วัดใจคนกล้า อิตาลีประมูลขาย'หนึ่งในเกาะผีดุที่สุดในโลก'!

เกาะโพเวกเลีย ซึ่งได้รับการเล่าขานว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ "ผีดุที่สุดในโลก" กำลังถูกทางการอิตาลีออกนำประมูลขายเพื่อหาเงินเข้ารัฐ หลังจากถูกปิดตายมานาน จากการแพร่ระบาดของเชื้อกาฬโรค เช่นเดียวกับเรื่องเล่าวิญญาณหลอน

เกาะเล็กๆซึ่งอยู่ในทะเลสาบเวนิเทีย ที่ห้อมล้อมเมืองเวนิซ ได้รับสมญานามว่าเป็นแหล่งผีดุที่สุดของอิตาลี มีกำหนดถูกนำออกประมูลขายในเดือนหน้า เนื่องจากทางการแดนมะกะโรนีตะเกียกตะกายแสวงหาทางเพิ่มรายได้แก่รัฐ ที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ

โพเวกเลีย เป็นเกาะเล็กๆที่ไม่มีผู้คนอาศัยและอยู่ห่างจากจตุรัสเซนต์ มาร์ค ไม่กี่นาที และมันเป็น 1 ใน 5 สินทรัพย์ที่ทางการจะนำออกมาประมูล เพื่อช่วยลดหนี้สินกองโตของอิตาลี ในนั้นยังรวมไปถึงปราสาทและอารามคริสต์อีกอย่างละแห่ง

ดินแดนแห่งนี้ซึ่งมีเนื้อที่ราว 42 ไร่ เคยเป็นจุดสู้รบกันระหว่างชาวเวนิเทียกับชาวเจนัวในช่วงศวรรษที่ 14 และยังพบร่องรอยของสิ่งปลูกสร้างป้อมปราการต่างๆ ก่อนจะกลายมาเป็นสถานีกักกันโรคสำหรับเรือที่กำลังมุ่งหน้าสู่เวนิซในยุคศวรรษที่ 18

หลังพบการระบาดของเชื้อกาฬโรคบนเรือ 2 ลำ เกาะแห่งนี้ก็โดนปิดตายและถูกใช้เป็นสถานที่ตรวจสุขภาพคนที่จะเข้าไปในเวนิซ และยังคงถูกใช้เป็นสถานที่กักกันผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นโรคติดต่ออยู่เรื่อยมา และว่ากันว่ามีผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคบนเกาะนี้เป็นจำนวนกว่า 160,000 คน

จากนั้นในปี 1922 อาคารที่เคยใช้เป็นศูนย์ตรวจสุขภาพนั้น ได้ถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้มีอาการทางประสาทและเปิดดำเนินการจนถึงปี 1968 โดยมีข่าวลือว่าการรักษาผู้ป่วยทางจิตในสมัยนั้น เต็มไปด้วยวิธีที่โหดร้ายต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นการเจาะกะโหลกทางเบ้าตา การจับผู้ป่วยกดน้ำ เครื่องมือที่ใช้ในการรักษาอาการป่วยทางจิต ไม่ว่าจะเป็น ค้อน สว่าน ลิ่ม ก็ยังคงมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บนเกาะนี้ในปัจจุบัน

ในช่วงที่เกาะถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคจิต ได้มีผู้ป่วยรายหนึ่ง บ้างก็ว่าเป็นหมอคนหนึ่งที่ทำการทดลองอย่างร้ายกาจกับคนไข้จนไปกระตุ้นความเจ็บแค้นของวิญญาณบนเกาะนั้น ขึ้นไปบนหอระฆังและกระโดด หรือถูกเหวี่ยงลงมา แต่จากปากคำของผู้เห็นเหตุการณ์ คนผู้นั้นไม่ได้ตายเพราะตกจากหอระฆัง แต่ในขณะที่เขานอนเจ็บอยู่บนพื้นนั่นเอง ได้มีหมอกสีขาวปรากฏขึ้น และบีบคอคนผู้นั้นจนตาย จากนั้นหอระฆังนั้นก็ถูกปิดลง แต่ยังมีผู้คนได้ยินเสียงระฆังดังอยู่บอยครั้งในเวลาค่ำคืนแม้กระทั่งในปัจจุบัน

