ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

มีวาสนาก็มาพบกัน เห็นต่างกันบ้าง แต่ก็ไม่โกรธกัน เพราะศาสนาพุทธมีความเป็นวิทยาศาสตร์จึงต้องมีการพิสูจน์แบบทำเอง ส่วนตัวแล้วก็ประทับใจสมาชิกนะ รู้ว่าอะไรดีก็บอกกล่าว อะไรที่คิดว่าไม่ใช่ก็บอก แต่วิธีการก็แล้วแต่จริตของแต่ละบุคคล เจ้าของกระทู้เขาก็ไม่มาโพสต์แล้ว คนที่เคยเข้าก็มีเยอะหายไป ตอนนี้เหลือ4ท่าน รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย ก็เขียนกันต่อไปถ้ายังไม่เบื่อ แต่ละท่านก็มีความรู้ความสามารถกันทั้งนั้น คนอ่านท่านใดมีความเห็นก็เสนอแนะเถอะนะ

 

นึกว่าหลับแล้วนะท่าน กฮ ขอบคุณนะ

 

ยังไม่นอนครับ กลับเข้าเรื่องดีกว่า

ดูเกราะในหนังพระนเรศวรแล้ว ผมว่ามันออกจะพลึกๆ อยู่นะ เอาตามความรู้สึกเลย ทั้งฝั่งพม่าและไทยด้วย

 

ครับ! ใครจะว่าขัดก็ว่ากันไป ผมเสนอมุมมองที่แตกต่างครับ ถึงใครจะคล้อยตามหรือไม่ก็สุดแต่วิจารณญาณของตัวเองครับ ผมเสนอข้อคิดที่ตรงตามความเป็นจริง เป็นเหตุเป็นผล ไม่ได้เพ้อเจ้อ ถึงจะออกกวนๆ ห่ามๆก็สไตล์ผมแหละครับ ทหารพระองค์ดำนี่ครับไม่ใช่บ๋อย

เรื่องเสื้อเกราะ ผมก็ดูว่ามันร่วมสมัยนะครับ เพราะสมัยนั้นสยามรับวิทยาการจากยุโรป ทั้งปืนไฟ ปืนคาบศิลาหรือแม้แต่เสื้อเกราะก็สั่งมาจากฝรั่ง โปรตุเกส ฮอลันดา หากจะดูแปลกก็คงเพราะเอามาดัดแปลงให้เข้ากับความเป็นไทยเรานั่นแหละ ก็พี่ไทยเราชอบดัดแปลงนี่ (รู้ๆกันอยู่) ครับหากบางท่านจะแย้งว่า นักรบไทยไม่ใส่เสื้อเกราะนั่นก็ใช่ เพราะไม่ได้ใส่กันทุกคน แต่ก็ใช่อีกนั่นแหละที่จะมีคนใส่ และคนที่ใส่ก็ไม่ใช่นักรบระดับธรรมดาด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะขุดไม่พบเสื้อเกราะเหล็กในหลุมศพทหารที่ตายในสนามรบ เพราะว่าของมันแพง คงไม่มีใครฝังให้เสียประโยชน์เปล่าๆแน่ ในสภาวะสงคราม และคนระดับที่ได้ใส่เสื้อเกราะก็คงไม่ถูกฝังแบบนั้นด้วย

 

การต่อสู้สมัยโบราณผมว่าคงเป็นการชิงจังหวะแล้วอาศัยความเร็วเสียมากกว่า ขืนชักช้าก็คงโดนฟาดล้มลงกับพื้น หากมีการใส่ อย่างดีผมคิดว่าคงเป็นเกราะหนังไม่ก็เกราะไม้สานที่เหนียวๆ พอกันดาบได้ หากจะเอาเกราะโลหะแบบในหนังผมว่าคงไม่เหมาะสมกับลักษณะการต่อสู้เสียเท่าไหร่

 

