เป็นเพราะตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ผิดหรือไม่?

ขอสอบถามเกี่ยวกับการตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย คือที่บ้านตั้งศาลมาราวๆ ปีกว่าแล้ว ทำกันเองไม่ได้มีพิธีอะไรมากมาย ตั้งแต่ตั้งศาลก็ไม่ได้ทำให้บ้านสงบสุขขึ้นเลย พ่อเจอแต่เรื่องเจ็บป่วย เริ่มจากต้องผ่าตัดตาทั้งสองข้างเพราะวาเป็นต้อ พักยาวงานก็รับไม่ได้ จนถึงวันนี้ พ่อเจ็บป่วยออดๆแอดๆ ไม่หายเป็นมานานมากครับ กินข้าวไม่ค่อยได้ ร่างกายแย่ ไปหาหมอมาแล้วก็ไม่หาย โรคภัยรุมเล้า ช่วงนี้งานไม่เข้าเลยครับเงินขาดมือสุดๆ
และคนที่บ้านมักจะเห็นชายโบราณร่างสูงนุ่งโจงกระเบน พี่สาวผมมักจะเล่าให้ฟังเสมอว่าพบเจอเรื่องแปลกๆภายในบ้าน และเวลามานอนเล่นที่ห้องนอนผมก็เจอชายโบราณผู้นี้ ไม่เว้นแม้แต่แม่ผมซึ่งไม่ใช่คนกลัวผีหรือจิตตกยังเคยเห็นชายโบราณผู้นี้ แต่ผมกลับไม่เคยเห็นหรือฝันอะไรเลยทั้งที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน และพอดีแม่ผมรู้จักคุณลุงคนหนึ่งอายุไล่ๆกับแม่ผม พอมีวิชา (เคยช่วยถอนคุณไสยให้น้าเขยผม) ลุงแกบอกว่ามีชายโบราณนุ่งโจงกระเบนคอยขัดพ่อผมอยู่ เวลาร่างกายจะดีขึ้นก็จะทำให้ทรุด ผมก็แปลกใจลุงแกรู้ได้ไง แล้วศาลที่ตั้งก็ไม่มีตายาย มีแต่สัมภเวสีมาสิงสถิต บ้านผมทุกวันนี้ก็มีแต่เรื่องไม่ดี ทะเลาะเบาะแว้ง เจ็บไข้ได้ป่วย เรื่องการเงิน การงานที่ขัดไปเสียหมด
ผมเองก็ยังไม่เชื่อ 100% ว่าจะมีเรื่องพวกนี้อยู่จริงแต่ก็ไม่ลบหลู่ เพราะทุกคนในบ้านต่างบอกว่าสัมผัสได้กับสิ่งที่มันผิดปกติ ยกเว้นผมนี่แหละไม่เจออะไรเลย ไม่ฝันอะไรเลย แบบนี้มีโอกาสจะเป็นไปได้อย่างที่ลุงแกบอกไหมครับเพราะว่าพ่อผมอาจจะตั้งศาลไม่ถูกวิธีเลยกลายเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณสัมพเวสีชั่วร้าย....?

 

ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาดู ถ้าเขาได้ไปภูมิที่ดีกว่าเหตุการณ์ก็น่าจะดีขึ้น

หลังจากนั้นน่าจะทำบุญเลี้ยงพระที่บ้าน รวมถึงเชิญพระภูมิ

พระภูมิท่านไม่ใช่ยาม อยากให้ท่านอยู่ด้วยต้องขอก่อน รวมถึงบูชาท่านอย่างเหมาะสมด้วย

 

