ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........
    ..ต่อจากเมื่อวาน(เรื่องมองโกล)..
    ......................................
    .......สำหรับ..ซองใส่ลูกธนูทั่วไป..นั้น..สามารถ..สังเกตได้..จากรูปที่ผมเคย
    Post..ไปก่อนหน้านี้..มหารของพระเจ้าบาร์เบอร์..ก็ยังคงเอกลักษณ์เช่นเดียวกับ..ต้นตระกูลเขา..คือ..ซองใส่จะแขวนต่ำ..และ..ห้อยเฉียงที่ข้างเอว..
    ....ต่างจากฝรั่ง...ที่ละพายเฉียงที่บ่า..
    .....นักวิชการด้านธนู..ของฝรั่ง..พิสูจน์แล้วว่า...ประสิทธิภาพของการยิงธนู..ของ..มองโกล..นั้นเป็น..อันดับ ๑ ของโลก...ในยุคนั้น..
    ....ความแรง..ในการเจาะทะลวงเป้า..ระยะยิงหวังผลที่ไกลกว่า....
    ....ทั้งความเร็ว..ความแรง..ในการยิง...ความแม่นยำ..ในการยิงต่อเนื่อง...
    ....ส่วนนึงก็..คงเพราะ..
    ๑. ปลอกที่สวมนิ้ว..ทำให้..นิ้วไม่สัมผัส..สายธนู..โดยตรง..ทำให้..นิ้ว
    ไม่ล้า..และ..ไม่เจ็บ...
    ๒. การที่ซองลูกธนูอยู่ที่เอว(ด้านหลัง)..ลักษณะการดึงก้นลูกธนูออกจากซอง
    ..เข้ามาพาดที่คันธนูนั้น..เป็นการดึงด้านข้าง..(ฝรั่ง..นั้นจะดึง..เฉียงบน)
    ...ที่สำคัญคือ..การคีบก้นลูกธนูนั้น..คงไม่มีใคร..ใช้นิ้วชี้..กับ..นิ้างคีบ..เพราะ
    มัน..จะไม่ถนัด..การคีบ..ที่ถนัดก็คือ..หัวแม่มือกับนิ้วชี้..เมื่อเอาก้นลูกธนู..ล็อคเข้า
    ที่สาย(..ก้นลูกธนู..เขาจะบากร่องไว้เพื่อบังคับสายธนูไว้)..ก็สามารถเลื่อนนิ้วลง
    มาด้านล่าง..ดึงสายได้ทันที...
    ...ข้อดี..อีกอย่างนั้น..เนื่องจากการรบนั้น..ไม่ใช่..จะต้องสู้กันในทุ่งโล่งอย่างเดียว..
    ..ทหารม้ามองโกล..จะตะลุยไปในป่าด้วย..ดังนั้น..ลักษณะการดึงแบบนี้..จะทำให้
    ..ลูกธนู..ไม่ไปติด..กิ่งไม้ที่อยู่เหนือหัว...(ป่าแถบ..ยุโรป..นั้นเป็นป่าโปร่งนะครับ..
    ไม่ใช่ป่าทึบ..แบบบ้านเรา..)
    ....แต่อะไรก้ไม่เท่า..การฝึกฝน..ถ้าฝึกไม่ดี..ประสิทธิภาพก็ลด
    ...ซึ่ง..มองโกลนั้น..มีการฝึกที่ไม่เหมือนใคร
    ................
    ..ค. การฝึกฝน..

    .........ต่อพรุ่งนี้...........
    .......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2014
  2. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............................
    ...เอ้อ..นึกว่าหาย..ไปแล้วไปลับ..ซะอีก..
    ..ยินดีเช่นกัน..Orkarรุ่น๑
     
  3. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    รอติดตามตอนต่อไปครับอา :cool:
     
  4. เด็กบ่อผุด

    เด็กบ่อผุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2014
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +12,659
    :cool::cool::cool: เยี่ยมครับ
     
