การจุติของเทวดา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย noom8a, 19 พฤศจิกายน 2014.

  1. noom8a

    noom8a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +226
    สมมุติผมได้ฌาณแล้วเวลาตายแล้วเราไม่เข้าณาณหรือเป็นพรหมเพราะนานเกิน
    เพราะอยากสร้างบารมีนิดหน่อยลดกำลังลงแค่ดาวดึงสมมุติที่ดาวดึง1000ปีทิพย์
    แต่เรากำหนดอายุแค่300ได้ไม็ครับหรือมีวิธีให้จุติสู่ชั้นที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องรอหมดอายุในแต่ละชั้นนั้นๆได้ไม๊ครับ
    สมมุตืที่พรหมอายุนานมากๆแล้วเราจะเข้านิพานได้ก่อนไม๊ครับหรือต้องรอไห้หมดอายุเองแล้วมาเรื่มไหม่ไช่ไม็ครับ
    การเลื่อนขึ้นเลื่อนลงของเทวดานอกจากหมดบุญเราสามารถเลท่อนหรือจุติก่อนเองได้ไม๊ครับแบบศึกษาไว้ก่อนควรเข้าที่ไหรดีถ้ายังไม่เข้านิพพานครับ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอ่อ

    ถ้า ลองหลงสำคัญไปว่า จะกำหนดอายุที่ภพนั้นเท่านั้น เท่านี้
    จะไปที่นั้นแล้วนิพพานในที่นี้

    อะไรแบบนี้

    ไม่ต้องไปพูดถึง สวรรคิ์ หรือ มนุษย์ หรอก

    เกิดเป็น สัตวเดรัจฉาน แน่นอน เพราะ หลงในความคิด เป็นใหญ่กว่า รสจากฌาณ
     
  3. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ศาสนามีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงและความเชื่อ ในส่วนของข้อเท็จจริงต้องพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติ ส่วนด้านความเชื่อไม่ควรไปยึดติดครับ
     
  4. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    คำถามโดนใจครับ กางมุ้งรอผู้รู้มาตอบ...ผมก็อยากรู้เหมือนกัน :cool:
     
  5. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ถ้าอยากรู้จริงๆจะตอบให้ครับ
    อายุขัยคนเรา ( โลกนี้นะ ) ประมาณ 75 บางคนอยู่ไปร้อยกว่าปี แล้วแต่การดูแลตัวเอง
    ทีนี้ ถ้าอายุเราเพิ่ง 20 หรือ 30 กว่าๆ อย่าจุติไปเกิดที่อื่น ทำได้ไหม
    ตอบว่า ทำได้ครับ เลือกเอาเลยว่าจะไปแบบไหน จะฆ่าตัวตายเอง หรือจะให้เป็นอุบัติเหตุ จะตายด้วยดิน ด้วยน้ำ ด้วยลม ด้วยไฟ ก็ตามชอบๆเลย เราสามารถเลือกได้ครับ เทวดาก็เลือกได้เช่นกัน

    แต่ที่เลือกไม่ได้คือ ความคิดสุดท้าย จิตที่จะพาเราไปหลังจากที่ตายแล้ว
    แม้เราจะอยากไปที่นั่นที่นี่ แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะไปที่นั่นที่นี่ได้จริง
    ถ้าพาไปนรกนี่ งามไส้เลย

    ฉะนั้น ทางที่ดี ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ปล่อยตายตามธรรมชาติ ไม่ควรไปเร่งรัด
     
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .............ส่วนตัวคิดว่า กำหนดไม่ได้ครับ...เพราะพระท่านสอนเสมอว่าอย่าประมาท นั้นหมายถึงว่า ทุกสิ่งนั้นไม่เที่ยง ถ้าเที่ยงบังคับบัญชาได้ นั่นหมายถึงไม่จริง:cool:
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ทุกอย่างมีเวลาของมัน กรรมก็มีเวลาของมัน เพราะแท้จริงเวลาก็คือมิติของพลังงาน

