อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326


    น้อมกราบหลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล -/\-
    หลวงปู่ท่านมีความเกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อฤาษีอยู่ครับคุณกันต์
     
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ชาญ พี่รัก พี่รุ่ง พี่อ้วน คุณบอย น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว คุณหนุ่ม น้องเอ๋ คุณวุฒิ น้องนิก คุณกันตปัญโญ คุณsellcat คุณjamitcom น้องกานต์ คุณpp2 น้องแพน น้องนาย คุณผักหวาน5 คุณอาณัติ คุณน้ำหว้าและพี่ๆน้องๆทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปวัดบรมนิวาสเป็นครั้งแรก วัดนี้เคยได้ยินชื่อมานาน ด้วยชื่อเสียงของท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท) บูรพาจารย์องค์สำคัญของสายพระป่า และที่วัดนี้ก็มักจะมีครูบาอาจารย์แวะเวียนมาพำนักอยู่เสมอๆคร๊าบบ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]
     
  5. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท) เดิมท่านเป็นคนชาวอุบลราชธานีโดยกำเนิดท่านชื่อ จันทร์ สุภสร บิดาชื่อ สอน มารดาชื่อ แก้ว นามสกุล สุภสรท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๗ คน ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ เป็นบุตรคนโต (หัวปี) ท่านเกิดเมื่อเดือน ๔ แรม ๒ ค่ำ วันศุกร์ ปีมะโรง เวลา ๒๓.๐๐ น. ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๙๙ ที่บ้านหนองไหล ตำบลหนองไหล อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี พื้นเพของครอบครัวเป็นชาวนาเป็นฐานของชีวิต ท่านเจ้าคุณอุบาลี เป็นเด็กที่มีความคิดพิจารณามาแต่อายุ ๗ ขวบ บิดามารดาเป็นคนใจบุญสุนทาน มีความใกล้ชิดกับวัดวาครูบาอาจารย์มากครอบครัวหนึ่ง ยังผลให้บุตรคือ…ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ผู้ติดตามบิดามารดา เห็นความแน่นแฟ้นในศีลในธรรม มีสัจจะวาจา มีความเลื่อมใสศรัทธาตามบิดาของตนเป็นอันมากพออายุได้ ๑๓ ปี ก็พอดีปี พ.ศ. ๒๔๑๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จสวรรคตเป็นธรรมเนียมของชาวไทยทุกคน ต้องโกนผมไว้ทุกข์แด่องค์พระมหากษัตริย์ และรักษาศีล เจริญภาวนาเป็นการบูชาพระคุณแต่บุคคลที่รักรูปรักกาย สังขารก็มีอยู่บางคนถึงกับร้องไห้เสียใจเพราะตนต้องเป็นคนหัวโล้นโดยเฉพาะเป็นสตรีที่เสียใจกันมากแต่ท่านท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ (สมัยเป็นเด็ก) กลับมองตรงกันข้าม ท่านคิดในใจว่า “ศีรษะโล้นนี่เป็นของดีงาม วิเศษกว่ามีผมที่รุงรังบนหัว” ตั้งแต่ถูกโกนผมหมดหัวไปแล้ว ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ (สมัยเป็นเด็กเล็กอยู่นั้น) เกิดชอบอกชอบใจเป็นที่สุด จิตใจเบิกบานอย่างผิดสังเกต…บิดาเห็นเช่นนั้นก็ได้ถามขึ้นว่า… “ถ้าจะให้บวชเป็นสามเณร จะอดข้าวเย็นได้บ่” สิ้นเสียงที่บิดาถาม บุญบารมีเก่าได้มาหนุนนำชีวิตให้รุ่งโรจน์ ต่อไป ท่านตอบอย่างไม่ต้องคิดว่า “อดได้”ต่อมาบิดามารดาได้นำบุตรชายที่อยากบวชเณร มาฝากบวชกับท่านเจ้าอาวาสวัดบ้านหนองไหล และได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร จันทร์ สุภกร ในปี พ.ศ. ๒๔๑๑ นั้นเองต่อมาอายุครบบวช บิดาจึงหาอุบายที่จะให้บุตรของตนได้บวชพระ โยมบิดาของท่านได้เล่าดังนี้ …“บุตรชายของท่าน คือท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ เป็นเด็กเลี้ยงยากที่สุด และเป็นเด็กที่แสนซน อีกทั้งยังเป็นเด็กขี้ร้องไห้ ใจน้อย ถ้าร้องไห้แล้วละก็ จะต้องเป็นชั่วโมงเลยทีเดียวไม่ยอมหยุด” ด้วยอุบายนี้ โยมบิดาจึงนำไปกล่าวแก่บุตรชาย (จันทร์) ได้ฟังว่า“บิดามารดาได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ถ้าไม่บวชให้ก็เห็นทีจะไม่พ้นโทษ ต้องบวชให้บิดามารดาจึงพ้นโทษจากความเลี้ยงยากซนและขี้ร้องไห้”ด้วยเหตุนี้ จึงรับปากบิดามารดาว่า “จะบวชให้สัก ๓ ปี บิดามารดาจะพอใจหรือไม่" บิดาจึงตอบไปว่า “ลูกจะบวชให้สักปีหรือสองปีก็ไม่ว่า แต่ขอให้บวชเป็นพระก็แล้วกัน”


