ทำอย่างนี้แล้วชีวิตผมจะดีขึ้นไหม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย amakig, 4 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. amakig

    amakig Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +69
    ทำบุญ
    ทำบุญ
    ทำบุญ
    ทำบุญ
    แล้วจะได้ขึ้นสวรรค์
    แต่ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น
    เวลาผมทำบุญ
    ผมจะคิดอยู่ตลอดว่า
    บุญที่ผมได้ทำมานี้ในตอนนี้ในชาตินี้
    ขออย่าให้ผมอย่าได้บุญเลย
    ผมทำเพื่อให้เค้าเจ้ากรรมนายเวร
    ผมไม่ได้อยากได้อะไร
    ขอแค่ให้
    ผมไม่ได้มีจิตกิเลส
    ที่จะอยากได้บุญ
    แล้วนี่หรือพวกที่อยากได้บุญนั้นมีกิเลส
    มีความอยากได้นั่นแหละคือบาปทำไปเพราะอยากขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า
    กลัวตกนรก(ในความคิดของผม)
    ทุกวันนี้ผมก้อทำบุญแต่ผมไม่อยากได้บุญเพราะทำเพื่อการให้
    ไม่ใช่แลกบาปบุญกันผมผิดไหมคับ
    จะมีกี่คนที่คิดแบบผม
    มาต่อว่าได้เลยคับถ้าคิดว่าผมไม่ดี
     
  2. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ไม่ต้องอยากได้รับ และก็ ไม่ต้องไม่อยากได้รับ

    ทางสายกลาง ดีที่สุด ทำแล้วสุขใจก็ทำไป ไม่หวังอะไร ได้บุญไปเต็มๆ...
     
  3. amakig

    amakig Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +69
    ผมบอกแล้วไงคับผมไม่อยากได้บุญทำเพื่อให้
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    ก็คิดเป็นตรรกะเกินไป

    ทำบุญย่อมได้บุญ จะปฏิเสธว่าไม่ได้ คือมาดทางอารมณ์ที่ปรุงภพขึ้นมา
    แล้วก็ยึดมั่นว่าเช่นนั้นถูกต้อง เช่นนั้นเป็นกุศล ที่ทำให้ตัวเองนั่นมีกุศลยิ่ง
    ทำให้ไม่อาจมองเห็นความจริงที่ตรงทางได้

    ขออภัยนะที่พูดอย่างนี้ เพราะในมุมมองของคุณเราคงเป็นอคติเพราะเรา
    ยึดมั่นความจริงที่ต้องเห็นให้ได้นั้นคือ นิพพาน ซึ่งนิพพานที่เรายึดมั่นนั้น
    ไม่อาจเจือด้วยทิฏฐิใดๆ ที่ไม่เป็นไปเพื่อแจ้งอริยะสัจจ์
     
  5. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    มันเป็นเรื่องปกติสามัญของคนทั่วไป
    ส่วนใหญ่ก็อยากได้บุญ
    ส่วนน้อยก็ไม่อยากได้ แบบคุณ
    แต่การทำบุญเป็นเจตนาที่มีผลแล้วทันที
    อย่างคุณนี่ ทำกับข้าว จะเตรียมไปทำบุญ แต่ก็นึกว่าไม่อยากได้บุญ
    พอออกจากบ้าน เจอวัวบ้าขวิดตาย
    ทั้งๆที่อาหารยังไม่ได้ถวายพระ ตกเกลื่อนทาง แต่จิตของคุณออกจากร่างไปแล้ว
    แทนที่จะได้เป็นเทวดา ดันกลับมาเกิดเป็นคนอีก เพราะจิตนั้น เจตนาไม่เต็มที่ ไม่เชื่อและศรัทธาร้อยเปอร์เซ็นต์ได้บุญ แต่น้อยหน่อย
    หรือเหมือนมีนาอยู่สองแปลง
    แทนที่จะหว่านในแปลงที่มีแร่ธาตุ
    แต่จิตของคุณดันไปว่านในแปลงที่แล้งแร่ธาตุ
    ต้นข้าวบุญของคุณจะแคระแกน ต้องเข้าใจ
     
