ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    มีใครเคยท่องมั้ยจ๊ะ ท่องแล้วเป็นยังไงกันบ้าง

    วันนี้มีญาติธรรมจากยุคอโยธยา เป็นคนกรุงเทพ มาพร้อมญาติธรรมอีก สามคน
    จึงเปิดดูดวงให้เป็นกรณีพิเศษ สี่ท่าน วันนี้เลยรู้สึกอ่อนเพลีย ตกบ่ายสามเลยไปดู
    ไม้กรอบหน้าต่างที่เป็นไม้ตะเคียนตกน้ำมันต่อ ดูที่ทางทำศาล เลยมีน้องเจ้าของรีสอร์ทอยากดูดวง
    เลยยกให้เป็นกรณีพิเศษ กลับบ้านมา เลยปวดหัวนิดหน่อย
    และได้กลิ่นเหม็นอบอวลตลอด เลยรู้สึกว่า ไม่ควรดูวันพระจริงๆ เหมือนพอดูแล้ว
    จิตมันเปิด มันทำให้รู้สึกพวกวิญญานติดตามมาเยอะ

    ป.ล.วันนี้ขอตัวพักผ่อนก่อนนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2015
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ก็แอบคิดนะว่า เรื่องความเจ้าชู้ของสิงห์ กับเรื่องคาถาอาคม กับเรื่องความรัก
    แอบคิดว่า มีคนเล่าต่อๆกันมา แล้วกลายเป็นตำนาน นิทานพื้นบ้าน จนเป็น
    ขุนแผน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2015
  3. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    ผมชอบคาถานะ อ่านดูบทนี้แล้ว ที่ขีดเส้นใต้ สีแดงนั้นถูกรึเปล่า กำลังสงสัยเหมือนกันว่า ถ้าคำผิดแล้วการสวดหรือท่องจะยังผลเหมือนเดิมรึเปล่า
     
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ที่ขีดเส้นใต้ พิมพ์ผิดค่ะ ขออภัย และขอบคุณช่วยแนะนำ ^-^

    มีเรื่องการท่องคาถามาเล่าให้ฟัง คาถาจะศักดิ์สิทธิ์เพราะฤทธิ์ทางใจ

    สำหรับคนชอบท่องชอบสวดพระคาถา ถ้ามีโอกาสได้ไกล้ครูบาอาจารย์สายฤทธิ์
    เวลาท่านท่องพระคาถา ที่ไม่ใช่สวดมนต์ทำวัตรเย็นนะคะ เช่น นะโมพุทธายะ
    แค่สี่คำนี้ หรือ มะ อะ อุ อุ อะมะ หรือ นะ มะ พะ ธะ ถ้าท่านมีความศักดิ์สิทธิ์
    ก็จะรับรู้ได้ถึงพลัง

    ส่วนคาถาปลุกธาตุ ตอนท่อง รับรู้ได้ถึงธาตุทั้ง 4 และวิญญานธาตุ

    เช่น ท่อง สิทธิ ปัฐวี ภะลาเตชา อิทธา ธาตุดิน ของข้ามีกำลังเดชฤทธิ์
    ท่องแล้วกำหนดจิตไปที่ปฐวี เวลาท่องคาถา จารุจะไม่เหมือนคนอื่นอย่างหนึ่ง
    คือ ปากว่า สิทธิ ปัฐวี ภะลาเตชา อิทธา ธาตุดิน ของข้ามีกำลังเดชฤทธิ์
    จิตก็ว่า สิทธิ ปัฐวี ภะลาเตชา อิทธา ธาตุดิน ของข้ามีกำลังเดชฤทธิ์
    และจิตอีกหลายตัวก็ว่า ปฐวี กสิณัง และรับรู้ได้ถึง ปฐวีที่อยู่ในตัว แยกกับ น้ำ ลม ไฟ
    และรู้ถึงจิตมากมายที่ไปเกาะอยู่ที่ปฐวีธาติในตัว รวมมาให้ไว้ระดับลิ้นปี่
    (เหมือนมีหลายคนพูดพร้อมกันในเวลาเดียว )

