ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ร่วมทำบุญกับท่านครูบาเหนือชัย(ครูบาขี่ม้าออกบิณฑบาตร)แห่งวัดถ้ำป่าอาชาทอง อ.แม่จัน.จ.เชียงราย ในการเปลี่ยนหลังคาศาลาปฏิบัติธรรม 500 บาท

 

ยังลอยอยู่บนเทือกเขาสูง ในทิเบต มาหลายคืนแล้ว
หาทางกลับไม่ได้

ฟังเพลงนี้ไป ก็คิดถึงความหลังไป แต่ว่า จะไปเล่าสาระบ้างเนอะ
การฝึกพลังงาน

ป.ล.ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ ไปเปิดเจอเพลงในยูทูป โดนบังเอิญ(อีกแล้ว)

 

ในยุคนั้น ของทิเบต ลามะทั้งหลายมีจิตวิญญานอันแข็งแกร่ง
และเชื่อในการกำเนิดใหม่ การกลับชาติมาเกิด การจุติจิต
การทำนาย และดวงดาว เป็นศาสตร์แห่งจิตวิญญาน ที่ลึกซึ้ง
ไม่ใช่เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า


ดาวคู่ คือสิ่งที่เหล่าลามะ ติดตาม รอคอย ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ในที่สุดพลังงานในโลกจะสมดุลย์อีกครั้ง เมื่อหยินหยาง อิมเอี๊ยงได้มาบรรจบกัน

 

เมื่อวันที่ท้องนภามืดมิด ดวงดาวสองดวงเจิดจ้าขึ้น คู่กับดาวเหนือ
เกิดแสงฉัพรังสี บนท้องฟ้า(แสงเหนือ) ซึ่งเป็นตัวแทน
แห่งการสำเร็จทางจิตวิญญาน
จิตวิญญานที่บริสุทธิ์ เมื่อนั้นผู้ถูกกำหนดให้มาบำเพ็ญเพียร
เพื่อเป็นดั่งดวงดาวนำทาง
ให้แก่จิตวิญญานอันบริสุทธิ์ จะถือกำเนิดอีกครั้ง ผู้มีพลังจิตอันสูงส่ง
ผู้ที่จะเปิดประตูสู่ดินแดนที่เราใฝ่หา ซัมบาลา

 

ซัมบาลา หรือ แดนสุขาวดี
ดินแดนแห่งความเชื่อของเหล่าผู้ปฏิบัติในสายวชิรญาน

ในทางพุทธศาสนาแบบไทย ดินแดนสูงสุด คือ ไม่มีดินแดน นิพพาน
แต่ในพุทธแบบทิเบตนั้น ดินแดนแห่งจิตวิญญาน สวรรค์เหนือสวรรค์ คือ
ซัมบาลา ไม่มีสิ่งงามวิจิตร มีแต่จิตวิญญาน ท้องทุ่งหญ้า กลุ่มเมฆ อากาศเย็นสบาย
ความว่างเหนือความว่าง ความสงบเย็น ความเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ

ดินแดนสำหรับผู้บริสุทธิ์ทั้งกายและใจ ดินแดนแห่งจิตเดียว ดินแดนแห่งเมตตา

 

ท่านพี่ กระต่ายป่า หากอยากแทรกตอนไหน เชิญเลยนะคะ
ท่าทางท่านพี่จะจำได้ก่อนจารุ เผื่อจะได้กระตุ้นเตือนความจำ 555

เรื่องนี้เขียนยากจัง ลึกลงไประดับการเดินธาติ พลังลมปราณ
ไปพลังกุลฑาลิณี(งูไฟ) ไปทะลุพลังจักรวาล ไม่เขียนก็ไม่ได้
มันไม่กลับมาเลย ตัวจารุ

 

ย้อนกลับไป วันนั้นลามะสูงสุด นิมิตไปในสมาธิ ว่าเห็นแสงเจิดจ้า
แสงแห่งฉัพพรังสี(สีรุ้ง) อันงดงาม เกิดความปิติกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

