เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    น้องนกจะไปประกวดเหร๋อ...เดี๋ยวบอกเพื่อนๆให้ตามเชียร์ ช่วยกันโหวตครับ
    ช่วงนี้เงียบหน่อย คุณจินตวดีก็ตั้งใจจะอ่านหนังสือให้จบทุกเล่ม
    จึงจะเข้ามาคุยด้วย เห็นว่าเหลืออีก 3 เล่ม
    ส่วนคุณขจรวรรณ ที่ทำงานซ่อมระบบโทรศัพท์กันอยู่เลย
    คุณเฉลยไม่ได้ข่าวเลย..คงเตรียมเป็นเถ้าแก่ครับ
    น้องมายด์หายเข้ากลีบเมฆอะไรอยู่ทำไม่รู้ อิอิ
    น้องลูกเกด..เข้ามาอ่านบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยโพส..ทักกันบ้างนะครับ
    คุณ Year Of The Cat อยู่ไหนครับ

    ใครหายไปนานๆมารายงานตัวนะครับด้วยใกล้สอบแล้ว..เดี๋ยวจะลึมหมด

    (deejai)(deejai)(deejai)
     
  2. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Alvamar Country Club

    ส่งข่าวค่ะหัวหน้าฯ ช่วงนี้ติดงานหนักค่ะ เพราะว่า art show คราวนี้เป็น Show & Tell คือแทนที่จะนำผลงานไปติดตามผนังแล้วให้ผู้ชมเดินชมเองใน Gallery ตามปกติ เขาจัดเป็น Luncheon ที่ Alvamar Country Club ซึ่งเป็น Club ชั้นนำของเมือง Lawrence http://www.alvamar.com/golf/proto/alvamar/country_club/country_club.htm จัดในห้องจัดเลี้ยงที่เป็นห้องกระจกที่ overlook สนาม golf โดยมีโต๊ะกลมจัดเลี้ยงอาหารกลางวันหลายโต๊ะ มีทั้งหมดประมาณ 100 ที่นั่ง


    ผู้เข้าชมร่วมรับประทานอาหารและฟัง artist เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเองและที่มาของผลงาน บางส่วนของผลงาน จะจัดตั้งไว้ด้านหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง งานนี้มี artist ได้รับเชิญให้ไป present สองคน คือ Anna Carol Wright ซึ่งเป็น artist ที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง เธอวาดภาพสีน้ำมัน และอีกคนก็คือ พี่นักเขียน :p

    งานของพี่นักเขียนส่วนใหญ่เป็นภาพเหมือนที่มีขนาดเล็ก ซึ่งก็นับว่าเหมาะกับงานนี้ เพราะสามารถทำเป็น Album และส่งไปตามโต๊ะจัดเลี้ยงได้สะดวก แต่ว่า director ของ art center ที่เลือกพี่นักเขียนไปแสดงผลงาน ขอให้พี่นักเขียนนำหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัยไปเล่าให้ผู้ร่วมรับประทานอาหารฟัง พร้อมกับนำเพลง album ชุด มนตราอนาลัยไปเปิดในงานนี้ด้วย

    นอกจากนี้ก็กำหนดให้พี่นักเขียนนำภาพวาดด้วยกาแฟ espresso ภาพเหมือนที่วาดด้วย graphite ภาพ Himalaya ที่วาดด้วย Acrylic และล่าสุดคือภาพเหมือนที่วาดด้วย prisma color ไปแสดงในงานนี้

    พี่นักเขียนกำลังวาดภาพเหมือนคณะกรรมการของ club นี้ซึ่งมีทั้งหมด 9 คนด้วยกัน เสี่ยงหน่อยค่ะ แต่คิดว่าคงจะทำให้ครึกครื้นได้พอสมควรค่ะ เพราะเป็นใบหน้าที่แขกในงานทั้งหมดรู้จักดี หากเห็นภาพแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร พี่นักเขียนก็คงจะ happy แต่ถ้าหากผู้ชมดูแล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร เราก็จะได้รู้ว่ายังต้องพัฒนา จะได้พัฒนาต่อไม่ให้ตาเราหลอกตนเองให้หลงไปตามความเชื่อ

    พี่นักเขียนต้องขอตัวเตรียมงานก่อนนะคะช่วงนี้ เพราะรู้สึกว่าเป็น artist มือใหม่มากเมื่อเทียบกับ Wright ซึ่งเป็นมืออาชีพที่ paint มาหลายสิบปี และอยากจะให้มีผลงานที่ดีพอสำหรับงานนี้ เพราะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเปิดตัวอีกครั้ง คิดถึงทุกคนค่ะ(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2008
  3. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    Cheer!