    ทำเช่นนี้ จนครบสี่ธาตุ ดวงสีขาวกลางกายจะมี พลังงานมาก และแน่น
    จนมาจบที่ วิญญานธาตุ แต่วิญญานธาตุมักไม่รวมกับธาตุทั้งสี่ ที่รวมกันอยู่
    แล้วเป็นดวงสีขาวขนาดใหญ่ มักเกิดดวงสีขาวลูกเท่าลูกปิงปอง ลอยเหนือดวง
    สีขาวของธาตุทั้ง 4

    ป.ล. มีต่อ รอคนมาเสนอแนะ

    ป.ล.2 รู้ยังเจ้าของกระทู้ขี้โม้

    ป.ล.3 ท่องแล้วเดินธาตุไม่เป็น อาจมีลมปรานแตกซ่าน แบบในหนังจีน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2015
  5. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314
    พูดถึงชายขุดดำแล้วเราอยากเล่าความฝันของเราบ้างค่ะ

    เราเคยฝันว่ามีชายชุดดำ 2 กลุ่มพยายามจะจับตัวเราให้ได้

    แต่มีกลุ่มหนึ่งที่จับเราได้ เราก็ถามว่าจับเรามาทำไม

    พวกเขาคุกเข่าแล้วขอร้องเราบอกว่าอยากให้เราใช้พลังที่เรามีเพื่อช่วยพวกเขาได้ไหม

    เราก็ถามว่าเรามีพลังอะไรหรอ เขาบอกว่า ท่านมีพลังของวาจาสิทธิ์

    ในฝันเรางงมาก แต่เราก็พยายามหาทางหนีออกจากกลุ่มพวกเขาจนได้

    สุดท้ายเราก็ถูกพวกเขาตามล่าเราทั้ง 2 กลุ่ม แล้วเราก็ตื่น

    ปล. เราเองก็เป็นนักฝันเหมือนกัน ชอบฝันอะไรแปลกๆ บ่อย แต่เราไม่มีพลังอะไรหรอก เป็นแค่คนธรรมดาจ้า
     
  6. Happy_Me

    Happy_Me เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +314
    เป็นการทักทายค่ะ หากอีกฝ่ายไม่ทำมือแบบตอบก็เตรียมตัววิ่งได้ อิอิ
     
  7. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๒๑.๓๘

    มีขาใหญ่ ขอใช้สิทธิ์พาดพิงน่ะครับ
    ตามมาจากกระทู้ "ข้าคือ นักรบแสง.."
    หน้า ๑๕ กระทู้เบอร์ ๒๘๙ ตั้งแต่ 24-07-2012, 03:03 PM
    ข้าคือ นักรบแสง...ผู้โรยแรง แสงใกล้สิ้น เพียงหวัง ใครได้ยิน แสงใกล้สิ้น ส่งเสียงมา... - หน้า 15

    ขออภัยถ้าไม่เข้าแก๊ป นะ



    ไม่รู้ว่าโดนบังคับ ขู่เข็ญ ขอร้อง หรือว่าสั่งนะ มันงงงง
    แต่ก็ต้องพามาจนได้ เฮ้อ...จะมีใครเข้าใจตูไม๊เนี่ย...

