เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

วันนี้ข้าพเจ้า ณัฏฐวี ฉั่ว สเตซีย์ และครอบครัว ได้โอนเงินเพื่อร่วมบุญสร้างพระพุทธชินราชจำลอง เพื่อเป็นพระประธานวัดพ่อขุนผาเมือง 300 บาทค่ะ
ขอโมทนาสาธุในบุญของทุกท่านด้วยค่ะ

 

ขออนุโมทนาสาธุกับคุณณัฏฐวี ฉั่ว สเตซีย์ และครอบครัวค่ะ

 

ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธชินราช 1,000 บาทครับ

 

โอนเงิน 1,000 บาทร่วมสร้างพระพุทธชินราชนะคะ วันนี้ เวลา 14.03 น.
คุณฉัตรชัย เงินประกายรัตน์ 500 บาท
คุณนันทวรรณ จรูญพิพัฒน์กุล 500 บาท

 

ขออนุโมทนาสาธุกับคุณ teeeeen ด้วยค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญ กับคุณคุณฉัตรชัย เงินประกายรัตน์ และ
คุณนันทวรรณ จรูญพิพัฒน์กุล ด้วยค่ะ สาธุค่ะ

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน หักหอกเป็นดอกไม้


กะทิเธอนำสิ่งที่สังเกตในเรื่องนี้ไปคุยกับพี่ดอกแก้ว พี่สาวในอดีตชาติ (นามสมมติ) ถึงคนที่เข้ามาพบพูดคุยกับคุณดนัย และสัมผัสได้ว่า จิตใจของผู้ที่เข้ามาพบคุณดนัยนั้นหลายๆ คนในตอนแรกที่เข้าพบ เดินเข้าไปคุยด้วย บางคนร้อนรน จิตวุ่นวาย ไม่สงบนิ่ง ในทางตรงกันข้ามกับคุณดนัยที่เหมือนน้ำที่สงบนิ่ง



และสักพักเท่าที่สังเกต ผู้ที่เข้าไปคุยด้วย จิตกลับกลายเป็นสงบเย็น เช่นที่คุณดนัยเธอเป็น เรียกว่า ความเย็นสงบของคุณดนัย เหมือนจะเป็นอะรไบางอย่างที่เย็นๆ ไปชโลมจิตใจของคนที่เธอกำลังพูดด้วย ให้กลับเย็นลง สงบลง อย่างไงอย่างนั้น มันก็แปลกดีที่เราเห็นแบบนี้ กะทิเธอก็เล่าความแปลกที่สัมผัสได้ ให้กับพี่สาวฟัง



และทันใดนั้น ก็มีภาพเข้ามาปรากฎขึ้นตรงหน้าของกระทิเธอ


ภาพที่กะทิเธอได้เห็นนั้น เป็นเทพพระองค์หนึ่ง(ไม่ปรากฎนามว่าเป็นผู้ใด) สวมชฏา นุ่งโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อ แต่มีสร้อยสังวาร 2 เส้น คล้องไหล่ ไขว้ไว้กับตัว ผิวของท่านออกสีชมพูน้อยๆ ท่านเข้าไปในถ้ำเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่ ซึ่งโดยธรรมชาติของสัญชาติญาณของสัตว์มีเขี้ยว ย่อมดุร้าย


และโดยเฉพาะนี่ เป็นบ้าน(ถ้ำ) ของเสือเจ้าของบ้านด้วยแล้ว ย่อมเพิ่มความดุกว่าปรกติ ในการห่วงหวงที่อยู่ ในอาณาเขตของมัน


จะด้วยมีความจำเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างไรไม่ทราบ เทพองค์นั้น ไม่ได้มีเหตุจะเข้าไปในถ้ำเพื่อแย่งพื้นที่ของเสือ แต่เหมือนมีเหตุจำเป็นบางประการที่จำต้องเข้าไป และขอใช้พื้นที่ในถ้ำดังกล่าวเป็นการชั่วคราว


ภาพที่เห็นในลำดับต่อมา เทพองค์นั้น เข้าไปพูดคุยกับเสือ พูดไปพูดมาเหมือนจะกลายเป็นกล่อม กล่อมไปกล่อมมา เหมือนว่าเสือที่เคยดุร้ายเริ่มเอนตัวลงนอนอย่างเช่นแมวตัวใหญ่ ไปๆ มาๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นซบและคลอเคลียหัวของมันเข้ากับเทพองค์นั้น


กะทิเห็นอย่างนั้น ก็ถามพี่ดอกแก้วว่า เธอมีความคิดเห็นกับภาพที่กะทิเห็นนั้นอย่างไรบ้าง? คิดว่านี่เป็นวิชาๆ หนึ่ง ที่เทพผู้นี้มีติดตัวมารึไม่?