คุณครับการตั้งศาลพระภูมิใช่เรื่องทำเล่นนะครับ
ต้องคนมีศีลมีธรรม นั่นไม่ใช่ว่าใครนึกอยากจะตั้งก็ตั้งๆไป
ตามหลักของการตั้งศาลพระภูมิ คุณเจ้าของบ้านจะต้องหันให้ถูกทิศ
ทิศที่บัณฑิตทางธรรมนิยม คือ ทิศตะวันออก กับ ทิศเหนือ นอกนั้นไม่เข้าตามตำรา แล้ว คนที่ตั้งต้องติดต่อ พระชัยมงคลได้ด้วยไม่เช่นนั้นแทนที่จะได้เทวดามาบูชาประจำบ้าน เพื่อความเป็นมงคล กลับไปเรียกหาภูมิผีปีศาจ
อย่างเคสที่ผมเคยศึกษา(หมอปลา)
เจ้าของบ่อกุ้ง ทำอะไรก็ล้มไม่เป็นท่า เจ้าของบ่อกุ้งเล่าว่าได้เดินดูบ่อกุ้ง
แล้วไปเจอกระดูกคนตาย ด้วยความหวังดีกับกระดูก ก็เลยตั้งศาลให้เค้าอยู่
เอากระดูกใส่พาน เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้นมีคนเดินเข้าบ้านออกบ้านแกทำข้าวของหล่น เสียงประตูปิดอย่างดัง เจ้าของกุ้งไม่มีความรู้เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แล้วตนก็กราบไหว้ขอพรทุกวัน แกเล่าน่าสงสารมาก
จากมีเป็นล้าน ก็ลดถอยลง จนมาเจอหมอปลา หมอปลาก็เลยเดินทางมาพิสูจน์
ดวงวิญญานบ่อกุ้ง ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้ เค้าอยากไปผุดไปเกิด ไปรั้งเค้าไว้
ก็เลยให้โทษมากกว่าให้คุณ จากนั้นหมอปลาก็สั่งให้เอากระดูกไปบำเพ็ญ
อุทิศส่วนกุศลในวัดให้พระทำพิธี ชักบังสกุลให้ จากนั้นมาก็ไม่มีเรื่องร้าย
เกิดกับเจ้าของบ่อกุ้งเลย จขกท.

ขณะที่ผมพิมพ์อยู่ มีเทพบุตรร่างใหญ่สง่างามคาดสังวาลมากราบคารวะ

ธุระนะสิ ธุรินะสะ กะระ นะโมพุทธายะ
กะระไมตรี เมตตัง จิตติธะนัง ชีวิตจุติ

 

สรุปว่าศาลนี้คือซ่องโจรครับถูกของลุงคนนั้นว่า

แถมตาลุงคนนั้นแกทำให้แล้วนี่ครับ
แกทำตรงศาลกับในบ้านรวม2ที่ ซึ่งเป็นสีขาวแล้ว
แต่บริเวณรอบบ้านยังดำอยู่ ยังไม่ได้ทำ ให้แกทำรอบๆบ้านด้วยครับจะได้จบ

 

ตั้งไปแล้วคงไม่ต้องไปรื้อทิ้งหรอกค่ะ เดี๋ยวจะซวยซ้ำซาก
เหมือนว่าพ่อคุณที่เป็นคนตั้งศาลไปลบหลู่เจ้าที่เจ้าทางคือชายโบราณร่างสูงนุ่งโจงกระเบน ทำนองว่าตั้งศาลแล้วไม่อัญเชิญให้เขาไปอยู่ เรื่องถึงได้เกิด

ลองหารูปปั้นที่มีลักณะตามที่คนในบ้านเห็นคือชายโบราณร่างสูงนุ่งโจงกระเบน เอาไปไว้ในศาล พร้อมรูปปั้นช้างม้า บริวารชายหญิง

แล้วให้พ่อคุณจุดธูปห้าดอก กล่าวขอขมาและอัญเชิญท่านให้มาสถิตย์ที่ศาลพระภูมิ พร้อมทั้งบอกกล่าวถวายช้างม้า บริวารชายหญิง ที่วางไว้ในศาล

แล้วทุกวันพระใหญ่ก็เซ่นไหว้ท่านที่ศาลด้วย ข้าวเปล่า น้ำเปล่า มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ไข่ต้ม พวงมาลัยมะลิ

ส่วนที่ศาลตายาย ที่ลุงบอกว่ามีสัมภเวสีมาสิงสถิต อันนี้เป็นบริวารของท่านมาอาศัยอยู่

ถ้าเซ่นไหว้ท่านดี สม่ำเสมอ ต่อไปท่านจะให้โชคใหญ่

 

ถ้าเป็นบ้านผมนะ ผมจะล้มศาลลง กระทืบซ้ำแล้วชี้หน้าด่ามึงมาทางไหน
ไปทางนั้นแล้วปักธูปนิมนต์ปู่เวสสุวรรณตามกระทืบ จุดธูปบอกปู่พระยายม
ประจำสถานที่มาจัดการจดบัญชีกรรมทั้งหลายด้วย แล้วย้ายซากศาลที่เหลือ
จากการกระทืบไปทิ้งลงน้ำครับ รังโจรผีนี้ก็จะสะสางไม่เป็นภัยกับลูกหลาน
สืบไป

 