แสงนั้นเอิบอาบในสมาธิ แล้วแปรเป็น พระโพธิสัตว์ของทิเบต ทั้งชายและหญิง
แยกออกไปซ้ายขวา ด้านละข้าง งดงามในความรู้สึก จากนั้นเกิดภาพนิมิต
อันพิศดาร ภาพทั้งซ้ายและขวา กลับแปรเปลี่ยนไป เป็นงูเพลิงสองตัว
กอดรัดพลันกัน พลันบังเกิด ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นบอลพลังงาน ล้อมรอบ
งูเพลิงทั้งคู่ เป็นชั้นพลังงาน ทุกอย่างหมุนวน แลัเริ่มไหลมารวมกัน
กลายเป็นดวงจิตสว่างดวงเดียว มีบอลพลังงานเป็นลูกสี่ลูก ล้อมรอบดวงจิตนั้น
บอลพลังงานทั้งห้า หมุนวนอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆกลายเป็น จักรวาลอันกว้างใหญ่
ไร้ขอบเขต บอลพลังงาน ยังลอยนิ่ง แล้วดวงจิตที่ลอยอยู่กลางบอลพลังงานนั้น
ก็เริ่มดึงดูดบอลพลังงานเข้ามา จนเหลือดวงเดียว พลันบังเกิด ดอกบัวสีชมพู ผุดขึ้นมาแทน แสงนั้นกระจายออกไป สุดรอบขอบจักรวาล
แล้วบังเกิดดินแดน ซัมบาลาต่อหน้า ลามะสูงสุด

จักรวาลหนึ่งเดียว ที่สุดของสวรรค์ในจักรวาลทุกจักรวาล ทุกชาติพันธ์
จิตวิญญานที่บริสุทธิ์ ไม่แบ่งแยกศาสนา ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ไม่แบ่งแยกเผ่าพันธ์

 

แต่ลามะสูงสุด ยังไปไม่ถึงซัมบาลา ด้วยกำลังญนที่ยังไม่ได้ญานตรัสรู้

สมาธินั้น กลับลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ลามะสูงสุด ถอดถอนออกจากสมาธิ

ระลึกได้เพียงร่างกายเอิบอาบไปด้วยพลังงาน แม้เพียงแวบเดียวที่ได้สัมผัส

 

ป.ล.นิทานนะจ๊ะ นิทาน ฟังไปให้เพลิน
ช่วงนี้กลัวค่ะ กลัวพวกอินเกิน 555
บางกระทู้นี่ป่วนไปเลย

 

เล่าต่อนะจ๊ะ

ลามะสูงสุด ตีปริศนานั้นไม่ออก บนวัดลามะนั้น อยู่บนยอดเขาสูง
เสียงลมพัดระฆัังหมุนให้หมุนไปตามจังหวะ ลามะอยู่ในหอสวดมนต์เพียงผู้เดียว
ห้องนั้นมืดสนิท มีเพียงกลิ่นกำยานลอยอ้อยอิ่งอยู่ในสายลม

ลามะลุกเดินอย่างช้าๆ เปิดประตูบานใหญ่ออกไป เสียงแง้มประตูเบาๆในยามวิกาล
ก็เพียงพอให้ลามะสองรูปที่หน้าประตู ถอนจากสมาธิ ทั้งคู่ โค้งศรีษะ ให้ลามะสูงสุด
ลามะสูงสุดหันไป ใช้เพียงมือสร้างกระแสลม ประตูที่หนาหนักนั้นก็ปิดลงเอง

(ลามะสูงสุด สำเร็จปราณพลังลม และนอกจากนั้น ยังสำเร็จพลังดินน้ำลมไฟ)

 

ใช่จ้า จารุจะมาบอกว่า ไอ้กสิณที่เราทะเลาะกันอยู่ ว่ามันใช่แนวทางพุทธศาสนามั้ยนั้น

เป็นนะ เป็นทุกแนวทาง ฝึกกันทุกเชื้อชาติจ้า ฝรั่ง จีน ทิเบต แขก ไทย เขมร ลาว พม่า 5555
แล้วแต่ใครจะเรียกแบบไหน

จะยังไง ก็พลังงานเดียวกัน จะกสิณไม่กสิณ จะสูตรใคร จะมาม่าแบบไหน
ใส่ไข่ ใส่หมู ใส่ผักเพิ่มมั้ย ก็มีส่วนผสมหลัก คือ เส้นมาม่ากับน้ำร้อน อ่ะจ๊ะ

 

ลามะ สูงสุดและลูกศิษย์ซ้ายขวา ที่เดินตามลามะสูงสุด
(เดินตามแต่ห่างเป็นเมตร ) ลามะสูงสุดนั้น ไม่ค่อยเดินไไหน
ท่านชอบนั่งเข้าฌานเป็นหลายวัน นั่งไม่ขยับ ดำดิ่งในสมาธิ
แต่ร่างกายท่านกลับแปลกประหลาด ผิวพรรณดูผุดผ่อง แววตามีแวววาว
ราวกับแววตาของเด็กหนุ่ม ดำสนิท และหมุนวนได้

ท่านลามะเดินไปที่ลานโล่งด้านหน้าวัด ลมหนาวเย็นแห่งเทือกเขาสูงพัดมา
แม้เป็นยามค่ำคืน แต่เมื่อเหม่อมองไป บนเทือกเขาสูงเบื้องหน้า กลับปรากฏ
เพียงก้อนเมฆก้อนเดียวลอยเด่นอยู่ ก้อนเมฆนั้นรูปร่างเหมือนธงที่โบกสะบัด

