พระและของมงคล...ที่สะสมพร้อมประสบการณ์ ^^

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย poman, 18 ตุลาคม 2012.

  1. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวยครับ ผ้ายันต์จารมือด้วย
     
  2. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามบ่าย คุณกิม คุณกานต์ คุณนุ คุณปอ ตุณปื๊ดและทุกๆท่าน

    [​IMG]
     
  3. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,090
    วันนี้มาชมพระสายใต้กันบ้างครับ

    เหรียญรุ่นแรก พ่อท่านเอื้อม สำนักสงฆ์ปฎิบัติธรรมสวนป่าตลิ่งชัน พัทลุง

    เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์ทางภาคใต้ มาเลย์ซุ่มเก็บทีเป็นร้อยเหรียญครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2014
  4. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,090
    อีกเหรียญ

    เหรียญรุ่นแรก พระครูอาคมสิทธิเวช พ่อท่านเอียด วัดขันประชาสรรค์ พัทลุง

    คนพื้นที่เค้าว่าท่านเก่งเรื่องสมุนไพรและไล่ผีครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2014
  5. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดี เพื่อน สมช ทุกๆท่าน
    ช่วงนี้ขอพักสายตาหน่อย คงไม่ได้เข้ามาทักทายบ่อยนักครับ
     
  6. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    มานำเสนอความคิดเห็น อ่านเล่นๆ สนุกๆนะครับ

    การกำเนิดสิ่งมีชีวิตของโลกตามคำสอนของพุทธศาสนา

    ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปถึงความอึดอัดใจเรื่องนี้ เพราะเคยมีครูสอนวิชาเคมีม.4 เคยกล่าวกับผมว่า เมื่อก่อนเคยนับถือพระพุทธศาสนาแต่ตอนนี้ไม่นับถืออะไรแล้ว เชื่อแต่วิทยาศาสตร์ ครูก็บอกว่า ไหนว่าพระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู รู้ทุกอย่างกะอีแค่การกำเนิดยังไม่รู้เลย แล้วครูก็บอกว่า

    การกำเนิดของสัตว์โลกมี 4 อย่างตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    1. อัณฑชะกำเนิด สัตว์ที่เกิดในไข่
    2. ชลาพุชะกำเนิด สัตว์ที่เกิดในมดลูก
    3. สังเสทชะกำเนิด สัตว์ที่เกิดในเถ้าไคล (ของสกปรก)
    4. โอปปาติกกำเนิด สัตว์ที่ผุดเกิดขึ้นโตทันที พวก สัตว์นรก เทวดา

    ครูก็อธิบายต่อว่า
    1.พืชหล่ะ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเหรอ? ถึงไม่มีการบอกการเกิดเอาไว้
    2.ไข่ เกิดจากไข่ คน หมา แมว ก็เกิดจากไข่ผสมอสุจิ ไม่เห็นต้องบอกว่าเกิดจากครรภ์เลย
    3.เกิดจากเถ้าไคล สิ่งสกปรก อันนี้รับไม่ได้ที่สุด ก็ เชื้อโรค หนอนแมลง ถ้าไม่มีสัตว์เหล่านี้มาไข่ไว้ หรือ มีเชื้อโรคมาอยู่จะแพร่พันธุ์ได้อย่างไร มันเกิดเองไม่ได้ พระพุทธเจ้าไม่รู้จริงแล้ว แค่นี้ยังไม่รู้จะไปสอนอะไรๆ ได้อย่างไร
    4.ยิ่งโอปปาติก เกิดแล้วโตทันที พวกสัตว์นรก เทวดา พรหม พิสูจน์ไม่ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์

    ตอนนั้นผมฟังก็ อืม!!! ก็จริงตามครู แต่ต้องมีอะไรผิดแน่ๆ พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ต้องมีอะไรผิดพลาดบางอย่างแหละ
    ต่อมาก็มาสะดุด ถึง ภาษาอังกฤษ แปลเป็นภาษาไทย หลายๆ คำก็มีหลายความหมาย เช่น
    Is,am,are ก็แปลว่า เป็น , อยู่ , คือ ก็มีได้หลายๆความหมายนี่หน่าแล้ว บาลี สันสกฤตแปลเป็นไทยก็คงมีอะไรผิดบ้างแหละน่า... ก็เลยถึงบางอ้อ ยูเรกา...คิดออกแล้วครับคุณครู

