ตาที่สาม หรือตาทิพย์ แท้จริงคืออะไร และอยู่ตรงไหน

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" bgColor=#ecf7ff border=0><TBODY><TR><TD align=left>ตาที่สาม หรือตาทิพย์ แท้จริงคืออะไร และอยู่ตรงไหน </TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ตาที่สาม หรือ Third Eye เป็นคำที่ผู้สนใจฝึกสมาธิทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศคุ้นเคยกันพอสมควร เป็นเวลานานที่นักวิทยาศาสตร์พยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับตาที่สามนี้ว่าอยู่ส่วนไหนในสมองและมีหน้าที่อย่าง<O

โดยปกติดวงตาของเราจะส่งภาพกลับหัว จากบนเป็นล่าง ส่งไปยังสมอง ซึ่งสมองจะประมวลผลและทำให้เราเห็นภาพในลักษณะปกติที่ถูกต้อง

นอกจากดวงตาปกติแล้ว มนุษย์ยังมีอวัยวะอีกอย่างที่รู้จักกัน ในชื่อ ของดวงตาที่สาม หรือ ต่อมไพนีล. ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพลังมหัศจรรย์หรือตาทิพย์ เป็นดวงตาภายใน

​

ต่อมไพนีล Pineal Gland มีขนาดเท่าเม็ดถั่ว และอยู่ตรงกลางของสมอง หลังดวงตาปกติ อยู่ข้างหลังเยื้องด้านบนจากต่อมปิตูอิตารี่ ( pituitary ) บางคนได้เทียบตำแหน่งกลางสมองนี้ว่าคล้ายคลึงกับตำแหน่งศูนย์กลางของปิรามิดซึ่งเป็นจุดรวมแห่งพลังงานที่กล่าวกันว่าเหนือธรรมชาติ

นักปราชญ์กรีกโบราณเชื่อว่า ต่อมไพนีล เป็นจุดเชื่อมต่อกับอาณาจักรแห่งความคิด บางคนเรียกว่า ที่สถิตของจิตวิญญาณ ต่อมไพนีลนี้จะถูกกระตุ้นโดยแสงสว่าง และต่อมนี้ควบคุมระบบร่างกาย ( Biorhythm) หลายอย่าง โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส ( hypothalamus) ซึ่งต่อมไฮโปทารามัส ส่งผลโดยตรงกับร่างกายในเรื่อง ความหิว ความกระหาย เรื่องเซ็กส์ และนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์

เมื่อต่อมไพนีลถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา จะรู้สึกถึงความกดดันที่ใต้สมอง ( ความกดดันเหมือนในลักษณะที่อยู่ใต้คลื่นความถี่สูง) การกระทบกระเทือนที่ศีรษะบางครั้งก็เป็นสาเหตุกระตุ้นให้ต่อมไพนีลตื่นขึ้นได้

ถึงแม้ในอดีตจะยังไม่สามารถค้นคว้าพิสูจน์เกี่ยวกับต่อมไพนีล เพิ่งจะมาทราบในสมัยปัจจุบันไม่นานนัก แต่ในสมัยนั้นก็เชื่อกันว่า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งวัตถุและโลกแห่งวิญญาณ และเป็นจุดสำคัญในการเริ่มต้นของพลังเหนือธรรมชาติในมนุษย์ทำให้มองเห็นเหนือกว่าคนทั่วไปได้

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" bgColor=#ecf7ff border=0><TBODY><TR><TD align=left>ข้อมูลจาก http://fengshui.herb108.com


</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

 

xx

 

ขอบคุณ คุณ xx มากครับ เรื่องอะไรรึ
ก็ไม่รู้ใจเราคิดแบบเดียวกันรึป่าว ถ้าใช่ก็ดี

 

ดวงตาที่สาม หรือตรีเนตร หรือดวงตาแห่งปัญญา
เป็นตำแหน่งที่ดวงวิญญาณควบคุมร่างกาย อยู่กึ่งกลางหน้าผากระหว่างคิ้วที่ชาวอินเดียแต้มตรีลักษณ์กัน (จุดสีแดงๆ) ที่ต่อมที่ว่าข้างบนนั่นแหละครับ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ ที่ควบคุมสมองอีกทีหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าดวงวิญญาณพิสูจน์ไม่ได้ มองไม่เห็น เพราะเป็นเพียงพลังงานชีวิตที่บริสุทธิ์ คงอยู่เป็นอมตะ...จึงรู้กันมาว่าสมองควบคุมร่างกาย... เราจะสามารถมองเห็นดวงวิญญาณได้ด้วยการฝึกจิตเท่านั้น...