ลมพัดเย็นขึ้น แรงขึ้น เสื้อผ้าลามะนั้นปลิวสะบัดอย่างแรง แม้ร่างกายจะผอมบาง
แต่ขาลามะสูงสุดกลับไม่สั่นไหว ลมพัดแรงราวกลับพายุ ลูกศิษย์ทั้งสอง แทบยืนไม่อยู่
ทั้งคู่ต้องคุกเข่าเพื่อต้านแรงลม ลามะ พัดโบกมือเป็นการเคลื่อนไหว เหมือนสัญลักษณ์หยินหยาง
แล้วปล่อยลมของท่านออกไปทางลูกศิษย์ทั้งสอง
ทั้งคู่เหมือนโดนกระชาก ไหลไปตามพื้นหิน ไปกองรวมกันที่หน้าประตูหอสวดมนต์
พ้นจากแรงพายุ

ลามะเดินพลัง จากปราณลม เดินลงสู่ ขา แปรเปลี่ยนพลังงานเป็นพลังงานดิน
ขาของท่านและพื้นหินกลายเป็นธาตุเดียวกัน ร่างกายทั้งร่างกลับเป็นพลังงาน
ที่หมุนวน ขาของลามะค่อยๆวาดออกไปข้างๆ ทางด้านขวา ตัวย่อลง
ลามะหมุนจักระ และพลังงานไปทางขวา รู้ึกความเย็นที่แก้ม และความแสบที่ผิว
หิมะ ตกอย่างรวดเร็ว ลามะสูงสุดเดินพลังงาน ความร้อนจากจักระที่เจ็ด แผ่กระจายไปทั่วร่าง พลังกุลฑาลิณี เริ่มจากจุดก้นกบ ไหลย้อนขึ้นด้านบนผ่านตามจุดต่างๆ
หนึ่งรอบ จนมาบรรจบที่เดิม จากนั้น จึงกักเก็บพลังงานนั้นไว้ แล้วย้อนกลับขึ้นไปใหม่ คราวนี้เชื่อมโยงกับจุดศูนย์กลางกระหม่อม ความร้อนเริ่มระอุไปทั่วร่าง
ยืด หด รับ เหวี่ยง ดูดและปล่อย

แล้วเก็บพลังงาน ท่านลามะเดินพลังเจ็ดรอบ หิมะรอบกายก็หยุดตก

ป.ล.(ลามะสูงสุดเป็นพรหมจรรย์นะจ๊ะ บอกทำไม บอกไปต้องมีเหตุผลซินะ อิอิ)

 

กำลังหนุก แต่จะไปนอนแล้ว 555 รอท่านต่าย ผู้เดินลมปราณยาม

มาสั่งสอน ศิษย์น้อง สาธุ

ป.ล.ถ้าท่านอื่นอยากแจมก็เชิญนะจ๊ะ แต่อย่าด่าขอร้องนะ

 

เขียน ๐๐.๑๒

...ลมปราณ ที่มี ซี๊มาขอ
โปรดรอ พรุ่งนี้ จะมีใหม่
เพื่อนเก่า เค้ามา หาในใจ
แล้วแบ่ง ปราณไป ไม่เหลือพอ


กระต่ายป่า กะสหาย / สุนทรทู่
.

 

บอกบุญก่อนเล่าเรื่องค่ะ

ขอเชิญร่วมสร้างบุญบารมีปิดทองคำแท้ สร้างพระประธาน ถวายหลวงพ่ออิ่มบุญ

พระประธานศาลาการเปรียญ วัดลี้หลวง จ.ลำพูน

กองทุนละ 199 บาท 199 กองบุญ

ปัจจัยส่วนที่เหลือ สร้างฐาน และศาลา เจ้าภาพทุกกองบุญ
จะได้จารึกชื่อในแผ่นทองบรรจุในองค์พระ

รับปัจจัยถึง วันที่ 31 ก.ค. 2558

บช.ธนาคารออมสิน สาขาลี้ ชื่อบัญชี สำนักศาสนา วัดลี้หลวง
เลขที่ 0200 9425 9197


บช. ธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านโฮ่ง ชื่อบัญชี พระณัฎฐกิตต์ นาถสีโล
เลขที่ 514-0-25418-2

ป.ล.พรุ่งนี้จารุเปิด 1 กอง
ป.ล.2 ร่วมบุญแล้วกรุณาบอก ชื่อ สกุล เพื่อแจ้งทางวัดทำแผ่นทองบรรจุองค์พระต่อไป
ป.ล.3 รีบๆนะจ๊ะ ถึงแค่วันที่ 31 ก.ค.ค่ะ เพื่อวัดจะได้จัดเตรียมแผ่นทองทัน
​