    อุปสมบทได้จัดขึ้น ณ วัดศรีทอง เมื่อเดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ำปีฉลู พ.ศ. ๒๔๒๐ ท่านอุปสมบทสำเร็จเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. โดยมีท่านพระเทวธัมมี (ม้าว) เป็นพระอุปัชฌาย์ท่านพระอธิการสีโห (วัดไชยมงคล) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ในระหว่างเป็นพระภิกษุสงฆ์นั้น ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ได้อยู่จำพรรษากับพระอธิการสีโห ณ วัดไชยมงคล และได้รับภาระจากพระอาจารย์มาทำอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยส่วนทางด้านพระธรรมวินัยนั้น ท่านได้มาศึกษาอยู่กับพระเทวธัมมี (ม้าว) ที่วัดศรีทอง จนเป็นที่รักและไว้วางใจอย่างยิ่งต่อมาท่านพระอุปัชฌาย์ เทวธัมมี (ม้าว) ได้สอนกรรมฐานภาวนา และให้พิจารณาอยู่เป็นนิจในธรรม ๔ ประการ คือ “อารักขกรรมฐาน ๔” ได้แก่

    1.พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า

    2.เมตตานุสสติ แผ่ไมตรีจิตคิดจะให้สัตว์ทั้งปวงเป็นสุขทั่วหน้า

    3.อสุภะ การพิจารณากายตนและผู้อื่นให้เห็นเป็นไม่งาม

    4.มรณัสสติ นึกถึงความตายอันจะมีแก่ตน



    ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ท่านได้มานะพยายามศึกษาวิชาการต่าง ๆ อย่างชนิดทุ่มเทจิตใจ จนมาเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์ที่สุดในวงการ พระอริยะสงฆ์ไทย คือทางด้านศึกษาพระปริยัติธรรม ท่านสอบได้มหาเปรียญ ๓ ประโยค จนได้รับพระราชทานตำแหน่งต่าง ๆ หลายตำแหน่ง ตำแหน่งสุดท้ายเป็นพระอุบาลีคุณูปมาจารย์การปฏิบัติธรรม ท่านมีความเชี่ยวชาญ รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมขณะออกปฏิบัติ “ธุดงค์กรรมฐาน” จนมีความเข้าอกเข้าใจภูมิธรรมปฏิบัติ และได้สนับสนุนให้หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ก่อตั้งกองทัพธรรมเพื่อออกเผยแพร่ธรรมอันบริสุทธิ์แก่ประชาชนด้วยดีตลอดมา การเผยแพร่ธรรม ท่านได้ออกไปเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้ายังต่างแดน เช่น นครจำปาศักดิ์และนครเชียงตุง เป็นต้นส่วนทางด้านพัฒนาศาสนาวัตถุ ท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ท่านได้ดำเนินการสร้างและปฏิสังขรณ์ วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ให้เป็นวัดที่เจริญไพบูลย์ เป็นที่ยึดจิตใจของประชาชนตั้งแต่ระดับสูง จนมาถึงผู้หาเช้ากินค่ำอย่างวิเศษยิ่ง และยังได้สร้างวัดเขาพระงามหรือวัดสิริจันทร์นิมิต จังหวัดลพบุรี ให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน อนึ่งสายจิตสายใจอันเป็นหนึ่งของท่านเจ้าคุณอุบาลี ฯ ท่านได้อุทิศกายถวายชีวิตแก่พระศาสนาจนหมดสิ้น