    สู้ๆ ครับพี่นักเขียน
    ขอส่งกำลังใจไปถึงเมือง Lawrence
    และจะรอชมภาพถ่ายบรรยากาศในงานครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Year of the Cat

    Year of the Cat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +236
    หายเงียบกันไปหมดเลย คุณครูติดธุระ นักเรียนก็โดดกันเป็นแถว ระวังติด "ร" นะจ๊ะ ...หัวหน้าห้องเข้ามารายงานตัว แต่ก็ยังไม่ส่งการบ้าน ฮิฮิ
    -----------------------------------------------------------------------

    1. รู้สึกอย่างไรเมื่อมองดูภาพแรกสุดกับภาพสุดท้ายที่คุณวาด
    รู้สึกถึงพัฒนาการของตัวเอง

    2. ในขณะที่วาดภาพแรกสุด มีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอย่างไรและในขณะที่วาดภาพสุดท้ายมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดอย่างไร
    <O:p</O:p
    ภาพแรก อารมณ์คือ ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะวาด และยังไม่ได้มีจินตนาการอะไรๆ เพราะพะวงอยู่กับการพยายามวาดภาพตัวเองให้เหมือน

    ภาพสุดท้าย ก็มีความรู้สึกสนุก เพลิดเพลิน เพราะการวาดภาพในแต่ละครั้งก็จะเลือกภาพที่ตัวเองอยากจะวาดเสมอ ไม่ใช่เพราะจำใจ หรือถูกขอให้วาด

    4. คุณมองเห็นพัฒนาการบางอย่างในตนเองหรือไม่ อย่างไร และพัฒนาการเหล่านั้นคืออะไร (ให้อธิบายถึงพัฒนาการทางด้านอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นเมื่อคุณมองดูภาพต้นฉับบ แล้ววาดภาพเหมือนให้พิจารณาว่าอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเมื่อแรกเริ่ม กับ ณ วันนี้ หรือเมื่อวาดภาพสุดท้าย เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เช่น ทำให้เรามีมุมมองหรือทัศนคติเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่วินิจฉัยคุณภาพของภาพวาดแต่วินิจฉัยคุณภาพของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของตนเอง<O:p</O:p


    จากภาพแรกไปภาพสุดท้าย มีความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้น ไม่รู้สึกกดดัน เลยทำให้การวาดภาพได้กลายเป็นงานอดิเรกที่เพลิดเพลินจริงๆ
    <O:p</O:p
    มีความแปลกอย่างหนึ่งตรงที่ว่า ช่วงเวลาที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการวาดภาพ มักจะรำลึกความฝันบางอย่างได้แว๊บๆ สามารถจับอารมณ์ตรงนั้นได้ และบางครั้งก็ไปรำลึกถึงความฝันเดิมๆ (ฝันครั้งเดียวแต่รำลึกได้หลายครั้งในช่วงเวลาที่วาดภาพ)

    5. คุณค้นพบคุณสมบัติอะไรในตนเองบ้างจากหลังจากได้ฝึกฝนวาดภาพซึ่งคุณไม่เคยพบมาก่อน
    <O:p</O:p
    นอกจากการวาดภาพ แล้วก็ยังไม่มีอะไรอย่างอื่นที่เด่นชัด

    6. คุณรู้สึกว่าตนเองได้รับพร หรือมีพรสวรรค์บ้างไหมเมื่อมองเห็นภาพวาดเหล่านี้
    ก็นิดหน่อย<O:p</O:p

    7. คุณสามารถนำเอาอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คุณใช้ในการวาดภาพไปใช้เป็นอารมณ์ที่ตั้งอยู่ ณ ขณะจิตอื่นๆเมื่อเผชิญกับประสบการณ์อื่นๆในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ? อย่างไร ?


    น่าจะได้ ถ้าหากมีการฝึกฝน และก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์นั้นๆ ว่ามันจะทำให้เรามีสติพอแค่ไหนในการนำอารมณ์-จินตนาการนั้นๆ มาใช้ เพราะสถานการณ์บางอย่างมันมีระดับความรู้สึก ความเข้มข้นของอารมณ์ที่แตกต่างกัน<O:p</O:p

    8. กระบวนการวาดภาพด้วยสมองซีกขวาให้อะไรใหม่กับคุณบ้าง ?