    โยนิ 4 (กำเนิด,แบบหรือชนิดของการเกิด Yoni : ways or kinds of birth ; modes of generation)

    1.อัณฑชะ (สัตว์เกิดในไข่ คือ ออกเป็นฟองก่อนแล้วจึงฟักเป็นตัวเช่น นก เป็ด ไก่ เป็นต้น Andaja: the oviparous; egg-born creatures )

    ถ้าแปลเพิ่มว่า สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากไข่ และเมล็ด (คือเป็นฟองๆ เหมือนกัน) ก็จะคลุมการกำเนิดทั้ง สัตว์และพืชคือหมายถึงการเกิดโดยไม่ต้องอาศัยครรภ์(ที่พักอาศัย)หล่อเลี้ยงก็สามารถกำเนิดมีชีวิตได้ ถ้าเป็นพืชก็งอกจากเมล็ดได้

    2. ชลาพุชะ (สัตว์เกิดในครรภ์ คือ คลอดออกมาเป็นตัว เช่น คน โค สุนัข แมว เป็นต้น Jalabuja : the viviparous : womb-bom creatures)

    สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากครรภ์ หมายความว่า ถึงเป็นตามธรรมชาติ จะมาจากไข่ก็จริง แต่ถ้าไม่มีครรภ์หล่อเลี้ยงก็ไม่สามารถเกิดได้ ถึงแม้จะเป็นวิทยาศาสตร์ผสมไข่และอสุจิในข้างนอก และมีครรภ์เทียมก็ตาม ก็ต้องมีครรภ์เป็นที่หล่อเลี้ยงถึงจะเกิดได้

    3.สังเสทชะ ( สัตว์เกิดในไคล คือ เกิดในของชื้นแฉะหมักหมมเน่าเปื่อย ขยายแพร่ออกไปเอง เช่น กิมิชาติบางชนิด Samsedaja: putrescence-born creatures; moisture-born creatures)

    อันนี้ต้องแปลใหม่เป็น สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเถ้าไคลเซลล์ตัวเอง ก็สามารถอธิบายได้หมดเลย สำหรับสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวทุกชนิดไม่ว่า แบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว ก็เกิดจากการแบ่งตัวของตัวเอง ซึ่งเหมือนเถ้าไคลจริงๆ ด้วย อธิบายได้แม้กระทั่งปลาดาว ที่ชิ้นส่วนร่างกายขาดแล้วกำเนิดใหม่จากร่างกายตัวเอง หรือแม้กระทั่ง เห็ด รา ก็เกิดจากการแบ่งตัวสปอร์ และเกิดเป็นเส้นใยก่อนจะโตเป็นดอกเห็ดหรือเชื้อรา หรืออธิบายได้ถึงการกำเนิดแบ่งตัวของ ตัวเพลี้ยที่แบ่งตัวเอง เป็นตัวก็มาจากแบ่งร่างกายตัวเองนั่นเอง
    หรือแม้กระทั่งอธิบายการเกิดจากการแตกหน่อ ก็มาจากการแตกหน่อจากร่างกายตัวเอง เช่น ยีสต์ ไฮดราฟองน้ำ ในพืชชั้นสูงก็มีพวก ขิง ข่า กล้วย หน่อไม้ เป็นต้น แม้กระทั่งการเพาะพันธุ์เนื้อเยื่อทั้งเซลล์มนุษย์ สเต็มเซลล์ เซลล์พืช กล้วยไม้ เห็ด ก็มาจากเถ้าไคลเซลล์ของตัวเองนั่นเอง

    สรุปอธิบายการเกิดจากเถ้าไคลร่างกายตัวเองเป็นการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศทั้งพืชและสัตว์สามารถแบ่งได้ดังนี้

    1.) การแตกหน่อ (Budding)
    มาจากแตกเซลล์ร่างกายตัวเองเช่น ยีสต์ ไฮดรา ฟองน้ำ ในพืชชั้นสูงก็มีพวก ขิง ข่า กล้วย หน่อไม้ เป็นต้น

    2.)การแบ่ง ตัวออกเป็นสอง (Binary Fission)
    เกิดจากการแบ่งเซลล์ร่างกายตัวเองได้แก่ อะมีบา พารามีเซียม ยูกลีนา ไวรัส และแบคทีเรีย

    3.) พาร์ธีโนเจเนซิส (Parthenogenesis)
    คือแบ่งตัวเอง แล้วเป็นตัวเองแต่ตัวเล็กๆ เช่น ตั๊กแตนกิ่งไม้ เพลี้ย ไรน้ำ