  5. camalon

    camalon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +112
    ยอดเยี่ยมครับ ติดตามทุกวันครับ
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........................................
    ..หวัดดี...Orkarรุ่น๑..porpek..เด็กวัดป่า..พลศิริน้องรัก..หลานเขม..เด็กบ่อผุด
    ..และ..โคทาโร่
    ..............................................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ...............................................
    .........ผู้อ่านบางท่าน..ที่ยังไม่อ่านเรื่อง..พระถ้ำเสือ..ที่ผมเขียนไว้ก่อนหน้านี้..เมื่อซักต้นปี..
    ..ก็ไปค้นดู..ผมเคยบอกไว้ว่า..พระถ้ำเสือ..เอาเฉพาะ..กรุถ้ำเสือนะ..กรุอื่น..ผมไม่ยืนยัน
    ....นั้น..เป็นพระพิมพ์ที่มีการปลุกเสก(..เพราะมีประสพการณ์..แน่นอน..ไม่ใช่..พวกพระ
    ดินดิบ..ศรีวิชัยทางใต้..ที่คาดว่า..ทำไว้เพื่อต่อศาสนา..และ..ไม่ได้มีประสพการณ์..อะไร..
    นอกจาก..คิดกันไปเอง...)...ที่เก่าแก่ที่สุด..ในประเทศไทย..เก่า..ยิ่งกว่า..พระลำพูน..(ไป
    อ่านรายละเอียดเอา..ทำไมผมถึงว่า..อย่างนั้น..)..นอกจากผม..และ..เซียนพระรุ่นเดอะ..
    หลายท่านที่เสียชีวิตไปแล้ว..ก็ให้ความเห็นตรงกันว่า..น่าจะเป็น..ฤาษีสร้าง..เพราะอยู่
    ในถ้ำด้วย..ฤาษีก็จพพัก..อาศัยในถ้ำ..แถม..บริเวณแนวเขานั้น..นอกจากจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ
    ..ก็ยังมีถ้ำที่ชื่อถ้ำฤาษี...ยังรูปลักษณะของพระ..นั้น..จะว่า..เหมือนพระก็..ไม่เชิง..เพราะ
    หลายพิมพ์..ดูออกไปทางฤาษี...มากกว่า.......
    .....ทำให้..ผมคิดเอาว่า..เมื่อเริ่มมีการใช้คาถาการปลุกเสก..เวทมนต์..ไม่ว่า..จะพระ..หรือ..
    เครื่องรางอื่นๆ..ที่เกิดขึ้น..ในไทยมากกว่า..พันปีนั้น..น่าจะมีที่มาจากฤาษี..ก่อนใคร..
    ..ทำไมผมถึง..พูดแบบนั้น..ก็เพราะ...
    ............เราต้องไม่ลืมว่า..สมัยพุทธกาล..พวกนักบวชที่ไฝ่หาทางสว่าง..แล้วไปไม่รอด...
    ..เมื่อ..มาพบพระพุทธเจ้า..ชี้ทางให้เห็น..ทำให้บรรลุอรหันต์..หรือ..มรรคผล..ไปหลายท่าน