    ให้ความเพลิดเพลินในขณะที่วาดภาพ จนไม่ค่อยสนใจอะไรรอบข้าง เช่น ลืมหิว ลืมปวด (ห้องน้ำ) ก็เลยพอเข้าใจอารมณ์ศิลปินที่เขาขลุกอยู่กับงานทั้งวันทั้งคืน อาจเป็นเพราะเวลาที่มีแรงบันดาลใจเกิดขึ้น ก็ไม่อยากให้มันขาดตอน หรือบางครั้งก็ไม่แตะต้องงานนั้นๆ เลย จนกว่าจะมีแรงบันดาลใจใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกครั้ง<O:p</O:p

    9. การวาดภาพจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม หรือความสามารถที่คุณจะใช้ต่อไปหรือไม่? รู้สึกอย่างไรกับความสามารถนี้?
    <O:p</O:p
    ช่ ถ้ายังไม่เบื่อ และรู้สึกว่า เอ๊ะ เราทำได้แฮะ เพราะประเมินจากการที่เอาภาพให้เพื่อนๆ ดู เขาก็มีชมบ้าง ติบ้าง ซึ่งเราก็อยากบอกว่า คุณก็ทำได้เหมือนกันกับเรา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.1 KB
      เปิดดู:
      38
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12 KB
      เปิดดู:
      39
    • 2-1.jpg
      2-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.3 KB
      เปิดดู:
      41
    • 3-1.jpg
      3-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91.5 KB
      เปิดดู:
      38
    • 3-2.jpg
      3-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.3 KB
      เปิดดู:
      39
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.9 KB
      เปิดดู:
      40
    • 5.jpg
      5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180 KB
      เปิดดู:
      48
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      506.9 KB
      เปิดดู:
      47
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      489.5 KB
      เปิดดู:
      48
  5. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    (deejai) มิน่่าละพี่นักเขียนหายน่าหายตาไปเลย เอาใจช่วยนะครับสำหรับ ศิลปิลน้องใหม่มาแรง
    ตอนนี้นั่งจิบ espresso รอชมผลงานด้วยคนครับ :p
     
  6. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ก็อยากไปสมัครอยู่นะพี่meadแต่ยังอืด ๆ อยู่เลยอ่ะ
    แต่มีอีกอันนึงน่าลุ้นกว่า สำหรับคนน้ำหนักเกิน อิอิ
    http://mariefrance.co.th/event_puifai.php
    ยังไงถ้าถู ๆ ไถ ๆ ไปสมัครจริง ๆ พี่ ๆ ช่วยกันโหวตด้วยนะ (deejai)
     
  7. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765

    พี่นักเขียนสุดยอดไปเลย ดีใจด้วยแน่ะที่ทุกคนในงานจะได้ฟังเพลง มนตราอนาลัย ขอให้ทุกอย่างราบรื่นสวยงามนะคะ
     
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอแสดงความยินดีกับพี่นักเขียนด้วยครับ
    ได้ออกงานเปิดตัวทั้งผลงานภาพเขียน+ดนตรี ทั้งหนังสืออาจารย์อนาลัย เดี๋ยวสักพักต้องมีพิมพ์ภาษาอังกฤษออกมาด้วยแน่แบบนี้ ท่าทางหนังสือจะเป็นสากลและอมตะตลอดไปแน่ๆครับ..ขอให้ทุกอย่างราบรื่นสวยงามนะคะ อุ๋ย..ครับ (ลอกตามน้องนกซะเลย อิอิ)
     
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    จะติด ร..ก็งานนี้ล่ะครับ การบ้านไม่ยอมส่งกัน
    คุณปีแมว วาดรูปเยี่ยมจริงๆครับ.. เดี่ยวขอลอกการบ้านอีกคน หึหึ
     
  10. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ยินดีด้วยกับพี่นักเขียนด้วยนะที่จะได้แสดงผลงานตัวเองออกมาสู่สาธารณะชน

    สองภาพสุดท้ายของคุณ year of the cat วาดได้เหมือนมากเลย แว๊บแรกที่เห็นโดยที่ไม่เห็นว่าใครโพส ก็นึกว่าเป็นพี่นักเขียนที่โพสขึ้นมา (อ่านข้อความจากล่างขึ้นบน)

    วันนี้ดีใจมาก ได้เห็นหนังสือเล่มใหม่ของ ดร.ไบรอัน ที่ชื่อว่า "Same Soul, Many Bodies" มีคนเอามาแปลไทยซะที หนังสือหนามากเลย 340 กว่าหน้า หนังสือเล่มนี้ใช้ชื่อไทยว่า "หลายร่างวิญญาณเดียว" ตอนที่เห็นชื่อภาษาอังกฤษเข้าใจว่า เค้าต้องการสื่อว่า ร่างกายหลายๆ ร่างกายทั้งในอดีตชาติ อนาคตชาติ ถึงแม้ว่าร่างกายจะต่างกันแต่ก็เป็นคนเดียวกัน จริงๆ จะใช้ชื่อไทยอย่างนั้นคนอื่นก็คงเข้าใจไม่ผิดเหมือนกัน แต่เนื่องจากว่าได้อ่านหนังสือของโนวา อนาลัยมาแล้ว เลยคิดเป็นอย่างอื่นว่า จะหมายถึงว่า วิญญาณดวงเดียวกันแต่กระจายเป็นหลายๆ ร่างพร้อมกัน ก็ได้ (งงมั้ยหว่า)