    การกระทำ รูป นาม ก็คือมิติของพลังงาน มวล ธาตุ สะสาร ก็คือมิติของพลังงาน

    ทุกอย่างในจักรวาลก็คือมิติของพลังงาน พลังงานที่แปรรูปเปลี่ยนสภาพไปจึงมีสภาพที่ต่างกัน เป็นรูปและนาม

    หลายท่านสงสัยว่า ทำไมเวลาจึงเป็นพลังงาน ก็เพราะเวลาคือการคำนวนจากการเคลื่อนที่ของ มวล อาศัย ความเร็ว หรือทางฟิสิกส์ ก็คือ mc ก็คือพลังงาน เวลาบนโลกจึงต่างกับเวลาที่อื่นๆ เพราะมีมวล ที่แตกต่างกัน มีการโคจรรอบตนเองและรอบศูนย์กลางจักกรวาลที่ต่างกัน

    สรรพสิ่งล้วนเคลื่อนไปตามหลักแห่งกรรม หลักแห่งพลังงาน เสมอไม่เป็นอื่น

    การเสวยเป็นอะไรก็แล้วแต่ล้วนมีอายุไขของมัน เป็นเครื่องให้ผล ส่วนการจะเปลี่ยนแปลงกรรมเหล่านั้น ทำได้หรือไม่ ตอบว่า มีทั้งทำได้และไม่ได้ อาศัยทั้งเหตุในอดีตและขณะนั้นเป็นเครื่องหนุนส่งให้เป็นไป แม้อย่างเทพในชั้นดุสิต เองก็ตามที่เป็นพระโพธิสัตว์ตามคำภีร์ กล่าวว่าสามารถมาเกิดสร้างบารมีได้ตามกำลังจิต แต่ในความเป็นจริง เทพชั้นดุสิตหรือชั้นสูงๆ เขาเข้าใจและรู้แจ้งในวิบากกรรม เขาไม่ฝืนชะตากรรมหรอกครับ และรู้วาระของตนดี แต่หากในบางกรณีที่จำเป็นจริงๆ เขาก็จะดูว่ามีใครบ้างที่สมควรแก่เหตุแก่ปัจจัย ก็จะเลือกผู้นั้นให้จุติ ก็จะรับทราบเข้าใจกันทั้งหมดครับ

    เป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ยากจะเข้าถึงรู้แจ้ง แต่มันมีวิธีตามรูปแบบวิธีของมันอยู่ครับ อย่ากังวลไปเลย ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดครับ สาธุ
     
  8. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ก่อนอื่นเราขอถามเจ้าของกระทู้ก่อนเลยว่า
    ถ้าตอนนี้ จขกท ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม 6 เตรียมพร้อมที่จะสอบเข้ามหาลัย
    คิดว่าจะสามารถเลือกที่ทำงานได้เลยไหม หลังจากจบมหาลัยแล้ว?
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =============

    แม้รู้ว่าไม่สามารถตอบแทนได้

    แต่ก็มีแนวทางว่า คำถามนั้น ผู้ที่ตอบได้ ไม่ได้มีมากมาย แต่ผู้ที่ตอบได้ ย่อมหมายถึงผู้ที่ทำอย่างนั้นได้ จึงสามารถตอบได้ เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น

    หมายความว่า หากเป็นนักเรียน ม6ที่สอบมหาลัยได้ แล้ว ส่วนหนึ่งได้งานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบก็มีเช่นกัน แต่ก็มีจำนวนไม่มาก ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

    เช่น ขึ้นอยู่กับมหาลัย สาขาวิชาที่เรียน ผลการเรียน ความสามารถ โควต้า จากบริษัทต่างๆ หรือแม้บางคนก็ได้งานทำก่อนเรียนจบเพราะเหตุปัจจัยอื่นๆก็มีเช่น เป็นนักศึกษาฝึกงานที่ดี ที่ทำงานเห็นจึงจองตัวไว้ หรือบางคนไม่เกี่ยวอะไรเลย บังเอิญว่าวาสนาเก่าให้ผล มีงานถ่ายแบบแสดงหนังเป็นนักร้องก็มี

    ใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจัง ไม่มีอะไรแน่นอนเป็นยไปได้ทั้งนั้น มันก็แล้วแต่เหตุปัจจัย

    ความจริงอีกส่วนหนึ่งคือ ผมหรือบางท่าน อาจจะเคยเกิดบนสวรรค์ ชั้นต่างๆมามาก แต่พอเรามาเกิดเป็นคน ธรรมชาติของคนจึงลืมสิ้นอดีตชาติทุกอย่าง แต่ก็ใช่ว่าจะกลับไปรู้ไม่ได้ มันก็แล้วแต่วาสนาบารมีและปัจจุบันกรรมที่ตนสร้างสั่งสมด้วยครับ สาธุ
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ยังมีบางสาขาวิชา ที่จบออกไปมีงานทำแน่นอน อย่างเช่น โรงเรียน โตโยต้า, มหาลัยพยาบาลของรัฐและเอกชนส่วนหนึ่ง , แพทย์ศาสตร์ , อื่นๆเป็นต้น มันก็อยู่ที่วาสนาบารมี และความสามารถของตนด้วยประกอบ กันครับ
     
  11. bluemachine

    bluemachine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184
    จิตเมื่อเป็นทิพย์ก็เคลื่อนด้วยกำลังความเป็นทิพย์ครับ
     
  12. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    โอเค เราถามต่อว่า ถ้าเราเป็น นักเรียนชั้น ม.6 คนนั้น เขาอยากทำงานเป็นสจ๊วตในแอร์เอเซีย ถามว่าจบมาเขาจะได้เป็นสจ๊วตในแอร์เอเซียไหม?
     
  13. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
  14. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ได้ 100% หรือ?
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ============

    ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องการสร้างปณิธาณ หรือการตั้งเป้าหมาย

    ก่อนที่จะได้รับผลตามสิ่งที่ตั้งปณิธาณ หรือตั้งเป้าหมายนั้น อาศัยวิธีการที่สอดคล้องกันกับบุคคลนั้นๆ การตั้งเป้ามีสองวิธการ คือจากซ้ายไปขวาและจากขวาไปซ้าย
    คือ
    1การตั้งจากผลคือสิ่งที่อยากได้ ไปหาเหตุที่ต้องสร้าง
    2การคิดจากเหตุที่ต้องทำไปสู่ผลที่จะได้รับ

    แต่ก่อนที่จะไปถึงวิธีการ สิ่งแรกที่คนในปัจจุบันไม่เข้าใจคือ การสร้างวิธีคิด วิธีคิดจะเป็นสิ่งที่บอกเราว่า เราคิดถูกหรือผิด เราตั้งเป้าหมายถูกหรือผิด วิธีคิดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นตัวสร้างเป้าหมายที่เราปราถนา

    วิธีคิดนั้นบอกให้เรารู้ว่า เราควรเลือกคิดอย่างไร ทำไมเราถึงต้องตั้งเป้าแบบนี้ เราจะได้อะไรจากสิ่งที่เราคิด การคิดแบบนี้ถูกต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เหมาะกับความสามารถพื้นฐานของเราที่มีหรือไม่ ความเป็นไปได้มีมากน้อยแค่ไหน

    ถ้าคุณเข้าใจสิ่งที่ผมกล่าวมา คุณจะเปิดกว้างทางความคิด และในที่สุดคุณจะรู้ว่า ควรตั้งเป้าหมายที่ดีเฉพาะตนได้อย่างไร

    พื้นฐานคือต้องประเมิณตนเองว่า เราจะไม่ตั้งเป้าในสิ่งที่เกินความเป็นจริงเกินความสามารถุของตน เพื่อสร้างพื้นฐานทางความเข้าใจในการสร้างroad mapของตนเอง เพื่อการกำหนดแผนงานและวิธีการไปสู่เป้าหมาย

