ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เกลอเกล่า ตอนนี้เล่าเรื่องพี่สิงห์ตอนวัยรุ่น ตัวเจ้ายังวิ่งไม่นุ่งผ้าอยู่เลย
     
  2. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    อ่านแล้วนอนไม่หลับเลยครับ
     
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    การนอนไม่หลับนั้นรักษายาก

    ฉะนั้นเราควรปลุกเพื่อนมาร่วมนั่งเวรยาม เหมือนครามีศึก

    จงรีบพาเพื่อนมาถกกระทู้กันเถิด

    ป.ล.กำลังจะเล่าหน้าที่เก่าเมื่อยามศึก ของคนหลายคนในนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    หลังจากนั้น เมื่อเพลามืด สิงห์นั่งอยู่หน้ากุฏิ หัวหน้าทอง แดง และคนที่ทดสอบสิงห์คนที่สาม หนาน ทั้งสามมาตามสิงห์ ไปที่คอกไม้ จากนั้นก็รีบขึ้นม้า ที่ต่างก็ซูบผอม และตรงไปที่เรือนขรัวอินทร์ก่อน

    ขรัวอินทร์อมยิ้ม เจ้าทั้งสามจงพาลูกสิงห์ ไปตระเวณนอกค่าย แล้วจงกลับมา
    หากพบศตรูให้ร่วมแรง ร่วมใจ ขอให้พระคุ้มครอง
    แล้วท่านก็หยิบตะกรุด ที่มัดเชือกป่านและถักห่อหุ้มอย่างดี
    แล้วคล้องคอให้สิงห์ หากมีภัย จงเอาตระกรุดอมไว้ในปาก แล้วนึกถึงพ่อ
    เจ้าจะแคล้วคลาดปลอดภัยทุกประการ

    แล้วทั้งสี่ก็ควบม้าออกจากหมู่บ้าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11 KB
      เปิดดู:
      63
    • 1380138119.jpg
      1380138119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.1 KB
      เปิดดู:
      329
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ราตรีแรกนั้น ไม่มีใครอธิบายอันใดให้สิงห์ฟัง
    สิงห์นั้นใส่เพียงเสื้อคล้ายเสื้อกล้าม และจุงกระเบนสีหม่น
    ทั้งสี่ควบม้าลัดเลาะไปตามทางจากหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนา เลาะไปตามริมตลิ่ง
    แล้วไปยังจุดที่แม่น้ำตื้นเขิน มีแม่น้ำอยู่ พวกเค้าผูกม้าใต้ไม้ใหญ่
    ต่างคนต่างช่วยระวังหลัง บรรยากาศตึงเครียด
    แล้วลมก็พัดหวนมาที่สิงห์ สิงห์รับรู้ถึงลม ที่แหวกเปลี่ยนทิศ หลังพงหญ้า
    มีคนแอบซุ่มดู สิงห์ชักบังเหียนม้า แล้วควบตามอย่างรวดเร็ว
    ทั้งสามผู้ร่วมคณะ ต่างควบม้าตาม แล้วชักดาบที่หลังมาถืออย่างรวดเร็ว
    ถึงแม้สิงห์จะเด็กที่สุด แต่หลังจากประดาบเมื่อเพลาบ่ายนั้น ทั้งสามต่างยอมรับสิงห์
    สิงห์ควบม้าและชักดาบสองมือ มาแค่เล่มเดียว
    เห็นชายโพกหน้า กระโดดขึ้นม้า รูปร่างสมบูรณ์
    แล้วควบหนีไป สิงห์ได้ยินเสียงตะโกน

    ไอ้สิงห์ เอ็งหยุด

    แล้วท่านหัวหน้าก็ชักม้ามาตัดหน้าสิงห์

    แล้วกล่าวว่า พวกเราต้องกลับหมู่บ้านเดี๋ยวนี้ ก่อนที่พวกมันแห่จะมา
    แล้วทั้งสามก็ควบม้าอย่างรวดเร็วกลับทางที่มา