    ในเล่มนี้จะมีตอนที่สะกดจิตคนไข้ไปยังอนาคตเพื่อแก้ไขปัจจุบันที่เป็นอยู่ ดร.ไบรอัน เขียนถึงอนาคตว่า มันก็เป็นเหมือนทางแยกต่างๆ ของชีวิต การสะกดจิตข้ามไปอนาคต ก็เพื่อดูว่าจะเลือกทางแยกไหนถึงจะดีกับชีวิต และก็ยากที่จะทำนายอนาคตได้ถูก 100% อันเนื่องจากว่าอนาคตที่เห็นก็เป็นเส้นทางในอนาคตในทางเลือกหนึ่งๆ จากทางเลือกอันหลากหลาย

    และดร. ไบรอันก็ได้ลองสะกดจิตคนหลายๆ คนเพื่อดูอนาคตของโลกในช่วง 100 ปี, 500 ปี, 1000 ปี ก็มีทั้งดีทั้งไม่ดี แต่มันจะเป็นยังไงก็ตาม มันก็เป็นอนาคตในเส้นทางหนึ่งในหลายๆ เส้นทาง

    มุมมองเรื่องอนาคตของดร.ไบรอันทำให้ผมสนใจเหมือนกัน ตรงที่ว่า คนส่วนมากมักจะพยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าอนาคตที่เค้าเห็นที่เค้าทำนาย มันจะต้องเป็นจริง นั่นจึงจะเป็นข้อยืนยันว่าอนาคตที่เห็นเป็นเรื่องจริง แต่ ดร.ไบรอัน กลับเรียนรู้ได้ว่า อนาคตที่เห็นเป็นเส้นทางเส้นทางนึงในหลายเส้นทาง ซึ่งจะเป็นหรือไม่เป็นตามนั้นก็ได้ ถ้าเห็นอนาคตที่ไกลไปมาก อาจจะไม่เกิดอย่างนั้นก็ได้ แต่ถ้าเห็นอนาคตที่ไม่ไกลเท่าไหร่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นสูง เพราะว่าความน่าจะเป็นจะน้อยลงเรื่อยๆ ตามความห่างไกลของระยะเวลา (เพราะว่ามันจะมีปัจจัยมากขึ้นที่มีผลต่ออนาคต เหมือนว่าเราจะสามารถทำนายรูปร่างของเมฆได้ถ้าทำนายในช่วงระยะเวลาที่ไม่ไกลมาก เพราะเราสามารถกะแรงลมได้ แต่ถ้ายิ่งทำนายรูปร่างเมฆในระยะเวลาที่ไกลขึ้น เช่น 1 ชั่วโมงต่อไป เราก็ทำนายได้ยากขึ้น)

    ส่วนอีกเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นมาก ก็คือเนื้อหาในการ์ตูนแว่วเสียงเรไร
    แป่ว......
    มันก็แค่การ์ตูนเรื่องนึงมันจะน่าตื่นเต้นอะไรละเนี่ย ก็คงคิดอย่างนี้กัน
    ไม่แปลก
    แต่เผอิญว่าเล่มล่าสุดที่อ่านนั้น ตักเอกได้สามารถระลึกถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองทำในโลกอีกเส้นทางนึง
    เมื่ออ่านถึงตอนนี้นึกถึงเรื่องที่อ.โนวา อนาลัย พูดถึงมาตลอดคือเรื่องที่ว่า เราดำเนินไปหลายๆ มิติ แม้ว่าจะมีตัวเราดำเนินอยู่ในเส้นทางนี้ แต่ก็มีตัวเราที่ดำเนินไปในเส้นทางอื่นด้วย และเราสามารถติดต่อกับตัวเราในเส้นทาง/มิติอื่น ได้ในความฝัน

    [สำหรับคนที่ไม่เคยอื่นการ์ตูนเรื่องนี้ การ์ตูนเรื่องนี้จะแบ่งเป็นภาคต่างๆ ภาคแต่ละภาคก็คือเส้นทางการดำเนินเรื่องในอีกเส้นทางหนึ่ง จะว่าไปแล้วเส้นทางในแต่ละเส้นทาง มันก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กันไป]
    [อันที่จริงการ์ตูนเรื่องนี้เขียนมาจากเกมส์ที่มีเส้นทางการดำเนินเรื่องหลายเหตุการณ์หลายเส้นทางตามแต่คำตอบที่เราเลือก เหมือนสมัยก่อนที่มีการ์ตูนที่มีเส้นทางดำเนินเรื่องให้เลือกว่าเราต้องการจะเปิดไปอ่านต่อหน้าไหน ถ้าเลือกทำอย่างนี้ก็ไปหน้านี้ ถ้าเลือกอีกอย่างก็ไปอีกหน้านึง]

