ไปเจอรักแรกพบกับหญิงคนหนึ่ง ทั้งๆที่เรากำลังจะแต่งงาน

ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือเป็นกรรม ก่อนที่ผมจะแต่งงานกับแฟนที่คบกันมาได้แปดปีซักประมาณหนึ่งเดือน ที่ทำงานผม ได้มีพนักงานหญิงคนใหม่เข้ามา ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไม ผมถึงรู้สึกถูกชะตากับเค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้สวยเริ่ดแบบดารา แถมยังสวยน้อยกว่าหลายๆคนที่ผมรู้จักซะอีก แต่กลับรู้สึกรักตั้งแต่แรกเห็น พอได้รู้จัก พอได้ร่วมงาน ก็รู้สึกว่าคนนี้ใช่เลย และดูท่าทางเค้าก็มีใจเช่นกัน และเมื่อมาถึงวันที่ผมต้องแจกการ์ดแต่งงานให้กับเขา ผมรู้สึกแย่มาก และเค้าเองก็คงรู้สึกแย่ช่นเดียวกัน ถ้าจะถามว่าผมรักภรรยาผมไหม ตอบได้เลยว่า ผมเคยคิดว่าความรู้สึกที่มีให้ภรรยาคือความรัก แต่พอเจอน้องคนนี้ ผมถึงได้รู้ว่า กับภรรยามันไม่ใช่ความรัก มันเป็นเพียงแค่ความชอบและความผูกพันที่คบกันมานาน(เมื่อก่อนเราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกัน แต่เพื่อนๆจับคู่ให้และก็ล้อว่าเราเป็นเนื้อคู่กัน เพียงแค่หน้าตาเราคล้ายกัน จนเราเลยตามเลยจนตกกระไดพลอยโจน) แต่ถ้าจะยกเลิกงานแต่ง (cry) ผมก็ไม่เลวพอที่จะทำแบบนั้น จากวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ผ่านมาสิบปีแล้ว ความรู้สึกที่ผมมีต่อน้องเค้ายังไม่จางหาย เพราะเรายังคงทำงานที่เดียวกัน และเค้าก็ยังครองโสด แต่เราก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยนอกจากแค่เพื่อนร่วมงาน แต่ถ้าจะให้ผมหย่ากับภรรยา เพื่อมาคบกับเค้า ผมก็ทำไม่ได้เช่นกัน เพราะภรรยาผมไม่ได้ทำอะไรผิด สรุปว่า ผมก็ต้องพยายามฝืนใจทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีต่อไป ความสุขของตัวเองเอาไว้ทีหลัง ความสุขของคนในครอบครัวต้องมาก่อน เฮ้อ...ชาติที่แล้วไม่รู้ทำกรรมอะไรมาหนอ?(ชาตินี้ไม่เคยทำใครช้ำใจเลยจริงๆ)

 

(ฮือๆๆ) เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ
สถาณการณ์แบบนี้มันทรมาน เนอะ
แต่ก็อยากจะบอกว่าพี่ทำดีแล้วค่ะ คิดถึงครอบครัวก่อน
น่านับถือๆ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
(ไม่รู้ว่าจะเข้าใจความรู้สึกมากไปรึเปล่า แต่ว่าพออ่านแล้วจะร้องไห้อ่ะ)

ไม่สามารถตอบคำถามพี่ได้เลยอ่ะค่ะ(เพราะไม่รู้) คงได้แต่ให้กำลังใจ
จะเป็นเพราะกรรมหรือไม่ ถ้าวันนี้เราทำดี อนาคตต้องดีแน่นอน เนอะๆ ว่ามะ
สู้ๆน๊า ^_^

 

ภพชาติเป็นของหาต้นไม่ได้ หาปลายไม่เจอ

เป็นธรรมดาถ้าเราเคยมีความรักและเกื้อกูลกับใครบางคนมาก่อนหลายๆชาติ เวลาพบกันความรู้สึกดีๆในครั้งก่อนจะกลับมาแบบที่ เราเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ?