    ดูจากความในกลอนมนตรา ชุดนี้มีสามบท
    น่าจะเป็นเรื่องของแม่กะลูกเล็กๆ ล่ะมั้ง นะ เนอะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / พลทหารรักษาพระองค์

    .[.2/COLOR]
     
  8. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    อ้าว...กำลังจะท่องอยู่พอดี เผอิญมีคาถาอื่นให้ท่องก่อน เลยยังไม่ได้ท่อง มี ปล. ลม
    ปราณแตกซ่านด้วย ถ้าท่องแล้วเห็นท่าไม่ดีหยุดแล้วจะกลับคืนสภาพเดิมไหม หรือว่า
    ต้องหาผู้เชียวชาญเท่านั้น
     
  9. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๒๑.๕๓

    เราก็ไม่ค่อยชอบท่องคาถาอาคมหรอกนะ ชอบแต่กลอนมนตรา
    แต่เมื่อขอมา ก็จัดให้ เมื่อกี้ลองท่องตามดูซักนิด ปรากฏว่า

    ทีแรกท่องแต่ปะฐะวี บรรทัดเดียว รอบแรกรอบสองยังเฉยๆ
    เลยลองกำหนดจิตเข้าในแล้วลงลึก ปลุกปราณออกมาพร้อมกัน ตอนท่อง
    ก็รู้สึกได้ทันทีนะ ว่าซู่ซ่าทันใด เริ่มจากแถวต้นคอ ขึ้นบนก่อน แล้วลงล่าง
    เลือดลม ลมปราณ หรือพลังงานอะไรซักอย่างแหละ ตอบสนองได้ดี

    ลองแค่พักเดียว เพื่อจับอาการ ลักษณะของพลัง
    แล้วเปลี่ยนไปบรรทัดที่สอง ทำพร้อมปราณเหมือนกัน
    ผลก็คล้ายๆ กัน แต่รายละเอียดของพลังงานต่างกันไป เล็กน้อย พอสังเกตุ
    อาจจะเป็นว่า พลังงานแต่ละชนิด ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ให้ผลต่างกัน
    รู้สึกแตกต่างกันไป แต่จุดกำเนิด การวิ่งวน แผ่ซ่าน หรือขยาย คล้ายๆ กัน

    ลองดูแค่สองบรรทัดเองอ่ะ เพื่อยืนยันผลให้ละกันนะ นะ เนอะ
    แต่ไม่ท่องหรอก ไม่ชอบ กลัวเก่ง ๕๕๕

    อืม...แต่พลังงานธาตุแต่ละชนิด ให้สัมผัสต่างกันจริงนะ ใครเป็นป่าว
    อย่างเราเนี่ย เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ได้ทดลองรับพลังธาตุดิน แบบใหม่
    แบบว่า ตอนนั่งสมาธิอยู่ริมคลองชลนะ ก็นึกถึงตอนฝึกวิชาเก่าๆ

    ตั้งชื่อว่า วิชา "เชื่อมกายากับฟ้าดิน" ได้มาจากเต้บต้นไม้ล่ะมั้ง นะ
    ได้มาตอนฝึกอยู่ที่สวนโมกข์ เมื่อยี่สิบปีที่แล้วโน่นแน่ะ
    มีรายละเอียดอยู่ในตำไม่นาน ของนักรบแสง อยากรู้ไปค้นเอา

    (เพิ่มตอนอ่านทวน) อืม..เอากลอนมนตราแสดงเคล็ดวิชามาฝากละกัน ว่า

    ..คือรากงอก ออกสองขา แทรกพสุธา อันไพศาล
    ศรีษะนั้น พุ่งทยาน เหมือนไม้บาน มาพันปี
    กายจิต เปิดให้หมด ให้หมดจด หมดราคี
    ธรรมชาติ ย่อมยินดี ไหลมาที่ กายจิตเรา

    กลอนมนตรานี้ อยู่หน้าแรกของนักรบแสงน่ะนะ
    มีใครมาช่วยเปิดมิติให้จดจำได้ สองโพสท์แน่ะ กว่าจะได้ผล หึหึหึ



    แต่คราวนี้มาแบบใหม่ จากท่านั่ง เรายื่นมือขวาออกไปนะ
    แล้วหลับตา นึกให้มือเรากลายเป็นรากไม้ แขนยืดยาวทะลวงดินลงไป
    นิ้วทั้งห้า กลายเป็นรากไม้ขนาดใหญ่ แตกแขนงออกไป ใต้ดิน ลึกเชียวล่ะ