พี่ดอกแก้วกลับไม่ได้มุ่งไปในทางเดียวกันกับกะทิโดยตรง แต่มองไปที่คุณแม่ของคุณดนัย


พี่สาวบอกกับกะทิว่า เธอคนนี้นับถือเจ้าแม่กวนอิม และมักถือศีลกินเจอยู่บ่อยๆ


ที่บ้านของเธอผู้นี้มีรูปองค์ท่านเจ้าแม่กวนอิมอยู่รูปหนึ่ง เป็น "พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ในพระชาติเจ้าแม่กวนอิม"


กะทิฟังแล้วก็ไม่ค่อยจะรู้จักนัก ก็เคยไปเปิดค้นในกูเกิลนะคะ ท่านผู้อ่านสามารถเปิดเข้าไปอ่านได้ในวีกิพีเดีย (wikipedia) ค่ะ


พี่สาวกล่าวต่อไปว่า เหมือนกับว่าสิ่งที่เป็นของบูชาที่คุณแม่ของคุณดนัยบูชาอยู่บ่อยๆ นั้น เป็นที่บรรพบุรุษได้ส่งทอดการปฏิบัติสืบๆ กันมา


และบุคคลผู้นี้ได้ถือกำเนิดมาในตระกูลที่ประพฤติตนในครรลองดังกล่าว จึงทำให้มีพลังเย็นดับพลังร้อน พลิกผู้ร้อนให้กลับเย็นเพียงใช้แค่วาจาอย่างง่ายดาย


กะทิเคยนำเรื่องนี้เขียนไปคุยกับคุณดนัยนะคะ ก็ได้ความว่า คุณแม่ของเธอนับถือเจ้าแม่กวนอิมที่บ้านนั้นมีอยู่จริงคะ แต่พอกะทิสอบถามถึงว่าเป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ใช่รึไม่? (ตรงนี้ต้องใช้การสังเกตเข้าช่วย เพราะเท่าที่ทราบจากที่พี่สาว เธอเหมือนจะบอกกับกะทิว่า จะต้องมีจุดสังเกตถึงความแตกต่างระวังเจ้าแม่กวนอิมธรรมดา กับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ในพระชาติเจ้าแม่กวนอิม)


คุณดนัยเธอก็ไม่ได้ตอบกลับมานะคะ เงียบไปหลังจากนั้น


จริงๆ แล้วกะทิก็ไม่ได้คิดว่าเธอจะตอบมาแต่แรกค่ะ เพราะว่าเธอเป็นนักธุรกิจที่มีงานเยอะมาก ทั้งภายในประเทศและตปท. จะมามีกิจตอบคำถามคนตัวเล็กๆ อย่างเราก็ใช่ที่นะคะ(เข้าใจว่าเธอคงมีธุระเยอะ ไม่สะดวกจะไปสอบถามจากคุณแม่ หรืออย่างไรไม่ทราบได้ หรือไม่ก็คงระวังตัว เพราะเป็นการคุยกันผ่านออนไลน์ มีคนแปลกๆ ร้อนพ่อพันแม่มั้งคะ ไม่เป็นไรค่ะ)


ดังนี้กะทิก็อนุญาตเขียนเล่าเฉพาะในส่วนที่กะทิได้เห็นเธอในมุมของกะทิละกันค่ะ


ขอจบนิทานตอนคุณดนัยเพียงแค่นี้นะคะ

 

ตอนนี้ยังร่วมทำบุญสร้างพระพุทธชินราช(จำลอง) ถวายเป็นพระประธานที่วัดพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ได้อยู่นะคะ ร่วมทำบุญโดยโอนเงินมาที่บัญชีนี้นะคะ
เลขที่บัญชี 895-2-33323-3
ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีอ่อนนุช
ชื่อบัญชี ชัชชลี เบญจวิทย์วิไล

