ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

กราบสวัสดีศิษย์พี่ Modpong และพี่น้องชาว ผม..พระ ทุกๆท่านครับ
กำลังไล่อ่านจากหน้าเก่าๆย้อนขึ้นมาอยู่ครับพี่ ได้อรรถรสและความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย เมื่อวานผมมีโอกาสได้ส่องของเด็ดเมืองเพชรฯครับพี่ หูยานสมอพรือพิมพ์ใหญ่ สนิมแดงได้ใจมากครับองค์นี้ ประจวบกับไล่อ่านกะทู้เก่าของพี่เรื่องเนื้อชินพอดิบพอดี มีแบบฝึกหัดมาให้ลองตาเลยครับพี่ ผมเพิ่งเคยมีโอกาสได้ส่องพระกรุนี้ก็ครั้งแรกในชีวิตนี่ล่ะครับ เจ้าของหวงชะมัดเลยครับพี่ ได้แค่ขอเค้าส่องเป็นความรู้เท่านั้นเอง
ทานข้าวเย็นรึยังครับพี่ รักษาสุขภาพด้วยครับ ^ ^

 

........................................................
..หวัดดี.....เด็กบ่อผุด..april..หลานเขม..คนบ้านสะแก..เด็กวัดป่า..และสายน้ำเพชรศิษย์น้อง
...........................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
............................................
..............ที่เล่ามา..ก่อนนี้..ซะไกล..ก็เพื่อปูเรื่อง..ให้เห็นว่า...ศาสนา..ถ้าจะอยู่รอด..ก็ต้องเป็น
..ที่พึ่งได้..ทั้งจิตใจ..และ..ความเป็นอยู่..ใน..ยุคโบราณที่ไม่มีเทคโลโลยี..ไม่มีโรงหมอ...
..ไม่มีโรงเรียน..และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไร...ความรู้ที่จะพัฒนาสติปัญญา..ของคน
..มันไม่ทั่วถึง..มันกระจุกอยู่ในที่เล็กๆ..พวกเราก็พึ่งมาทราบว่า..จริงๆ..คนไทยเป็นคนมีมันสมอง
ดี....แต่ก่อนไม่รู้...ก็ลองนึกดูว่า..
......................................................................................
....ถึงส่วนที่จะอ่านต่อไปนี้..ให้ทำใจเป็นกลาง..อ่านจบ..แล้วอ่านใหม่..ซ้ำซะ ๓ รอบ...
...แล้วคุณ..จะเข้าใจอะไร..ถ่องแท้ขึ้น.........
...........................................................................................
............................ถ้าย้อนไป..สัก ๒๐๐ ปี....ไอ้เขียว..บ้านอยู่ใน..ป่า...มีหมู่บ้านเล็กๆ
..สี่ห้าหลัง...ไม่มีวัดอยู่ใกล้ๆ..ทั้งหมู่บ้าน..ไม่มีใครรู้หนังสือ...นานๆจะเจอคนภายนอก..สักครั้ง
...มันโตขึ้นมา..มันก็ต้องใช้ชีวิต..แบบเดียวกับที่พ่อมันทำ..ทั้งๆที่มันเป็นคนสมองดี..เพราะไม่ได้
