ชี้ทางคนที่จะเรียนวิชาอาคม

ทุกวันนี้คนฝึกอาคมกันแบบมั่ว เชื่อแบบงมงาย มากมายเหลือเกิน
หาน้อยคนนักที่จะทุ่มเทให้รู้จริง เพื่ออนาคต ที่จะใช้งานได้จริง

 

ผมก็อยากเรียนครับ ผมสนใจมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มศึกษาได้ยังไง สอนผมหน่อยได้ไหมครับ

 

สนใจเรื่องปรอท อ่ะคับ ใครมีข้อมูล คาถา จับ หุง ปรอท ก้อแนะนำหน่อยนะคับ
aj2sos@hotmail.com

 

เรียน ท่านอาจารย์
ดิฉัน นาง อรกุล มีความสนใจจะขอเรียนวิชาจากท่าน
เมลของดิฉัน ajonkul@gmail.com

 

ส่วนใหญ่แค่ทำได้บ้างเขาก็พอใจแล้วครับ
แต่เขาไม่คิดว่า อีก10-20ปี จะเอาแค่ทำได้
แบบอ่อนๆ แค่นั้นพอหรือ
เพราะนั่นเท่ากับ วิชาถอยหลังลงคลองด่อย
การพัฒนา เชียวนะครับ

 

คุณกาฝากรักคับ อ่านจากกระทุ้เก่าเหนโพสว่าจะไม่สอนแล้ว
แต่ผมอยากเรียนวิชากับคุณจิงๆนะคับ
พอจะมีแนวทางสอนผมได้มั้ยคับ
ผมจะฝึกอย่างสม่ำเสมอครับ
จะไม่ใช้ในทางที่ผิดคับ
จะทำตามคำบอกทุกประการคับ
ผมชอบในเรื่องนี้ครับ
แต่ผมไม่รุ้ว่าจะไปหาเรียนได้ที่ไหน
จะฝึกเองก็กลัวจะทำผิดๆนะคับ
ยังไงผมอยากให้ช่วยชี้แนะบ้างคับ
ตอนนี้ผมกำลังจะบวชเข้าพรรษาครับ
ผมเรยคิดว่าจะใช้เวลาช่วงนี่ในการฝึกฝนนะครับ
ถ้าผมมาถูกทางก็คิดว่าจะปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆครับ
ผมเข้าใจนะคับว่ามันต้องใช้ความพยายามสูง
ผมคิดว่าผมทำได้คับ ผมชอบเรื่องนี้จิงๆนะครับ
แต่เพียงผมไม่รุ้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างคับ
ข้อห้ามต่างๆในแต่ละคาถาผมก็ไม่รุ้
ได้ไปอ่านในกระทุ้แรกๆแล้วคับ ผมปติบัติได่ครับ
ยังไงขอความกรุณาชี้แนะด้วยคับ.
sing.abudabe@gmail.com
อีเมล์ผมคับ ขอบคุณทุกคนที่ให้คำปรึกษาครับ

 