ต่อให้อีกหน่อยตามคำแนะนำของผู้มีคุณ

กันว่าคนทั้งหลายจะไปล้มศาลทิ้งแล้วโยนภาระมาที่ข้าพเจ้า เลยมาอธิบายให้เข้าใจว่า
อันไหนตั้งศาลเองได้ อันไหนล้มเองได้ อันไหนต้องให้คนมีิวิชามาล้มให้

อันว่าศาลนั้นเป็นเพียงสถานที่ซึ่งถือเป็นจุดนัดพบระหว่างคนกับวิญญาณอื่นอาจจะเป็น
ผีหรือเทวดาอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งเทวดาทั้งหลายจะกางมุ้งนอนในศาลเล็กๆนั้นก็หาไม่
เป็นเพียงที่วางเครื่องสักการะ แสดงความเคารพและระรึกถึงกันเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ศาลที่คนทั้งหลายตั้งเองได้ก็คือ ฝันว่ามีคน มีเทวดา มีผีปู่ย่าตายาย มาเข้าฝันแล้ว
บอกว่าไอ้หนู อีหนู เอ็งตั้งศาลให้ข้า ข้าจะตอบแทนเอง อันนี้ตั้งได้เลยครับถ้าอยากตั้ง
และล้มศาลเองไม่ได้ ถือว่าเนรคุณท่าน

อีกศาลนึงคือ วันดีคืนดี เกิดได้ลาภลอย มีเงินเล็กน้อยพอประมาณอยากตั้งศาลไว้บูชา
ซักศาลนึงเพื่อเป็นศิริมงคลกับบ้าน อันนี้ต้องไปนิมนต์พราหม์หรือพระเท่านั้น ให้ท่านมา
ตั้งศาล รวมถึงมองหามุมหาทิศในการวาง อันนี้ถ้าพระดีจิตถึงได้เทวดาชั้นสูงมาดูแล
ถ้าพระอยากเชิญองค์เง็กเซียนฮ่องเต้มาไว้ที่ศาลแต่จิตมีค่ารถแค่ปากซอย ส่งจิตไปไม่ถึง
สวรรค์ ก็จะได้แค่นักเลงคุมปากซอยหรือจิ๊กโก๋วินมอไซค์หน้าปากซอยมาแทน
ศาลแบบนี้ก็ล้มเองไม่ได้ ถือว่าท่านสูงกว่าเราเจ้าของบ้าน ต้องนิมนต์พระหรือพราหม์มา
ถอดถอนเท่านั้น

ส่วนอีกศาลหรือดังที่เจ้าของกระทู้ประสบ คือวันดีคืนดีเกิดนึกครึ้มใจอยากตั้งศาลก็ตั้งเอง
พิธีเล็กน้อย ตั้งใจส่งจิตถึงเทวดามา แต่จิตกำลังไม่พอ เลยได้แค่ตั้งศาลว่างไว้ ตานี้เลย
ตรงตามตำราที่ท่านว่าไว้คือ เรือนร้างศาลาเปล่าเจ้าไม่มีศาลชอบนักแล นั่นคือกลายเป็น
ที่รวมของวิญญาณที่เร่ร่อน เรียกว่าวิญญาณสัมภเวสีมารวมกันเข้า ตัวที่เก่งก็ตั้งตัวเป็นเจ้า
พ่อ ตัวไม่เก่งก็เป็นบริวารที่ผมเรียกว่าซ่องโจรผีนั้นล่ะ ศาลแบบนี้ถ้าให้โทษเจ้าของบ้าน
ล้มเองเลย แล้วให้เหยียบชี้หน้าศาลด่าแจ้งความผิด เป็นการ"ข่ม" ตบะและบารมีของผี
พวกนี้จะเสื่อมลงเพราะโดนเหยียบและจะไม่กล้าหือเพราะโดนด่าแจงความผิด ซึ่งตาม
ตำราการด่าแบบนี้เข้าลักษณะของการอ่านโองการพระเวทย์ของพราหมณ์ กล่าวร่ายอ้าง
ความชอบธรรมในการกระทำครั้งนั้นๆ การข่มจึงสมบูรณ์ วิชาไสย์ ตบะบำเพ็ญของผีจึง
เสื่อม หันมาแว้งกัดเราไม่ได้