  6. yokine

    yokine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +602
    งับ ทำบุญยังไงมันก็ต้องได้บุญ อ่ะงับ ทำบาป ก็ต้องได้บาป ถึงจะไม่อยากได้ แต่ยังง้ายยังไงมันก็ต้องได้สินะครับ ยิ่งทำด้วยจิตอันเป็นกุศล ผลบุญก็จะยิ่งเยอะขึ้น เห็นว่ายังงั้นนี่นา นะครับ
     
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ถ้าอยากดีขึ้น ก็ไม่ต้องคิดมาก ทำบุญก็คือทำบุญ อยากได้บุญก็ให้มันอยากไป
    ไม่ต้องไปคิดว่า อยากได้บุญแล้วบุญจะน้อย คนเราทำอะไรก็ฟันธงไปทิศเดียวสิ
    เอาขามาแหย่เข้าๆ ออกๆ มันก็ไม่ได้ดีสักทาง

    ทำบุญก็ทำมันไปจริงๆ จังๆ เอาให้มากให้บ่อยไปเลย อย่ามัวแต่คิด
    คนแบบนี้จับจดนี่หว่า ทำอะไรมัวแต่คิด แต่ไม่ลงมือ
    แล้วชีวิตมันจะดีได้อย่างไร ก็มันไม่ทำ เอาแต่คิด

    เลิกได้แล้วไอ้ความคิดมากนี่ ทำอะไรก็ลงมือทำจริงๆ จังๆ อย่ามัวเพ้อเจ้อ
     
  8. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +3,151
    เห็นความไม่อยากหรือเปล่าละ นั้นแหละคือความอยากแบบหนึ่ง เรียกว่าวิภวตัณหา ความไม่อยากแบบนี้แปลกว่ามันไปแอบอยากอย่างอื่น

    คนที่ทำบุญไม่หวังผลมีเยอะนะ เค้าทำเพราะเล็งเห็นประโยชน์ในสิ่งที่ทำ ส่วนบุญบาปมันก็ได้ของมันเอง
     
  9. amakig

    amakig Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอบคุณทุกความคิดเห็นคับ
     
  10. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    จะสุข จะทุกข์

    จะเป็นคนดี หรือ คนไม่ดี

    จะชื่อว่าหลุดพ้น หรือว่า ชื่อว่าไม่หลุดพ้น

    ไม่ได้อยู่ที่การบังคับ ไม่ได้อยู่ที่การดัดแปลง แทรกแซง
    หรือ เอาแต่ระงับไม่ก่อเหตุ หากแต่อยู่ที่ให้เหตุเกิดขึ้นไป
    ตามแต่ปัจจัยที่มี แล้วรู้จักควบคุมไม่ให้ถล้ำลึกไปข้างใด
    ข้างหนึ่ง ไม่ให้ถล้ำไปข้างมีสุขแก่ตน ไม่ให้ถล้ำไปข้าง
    สร้างความคับแคบเจาะช่องทางพอดีแก่ตน เท่านี้เราก็จะ
    อยู่บนทางสายกลาง สายเดียวกับพระพุทธองค์

    การเล่นกระทู้ ตอบกระทู้ โพสกระทู้ โต้กระทู้ ก็อยู่บนทางสาย
    กลางนั้น ตราบใดที่รู้จักควบคุมไม่ให้เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
    ไม่ใช่อยู่ลอยๆ ไม่เสวนา ไม่ทำกิจ แล้วกระโดลงมาเป็นผู้อยู่
    เหนือปัญหาทะเลาะวิวาท หากแต่การรู้จักกระโดดลงมาแต่รู้
    จักสำรวม สังวรณ์ เท่านี้ก็จะพบได้กับความทุกข์ และสุข ที่เป็น
    อารมณ์ อันเป็นนามรูป ที่ใช้ในการวิปัสสนา เมื่ออินทรีย์สังวรณ์
    ดี ไม่ก่อกรรมมากเกินเลย ทุกอย่างก็จะออกมาด้วยเหตุและผล
    ประกอบขึ้น และยังมีอารมณ์ให้ระลึกรู้ตามจนสามารถยกเป็นองค์
    ในการวิปัสสนาได้