ก็เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ สำหรับคนที่ไม่เคยเข้าสู่สนามรบจริงๆก็ต้องคิดว่า เกราะเหล็กใส่แล้วไม่คล่องตัว

สงครามครูเสด ไม่ใช่เรื่องแต่งหลอกเด็กหัวอ่อนอย่างพงศาวดารบางประเทศนะครับ การบิดเบือนย่อมไม่ลงรายละเอียดกระทั่งชุดเกราะนักรบ เพราะว่าสงครามเขาทำกันจริงๆ หลักฐานที่แสดงในพิพิธภัณฑ์ของประเทศที่เป็นพื้นที่สงครามก็มีแสดงอยู่ดาษดื่น

อีกอย่างในยุคมืดของยุโรปซึ่งอยู่ในช่วงยุคสมัยเดียวกับสยามประมาณยุคสุโขทัยและอยุธยา การใช้เกราะเหล็กก็มีอย่างแพร่หลาย แต่ผู่ที่ได้ใช้ก็มักเป็นขุนนางหรือระดับอัศวินเท่านั้น เช่นเดียวกันในสยามก็มีใช้สมัยที่ติดต่อกับยุโยปและอีกเช่นกันผู้ที่มีใช้ก็ไม่ใช่ทหารไพร่พลสามัญ เพราะไพร่พลทั่วไปไม่มีกำลังซื้อมากมายขนาดนั้น ทั้งคนในพื้นที่แถบนี้เชื่อเรื่องไสยศาตร์อยู่ยงคงกระพัน ทั้งกินว่าน อาบว่าน เสกขมิ้นกินน้ำมัน ทั้งสักเสกลงเลขยันต์ และยังเคยชินกับการฝึกยุทธวิธีที่ไม่สวมชุดเกราะหนาๆ ด้วยว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อนด้วยนั่นเอง

 

ไม่แน่นะครับท่าน อย่าดูถูกพลังอำนาจแห่งการสื่อสารข้ามโลกเช่นนี้เลย

เปรียบเทียบจากพระพุทธเจ้าดูนะ ว่าท่านมีความคิดความอ่าน
ล้ำยุค ล้ำสมัยแค่ไหน ฉีกกฏเก่าๆทิ้งได้อย่างไม่ลังเล
ทั้งความคิดและจินตนาการก็กว้างไกล เกินผู้คนรอบข้างทั้งหมดทั้งสิ้น

เราคิดเอาเองนะว่า ถ้า "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" มาเกิดในยุคนี้น่ะนะ
เค้าต้องเรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี่ต่างๆ นาๆ แน่ๆ
และต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้ จากสิ่งของรอบตัว ได้อย่างรอบด้าน

ดังนั้น จึง ซตพ.ได้ว่า เรื่องอินเตอร์เนทนี้น่ะ ท่านคงไม่พลาดหรอกมั้ง นะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / น็อต ตรามนุษย์
.

 

สรุปว่าสมาชิกของเรานอนดึกกันดีนะ ไปอยู่กระทู้อื่นมาบ้าง กลับมาแล้ว เห็นด้วยกับท่านกระต่ายฯนะ เพราะว่าหลายท่านก็ต้องลงมาสร้างบารมีกันน่ะ ยุคนี้อินเตอร์เน็ต ยุคหน้าอะไรอีกก็ไม่รู้ แต่ไม่ว่าวัตถุจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร โลภ โกรธ หลง กิเลสพื้นฐานก็ยังคงมีอยู่ให้เราระวังไว้ไม่ประมาท
เรื่องเสื้อเกราะนี่คิดว่าเกราะเหล็กคงมีใช้แล้วเหมือนกันแต่น้อยคนที่จะได้ใส่ เพราะมีฝรั่งมาขายของแล้ว ส่วนพวกเราตอนนั้นคงไม่ได้ใส่ น่าจะไปหาวิชาต่างๆมาช่วยมากกว่า หรืออาจจะมีเสื้อหนังอย่างท่าน กฮ ว่าก็ได้ในระดับที่รองลงไป (ของแบบนี้อาจมีหลายเกรด) อย่างน้อยก็เสื้อยันต์น่าจะมีกันเกือบทุกคน แต่ก็นั่นแหละแล้วแต่ครูบาอาจารย์อีก