ตานี้มาถึงปู่เวสสุวรรณ ที่ผมว่ากระทืบนั้นไม่ได้หยาบคายหรือเกินเลยแต่อย่างใด เพราะ
จากที่เห็นท่าน นิมนต์ท่านมาปราบหลายต่อหลายครั้ง ก็เห็นขาท่านสูงเทียมเมฆเหยียบลง
มาที่ตัวผี หรือเทวดาเลว บางตัวเหยียบทางขวาง บางตัวท่านกำหนดเท้า (ตีน)ใหญ่มาก
เหยียบจนผีแบนจมดินหายไปเลย ผมไม่เคยเห็นท่านใช้กระบองฟาดผีมาเลยทั้งชีวิต
เห็นแต่ท่านเหยียบเท่านั้น เลยบอกว่านิมนต์ท่านมากระทืบก็ไม่เกินเลยละครับ หลายครั้ง
ผมเห็นท่านเหยียบผีมาหลายตัวไม่ใช้กระบองฟาดเลยซักที ผมเลยไปอ่านประวัติท่าน
เลยเห็นว่าท่านเกิดมาเป็นยักษ์มี3ขา 2ขาไว้เดิน อีกขานึงไว้ปราบวิญญาณ ผมเลยถึง
บางอ้อว่า นิมนต์ท่านมาทีไร ปรากฏขาข้างนึงใหญ่มากเหยียบลงมาจากเมฆมาเหยียบผี
ให้ตลอด เป็นขาข้างนี้นี่เองแล

เป็นอันว่าเข้าใจนะครับ อย่าเอาผมไปอ้างทำลายศาลต่างๆที่นอกเหนือเงื่อนไขข้างต้น
เดี๋ยวปู่พระยายมจดบัญชีไปหน้ายุ่งไป ไม่รู้จะลงเป็นบัญชีบุญรึบาป

 

อย่าพึ่งไปโทษศาลนะ ดูทิศทางบ้านด้วย ทางผ่านประตูผี หรือทับทางขึ้นอสูรกายหรือเปล่า หรือตั้งอยู่ตาม3แยกทางหากินสัมเภวสีหรือเปล่า

 

แนะนำสั้นๆลองปรึกษาหมอปลาดูดีกว่านะครับๆๆ

 

ตั้งทำไมให้เป็นภาระ....
พระรัตนตรัยนั้นดีที่สุดแล้วครับ เป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด
ไม่มีข้อหยุมหยิมยุ่งยาก ที่ไร้เหตุผลแบบศาลพระภูมิ
แค่ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอน แล้วนำมาปฏิบัติ ก็จบแล้ว

 

พุทธแท้ต้องไม่งมงาย

...อย่างเรานับถือพระภูมิ เราอยากมีพระภูมิ เราก็ไปสร้างศาลให้พระภูมิอยู่ พอถึงเวลาก็เอาอาหารไปเซ่นไปไหว้พระภูมิ ลองคิดดูซิว่า พระภูมินี่ บ้านท่านก็สร้างอยู่เองไม่ได้ อาหารก็อาศัยเรากิน คนที่กินน้ำใต้ข้อศอกเราอยู่ จะมาช่วยอะไรเราได้ แม้แต่บ้านก็สร้างอยู่เองไม่ได้ อาหารก็หากินเองไม่ได้ แล้วจะมาช่วยเราให้สำเร็จสิ่งที่เราปรารถนาได้อย่างไร นี่! แค่นี้ก็น่าจะคิด

เช่นอย่างสมมติว่า นายร้อยอยากเป็นนายพัน นายพัน อยากเป็นนายพล เอ้า! ไปหาพระ หมอบกราบ

"โอ๊ย! กรุณาเป่าให้ได้เลื่อนขั้นเลื่อนยศหน่อยเถอะ"

เอ้า! พระก็เป่าพรวดลงไป อยู่มาประเดี๋ยวเดียวก็ได้เลื่อนขั้นเลื่อนยศขึ้นมา โอ้! พระองค์นี้ช่วยเรา

แต่แท้ที่จริงเขาจะได้ของเขาอยู่แล้ว ถ้าหากว่าพระหมอมนต์ หมอวิชา เก่งจริง ลองไปเอาพลทหาร พลปลายแถว มาปลุก เสกให้เป็นนายพลให้ดูซิ ถ้าท่านผู้ใดทำได้แสดงว่าเก่ง

ถ้าใครมีของดี ของขลัง ของร่ำของรวย ไปเอาคนยากจนที่สุด คนขอทานกลางตลาด มาปลุกเสกให้เป็นเศรษฐี ลองดูซิ

นี่! แค่นี้เราก็มองเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว เราไม่น่าจะไปเชื่องมงาย

