : 1342 ครั้ง

ผู้เข้าชมขณะนี้ : คน

ปล. เคยคุยค้างไว้กับคุณชนะ(พุทโธภคา)คุณวินัย และหนุ่มทิพย์ ฯ ว่าไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์โลก มีเรื่องเหมือนๆกันอยู่ 2 เรื่อง คือ (1)อาศัยดวง พึ่ง

พาดวงสำหรับทำมาหากินและดำรงชีวิต (2)อาศัยดวงเป็นเครื่องนำพาชีวิต กำลังคิดจะเขียนอยู่ ว่างๆ จะเขียนให้อ่านกัน ขงเบ้ง...ไม่ใช่ดูแต่ดวงดาว

หรือรู้จักดาวใน"Computer"หรือดูแค่องศา แต่ดูดาวด้วยตาจริงๆ ว่า แสงของดาวมันเป็นยังไง??????????? ขอขอบคุณ และขอบคุณมากครับ


--------------------------------------------------------------------------------

 

วันนี้วันพระเห็นพี่หนุ่มทิพย์ลงรูปหลวงปู่ เลยถอดสร้อยชุดประจำกายมาขัดเงาหน่อย
ชุดนี้ติดตัวเสมอครับ ล็อคเก็ตหลวงปู่ คู่กับ ลูกอมหลวงปู่พริ้ง วัดบางประกอกครับ
กราบ กราบ กราบ หลวงปู่สม ครับ

 

รูปหล่อแบบนี้ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นหลวงพ่อกร่ายเมื่อก่อนเห็นบ่อยมากที่แผงพระ
หากรู้ว่าเป็นรูปเหมือของท่านผมคงมีเกินสิบองค์น่าเสียดายจริง ๆ
สงสัยวาสนาเราไม่ใช่เจ้าของ เฮ้อออออออออออ

 

คิดยากไปหน่อยครับ คิดไม่เหมือนผม
สิ่งที่ผมคิด ไม่มีอยู่ในรูป แต่ภาพภายในรูป แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ใหญ่กว่านั้น มีใครทายได้ไหมครับ ว่าผมคิดถึงอะไร?