    ธรรมะก็มีง่ายๆ แค่นี้ อย่าไปดัดแปลงอะไร ไม่ต้องสร้างภพของ
    การเป็นคนดี แล้วกำหนดกฏเกณฑ์ ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตาม
    ธรรมชาติ อันเป็นปรกติของเรานั้นแหละ จะได้รู้จักตัวเอง ไม่ใช่ซ่อน
    ตัวเองไว้

    การรู้ธรรม ก็คือการรู้ตน อันเป็นที่มาของ ปัจจัตตัง ที่ไม่ใช่ภาวะแยก
    ยกตัวเองออกจากใครๆ และอย่าไปปรุงภพเพื่ออยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2008
  11. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    กุศลาธรรมา (ธรรมที่เป็นกุศล) อกุศลาธรรมา (ธรรมที่เป็นอกุศล) อพยากตาธรรม (ธรรมที่เป็นกลาง ๆ)

    ในฐานะที่ยังเป็นปุถุชน ยังไม่รู้แจ้ง จิตต้องมีที่เกาะเป็นธรรมดา ถ้าไม่เกาะกับกุศล แล้วจะให้ไปเกาะกับอะไรอกุศลเหรอ ส่วนธรรมเป็นกลาง ๆ เป็นธรรมของท่านที่ฝึกจิตฝึกตนบ้างแล้ว

    ผู้ฉลาดย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง

    การทำบุญแล้วหวังบุญไม่ใช่กิเลสนะ อย่าเข้าจผึดอย่างมหันต์เพราะจะเป็นมิจฉาทิฐิ กิเลสคืออะไร คือสิ่งที่ทำให่เกิดทุกข์ ส่วนบุญกุศลคือสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขกับจิตใจ

    บุญนะ รวมทั้งบาปด้วย ถ้าทำลงไปแล้วจะหวังหรือไม่หวังให้สุขใจหรือทุกข์ใจ ต้องได้รับทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อทำบุญแล้วไม่หวังก็ได้รับ

    ถ้าทำบุญแล้วฉลาดทำเราก็ฉลาดที่ละเลือกรับผลตอบแทน นั่นคือ การอธิษฐานเอา เราอธิษฐานอะไรเลือกเอา... เช่นขอให้บรรลุธรรม ขอให้เจ้ากรรนายเวรอโหสิ อทิษฐานก็เป็นการสร้างบารมีอย่างหนึ่งและเป็นวิธีการให้บุญเรามีแรงมีเป้าหมาย

    ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า ถ้ายังข้ามฝั่งไม่พ้น เราก็ต้องเกิด เราก็ต้องเป็นคนเลือกภูมิเกิดได้เอง ไม่มีให้เลือกมาก มนุษย์โลก สวรรค์ และพรหมโลก ท่านว่าจะเป็นเทวดา หรือพรหม ต้องไม่ใช่ไปจากทาน ต้องไปจากการปฏิบัติและเป็นเทวดาเป็นพรหมต้องเป็นเทวดาหรือพรหมพระอริยะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2008
  12. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    บุญ คือ อะไร ?

    คนใส่บาตร ช่วยเหลือคนนู้นคนนี้

    ทำไปก็ หวัง บุญ ทั้งนั้นแหละ

    ถ้าไม่มีคำว่า บุญ ทุกคนจะทำหรอ

    มันเหมือนเป็นตัวช่วย คอยมา ช่วย ทำให้ ทุกคนทำสิ่ง ดีดี

    คอยช่วยทำให้เราสบายใจ เวลาเราทำสิ่งดีดี

    มีใครบ้างหรอ ที่ทำสิ่งดีดี แล้วไม่คิดถึง มัน

    มีใครเคยเห็น บุญ ไหม

    มีใครเคยได้ บุญ ไหม

    คุณทำไปคุณรู้ได้ ยังไง ว่ามันได้ ไม่ได้

    บุญ มันมาเป็น ตัวๆ หรอ
     
  13. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    คนๆ นึงฆ่าคนเพราะไม่รู้สึกว่าผิด จะยังได้บาปหรือเปล่า?
    คนๆ นึงทำบุญแล้วไม่คิดว่าเป็นการทำบุญ จะยังได้บุญหรือเปล่า?
     