เพราะเป็นไปได้ยากที่เราจะเกิดมาได้ครองคู่กับใครสักคนไปทุกชาติ บางทีเคยอธิษฐานว่าจะตามไปรักกันทุกชาติ แต่บางชาติกรรมไม่เอื้อให้ครองกันได้ ก็เป็นอย่างที่เป็นนี้แหละค่ะ นอกซะจากว่าเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ขั้นบารมีปลาย จึงจะเกิดมาเจอคู่บารมีแน่นอนจนตรัสรู้ แต่นั่นก็เป็นการคู่กันเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งมากกว่า

เราเองก็เคยพบคนที่เราไม่รู้จัก แต่ก็ห้ามความคิดถึงไม่ไหว จนต้องไปสืบหาจนเจอเขา และได้พูดคุยรู้จักกันมาแล้ว เขาเองก็มีทีท่าชอบเราเหมือนกัน แต่รู้ทีหลังว่า เขามีครอบครัวแล้ว เราเลยปลงและหลีกออกมาเพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง

ทำใจค่ะ แล้วก็ทำบุญ ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์จริงๆ

 

ผมเข้าใจคุณอย่างดี ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือเป็นกรรม ตอนนี้แต่งงานกับแฟนคนปัจจุบันซึ่งตอนนั้นผมเพิ่งอกหักใหม่ ๆ แล้วเธอเข้ามาพอดีในจังหวะนั้นผมต้องการใครซักคนคอยปลอบใจ
และอยู่เป็นเพื่อนกับผมไปตลอดชีวิตเลยและไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งในอนาคต
ผมจะมาพบกับผู้หญิงที่ผมรู้สึกดีทำให้ผมเข้าใจว่าความรักเป็นอย่างไร และและผู้หญิงคนนั้นก็มีใจให้ผมเช่นกัน ถ้าจะถามว่าผมรักภรรยาผมไหม ตอบได้เลยว่า ผมเคยคิดว่าความรู้สึกที่มีให้ภรรยาคือความรัก แต่พอเจอน้องคนนี้ ผมถึงได้รู้ว่ากับภรรยามันไม่ใช่ความรักมันเป็นเพียงแค่ความชอบและความผูกพัน
และเขาเข้ามาในจังหวะที่ผมเหงาพอดี ผมเหมือนกับคุณคือเราก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยนอกจากแค่เพื่อนร่วมงาน สรุปว่า ผมก็ต้องพยายามฝืนใจทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีต่อไป ผมเข้าใจคุณจริง ๆ นะ
เพราะผมไม่เคยเจอความรักแต่พอรักใครซักคนก็ไม่สมหวังไม่รู้ไปทำกรรมอะไรมา
เจ็บปวดมาก

 

เห็นใจจังเลยค่ะ...แต่ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรมนะคะ คิดดี ทำดี พูดดี อีกทั้งหมั่นทาน ศีล ภาวนา ทุกสิ่งอย่างน่าจะดีขึ้น...เป็นกำลังใจทุกท่านกับความรักทุกรูปแบบ

 

คงจะเป็นเวรเป็นกรรมกันมาก่อนนะครับ อย่าท้อแท้ไปนะครับ สู้ต่อ ทำความดีต่อ แล้วทุกอย่างจะดีเองนะครับ

คนที่เราว่ารัก คนที่เราว่าใช่ ซักวันนึงก็ต้องจากเราไป อย่าไปยึดมั่นถือมั่นกันเกินไป คนเราก็เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา

........................................
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

 

เหมือนเหตุการณ์ของก้อยที่ก้อยเพิ่งเจอมาเลยอะค่ะ คล้ายกันมากเลย เพียงแต่ต่างกับพี่ตรงที่ ก้อยยังไม่มีครอบครัว และเขาคนนั้นก็ไม่ได้มีใจให้ก้อย...
คงเป็นเพราะกรรมเวรมั้งคะพี่...
ที่พี่ทำอะ ดีที่สุดแล้วค่ะ เป็นการฝึกจิตอย่านึงด้วยนะ สู้ๆนะคะพี่ อย่าแพ้กิเลสนะ

 

ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ เขาเรียกอาการนี้ว่า สัญญากรรมสิ่งรอบข้างจะเอื้ออำนวยผลักด้นให้เราไปตามที่ใจเรียกร้อง ถ้าวันใดคุณใจอ่อนพลั้งไปก็จะเกิดการชดใช้กรรมเก่าและสร้างกรรมใหม่หมุนเวียนไป ถ้าต้องการหยุดต้องหักห้ามใจด้วยธรรมมะการมีศีล ฝึกนั่งสมาธิ สวดมนต์แผ่เมตตา แต่ก็ทรมานใจน่าดู จะทิ้งก็เสียดาย จะหมายก็หนักใจ ผมเคยเจออาการอย่างนี้มาแล้วและพลั้งไปแล้ว เลิกไปแล้ว และคิดได้แล้ว