    ผมเข้าใจดีว่า การได้มาซึ่งผล ที่ตั้งเป้าหรือคาดหวัง นอกจากจะต้องใช้ กรรมในปัจจุบันที่ดีมากพอแล้ว แน่นอน กรรมในอดีตวาสนาเดิมที่ตนสร้างไว้ก็เป็นเรื่องสำคัญ บางครั้ง จึงต้องประเมิณตนเองให้แน่ชัดก่อนว่า ตนเองชอบอะไร ถนัดอะไร หรือ รู้ได้ว่าตนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ สิ่งนี้แหละคือตัวตนของเรา เมื่อค้นพบตัวตนของตนเองแล้ว จึงควรวางแผนส่วนที่เหลืออย่างมีสติปัญญา รอบคอบ

    ไม่มีอะไรได้มาง่ายดายเหมือนที่เราคิด ระหว่างทางย่อมเจออุปสรรคมากมาย เราจึงต้องอาศัยพละกำลังมากมายในการก้าวข้ามไปให้ได้

    อย่าปล่อยให้การคิดของเราทำงานไปด้วยกิเลสที่มันไร้ความจริงเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่จงฝึกสติปัญญารู้ทันความคิดรู้ทันจิต รู้ทันตน นั่นแหละประเสริฐที่สุดเพราะมันจะเป็นก้าวแรกและก้าวต่อๆไปในการสรรพ์สร้างสรรพสิ่ง

    เพราะนามธรรม ก่อให้เกิดรูปธรรม นั่นเอง

    บุคคลผู้ประสพความสำเร็จ ล้วนให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่านามธรรม เพราะเป็นพลังงานที่สรรพ์สร้างสรรพสิ่งนั่นเอง

    อัจฉริยภาพแห่งบุคคลเกิดได้เพราะมีอัจฉริภาพทางความคิด และจิตใจนั่นเองครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2014
  16. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    - ผมก็สนใจเรื่องทำฌานเหมือนกันนะครับ น่าจะมีสำนักที่ฝึกทำฌาน ผมไม่กลัวได้เป็นพรมหรอกครับ
    - เท่าที่ผมเคยฟังในพระใตรปิฏก ท่านกล่าวว่า ความต่างกันของพวกได้ฌานแล้วไปเกิดเป็นพรม พวกที่เป็นลูกศิษย์ พระพุทธเจ้า มีความเข้าใจเป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อทำฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรม ก็จะไปพิจารณา ต่อในชั้นพรม และได้ปรินิพพานในชั้นพรมนั้นเอง ส่วนพวกที่ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ ของพระพุทธศาสนา ไม่มีความรู้เรื่องหลักสอนในศาสนา พอได้เป็นพรม หมดอายุขัย ก็กลับมาในวัฏสงสารอีก
    - เวลาที่เราเกิด กับความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน เช่นเราหลับ 8 ชั่วโมงกับ หลับ 10 นาที่ เราถ้าไม่มีตัวบอกเวลา เราก็แยกไม่ออก เวลา ของสวรรค์ 100 ปี กับเวลามนุษย์ 100 ปีความรู้สึกก็ไม่เหมือนกัน
    - ท่านผู้หนึ่งกล่าวว่า ขึ้นชื่อว่าภพ แม้แต่สวรรค์ก็น่ารังเกียจ โดนใจครับ
     
  17. วีระชัยมณี

    วีระชัยมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,128
    ค่าพลัง:
    +2,548
    สาธุๆๆทุกท่าน

