กสิณอะไรฝึกง่ายสุดหนอ?

ท่านอย่าเข้ามาดูเลยในหัวสมองเรา ไม่มีอะไรหรอก ถ้าท่านเก่งจริง หาจิตเราให้พบก่อนค่อยว่ากันนะ

 

หรือถ้าท่านอยากพิสูจน์ว่า ตัวท่านรู้ดีแล้ว รู้ถูกแล้ว เราแนะนำให้เข้าไปในดอกบัวสามดอกที่ เบ่งบานเป็นสีขาว แสงสว่างทั่วไทยน่ะ ถ้าท่านมีจิตอกุศลตัวท่านจะลุกเป็นไฟ ถ้าท่านเป็นคนดี ท่านจะไม่เป็นอะไร กล้าลองเข้าไปในดอกบัวมั้ยล่ะ

 

ดีจริงๆครับโผล่มาโชว์ตัวหน่อย
ปฏิบัติแล้วโลภโกรธแกน้อยลงข้าว่าแกใช้ได้ ลป.ดู่

 

พี่ระมิงค์ช่างอ่อนน้อมถ่อมตนนัก
หรือว่าฝีมือพี่นะ ที่ทำน้ำท่วมเลิงนกทาจนเด็กๆต้องหยุดเรียนค่ะ ^___^

 

ขอบพระคุณมากค่ะคุณรุ้งดาว
ยกให้คุณรุ้งดาวเป็นศิษย์พี่นะคะ
ศิษย์น้องจะคลานต้วมเตี้ยมตามไปห่างๆค่ะ ^^

 

โห ไม่กล้ารับเป็นศิษย์พี่ครูติงเลยค่ะ ศิษย์พี่และหัวหน้าห้องดิฉันขอยกให้ท่านระมิงค์ดีกว่าค่ะ ว่าแต่ดิฉันเริ่มแอบเคืองอาจารย์แล้วเนี่ย ป่านนี้ยังไม่มีเข้าห้องสอนเลย ดิฉันนั่งคอยนอนคอยจนเริ่มงอนแล้วเนี่ย ....

ท่านระมิงค์คะ ........

 

ไช่ๆ เราก็รอท่านอาจารระมิงอยู่ ได้ยินว่าแถวจังหวัดเลย มีตระกุดสามภพที่สวดยวด อยากถามว่าท่านอาจารระมิง มีมั่งหรือเปล่า

 

และที่จังหวัดเลย ก็มีดอกบัวบานขึ้นด้วยดอกนึง ไม่ทราบท่านอาจารระมิง รู้เห็นดอกบัวนั้นบ้างหรือเปล่า

 

ท่านอาจารระมิง เงียบจุงเบย ท่านอาจารระมิง สติยังอยู่กับเนื้อกับตัวหรือเปล่า

 

กสิณสี ฝึกง่ายสุด

 

เด่วไว้สดวกจะมาเล่าที่ถามๆค้างไว้ให้ฟังครับ..
พยายามจะหาช่องว่างเวลาให้ได้ซัก ๒๐ นาทีมา ๒ วันแล้ว ๕๕๕๕๕
และอาจจะเล่าเรื่องกสิณกายให้ฟังร่วมด้วยครับว่ามันแตก
ต่างๆจากกสิณที่ฝึกตรงนี้อย่างไร.มีข้อดีข้อเสียอย่างไร
.ให้พยายามดูที่กิริยาทางจิตที่เกิดนะครับ..
.อย่าไปเน้นที่ตัวภาษามากครับ..จะทำให้เราเข้าใจถึง
เรื่องธาตุต่างๆได้ด้วยครับ..
แต่เอาจริงๆแล้ว กสิณสีฝึกง่ายสุดก็ถูกต้องครับ..
ส่วนอาปาฯ การหายใจ ๓ ฐานคือหายใจให้ลึกถึงท้อง
ให้เลยระดับหน้าอกก็เป็นพื้นฐานสำคัญไม่ว่าจะฝึก
กรรมฐานกองไหนๆก็ตาม.และควรจะให้เป็นระบบ
การหายใจในชีวิตประจำวันให้ได้ด้วยครับ..
ไม่ว่าจะสติปัฏฐาน ๔ จะกิริยา
ของกสิณกายต่างๆนั้น..เอาไปเอามามันก็จะสัมผัส
เกี่ยวข้องกันหมดแทบจะแยกจากกันไม่ได้.เพียงแต่
เราอาจจะข้ามหรืออาจจะยังมองไม่เห็นเฉยๆก็ได้ครับ..
เอาไว้วันหนึ่งพอฝึกถึงระดับหนึ่งจะเข้าใจได้เองครับ
ว่ากรรมฐานทุกกองล้วนแล้วแต่ส่งเสริมและมีความสัม
พันธ์ต่อกันทั้งสิ้น.
และไม่มีกองไหนดีกว่ากัน...ไม่มีกองไหนด้อยกว่ากัน...
เพียงแต่เราจะเข้าถึงกองไหนในช่วงนี้..
และแนวทางการปฏิบัติเราช่วงนี้เป็นอย่างไร
ตามแต่เหตุและปัจจัยเฉพาะบุคคลเท่านั้นเองครับ
ช่วงนี้เน้นบันเทิงไปก่อนครับ...เด่วดึกๆจะมาอ่านแล้ว
จะพยายามพูดให้ครอบคลุมที่สุดครับ.....
ปล.จะฝึกอะไรก็ตามครับ..ขอให้อยู่คนเดียวเราก็สนุก
อยู่หลายคนก็ยิ่งสนุกกว่า.ถือว่าใช้ได้หมดครับ..(deejai)..