 

คุณสามารถเกื้อกูลน้องผู้หญิงคนนั้นได้หลากหลายวิธีที่จะไม่ทำผิดศีล ไม่ว่าจะเกื้อกูลแบบพี่ชาย น้องสาว,เพื่อนร่วมงาน แต่อย่าที่จะพลั้งพลาดไปเกิดเลยเพราะนั่นหมายความถึงการผิดศีลข้อ 3 เลยทีเดียว

ทุกสิ่งในโลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความรักก็เป็นสิ่งไม่จีรังจริง ๆ ถึงจะมีความรักหวานชื่นในช่วงแรกเท่านั้น

 

ผมเข้าใจความรู้สึกนะครับ....ขอเป็นกำลังใจให้ด้วย

ถ้าพวกเรายังปรารถนาเวียนว่ายตายเกิดต่อไป ก็คงจะต้องมีโอกาสเผชิญเรื่องทุกข์ภัยในวัฏสงสาร ที่เจ็บปวดใจเช่นนี้อีกไม่มีจบสิ้น

ขอเชิญชวนท่านเจ้าของกระทู้และท่านที่มีประสบการณ์ความทุกข์ที่คล้ายคลึงกันมาร่วมปฏิบัติธรรมเพื่อมรรค ผล พระนิพพาน เพื่อให้เราท่าน เจ็บแบบนี้เป็นชาติสุดท้ายเทอญ

 

รักแรกพบเคยเกิดกับตัวเองเหมือนกัน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เหมือนกับเจอสิ่งที่เราตามหามานาน เหมือนได้เจอของรักที่ทำหาย เหมือนคนรู้จักที่จากกันไปแสนไกลแล้วได้กลับมาพบกันอีก ไม่ได้รักนะ แต่หลง หลงแบบหัวปักหัวปำเลย ถึงขนาดอธิษฐานขอตามไปทุกชาติ ไม่เป็นคู่กัน ก็ขอให้เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นใครก็ได้ขอให้ได้ใกล้ชิดกัน กลางคืนก็นอนไม่หลับ เห็นหน้าเขาลอยไปลอยมาคิดถึงใจจะขาด ตอนนี้ทำใจได้แล้ว กว่าจะทำใจได้เสียน้ำตาไปเป็นโอ่งเลยมั้ง

 

เพิ่มเติม

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ ผมก็พยายามที่จะตัดใจและปล่อยวาง แต่ก็เหมือนใช้กรรมไม่หมด คราใดที่กำลังจะตัดใจได้ ก็ต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องได้ใกล้ชิดกัน เช่น หัวหน้ามอบหมายให้ผมไปช่วย Support งานของน้องเค้า แต่ที่หนักที่สุด ที่แทบทำเอาเขื่อนกักเก็บน้ำ(กิเลส)พังทลายก็คือ ทางบริษัทส่งผมกับน้องเค้าไปทำงานที่ต่างประเทศด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ถึงแม้จะไม่ได้ไปด้วยกันตามลำพังสองคนก็ตาม แต่เราก็หาโอกาสไปเที่ยว,ไปดินเนอร์ ด้วยกันเพียงลำพังกันสองคนตลอดเวลา ก็คงเพราะเราตัดยังกิเลสกันไม่ได้ และมันเหมือนกับได้ปลดปล่อยความรู้สึก เพราะที่เมืองนอก เราไม่ต้องกลัวว่าจะไปเจอคนรู้จัก เราก็เลยเลือกที่จะไปด้วยกันเพียงสองคน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น เหตุการณ์นั้นก็เหมือนถ่านไฟที่กำลังจะมอด ถูกราดด้วยน้ำมัน และเหตุการณ์แบบนี้มันก็วนเวียนมาเรื่อยๆ เมื่อไหร่ที่เริ่มจะตัดใจได้ ก็ต้องมีเหตุให้ได้ร่วมงานกันอีกทุกทีไป ครั้นจะลาออกไปอยู่ที่อื่น ก็ลำบากพอควร เพราะผมทำงานอยู่ต่างจังหวัด การจะหางานประเภทเดียวกัน แต่คนละบริษัท นั่นหมายถึงว่า ผมอาจจะต้องย้ายมาทำงานในกรุงเทพหรือไปจังหวัดอื่นๆแทน ซึ่งก็ต้องย้ายบ้าน ย้ายครอบครัวตามไปด้วย อีกอย่างงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็แอ็ปปี้ดี เพื่อนร่วมงานเอย หัวหน้าเอยก็ดี หากไปอยู่ที่อื่น อาจจะไม่โชคดีแบบนี้ สงสัยคงต้องก้มหน้าใช้กรรมต่อไป