    ...แต่ก็ไม่จำเป็น..ต้องบวชพระ...เมื่อพวกเหล่านั้นมาฟัง..แล้วก็..นำเอาไปฝึกฝนกัน...
    ...ตามถ้ำป่าเขา..สถานที่วิเวก...ดังนั้น..พวกนี้..ซึ่งมีแนวทางอยู่เดิม..มีตบะเดชะ..อยู่แล้ว
    ....แน่นอน..ใครก็ทราบว่า..จิตเมื่อฝึกฝนถึงระดับ..ก็มีฤทธิ์ได้....กอรปกับ..ความรู้ดั้งเดิม
    ..ที่มีอยู่คือ..พระเวทย์..จากสายของพราหมณ์...ก็อาจนำเอาพระคาถา..จาก..พระไตรปิฏก
    ..มาประยุกต์เข้า..ตามแนวทางของ..พระเวทของพราหมณ์..สร้างคาถาต่างๆขึ้นมา..
    ........อย่าลืมว่า..เราพอทราบแนวทาง..จากตำนานต่างๆว่า..พวกฤาษีนั้น..เป็นพวกชอบลอง
    โน่นลองนี่..อยู่แล้ว...ถามว่า..แล้วฤาษีเป็นพุทธมั้ย..ผมว่าไม่ใช่..และ..ยังเป็นพราหมณ์มั้ย..
    ...ก็คงไม่ใช่อีก....แต่ละท่านผมก็ว่า..มีแนวทางของตนเอง...เมื่อพวกนี้มีคนมากราบกราน..
    ..ขอเรียนวิชานั้น..แรกๆจากชมพูทวีป..ก็..อาจจะมีพวกที่อยากเป็น..ฤาษีมั่ง..มาฝากตัวเป็น
    ศิษย์..การพัฒนาเรื่องการเสก..คาถาอาคม..ก็ถ่ายทอดมาเรื่อยๆ..แล้วพวกนี้..ก็เดินทางไปเรื่อยๆ
    ...จนมาถึงสุวรรณภูมิ...
    .....เราจะเห็นว่า..หลวงพ่อที่ดังระดับประเทศทั้งหลายนั้น..เป็นผู้ไฝ่รู้ในวิชา..ดั้นด้นไปทั่ว
    แหลมทองเพื่อเรียนวิชา...ซึ่งในอดีต..เมื่อกว่าพันปีแล้ว..ก็คงไม่ต่างกัน....ดังนั้นไม่ว่า..
    คนธรรมดา..พระสงฆ์..ที่อยากเรียนวิชา..ด้วยจุดม่งหมายต่างกัน..ก็ต้องมุ่งไปหา..ฤาษี...
    ..แล้ววิชา..ต่างๆ..ก็ค่อยๆ..ถ่ายทอดมา..และก็แน่นอน..ในคนเหล่านี้..ก็ต้องมีอัจฉริยะ..
    ที่..แตกแขนงวิชา..ออกไป..สร้างยันต์ต่างๆขึ้นมา..สร้างวิชาใหม่ๆ..ขึ้นมา...ลูกศิษย์ก็รับช่วง
    กันต่อไป..ขยายแนวทางไป...แม้กระทั่งสายพราหมณ์..เอง..ก็อาจจะต้องมาเรียนวิชา..กับ
    พวกฤาษีก็ได้....ก็เห็นมั้ยว่า..ที่ถ้ำฉัตรทรรบรรพต..ที่เขาอ้อนั้น..มีรูปฤาษีที่เป็นครูใหญ่..อยู่
    ด้วย..ก็พอจะสร้างความเชื่อมั่น..ในแนวทางที่ผมว่า..ไปแล้วได้.....
    .......อันนี้ใคร..จะเชื่อ..ก็..โอเค..ใครไม่เชื่อ..ก็ไม่ต้องอ่าน..ไม่ต้องมาถาม..หรือมีข้อสงสัย..
    มา..เพราะ..เดี๋ยวเรื่องจะไม่จบ..เก็บไว้ในใจ..แล้วกัน...