    4 .) การงอกใหม่ (Regeneration)
    คือเมื่อชิ้นส่วนเซลล์ร่างกายของตัวเองขาดไปก็สามารถงอกใหม่ได้ เช่น ดาวทะเล พลานาเรีย

    5.)การสร้างสปอร์ (Spore Formation)
    คือการสร้างเส้นใยจากเซลล์ร่างกายตัวเองได้แก่ เชื้อรา เห็ดต่างๆ

    6.)การขาดออกเป็นท่อน (Fragmentation)
    เมื่อขาดเป็นท่อนๆจากเซลล์ร่างกายตัวเอง แล้วโตขึ้นมาเช่น สาหร่ายทะเล(สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน)

    เห็นไหมครับการกำเนิด 3 อย่าง ก็อธิบายการเกิดของสิ่งมีชีวิตครอบคลุมทุกๆประเภทในโลกนี้แล้ว สัพพัญญูของพระพุทธเจ้ากว้างไกลจริงๆ ส่วนการกำเนิดหัวข้อที่ 4 ถ้าเชื่อเรื่องสวรรค์ นรก เทพ เทวดา พรหม ก็หมดปัญหา แต่ถ้าจะอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์หล่ะ...

    4.โอปปาติกะ (สัตว์เกิดผุดขึ้น คือ เกิดผุดเต็มตัวในทันใด ได้แก่ เทวดา พรหม สัตว์นรก มนุษย์บางพวกเช่นพวกลับแล บังบด เปรต อสุรกาย ท่านว่า เกิดและตาย ไม่ต้องมีเชื้อหรือซากปรากฏ Opapatika: spontaneously-born creatures; the apparitional)

    ถ้าอธิบายถึงการกำเนิดโอปปาติกะตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็คือการกำเนิดภายในจิตใจคน บางทีก็เป็นเทวดา เป็นพรหม เป็น เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน สาเหตุเพราะพระพุทธเจ้าสอนเพื่อให้บรรลุธรรม เลยต้องสอนให้รู้ถึงอารมณ์ของคน ค้นพบถึงเหตุ ผล และทางหลุดพ้น
     
  7. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เยี่ยมเลยครับ คุณปอ
     
  8. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    ขอเสนอความคิดเห็นของ

    ธาตุตามหลักพระพุทธศาสนา

    สืบเนื่องจากครูเคมีตอนมัธยมศึกษาปีที่ 4 ท่านก็ยังบอกอีกว่าพระพุทธเจ้ามีสัพพัญญูญาณ ทำไมถึงบอกว่าธาตุมีแค่ 6 ธาตุ ทั้งที่นักวิทยาศาสตร์ บอกว่ามีตั้ง ร้อยกว่าธาตุ แต่ทำไมพระพุทธเจ้าบอกว่ามีแค่ 6 ธาตุเอง

    ทำไมพระพุทธเจ้า ถึงต้องบอกอะไรที่เหมือนกันอีก คือ ธาตุลม และธาตุอากาศ ทำไมถึงต้องบอกสองอย่างด้วย ทั้งที่ลม กับอากาศก็เหมือนกัน ถึงจะบอกว่าลมเคลื่อนไหว อากาศหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวก็ตาม และวิญญาณธาตุคืออะไรเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ไหมทางวิทยาศาสตร์ เพราะพระพุทธเจ้าบอกว่าธรรมะ คือ ธรรมชาติ ต้องเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ซิ

    ที่จริงผมว่าจะตอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ก็ติดอยู่ 2 ข้อคือ
    1.ธาตุลม และธาตุอากาศ ก็เหมือนกับครูบอกจริงๆ นั่นแหละ คือ ก็ตัวเดียวกัน ทำไมพระพุทธเจ้าต้องมาแบ่งแยกด้วยนะ แต่ก็ต้องไปหาข้อมูลก่อนคงต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ
    2.ส่วนวิญญาณธาตุคืออะไรนะ ต้องไปดูความหมายก่อน

    และแล้วก็คิดออก เหมือนเรื่องการกำเนิดเลย คือผิดพลาดที่คำแปล บาลี สันสฤตแปลเป็นภาษาไทย ก็ใช้คำผิดกันไปนั่นแหละ
    ในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่า ธาตุ มีทั้งสิ้น 6 ธาตุ ได้แก่
    ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ อากาสธาตุ วิญญาณธาตุ