    ขอบคุณเจ้าของข้อมูลด้วยครับ
     
  6. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)
    [​IMG]

    [​IMG]
    ตามพี่ปูครับ เหรียญนี้ออกที่ วัดอรัญญิกาวาส จ.อุดรธานี ในงานงานระลึกบูรพาจารย์ ปี 2520
     
  7. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)
    [​IMG]

    [​IMG]
    เหรียญนี้ออกวัดปทุมวนาราม ปี 2534 หลัง ภปร.ในโอกาสสร้างศาลาพระราชศรัทธา
     
  8. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)
    [​IMG]

    [​IMG]
    เหรียญ"25 ศตวรรษ"ลป.จันทร์ สิริจันโท-สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) ออกวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ปี 2500
     
  9. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)
    [​IMG]

    [​IMG]
    ออกที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพ ไม่ทราบปีครับ และท่านว่าหลวงปู่สิม พุทธาจาโร ปลุกเสกครับ
     
  10. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    พระอุบาลีคุณูปมาจารย์(จันทร์ สิริจันโท)
    [​IMG]

    [​IMG]

    เหรียญ"นิรันตราย"หลวงปู่จันทร์ สิริจันโท สร้างปี 2517 ณ วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ท่านว่า ลป.ฝั้น อาจาโร,ลป.สิม พุทธาจาโร,ลป.แหวน สุจิณโณ,หลวงปู่โต๊ะ ร่วมพิธีด้วยครับ
     
  11. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    สวัสดีครับคุณกันตฯ พี่ปู พี่โญ พี่เอ๊ะ พี่ตี๋ พี่กูน พี่อ้วน พี่วรรณ คุณเอ็ม คุณเหน่ง และทุกๆท่านครับ...
     
  12. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    [​IMG]
     
  13. แพน119

    แพน119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,122


    ตั้งใจไว้นานว่าจะไปวัดบรมนิวาส เพราะเคารพท่านเจ้าคุณอุบาลี อยากไปกราบท่าน ดูภาพจากพี่ปูแล้วก็ยิ่งอยากไปเลยค่ะ (deejai)​
     
  14. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับพี่วุฒิ นอนก่อนล่ะครับคืนนี้ พองานเริ่มหายๆแล้วมาใหม่ครับ
     
  15. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,372
    ค่าพลัง:
    +53,102
    สวัสดีพี่ปู พีวรรณ พี่โญ พี่วุฒิ พี่กันต์ และทุกๆท่านด้วยครับผม