    ขอแสดงความเห็นเพื่อสนทนาธรรมนะครับ
    1. จากโลกมนุษย์ เมื่อตายต้องไปตามจิตสุดท้ายครับ ถ้าได้ฌาน แต่ไม่ได้เข้าฌาณ ก็เป็นแค่ คนทั่วไปนี่ละครับ ไปตามจิตสุดท้ายเลย
    2. หากมีบุญบารมีเก่า ถ้าสามารถอยู่ชั้นสูงๆ จะสามารถอธิฐานมาอยู่ชั้นต่ำกว่าได้ครับ
    3. จากพรหม แล้วเข้านิพพานเลยไม่ได้ครับ ยกเว้นพรหม ที่เป็นพระอนาคามีเท่านั้น การจะเข้านิพพานได้ต้องมีการพิจารณาธาตุขันธ์ให้เกิดปัญญา ไม่ใช่ว่าอยู่พรหม แล้วอยากจะเลื่อนขั้นขึ้นไปเอง ไม่ได้ครับ เมื่อเสวยบุญหมด ก็ต้องกลับมาชดใช้บาป อาจจะตกนรกเลยก็ได้ครับ

    4. การเลื่อน อาจทำได้แค่เลื่อนลงครับ ซึ่งพระโพธิสัตว์เจ้า ส่วนมากจะทำ แต่เทวดาทั่วไปจะไม่ทำเพราะ สวรรค์ยิ่งสูง ยิ่งสบายมากขึ้น เหมือนคุณมีเงินหนึ่งล้านในธนาคารแต่เดินไปบอกว่า ผมจะเอาแค่ หนึ่งพันเท่านั้น ที่เหลือไม่เอา

    ผมคิดว่า สั่งสมบุญเยอะๆไว้ดีที่สุดครับ เพราะสุดท้าย ก็ขะเป็นเสบียงให้สู่พระนิพพานโดยง่ายนั่นเอง ภพ ภูมิอื่นก็ ยังวนเวียนมาเกิดอยู่ร่ำไปครับ อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะเกิดเป็นอะไรเลยครับ

    อีกอย่างนะครับ ตอนคนเราใกล้ตาย บาป บุญแสดงผลเฉพาะคนผู้นั้นครับ ครูบาอาจารย์ท่านถึงให้ฝึกสติให้ตลอดเวลา เพราะเวลาตายคนเราเกือบทุกคนไม่มีสติครับ อย่าคิดว่าตอนเราจะตาย ค่อยมาเข้าฌาณเอา หรือ นึกถึงบุญเอา เป็นไปได้ยากมากครับ

    สาธุๆๆๆ
     
  18. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    ถ้าเลือกได้ไปเกิดเป็นพรหมดีกว่าเทพครับ เพราะอายุขัยของเทพอยู่ไปไม่ถึงสมัยพระศรีอาริย์

    ถ้าอยู่บนนู้นเกิดเห็นว่าบนโลกเหมาะที่จะบำเพ็ญเพียรค่อยลงมาเกิดได้
     
  19. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    มันเลือกเกิด เลือกจุติ ได้ง่ายขนาดนั้นเลยฤ?
     
  20. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    ถ้ามีบุญจะทำอะไรยังไงก็ได้ ถ้าตั้งความหวังไม่เกินบุญของเรา เหมือนเศรษฐีจะเลือกอยู่บ้านคฤหาสน์หรือจะอยู่ทาวน์เฮ้าส์ก็ทำได้ แต่คนธรรมดาแค่จะซื้อบ้านเล็กๆยังเลือดตาแทบกระเด่น

    ตย.ก็พระเจ้าพิมพิศาลเลือกเกิดเป็นยักษ์ในสวรรค์ชั้น1 ถ้าท่านจะอยู่สวรรค์ชั้นสูงกว่านี้ก็ทำได้แต่ท่านไม่ไป

    ปัญหาใหญ่ของพวกเทพที่ต้องการลงมาเกิดคือ หาพ่อแม่ที่เหมาะสมยากเงื่อนไขมันมีมากเช่น เป็นคนดี สภาพแวดล้อมดี ไม่ยากจนเกินไป มีกรรมผูกพันธ์ด้วยกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...