 

กลับสู่เทือกเขาสูง ในทิเบต

ลามะสูงสุด ยกขาข้างขวาที่กวาดไปข้างลำตัว เข้ามาแนบตัว
แล้วก้มลงช้าๆ คุกเข่าสวดมนต์กลางลานดาดฟ้าอันกว้างใหญ่
บนวัดของลามะ บนยอดเขาสูง เสียงสวดเบา แต่หนักแน่น กังาน
เหมือนท่วงทำนองเพลงอันสงบ สวยงาม จิตใจที่สับสน รวมสู่ศูนย์กลาง

จากจุดหว่างคิ้ว ลงสู่ลิ้นปี่ จุดสะดือ แล้วย้อนกลับสู่ท่อกลางกาย
เส้นสายพลังงานของท่าน รวมเป็นท่อ พุ่งตรงสู่จุดกลางกระหม่อม
ดอกบัว ณ ศูนย์กลางกลาย บริเวณเหนือสะดือ เริ่มหมุนอย่างช้าๆ
ตามจังหวะเสียงสวดมนต์ กายและใจและจิตรวมเป็นหนึ่ง

จากนั้น ดวงจิตลอยขึ้นสู่จิุดใต้ลิ้นปี่ เป็นดั่งดวงแก้ว เหนือดอกบัว
แยกจิต ออกได้อย่างชัดเจน ธาตุดินน้ำลมไฟ เป็นเพียงธาตุที่ไหลวนรอบตัวตน
ไม่มีเส้นสายพลังงาน ให้เห็น มีแต่ความเป็นหนึ่ง แต่แยก ธาตุและจิตออกจากกันได้

 

จิตเกิดพุทธะ ในจิตลามะเชื่อมพลังกับพลังโพธิสัตว์ได้
บังเกิดภาพ พระพุทธะ ทั้งหมดขึ้นในจิต ในห้วงแห่งความว่าง

พระวัชระสัตวะ

และบดสวด วัชรมหาสัตวศตอักขระประภามนตรา

โอม วัชระ สัตวะ
สะมะยะ มะนุปาละยะ
วัชระ สัตวะ
ตะเวโน ปรติสถะ
ทริโธ เม ภะวะ
สุโตสโย เม ภะวะ
สุโปสโย เม ภะวะ
อนุรักขโต เม ภะวะ
สรวะ ติง สิทธิม
เม ประยะ จฉะ
สรวะ การมาสุ
จ เม จิตตะ
ศริโยห์ หุม
คุรุ
หา หา หา หา โหห์
ภควัน
สรวะ ตะถาคะตะ
วัชระ มา เม มุนติลเตจะ
วัชระ ภะวะ
มหา สะมะยะ
สัตวะ อาห์

 

ป.ล.มิน่าใจจารุชอบจับภาพพระตลอด
ป.ล.2 มิน่าชอบฝันว่านั่งสัปหงกสวดมนต์ในห้องโถงสูงใหญ่ประจำ
ป.ล.3 มิน่าชอบฝันถึงสภาวะแปลกๆ แบบแยกจิตแยกธาตุประจำ

 

จากนั้น ภาพในจิตดับลง หิมะตกต้องผิวกายของลามะสูงสุดอีกครา

ดวงตาลามะสูงสุดค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ แล้วมองขึ้นบนฟากฟ้าในคืนนั้น

ปรากฏแสงฉัพพรังสี ดังที่ลามะสูงสุดองค์ก่อนได้สั่งไว้ทุกประการ

แล้วดาวสองดวงก็ส่องแสงเพียงครู่เดียว ดาวทั้งสอง ก็ตก แต่ทิศทางนั้น
ไม่ได้ไปทางเดียวกัน ดาวดวงใหญ่ กว่าตกไปที่ทิศทางแห่งพระราชวัง
ดวงดาวอีกดวงที่เล็กกว่า ตกลงสู่หุบเขาอันห่างไกล เป็นที่อยู่ของชนเผ่าเร่ร่อนของทิเบต

 

จากนั้นเรื่องราวแห่งการค้นหาจิตวิญญาน และซัมบาลาจึงเริ่มขึ้น

ป.ล. จะเขียนจบมั้ยเนี่ย พี่สิงห์อีก

จะเอาใจ ฝั่งไหนดี มากันทุกนิกายเลยมั้ยเนี่ย ยังเหลือมหายานยังไม่ได้เขียน

แก่กันไปข้าง ตายกันไปข้างมั้ง กระทู้เนี่้ย 555

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอยู่เสมอ และร่วมทำบุญ

ป.ล.เขียนมาตั้งนาน จะมีใครเห็นภาพแบบทิเบตมั้ยน้า หรือได้ยินเสียงระฆังหมุนยังน้อ

อนุโมทนา สาธุ