    ช่วงในตอนที่ตัวเอกสามารถระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกเส้นทางนึง หรือ ในโลกคู่ขนานอีกโลกนึง ทำให้เห็นภาพของเรื่องที่ว่า เรา..ดำเนินไปในหลายๆ มิติพร้อมกันชัดขึ้น

    ช่วงที่ตัวเอกเข้าใจในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดในอีกเส้นทางนึง ทำให้นึกถึงเรื่องที่อ.โนวา เขียนไว้ว่า

    ในนัยอันจำเพาะกล่าวได้ว่าฉันคือบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนในอนาคตของนักเขียนผู้เป็นล่ามและเลขาของฉัน แต่ในขณะเดียวกันอดีตของเขาก็ยังคงดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์ แต่ประสบการณ์ชีวิตของนักเขียนก็ไม่ได้อยู่ในความทรงจำของฉัน เพราะเมื่อฉันมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในชาติภพที่ฉันเป็นเขา ฉันก็มีประสบการณ์ชีวติที่แตกต่างไปจากเขา โลกแห่งความเป็นจริงของเขาไม่ได้ถูกกำหนดโดยฉัน และโลกแห่งความเป็นจริงของฉันก็ไม่ได้ถูกกำหนดโดยเขา

    ฉันมีความจำว่าฉันเคยเป็นเขา แต่เขาในความทรงจำของฉันก็ไม่ใช่เขาในโลกแห่งความเป็นจริงของนักเขียน นักเขียนทำให้ฉันประหลาดใจเสมอๆ เพราะความคิดและการกระทำในปัจจุบันของเขาพลิกผันอดีตของฉัน

    ในนัยของนักเขียน-ฉันคือบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนในอนาคตของเขาซึ่งมีความรู้มากมายกว่าเขาเป็นอันมาก แต่เขาก็ใช้ความรู้ของฉันพลิกผันโลกแห่งความเป็นจริงของเขาในปัจจุบัน เมื่อฉันเคยเป็นเขา-ฉันไม่ได้มีความรู้ความสามารถที่จะทำเช่นนี้ได้

    กล่าวได้ว่าเมื่อนักเขียนนำความรู้จากฉันมาพลิกผันโลกแห่งความเป็นจริงของเขาในปัจจุบัน มันทำให้อดีตของฉันพลิกผันไปด้วย และประสบการณ์ชีวิตในปัจจุบันของนักเขียนก็พลิกผันประสบการณ์ชีวิตในปัจจุบันของฉันด้วยเช่นกัน

    จาก โลกแห่งความจริงหลากมิติ(ภาคปลาย) หน้า 315-316

    ภาพที่ตัวเอก เข้าใจถึงความเป็นไป รู้สึกถึงอารมณ์ เรื่องราว และความเป็นจริงที่ถูกบิดเบือนไปอันเนื่องจากความเชื่อของตัวเอง(แอบ spoil เล็กน้อย) ทำให้นึกถึงข้อความที่ยกขึ้นมาเลย เหมือนว่าเห็นได้ชัดขึ้นลางๆ ในความรู้สึกที่อ.โนวา อนาลัยเขียนไว้


    และทำให้เข้าใจถึงเรื่องนี้ตัวอย่างนี้มากขึ้น

    เข้าใจมากถึง (จากที่เข้าใจอยู่แล้ว) ว่า การมองมุมมองต่างมุม เพราะว่าความเชื่อต่างกัน มันเป็นยังไง เพราะว่าได้เห็นภาพ เพราะจากในการ์ตูนเราจะได้เห็นถึงมุมมองทั้งสองมุมพร้อมกัน เหตุการณ์เดียวกัน แต่ความเชื่อต่างกัน ทำให้เราเข้าใจเหตุการณ์ได้ต่างกันไป ยิ่งถ้ามีความเชื่อผิดๆ และเหตุการณ์นั้นยังไปสนับสนุนความเชื่อผิดๆ อีก มันจะยิ่งวุ่นขนาดไหน

    ตัวละครอีกคนนึงที่ชื่อริกะ คือตัวละครที่สามารถข้ามไปรับรู้เหตุการณ์ในอีกเส้นทางนึงได้ เหมือนเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในทุกเส้นทาง เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อจบในเส้นทางหนึ่ง ก็ไปเริ่มใหม่ในอีกเส้นทางนึง และรับรู้/ระลึกถึงเส้นทางที่เคยเกิดขึ้น