ยอดเงินร่วมทำบุญ ณ.เวลา 13:21 น. วันนี้29/6 270,965.91 ค่ะ

 

ร่วมทำบุญ สร้างพระพุทธชินราช(จำลอง) วันนี้ นายบุณพจน์ ศรีพงษ์สุวรรณ. นางสาวรุ้งสินี วงศ์รัตน์. 200 บาทครับ

 

นิทานพลังอธิษฐานของกะทิ ตอน ขนมขจัดอาการลมเพลมพัด



เรื่องนี้คงต้องขออนุญาตหมอสุวิในการนำมาเขียนเล่าให้คุณผู้อ่านได้อ่านกันเป็นวิทยาทาน


ตอนแรกที่จะเขียนนี้ก็คิดอยู่ว่า มันเหมาะกับกระทู้ปรึกษาปัญหาสารพัดโรครึเปล่า? เราเขียนในหัวข้อกระทู้ผิดรึเปล่า? แต่ถ้าเป็นกระทู้ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ให้หมอสุวิท่านเหมาของท่านต่อไปดีกว่า เราไม่น่าจะไปยุ่งเกี่ยวรึเปล่า? (คิดมากไม่ดี)


สรุปก็มาเขียนลงในที่ๆ เดิมของเรานี่แหละ ไม่ต้องย้ายบ้านอะนะคะ


เรื่องของขนมขจัดอาการลมเพลมพัดเนี่ย กะทิเธอก็เพิ่งจะทราบเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ตอนที่หมอสุวิท่านทำพิธีถวายแด่องค์พระเสมา..ฯลฯ นี่เอง


(เรื่องเล่าก็ไม่ได้ยาวอะไร เอามาเขียนเป็นนิทานได้เปล่าว่า ขอโทษนะคะ (คุณกะทิเธอกำลังคัดค้านกันเอง หนะค่ะ วันสองวันนี้เป็นแฮะ (ก็เหมือนอาการคุณหมอสุวิ 1 กับสุวิ 2 นั่นแหละค่ะ)


วันนั้นบนโต๊ะพิธีบูชา ก็มีผัก และผลไม้ใส่พาน เต็มโต๊ะเอามาต่อกันหลายตัว แต่ปูด้วยผ้าปูโต๊ะอีกชั้น เรียกว่าจัดเต็ม ขวดน้ำดื่มเป็นแพ็คๆ หัวเผือกมัน ข้าวธัญญพืช ละเว้นซึ่งการเบียดเบียนทั้งปวง จนห้องรับแขกที่บ้านหมอสุวิดูเล็กลงไปถนัดตา



หนึ่งในนั้นก็มีขนมขจัดอาการลมเพลมพัดด้วย ซึ่งหากคุณผู้อ่านอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก็คงรู้จักและร้องอ๋อทันที เพราะขนมนี้ ก็เป็นของพื้นๆ แต่ใครเล่าจะรู้ว่ามันมีสรรพคุณเยี่ยงใด


ขนมสิ่งที่ที่เขียนไว้ ก็เพื่อ....

1. สำหรับท่านผู้อ่าน รู้ไว้ใช่ว่า ไว้แก้ไข และ/หรือป้องกันตนเอง

2. สำคัญมาก เมื่อรู้แล้ว อย่าได้นำสิ่งนี้ไปไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ข้างทาง ฯลฯ เป็นเด็ดขาด เพียงเพราะความไม่รู้อะนะคะ



ขนมนี้ประกอบด้วย .....

1.สาคู ชนิดเม็ดเล็ก ต้มแล้ว แต่ทว่า นี่ไม่ใช่สาคูล้วนๆ แต่เป็นสาคุปรุงสุก ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบของ Topping ไม่ต่างกับการแต่งหน้าไอศกรีม ดังนี้

1.1 ข้าวโพดต้ม

1.2 ซางข้าวโพด หรือฟางข้าวโพด ที่อยู่ในฝักข้าวโพดนั่นแหละค่ะ


ตอนที่คุณยายของกะทิเธอยังอยู่ นี่เป็นสิ่งที่คุณยายเธอหวงแหนมาก(คือ ไม่ให้เอาไปทิ้งเฉยๆ อย่างของไร้ค่า แต่คุณยายจะเอามาตากแห้งเก็บเอาไว้) เวลาที่คิดอยากจะกินขึ้นมา เธอก็จะเอามาต้มน้ำเปล่าๆ กลายเป็นน้ำแกง (คนจีน) ด้วยการใส่เกลืองลงไปเล็กน้อยให้กินด้วยอะนะคะ สีของน้ำแกงที่ได้จะเปลี่ยนจากสีขาวไปเป็นสีเหลืองอ่อน รสชาติอร่อยดี