เดือดร้อนอะไร..คนในหมู่บ้านตัวเอง..หรือ..หมู่บ้านใกล้เคียง..ก็มีรูปแบบคล้ายๆกัน..ไม่มีใคร
รวยกว่าใคร..ไม่รู้หนังสือ..เหมือนกัน..สังคมก็มีแค่นั้น.....ทุกคนมีความสุขมีข้าว..มีปลา..มีอาหาร
......ถามว่า..มีสมองดี..ไปทำไม...เมื่อสังคมเขาก็มีอยู่แค่นั้น..แล้วไอ้เขียวที่ตอนเล็กๆ..เป็นเด็ก
ฉลาด...แล้วความฉลาด..มันจะพัฒนาตามอายุได้มั้ย...เมื่อ..สิ่งแวดล้อม..ไม่มีอะไรเปลี่ยน..
ไม่มีสิ่งเร้า....พวกเขาไม่ได้นับถือ..ศาสนาอะไร..
.........มีพระธุดงค์เข้ามาเทศน์...แล้วไอ้เขียว..มันจะเข้าใจในหลักธรรมได้มั้ย.....
...........กิเลศ..คือ..อะไร.....ทุกข์..สมุทัย..นิโรท..มรรค..มันจะรู้เรื่องมั้ย.......
.....ความทุกข์..คือ..การป่วย..การตาย..ของญาติ..พ่อแม่..ซึ่ง..มันเป็นเรื่องธรรมดา..ที่เกิดขึ้น..
...บ้านอื่นๆ..เขาก็เป็นแบบนี้..รู้สึกไม่นาน..ก็จบ..ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร......
........นรก..เป็นยังไง...สวรรค์..เป็นยังไง....
................เมื่อคนมีชีวิต..เรียบง่าย..และ..ในสังคม..เขาไม่ได้แก่งแย่งชิงดี..กัน..แบบบ้านไอ้เขียวนี่
.......ถามว่า..เขาจำเป็นต้องมีศาสนา..มั้ย..ตอบว่า...ไม่จำเป็น..มีไปทำไม...
.......แล้วไอ้เขียวเด็กฉลาด...มันก็อยู่แค่นั้น..มีครอบครัว..แล้วก็แก่ตาย.......
...................มันจะตกนรก..หรือ..ขึ้นสวรรค์..มันก็ไม่ได้นำพาหรอก...ลูกเต้ามันก็ไม่ได้..
...ใส่ใจ..เดี๋ยวลูกมันก็...ดำรงชีพ..เหมือนมันต่อไป........
............ถ้าเรามองไปที่...ชาวป่าที่เกาะนิวกีนี..(อินโด)..สมัยก่อน..เขาล่าหัวมนุษย์กัน.....
..........เป็นธรรมเนียม..มาแต่บรรพบุรุษ..ว่าลูกผู้ชายที่โตขึ้นเป็น..ผู้ชายเต็มตัว..ต้องล่า..
.....หัวมนุษย์ให้ได้.......ผมถามคุณว่า...ชาวป่าพวกนี้..มันจะตกนรกมั้ย...ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต.....
......ผมว่า...มันไม่ตกหรอก...เพราะ..มันถือว่า..เป็นเรื่องต้องทำ..ทุกคนต้องทำ...ไม่ทำ..
...ก็หาเมียไม่ได้..เพราะมึงอ่อนแอ...พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่า..ที่ทำ..นะผิด..แล้วจะไปตกนรก
.....ที่ไหน..........ใจไม่ได้คิดอะไร..มันเป็นเรื่องปกติ....ไม่ผิดกฎของสังคม...ทุกอย่างจบ..