 

เห็นใจมากๆเลยค่ะ ความรักใช่ว่าจะตัดกันได้ง่ายๆนะคะ คุณกับน้องเขาคงเคยอธิฐานจิตร่วมกันมา แต่ดิฉันขอยกย่องและชื่นชมคุณจากใจจริงๆว่าคุณรู้จักยับยั้งชั่งใจได้ เก่งมากๆค่ะ ขอให้คุณทำให้ได้ตลอดรอดฝั่งนะคะ คิดถึงลูกและภรรยาที่บ้านให้มากๆ คิดสะว่าอีกไม่นานเราก็คงต้องจากโลกนี้ไป ตั้งใจสั่งสมบารมีให้เต็มที่ดีที่สุด คุณก็จะได้ชื่นชมและภูมิใจกับผลบุญนี้หลังความตายอย่างแน่นอนค่ะ ว่าคุณยับยั้งกิเลสในใจได้อย่างยอดเยี่ยม

 

ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมและสัตว์โลกย่อมเข้าข้างตนเองเสมอ
ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นธรรมชาติถ้าเข้าใจธรรมชาติแล้วจะเข้าใจตนเอง
ศิล สมาธิ ปัญญา
ศิล แปลว่า ปกติ,สมาธิ แปลว่า ความตั้งใจมั่น,ปัญญา แปลว่า รู้ตามเป็นจริง
ทุกอย่างเกิดจากใจต้องแก้ด้วยใจ ลองทำใจให้น้อมรับ(สาวคนใหม่ๆเสมอ)สภาวะภายนอกเข้ามาสู่ใจเรา เราจึงจะรู้ว่าใจเราเป็นอย่างนี้หนอดิ้นรนไม่สิ้นสุด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ต้องแก้ที่ปัจจัยทำให้เกิด แล้วจะพ้นซึ่งแห่งทุกข์ เห็นกระแสแห่งพระนิพพาน
ระมัดระวัง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะอายตนะทั้ง 5 นี้เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อยากพ้นทุกข์ให้ดูทีอายตนะทั้ง 5 รักษาให้เป็นปกติด้วย ศิล สมาธิ และ ปัญญา จึงจะล่วงทุกข์นี้ไปได้ สาธุ

 