กราบสวัสดีท่านผู้รู้ทุกท่านฝนกระทู้นี้นะคับ...ผมเหนหัวข้อกระทู้ก็เลยจะขอแสดงความคิดเหนบ้าง....กราบขออนุญาตนะคับ
เรื่องการเรียนคาถาอาคมให้ได้ผม แน่นอนคับต้องเคารพระรัตนตรัยบิดามารดาครูบาอาจารย์และต้องปฏิบัติตามข้อห้ามที่ครูท่านสั่งใาอย่างเคร่งครัดที่สุด
ทีนี่เรามาเข้าเรื่องนะคับว่าเราจะเรียนคาถาอาคมอย่างไรให้ขลังถือให้ขึ้นหรือใช้แล้วสัมฤทธิ์ผลนั่นเอง การที่จะใช้คาถาให้เกิดผลนั้นแน่นอนคับจุดสำคัญอยู่ที่สมาธินั่นเอง แต่
ก็มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยรู้กันบางครั้งก็เนื่องมาจากครูอาจารย์ท่านปิดบังเอาไว้นั่นเอง เพื่อถ่ายทอดให้ศิษย์ที่เปนคนดีหรือป้องกันศิษย์จะคิดล้างครู
จากที่ผมได้เคยศึกษาเล่าเรียนมาบ้าง ก็จะบอกใบ้ให้ท่านลองพินิจพิเคราะห์ตีความดูนะคับ หลักการที่จะใช้คาถาให้ได้ผมนั้นมีหลักการดังนี้
1,ตั้งจิตเอาไว้ว่าตั้งใจจะทำอะไร
2.สำรวมจิต(หาที่ตั้งของจิต)ตามที่ท่านถนัดจนสงบ
3..ย้ายที่ตั้งจิตไปยังวัตถุหรือสิ่งของที่ต้องการทำ
4.ส่งหรือถ่ายทอดกระแสจิตโดยใช้มโนเข้ามาประกอบสูสิ่งของหรือวัตถุนั้นๆ
โดยมากอาจารย์จะสอนให้ส่งกระแสจิตในระยะใกล้ๆก่อนพอศิษย์เริ่มชำนาญก็จะให้ส่งกระแสจิตไปไกลขึ้นๆเรื่อยๆ วิชาพื้นฐานพวกนี้โดยมากจะเปนจำพวกอาพัดต่างๆ เช่นเสกเหล้ากินให้คงกระพันเปนต้น เพราะวิชาดังกล่างนี้ยังไม่ต้องใช้อำนาจจิตขั้นสูง แต่ใคีจะประสงค์เรียนวิชาที่พิสดารขึ้นไปก็ต้องนั่งสมาธิให้ได้สมาธิขั้นสูงขึ้นไป
การนั่งสมาธินั้นจุดประสงค์ก็เพทรอฝึกจิตให้มีพลัง ทีนี้ถ้าเราอยากรู้ว่าพลังจิตของเรามีอำนาจแค่ไหนก็ต้องทดสอบดู แต่การถ่ายทอดกระแสจิตหรือส่งอำนาจจิตนี่ล่ะคับที่เปนกุญแจสำคัญที่ครูบาอาจารย์ท่านปกปิดกันนักหนา
กระผมโพสมาด้วยความรู้อันต่ำต้อย หากมีตรงไหนผิดพลาดไป กระผมขอน้อมรับผิดไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคับถ้าจะเมตตาก็แนะนำสั่งสอนผมด้วยนะคับ ขอบพระคุณคับ

 

ในคำพูดนี้ ผมขอถามความสัมพันครูอาจารย์คุณ ยังดีอยู่หรือเปล่า เคยทำอะไรให้อาจารย์
คุณไม่พอใจอย่างอภัยให้ไม่ได้หรือไม่

 

เรื่องความสัมพันของผมกับอาจารๆม่มัคะบ ถ้าจะมีก็มักับคนใกล้ตัวของอาจารคับ ดังที่เคยเล่าฝฟ้คุนฟัง ทำไมหรือคับ เข้าใจนะคับ

 

วิธีนี้ คือข้อห้ามอย่างเด็ดขาด ในการฝึกวิชาทางฝั่งผม จะเรียกว่าเป็นกฏเหล็กก็ว่าได้
เพราะ มันคือวิธีการสลายพลังคาถาทั้งหมด ในชั่วเวลาไม่กี่นาที
และการที่อาจารย์คุณถือเป็นแนวทางหลัก มาสอนคุณ มันก็เท่ากับเป็นการกลั่นแกล้งคุณ อย่างหนัก
ซึ่งวิธีนี้ถ้าไม่โกรธไม่เกลียดกันมากมายนัก จะไม่นำมาสอนอย่างเด็ดขาด
และ
คนที่มาเรียนจากผมๆจะบอกผลของการฝึกวิธีนี้ไว้ก่อนเสมอ เพื่อ พิสูจ ทฤษฏี เคล็ดลับในการฝึกคาถา
ที่พวกผมเรียนรู้มา ว่ามีอยู่ และสามารถทำได้จริงๆ

 