......ตายไป..จิตใจเป็นปกติ..ไม่ต้องขึ้นสวรรค์..หรือ..นรก..เพราะที่นิวกีนี..ไม่มี....
....พอไอ้พวกฮอลแลนด์..มายึดครองดินแดน..เอาศาสนาเข้าไปหามัน.....
...คราวนี้...มันถูกสอนว่านี่แหละผิด..จิตใจมันรู้ว่าผิดก่อนหน้าที่จะทำ..แต่..ก็จำยอมต้องทำ
....เท่านั้นเอง....บาปมันก็ไม่ได้สารภาพ...พอมันตาย..เลยต้องตกนรกไอ้พวกคริสต์............
...(พวกนี้..พอรู้ว่า..ศาสนาที่ไอ้ฝรั่งนำเข้าให้พวกมันกลับสร้างทุกข์..มันก็เลยเลิก....
...หนีเข้าไปในป่าทึบ..แล้วก็พยายามจะดำรงชีพแบบเดิม....)
.................มันอยู่ที่..จิต.....นี่แหละ..ทีเขาถึงบอกว่า..ก่อนจะตายให้นึกถึงพระ..เข้าไว้....
...ตายแล้วจะได้ไปดี......คุณแน่ใจรึว่า..สวรรค์..นรก..มีของจริง.....
............ไอ้พวกคริสต์มีสารภาพบาป..ความรู้สึกของมัน..จิตของมันบอกว่า..บาปถูกชำระล้าง
แล้ว..ตายไปมันจึงไม่ต้องตกนรก.......จิตใจ..สบาย..
แล้ว..คริสต์..บอกว่า..ถ้าสารภาพบาปกับพระหมด..ทุกเรื่องที่เป็นบาป..ตายไป..ก็ไม่ต้องตกนรก
.....นี่แหละ..ที่ทำให้..คนเอเซีย..อาฟริกา..มันกลายไปเป็น..คริสต์กันเยอะ....
...ถ้าคิดเอาแนวทาง..คริสต์เข้ามาประเมิน..ยิ่งตอกย้ำให้ผมคิดว่า....จิตนั่นแหละ..คือ..นรก..สวรรค์
..............................................................................................
.............ดังนั้น..ศาสนาจึงต้องเข้าหา..คน..แล้วพิสูจน์ให้ได้ว่า..มันดีกว่า..ไม่มีศาสนา..คนถึงจะ
นับถือ..ถึงแม้..จะไม่ค่อยเข้าใจ..แต่การที่นักบวชของศาสนา..เข้ามาช่วยเหลือ..และ..ก็ค่อยๆ
แทรกเรื่องราว..มันก็จะค่อยๆ..ซึม..เข้าไป..ไม่งั้น..คริสต์..มันไม่มีคนมานับถือเยอะแยะ..
..หรอกครับ...คนละผิว..คนละภาษา....มันเข้ามาด้วย..หมอสอนสาสนาก่อน..เพราะเรื่องป่วยไข้
..ไม่ว่าที่ไหน..ในสังคมก็คือปัญหา..ชาติที่ไม่เจริญ..มึงจะไปหาหมอที่ไหน..พวกนี้รักษาฟรี..
....ซักพัก..ก็มีคนทยอยมาเข้ารีตกัน............................
...............ดังนั้น..ในยุคก่อน..พระสงฆ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคแหลมทอง..แต่มาเป็นแบบ
หลายองค์ในปัจจุบัน..นั่งเทศน์อย่างเดียว..หรือ..พุทธวัจจนะอย่างเดียว.......
.....ชาวบ้าน..เขาก็เข้าใจยากอยู่แล้ว...แล้วไม่ได้ที่พึ่งเรื่องอื่นเลย...ก็คงหาคนเข้าหาแทบไม่ได้
หรอก................