อีกเหตุหนึ่งที่ทำให้ไขว้เขว

ผมน่ะ ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะรักษาชีวิตครอบครัวให้ดีที่สุด ให้นานที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไขว้เขวเกี่ยวกับอนาคตของผมก็คือหมอดูครับ ไม่ใช่แค่หมอดูที่ดูให้ผมเท่านั้น แต่หมอดูที่ดูให้ภรรยาผม,หมอดูที่ดูให้น้องคนนั้น ต่างก็ทำนายไปในทางตรงกัน เช่น ช่วงหลายเดือนก่อน ภรรยาผมเคยไปดูหมอที่มีชื่อเสียงในเรื่องการดูดวงจากชื่อและนามสกุล ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่หรอก แต่คำทำนายของหมอนี่สิ ทำเอาผมสะอึก จริงๆผมไม่ได้ไปดูหมอด้วยหรอก ภรรยาผมไปดูกับเพื่อน แล้วเอามาเล่าให้ฟัง หมอดูเค้าทำนายหลายๆอย่าง ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำนายถูกต้องทั้งสิ้น โดยเค้าทำนายว่า ชื่อและนามสกุลของผมไม่ค่อยดีนัก(แน่นอน นามสกุลของภรรยาด้วย เพราะนามสกุลเดียวกัน) เค้าบอกว่า ถ้าหากผมและภรรยาไม่เปลี่ยนนามสกุล ชีวิตครอบครัวจะมีปัญหาถึงขั้นหย่าร้าง เพราะตัวคุณสามี(หมายถึงผม)จะไปหลงรักผู้หญิงคนอื่นอย่างโงหัวไม่ขึ้น แน่นอนว่าภรรยาผมไม่เคยระแคะระคายเรื่องนี้ เค้าจึงไม่เชื่อ แต่ผมนี่สิ สะอึกไปเลย เหมือนมีคนเอามีดมาสะกิดแผล และก็ยังทายอีกหลายเรื่องที่ถูกต้อง เช่นพ่อของผม(ที่เป็นคนตั้งนามสกุลนี้) จะมีปัญหาเรื่องลูกๆจะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งก็ถูกอีก เพราะน้องชายของผมกลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว ส่วนตัวผม ตอนเด็กๆก็เคยแอบชอบคนเพศเดียวกัน แต่พอโตมา พฤติกรรมแบบนั้นก็ค่อยๆหายไป และเรื่องทางการเงิน การงานก็ทายถูกหมด แต่ผมก็ไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุลตามที่หมอดูแนะนำมา เพราะคิดว่า ชื่อและนามสกุล ไม่น่าจะมีอิทธิพลมากมายขนาดนั้น, ส่วนน้องเค้า ก็เคยไปดูหมอมากับเพื่อน(หมอดูคนละคนกับข้างบน) และบังเอิญผมไปได้ยินกลุ่มเพื่อนๆเค้าพูดกันว่า เนื้อคู่ของน้องคนนั้น จะเป็นคนที่ผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว จะเป็นคนที่มีลักษณะ.......ทำงานประเภท......ซึ่งก็ตรงกับลักษณะของผมอีก, ส่วนตัวผมเอง ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูหมอเท่าไหร่ แต่เวลาไปส่งเพื่อนหรือญาติ ก็จะถือโอกาสดูไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่หมอดูก็จะทำนายไปในทางตรงกัน คือผมจะได้แต่งงานอีกครั้ง และมีครอบครัวใหม่กับเนื้อคู่ที่แท้จริง ก็เพราะเหตุนี้แหล่ะครับ จึงทำให้ผมรู้สึกไขว้เขวกับอนาคตของตัวเองเหลือเกิน ก็คงต้องรอดูต่อไป ว่าระหว่างความตั้งใจของตัวเอง กับพรหมลิขิต อย่างไหนจะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเราที่แท้จริง

 

กฏแห่งกรรม คือ กฏที่จะแสดงผลของการกระทำ ที่รวมไปทั้ง กาย วาจา ใจ

เห็นใจเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายทุกท่าน ที่ต้องเดินทางฝ่าฟันกับกระแสแห่งกรรมและกิเลส

เข้าใจว่าคุณ RP รู้สึกทรมานใจกับความคิดรู้สึกแบบนี้ แต่ทั้งนี้ ความรู้สึกแบบนี้ก็เป็นเพียง ความรู้สึก ที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตลอดเวลา คือ มันไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน คิดพิจารณาให้ดีจะเห็นถึง ความฉลาดล้ำลึกของกิเลสที่ฉุดรั้งเราไว้

มองให้เห็นตัวมัน ละความมีตัวตนของเจ้ากิเลสนี้ให้ได้ คิดซะว่าคุณมีโอกาส ได้ปฏิบัติธรรม (ดีกว่ามาคิดว่า เราทรมาน)

พยายามทำดวงจิตของคุณให้สะอาด ยิ่งคิดเรื่องนี้คุณก็จะยิ่ง วนเวียนวกวน เหมือนพายเรือในอ่าง ตอนนี้ถือซะว่าเป็นโอกาสแก้ตัวในสิ่งที่เคยทำผิดในอดีต ทำให้ต้องทนทุกข์ อยู่กับสิ่งที่คิดว่าเป็นความรัก เคยพ่ายแพ้แล้วล้มลุกคลุกคลานมากี่ครั้งกี่หน (แพ้ใจ แพ้กิเลสตัวเอง)

สิ่งต่างๆที่เอยไปเชื่อว่าคุณเองก็คงจะพอรู้ เข้าใจดีอยู่แล้วหล่ะ ค่ะ เพียงอยากเขียนเตือนอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง เพราะบางข้อความบ่งบอกเหมือนจะแพ้ใจตัวเอง (เพราะหมอดูบอก เพราะพรหมลิขิต ฯลฯ ) ซึ่งน่ากลัววมากๆๆๆ เหลือเกิน (กลัวค่ะ ขอโทษนะค่ะ นึกถึงโทษของศีลข้อนี้แล้วกลัวมากกกๆๆๆค่ะ)