    สิงห์ลังเล แต่ก็ควบม้าตามหัวหน้าทองไป
     
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทั้งสี่ควบม้าเต็มฝีเท้าโดยไม่พัก เมื่อมาถึงหมู่บ้าน ทั้งสามหยุดม้าที่เรือนขรัวอินทร์

    ขรัวอินทร์ในท่านั่งสมาธิ ลืมตาขึ้น

    มันไกล้เข้ามาแล้วซินะ
    จงสั่งคนให้อพยพ บัดเดี๋ยวนี้ เราจะไปสมทบกับค่ายใหญ่
    คงรอเพลาเช้าไม่ไหว

    ทั้งสามแยกย้ายไป ตีฆ้องร้องป่าว เรียกชาวบ้านให้ตั้งแถว แลเกวียน
    เตรียมอพยพ

    เป็นภาพที่น่าเอน็จอนาถ ลูกเล็กเด็กแดง เสื้อผ้าหลุด ผู้หญิงม้วนผมหลุดลุ่ยด้วยความรีบ ทุกคนสีหน้าหวาดกลัว เด็กบางคนรู้ได้ถึงความกดดันนั้น ก็กระจองอแง

    ข้าวของส่วนมากก็ทิ้งกันเสีย ขนไปได้แค่ห่อผ้าติดตัว คนแก่นั้นกับเด็ก ห้าหกคน นั่งเกวียนเทียม ชายฉกรรจ์ที่บาดเจ็บแลมีแผล พันผ้า ก็ถือดาบมั่น หน้าตราดูเคร่งเครียด ราวกับมัจจุราชกำลังจะมา

    สิงห์นั้นยังไม่ทันจะถามอะไร ขรัวอินทร์ก็กระโดดขึ้้นมา แล้วว่า เอ็งจงไปเดินที่ท้ายขบวน คอยระวังหลัง พ่อจักไปนำหน้า จงจับทิศทางลม แล้วส่งสัญญานให้พ่อ
     
  7. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    ถ้าแต่งเป็นนิยายจะขายได้ถล่มทลายเลยครับ อ่านแล้วชวนติดตาม เผลอๆลงละครช่อง 3 น่าสนใจนะครับ
     
  8. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    nophakhan โม้ทั้งเพ...ขี้จุ๊เบ่เบ้ ...กสิณหรือหิงห้อย...อันนั้น มันหัวไม้ขีดเปล่า...
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ตอนหลังๆนิยายเรื่องนี้ มันออกแนวพาดพิงกับปัจจุบัน เลยเขียนเป็นนิทานค่ะ
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอนุญาติถามว่ามีใครเป็นทหารบกมั้ย คะ ช่วงที่มาเขียนกรูทู้นี้ เห็นภาพชัดเจนค่ะ
     
  11. tantawan

    tantawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +1,756

    คนอ่าน... ที่ปัจจุบัน รับราชการทหาร นะรึ ...?
    หากตอนนี้ ยังไม่แสดงตัว...แต่...อนาคตคงยกมือ

    ที่บ้านเรา... พ่อ กะ น้องชาย ...ก้อเป็น.. ทหารบก
    ...ว่า จะคอย ยัดเยียดลูกชาย สืบทอดตามกัน อีกคน 555
     
  12. khunpak

    khunpak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +115
    เคยเป็นจร้าา ทหารราบด้วยย (ทหารเกณท์ปลดมาแร้ว) คงเคยรับใช้ชาติมาก่อน ครั้งนี้ก้อเป็นอีก
     
  13. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    เราเป็นมั้ง....ต๊ะหาร
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    คืนนั้น ขบวนอพยพเดินทั้งวันทั้งคืน ไม่มีใครหยุดพัก สิงห์คอยระวังจับกระแสลม
    อยู่ท้ายขบวน สิงห์จับลมที่พัดพาไร้ทิศทาง เร่งเร้า คุกคาม มันคือลมจากกีบเท้าม้าอันสมบูรณ์ประมาณ 50 ตัว ที่เร่งผีเท้าติดตาม