หลังจากโรงพยาบาลได้ปิดตัวลงใน ปี 1968 ช่วงเวลาหนึ่งเกาะนี้ตกเป็นของรัฐบาล แต่ต่อมาได้มี กลุ่มคนกลุ่มสุดท้่ายซึ่งพยายามอยู่อาศัยบนเกาะนี้ โดยครอบครัวนี้ได้ซื้อเกาะนี้มาเพื่อตั้งใจว่าจะสร้างบ้านพักตากอากาศบนเกาะ แต่ท้ายที่สุดครอบครัวนั้นก็จำต้องออกไปทันทีตั้งแต่คืนแรกที่อยู่บนเกาะ โดยแม้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น แต่สิ่งที่หลงเหลือจากค่ำคืนนั้นมีเพียงสิ่งเดียวคือ คนลูกสาวมีแผลใบหน้าฉีกขาดและต้องเย็บถึง 14 เข็ม

ปัจจุบันนี้เกาะดังกล่าวยังไม่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่พิธีกรรายการซีรีย์ Ghost Adventures ของช่องทราเวล ชาแนล เคยลองของเข้าไปยังโรงพยาบาลร้างดังกล่าว สุดท้ายก็ถึงขั้นตาตั้ง ด้วยอ้างว่าถูกผีเข้าช่วงสั้นๆ

ทางรัฐบาลอิตาลี หวังว่าจะมีข้อเสนอจากผู้สนใจปรับเปลี่ยนมันจากโรงพยาบาลเป็นโรงแรมหรู ภายใต้ข้อตกลงสัญญาเช่าเพื่อพัฒนาสินทรัพย์เป็นเวลา 99 ปี ขณะที่เกาะแห่งนี้ก็ยังเป็นทรัยพ์สินของรัฐอยู่ กระนั้นก็ดีโฆษกรัฐอิตาลี ยังไม่ได้กำหนดว่าจะตั้งราคาประมูลขายเกาะโพเวกเลียไว้ที่เท่าใด

 

อืม....กลุ่มหลักๆนะครับ.ที่อยู่บนเกาะแห่งนี้.สมัยก่อนที่ตนเองจะเสียชีวิต
ปกติก็พอเป็นบุคคลที่พอจะมีสัมผัสพิเศษ.บางคนก็มีพลังจิตในตัวเอง
แบบที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติในจิตตนเอง.และก็มีความดีอยู่ในตนเอง
ในระดับที่ใช้ได้เหมือนกันครับ.บางคนยังมีทรัพยสินมากเสียด้วยน่าจะเป็น
ระดับที่สภาพสังคมสูงเสียด้วยซ้ำไป..เสียดายที่ไม่ได้พบพระพุทธศาสนา
เหมือนอย่างๆเราๆ..ประกอบกับเหตุที่ต้องตายอันไม่น่าที่จะเป็นที่พึงพอใจ
สำหรับกลุ่มนี้.เลยเป็นเหตุให้ปัจจุบันนี้.เต็มไปด้วยการสะสมสัมผัสและ
พลังจิตในแบบที่ออกไปทางด้านแนวแรงๆ.
แต่ไม่ใช่แรงๆแบบบ้าอิทธิฤิทธิ์ โชว์โน่นโชว์นี้อะไรนะครับ..
ที่เป็นในลักษณะที่ข้ามนามธรรมตรงเข้าสู่รูปธรรมได้..
อืมจะว่าไปก็เป็นไปตามเหตุและผลอยู่..
ถ้าเป็นจริงอย่างเรื่องที่นำมาลงนั้น..
หากจะทำการพัฒนาเพื่อเปลี่ยนให้เป็นอะไรก็แล้วแต่..
คงต้องใช้ระดับมนุษย์ที่มากด้วยบารมี มากด้วยกำลังจิต
และมากด้วยฤิทธิในระดับขั้นบุญฤิทธิ์..และเข้าใจในระเบียบ
และพิธีการต่างๆ..แล้วท่านไปเคลียร์ ไปปรับยกระดับให้กับ
ภพภูมิที่นั้นก่อน.ถึงน่าจะทำให้สถานที่แห่งนี้น่าอยู่น่าอาศัย
และทำให้ภพภูมิแถวนั้นอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างแยบยล..
นึกภาพคล้ายๆครู บาร์ อาจารย์หลายๆท่านบ้านเรา
ที่เข้าไปบุกเบิก.สร้างวัด สร้างวัตถุแทนพระพุทธฯองค์ใหญ่ๆ
ตามสถานที่ดุๆเฮี้ยนๆแบบบ้านเรานั่นหละครับ.
ปล.ถ้าเป็นฆารวาสอย่างเราๆ ดูอย่างห่างๆแบบห่วงๆดีกว่าครับ..๕๕๕.
.