ฐานิยปูชา ๒๕๕๔ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
http://www.palungdham.com/

 

ท่านจะพูดตลกก็ไม่บอกก่อน จะได้เตรียมหัวเราะมาจากที่บ้าน ๕๕๕

สามรัตนะ นั้นพี่งได้แน่ แต่ก็เป็นแค่เรื่องทุกข์ และการดับทุกข์เท่านั้น
และต้องเป็นผู้ที่ผ่านการฝึกฝนกันมาเป็นชาติล่ะมั้ง นะ ถึงจะใช้งานได้คล่องแคล่วดี
คงไม่ใช้ระดับบ้านๆ หรอกครับ เธอดีเกินไป ไม่ใช่สำหรับชาวบ้านทั่วไป
ทุกข์ของพวกเค้า ดับไม่ได้ด้วยธรรมะหรอกครับ ต้องใช้วิธีทางโลก

แล้วที่ว่าไม่มีข้อหยุมหยิมยุ่งยาก นี่ก็ตลกแบบฝึดๆ
ศาสนาพุทธปัจจุบันนี้นี่แหละ เจ้าแห่งการหยุมหยิมเลยครับ ขอบอก
ออกทะเลไปตั้งไกลเลย หลงทางวนเวียนกันอยู่อย่างนั้นแหละ ซ้ำซาก จำเจ

ท่านน่ะเก่งแล้ว และแสนดีเลิศประเสริฐศรี จึงเข้าใจแก่นและนำมาใช้ได้
แต่คนทั่วไปเค้าจะรู้มากถึงหลายหมื่นเหมือนท่านรื้อ
อย่าดูถูกสิ่งที่ท่านเองก็ไม่แน่ใจดีกว่ามั้ง ขอบอก
โลกนี้มันกว้างใหญ่ไพศาล มีอะไรตั้งแยะที่ท่านยังไม่ทราบ หึหึหึ

ไม่รู้ใครที่ "ฝั่งโน้น" ฉุนขาดเลยนะเนี่ย
มาดูหมิ่นดูแคลนกันอย่างนี้ได้ไง

อย่าดีกว่า ลืมเสียดีกว่า ลืมเสียเรา เจ้าจงบอกตัวเองว่า อย่าดีกว่า ๕๕๕


แสงสว่างตราค้างคาว / เปรตตัวเต็มวัย
.

 

เคยมึนๆ มัวๆ
ในฐานะชาวพุทธ ควรจะวางใจไว้อย่างไรดี
เกี่ยวกะศาลพระภูมิเนีย่
อ่านแล้วแจ้งจางปาง ตาสว่าง สุดยอดเลยอ่ะ แสงสว่างตราค้างค้าว

แล้วท่านbat คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา ณ ปัจจุบัน
ทีีมีการเอาพิธีการของพราห์ม มาเกี่ยวข้องด้วย
เช่นการสร้างโบสถ์
ไม่รู้ว่าสมัยพุทธกาล การสร้างโบสถ์เค้าทำกันอย่างไรนะ
ไม่ได้มีเจตนาจะหลบหลู่นะคะ แค่อยากรู้จริงๆ

 

หมอปลามาทุบทิ้งอย่างเดียว...ครับ 5+

 

ถึงขนาดต้องทุบเลยหรอครับมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหมเนี่ย แหะๆ

 

ถ้าคิดว่าเป็นเพราะตั้งศาบแล้วซวย ก็เอาออก ถ้ามีแล้วยังไม่ดี ก็แสดงว่าไม่เป็นประโยชน์
จริงๆแล้วตั้งศาล ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยให้อยู่เป็นสุขอยู่แล้ว
สิ่งที่ทำให้อยู่เป็นสุขคือ เรามีชีวิตไปวันๆ ทำอะไรบ้าง
ถ้ามีศาล แต่ไม่ปฏิบัติตนให้ดี มันก็ซวย
ถึงไม่มีศาล แต่ปฏิบัติตนให้ดี มันก็เจริญได้
ฉะนั้น เรื่องพวกนี้มันอยู่ที่ใจ ถ้ามีศรัทธาในศาลเจ้าที่ศาลพระภูมิ
ก็จบศรัทธาให้สุด อย่าครึ่งๆกลางๆ
ตั้งแล้วก็ทำสิ่งที่สมควรจะทำ ไม่ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ
การกราบไหว้ ขอพรต่อศาลพระภูมิ หรือแม้แต่ศาลเจ้าที่
ก็เป็นอุบายให้จิตตั้งหมั่นอย่างหนึ่ง
เวลาที่ขอพรหรืออธิฐานขอสิ่งใดๆ
จิตใจเราก็เหมือนได้ตั้งเป้าไว้ที่สิ่งนั้นๆ
การมีศรัทธามาก ก็เท่ากับปลูกจิตสำนึกให้กระทำความสำเร็จต่างๆที่ตั้งใจได้ไวขึ้น
เรื่องสุขภาพก็เหมือนกัน สุขภาพแย่ไม่เกี่ยวกับศาล
แต่ปัจจัยที่ส่งผลต่อร่างกาย ก็มีหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การพักผ่อน สภาพจิต
สมมติ เราซัดเหล้าหนักๆทุกวัน ก็หวังว่าจะไม่เป็นโรคตับแข็ง เพราะมีศาลพระภูมิดี อย่างนี้ ไม่รอด ภูมิเทวาช่วยบ่ด้าย
สิ่งที่จำเป็นต้องทำและช่วยเราได้ผลดี ก็คือ การเจริญธรรม อันมี ตั้งแต่ระดับหยาย กลาง แก่ ดังนี้