 

มันน่าจะเป็นเห็นที่ใจนะ ประมาณว่าเป็นภาพขึ้นมาน่ะ

 

ตาที่สามสำหรับผมก็อยู่ที่ ใจ ....ใจที่สะอาดจนเป็นทิพย์ สามารถเห็นได้ด้วยใจ สัมผัสได้ด้วยใจ...พลังเหนือธรรมชาติต่าง ๆ ก็มาจากใจ ใจที่เป็นหนึ่ง ก่อเกิดสิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกได้.

 

ตามที่เคยอ่านพบจากหนังของพระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน ท่านบอกอยู่ทางหน้าผากเป็นจักระที่เป็นตาที่ 3 ให้ชีวิตชีวาแก่สมองส่วนล่าง ระบบประสาท ทำให้เกิดญานทัสนะ ถ้าจักระนี้มีพลังจะทำให้เกิดตาทิพย์ เข้าสมาธิได้ง่าย จิตใจสงบ และจักระนี้จะหมุนเป็นสีน้ำเงินแก่ และการเห็นจะเห็นตอนที่ลืมตา จะเป็นดวงวิญญาน หรือเทพ บางทีก็อยู่ในร่างคนนี้แหละ แต่ผมไม่เห็นนะครับเคยถามน้องสาวผมดูเมื่อก่อนเขาเห็น ผมชอบให้ดูสีของออร่า หรือองค์เทพที่อยู่ในร่าง บางที่เห็นแล้วไม่รู้จักก็ต้องหารูปมาให้ดู บางครั้งเห็นของมีเคราะห์ไม่มีศรีษะบ้าง เห็นดวงวิญญานที่อยู่ตามถนนและสถานที่ต่างๆบ้าง แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้วครับเคยถามแล้วเขาบอกไม่เห็นแล้ว(ประสบการ์ณทางจิตวิญญานของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปครับเอาบอกเฉยๆ)

 

สมองซีกขวา กับ ตาที่สามครับ

 

ที่เคยเห็นด้วยตนเอง คือเมื่อนั่งสมาธิจิตสงบ จะเห็นอยู่ตรงกลางระหว่างเหนือหัวคิ้วทั้ง 2 ข้าง ตอนแรกคิดว่ามีสายตาใครมาแอบมอง พอพิจารณาดีๆ มีเพียงแค่ตาเดียว ...

 

.............................

 

มันน่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติของมนุษย์ทุกๆๆคน แต่คนเราลืมมันไปแล้ว เหมื่อนประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่คนเราก็ไม่ได้ใช่มันอย่างเต็มที่ เหมื่อน ปรมจารย์ ท่านหนึงที่กล่าวไว้ว่า

มีตาก็มองไม่เห็น
มีหูฟังก็ไม่ได้ยิน......

 

น่าจะจริงอย่างที่คุณ now พูดนะคะ
คงจะเป็นประมาณสัมผัสที่หก
หรือความรู้สึกสัมผัสได้อีกแบบหนึ่ง
ซึ่งคงต้องอาศัยสมาธิจิตที่สูงพอสมควร

 

.........ตาปกติ มีคู่ หมายถึง ของคู่ในโลก ขาว-ดำ,มืด-สว่าง,ชอบ-ชังฯลฯ

แต่ตาที่สาม แห่งองค์สดาศิวะเจ้า ไม่เป็นของคู่


ข้ามพ้นรูปสมมุติแห่งสรรพสิ่ง


เผาผลาญมายาแห่งรูปนามสิ้น


ด้วยมหาตบะ เดชะ แห่งการบำเพ็ญ

.............................................................นี่คือทัศนะแห่งเรา โอมพุทโธกิเตศวร

 

สิ่งใดเห็นได้ด้วยใจ สิ่งนั้นป็นทิพย์

 

ตาที่สามน่ะทุกคนมี แต่ใช้ไม่เป็น
การเปิดตาที่สามมีหลายวิธี
เช่น พิธีกรรมต่างๆ
การวิปัสนาเป็นต้น
ตาที่สามจะอยู่ระหว่างตาทั้งสองแต่การทำงานต่างกัน
ตาปกติมีหน้าที่รับเเสงแล้วแปลงเป็นภาพที่เราเห็นกันขณะนี้
ส่วนตาที่สามสามารถรับ data.ของสากล(สิ่งที่เป็นทิพย์)และยังสามารถ
สำรวจได้เช่น ปัจุบัน อนาคต จิตใจ...

 

ขอต่อหน่อยตาที่สาม สามมารถรับ

dataจากผู้หวัง ดีและไม่หวังดีได้ด้วย
ผลกระทบคือ
โทสะสูงขึ้เรื่อยๆในคน-
เกิดการละเลิกจากผู้ที่คิดไม่ดีต่อเราในคน+