    แล้วดูดซับพลังปราณ จากดินเข้ามาสู่ตัว เข้ามาเป็นระลอกๆ เป็นจังหวะ
    จากในจิตก็รับรู้ได้นะ ว่ามีพลังงานวิ่งเข้าตัว เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ พักนึงก็เต็มแล้ว

    พอทำเสร็จ ก็เอามือกลับมาวางบนเข่าเหมือนเดิม
    ลืมตา แล้วทบทวนดู ว่าเมื่อกี้ตูทำอะไรลงไปวะ ๕๕๕
    นั่งนึกไปมา เลยลองใหม่ดิ๊ คราวนี้มือซ้าย ยื่นลงไปทางคลอง
    แล้วลองดูดพลังงานจากน้ำเข้ามาบ้าง ก็ได้ผลนะ มีอะไรไหลเข้ามาได้

    ลองผนึกจิตจับรายละเอียดแล้วโยสิโสดู ก็พบว่ามีความแตกต่างกัน
    ระหว่างพลังงานทั้งสองแบบด้วย อืม..ขี้เกียจนึกแล้ว ว่าต่างกันยังไง
    วันหลังก็ลองอีก ทั้งลม และไฟ ทั้งหมดมีรสชาติแตกต่างกัน นิ ๕๕๕

    คำตอบจะโดนใจแม่หมอไม๊น๊า เรามันชอบออกทะเลซะด้วยสิ หึหึหึ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  10. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๒๒.๓๐

    ขออีกนิดละกัน สงสัยวันนี้แม่หมออู้งานแน่เลย ๕๕๕ ลุยโลด

    เรื่องวิชาของสิงห์ หรือขุนแผนเนี่ยนะ เค้ามีวิชาเรียกลมด้วยไม๊น๊า
    แบบคล้ายๆ ว่า นั่งเรือใบใหญ่ๆ จะไปญี่ปุ่นรึไงเนี่ย
    (อันนี้คงเป็นตำนาน ของชาวหมู่บ้านในนิทานน่ะนะ อย่าคิดว่าจริงเชียว)

    แล้วลมไม่มี เรือใบก็ไม่แล่น เค้าเลยขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ
    บริกรรมคาถา แล้วเอามีดอาคมปักลงดาดฟ้าเรือ แล้วลมก็มาอย่างแรงเลย ขอบอก
    พาเค้าไปญี่ปุ่นอย่างไว ได้ไปลุยแหลกในปราสาทด้วยนะ ตำนานว่างั้นอ่ะ
    ได้โชว์วิชาดาบสองมือด้วย โดนธนูรุมยิงรอบทิศ แต่สองดาบปัดได้หมดเลยอ่ะ เก่งชิบ

    ดาบก็ฟันไม่เข้า ไอ้ยุ่นงงตาเหลือก สุดท้ายช่วยขาใหญ่ออกมาจากปราสาทได้
    เล่าแค่นี้ดีกว่า อายจัง แมงโม้บินว่อนแล้ว ๕๕๕

    วิชาเรียกลมแบบพัดพาเรือใบใหญ่ๆ แล่นไปได้เนี่ยนะ
    แม่หมอคิดว่าเป็นไปได้ไม๊ สมัยโน้นน่ะนะ เราล่ะเชื่อไม่ลงเลย ล่ะ หึหึหึ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ชาวหมู่บ้านในนิทาน