 

กล้าอย่างเดียวไม่พอ
ต้องรวยด้วย

 

ไม่กลัวหรอก

ผีไม่กลัวหรอก กลัวไม่มีเงินจ่าย

 

กัวไม่มีเงินจ่ายเหมือนกันผีไม่ใช้เรื่องใหญ่

 

คล้ายกับเวฟเวอรี่ฮิลล์Waverly Hills เคนตักกี้ในอเมริกาค่ะ ที่นั่นเคยเป็นสถานกักกันโรคเพื่อรักษาและทดลองยารักษาวัณโรค มีคนเข้ารับการรักษา 60,000 กว่าคนที่นั่นและเสียชีวิตไม่ต่ำว่า6,000 กว่าคน ต่อมาพอคิดค้นวัคซีนได้ โรควัณโรคหมดความรุนแรงไป ก็มาทำเป็นสถานรักษาทางจิตเวท คนที่นั่นเชื่อว่ามีการรักษาคนไข้ด้วยการทรมานวิธีต่างๆทำให้หลายคนเสียชีวิต เรื่องฟ้องร้องกันมากมายหลังการตรวจสอบรัฐเคนตักกี้ได้ออกคำสั่งปิดโรงพยาบาลแห่งนี้
เวฟเวอรี่ฮิลล์ ถูกทิ้งร้างนานไม่มีใครกล้าซื้อจนกระทั่งปัจจุบันมีสามีภรรยาหัวใสคู่หนึ่งลงทุนซื้อโรงพยาบาลนี้ไว้เพื่อเปิดทัวร์ลองของ ขายตั๋วให้คนสนใจเรื่องเฮี้ยนๆอันโด่งดังของเวฟเวอรี่ฮิลล์ได้เข้ามาสัมผัสของจริง มีการกำหนดผู้เข้าชมเป็นกลุ่มๆและจำนวนคนเข้าแต่ละรอบอย่างกับทัวร์พิพิธภัณฑ์ รอบละครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง ใครกระเป๋าหนักมีตั๋วกลางคืนแบบเหมากรุ๊ปเดี่ยวให้สิทธิ์พิเศษรับประสบการณ์ผีแบบส่วนตัวสุดๆ ไม่มีคนอื่นกวนใจ
เวฟเวอรี่ฮิลล์ ไม่เคยว่างเว้นจากการมาเยือนของบรรดานักล่าผีจากรายการทีวีดังๆ เคยดูที่แฟคออร์เฟกไปถ่ายทำ ในจุดที่หลายคนเชื่อว่ามีวิญญาณเด็กอยู่เพราะเคยเป็นห้องรักษาเด็ก พวกเขาเรียกว่า ทิมมี่ ทุกคนที่ไปเยือนเวฟเวอรี่ฮิลล์จะเอาลูกบอลไปไปฝากทิมมี่ จากคลิปในยูทูปที่ลูกบอลกลิ้งเองได้ พิธีกรรายการได้ตรวจพื้นที่ก็พบว่า พื้นที่ในห้องลาดเอียงเล็กน้อยและลมจากหน้าต่าง นั่นอาจเป็นสาเหตุว่า ทำไมหลังจากวางลูกบอลให้จิมมี่ ลูกบอลถึงเคลื่อนไหวได้ แต่พอพิธีกรออกจากห้อง แล้วตั้งกล้องคอยสังเกตจากมอนิเตอร์ ทุกคนต้องตาค้าง รวมทั้งคนที่ดูอยู่ทางบ้าน ในห้องที่ไม่มีใครอยู่ จู่ๆลูกบอลที่พิธีกรวางไว้ไม่แค่ขยับนิดหน่อยเพราะพื้นเอียงหรือกระแสลม แต่ลูกบอลถูกกลิ้งหมุนๆไปกำแพงตรงข้ามก่อนกลิ้งเลี้ยวออกจากห้อง เรื่องนี้น่าทึ่งค่ะ วิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์ไม่ได้ เรื่องเล่าจากประสบการณ์ในเวฟเวอรี่ฮิลล์มีต่างๆนานา ทั้งรูปถ่ายติดวิญญาณเด็ก เสียงโซ่ลากไปตามพื้น เสียงกรีดร้อง ประตูเปิดปิดเองได้ เสียงคนพูดคุยกัน พลาดไม่ได้กับห้อง502 ที่สมัยก่อนมีคนไข้ที่รับการรักษาเกิดคลั่งแทงนางพยาบาลกำลังท้องจนเสียชีวิต บ้างก็ว่านางพยาบาลฆ่าตัวตายเอง อีกที่ที่พลาดไม่ได้คืออุโมงค์ใต้ดินที่ใช้ขนศพออกจากโรงพยาบาล ร่ำลือกันว่าหลายคนได้สัมผัสประสบการณ์ชวนขนลุกที่นั่นเช่นกัน
มีตอนนึงหลังรายการแฟคออร์เฟคถอดเทปอัดเสียงได้ยินประโยคว่า"ช่วยฉันด้วย" ฟังแล้วแม้ที่นี่จะดูน่ากลัวน่าขนพองสยองเกล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารในทุกขเวทนาของเหล่าผีๆที่ยังติดอยู่ที่นั่น