ผมกับครูบาอาจานย์มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันอย่างใากถึงมากที่สุด..,.การเรัยนคาภาวาอาคมทั้งหลายสิ่งที่สำคัญนั่นก็คือ การส่งหรือถ่ายทอดกระแวจิตยกตัวอย่างคนที่บำเพ็ญสมาธิจนมีอำนาจจิตหรือพลังจิตมากขนาดไหนแต่ถ้่าไม่รู้วิธีการถ่ายทอดหรือส่งกระแสจิตออกไปก็เปล่าประโยชน์...ตรงนี้แหละที่คนทั่วไปไม่ทราบกัน ขั้นตอนการฝึกส่งกระแสจิต(ขอไม่บอกวิธีการ)เพื่อทดสอบอำนาจจิตของศิษย์ว่าอยู่ขั้นไหน...ครูท่านจะให้ส่งกระแสจิตใกล้ๆก่อนยกตัวอย่างที่ิอาจารย์สอนผมท่านก็จะให้ผมถือเอาใบพลูมากำไว้ในมือแล้วก็เสกจนใบพลูมีรสเปลี่ยนออกเปรี้ยว...พอเริ่มทำได้ชำนาญขึ้นอาจารย์ก็จะวางใบพลูให้มีระยะห่างออกไปเรื่อยๆแล้วให้ว่าคาถาเสกจนใบพลูมีรสเปรี้ยวเหมือนตอนที่เอากำไว้....เวลาที่ผมทำอาจารย์ก็จะมีการบอกสอนแนะนำว่าจะส่งกระแสจิตส่งไปถึงใบพลูที่มีระยะห่างนั้นได้ยังไง....นี่คือการทอดส่งกระแสจิตในระยะใกล่ๆจนถึงระยะที่ไกลเพิ่มขึ้น,,.,,ถ้าคุนเคยสังเกตุหมอผีเวลาเค้าทำคุณไสย์ใส่คนที่อยู่ห่างกันคนล่ะทั่เค้าทำได้ยัง...ครงนี้คือพื้นฐานที่ผู้ที่เรียนจะต้องรู้....วิธีการดังกล่าวหากไม่ได้เรีบนกับอาจารย์อย่างใกล้ชิดจะไม่ทราบเลย.,,.เรื่องความสัมพันธ์ผมกับอาจารย์ท่านสั่งสอนผมขนาดนี้คงไม่ต้องพูดถึงนะคับ,.,ส่วนเรื่องที่ผมเคยไปทำอะไรอาจารย์ให้ไม่พอใจรึเปล่าคงๆม่ต้องพูดอีกเหมือนกัน...และการฝึกแบบนี้ไม่ได้เปนการสลายพลังอย่างที่คุณว่าเลย...มีแตจะทำให้สมาธิและอำนาจจิตและคาถาแก่กล้าขึ้น...เพราะการที่เราจะส่งกระแสจิตออกไปในระยะมี่ค่อนข้างห่างย่อมค้องมีสมาธิและกำลังจิตพอสมควร....และสิ่งที่อาจารย์ม่าสอนผมมาเพราะมท่านมีจิตที่เมตตากับผม ท่านจึงสอนเคล็ดเกร็ดให้ผมขนาดนี้อละมอบตำรับตำราของท่านมาให้ผม...และจนทุกวันนี้พลังคาถาผมไม่เหนจะสลายหายไปเลยกลัยมีแต่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆคับผม ยะงไงห็ขอบคุนนะคับที่เราได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเหนกัน

ขอบพระคุนและขอแสดงความนับถือคับผม
pollamet0524...,,..

 

ผมศึกษามา ทดสอบ ทดลองมาจน มั่นใจ
ผมจึงได้บอกไปเช่นนั้น
ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยแล้วกัน

 

การฝึกวิชาให้สำเร็จถึงระดับที่ต้องการได้
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้กลวิธีการฝึกฝน
ที่ถูกต้องจริงๆเท่านั้น ไม่ควรหลอกตัวเอง
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการปิดหนทางพัฒนา
พลังตนเองอย่างถาวร

 

การฝึกวิชา มีทั้งจริงและ หลอก คนรู้จริงก็มี คนรู้แบบผิดๆก็มาก
สิ่งเหล่านี้ต่างหลอกล่อให้เราหลงทาง เราจึงจำเป็นต้องมีเข็มทิศ
นำทางนั่นก็คือ การทดสอบทดลองวัดผล ของพลังคาถาที่แน่นอน
เท่านั้น วิชาที่นำมาวัดผลที่ดีที่สุดก็คือวิชาทางด้านรักษา เท่านั้น
ที่จะทำให้คุณรู้จริงเห็นจริง นี่คื่อ เคล็ดวิชาส่วนที่ 1 ที่ให้เรารู้จริง
กับความสามารถตัวเอง ที่ผมมักพูดในเวปนี้บ่อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ
อันดับต้นๆ ที่ใครๆมักมองข้าม