 

อ้าวท่านอาจารระมิง เราคงไม่ได้ไปหาเรื่องเถียงธรรมกับท่านหรอกไช่มั้ย หรือจะไช่
เราเองก็ยังใหม่อยู่นะ ภูมิจิตภูมิธรรม ไม่ได้มีอะไรเหมือนคนอื่นเขาหรอก ไม่มีอะไรจะอวดใครด้วย ไม่มีอะไรเลยจริงๆนะ

แต่เรื่องการเกิดความคิดนั้น ที่ท่านอธิบายมาอาจมีความเข้าใจไม่ตรงกันได้บ้าง
ถ้าเราขออธิบายบ้าง ก็อย่ามาเข้าใจว่าเราเถียงธรรมกับท่านนะ ได้มั้ยล่ะ

สำหรับเราเราเข้าใจว่า ความคิดเกิดจาก ใจมันรับผัสสะมาจากอายตนะกายแล้วในการรับรู้ในครั้งนี้ มันไม่เหมือนการรับรู้เหมือนที่ผ่านมา มันเลยพยายามทำความเข้าใจ ค้นหาว่า ทำไม เพราะอะไร ใจมันเลยคิดน่ะ แค่คิดตามประสาของใจ เท่านั้นแหล่ะ
หรือบางที มันไม่อยากคิดก็มีด้วยนะ นี่ก็ถือว่าเป็นความคิดชนิดหนึ่งคือคิดว่าไม่อยากคิดน่ะ

 

วิชาปั่นธาตุ เนี่ยเคยได้ยินมานะ ปั่นธาตุ ปั่นธรรม ปั่นจิต ทำนองนี้แหล่ะ
และเคยได้ยินมาอีกวิชาหนึ่งด้วยนะ วิชาอายุวัฒนะ เป็นวิชาของพรหม เขามาบอกน่ะ
คือว่า ให้สูดลมหายใจเข้าช้าๆยาวๆ จากที่สูดลมเริ่มต้นให้กำหนดที่จุดก้นกบว่ามีลมหมุนเหมือนพายุทอร์นาโดน่ะหมุนตามเข็มนาฬิกาที่หมุนขึ้นเอาแกนกลางลำตัวเป็นแกนเส้นตรง พอสูดลมหายใจจนถึงที่สุด ลมหมุนที่ขึ้นมานั้นให้ไปสิ้นสุดที่กลางกระหม่อมพร้อมกับลมหายใจเข้าที่อัดแล้วเต็มที่ แล่้วค้างไว้ อย่าพึ่งหายใจออกและลมที่หมุนก็ยังหมุนอยู่เป็นกลียวยาวจากก้นกบขึ้นไปที่กลางกระหม่อม ใครทำได้ ลองดู นี่ก็ คือการเข่้าฌาณสี่ อีกแบบนะ ตามที่เคยทำดู ช่วงที่กลั้นลมหายใจไว้นั่นแหล่ะเหมือนอากาศธาตุภายในจะแตกระเบิดกายไปด้วย แล้วก็ว่าง เหมือนเข้าฌาณสี่ อยากลองก็ลองทำได้นะ เล่าสู่กันฟัง