......ต่อตอนหน้า.........

 

..................................
...หวัดดีศิษย์น้อง...มันต้องให้ได้อย่างงี้..ของบ้านเรา..ดีๆมี..ไม่ต้องไปสนหรอก..ของสุพรรณ..ลพบุรี..
...องค์นี้..โอ้โห..สภาพดีมาก..สนิมแดง..๒ โทน..(แดงแจ๋..กับ..แดงคล้ำ)..สวยจริงๆ..ไขเพียบ..ดีๆ..ส่องๆดูไปเรื่อย..อาทิตย์หน้า..ไปขอเขาดูใหม่..เอาให้ติดตา..ดูมันบ่อยๆ..ให้เจ้าของมันรำคาญ..เดี๋ยวมัน..ก็ใจอ่อน...
...ไหนๆ..ก็..ให้ได้ความรู้เข้ากับเรื่องหน่อย...พระหูยานนี่ก็เช่นกัน..กำเนิดจาก..พุทธมหายาน..
..เราดูจากรูปทรง..เตรื่องประดับกาย..และ..เกศพระได้...

 

ถึงแม้..จะไม่ค่อยเข้าใจ..แต่การที่นักบวชของศาสนา..เข้ามาช่วยเหลือ..และ..ก็ค่อยๆ
"แทรกเรื่องราว..มันก็จะค่อยๆ..ซึม..เข้าไป..ไม่งั้น..คริสต์..มันไม่มีคนมานับถือเยอะแยะ..
..คนละผิว..คนละภาษา....มันเข้ามาด้วย..หมอสอนศาสนาก่อน..เพราะเรื่องป่วยไข้
..ไม่ว่าที่ไหน..ในสังคมก็คือปัญหา..ชาติที่ไม่เจริญ..มึงจะไปหาหมอที่ไหน..พวกนี้รักษาฟรี..
....ซักพัก..ก็มีคนทยอยมาเข้ารีตกัน............................"

จริงครับ ที่ตำบลผม คริสต์มาเผยแพร่ สร้างโน่นสร้างนี่ให้ ได้ผลเปลี่ยนเป็นนับถือคริสต์เกินครึ่งหมู่บ้านเลย แต่ก็ดีหน่อยตรงคริสต์เค้าไม่แอนตี้พุทธ เห็นอยู่กันได้อย่างสงบสุข มีงานเทศกาลคริสต์พุทธก็ไปช่วย มีงานบุญพุทธคริสต์ก็มาช่วย อบอุ่นดี...

 

ชอบครับ รออ่านต่อครับ

 

มาติดตาม สาระ ความรู้ เช่นเคยครับ
สำหรับพระกรุของพี่สายน้ำเพชร ผมไม่เป็นเลย คงต้องศึกษาอีกเยอะ ยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

 

...........................
...ดีแล้ว..ศึกษากับ..เจ้าของพื้นที่...
..เมืองเพชร..เมืองโบราณ..อายุเก่าไม่น้อยกว่า...
..สุพรรณ..และ..ลพบุรี..มีวัฒนธรรมมาช้านาน..
..นอกจาก..หูยาน..ยังมี..พระร่วงนั่ง..ด้วย..
..หลายกรุ.....ไปถามเขานั่นแหละ..ถ้าชอบพระกรุเนื้อชิน..ก็ไม่ผิดหวัง...หูยานส่วนใหญ่นะ..ชินเงิน..
..ประเภท..ตะกั่วสนิมแดง..มีไม่กี่กรุ...ฝากศิษย์น้อง
สายน้ำเพชร..ช่วยเหลือหน่อย...

 

ขออนุญาตออกนอกเรื่องอีกนิดนะครับอา

ที่เลือดกรุข่าเข้มข้นกว่านี้ เป็นไปได้ไหมครับว่า เพราะไม่มีสายเลือดอื่นเข้าไปปะปนในพื้นที่เลย

แต่ของมองโลกผสมพันธุ์กันมั่วไปหมด จนหาพวกเลือดแท้แทบไม่ได้แล้ว

 