    -ขอบคุณพี่ปูมากๆ ที่นำภาพวัดอรุณมาฝากครับ
    - ขอให้พี่ตี๋ หายไวๆ นะครับผม
     
  16. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,372
    ค่าพลัง:
    +53,102
    [​IMG] [​IMG]
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,372
    ค่าพลัง:
    +53,102
    หลังจากพระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณ สร้างพระเครื่องในนาม "หลวงพ่อทวด" ขึ้นแล้ว และประจักษ์ถึงอภินิหารศักดิ์สิทธิ์กันไปทั่วต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ชาวพุทธแห่งจังหวัดปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียงได้นิมนต์พระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณ ให้สร้างพระเครื่องในแบบรูปเหมือน "หลวงพ่อปาน" อดีตเจ้าอาวาสวัดนาประดู่ แห่งจังหวัดปัตตานีขึ้นบ้าง โดยเหตุผลว่า แม้พระคุณเจ้ารูปนี้จะเพิ่งถึงแก่มรณภาพเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๒ คือครึ่งร้อยปีมานี้เอง แต่พระคุณเจ้าก็เป็นพระเถระที่มีกฤตยานุภาพแก่กล้าปรากฏเป็นที่มหัศจรรย์รูปหนึ่ง เป็นที่สักการบูชาของชาวพุทธทั่วไปในจังหวัดภาคใต้ของอาณาจักรไทย ถือเสมอว่าพระคุณเจ้าเป็นร่มโพธิร่มไทร ตลอดจนชาวพุทธซึ่งเป็นคนไทยและจีนที่อยู่ในรัฐเคดาห์ ไทรบุรี สหพันธรัฐมลายู ต่างก็มีความเลื่อมใสศรัทธาในกฤตยานุภาพอภินิหารของพระคุณเจ้ากันทั้งนั้น เมื่อพระคุณเจ้าถึงแก่มรณภาพแล้ว ก็ขอแบ่งเอาอัฐิของพระคุณเจ้าไปบรรจุไว้ที่วัดไทยที่ตำบลบากาบาตา รัฐเคดาห์ ไทรบุรี ชาวพุทธทั้งไทยและจีนในถิ่นนั้น ต่างไปสักการะอัฐิของท่านทุกวันวันละมาก ๆ มิได้ขาด เพราะเมื่อใครไปสักการะขอพึ่งกฤตยานุภาพอภินิหารของท่านขอให้หายเจ็บไข้ได้ป่วย หรือขอให้ธุรกิจอันสุจริตผ่านพ้นอุปสรรค ต่างก็สมประสงค์กันทั้งนั้น ประวัติโดยสังเขปของพระคุณเจ้ามีว่า ท่านชาตะในวันพฤหัสบดี เดือน ๑๒ ปีมะแม พ

    .ศ.๒๔๐๒ บิดาชื่อจันทร์ มารดาชื่อหนู เกิดที่บ้านทุ่งหาร ตำบลบ้านกล้วย อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ที่ท่านได้ชื่อว่า "ปาน" ก็เพราะท่านมีปานดำที่โคนลิ้น พออายุได้ ๑๐ ขวบ บิดามารดาจึงนำไปฝากฝังให้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์ชู เจ้าอาวาสวัดนาประดู่ในสมัยนั้น เพื่อให้เรียนหนังสือชักสวดซึ่งนิยมเรียนกัน อยู่กับพระอาจารย์ชูจนอายุครบอุปสมบท จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุเล่าเรียนพระธรรมวินัยตามแบบแผนโบราณ จนมีความรู้ความเข้าใจทั้งทางคันฐธุระและวิปัสสนาธุระ แต่ที่ท่านมุ่งหน้าศึกษาอย่างคร่ำเคร่งนั้นคือทางวิปัสสนาธุระ ฉะนั้นจึงหลีกออกจากหมู่คณะถือธุดงค์ไปแสวงหาที่สงบวิเวกตามป่าเขาที่มีถ้ำให้อาศัยคุ้มกันแดดและฝนได้ ท่านถือความเป็นอยู่อย่างสันโดษ จนกระทั่งพระอาจารย์ชูของท่านถึงแก่มรณภาพ ประดาชาวพุทธแห่งจังหวัดปัตตานี จึงนิมนต์ท่านให้กลับไปอยู่วัดนาประดู่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อจากพระอาจารย์ชู ท่านรับนิมนต์และได้เป็นเจ้าอาวาสจนกระทั่งถึงแก่มรณภาพใน พ.ศ.๒๔๖๒


    ท่านมีอัธยาศัยเยือกเย็นและมีอารมณ์ร่าเริงอยู่เป็นนิจและมั่นคงในสัจจธรรม มีความอดทนไม่เคยแสดงความโกรธเคืองผู้ใดเลย และท่านมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นท่านจึงไม่กล่าวถ้อยคำที่ไม่เป็นมงคลกับศิษย์และชาวบ้านคนใดเลย และใคร ๆ ก็ไม่ทำตัวให้ท่านกล่าวว่าเป็นคนชั่วคนเลว เพราะต่างเกรงกลัวในวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน


    ตามปรกติวิสัยของท่าน ท่านมีเมตตาจิตโอบอ้อมอารีต่อคนทั่วไป ผู้ใดเจ็บไข้ได้ทุกข์ไปหาท่าน ท่านก็ให้ความช่วยเหลือโดยทั่วหน้ากัน และโดยเฉพาะในทางหยูกยาและน้ำมนต์ของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ เพราะรักษาความป่วยไข้ให้หายได้ดังปลิดทิ้ง เมื่อท่านให้พรผู้ที่ได้รับก็ประสบผลดีงามตามพรที่ท่านให้ เนื่องจากวาจาสิทธิ์ของท่าน


    ในสมัยที่พระคุณเจ้ามีชีวิตอยู่และเป็นเจ้าอาวาสวัดนาประดู่นั้น แต่ละวันมีผู้คนไปนมัสการขอพึ่งกฤตยานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้ช่วยบำบัดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และปัดเป่าข้อขัดข้องในกิจการอาชีพอย่างคับคั่ง มีทั้งผู้ที่มีฐานะมั่งมีและยากไร้และทั้งไทยและจีน





    และมีที่ชอบกลอยู่คนหนึ่ง เป็นหนุ่มชื่อราด เขาผู้นี้จะไปนั่งอยู่ที่หน้าวัดนาประดู่เสมอเกือบทุกวัน แต่ไม่ได้เข้าไปนมัสการพระคุณเจ้าเหมือนคนอื่น ๆ หากแต่ไปคอยดูคนที่ไปนมัสการท่านด้วยความสงสัยสนเท่ห์ว่าเขาแห่กันมาทำไมมากมายทุกวัน เขาจะออกปากถามคนเหล่านั้นก็ไม่กล้า เพราะเขาสำนึกตัวว่าเป็นคนต่ำต้อยในทุกทาง และคนที่รู้จักเขาก็เห็นว่าเขาเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ในที่สุดเขาก็นึกว่าพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานต้องมีอะไรดีเป็นพิเศษแน่ ๆ แล้วตกลงใจว่าจะไปขอของดีจากหลวงพ่อท่านบ้าง วันหนึ่งจึงเดินปะปนไปกับผู้คนที่มุ่งหน้าไปนมัสการหลวงพ่อ แต่ในชั้นแรกผู้คนหนาแน่น เขาจึงเลี่ยงมานั่งแอบเมียงมองอยู่ห่าง ๆ ต่อตกเย็นผู้คนเบาบาง เขาจึงค่อย ๆ คลานเข้าไปหาหลวงพ่อ วางดอกไม้ธูปเทียนลงแทบเท้าหลวงพ่อ ก่อนกราบเอาชายผ้าขาวม้าชายหนึ่งพาดบ่า ชายอีกข้างปูที่พื้นข้างหน้าทำเป็นผ้ากราบ แล้วกราบลงบนชายผ้าขาวม้าด้วยความคารวะ ๓ ครั้ง แล้วจึงเอ่ยปากขอว่า "หลวงพ่อครับ หลวงพ่อมีของดี โปรดให้กระผมบ้าง กระผมจะเอาไว้ป้องกันตัว"พระคุณเจ้าหัวร่อหึ ๆ อย่างอารมณ์ดี แต่แทนที่ท่านจะหันไปหยิบพระเครื่องหรือเครื่องรางอะไรยื่นให้เขา ท่านกลับยกเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนชายผ้าขาวม้าที่เขาปูกราบท่าน แล้วบอกอย่างทีเล่นทีจริงว่า "เอาไปเถอะนี่แหละของดี"แม้เพียงเท่านี้ หนุ่มราดก็แสนดีใจ กราบท่านอีก ๓ ครั้งแล้วลากลับบ้าน