กรรมเก่าแม้ตามมาส่งผล แต่ก็สามารถจะเบี่ยงเบนเปลี่ยนแปลงได้ หากมั่นคงเข้มแข็งพอที่ ว่ายทวนกระแสกิเลสไป (ถึงตายก็ยอม แต่ไม่ยอมผิดศีล)

กรรมนี้มีแรงดึงดูดมหาศาล เอาใจช่วยให้คุณชนะใจตัวเองให้ได้ตลอดรอดฝั่ง จนกว่าจะพ้นกรรม

รัก หลง รัก เมตรา รักเจือด้วยอะไร รูปแบบความรักมีได้หลายแบบ หากรักและเมตราจริง เป็นรักบริสุทธิ์ ปราศจากความเห็นแก่ตัว คุณจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร ให้ได้ลงตัวเหมาะสม

สวดมนต์นั่งสมาธิ แผ่เมตราให้น้องให้ตัวคุณให้ภรรยาคุณมากๆ
(ในความรู้สึกส่วนตัว สภาพรักสามเส้าแบบนี้ ไม่น่าเป็นครั้งแรก) พยายามตัดกรรมตัดใจให้ได้นะค่ะ

 

ถึงจะสิ้น วิญญาณกี่ครั้ง
ฉันก็ยัง รักเธอฝังใจ
แม้จะสิ้น ดวงจันทร์ไฉไล
ไม่เป็นไร เพราะยังมีเธอ
ฟ้าจะมืด จะมัวช่างฟ้า
ขอให้มี สายตาหวานละเมอ
ถึงจะสิ้น แผ่นดินนะเธอ
ให้ได้เจอ ยิ้มเธอชื่นใจ
ไม่ได้ชิด ก็ขอเพียงได้ชม
ไม่ได้สม ไม่เห็นแคร์อะไร
ขอให้ได้รัก รัก รัก รัก รักเธอเข้าไว้
ไม่เช่นนั้น ใจฉัน ใจฉันคงหลุดลอย
ถึงโลกแตก แหลกราญสิบครั้ง
ฉันก็ยัง หวังใจรอคอย
แม้นจะสิ้น วิญญาณเลื่อนลอย
ก็จะคอย พบเธอชาติอื่นเอย

 

ที่ไดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์

_______________________________________________

ทาน ศีล สมาธิ

 

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">คุณ RPคะ
ปกติดิฉันจะแทบไม่ได้ตอบกระทู้เลยนะคะ แต่คราวนี้อดไม่ได้จริงๆค่ะ ต้องมาตอบ ไม่อยากให้คุณตัดสินใจผิดพลาดเหมือนดิฉัน

ก่อนอื่น ดิฉันต้องขอชมเชยคุณมากๆนะคะที่สามารถยับยั่งชั่งใจ ไม่ทุศีล เนี่ยแสดงว่า คุณมีรากบุญดี มารก็เลยมาผจญ มาทดสอบจิตใจคุณว่าคุณจะผ่านข้อสอบนี้ไปได้ไหม ถ้าหากผ่านไปได้ ก็คงจะปิดประตูนรกไปได้แน่ๆ

ก่อนอื่น ดิฉันอยากให้คุณตั้งสติให้มั่น ให้สัจจะสัญญาต่อหน้าหลวงพ่อที่ท่านนับถือว่า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ ที่มิเหม่เพียงใด เย้ายวนใจ ยั่วยุให้ละเมิดศีลเพียงใด คุณจะไม่ไม่ทางที่จะทุศีลทำให้ตัวคุณเอง เธอคนนั้นเอง ภรรยาของคุณเอง ลูกของคุณเองรับผลกรรม...นี้ไปด้วย แต่จะยอมเจ็บคนเดียว

นีน่าอยากให้คุณนึกถึงใจลูกคุณมากๆค่ะว่า ตอนนี้คุณอาจจะแค่ทรมานใจ แต่ถ้าคุณเลิกกะภรรยาไปอยู่กับเธอคนนั้น คุณจะทราบไหมคะว่า ลุกๆของคุณจะเจ็บปวดเพียงใด เสื่อมศรัทธาคุณขนาดไหน...จิตตก ขนาดไหนว่าทำไมพ่อที่เค้าเคารพถึงคุณธรรมเสื่อมขนาดนี้ คุณทำให้เค้าเกิดมาแล้ว ควรทำให้เค้าอบอุ่น มีความสุข นะคะ สงสารเค้าให้มากๆ นึกว่าที่คุณเกิดมามีครอบครัวพร้อมหน้ามีความสุขขนาดไหน ลูกควรจะได้เช่นนั้นบ้างนะคะ