    .
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    หลวงพ่อ จ เนี่ยกำลังจิตระดับสร้างโอปาติกะมีฤิทธิ์ได้นะนั่น พอมีประสบการณ์ตรง
    เมื่อ ๓ ปีมาก่อน..และ คาถาแบบที่นำมาลงจะเป็นแบบที่ดึงให้ข้าม
    ไปเล่นโหมดวิญญานธาตุได้อยู่แต่ ต้องข้ามธาตุทั้ง ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟให้ได้ก่อน
    แต่อาจจะขาดเรื่องพลังงานตรงจากต่างโดยตรงในแต่ละธาตุ
    ไม่ว่าจะเป็น ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในระดับใช้งานได้นะ พูดง่ายๆใช้
    ธาตุทั้ง ๔ ในลักษณะพลังงานไม่ได้แต่ว่าไม่ใช่ประเด็นหลัก..
    . และการบริกรรมเพื่อให้ข้ามไปโหมดวิญญานธาตุ
    ก็ต้องบริกรรมให้สมดุลย์กับธาตุทั้ง ๔ ตามร่างกายด้วย มิฉนั้นจะเกิดอาการปั่นป่วนส่ง
    ผลกระทบกับร่างกายไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง เด่วใจร้อน ตัวร้อน ปวดหัว ขี้รำคาญ
    หงุดหงิดง่าย ฯลฯ และแม้ว่าจะบริกรรมตามจำนวนธาตุแล้ว

    ก็ต้องมาบริกรรมพุทโธแบบลมหายใจลึกถึงท้อง
    แต่ไม่ได้ตามลมและทำความรู้สึกรับรู้ที่ปลายจมูก อีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า ๒๐ ครั้ง
    เพื่อปรับสมดุลย์ร่างกาย
    ให้เป็นปกติ ไม่งั้นก็จะป่วงๆได้อีกเช่น ร้อนบ้าง แน่นบ้าง อึดอัด หงุดหงิดเป็นต้น
    เกี่ยวกับธาตุไฟให้ภาวนา ๔ รอบ เกี่ยวกับธาตุน้ำให้ภาวนา ๑๒ รอบ เกี่ยวกับ
    ธาตุลมให้ภาวนา ๖ รอบ เกี่ยวกับธาตุดินให้ภาวนา ๒๐ ครั้งและภาวนาแบบไม่ยึด
    ลมหายใจด้วย เช่นถ้าใจร้อน หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น ทำอะไรได้ไม่นาน
    ความอดทนต่ำ ก็ให้ภาวนาช้าๆ ถ้าขี้เกียจ ขี้เมื่อย ขี้บ่น
    ขี้อิจฉา ขี้นินทา สารพัดขี้ที่ไม่ดีทั้งหลายให้ภาวนาเร็วๆ..

    ถ้าไม่ทำอย่างนี้ตัวจิตมันจะไม่คลายและจะเกาะเป็นกลมๆก้อนๆตรงลิ้นปี่นั่นหละ..
    หรือตรงไหนก็แล้วแต่ๆว่ามันจะกลม มันจะเข้าไปวิญญานธาตุเพื่อเชื่อมกับอากาศ
    ธาตุไม่ได้ พอรักษาสมดุลย์ได้ บวกกับจิตที่มีเมตตาเป็นทุนจากภายในไปภายนอก
    ตัวธาตุทั้ง ๔ มันจะเข้าไปรวมกับอากาศธาตุภายนอก เริ่มเข้าสู่โหมดวิญญานธาตุได้
    มันจะเห็นเป็นคล้ายๆเส้นสายพลังงานนั้นหละ แต่เป็นเส้นสายพลังงานที่ออกจาก
    ทุกๆส่วนของร่างกายขึ้นไปเชื่อมข้างบน ถ้ามีสัมผัสภายในดีก็จะพอเห็นเป็นภาพได้
    หรือเห็นเป็นสีได้ แต่ไม่ควรเน้น ควรดูที่สีของพลังงานที่ขึ้นจะต้องใสๆ และขึ้นเป็นเส้นตรง