    ........ต่อตอนหน้า......
     
  7. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    เรื่องฤาษีเป็นต้นวิชานี่ น่าสนใจครับ
    เพราะสำหรับผู้ฝึกจิตได้ระดับนึงแล้ว
    การแสดงฤทธิ์ อยู่ในขอบเขตวิสัย ที่จะเป็นไปได้
    รอติดตามตอนต่อไปครับผม
     
  8. split

    split เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +582
    รอติดตามตอนต่อไปครับ
     
  9. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    สายวันเสาร์ที่สระแก้วอากาศสดใส รอติดตามต่อครับ....
     
  10. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ครับอ้าย
    ต้นตอของเวทมนต์และคาถาอาคม น่าจะมาจากฤษี
    เพราะก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ท่านก็เป็นศิษย์ของดาบส
    หรือพวกฤษีนี่หละครับ
    เพราะคำว่าดาบส ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานฯ ให้ความหมายไว้ดังนี้ครับ
    ดาบส [-บด] น. ผู้บําเพ็ญตบะคือการเผากิเลส, ฤษี. (ป., ส. ตาปส), เพศหญิง
    ใช้ว่า ดาบสินี. (ป. ตาปสินี), ในบทกลอนใช้ว่า ดาวบส ก็มี เช่น ไปแต่ง
    องค์ทรงไม้เท้าของดาวบส. (อภัย).
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ............
    ..ต่อจากเมื่อวาน (เรื่องของมองโกล)
    ...............
    ....ค. การฝึกฝน.....
    .......เด็กๆชาวมองโกล..อายุซัก ๒ ขวบ..คือเริ่มหัดขี่ม้าแล้ว(ทั้งชายหญิง)...เพราะม้าก็
    เหมือนอวัยวะ..ส่วนหนึ่งของเขา..ต้องทำความคุ้นเคยกัน....ยิ่งระหว่างศึกสงคราม
    ...พวกเขา..ต้องพึ่งพาพวกมัน....
    ...พอซัก ๕-๖..ขวบ..พวกนี้ก็ขี่ม้าคล่องกว่า..ฝรั่งแล้ว...และ..ที่ต้องฝึกต่อไป
    คือ..ยิงธนู..เพราะ..ธนูคือของจำเป็นของชีวิต..คือ..นอกจากเอาไว้..ต่อสู้กับ..สัตรู
    ..ก็ยังไว้หาอาหารเลี้ยงปากท้องตัวเองด้วย.....
    .......พวกเขาจะทำธนู..ขนาดเล็กไว้ให้เด็ก..ฝึกกัน..ข้อดี..ก็คือ...
    ...ทำให้..ข้อนิ้ว..โดยเฉพาะที่หัวแม่มือ..แข็งแรง..เมื่อโตขึ้นความแข็งแรง..
    ...ก็พัฒนาขึ้นมากกว่า..คนชาติอื่น...สามารถดึงค้างไว้ได้นาน..โดย
    คันธนูไม่แกว่ง...และ..ทำการยิงต่อเนื่องได้นานโดยไม่ล้า...
    ...เพราะเอ็น..และ..กล้ามเนื้อ..แข็งแกร่งมาก..เนื่องจากการฝึกแต่เด็กนั่นเอง
    ....เขาฝึกกันทั้ง..ชาย..หญิงนะครับ....
    .....โดยทั่วๆไป..ในการฝึกมาตรฐานนั้น...ก็จะมี..
    ๑. เป้านิ่ง..คนยิงนิ่ง
    ๒. เป้านิ่ง..คนยิงเคลื่อนที่
    ๓...เป้าเคลื่อนที่..คนยิงนิ่ง
    ๔. เป้าเคลื่อนที่..คนยิงเคลื่อนที่..
    ..............
    .....คนยิงเคลื่อนที่นี่..ไม่ใช่วิ่งไปยิงไป..แต่เป็นการยิงบนหลังม้าที่ควบห้อ..อย่างรวดเร็ว....
    .....ถ้าเป็นเป้านิ่ง..อันนี่..จะแปลกกว่า..ชาวบ้าน..เพราะจะใช้เชือกมัดเป็น..ก้อนกลมๆ..โตขนาดกำปั้น...เป็นเป้า...ถ้าเป้าเคลื่อนที่จะใหญ่ขึ้นมา..โดยใช้พวกฟาง..มาทำ...แต่ขนาดจะเล็กกว่าตัวคน....
    .....เป้านิ่ง..วางเป้า..หลายระดับ..คือตั้งแต่ที่พื้น(..คงฝึกไว้ยิงล่ากระต่าย..หรือ..หมาจิ้งจอก)...ผูกเชือกแขวนไว้..บนขื่อ..ระดับลำตัว....
    ...การฝึกยิง..ก็...หลายระยะ..ไม่ใช่ยิง..อยู่ระยะเดียว..แบบปัจจุบัน....
    .......เช่นเดียวกับ..การยิงแบบเคลื่อนที่(ทั้ง ๓ แบบ)
    ...เขาจะเอาเป้า..ติดกับแผ่นไม้ยึดไว้..ด้วยไม้ท่อนยาว...แล้วก็ชักไม้ให้เลื่อนไป...ขณะที่ผู้ยิ่ง...กำลังจะเริ่มยิง...

    .........ต่อตอนหน้า....
     
  12. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    มารอชมตอนต่อไปครับพี่ ขอบคุณมาก ๆ ครับ
     
  13. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา...บทความทั้งสองเรื่องสนุกและได้ความรู้มากครับ ขอบพระคุณมากครับ
     