 

ขอขัดครับ ขอค้านหัวชนฝาด้วย กับการที่พระโพธิสัตว์เจ้าแลพระอริยบุคคลลงมาเล่นเน็ตตอบโต้กะคนมโนจัดๆ ละแวกนี้

การจินตนาการก็คือการจินตนาการ ความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง ถึงผมจะไม่สามารถโน้มน้าวหรือเปลี่ยนความคิดของคนที่คิดว่า บุคคลที่กล่าวอ้างข้างต้นดังกล่าว(พระนั้นๆ) จะลงมาสร้างบารมี แล้วใช้เน็ตร่วมเสวนากับคนละแวกนี้ก็ตาม แต่ขอยกตัวอย่างพระพุทธเจ้าของเรา ด้วยตัวอย่างที่มีในพุทธประวัติครับ

สมัยนั้นมีแล้วซึ่งเกวียน มีแล้วซึ่งการขับขี่ช้างม้า เหตุใดพระพุทธเจ้าจึงไม่ทรงให้พระสาวกใช้บริการพาหนะดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่พระศาสนา เพราะคนสมัยนี้ต้องว่า สะดวกรวดเร็วกว่าการเดินเท้าเปล่า แต่ทำไม๊ทำไมพระองค์จึงไม่บรรจุลงในพระวินัยสงฆ์ ให้ใช้เครื่องอำนวยความสะดวก หนึ่งละนะครับ

สองพระโพธิสัตว์เจ้าแลพระอริยเจ้า ก็คือผู้เจริญรอยตามพระพุทธเจ้า ทั้งแนวปฏิบัติและเจตนามุ่งมั่นในกิจการทั้งปวง ที่เรารู้จักกันมาบ้างแล้วว่า "เป็นของแท้" ไฉนท่านจึงไม่เล่นเน็ต ดูทีวี แม้แต่อ่านหนังสือพิมพ์ นอกจากจะละ หนีห่างจากพวกสื่อทั้งหลายที่อำนวยความสะดวกแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเก็บตัวเงียบอยู่ห่างไกลความเจริญอีกด้วย ย้ำว่าต้องเป็นของแท้ไม่มีใคร กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสังเกตกังขานะครับ

สรุป! ไม่มี "ของแท้ท่านใดคลุกวงในกับเรื่องพรรค์นี้ครับ จะมีก็แต่พวกลิ่วล้อที่เกาะกระแสดัง หรือไม่ก็รายที่อยากให้ดูเป็นของแท้ และก็มีเจตนากอบโกยซึ่งร่วมมือกับพรรคพวก ในการสร้างเนื้อสร้างตัวจากสื่อ เพื่อให้คนทั่วไปคิดกันว่าตัวเองนั้น คือ "ของแท้" ถ้าไม่เชื่อลองล้วงลึกคลุกวงในคนพวกนี้แล้วจะรู้ว่ารายไหนรายนั้น ของเก๊ครับเจ้านาย

 

ขอขัด ก็ให้ขัด แต่อย่าเอาหัวชนฝาแรงนะ เดี๋ยวจะเจ็บ เราสงสาร

ส่วนเรื่องอื่น ขี้เกียจเถียง เพราะเราก็ไม่ใช่ของแท้
เป็นของเทียม ของเลียนแบบ ของจำลอง ของเล่น

แถมยังมีอยู่จริงแต่ในนิทาน เรื่องจริง
เรื่อง "พระแสงแห่งหมู่บ้านในนิทาน"
ที่เพิ่งจะเกิดเมื่อกี้นี้เอง คลอดที่กระทู้ พระศรีต้องทำไรบ้าง

๕๕๕ ขออภัยที่เพ้อเจ้อ แต่ก็หวังว่าจะไม่สาระ ล่ะมั้ง นะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / พระแสงแห่งหมู่บ้านในนิทาน
.