    ถ้ายังสีดำหรือสีขาวอยู่แสดงว่าร่างกายเราตรงบริเวณนั้นมั่นยังพร่อง ซึ่งมันกำลัง
    ซ่อมแซมตัวมันเองอยู่ให้กลับคืนในสภาวะปัจจุบัน(แต่สร้างใหม่ไม่ได้นะ แต่เอาส่วน
    เกินต่างๆที่ทำให้เราเจ็บป่วยออกได้) แล้วค่อยมาพัฒนาเรื่องความหนาแน่นของ
    ของพลังต่อไป ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จะทำให้ก้าวสู่ระดับจิตธาตุได้.และก่อนนั่งควร
    สวดมนต์ทั่วไปก่อน ถ้าชุมนุมเทวดาได้จะดี หรืออฐิษฐานอุทิศบุญไว้ก่อนให้ท่านใด
    ก็ได้ และหลังนั่งก็อุทิศส่วนกุศลซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ทำแบบนี้ให้ได้ก่อน พอจิตเริ่มเข้า
    โหมดวิญญานธาตุได้ในกำลังสมาธิไม่มาก เด่วมันจะมีพัฒนาการไปอรูปฌาน
    แบบอื่นๆได้เองอัตโนมัติ

    ถ้าเกิดอาการธาตุมันเร่งไปเองของมัน หรือสะดุ้ง
    แสดงว่า บารมียังไม่พอ เช่น ศีลอ่อนไม่มั่นคง ภาวนามาน้อยไป ทำบุญทำทาน
    หรือสร้างกุศลมาไม่พอ
    ให้สร้างความดีให้มากขึ้น ตลอดจนอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆอาการจะหายเอง...
    หรือถ้าไม่มีเส้นสายพลังงานเชื่อมออกจากทั้งตัวเรา
    ไปข้างนอกซักทีแสดงว่าเมตตาที่ออกจากภายใน
    จริงๆของเรายังไม่ผ่านเกณฑ์ เป็นเพียงเมตตาที่ปากหรือตามตำรา.

    ปล.ประมาณนี้ ที่เล่าให้ฟังยังเป็นแบบหยาบๆนะ.และเป็นพื้นฐานมากๆ
    .ก็สุดแล้วแต่จะเข้าใจนะครับ
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ท่องได้ค่ะ ค่อยๆปลุก แต่บอกไว้สำหรับพวกเดินพลัง
    อย่าใส่มากไป เดี๋ยวตีกัน แต่คงไม่ทำให้ถึงกับเดี้ยงค่ะ
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ป.ล.แม่หมอไม่ได้อู้ แต่เมื่อวานคุยกับคนที่มาดู จนถึงเกือบสี่ทุ่ม เลยเพลียจ๊ะ
    ช่วงนี้ตื่นเช้าด้วย เด็กเปิดเทอมแล้ว *-*
     
  14. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณค่ะ (smile) อธิบายได้ดีมาก
    ตอนแรกไม่คิดจะท่อง กลัวจะเพิ่มความป่วงให้ตัวเอง 555
    และเราเดินพลังไม่เป็น จารุให้ระวังเฉพาะคนที่เดินพลังเป็น ท่องแล้วเป็นไง จะมาเล่าสู่กันฟังน๊าาา
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตรงคำว่า สวดมนต์ถ้าใช้ตัวอ่านอัตโนมัติ มันจะออกเสียงว่า
    สวด มิน ลิ ลิท ประมาณนี้ไม่รู้ว่า wawana จะพอเข้าใจที่สื่อไหม..
     