  14. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................
    ...หวัดดี.....Orkarรุ่น๑...April..porpek..พลศิริน้องรัก..กำธรน้องรัก..และ..เฉียวฟงหลานรัก..
    ............................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว...
    .............................
    ...........จากที่เคยกล่าวมาแล้ว..ว่า...อักขระเขียน..ที่ใช้กับทางพุทธ..เมื่อกว่าพันปีมาแล้ว..
    ..มาจาก..๒ ทางคือ..ทางมอญ..(ทวาราวดี)..ซึ่งกระจายอยู่ทางตะวันตด..ภาคเหนือ..และ..
    ไปจนถึง..ภาคอีสานตอนเหนือถึงตอนกลาง...ซึ่ง..อักขระ..ที่ใช้ทางล้านนานั้น..ก็มี..การ
    พัฒนาต่อจากอักขระมอญเดิม..เป็นอักขระล้านนา..สว่นที่ภาคอีสานก็พัฒนา..ไปเป็น..
    ..อักษรธรรม...ซึ่ง..ก็เปลี่ยนแปลงไปจาก..อักขระเดิมไม่มาก...
    ....ส่วนภาคเหนือตอนล่าง..ภาคกลาง..และ..อีสานใต้..นั้น..ก็ใช้อักขระขอม..แล้วไทยเรา
    ก็มาดัดแปลงต่อ..เป็นขอมแบบไทย..ซึ่งต่อมาเมื่อยุคพ่อขุนรามคิด..ตัวหนังสือไทยแล้ว..แต่ทาง
    ศาสนา..ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปด้วย....
    ....ซึ่ง..เราจะเห็นจากใบลานโบราณ..จารึก..หรือ..ที่มีการเขียนไว้ที่พระพุทธรูป..ซึ่งแตกต่าง
    กันไปตามภาค.......
    .....คนที่จะไปเรียน..กับ..พวกฤาษีนั้น..ก็ไม่ใช่ตาสีตาสา...เพราะถ้า..อ่านไม่ออก..เขียนไม่ได้
    ..แถมสมองไม่ดี...พวกฤาษีก็คงไม่รับ..เพราะคงไม่เสียเวลามานั่สอนวิธีอ่านวิธีเขียนเป็นแน่..
    ....ดังนั้น..ก็คงมีแต่พระสงฆ์..ที่บวชเรียนมา..จนอ่านเขียนคล่อง..หรือไม่ก็..ฆาราวาสที่บวช
    พระมานาน..แล้วสึกออกไป..อ่านออกเขียนได้..นั่นเอง....

    ....กลับมาเมื่อ..ทั้งพระสงฆ์..และ..ฆาราวาส..ที่ไฝ่วิชา..ขอไปขอเรียนวิชา..นั้นเวลาที่จะจดบันทึกวิชา
    ที่เรียนกลับมา..เขาจึงได้จดบันทึกวิชา..กันตามอักขระ..ที่เขาเรียนมา..ภาคใดภาคมัน...