    ขรัวอินทร์ ระหว่างเดินทาง ก็ได้เล่าให้เสือฟัง ถึงกองทัพที่ติดามมา และกลุ่มม้าศึก
    ในการสงครามสมัยนั้น หากทัพเมือง ขอตั้งชื่ออิรนคร จะยกทัพไปตีเมืองยุทธศาสตร์ของ เมืองขอใช้ชื่อเดิมว่าอโยธยา จะจัดทหารฝีมือดีแห่งอิรนครา ประมาณ 10 คน ที่เหลือ อีก 40 จะเป็นพวกนักรบทมิฬรับจ้าง นักรบพวกนี้ชั่วช้าเหลือประมาณ บางคนก็เป็น
    ชาวอิรนครเอง บางคนก็เป็นพวกขอม บ้างก็ชาวไทยใหญ่ โดยได้รับสินจ้าง รางวัลอย่างงาม ความอำมหิตของมัน คือปล้นฆ่า ฟันไม่เลี้ยง มันเป็นพวกทมิฬโดยแท้ บางทีมันก็ตัดแขน ตัดขา แต่ไม่ตัดคอ ให้ไม่ตายฆ่าที่ เจ็บปวดทรมาน ให้ดูพวกมันข่มขืนลูก เมีย พี่ น้อง ของพวกชายเหล่านั้น บางทีก็ตัดนิ้วทั้งหมด แล้วผูกไว้ที่กลางหมู่บ้าน รอทหารอโยธยา หรือรอคนมาพบ เอาไปเล่าลือถึงนรกบนดิน แล้วถึงแม้สิ่งไหนเอาไปไม่ได้ มันก็จะเผาสิ้น ไม่เหลือให้กลับมาทำเป็นที่มั่น ตลบหลังมันได้อีก โดยนายทหารอิรนคร บางคนก็ไม่ได้ร่วมด้วย แต่เป็นกลยุทธุ์ศึกของแม่ทัพแห่งอิรนคร ให้เกรงกลัวบารมี และความโหดร้ายที่ต้องเจอ บางทีหมู่บ้านเล็กๆ แค่ได้ยินว่าอิรนครจะบุก ก็หนีสิ้น แทบจะไม่ต้องลงมือ เหลือทัพไว้ตีเมืองใหญ่ๆ ไม่ต้องจัดกระบวนทัพใหม่ และไม่ต้องเสียชีวิตชาวอิรนครอีกด้วย ไม่ต้องกลัวจะโดนตลบหลัง ไม่ต้องกลัวซุ่มโจมตีให้เสียงานใหญ่ เพราะหมู่บ้านเล็กน้อยนั้น เช่นที่สิงห์อยู่ ก็จะไปรวมตัวกันที่เมืองยุทธศาสตร์ หากเมืองนั้นแตก เท่ากับยึดพื้นที่บริเวณนั้นได้หมด เลวชาติแต่มันได้ผล และได้ทรัพย์ เนื่องจากทัพใหญ่ เดินทางได้ช้า และ
    ต้องมีทั้งไพร่พล ม้าศึก ทหารพลแต่ละกอง บางคนว่า หัวหน้ากองทัพทมิฬล้วนเป็นลูกหลาน ขุนนาง หรือ เชื้อพระวงศ์อิระนคร