ส่วนหมอสุวิกล่าวว่า ซางข้าวโพดในเมนูนี้ หากมีให้ใส่ลงไปด้วยนิดหน่อยนะคะ จะยิ่งมีพลังขจัดค่ะ



1.3 ขนุน ให้ซื้อมาแค่ 1 ขีด ก็พอ เพราะเราใช้แค่ 1-2 ชิ้นเท่านั้น เอามาหั่นให้เป็นเส้นๆ เหมือนกับที่เอาไว้ใช้ลอยในน้ำเชื่อมขนม น้ำแข็งไส้ อะนะคะ


Topping ทุกอย่างที่กล่าวมา ให้ใส่เพียงเล็กน้อยก็พอนะคะ เทียบกับสาคุ 1 หม้อกระป๋องเล็ก


แค่นี้ยังไม่จบค่ะ เพราะบนโต๊ะหมู่บูชานั้น ยังมีของที่ต้องนำมา Mix ผสมให้เข้ากันกับสาคู อยู่อีก 1 อย่าง ซึ่งก็เป็นพระเอกของเราด้วยเช่นกัน


นั่นก็คือ...น้ำมะพร้าวอ่อน..ค่ะ


อันนี้ใช้หลายลูกอยู่ รวมถึง เนื้อมะพร้าวอ่อน ด้วย รวมอยู่ด้วยกัน



หลังเสร็จพิธีบูชา ก่อนที่เราจะนำมารับประทาน ก็จะตัดแบ่งออกมาใส่ในถ้วยเล็กของเรา แล้ว Mix ผสม กัน ภายในถ้วยของเราเองอะนะคะ น้ำมะพร้าวก็เยอะหน่อยให้มากกว่าสาคุ เวลารับประทานจะได้ลื่นคอนะคะ


สรุป อร่อยมากค่ะ ติดปลายลิ้นอร่อยจนถึงวันนี้


ต้องขอขอบพระคุณหมอสุวิ และขอบพระคุณมากที่สุด สำหรับท่าน ผบ.ทบ.ข้างกายคุณหมอสุวิค่ะ ที่กรุณาเตรียม เตรียม และเตรียม ทุกๆ อย่าง มากมายขนาดนั้น รวมถึงขนมในพิธีที่แสนอร่อยนี้ด้วย


สำหรับท่านผู้อ่านที่จะนำไปทำเอง ถ้าอยากให้ขลัง ก็ยกไปบูชาพระประจำบ้านของท่าน กล่าวถวายบูชาพระรัตนตรัย เมื่อบูชาเสร็จ ก็กล่าวคำอธิษฐาน (อีกแล้วนะอธิษฐาน เป็นนางเอก)


"ขอให้ขนมนี้มีพลังในขจัดสมเพลมพัดออกจากตัวผู้รับประทานนี้ให้สิ้น ตามสรรพคุณจริงของขนมเทอญฯ ก็ว่าไปนะคะ"