 

ตามหลักการว่าด้วยการใช้พลังคาถา คือจิต จิตที่ไม่สนใจระยะทาง
และเวลา ตามหลักการต้องเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องจริงไม่ ต้องอาศัยน้ำ
และการเสกเป่าผ่านมือ และอุปกรณ์ต่างๆ
แต่หลังจากที่ผมได้เจอเคล็ดวิชาตัวนี้แล้ว ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เป็น
ไปตามนั้น เป็นไปตามหลักการพลังจิตคาถา ความเป็นจริงที่ควรเป็น
ไป

 

ต่างคนต่างเห็นต่างคนต่างเชื่อในสิ่งที่ตนเคยพบมา
ไม่จำเป็นต้องเชื่อ ในสิ่งที่อีกคนทำอีกคนเห็น เพราะ
มันก็เป็นเพียงแค่คำพูดใน เนต ที่ร้อยละ90 เป็นเท็จ
มากว่าจริง

 

ที้คุนกล่าวมาเรื่องการวัดผลของการใช้คาถามีหลายวิธี เช่นการรักษาโรคก็ว่าถือเปนส่วนหนึงคับ อันนี้แล้วแต่มติของอาจารย์แต่ละคน แต่สำหรับผมอาจารย์จะให้เสกปูนคาดคอแล้วเอามีดกรีดตัวเอง..ว่าเข้าหรือไม่ถ้าไม่เข้าแสดงว่าอำนาจิตอยู่ในเกณฑ์โอเคและเปนการวัดผลถึงพลังอำนาจของจิตใจโดยตรง...แต่การทดสอบตรงนี้ต้องอาศัยจิตใจที่มั่นใจมากจิงๆถ้าใจไม่ถึงก็คงไม่กล้าทดสอบกันสำหรับผมอะไรก็กีหมดแหละคับ...เพราะไม่มีวิชาไหนที่ไม่ดีใช่ป่ะคับผม

 

แหมท่าจะว่าไป ทางเวปน่าจะการพบปะแลกเปลียนทดสอบวิชาของแต่ละคนก็คงจะดีไม่น้อยนะคับ จะได้รู้ว่าใครจิงใครหลอก เพราะมันจะได้ไม้ต้องเปนแค่คำพูดเพียงเพื่อแค่ให้คนอื่นเค้าเชื่อกัน...ผมเชื่ออย่างนึงคับว่า ของแท้ของจิงยังไงต้องพิสูจน์ได้ ต้องขออภัยด้วยนะคับหากใช้คำพูดที่ไม่ควร แต่มันก็คือความจิง...สุดท้ายมันก็จะมีแต่ของแท้ ไม่ใช่พูดให้คนอื่นเชืรอไปวันๆจิงๆไม่จิงรึเปล่าก็ไม่รู้ ขอบพระคุณคับ#ของจิงต้องพิสูจน์ (คลายเครียดกันไปนะคับผมอย่าซีเรียส)

 

ของที่พูดกันในเวปส่วนใหญ่ ให้ตีความว่าไม่จริง80 จริง20
ไม่ควรปักใจเชื่อ มากเกินไป จนกว่าจะได้พบเห็นเองจริงๆเท่านั้น
จะเป็นการดีที่สุด เพราะสิ่งที่เขาเชื่อมั่นนั้นเป็นของจริงก็จริงอยู่
แต่โดยมากส่วนใหญ่ มักจะเกินจริง

 

และอีกอย่าง คงหวังให้ทางเวป จัดรายการพิสูนจ์ของจริง
คงเป็นเรื่องยาก เพราะมีรายการ TV ที่เขาเฝ้าหาเฉพาะเรื่อง
นี้ ยังหาคนมารองของให้ดูจะๆไม่ได้เลย และอีกอย่าง ถึงเขา
จะทำให้เห็นได้ แต่ก็อาจเป็นการเล่นกลก็ได้ เพราะเราไม่ได้
ไปจับไปทดสอบทดลองว่าของที่เขาทำได้ใน ทีวี เป็นของ
จริง หรือ เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ในการเล่นกลเท่านั้น
ทางที่ดี เราควรพิสูจน์ด้วยตัวเอง และตอบตัวจะเป็นการดี
ที่สุด