  16. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    แฮ่ๆ ต้องยอมรับอย่างสง่างาม ว่า ไม่เข้าใจอะค่าา ;k01
    ปัญญาน้อยค่อยศึกษา...พยายามฟังมาก อ่านให้มาก เสียตรงทำน้อย...อิอิ

    คุณ nopphakan กระซิบบอกชัดๆ ได้ไม๊ ค๊าาา dencee
     
  17. MKKung

    MKKung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +20
    ตื่นตันใจ กว่าจะจำระหัสได้ อยากจะทำบุญด้วย
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    วันนี้ไม่มีคิวดูดวง กลับอโยธยากันนะจ๊ะ
     
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์นั้น สับสนอลหม่านกับความคิดมากมายในใจ
    คิดถึงอาจารย์ ขรัวอินทร์ คิดถึงใบหน้าเหี่ยวย่นแต่ดูมีเมตตา
    คิดถึงเสียงสาธยายมนต์อันเข้มขลัง คิดถึงเรื่องราวตอนที่อยู่ในถ้ำ
    คิดถึงวิชามากมายอันทำให้มีลมหายใจอยู่ ณ ขณะนี้
    คิดถึงคำสัญญา ชีวิตและเลือดเนื้อถวายต่อแผ่นดิน

    คิดถึงความหลัง บนเรือนเล็กในบ้านพระยา คิดถึงท่านแม่
    คิดถึงพวงมาลัยที่ท่านแม่ร้อยถวายท่านพ่อทุกคืน ที่วางบนพาน
    บนหัวเตียงของสิงห์ คิดถึงมืออันอ่อนนุ่ม คิดถึงความยากลำบาก
    ของท่านแม่กว่าจะรักษาชีวิตของสิงห์ไว้ได้

    คิดถึงความเย็นชาของบิดาเลี้ยง และคิดถึงแม่เอื้อม.....
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    มือที่กำดาบทองนั้น รู้สึกถึงความเย็นของโลหะที่อยู่ในมือ
    แต่ที่รู้สึกเย็นกว่าดาบทองนั้น คือ หัวใจของสิงห์ สิงห์นั้นรู้สึกเจ็บปวดใจ
    จนเหมือนไม่อยากมีหัวใจอีกเลย น้ำตาที่ไหลออกจากตานั้นเหือดแห้งลง
    น้ำตานั้นเหมือนมันจะไหลย้อนไปท่วมอยู่ในใจ

    สิงห์รู้สึกอยากหลบหนีผู้คนที่รายรอบตัวเอง ไม่อยากจะพบกิเลสในใจมนุษย์
    อีกเลย นี่หรือสิ่งที่พ่อคนหนึ่งจะดูแลลูกได้ แม้เป็นถึงพ่อหลวงแห่งนครใหญ่
    มีไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ช้าง ม้า วัว ควาย แต่ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องลูกแลเมียได้

    มันเป็นเรื่องที่สิงห์ไม่เข้าใจ แต่ก็สัญญากับใจตนเอง จะไม่ทำเยี่ยงนี้เป็นเด็ดขาด

    ความเงียบของสิงห์นั้น น่าเกรงขามยิ่งนัก พ่อครูขาวลอบมองสิงห์ที่นั่งหลับตา
    ราวกับคนตกภวังค์ สิงห์จมดิ่งสู่นรกในใจ ขุมที่ลึกที่สุด สำหรับเด็กหนุ่มอายุ
    สิบแปดย่างสิบเก้า ครั้งที่ถูกบิดาเลี้ยงไล่ออกจากบ้านอย่างไร้เยื่อไย ที่รู้สึกทุกข์ราวกับ
    โลกจะแตก ราวกับไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์ ยังไม่เท่ากับวันนี้ ที่รู้ถึงความจริง
    เกิดเป็นคนจรยังดีกว่าเกิดเป็นเลือดสีน้ำเงิน โลกนี้ไม่มีที่ให้สิงห์อยู่ อยู่เยี่ยงกา
    แต่เลือดในกายยังคงเป็นสีน้ำเงิน ยังตอกยังย้ำทุกวิถีแห่งชีวิต จะไปอยู่อย่างหงษ์
    วันนี้ก็ไม่มีแม้แต่ปีก จะบินขึ้นไปบนฟ้า สิงห์รู้สึกโดดเดี่ยวและเดียวดาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...