ทาน จะทำให้เรารู้จักให้ เมื่อรู้จักให้ ก็จะอยากได้ของคนอื่นน้อยลง โลภน้อยลง
ศีล จะทำให้เราไม่เบียดเบียนใคร เท่ากับรักษาตน รักษาสุขภาพ รักษาชีวิต
ภาวนา ทำให้สงบ มีสมาธิ และมีปัญญา การงานก็จะก้าวหน้า ปัญหาก็จะพบทางออก

 

ถ้าเป็นผมก็คงรื้อศาลทิ้ง ถ้าจะตั้งก็ทำใหม่ทำให้ถูกวิธี ไม่อยากกราบไหว้สัมภเวสี...

 

บางคนก็กล่าวเกินไป คนธรรมดาทั่วไปจะไปรู้ได้ไงว่าเป็นวิญญานระดับไหนมาอยู่ ขืนไปพังบวกกระทืบ เดี๋ยวยิ่งซวยไปใหญ่ ยิ่งการที่จะได้เห็น ท่านท้าวเวสสุวรรณ ก็ยิ่งกว่ายากเสียอีก นอกจากเห็นแต่ในรูป หรือตายแล้วนั่นแหล่ะ เอาเป็นว่าแบบไหนทำแล้วสบายใจก็ทำเลย แต่ต้องมีครูบาอาจารย์มาทำให้นะครับ อันนี้สำคัญ ใครจะว่าไงช่างมัน เพราะเค้าไม่ได้มาอยู่กับเรา

 

เพลย์เซฟไว้ก่อน นั่นแหละครับ ดีที่สุดแล้ว
เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่ดีจริง บรรพบุรุษของพวกเราชาวไทย
คงไม่วิจัย คิดค้น และพัฒนามาถึงปัจจุบันนี้แน่ๆ เนอะ

เรื่องพิธีกรรมทางศาสนา มันมีตั้งแยะ พูดยากเหมือนกันนะครับ
ดีก็มีมาก ไร้สาระก็แยะ หาเงินกันมั่วไปหมด
บ้างก็หวังชื่อเสียงลาภยศ ทั้งพระทั้งฆราวาส ชาวบ้านเองก็ด้วย
แค่โลกธรรมแปด ยังฝ่าฟันกันไปไม่ได้ถึงไหนเล้ย ตูล่ะเบื่อ

พิธีของพราห์ม ก็คงต้องอยู่ที่คนเชื่อและศรัทธาแล้วล่ะมั้ง นะ
ผ่านมาหลายพันปีแล้ว ก็ไม่รู้ว่าที่เหลืออยู่ ถูกต้องแม่นยำกันแค่ไหน

โบสถ์สมัยพุทธกาล เค้ามีสร้างกันรึยังหว่า
ไม่แน่ใจ หรือรู้แต่ลืมไปแล้วก็ไม่ทราบได้ ๕๕๕



กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

พวกฝรั่งต่างชาติ ไม่เห็นต้องมีศาล โน่น นั่น นี่ เขาก็อยู่กันดี มีความสุข แต่แปลกคนเอเชียจะต้องไหว้เทพ เทวดา อะไรกันเยอะแยะไปหมด แต่ก็ยังไม่มีความสุข สำหรับผมแล้ว ยึดมั่น ลงมั่น ในพระพุทธเจ้าเท่านั้นพอแล้ว