    แต่นั้นมาเขาเชื่อมั่นว่าผ้าขาวม้าผืนนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารคุ้มกันให้เขาแคล้วคลาดจากผองภัย เมื่ออยู่บ้านก็เอาบูชาไว้บนที่สูงไม่นำมาใช้อย่างผ้าขาวม้าธรรมดาอีกต่อไป เมื่อออกจากบ้านไปไหน ๆ ก็นำติดตัวไปด้วยไม่ขาด และนับตั้งแต่นั้นมาเมื่อมีทุกข์ร้อนประการใด เขาจะยกผ้าขาวม้านั้นทูนขึ้นเหนือหัวตั้งจิตเป็นสมาธิระลึกถึงพระคุณเจ้าหลวงพ่อ ขอให้อภินิหารของท่านช่วยขจัดความทุกข์ร้อนนั้นให้สิ้นไป ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จดังปรารถนาทุกครั้ง นอกจากนี้เขายังประสบโชคลาภไม่ขัดสนยากไร้เหมือนกาลก่อน โดยเหตุนี้จึงทำให้หนุ่มราดเลื่อมใสศรัทธาในอภินิหารของพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่บุพกรรมนั้นไม่มีใครหรืออำนาจอะไรจะฝืนได้ ฉะนั้นในกาลต่อมาหนุ่มราดจึงได้กลายเป็นอาชญากรขั้น "ไอ้เสือ" ตามบุพกรรมที่กำหนดมา ทางการประกาศจับตายและตั้งสินบนเป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับผู้จับได้ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย แต่ไม่มีใครสามารถจับหรือปราบเขาได้ เพราะผ้าขาวม้าที่พระคุณเจ้าหลวงพ่อปานเหยียบชายให้เขานั้นได้ยังผลให้เนื้อหนังของเขาอยู่ยงคงกระพัน ปืนผาหน้าไม้หอกดาบไม่ทำอันตรายแก่เขาได้เลย คราวหนึ่งเขาหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจนมุมโดยวิ่งตกลงไปบ่อที่น้ำแห้งบ่อหนึ่ง ลึกท่วมหัว เจ้าหน้าที่ล้อมปากบ่อไว้และต้องการจับเป็นจึงร้องบอกให้เขาขึ้นมาให้จับเสียดี ๆ แต่หนุ่มราดซึ่งกลายเป็น "ไอ้เสือร้าย" ไม่เอาด้วยอุบนิ่งอยู่ก้นบ่อ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายก็ขัดใจขึ้นมาเปลี่ยนเป็นจับตายระดมยิงปืนลงไป แต่ลูกปืนหาได้ระคายผิวของไอ้เสือราดไม่ เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนวิธีเป็นขอร้องให้ชาวบ้านที่มามุงดูช่วยหาไม้ไผ่เสี้ยมปลายแหลมเป็นปากฉลามมาให้ แล้วแทงลงไปที่ร่างของเสือราด ไม่ระคายผิวของเสือร้ายอีก แต่คราวนี้เสือร้ายเกิดความคิดว่าขืนอุบอยู่ในบ่อซึ่งไม่มีทางหนีคงไม่เข้าทีเสียแล้วจึงตะกายขึ้นจากบ่อ เจ้าหน้าที่จึงกลุ้มรุมกันช่วยจับ แต่เสือราดดิ้นสลัดลื่นหลุดวิ่งหนีไปได้เหมือนกับว่าตัวเขาลื่นอย่างปลาไหล เจ้าหน้าที่วิ่งไล่จนหอบหมดแรงไปตามกันก็หาทันไม่ เป็นอันว่าเสือราดหนีรอดตาจนไปได้อย่างลอยนวลเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง และนี่ก็ใช่ว่าเขามีคาถาอาคมขลังหรือพระเครื่องของขลังของเกจิอาจารย์อื่นใดติดตัวเลยนอกจากผ้าขาวม้าที่ชายข้างหนึ่งเจ้าพระคุณหลวงพ่อปานท่านเหยียบให้นั้นผืนเดียวเท่านั้น

    เมื่อรอดพ้นจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่คราวนั้นแล้ว เสือราดก็เตลิดหนีออกจากพระราชอาณาจักรไทย ไปตั้งหลักแหล่งทำมาหากินโดยกลับเนื้อกลับตัวเป็นสุจริตชนอยู่ในรัฐเคดาห์ ไทรบุรี สหพันธรัฐมลายู และการงานอาชีพก็เจริญรุ่งเรืองยังผลให้มีฐานะมั่งคั่ง เมื่อพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานมรณภาพ เขาเป็นคนหนึ่งในบรรดาชาวพุทธที่มาขอแบ่งอัฐิของพระคุณเจ้าหลวงพ่อไปบรรจุไว้ในสถูปที่สร้างขึ้น ณ วัดพุทธศาสนาที่ตำบลบากาบาตา ไทรบุรี ปัจจุบันตายไปแล้วเพราะความชรา โดยเฉพาะพระคุณเจ้าหลวงพ่อปานนั้นเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่เมื่อท่านมีชีวิตอยู่ ท่านมิได้สร้างพระเครื่องหรือเหรียญรูปเหมือนตัวท่านทิ้งไว้เลย แต่ก็ยังดีที่ในกาลต่อมาหลังจากพระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณอดีตเจ้าอาวาสวัดช้างไห้ ได้สร้างพระเครื่อง