 

ถ้าการพูดมากไม่มีประโยชน์
การแสดงธรรมเทศนา ก็ คงจะไม่มีประโยชน์ เช่นนั้นมั้งนะ

คนที่เข้าใจว่าการพูดมากไม่มีประโยชน์ อาจจะเป็นเพราะครูบาอาจารย์สอนมาน้อย หรือสอนมาผิดๆ หรือเข้าใจผิดเอง ก็ได้นะ ไม่ว่ากัน

 

นี่ก็พูดไม่มาก แต่ดูเหมือนจะพูดน้อยไปเหมือนพูดยังไม่จบเลย

 

ตอบ ประเด็นนี้พอเข้าใจครับ.ยิ่งท่าน ม.ท่านเลยเรื่อง
ที่เราๆแลกเปลี่ยนกันนี้ไปจนแนวกระดูกสันหลังเป็นแกนแม่เหล็ก.
จนเรียกได้ว่าเชื่อมได้ทุกองค์ความรู้.และสร้างบารมีมากล้น
ตลอดจนปัญญาทางธรรมในระดับที่เหนือวิสัยเราๆจะวิเคราะห์ได้
เอาว่าระดับภพภูมิที่เด่นเรื่อง พรหมวิหาร ๔ ยังมานั่งฟังท่านเทศน์ครับ.
.อืม..ส่วนตัวกว่าจะสอบผ่านเรื่องการใช้และวิธีการ
ใช้จากครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิให้นำมาใช้ได้ก็
ประมาณ ๒๐ ครั้งครับถึงจะแค่พอผ่าน
ยกตัวอย่างการฝันเกี่ยวกับ
เรื่องกิเลสทั่วๆไป..เค้าว่าเราผ่านได้ตั้งแต่ครั้งแรกก็ถือว่าดีแล้ว..และผู้ปฏิบัติ
ที่พัฒนามาได้อีกขั้นอาจจะเจอเรื่องทดสอบกิเลสในคราวเดียวถึง ๒ เรื่อง..
แต่ถ้าเป็นกรณีเรื่องการใช้ฤิทธิ์และวิธีนำไปใช้แล้ว..การทดสอบอาจจะเจอ
ถึงครั้งที่ ๓ และ ๔ ได้ภายในครั้งเดียวครับ
..เพราะฝ่ายทดสอบต้องยอมรับว่าเค้าเก่งพอ
จริงๆเรียกว่าต้องยอมตายโดยไม่ใช้ฤิทธิ์ที่มีถึงจะผ่านครับ..

 