...........
..ต่อจากเมื่อวาน..(เรื่องมองโกล)..
.................
..ข.เทคนิคการยิงธนู...
........การรั้งสายธนูค้างไว้แล้ว..ปล่อย....
.......โดยทั่วไป..แล้ว..เทคนิคการรั้งสายธนูนั้น..มี๓ แบบ...
....แต่ในการรบ..จริงๆแล้ว..ก็มีแค่ ๒ แบบ..คือ..การใช้นิ้วสัมผัส..เฉพาะ
...ที่สายธนู..(อีกแบบ..จะมีส่วนของนิ้วแตะที่ก้นลูกธนู..ดูรูป)...
......สาเหตุที่ทำไม..เวลารบจริง..ต้องทำแบบนั้น..เพราะ...
๑. การรั้งนั้น..ไม่แน่นอนว่า..เป้าจะเปลี่ยนไปมั้ย..เป้าเคลื่อนที่...
..หรือ..ต้องรอคำสั่ง..เพื่อ..ทำการยิงแบบพร้อมๆกัน...ก็คือ..มันมีโอกาศ
ที่..จะต้อง..รั้งคาอยู่นาน..ธนูสมัยก่อน..ไม่ได้มีเทคนิคการทำให้..ออกแรงน้อย..ก็รั้งสาย
..มาได้ตามที่ต้องการ..แบบธนูแข่งขัน..หรือ..ธนูล่าสัตว์ยุคปัจจุบัน
...ดังนั้น...ถ้าไม่ใช้แรงทั้งหมด..อยู่ที่สายธนู..เมื่อค้างไว้นาน..
....เมื่อนิ้วเกิดล้า..จะคุมไม่อยู่..ลูกธนูมีโอกาศสูง..ที่จะหลุดออกจากคันธนูก่อน....
....................
....สำหรับ..พวกฝรั่งนั้น..ฝ่ามือที่รั้งจะขนานไป..กับ..สายธนู...
.....ใช้นิ้วชี้..อยู่เหนือ..ก้นลูกธนู..นิ้วกลาง..และ..นิ้วนาง(..สำหรับนิ้วนางนี้..
แล้วแต่..บางคนใช้ด้วย..บางคนไม่ใช้แล้วแต่ถนัด..)..วางอยู่ด้านล่าง
..ของก้นลูกธนู..ดูรูป....แล้วจึงรั้งสายธนูเข้ามา.....เมื่อเล็งเป้าเรียบร้อย..ก็
ปล่อย..นิ้วทั้งสอง..หรือ..สามพร้อมๆกัน....
.....ส่วนแบบของมองโกลนั้น..จะคว่ำมือ..ตั้งฉากกับ..แนวสายธนู..
.....เขาจะงอ..นิ้วหัวแม่มือ..เข้าที่สายธนูที่อยู่ด้านล่างกันธนู....
............แล้วใช้นิ้วชี้..ล็อคจับเข้าที่ปลายนิ้วหัวแม่มือ...
.....แล้วรั้งสายเข้ามา...สายธนู..จะสัมผัสกับ..หัวแม่มือนิ้วเดียว..
....เมื่อถึงเวลายิง..เขาจะปล่อย..นิ้วชี้ที่ล็อคปลายนิ้วหัวแม่มือออก..
.....ด้วยแรงรั้งที่ปลดปล่อยนั้น..มันจะทำนิ้วหัวแม่มือคลายออกเอง..
...สายธนูเป็นอิสสระ..ส่งลูกธนูเข้าเป้า....
.......หลายคนคงมีคำถามว่า...อย่างี้..มันไม่เจ็บหัวแม่มือแย่รึ...
.....เพราะใช้แคนิ้วเดียวนี่...อ๋อ..ไม่หรอกครับ...เพราะนักธนูมองโกล
.....นั้น..จะสวมปลอกนิ้วที่หัวแม่มือ..ที่เรียกว่า..THUMB RING..
....ที่ทำไว้สำหรับ..ยิงธนู..โดยเฉพาะ..ดังนั้น..ตัวที่สัมผัส..สายธนู
จริงๆ..คือ..ต้วนี้...เพราะ..ถ้าไม่มี..ระหว่างการรบ..ต้องยิงถึง..สามสิบ.สี่สิบ
ดอก..หัวแม่มือ..คงหลุดแน่..ดูในรูปได้..ปลอกนี้..จะทำ..จากวัสดุ
...หลายอย่าง..แล้วแต่..แต่ต้องแข็งแรง..อย่างเช่น..เขาสัตว์..งา..หิน..หยก
..แต่..ในยุคนั้น..ส่วนใหญ่..จะเป็นเขาสัตว์....

...........

.........รูปที่ ๒. เป็นแบบที่ไม่นิยมใช้..ในการบ....

...................

.........นี่แหละครับ..ปลอกนิ้วหัวแม่มือที่ว่า..

........

..............

....สองภาพนี้..แสดงลักษณะตำแหน่ง..และ..การใช้ปลอกนิ้ว

................
...ต่อพรุงนี้...

 

..............................
...มันก็อาจเป็นไปได้..แต่ต้องเข้าใจว่า..ยีนส์ความกล้า..บ้าเลือด..อดทน..นี้..มันโดดเด่น..กว่า..ชนชาติ..ต่างๆด้วย..ต่อให้มองโกล..สายพันธ์แท้..ก็ไม่มีจุดที่โดดเด่น..แบบนี้...เรื่องนี้..ฝรั่งเขาพิสูจน์..มาแล้ว...