    ทำให้เหมือนเข้าใจในเรื่องดอกไม้บนหน้าผาได้ลางๆ

    โลกแห่งความจริงหลากมิติ(ภาคปลาย)
    หน้า 320

    หากเปรียบบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่เกิดในพ.ศ. ๒๓๒๓ ว่าเปรียบเสมือนพืชพันธุ์ที่งอกงามอยู่ ณ ตำแหน่งความสูงหนึ่งๆ ของภูเขาหรืองอกงามอยู่ ณ หน้าผาชั้นหนึ่งๆ บุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่เกิดในปี พ.ศ. ๒๓๒๓ ไม่จำเป็นจะต้องเกิดเวลาเดียวกันเสมอไป เธอนึกคิดถึงปีพ.ศ. ๒๓๒๓ เปรียบเสมือนฤดูกาลหน้าหนึ่งที่พืชพันธุ์งอกงามขึ้นบนหน้าผาดอกไม้ที่บานในฤดูร้อนของปีหนึ่งไม่อาจมองเห็นหรือปะปนกับดอกไม้ที่บานในฤดูร้อนของปีต่อมาหรือปีก่อนหน้านั้น ในนัยเดียวกันนี้บุคลิกภาพหรือตัวตนที่เกิดในปี พ.ศ. ๒๓๒๓ ในฤดูกาลหนึ่งๆ ก็ไม่อาจรู้เห็นหรือปะปนกับบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่เกิดต่างฤดู-ในปีเดียวกันได้

    แต่ฤดูกาลของโลกก็อาจทำให้เธอเข้าใจอย่างผิดๆ เพราะในอุปมาอุปมัยของกาลเวลา หน้าผาแต่ละชั้นจะเปรียบเสมือนปีหนึ่งๆ แต่ละหน้าผามีไม้ดอกคุณลักษณะต่างๆ มากมายหลายหลากเกิดขึ้น ปีพ.ศ. ๒๓๒๓ ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง และปีพ.ศ.อื่นเช่นปี พ.ศ. ๒๓๒๔ หรือปีพ.ศ.๒๓๒๕ มีเส้นทางของพัฒนาการของมันเอง


    และหน้า 326-237

    กลับไปสู่อุปมาอุปมัยของดอกไม้บนหน้าผาอีกครั้ง ดอกไม้บนหน้าผาแต่ละดอกมองเห็นหุบเหวที่อยู่เบื้องล่างจากมุมมองของมันและมันก็มองเห็นสภาพแวดล้อมที่มันคุ้นเคยได้ไกลออกไปพอสมควร กล่าวโดยรวมได้ว่า ดอกไม้ที่เบ่งบานในฤดูร้อนย่อมจะบานและเหี่ยวแห้งตายไปในเวลาใกล้เคียงกัน

    ในฤดูร้อนปีต่อไปดอกไม้ดอกใหม่ที่เจริญงอกงามและเบ่งบาน ณ หน้าผาเดิมจะมีมุมมองที่แตกต่างไปเล็กน้อย แต่แบบแผนโดยรวมของมันก็จะคล้ายคลึงกับดอกไม้พันธุ์เดิม ต้นไม้พันธุ์เดิมจะกลับมาเจริญงอกงามในตำแหน่งเดิม บ้านเรือนและกระต๊อบหลังเดิมที่อยู่เชิงเขาจะดูเสมือนว่าอยู่ในตำแหน่งเดิม

    หากเธอมองดูภูมิประเทศหนึ่งๆ ในฤดูร้อนปีนี้และปีต่อไป เธออาจกล่าวว่า "เออ! ต้นดาวเรืองกลับมาออกดอกใหม่ ตรงที่เดิมที่มันเคยอยู่เมื่อปีก่อน"

    แต่เธอก็อาจจะกล่าวว่าดอกไม้ที่เธอเก็บมาเป็นคนละดอกกับที่เธอเก็บมาเมื่อปีที่แล้ว แต่ธรรมชาติการจดจ่อของเธอจะทำให้เธอเห็นความแตกต่างได้ก็ต่อเมื่อเธอถูกบังคับให้เห็นเท่านั้น มิฉะนั้นเธอก็จะคิดว่าดอกดาวเรืองก็คือดอกดาวเรืองมันกลับมาออกดอกทุกหน้าร้อน

    ความแตกต่างของดอกไม้ที่มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปแต่ไม่อาจอธิบายได้เกี่ยวพันกับสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ในขอบข่ายของดอกไม้ที่เธอเด็ดมาชื่นชม มันเป็นดอกไม้ในโลกแห่งความเป็นจริงของมันซึ่งเธอไปเก็บมันมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของเธอ

    หากดอกดาวเรืองสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมของมันเมื่อปีก่อนได้ ความแตกต่างทั้งหมดที่เธอมองข้ามไปจะกลายเป็นความแตกต่างที่เด่นชัดจนกระทั่งเจ้าดอกดาวเรืองอาจคิดว่ามันเกี่ยวพันกับโลกแห่งความเป็นจริงหลายโลก