เอวังค่ะ


ข้าพเจ้าอธิษฐาน พูลศิลป์ศักดิ์กุล เตชะวีระวงศ์ ขอใช้เรื่องเล่านี้ หากมีกุศลผลบุญที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลให้กับผู้อ่านท่านใด หมู่ใด ข้าพเจ้าขอใช้บุญที่บังเกิดขึ้นนั้น เป็นพลังเพื่อขอขมาและขออโหสิกรรม ต่อบิดามารดาในชาติที่ข้าพเจ้าตั้งแต่อดีตชาติเริ่มต้นถึงชาติปัจจุบัน และต่อเจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายของข้าพเจ้าที่เป็นจริงโดยสัจจะ บุญใดที่เกิดขึ้นจากการขอขมาและอโหสิกรรมนี้ หากเกิดมีจากการที่ได้เขียนเล่าเรื่องเอาไว้ให้ผู้อ่านนี้มีอยู่บ้างแล้วไซร้ ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบูชาบุญนี้แด่ สังฆราชราชา ซูเปอร์บาบา องค์พระปฐม องค์พระผู้มีพระภาคเจ้า องค์ปัจเจกพระพุทธเจ้า และพระธรรมในพระพุทธศาสนาทุกๆ พระองค์ ขอบุญที่ข้าพเจ้าน้อมถวายแล้วนี้ จงเป็นพลังบุญเติมเต็มมหาสมุทรแห่งบุญของข้าพเจ้าที่เป็นจริงโดยสัจจะ ให้เพิ่มพูนยิ่งๆ ขึ้นไปไม่มีเหือดแห้ง ข้าพเจ้าสามารถนำมาใช้ได้ไม่รู้พร่อง ขอให้ข้าพเจ้ามีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุข มีดวงตาเห็นธรรม เข้าใจสัจจธรรมแห่งการดับทุกข์ ทั้งเมื่อมีชีวิตอยู่และไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ตลอดจนข้าพเจ้าหลุดพ้นจากสังสารวัฎ เข้าสู่พระนิพานในสากลจักรวาลที่เป็นจริงโดยสัจจะเทอญฯ และขอบุญนี้ส่งส่งผลให้สรรพมงคลทั้งปวงที่มีจริงในสากลจักรวาล เกิดมีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ให้พ้นภัยจากการถูกเบียดเบียนจากมนุษย์ และอมนุษย์ทั้งหลาย ที่ไม่ประสงค์ดีต่อข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ตลอดสิ้นกาลนานเทอญฯ สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณบุณพจน์ ศรีพงษ์สุวรรณและคุณรุ้งสินี วงศ์รัตน์ ด้วยค่ะ สาธุค่ะ

 

คุณกะทิคะ ขนมนั่น...
สาคูเม็ดใหญ่หรือเม็ดเล็กคะ
ข้าวโพดหวานหรือข้าวโพดสาลี
แล้วถ้าใส่น้ำตาลกับกะทิด้วย ผิดสูตรมั้ยคะ

 

ถ้าทำเองเนี่ย อะไรๆ ก็เสกสรรได้ แต่เท่าที่อ่านดูในคำถามเนี่ย? เหมือนจะไปซื้อจากแม่ค้าเขามา แล้วมาเพิ่ม Topping เองรึเปล่าเอ่ย?


สาคูเม็ดเล็กน่ารักค่ะ เด๊่ยวจะขึ้นไปเขียนเพิ่มเติมในนิทานให้นะคะ ต้องขออภัยท่านผู้อ่านค่ะ


ส่วนข้าวโพดเนี่ยกะทิก็แยกไม่ออกเหมือนกันค่ะ ว่าข้าวโพดสองกลุ่มนี้มันแตกต่างกันยังไง รู้แต่ว่า หน้าตาข้าวโพที่กินในวันนั้น มันเหมือนกับข้าวโพดฟักที่มีขาย หาซื้อได้ทั่วไป หน้าตึกบริษัทพนักงาน เวลาแม้ค้าจะขาย บ้างร้านรถเข็น จะใช้มีดปอกรูดเมล็ดข้าวโพดด้วยมีดคมๆ มาใส่ถุงไว้ให้ ถุงละ 20 บาท แบบนั้นอะนะคะ ใช้ได้เลยค่ะ

หากเขาปอกขายกันสดๆ ก็ให้เขาใส่ฟางข้าวโพที่เขาจะทิ้งมาในถุงด้วยก็ได้ค่ะ เพราะยังไงเขาก็จะทิ้งอยู่แล้ว แต่พวกเราเอา ฮิฮิ


สาคุ ถ้าใส่น้ำตาลกับกะทิด้วย ผิดสูตรมั้ย?