    ...คาถาวิชา..หรือ..พวกยันต์..ที่สืบมาจึงเกิดขึ้นมา..เป็นอักขระใคร..อักขระมัน..มีทั้ง..
    ..อักขระขอม..อักขระล้านนา..อักษรธรรม
    .....พวกที่ได้ร่ำเรียน..และ..สิบวิชาต่อมาก็ย่อมมี..อัจฉริยะ..เกิดตามกันมา..และท่านเหล่านี้
    ..ก็คงคิดประดิษฐ์..วิชา..คาถา..ยันต์ต่างๆ..แตกแขนงกันไป..แล้วแต่ประเภทการใช้งานที่หลาก
    หลายขึ้น...ประเภทของเครื่องของขลัง..ก็เพิ่มมากขึ้นด้วย..วัสดุที่ใช้ทำก็ต่างกันไป..ตาม
    ความเหมาะสม...
    ...........สำหรับพระสงฆ์ในสมัยโบราณนั้น..ที่จำเป็นต้องเรียนนั้นเพราะ..บ้านเมืองไม่เจริญ
    ..เมื่อพระ..ที่ไปพำนักตามชุมชนต่างๆ(ต้องเข้าใจว่า..เมื่อก่อนยุคสุโขทัย..และ..อยุธยานั้น..
    ...วัดไม่ได้..มีมากอย่าง..ในสมัยอยุธยาตอนปลาย..และ..ไม่ได้กระจาย..จะคงมีอยู่ในชุมชน
    ใหญ่..เท่านั้น)..ก็ถือเป็นการโปรดสัตว์..ชาวบ้านเอาอาหารมาถวาย..เมื่อมีการสนทนา..ก็จะรู้
    ความทุกข์ต่างๆ...วิชาที่ไปศึกษานั้น..ก็เอามาช่วยชาวบ้าน..
    ....ไม่ว่า..เรื่องเจ็บไข้..ก็วิชายาสมุนไพร..
    ....โจร..มาไล่ฆ่าฟัน..ปล้นของ..ก็..ต้องของคงกะพัน..มหาอุตม์..แคล้วคลาด..
    .....ค้าขายไม่ดี..ก็เมตตามหานิยม...
    .....เข้าไปในป่าเจออาถรรพณ์..ผีป่า..หรือ..มีคนทำคุณไสยไส่...ก็วิชาแก้อาถรรพณ์
    .............ฯลฯ....เป็นต้น........
    ..แม้กาลเวลา..จะผ่านไป..เข้ามายุคอยุธยา..(เริ่มมีวัดมากขึ้น)..ต่อมาถึง..ต้นรัตนโกสินทร์
    ...มันก็เป็น..คล้ายๆ..เปลี่ยนแปลงไม่มาก....
    ....เพราะบ้านเมืองไม่ได้เจริญ..มาอย่างในยุค..รัชกาลที่๙...
    ....ไม่มีใครมาช่วยเขา..เขาต้องช่วยตัวเอง...แล้วเขาได้มั้ยละ..พระที่อยู่ร่วมสังคมกับเขา..
    ..ก็ต้องช่วย...เพราะพระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ว่า..พระสงฆ์มีหน้าที่ต้องโปรดสัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก..
    ............นั้นเอง.........