    หากเปรียบดอกดาวเรืองที่กลับมาเบ่งบาน ณ หน้าผาเดิมทุกฤดูร้อนกับบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนที่ถือกำเนิดในปีรศ.๑๑๒ กล่าวได้ว่าบุคลิกภาพหรือบุคคลตัวตนเหล่านั้นถือกำเนิดบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่หลากหลายเป็นอนันต์ ฤดูร้อนแต่ละปีเปรียบได้กับเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่งๆ ดอกไม้ที่เบ่งบานในแต่ละครั้ง แม้ว่าจะเป็นเดือนเดียวกัน ปีเดียวกันก็แตกต่างกันไปไม่ใช่แต่เพียงในนัยของภาวะภายนอกเท่านั้น แต่แตกต่างกันในนัยของภาวะภายในด้วย


    คนที่ไม่เคยอ่านหนังสือของโนวา อาจจะนึกว่าเหตุการณ์ที่ตัวเอกสามารถระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดในเส้นทางอื่น คงจะมีแต่ในการ์ตูน แต่ zip คิดว่าในความเป็นจริง มันก็น่าจะเป็นไปได้เหมือนกันนะ

    คุณ leogirl ถ้าต้องการจะลดน้ำหนักละก็ลองอ่านเรื่องนี้ดู http://palungjit.org//showthread.php?t=113222 สัมภาษณ์วิธีการลดน้ำหนักกับมิสเตอร์บอดี้เชฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2008
  11. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,945
    ค่าพลัง:
    +4,262
    ดร.ไบรอัน

    ยังไม่เคยเห็นหนังสือเล่มดังกล่าว เข้าใจว่าเป็นคนๆ เดียวกับผู้เขียน Only Love is Real (เราจะข้ามเวลา มาพบกัน) ดร. ไบรอัน แอล. ไวส์
    เดี๋ยวจะไปหาดูครับ
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ใช่แล้วครับ คนเดียวกันนั่นแหล่ะ แต่ว่าเล่มนี้แปลโดยคนละคนกัน Only Love is Real แปลโดยคุณ มณฑานี ตันติสุข แต่ว่า Same Soul Many Bodies แปลโดยคุณ อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพันธ์พงศ์

    ภาพปกหนังสือครับ
    [​IMG]
     
  13. deejaimark

    deejaimark เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +16,511
    โอ้โห.........ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน ตามอ่านไม่ทันแล้วค่ะ











    ....................................................................................
    ขอเชิญร่วมลงนะเมตตา 108 กับครูบาคำเป็ง วันที่ 9 มีนาคม 51

    http://palungjit.org/showthread.php?p=978641
     
  14. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,086
    ขนกุหลาบมามอบให้ทุกคนในห้องวิทย์นี้ครับ^-^

    [​IMG]<!-- / message --><!-- attachments -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูป</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
    <!-- / attachments --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
     
  15. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    มารายงานตัวแล้วค่ะ โทรศัพท์แถวนี้ใช้ได้แล้ว คิดถึงทุก ๆ คนเลยค่ะ..
    แต่หัวหน้าห้องยังไม่ส่งการบ้านค่ะทุก ๆ คน.. อิอิ..
    ขอเป็นกำลังใจให้งานของพี่นักเขียนราบรื่นไปด้วยดี..
    และจะรอดูภาพบรรยากาศในงานของพี่นักเขียนนะคะ..
    (deejai) (deejai) (deejai)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2008
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณครับพี่เม้าส์
    เป็น Mr.Flowers ประจำห้องวิทย์ตัวจริงเลยครับ ขอใช้บริการบ้าง อิอิ
    ฝากส่งช่อดอกไม้ให้พี่นักเขียนที่อเมริกา สักกระเช้านะครับ
    ส่งความรักให้เบ่งบานข้ามมิติกันเลยครับงานนี้....ทางนู้นเตรียมร้บดีๆนะครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2008
  17. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765

    โห จำได้เลย Only Love Is Real เราจะข้ามเวลามาพบกัน
    ตอนนั้นอยู่ปวช.อยู่เลย เข้าไปร้านเช่าหนังสือ เห็นชื่อปุ๊บเลยลองเช่ามาอ่าน
    เปิดอ่านตั้งแต่6โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน แบบว่าไม่ลุกไปทำอะไรเลย
    อ่านแล้วซึ้งมาก เป็นหนังสือเล่มแรกและเล่มเดียวที่อ่านรวดเดียวจบ
    ถ้าคุณzipไม่พูดถึงดร.ไบรอันขึ้นมาก็ลืมนึกถึงไปเลยนะเนี่ย
    ทบทวนดูแล้วสอดคล้องกับคำสอนของอาจารย์อนาลัยจริง ๆ
    เรามีหลายภพ หลายชาติ หลายมิติ หลายตัวตน หมุนเวียนกันไปไม่ได้เป็นคนเดิม ตัวตนเดิม
    และต่างคนก็เกี่ยวข้องเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน นี่ถ้ากลับไปหาอ่านทบทวนอีกรอบคงจำได้มากขึ้นนะเนี่ย