 

สุดยอดครับ

 

ขอบคุณครับ อาจารย์ เหนื่อยแต่ยังตอบให้ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะครับ

 

แค่คิดเห็นภาพก็น่าประทับใจผู้บังคับบัญชาแล้วครับอ้าย
ถ้ามีคลิปให้ดูเหมือนสมัยนี้ ยอด Like คงเพียบเลยครับ

 

......................................
หวัดดี....porpek..kotaro..หลานเขม..เด็กวัดป่า..เด็กน้อย..และ..พลศิริน้องรัก
........................................
...ต่อจากตอนที่แล้ว....
........................................
....................แล้ว..นอกเหนือ..จากเรื่องป่วยไข้..พวกเขา..ยังมีทุกข์จากเรื่องอะไรอีก....
...ถูกทำร้าย..ถูกขโมย...ศาสนา..ยังเป็นที่พึ่งเขาได้..รึเปล่า.....
.....ผมจำได้ว่า..หลวงพ่อที่มีชื่อเสียงเป็นที่น่านับถือ..หลายท่าน..พูดคล้ายๆกัน..คือ...

.................."...........พวกเขามีบุญคุณกับ..ศาสนา..เอาข้าวปลา..อาหาร..มาให้เรากินกันตาย..
..และ..เพื่ออยู่ต่อให้ทำนุบำรุงศาสนาต่อ..สร้างที่พัก..สร้างโบสถ์..เพื่อ..ประกอบศาสนากิจ..
....แล้ว..เวลาเขาเดือดร้อน..เราจะไม่ช่วยเขาได้ยังไง.............".....
.....มันคือ..ความผูกพัน..ของชาวพุทธ..กับ..ศาสนา..กับ..พระสงฆ์........
........เครื่องราง..หรือ..ของขลังจึงถือกำเนิดขึ้น.....ฝรั่งเรียกว่า..ชาร์ม(CHARM)
.......ไม่ว่า..ชาติไหน..ก็มีของที่คนพกติดตัว..หรือ..ติดไปที่..บ้านเอาไว้..บูชาเป็นที่พึ่งทางใจ..
....หรือ..เอาไว้ขอโน่นขอนี่..หรือแม้กระทั่งใช้ไปในทางที่..ตัวเองต้องการ.....
........แต่ตามหัวเรื่อง..ที่ผมบอกไปแล้ว...ว่า..เครื่องรางที่ว่า..นี้..ไม่ใช่ของธรรมชาติ..ที่เชื่อกัน..
ว่า..ศักดิ์สิทธิ์จะดลบันดาลบางสิ่งได้.....
...แต่แม้กระนั้น..หลายชาติ..ในทุกทวีป..ก็มีเครื่องราง..หรือ..ของขลัง..ที่ปลุกเสกขึ้นด้วย
มนต์..หรือ..พลังพิเศษ..ของผู้สร้าง..กันมากมาย...
...เช่น..พวกดรูอิต(DRUID)..ในยุโรปตอนเหนือ...พวกเคลท์(CELT)...วูดูในอาฟริกา...
.....พวกเต๋าในจีน....แม้กระทั่ง..แขกมลายู........หรือ..แม่มด
....แต่ถ้าแยกย่อยไปอีก..ว่า..เป็นของขลังที่..ใช้มนต์คาถา..มีการลงคาถากำกับ..ด้วยการเขียน
..ลงบนวัตถุ..ประกอบ..ด้วย...มันจะเหลือไม่มาก....
...เช่นตัวอักขระศักดิ์สิทธิ์..เช่น..ตัวรูน(Rune)..ที่พวกดรูอิต..ในยุโรปเหนือใช้กัน
....และ ๑ ในนั้น..ก็คือ..ภูมิภาคแหลมทอง..ของเรานี่เอง.......
......เมื่อต้องมีการเขียนอักขระ..ผู้เขียน..อักขระนั้นย่อมต้องเข้าใน..อักขระ..ถ้อยคำ..
...หรือ..ความหมายของมันเป็นอย่างดี....ในแล้วในภูมิภาคบ้านเรา..นี่..พวกไหน...
...ที่มีความสามารถ..อ่านออก..เขียนได้..เป็นพวกแรกๆละ...
.....ก็คือ..นักบวช..นั่นเอง..เพราะต้องเป็นคนมีความรู้..ในศาสนาหรือ..ลัทธิ..ที่ๆเขาสนใจ
..และ..เข้าภึง....แล้ว..ศาสนาแรกๆ..ที่เฟื่องฟูมาก่อนใคร..อักขระแบบไหน..ที่เริ่มเข้ามา..
.......นั่นก็คือ..พวกพราหมณ์..นั่นเอง..พราหมณ์นั้น..จะรู้ทั้ง...อักขระพราหมี..ปาลวะ(ที่เป็น
ต้นกำเนิด..อักขระ..ขอม..และ..มอญ)...นอกจาก..พราหมณ์แล้ว..ก็ยังมีนักบวชอีกแบบ..
...ที่มีจำนวนน้อย..เพราะการจะสำเร็จถึงขั้นนั้น..ต้องบรรลุฌานสมาบัติ...นั่นคือ..
..........................ฤาษี...........................
..เรียกว่า..ต้นกำเนิด..ก็คือ..ชมพูทวีป...ว่ากันว่า..เดิมทีเดียว..ก็เป็นพวกพราหมณ์..นี่แหละ..
..และ..แน่นอนว่า..ต้องรู้เรื่องพระเวท..เป็นอย่างดี..แต่พวกนี้..จะไฝ่รู้..มากว่าที่เล่าเรียน..
..และ..ไฝ่หาความสงบ..และ..ต้องการการหลุดพ้น..จึงต้องแยกออกไปโดดเดี่ยวเพื่อ..
บำเพ็ญ..ตบะ..บารมี.....
....จากจารึกลานทองคำ...ในพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ..สุพรรณบุรี..นั้น...
..แสดงหลักฐานชัดเจน..ว่า..ในเมืองไทย..ในสมัยก่อนยุคอู่ทอง(ก่อนสุโขทัย)..จนถึง..อู่ทอง
นั้น..มี..ฤาษี..หลายท่าน..ที่อยู่ในเมืองไทย....