    .............ต่อตอนหน้า............
     
  15. เด็กบ่อผุด

    เด็กบ่อผุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2014
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +12,659
    มารายงานตัวครับ:cool:
     
  16. porpek

    porpek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,680
    ค่าพลัง:
    +4,273
    ย้อนกลับไปอ่านพระกรุถ้ำเสือ อีกรอบแล้วไปหาดูตามเวปต่างๆ โห ราคา... เกินเอื้อมไปแล้ว... รออ่านต่อครับ
     
  17. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,150
    ขอบพระตุณครับคุณลุง.... ผมขอตักตวงความรู้ครับ....ของมีค่าทั้งนั้นเลย
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .......................
    ..ต่อจากเมื่อวาน...
    .........................
    .........จะเห็นได้ว่า...การฝึกฝนเป็นระยะเวลายาวนาน..กว่า ๑๐ ปี..ของเด็กมองโกล
    ..กว่าจะโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว..ไม่ว่าทั้งการยิงธนู..การขี่ม้า..และ..การขี่ม้ายิงธนู..นั้นมันทำให้ซึม
    เข้าไปในสายเลือด...ต่างจากพวกฝรั่งอย่างสิ้นเชิง...
    .....หน่วยยิงธนู..นั้น..เป็นส่วนน้อย..ที่จะหัดยิงธนู..ตั้งแต่เด็ก..แล้วการยิงนั้น..ก็เป็นการยิง
    แค่เพื่อล่าสัตว์..เล็กๆเท่านั้น..การฝึกการยิงธนูเพื่อการรบ..ก็มาฝึกเอาเมื่อรุ่นโตแล้ว...
    ..แล้วส่วนใหญ่..ก็เป็นการยิงอยู่กับที่..อยู่ในแถวแนวยิง..แม้จะมีบางส่วนที่ทำการซุ่มยิง
    ได้..แต่ก็ยิงอยู่กับที่..อยู่ดี.......
    ....แล้ว..นักยิงธนู..ก็มีแต่ทหารเดินเท้า..เท่านั้น..มีบางส่วน..ที่ใช้หน้าไม้..ยิงบนหลังม้า
    ..แต่ประสิทธิภาพต่ำ..เพราะยิงได้ระยะสั้น..แล้วการขึ้นสายก็ทำได้ช้ากว่า..ธนูหลายเท่า..
    ..ยิงการรบ..ระยะประชิด..การใช้หน้าไม้..แทบใช้การไม่ได้..แค่เป็นการวุ่มยิงระยะใกล้เท่านั้น
    .....................................
    .....ความอดทน..และ..ความผูกพันของม้ากับคน....
    ...........................................
    .....คนเผ่ามองโกลนั้น..ใช้ชีวิต..ในทุ่งเสตปป์..ที่ไม่ค่อยจะมีอะไรกิน..แหล่งน้ำหายาก...
    ..อาสัยเลี้ยงสัตว์..อย่างแกะ..และ..ม้า....
    ...ช่วงระยะเวลาหน้าหนาว..ยาวนาน..เป็นครึ่งปี..หิมะตกตลอด..หนาวจัด..การล่าสัตว์แทบทำไม่ได้
    ..อาศัยเนื้อตากแห้ง..ทั้งเนื้อม้า..และ..เนื้อแกะ..เหล้าที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น..ก็ทำจากนมม้า
    ...และ..อดอยาก...ซึ่งเป็นเรื่องปกติ...แต่มันสร้างให้..ทั้งม้า..และ..คน..ที่ร่วมกันรบนั้น..
    ...อดทนเหนือ..ม้า..และ..มนุษย์ทั่วไป...
    .......นักรบมองโกล..ผูกพันกับ..ม้า..ตั้งแต่เด็ก..จนโต..รู้นิสัย..และ..ธรรมชาติ..แม้กระทั่ง..
    ..เวลาเดินทัพ..เป็นกระบวน..ส่วนใหญ่..ก็จะหลับ..เมื่อต้องการพักผ่อน..บนหลังม้า..
    ปล่อยให้ม้ามันเดินของมันไป..เว้นแต่..หน่วยรักษาการณ์ที่กระจายอยู่โดยรอบเท่านั้น..ที่หลับไม่ได้
    ....ผมเคยเขียนไปแล้ว..ว่า..นักประวัติสาสตร์จีน..ค้นคว้าออกมาแล้ว..ว่า..ม้าเซ็กเทาว์..ของ..ลิโป้
    ..นั้น..ก็คือ..ม้าพื้นเมืองของมองโกล..ที่นักรบมองโกลใช้นี่เอง....
    ...ระหว่างทำการต่อสู้นั้น..นักรบมองโกล..ไม่ต้องใช้มือ..มาบังคับม้าใดๆทั้งสิ้น..
    ..เพราะเขาแค่..ใช้..เข่า๒ ข้าง..และ..เท้าสองข้าง..ในการบังคับม้า..จะให้เร่ง..ให้ควบ..
    เลี้ยวซ้าย..ขวา..แม้กระทั่งกลับหัน......ทำให้ประสิทธิภาพในการรบบนหลังม้า..เรียกได้ว่าสูงสุด
    .......................
    ...รูปแบบการจัดการแบบแผน..ของหน่วยทหารม้า...
    ......................
    ...ต่อพรุ่งนี้.....
    .......................
     