    มาดูคำแปล เฉพาะ 4 ธาตุก่อน
    ปฐวีธาตุ ธาตุดิน
    อาโปธาตุ ธาตุน้ำ
    วาโยธาตุ ธาตุลม
    เตโชธาตุ ธาตุไฟ


    ซึ่งทั้ง 4 ธาตุก็ตอบปัญหาเรื่องธาตุในวิทยาศาสตร์ได้หมดแล้ว
    1.ธาตุดิน คือ ธาตุที่เป็นของแข็ง ก็พวก เงิน ทอง ตะกั่ว ฯลฯ
    2.ธาตุน้ำ คือ ธาตุที่เป็นของเหลว พวก น้ำ ปรอท ฯลฯ
    3.ธาตุลม คือ ธาตุที่เป็นก๊าซ พวก ออกซิเจน ไฮโดรเจน ฮีเลี่ยม ฯลฯ
    4.ธาตุไฟ คือ ธาตุที่ให้พลังงานความร้อน พวก กัมมันตภาพรังสี ยูเรเนี่ยม ฯลฯ

    ซึ่งจะเห็นได้ว่า จะธาตุอะไรในโลกนี้ก็อยู่ใน 4 ธาตุนั่นแหละครับ พระพุทธเจ้าคงไม่สอนว่านี่ธาตุเงินนะ นี่ธาตุทองนะ นี่เป็นก๊าซเฉื่อยนะ จะมีประโยชน์อะไร ทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานหรือ? พระพุทธเจ้าท่านก็สอนแบบองค์รวม เพื่อหา เหตุ หาผลที่จะอธิบายแบบองค์รวมเพื่อ ให้รู้ถึงเหตุที่ก่อกำเนิด และ หาผลที่จะทำให้ปฏิบัติตามทางที่จะบรรลุซึ่งมรรคผลนิพพานต่อไป

    แล้ว 5.อากาสธาตุ หล่ะ จะเห็นได้ว่า ในพระไตรปิฎก เขียนว่า อากาส ใช้"ส เสือ" ไม่ใช่ "ศ ศาลา" เหมือนคำว่า อากาศ คำว่า อากาสธาตุ ในคำแปล หมายความว่า ที่ว่าง ช่องว่าง ความว่าง ดังนั้นก็ไม่ใช่อากาศที่เป็นก๊าซไงครับ ถ้าความหมายทางวิทยาศาสตร์ ก็หมายถึง “อวกาศ” หรือที่ๆ ไม่มีอากาศนั่นเอง

    6.วิญญาณธาตุ คำแปล หมายถึง ธาตุรู้ถึงความรู้สึก
    ซึ่งการรับรู้ถ้าเทียบกับสมองคนเรารับรู้เรื่องต่างๆ ก็เป็นพลังงานไฟฟ้า คลื่นสมอง สั่งการจากส่วนต่างๆหรือจากส่วนต่างๆ ในร่างกายส่งไปยังสมอง ดังนั้น ถ้าเปรียบเทียบทางวิทยาศาสตร์ก็ หมายถึงธาตุที่เป็นนามธรรม เป็นธาตุที่เป็นพลังงาน เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่นไฟฟ้า ธาตุที่ให้พลังงานรูปแบบอื่นๆ เช่นให้พลังงานความเย็น พลังงานแสง โดยเป็นพลังงานที่แตกต่างๆ จากพลังงานความร้อนหรือ เตโชธาตุ

    ธาตุทั้ง 6 ในพระพุทธศาสนาก็จะครอบคลุมทุกธาตุในจักรวาล ทั้ง ธาตุที่เป็นของแข็ง ธาตุที่เป็นของเหลว ธาตุที่เป็นก๊าซ ธาตุที่ให้พลังงานความร้อน รังสีความร้อน ธาตุที่อยู่นอกโลก คือ อวกาศ และธาตุที่เป็นพลังงานต่างๆ ทั้งคลื่นไมโครเวฟ คลื่นแม่เหล็ก ฯลฯ

    ดังนั้น ธรรมะ คือ ธรรมชาติ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ทุกกาลทุกเวลา
     
  9. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,090
    สวัสดีครับ หายไปหลายวัน ยังคึกคักเหมือนเดิมนะครับ
     
  10. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ขอบคุณครับ คุณปอ สำหรับเนื้อหาที่มีสาระและพิสูจน์ได้
     
  11. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    (f)(f)(f)
     
  12. HONDA_FEENO

    HONDA_FEENO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,395
    นะโมเขาว่า....เกลี้ยงวัด...ไม่เหลือแล้ว!!! หาบูชาด่วน ก่อนราคาวิ่ง...(ผมว่า..วิ่งไปไกลแล้วนะ!!!)