ตอบ ความเข้าใจเรื่องปั่นๆน้ำก็ปั่นไปกับจักระที่มันจะเปิดและจะขยายวงได้
กว้างขึ้นได้เรื่อยๆของมันเองครับ.และกิริยาอื่นๆก็ปกติครับ
แม้กระทั้งจักระ ๖ ก็จะลงต่ำมาได้เองเช่นกันแต่จะอยู่ใน
แนวแกนกระดูกสังหลังครับ.และก็ไม่ต้องสนใจก่อนเพียงแค่รู้ๆถือว่า
ดีแล้วครับ...อย่าลืมว่าเรากำลังสร้างกำลังจิตอยู่ เพื่อการดึงพลังงาน
กสิณขึ้นมาใช้ให้ได้..ซึ่งพลังงานพวกนี้ก็อาศัยคลื่นประจุไฟฟ้า ที่เกิดจาก
การที่จักระจุดต่างๆได้เปิดออกรวมกันอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้เช่นกันครับ..
แม้ว่าเพียวๆพลังงานกสิณจะอาศัยอากาศธาตุเป็นตัวช่วยหนุน
ในขณะเดียวกันนั้นการส่งพลังงานหรือเชื่อมพลังงานต่างๆ.
ก็อาศัยคลื่นประจุไฟฟ้าที่เปิดจากจักระเป็นตัวช่วยหนุนร่วมด้วยเช่นกันครับ...
ถ้าเพียวคลื่นประจุไฟ้ฟ้าจากจักระอย่างเดียวและรวมกับอากาศธาตุเป็นตัว
หนุนแล้ว.ก็จะได้ส่วนพลังงานภายนอกจากพระอาทิตย์และพลังงานเย็น
จากดวงจันทร์.เท่านั้นที่เราเรียกว่าพลังงานจักรวาล.จะสัมผัสได้ในลักษณะ
ของความร้อนและความเย็นไม่มาก.แต่ก็สามารถส่งได้.แต่ว่าภูมิต้านทาน
จะยังไม่เพียงพอหากเจอพลังงานที่แข็งแรงมารบกวนเราครับ.ส่วนตัว
ใช้คำว่าภูมิต้านท้านยังไม่พอ....ซึ่งพลังงานที่ได้จากกสิณจะมาช่วย
แก้ปัญญาตรงนี้ได้.ส่วนการส่งก็ยังทำได้เช่นกัน เพียงแต่จะมีพลังงาน
ที่เอกลักษณะของแต่ละกสิณเข้ามาปนร่วมด้วยครับ..
แม้ว่าทั้งจักระและพลังงานกสิณจะอาศัยอากาศธาตุเป็นตัวช่วยหนุนทั้งคู่
แต่มันก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ประมาณที่เล่าให้ฟังครับ...
และการที่ภูมิต้านทานเราไม่พอโอกาสที่จะถูกควบคุมจากภายนอก
โดยที่เราไม่รู้ตัวก็จะสูง จะส่งผลให้อารมย์แปรปรวนด้วยครับ
ก็จะสูงและการจะกลับมาเป็นปกติได้ก็ยากด้วยครับ.
ซึ่งสุดแล้วแต่นะครับว่าใครมาอ่านแล้วจะจับประเด็นตรงนี้ได้ครับ.
ปล.ประมาณนี้ครับ.ขอบคุณครับ.:VO

 

ตอบ ใช่ครับ..และเพิ่มเติมให้ครับ.พวกกระแสที่มาตรงๆขมับหรือเหนือหูด้านซ้าย ถือว่าไม่ดีครับ
ให้เจริญสติร่วมด้วย พร้อมทั้งพยายามเร่งสร้างกำลังจิตให้เกิดครับ..
กระแสไหลๆทางด้านซ้ายมาจากด้านหลัง หรือบริเวณข้อมือซ้าย
ขึ้นมาถึงข้อศอกซ้าย หรือ ทั้งแขนซ้าย หรือ ร่างกายด้ายซ้ายทั้งหมด
หรือ บริเวณต่ำกว่าหัวเข่า ทั้งสอง(ร้อนด้วย) ถ้ามีกระแสพลังงาน
แบบนี้ให้อุทิศส่วนกุศลทันทีครับ..เพราะเป็นกระแสต้องการกำลัง
บุญ..ลองอ่านวิธีอุทิศในกระทู้ ใครที่ยังสงสัยเรื่องอุทิศส่วนกุศล
และแผ่เมตตาดูครับ...ไม่งั้นอาจจะเกิดผลกับร่างกายได้อย่างที่
เราคาดไม่ถึงครับ...
ปล.ประมาณนี้ก่อนครับ(deejai)

 

มาให้กำลังใจน่ะ ไม่มีอะไรหรอก คุนนพ

แล้วสอนว่า อย่าไว้ใจมานาวต่างดุ๊ด(ภพภูมือื่น)
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
แม้เถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคนพาล

สอนลูกศิษย์ด้วยว่า อย่าฝึกเพื่อเอาไปทำร้ายคนอื่นด้วยนะ
เพราะความเก่ง คนเก่ง ไม่มีในโลกอ่ะ

 

ให้ดูตัวอย่างของพระโมคคัลลานะเป็นตัวอย่างนะ ว่า ต่อให้มีฤทธิ์แค่ไหน สุดท้าย ก็ต้องยินยอมไม่ใช้ฤทธิ์ และสอนลูกศิษย์และบอกตัวเองด้วยนะว่า อย่าพึงเข้าไปดูคนอื่นในหัวของคนอื่น เพราะนั่นคือการละเมิดสิทธิส่วนตัว เป็นความผิดเช่นกัน