ตกเย็นมา ก็ให้เล่นกะลุก หรือ ตอนนอนก็เข้าไปห่มผ้าให้ลูก นอนดูเค้าหลับ ใจคุณจะได้ซึมซับ กลับมานึกถึงลูกมากๆค่ะ

จิตใจที่กำลังเต็มไปด้วยกิเลศ หากไปบอกให้เลิกคิด เลิกฝัน คงยาก เพราะใจคุณมันหม่นหมอง ไม่สะอาดพอที่จะเห็นก้นตะกอน นีน่าแนะนำให้คุณทำใจให้อยู่ในภาวะสะอาด หรือ ปกติ ปรับจิตให้สว่าง โดยการสวดมนต์ไหว้พระ บ่อยๆเท่าที่จะทำได้ ท่องสวดมนต์ช้าๆๆๆๆๆ หลาบๆรอบ เมื่อจิตสว่างแล้ว ย่อมพอจะมีกำลังพิจารณา เห้นตะกอน กิเลศของเราได้
</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมือมีกำลังใจพอแล้ว อย่าหาเหตุผลใดๆมารองรับอารมณ์มืดนี้ของเราเด็ดขาด นอกจาก สามอย่างคือ พระพุทธ พระธรรม (ศีลเป็นเบื้องต้น) พระสงฆ์

ไม่ใช่หมอดูค่ะ!

หมอดูทำนายว่าคุณกำลังจะมีอนาคตอย่างนั้น แล้วคุณทราบไหมคะหากเรายึดพระพุทธเจ้าของเราเป็นหลัก ท่านบอกว่า ทุศีลแล้วลงนรกแน่ๆ นีน่าบอกตอนนี้ บอกได้เช่นกันว่า ตายไป คุณลงกะทะทองแดงแน่ๆ แล้วเป็นไงคะ คุณจะไปไหมเล่า...

อย่าเอาศาสตร์หมอดูมาเป็นข้ออ้างให้เราเองนะคะ...นีน่าเองก็เป็นหมอดู บอกได้ว่า เราสามารถทายทักดวงเราว่าจะเกิดอะไรได้ เพราะเป็นการทำนายผลของ 'วิบากรรม' ไม่ใช่เป็นการทำนายอนาคต วิบากกรรม คือข้อทดสอบให้เราต้องผ่านไปได้ ผ่านข้อสอบความเป็นมนุษย์ คือมีศีลเป็นเบื้องต้น ปิดทางนรกเท่านั้นเอง

การสวดมนต์ไหว้พระ ทุกวัน อาราธนาศีล ถือศีล จึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะให้เราไปต่อสู้กับวิบากกรรมได้

เพราะการทำความดี คือการอาศัย'กำลังใจ' .....ไม่ใช่เป็นไปตามกระแสที่มนุษย์มักจะคล้อยไปตามทางที่ต่ำ

แต่เข้าใจว่า คุณเอง เราๆเองก็เป็นมนุษ์ปุถุชน จะบอกให้คุณบรรลุธรรมเลยก็คงไมได้ เพระดิฉันก็ทำได้ยากๆเช่นกัน ในยามที่เผชิญกับวิบากกรรม


เพราะตาเราเองเห็นเค้า ก็เกิดกิเลศ เกิดความรู้สึก เกิดการปรุงแต่ง กลายเป็นห้วงอารมณ์ต่างๆ แล้วพลันกลายเป็นความหมกมุ่น แล้วเกิดความทุกข์ใจในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ

นีน่าคิดว่า ดูท่าแล้ว คุณคงรู้สึกแทบอยากจะทุศีลเต็มที ความรุ้สึกมันอยากจะระเบิดจนต้องมา post กระทู้

นีน่าแนะนำว่า ให้คุณย้ายที่ทำงาน ย้ายบ้าน ย้ายอะไรก็ช่างเถอะค่ะ ยอมๆย้ายไปเถอะ เสียน้อยเพื่อรักษาใหญ่ คุณจะเลือกจะจากเพื่อน หรือจะต้องจากลูกเมีย ไปหาเธอคนนี้ล่ะค่ะ

ลูกๆ เมียๆ คุณ ถ้ารู้ คงยอมย้ายบ้าย ดีกว่าบ้านแตกแยก...