  19. pardy

    pardy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,084
    ค่าพลัง:
    +2,703
    สวัสดีครับพี่ๆ ทุกท่าน พอดีไม่ได้ใช้คอม 2 อาทิตย์
    ตอนนี้เลยมานั่งไล่อ่านย้อนหลังครับ ^__^
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .................
    ..หวัดดี..เด็กบ่อผุด..Porpek..ธรรมจักร..และ..pardy
    ..................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ......................
    .........ทั้งพระสงฆ์..และ..ฆาราวาส..ก็ทำแบบนี้กันมาเป็น..หลายร้อยปี...
    ..จนกลายเป็น..วัฒนธรรม..ของชาวพุทธในไทย..มันซึมเข้าไป..ในสายเลือด
    ...แม้โลก..จะ..หมุนไปกี่รอบ..จนมาถึง..ยุคเทคโนโลยี..นี้..รูปแบบ
    ..อาจเปลี่ยนแปลงไป..จาก..ทำแจกให้ฟรี..หรือ..ญาติโยมผู้ประสงค์จะให้ช่วย
    ..ก็ไปเตรียม..วัสดุมา..แล้ว..พระก็ทำให้....
    ......กลายมาเป็น..วัด..หรือ..คนภายนอก..จัดหาสร้างของมา..เป็นจำนวนหนึ่ง
    ...แล้วให้พระทำให้..แล้ว..ออกนำจำหน่ายเพื่อวัตถุประสงค์..สำหรับการบุญกุศล
    อันเป็นไป..ด้วยเจตนาบริสุทธิ์..ของผู้จัดสร้างแทน...ผู้ที่ซื้อไป..ก้ได้ของตาม
    ประสงค์..และ..ทางวัด..หรือ..ผู้จัดสร้าง..ก็เอาเงินไปทำบุญ..ตามเจตนา...
    (..เรื่องพุทธพาณิชย์..ผมจะไม่พูด..เพราะนั่นมันเป็นการกระทำเพื่อการค้า..
    ..เอาศาสนา..หรือ..พระสงฆ์..มาบังหน้า..).......
    ......................................
    ...ส่วนที่เอาเงินที่ได้..ไปสร้างโรงเรียน..หรือ..ซ่อมสร้าง..ในที่ๆห่างไกล..
    ....หรือ..เอาเงินไปสร้าง..โรงพยาบาล...หรือ..มูลนิธิที่เขาจัดทำเพื่อช่วยเหลือ
    เพื่อนมนุษย์..ที่มีปัญหา..แล้วแต่กรณี....
    .............อันนี้..ก็ถือ..ว่า..พระสงฆ์..ก็ได้..ปฎิบัติตาม..พระพุทธองค์...สั่งสอน
    ..คือ...ช่วยโปรดสัตว์โลกผู้ตกทุกข์ได้ยาก...ให้เขาพ้นจากทุกข์.....
    ....................................
    ...ส่วนที่เอาไป..สร้างหรือ..ซ่อมสร้างโบสถ์วิหาร..หรือ..วัดในถิ่นกันดาร..
    (..พวกที่..เอาไปสร้างความหรู..ให้วัดวาอาราม....ไม่อยู่ในส่วนนี้...)
    ....อันนี้..พระสงฆ์..ก็..ปฏิบัติตาม..คำสั่งสอน..ของพระพุทธองค์เช่นกัน..
    ....คือ..สืบสาน..พระศาสนา..รักษาให้อยู่คง..และ..เผยแพร่ศาสนาออกไป..
    ................................
    ...เป็นต้น...อย่างนี้เรียกว่า..ได้บุญ..เป็น..กุศล...
    ..และจำเป็น..เพราะ..เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองบ้านเมือง..ไม่ได้จัดหาให้ได้..หรือ..
    จัดหา..แต่ไม่ทั่วถึง....
    ................................
    ....แต่..เมื่อไม่นานมานี้..มีพระที่มีชื่อเสียง..จำนวนหนึ่ง..ออกมาต่อต้าน..
    ..และพูดประชดประชัน..ว่า..การปลุกเสกพระ..หรือ..เครื่องรางของขลัง
    ...นั้น..ไม่ใช่กิจของสงฆ์..พระพุทธองค์..ไม่ได้สั่งสอนมา...
    ......ผมเชื่อว่า..พวกเรา..น้องๆ..หลานๆ..ลูกศิษย์ของผม..คงจำได้..
    ......................ผมถามว่า..ที่ผมกล่าวมา..ข้างต้น.........
    ...ตรงไหน..ที่ไม่ใช่กิจของ..สงฆ์อันพึงกระทำ..เมื่อผลที่สุด..มันก็คือกิจ
    ของสงฆ์..อย่างที่..ผู้ที่พูดเอง..ไม่สามารถ..ทำได้อย่างนั้น....
    ....และอีกข้อนึง..ท่านผู้พูดคงลืมไปแล้วมั้งว่า......
    ....สมเด็จพระสังฆราชญานสังวร..ที่เป็นประธานของสงฆ์ทั้งมวล..และ
    ......เป็นผู้บังคับบัญชา...ของท่านผู้พูดด้วย....
    .....ท่านก็ปลุกเสกพระ..สร้างพระ....เพื่อเป็นการกุศล...
    ...........แล้ว..ทำแบบนี้...มันมีผลกระทบกับใครบ้าง.........
    ....ยุคนี้..มันมีทางเลือก..ใครจะเลือกแนวทางไหน..ชาวบ้านเขาไม่โง่..
    ..เขาก็เลือกทางที่เขาชอบ..เขาศรัทธา....คนรวยแต่เป็นโรคจิต..คิดมาก
    ถูกโกง..ผัวทิ้ง..ตัดสินใจตัวเองไม่ได้..เศร้า..ก็เลือก..ไปอีกทาง..
    ...แต่พวกผม..น้องๆผม..หลานๆผม..ลูกศิษย์ผม..เลือกทางนี้แน่นอน

    ..................ต่อตอนหน้า..............


     

แชร์หน้านี้

Loading...