  14. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +874
    ผมไม่ได้ืำบุญ ผมทำให้คนอื่นสบายใจ และผมไม่หวังสิ่งตอบแทน
     
  15. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ได้เต็ม ๆ เหมือนกันถึงจะไม่รู้ก็ตาม แต่ที่ไม่รู้ไม่น่าจะมี เพราะจิตสั่ง เพียงแต่น่าจะตระหนักหรือปล่อยวางได้ดี จริง ๆ แล้วการทำบุญแล้วไมหวังบุญนี้ถือว่าเป็นเลิศนะเพราะทำยากและเป็นวิธีที่ถูกด้วย คนทำบุญแล้วหวังบุญจะไปเกิดเป็นเทวดา ทำบุญแล้วไม่หวังบุญจะบรรลุธรรมเป็นพระอริยะเจ้า
     
  16. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "บุญที่ผมได้ทำมานี้ในตอนนี้ในชาตินี้
    ขออย่าให้ผมอย่าได้บุญเลย"

    -----------------------------------------------------
    เวลาคุณกินข้าวคุณอิ่มเองใช่ไหมครับ แล้วถ้าคุณอยากให้คนอื่นอิ่มแทนคุณได้ไหมครับ

    "กรรมมุนา วัตตะตี โลโก"
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    Action = Reaction
     