ส่วนเรื่องที่คุณเห็นเธอแล้วถูกตา ถือใจ นีน่าคิดว่า อย่าไปคิดว่าเป็นบุพเพหรืออะไรหรอกค่ะ คุณก็แค่คนธรรมดาที่ หากเห็นคนสวย บังเอิญถูกใจ มีกิริยาที่น่ารัก มีจริตพอดีตามที่เราชอบ ก็เกิดกิเลศ ปรุงแต่งให้เคลิ้มหลงเท่านั้นเอง อย่าหาเหตุผลมารองรับให้เราทุสีล หากคิดแล้วไม่ดี จะไปคิดทำไม!

ย้อนกลับไปเรื่องนีน่าเอง นีน่าก็เคยคิดผิด แต่เรื่องของนีน่า เว่อร์กว่าของคุณเอง นีน่าคบแฟนมาสองปี รักกันมาก แต่ในใจนีน่ากลับไม่เคยลืม ผู้ชายที่นีน่ารู้จักตอนมัธยม สิบกว่าปีที่แล้ว ทั้งๆที่รู้จักกันผิวเผิน! แต่กลับหลงเค้าแทบบ้า

นีน่าต้องจากบ้านไปอยู่ต่างเมือง ต่างประเทศ ไม่เคยลืมเค้าเลย นอนคิดถึงเค้า น้ำตาไหล เฝ้าดว่าเค้าคือเนื้อคู่แต่ปางก่อนแน่ๆ ไม่งั้นเราจะรัก คิดถึงเค้าปานนี้ได้เหตุใด
ไปเธอ ไปร้านอาหาร ไปเที่ยว ก็นึกอยากให้เค้าได้มา คิดถึงเค้าจับใจทุกอย่าง ทุกเรื่อง...

มันไม่มีเหตุผลอะไรเหมือนคุณเลยว่จะต้องไปชอบเค้า เพราะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน มันทำให้นีน่าเชื่อสนิทใจว่าเค้าคือบุพเพของนีน่า นีน่าครองตัว รักษาเนื้อตัว รอเค้า

จนมาวันหนึ่ง นีน่าคิดว่า ไม่ไหวแล้ว ฉันจะอยู่กับแฟนชั้น แต่งงานกับคนอืนได้อย่างไร หากฉันมีคนนี้เต็มหัวใจ นีน่าไปบอกเลิกกะแฟน แล้วเมื่อกลับไทย ก็ไปสานต่อ จีบเค้าหน้าตาเฉยๆ

ส่วนแฟนนีน่าใจสลาย เสียใจมาก..
นีน่าไม่สนใจแฟน ไม่สนใจคนที่แสนดีกับเรา คนที่เป็นห่วงเรา ดูแลเรา รักเราอย่างจริงใจ

นีน่าไปสนใจใครก็ไม่รู้ที่เค้าไม่เคยทำอะไรดีๆให้เรา

กรรมตามสนอง เค้าไม่สนใจนีน่า นีน่ามาย้อนคิด คำเตือนของน้องสาวนีน่าถูกที่สุดแล้ว ไม่มีกิ๊กคนไหนจะดีกว่าแฟนเรา คนที่เสียสละทั้งชีวิต ดูแลเรา..

ความรู้สึกหวือหวาอาจจะหายไป แต่มันเป็นความรู้สึกผูกพันที่เราก็ไม่รู้ว่ามันมีอยางลึกซึ้งจนเราได้เสียเค้าไป

นีน่าเสียใจมากที่ทำร้ายจิตใจแฟน ทำไมต้องไปสนใจคนอื่น แฟนเราดีกะเราตั้งมากมาย เราเห็นสิ่งที่เค้าทำเป็นของตาย!

นีน่าไม่อยากพูดไรซ้ำซาก คุณอ่านทบทวนคำนีน่าซ้ำไปมา ไตร่ตรองให้ดีนะคะ

ขอให้โชคดีในธรรม ยึด พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ ไม่ใช่หมอดู!
แล้วมาทำจิตใจให้ผ่องใส่ ทำความดี ละเว้นความชั่วกันค่ะ

 

อยากรู้ค่ะว่าคุณนีน่าได้กลับไปคบแฟนเหมือนเดิมหรือเปล่าคะหลังจากที่ทำให้เขาเสียใจแล้วรู้ว่าคนนั้นก็ไม่ได้ดีกับคุณ แล้วแฟนคุณนีน่าให้อภัยไหมคะ