    กองทัพทมิฬมีม้าศึกที่ดี และสวยงามมาก เป็นม้าสีน้ำตาล ฝีเท้าจัด วิ่งได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่พัก และจะมีผู้ส่งสารหนึ่งหรือสองคน
    เป็นม้าเร็ว ในแต่ละกอง เพื่อส่งข่าวให้ทัพใหญ่รู้ถึงสถานการณ์ มันจะตั้งกองไกลหมู่บ้านที่จะโจมตี แล้วส่งคนมาซุ่มดู ว่ามีทหารมาคอยดูแล
    หรือมีแต่ชาวบ้าน เพื่อจะลงมือในภายหลัง หากเป็นชาวบ้าน แค่ไม่เกิน 50 คน มันจะมากันแค่ 10 คน เพื่อง่ายต่อการโจมตี เก็บเรียบได้ทั้งหมด
    ฝีดาบ และความเลว ของแต่ละคนฉกรรจ์มาก บางคนก็ดำดินมาสมทบ มีทั้งเวทย์ โหงพราย
    ที่หมู่บ้านขรัวอินทร์นั้นมันต้องมาซุ่มดู เพราะว่ามันมองไม่เห็น เนื่องจากจิตของขรัวอินทร์คอยปกป้องดูแล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    รู้สึกแค้นแน่นอก...รอให้ผู้อ่านได้ซึมซับ ผุ่น ควัน กลิ่นไหม้ เลือด และน้ำตา เสียงกรีดร้องของหญิงที่ทุกข์ทรมาน

    ความแค้นนั้นแทบกระอักเลือด นึกถึงจิตกูที่โดนดาบฟัน เลือดไหลจนตัวชา
    มือที่ถือดาบไร้เรี่ยวแรง
    โลกกำลังมืดลง บ้านกู ที่กูอยู่กูทำ พวกมึงเผาของกู
    ลูกกู เมียกู แม่กู ลูกกู ไหว้ขอชีวิตมึง มึงทำได้อย่างไร
    เด็กบางคนมึงตวัดดาบตัดแขน ตัดขา ให้ดิ้น และกรีดร้องทรมาน
    เสียงหัวเราะของพวกมึง ราวกับสัตว์นรก
    ตายแล้วก็ก็ขอเป็นวิญญานติดตามจองล้างจองผลาญมัน ทุกชาติไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ด้วยบุญของขรัวอินทร์ที่คุ้มครองชาวหมู่บ้าน ก็เดินทางถึงค่ายใหญ่
    ก่อนถึงค่ายนั้น ไม่ถึงหนึ่งเพลา สิงห์รู้สึกลมที่ตามมา ค่อยช้าและหยุดลง
    สิงห์หันไปหาขรัวอินทร์ ท่านกล่าวว่า พวกมันไกล้มาถึงเราเต็มทน
    แต่มันลังเล เพราะหากเร่งบุกมาตอนนี้ มันคาดเดาได้ว่า เราส่งม้าเร็วไปที่ค่ายใหญ่
    ให้ส่งทหารมาช่วยชาวบ้าน อย่างไรเสียมันก็คงย้อนกลับไปเผาหมู่บ้านก่อน
    ติดตามเราไป มันอาจต้องเจอศึกหนัก กับค่ายใหญ่
    มันคงรอทัพใหญ่ มาสมทบ เพราะหมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านสุดท้าย ก่อนจะตีเมืองนี้แตก
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เมื่อถึงประตูหน้าของค่ายใหญ่ ท่านขรัวอินทร์นั้น หยุดม้าไม่เดินตามเข้าไป
    หัวหน้าทอง จึงควบม้ามาตาม
    ขรัวอินทร์กล่าวว่า ข้าจำต้องจากลาเพื่อการใหญ่ต่อไป เจ้าจงดูแลคนของเจ้าต่อไป
    หัวหน้าทองหลั่งน้ำตาไม่อายใคร กระโดดลงจากหลังม้า ขรัวอินทร์แลสิงห์ก็เช่นกัน
    หัวหน้าทองก้มกราบที่เท้าท่านขรัวอินทร์
    ขอให้เจ้ามีโชคแลชัย แล้วขรัวอินทร์ก็มอบตะกรุดให้หัวหน้าทอง