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=2eYEOOhhdwI]แอ๊ด คาราบาว - ขุนศึก - YouTube[/ame]
วิดีโอมันจะออกหรือเปล่า

 

กำลังหัดเอาวิดีโอมาลง เพลงขุนศึก ของคาราบาว มอบให้ทหารองค์ดำก็แล้วกัน ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ เพราะที่บ้านใช้แอร์การ์ดเล่นเน็ต

 

ในขณะที่ไทยดูกันไปแล้วกับตำนานสมเด็จพระนเรศวร พม่าเขาก็ส่งเกมออนไลน์ Age of Bayinnaung หรือตำนานบุเรงนอง มาให้คนพม่าเล่นฟรีปี 2014 ดูวิจารณ์ตามลิงค์ได้เลยจ๊ะ เมียนมาร์เปิดตัวเกมส์ออนไลน์ ‘Age of Bayinnaung’ ว่าด้วยเรื่องวงมณฑลของพระราชายอดนักรบ : มติชนออนไ

 

ดูรูปกันไปเลยดีกว่า จากการตีความของคนทำเกมพม่า ฝากให้ชมกันนะคะ แต่คงไม่เข้าไปเล่น(ไม่เหมาะแก่วัย)

 

สอบถามหน่อยนะครับ สมัยนั้นพอจะมีปืนใหญ่ขนาดย่อมๆไม่เกินซักประมาณ 1 เมตรกว่าๆมั้ยครับ แล้วเค้าเอาไว้รบกันตอนไหนกันครับ?

 

น่าจะมีแล้ว เพราะฝรั่งคงเอามาขาย เอาไว้ทำลายค่าย หรือประตูเมือง

 

สมัยนั้นต้องรบราเพื่อแย่งชิงประชากรรอบข้างกัน สมัยนี้มีประชากรที่พร้อมมาอยู่ในประเทศนี้แล้ว แต่ตัวผู้นำกลับไม่แสวงหาประโยชน์เพื่อดึงคุณค่าของประชากรนั้นออกมา

ผมบอกได้เลยถ้าเราขัดเกลาแรงงานเขมร พม่า และเวียดนามให้เป็นคนไทยแล้ว ไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่น่ากลัวทีเดียว และยิ่งหากดึงพวกเขามาเกือบค่อนประเทศของพวกเขาได้ ไม่นานเกินสามสิบปีดินแดนรอบๆ ข้างต้องเป็นของไทยอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ไท สุวรรณภูมิ ศาสนาพุทธจะรุ่งเรืองที่นี่

 

จริงครับ ถ้ามีแรงงานต่างชาติเข้ามาอยู่ในประเทศมากขึ้น และเมื่อเขาได้สัญชาติไทย ต่อไปในอนาคต ประชากรของไทยจะมีเพิ่มขึ้น ทั้งแรงงานและเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาแย่งที่ดินทำกิน ก่อให้เกิดอาชญากรรมและการแบ่งแยกเชื้อชาติ การจัดระบบแบ่งพื้นที่ทำกินประเภทใต้ดิน ที่เป็นของคนจากชาติอื่น โดยมีเครือข่ายใหญ่อยู่ในประเทศแม่ เช่นเดียวกับแก็งค์มาเพีย จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย อาหรับ ฯลฯ ที่คุมบ่อน ซ่อง ยาเสพติด สินบนหน่วยงานของรัฐ ฯลฯ เหมือนในประเทศตะวันตก

 

ก็รอดูกันต่อไป ยังไงๆก็ขอให้ศาสนาพุทธอยู่คู่ไทยต่อไปนะ