 

อย่าเพิ่งเชื่อ จนกว่าจะเห็นกะตา

 

เดี๋ยวดาราฮอลลี่ต้อง สอยไปเป็นเกาะส่วนตัวแน่ๆ

 

เปลี่ยนเป็นโรงแรมหรู จะมีคนไปพักมั้ยย น่ากลัวจังpity_pig

 

เอาเรื่องผี เป็นจุดขายเลย
ทำเป็นโรงแรมหรู บริการดีๆ
น่าจะมีคนนิยมนะ
ฝรั่งชอบของแปลกอยู่แล้ว คนเอเชียก็ชอบอะไรตามๆ ฝรั่งนั้นแหละ

 

ใครเก่งก็ไปสอนพวกผีบนเกาะฝึกจิตตัวเองแล้วไปเกิดกันเถอะ มีตั้ง แสนหกหมื่นดวงจิต

 

จากที่คุณโมกบอก ผมเลยลองเขาไปดูในยูทูป แรงจริงครับ ถ้าทางรายการเขาไม่เมกนะ มีทั้งเสียง และตอนที่โยนลูกกลมๆไปในความมืด แล้วบอกให้ช่วยโยนคือกลับมาให้หน่อยได้โปรด มีเสียงโยนหินกลับคือมาจริงๆด้วยครับ แต่หาลูกกลมๆนั้นไม่เจอ

และตอนที่ผู้ชายคนหนึ่งลองเข้าไปนอนบนเตียงที่น่าจะมีไว้เก็บศพคนตาย แบบชักเข้าออก ตอนแรกก้อให้เพื่อนช่วยถ่าย แต่พอมีเสียงบางอย่างนอกห้อง ทำให้เพื่อนต้องเอากล้องวิ่งไปดูข้างนอก แลวชายที่นอนบนเตียงศพก้อร้องเสียงดัง เพื่อนจึงกลับเข้าไปดู และช่วยดึงเขาออกมา ชายคนที่นอนบนเตียงทำท่าเจ็บร่างกาย แล้วเปิดเสื้อดู เห็นรอยขวนรอบตัวชายคนนั้นเลย มีเลือดซึมด้วย (แรงนะถ้ารายการไม่เมกเอา)

อีกตอน ตอนที่ชายคนนึงถือกล้องลองเขาไปดูในห้อง502 คนเดียว แล้วพูดว่าสวัสดี ก้อมีเสียงตอบกลับมาจริงๆ แต่พอจะออกจากห้องกลับพบว่า มีคนล็อกจากด้านนอก จนต้องโทรบอกเพื่อให้มาช่วยเปิด

มีอีกเยอะครับ แต่สงสัยทำไมผีเมืองนอกแรงจัง ลองเข้าไปดูได้ครับใน Most Haunted S11E04 Waverly Hills Sanatorium (ผมทำลิงค์ไม่เป็นครับ)
ขอบคุณที่รับฟัง

 

เดาว่า พวกคนที่เชื่อเรื่องตายแล้วสูญสลาย ไม่มีชาติหน้า
ตอนตายจะสับสน งุนงง ว่าเขาตายหรือยังไง
โอปปาติกะนั้น จึงยังไม่ยอมไปไหน ติดอยู่ที่ๆเขาตาย
นี้น่าจะเป็นทุคติ คล้ายๆพวกเปรต สัตว์นรก

 

ไปรอดูสิ
มันฮามาก

 

อยากได้แต่ไม่มีเงินครับ
ผเรื่องผีไม่ใช่เรื่องใหญ่