    แล้วขึ้นม้าไป สิงห์ เร่งตามพ่อมา เวลาไม่คอยท่า การใหญ่รอเราอยู่

    สิงห์ควบม้าตามขรัวอินทร์ แต่อดไม่ได้ที่จะมองขบวนอพยพ

    เป็นครั้งแรกที่สิงห์รู้สึกสงสารชาวบ้านที่น่าเวทนา

    หลังจากที่ฟังเรื่องกองทัพทมิฬ และสภาพอันอาภัพอับจน ของชาวบ้าน

    ถึงแม้ค่ายใหญ่จะใหญ่กว่าหมู่บ้านนั้นมาก แต่จะทานทัพใหญ่ของอิรนครได้หรือ

    แล้วคนที่สิงห์เห็นหน้า คนแก่และเด็ก หัวหน้าทอง แดง และหนาน จะเป็นเช่นไร

    ทำไมข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าชาวบ้านมีสภาพน่าสมเพชเช่นนี้ แล้วทหารหลวงที่เดินกันเต็มวัง ไปไหนหมดเสีย ทำไมม่ส่งมาบ้าง

    กว่าสิงห์จะเข้าใจเรื่องการเมือง ก็จนตายนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  18. สีธรรมราช

    สีธรรมราช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +154
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทำไงก็คิดไม่ออกว่าจะให้จตุรงคบาททั้ง 4 มาอ่านกระทู้นี้ได้ไง
    ก็อธิษฐานจิตเอาแล้วกันเนอะ

    ป.ล.อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ช่วยมาเล่าบ้าง

    การเล่าเรื่องนี้เหนื่อยกายในมาก เหมือนไปรบ อีกรอบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขี่ม้าจนพลบค่ำ สิงห์เริ่มเหนื่อล้า แต่ขรัวอินทร์ก็ไม่ได้หยุดม้า
    สิงห์รู็สึกราวกับจิตจะหลุด ด้วยความเหนื่อยล้า สิงห์เริ่มไม่รู้สึกถึงลมที่พัด
    จนกระทั่งได้กลิ่นควันไฟ เบื้องหน้า ไฟลุกโชติช่วง ขรัวอินทร์เร่งม้าเร็วขึ้น
    สิงห์ชักดาบออกมาโดยอัตโนมัติ เมื่อไปถึงต้นไฟ ม้านั้นสะบัดหัวกลับเอง
    ราวกับรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัว ตรงหน้าคือค่ายทหารขนาดเล็กคล้ายที่สิงห์จากมา
    เพียงแต่สิ่งที่สิงห์เห็นนั้นนรกบนดิน ศพเกลื่อนกลาด กลางหมู่บ้าน
    บ้างก็เป็นชิ้นส่วนแขนขาที่โดนตัด ผู้ชายบางคนยังไม่ตายสนิท แต่ถูกปาดลำคอ บริเวณลูกกระเดือก เลือกทะลักออกจากปากเป็นฟอง บางคนก็ถูกหอกเสียบตายทั้งที่อยู่ในท่านั่ง ที่มันทำให้สิงห์เข่าอ่อนจนแทบทรงตัวไม่ได้ คือที่ลานกลางหมู่บ้านมีหัวคน ถูกตัดเสียบอยู่ บางหัวเป็นผู้หญิง ลิ้นจุกปาก นัยน์ตาถลน ใบหน้านั้นเปื้อนด้วยเลือดและน้ำตา มีศพผู้หญิงสาวสองสามคน โดนข่มขืนอย่างทารุณ ศพพวกนั้นในตาเหลือกถลน ด้วยความแค้นและความเจ็บปวด สิงห์กระโดด ลงจากม้า เข่าทรุดไปที่พื้นดิน ขรัวอินทร์เอื้อมมือมาบีบไหล่ น้ำตาสิงห์ไหลโดยไม่รู้ตัว มันจุกจนพูดไม่ออก นี่มันสัตว์นรกขุมไหนถึงทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...