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  13. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    ชัดเจนครับพี่กิม


    แทน ท่าพระจันทร์เพิ่งลงบทความไปเมื่อ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ ที่นสพ.ข่าวสด


    คัดมาบางส่วนครับ
    [FONT=Tahoma,]"จาก คำบอกเล่าของ พระวิสุทธิศีลคุณ อดีตเจ้าอาวาส ว่าพระเครื่องของวัดกลางนี้สร้างโดย อดีตเจ้าอาวาสรูปหนึ่งของวัด แต่ไม่มีบันทึก นามของท่าน แต่เรียกกันว่า พระอาจารย์เฒ่า เป็นผู้สร้างขึ้นตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ 4 โดยติดพระไว้กับแผงไม้แล้วประดับไว้โดยรอบพระ อุโบสถหลังเดิม พระทั้งหมดสร้างด้วยเนื้อชินตะกั่ว มีด้วยกันหลายพิมพ์ ทั้งพิมพ์พระประจำวัน และพิมพ์ต่างๆ ตามพุทธประวัติ ด้านหน้าลงรักปิดทอง ด้านหลังจะมีครั่งติดอยู่เพื่อยึดติดกับแผ่นกระดาน บางองค์มีรอยตะปูเจาะยึดติดกับแผ่นกระดาน"
    [/FONT]
     
  14. คนตลาดพลู

    คนตลาดพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    3,439
    ค่าพลัง:
    +12,519
    ขอบคุณครับที่ส่งข่าวประวัติ พระวัดกลางเก่าถึงยุคน่าบูชา แต่มีมากมายหลายพิมพ์ คนพื้นที่เก่าแก่จะเสาะหาอยู่สองพิมพ์ ประมาณว่าน่าจะพบน้อยหาชมยากคือ พิมพ์ปางซ่อนหา และพิมพ์จุฬามณี องค์ที่ลงมาเป็นกรณีศึกษานี้ ถึงรักทองไม่เต็มแต่ก็รักร่อนมาแบบดั้งเดิม และองค์พระมีเสน่ห์ มีที่ให้ศึกษาอยู่หลายประการ เช่นรักทองเห็นบ้างแต่เป็นรักทองเก่าเดิมๆไม่มีการตกแต่งใดๆทั้งสิ้น การตัดขอบขององค์พระได้เหลี่ยมเท่ากัน ส่วนมากจะเจอตัดเบี้ยว มีคราบสนิมแดงให้ศึกษา เนื้อตะกั่วเก่าถึงยุค รอยตะปูเห็นชัดเจน ด้านหลังมียางไม้หรือครั่งให้ศึกษา และยังเป็นพิมพ์นิยมอีก พระสไตล์แบบแท้ตาเปล่าแบบนี้เจอที่ไหนอย่าพลาดนะครับ พลาดแล้วอีกนานกว่าจะพบอีกแน่นอน ผมรอมาเกือบสิบปี ยังไม่พบองค์ที่สองเลยครับ เจอแต่ตกแต่งทองใหม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2014
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามสายครับ คุณกิม อ.โญและทุกท่าน


    คุณกิมนำแต่พระที่หาชมได้ยากมาลงไว้ให้ชมตลอด ขอบคุณมากๆครับ
     
  16. คนตลาดพลู

    คนตลาดพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    3,439
    ค่าพลัง:
    +12,519
    สวัสดีครับพี่ ยามว่างก็มาชมพระกัน มีทั้งพระสวยบ้างไม่สวยบ้าง ตามประสาชาวบ้านอย่างเราๆลูกทุ่งๆครับพี่
     
  17. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ใกล้ถึงวันแม่แล้ว ขอนำพระที่แม่ให้ไว้ครับ
    พระแม่ย่า สุโขทัย ปี 2513 ลป.ปี้ วัดบ้านด่านลานหอย สุโขทัยอธิษฐานจิตครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    (f)(f)(f)
     
  19. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,090
    ชมของงามๆครับ
     
  20. Michigan

    Michigan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2013
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +388
    งดงามกันทุกภาพเลยครับ มารอชมต่อ อยากถ่ายภาพให้เหมือนท่านอื่นๆบ้างครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...