............ต่อตอนหน้า...........

 

ยินดีต้อนรับการกลับมาครับ
รอติดตามเรื่องราวน่าสนใจครับผม

 

ถ้าเทียบพุทธศักราช ประมาณ พ.ศ. อะไรครับ...

 

...............................
...ช่วงมันกว้าง..เพราะ..ยุคอู่ทองนั้น..การประเมิน..
ตามที่เขาคาดกัน..ต้นยุคคือ..พุทธศตวรรษที่ ๑๗..
..แต่จริงๆ..น่าจะย้อนไปอีก..ที่เรียกกันว่า..ยุคสุวรรณภูมิ..เพราะ..ที่ตัวเมืองอู่ทอง..นะ..อายุไม่น้อยกว่า..ทวาราวดี..และ..เป็นเมืองท่าด้วย(เคยเขียนไปแล้ว..เรื่องพระถ้ำเสือ)
...พระผงสุพรรณอยู่ในยุคอู่ทอง..แสดงว่า..ฤาษี..
ต้องอยู่ในสุวรรณภูมิ..มาก่อนหน้านั้น..เพราะเป็นผู้จัดสร้าง..แสดงว่าสร้างรากฐานมานาน..แค่ไหน..ก็มาถามซะก่อน..เรื่องยังต้องมีท้าวความกันต่อ..
..แค่นี้พอ..ไว้รออ่านต่อ..ค่อยๆทำความเข้าใจไป

 

มาขานชื่อเข้าห้องเรียนครับพี่modpong

 

มาตามต่อ เรื่องพระกรุและศาสนาในแต่ละช่วงของยุคสมัยต่างๆครับ

 

ย้อนรอยประวัติศาสตร์เลยครับอ้าย
ตามต่อแบบติด ๆ ครับผม อิอิ