  17. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    เราควรปรับความเห็นให้ตรงกับพระธรรมวินัย อย่าใช้ตรรกะที่เราด้นเดาเอาเองซึ่งผิดเพี้ยนไปจากความจริงมาก ซึ่งเป็นบาปเพราะว่ามีโมหะจริต ไม่ได้เข้าใจกฎแห่งกรรม บุญบาป ตามความเป็นจริง สำคัญผิดในสาระแห่งบุญ พระพุทธเจ้าตรัสว่า บุญคือที่มาแห่งความสุข ทำบุญแล้วขึ้นสวรรค์เป็นกฎแห่งกรรมไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยากก็ตาม มันเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวเช่นนั้นเอง การได้บุญมากน้อยไม่ได้ขึ้นกับว่าเราอยากได้บุญหรืออยากขึ้นสวรรค์หรือไปนิพพาน แต่บุญขึ้นกับเหตุ 3 ประการ คือไทยธรรมบริสุทธิ์ มีเจตนาบริสุทธิ์ และมีเนื้อนาบุญทีบริสุทธิ์
    เจตนาบริสุทธิ์ก็คือ มีปิติเลื่อมใสในการทำบุญ ทำด้วยปัญญา คือรู้ผลบุญและวิบากของบุญตามความเป้นจริง ไม่ใช่ทำด้วยความหลง ทำบุญแล้วอยากขึ้นสวรรค์ไม่ใช่กิเลส เหมิอนการเรียนหนังสือก็เพราะต้องการได้ความรู้ไปทำมาหากิน การวิเคราะห์บุญแบบผิดๆที่คุณรับรู้มาเป็นการตีความด้วยความหลงของนักคิดบางคนเท่านั้น ลองศึกษาต้นตำรับจากพระไตรปิฎกโดยตรง แล้วปรับความเห็นที่เราเล่าเรียนมาให้ตรงกับพระพุทธเจ้าสอนก็น่าจะดีกว่า
    คุณเคยเห็นบ้างไหม คนที่มีทุกอย่างแต่ไม่มีความสุขในชีวิต ก็เป็นเพราะมักตำหนิติเตียนบุญของตนเอง เวลาบุญส่งผลก็จะทำให้ไม่มีความสุขในโภคทรัพย์หรือในชีวิต ซึ่งข้อเขียนที่คุณพยายามสื่อก็เป็นวิบากกรรมในทำนองนี้เช่นกัน คุณทำบุญแต่ไม่อยากได้บุญ เวลาบุญส่งผล คุณก็ได้เป็นเศรษฐี แต่มักไม่อยากใช้ทรัพย์ ชอบใช้ชีวิตแบบปอนๆแบบยาจก มีทรัพย์ก็เหมือนไม่มี เรื่องทำบุญกุศลเพิ่มเติมจากทรัพย์ที่มีก็เป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก
    ส่วนเรื่องไปสวรรค์ไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะทำบุญมากแค่ไหนอย่างมากก็ไปได้แค่ระดับภุมมเทวาเท่านั้น เพราะความคิดที่ผิดเกี่ยวกับบุญทำให้เจตนาฝ่ายผู้ให้ไม่บริสุทธิ์เพราะเจือโมหะจริตเข้าไป ซึ่งตัดรอนบุญกุศลที่เราทำ ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น นี่คือกฎแห่งกรรม
    แนวความคิดเชิงลบที่มีไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น เราควรคิดแง่บวกอย่างเดียว เขาทำบุญอยากไปสวรรค์เราก็อนุโมทนา ควรคิดว่าเขาทำความดีแต่ยังไม่สมบูรณ์เพราะไม่ได้ทำเพื่อนิพพาน คิดอย่างนี้เราก็ได้บุญ แต่ถ้าคิดแง่ลบ เวลาเขาทำบุญเพราะอยากไปสวรรค์ เราก็นึกติว่าไม่ถูกต้องเป็นความเขลาเป็นกิเลส คิดแบบนี้ก็ได้บาป
    คำตอบที่คุณถามจึงมีสองแง่ให้พยากรณ์คือ ถ้าทำอย่างนี้ แล้วชีวิตคุณจะเป็นอย่างนี้คือ ด้านเจริญก็จะมีแค่พอประมาณไม่เต็มส่วน แต่ด้านเสื่อมจะมีมากแบบเต็มที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2008
  18. ninjabadboy

    ninjabadboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +517
    ถ้าอยากจะให้เจ้ากรรมนายเวร จริงๆไม่แผ่ ส่วนกุศลผลบุญไปให้เขาเอาละครับ
    ชัวร์กว่าเยอะเลย
     
  19. กังขา ณ ปลาย

    กังขา ณ ปลาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +1,763
    บาปบุญ ปกติแลกกันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ
    ทำบุญเพื่อให้คนที่เราช่วยมีความสุข หลุดจากทุกข์ที่เผชิญอยู่ นั่นถูกต้องที่สุด

    ไม่ต้องหวังบุญ ก็ไม่ผิด
    เป็นกุศลอีกต่างหาก คือทำบุญแบบไม่หวัง สุขก็รับไปขณะทำ

    แต่มาคิดชวนปวดหัวนี่ทีหลัง กลายเป็นประเด็นใหม่
    แต่ก็ดี เพื่อจะได้หาความจริงกับสิ่งที่สงสัย

    การทำบุญ มีอานิสงส์อย่างไร
    หาอ่านเอาเองนะ

    ทำบุญได้บาปก็มี
    ทำบุญแล้วได้บุญน้อย บุญมากก็มี
    ไปทำบุญแล้วมาทำบาปอีก ก็ไม่ดี

    อะไรที่เหนือทั้งบุญและบาป ก็มี
    บุญที่ไม่หวังของพระโพธิสัตต์ นั้นสุดประมาณ ลองศึกษาดู ก็ดี

    คำสอนพระพุทธองค์ บอกรายละเอียดทั้งหมดอยู่แล้วค่ะ



    (*)
     
  20. appyLuny

    appyLuny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +206
    ดีมากค่ะ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...