    "หลวงพ่อทวด" ที่มีอภินิหารเลื่องลือขึ้นแล้ว ได้ติดต่อกับวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคุณเจ้าหลวงพ่อขออนุมัติสร้างขึ้นในรูปแบบรูปเหมือนตัวท่านด้วยเนื้อว่านเช่นเดียวกับที่สร้างหลวงพ่อทวด โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้ผู้มีศรัทธาปสาทะพกติดตัวคุ้มกันผองภัยคู่กับหลวงพ่อทวด เมื่อพระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณติดต่อกับวิญญาณของหลวงพ่อปานทางวิปัสสนาแล้ว ก็ได้รับอนุญาต จึงได้สร้างขึ้นในนาม "หลวงพ่อปานวัดนาประดู่"ในการสร้างจะนอกจากจะหาว่านมาทำผงขึ้นใหม่แล้ว ได้นำผงที่สร้าง "หลวงพ่อทวด" ที่เหลืออยู่ผสมด้วย เมื่อทำเสร็จตามพิธีกรรมให้มีอภินิหารศักดิ์สิทธิ์แล้ว ได้นำออกแจกจ่าย


    ผู้ที่ได้รับแจกไปบู่ชาต่างได้ประจักษ์อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์กันทั้งนั้น ทั้งในทางอำนวยลาภผลและคุ้มครองให้รอดพ้นอันตรายจากมนุษย์ด้วยกันและอุปัทวเหตุ เช่นรายหนึ่งซึ่งพระมหาประพันธ์ เจ้าอาวาสวัดบางแก้ว จังหวัดพัทลุง ได้เล่าให้พระคุณเจ้าพระครูวิสัยโสภณฟังว่า หลังจากได้พระหลวงพ่อปานไป ๓ องค์ ได้มอบให้นายจิตร บ้านจงแก ไปองค์หนึ่งเพื่อบูชาพกติดตัว หลังจากนั้นต่อมาไม่ช้าไม่นาน นายจิตรออกจากบ้านไปธุระในตอนพลบค่ำ ขากลับในระหว่างทางที่เดินมา ถูกลอบยิง กระสุนปืนถูกที่หน้าอกอย่างจัง เสียงปืนและความเจ็บที่หน้าอกนายจิตรตกใจสุดขีดยกมือขึ้นกุมอกวิ่งไปหาเพื่อนคนหนึ่งซึ่งบ้านอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อพบเพื่อนก็ละล่ำละลักบอกว่าถูกยิงที่อก เพื่อนจึงขอดู ก็เห็นแต่เสื้อตรงหน้าอกมีรอยทะลุ แต่หน้าอกของนายจิตรมีเพียงรอยช้ำ ๆ แดง ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่ามหัศจรรย์ยิ่ง เพราะตรงที่ถูกกระสุนปืนนั้นตามธรรมดาจะต้องล้มคว่ำขาดใจคาที่ เพื่อนจึงถามว่ามีของดีอะไร นายจิตรจึงบอกว่า "มีหลวงพ่อปานวัดนาประดู่องค์เดียวเท่านั้น" ได้มาจากท่านมหาประพันธ์เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง


    [​IMG] [​IMG]
     
  18. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]


    [​IMG]



    ;aa44 สวัสดีครับพี่วรรณ พี่ปู คุณกันต์ คุณวุฒิ คุณเอ็ม คุณแพนและทุกๆ ท่าน
     
  19. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448


    [​IMG]
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448


    จองครับ :cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...