ตอบว่า เราจะกินคู่กับน้ำมะพร้าว+เนื้อมะพร้าวอ่อน มันก็คงจะหวานมากมายน่าดู คงได้เพิ่มปริมาณน้ำตาลในเลือดกระฉูดแน่นอนนะคะ งานนี้ ดังนั้น น่าจะผิดสูตรค่ะ

ขอบคุณที่กรุณาสอบถามเข้ามานะคะ ผู้อ่านท่านไหนมีคำถาม ข้อสงสัยใด สอบถามเข้ามาได้ค่ะ ยินดีมากมายค่ะ

 

ร่วมทำบุญ สร้างพระพุทธชินราช(จำลอง) คุณ สกล อัชฌาเจริญสถิต จำนวน 1,000 บาทค่ะ



อนึ่งคุณสกลยังฝากข่าว ร่วมสร้างหนังสือสวมนต์ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ในปีนี้นะคะ


โดยตกเล่มละ 9 บาทค่ะ จะทำกี่เล่มก็ได้นะคะ

สามารถโอนผ่านบัญชี สกล อัชฌาเจริญสถิต ธนาคารไทยพาณิชย์ 388-222776-1 ค่ะ

หมดเขต สิ้นเดือนนี้ค่ะ (เร็วจังอะ)


หากโอนสตางค์แล้ว รบกวรแจ้งชื่อไว้ในกระทู้นะคะ เพื่อกะทิจะได้รวบรวมรายชื่อส่งให้เธออีกครั้งค่ะ


คุณสกลฝากมาบอกอีกว่า หากท่านผู้อ่านมีน้อยทำน้อยไม่เป็นไรค่ะ เพราะคุณสกลถือคติที่ว่า

"การบอกบุญ..เป็นการสร้างบารมี" อะนะคะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณสกล อัชฌาเจริญสถิต และคุณอธิษฐาน ที่ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธชินราช(จำลอง) และ ร่วมพิมพ์หนังสือสวดมนต์ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ด้วยค่ะ สาธุค่ะ

 

กะทิเธอเข้ามาเขียน อนุโมทนาสาธุบุญกับคุณชัชชลี ที่ร่วมทำบุญในการสร้างหนังสือธรรมะ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จำนวน 1,000 บาท นะคะ

แจ้งมาเพื่อให้ผู้อ่านช่วยกันร่วมอนุโมทนา สาธุค่ะ

 

ตอนนี้ยังร่วมทำบุญสร้างพระพุทธชินราช(จำลอง) ถวายเป็นพระประธานที่วัดพ่อขุนผาเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ได้อยู่นะคะ ร่วมทำบุญโดยโอนเงินมาที่บัญชีนี้นะคะ
เลขที่บัญชี 895-2-33323-3
ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซีอ่อนนุช
ชื่อบัญชี ชัชชลี เบญจวิทย์วิไล

ยอดเงินร่วมทำบุญสร้างองค์พระ ณ.เวลา 14:20 น. วันนี้07/07 = 291,568.91 ( ราคาองค์พระ 300,000 บาท ) ค่ะ

 

แหะๆ ป่าวซื้อจากตลาดน้า แบบว่าถ้าที่บ้านทำก็ชอบจัดเต็มน่ะค่ะ
ต้มสาคูใส่กะทิ น้ำตาล มะพร้าวอ่อน ข้าวโพด ก็เลยคิดว่า
ถ้าใส่น้ำมะพร้าว ฟางข้าวโพด กะขนุนลงไปด้วย ก็จะเกือบ
เหมือนสูตรเลย เกินไปนิด แล้วถ้ายกถวายหิ้งพระทั้งหม้อ
แล้วมากินกันทั้งบ้านน่าจะดี ...ดูซิ ฟังมักง่ายมากเลย555

แต่ชอบใส่ข้าวโพดสาลีน่ะค่ะ บางทีเรียกข้าวโพดข้าวเหนียว
มันจะเหนียวๆหนึบๆไม่ค่อยหวาน บางทีมีสีม่วงด้วย
ถ้าข้าวโพดหวาน บางทีเรียกข้าวโพดสวิส สีออกเหลือง รสหวาน
เค้าชอบเอาไปปิ้งขาย สงสัยคุณกะทิคงหมายถึงอันนี้

 

วันนี้ได้โอนเงินพิมพ์หนังสือสวดมนต์ถวายหลวงพ่อจรัญ จำนวน 200 บาท ชื่อ ณัฐฐาพร ดอนเสือพร้อมครอบครัว ค่ะ

 

สาธุค่ะ ^ ^


อย่าลืมถวายบูชาบุญก้อนนี้ แด่องค์พระผู้มีพระภาคเจ้านะคะ แล้วขอให้บุญนี้นั้น ใดๆ กับคุณ ณัฐฐาพร ดอนเสือ และ ครอบครัว ...ใดๆ....ก็ว่าไปค่ะ สาธุค่ะ