    ขอบคุณสำหรับเรื่องลดน้ำหนักค่ะ นกเข้าไปอ่านมาแล้ว น่าสนใจมาก
    ตอนนี้ก็อยากไปประกวดนะ อย่างน้อยเราก็มีความมั่นใจอยู่ว่าเราต้องทำได้
    แต่อีกใจนึงแอบคิดไปอีกหน่อยว่าถ้าเกิดได้ออกทีวีคนรู้จักจริง ๆ ก็ไม่ชอบอ่ะวุ่นวายไปหรือเปล่า 555 พูดยังกะตัวเองจะได้ซะงั้น อิอิ
    มีนาก็จะปิดรับสมัครล่ะ มันต้องร้องเพลงอัดเสียงลงแผ่นCDไม่รู้จะทำไงดีอ่ะ
    ใครก็ได้ที่พอรู้ว่าต้องทำยังไงบ้าง ช่วยแนะนำนกหน่อยนะ จะเอาไมค์เสียบกับคอมก็ไม่มีตัวจุ๊บอีก แง่วเลย มีทางไหนอีกเนี่ย
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณนกวันนี้เห็นหนังสือ Only Love Is Real มาพิมพ์ใหม่ด้วยล่ะ แถมด้วยเพลงประกอบหนังสืออีกต่างหาก เค้ามีแต่เพลงประกอบภาพยนตร์เนอะ แต่นี่เป็นเพลงประกอบหนังสือจริงๆ เพราะเค้าแต่งมาเพื่อหนังสือเล่มนี้

    ก็เลยเอาข่าวมาให้อ่านกัน
    ----------------------------------------------------------
    ครั้งแรกในวงการ ที่บทประพันธ์มีซาวนด์แทรคเป็นของตัวเอง Original Novel Soundtrack “เราจะข้ามเวลามาพบกัน”

    [​IMG]

    นิยายรักจากเรื่องจริง ที่เคยสร้างปรากฏการณ์โซลเมทฟีเวอร์มาแล้วทั่วประเทศไทย ด้วยสถิติตีพิมพ์ 23 ครั้งและยอดขายนับแสนเล่ม บัดนี้ สำนักพิมพ์มณฑานี ฉลองการกลับสู่วงการหนังสืออีกครั้งของ “เราจะข้ามเวลามาพบกัน” อย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรี ด้วยไอเดียแหวกแนวที่กล้าคิดกล้าทำ นั่นคือOriginal Novel Soundtrack “เพลงประกอบบทประพันธ์ : เราจะข้ามเวลามาพบกัน” ที่แต่งขึ้นใหม่เพื่อเป็นซาวนด์แทรคสำหรับนิยายโดยเฉพาะ โดยใช้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของคู่พระคู่นางใน Only Love Is Real ถ่ายทอดมาเป็นบทเพลงรักซึ้งใจ เพื่อเอาใจแฟนหนังสือและแฟนเพลงชาวไทยที่ต่างรอคอยรักแท้และคู่แท้

    “เพลงประกอบบทประพันธ์ : เราจะข้ามเวลามาพบกัน” เป็นของขวัญพิเศษเฉพาะกิจ ไม่มีขายหรือรวมในซีดีชุดไหน แต่มาคู่กับบทประพันธ์ในรูปแบบ gift set ฉลองวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก โดยในเซ็ทประกอบด้วยหนังสือ “เราจะข้ามเวลามาพบกัน” แต่งโดยดร.ไบรอัน แอล.ไวส์ จิตแพทย์ที่โด่งดังทั่วโลกและเป็นหัวหอกแถวหน้าของการสะกดจิตระลึกชาติ แปลโดย มณฑานี ตันติสุข กับซีดี OST.“เราจะข้ามเวลามาพบกัน” โดยซีดีบรรจุเพลง 4 เวอร์ชั่นเต็มอิ่ม คือ ฉบับ original ที่เปิดตามวิทยุ เสียงร้องคู่โดย ปอย พอร์เทรท กับ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ แต่งเนื้อร้องโดย โจ มณฑานี ทำนองและเรียบเรียงโดย North Boy ผู้สร้างเพลงฮิตให้กับบี้ ศตวรรษ และชินมาแล้ว ฉบับบรรเลง piano version หวานซึ้งสำหรับคนหัวใจโรแมนติก ฉบับ Karaoke สำหรับฝึกร้อง และเพลงต้นแบบ-Demo version สำนักพิมพ์มณฑานียังใจดีแถมโบนัสแทร็คให้แฟนๆอีกด้วยคือ MV Karaoke กับ special feature เป็น behind the scenes:เบื้องหลังความเป็นมาของเพลง“เราจะข้ามเวลามาพบกัน” ให้แฟนๆหนังสือได้มีโอกาสได้สัมผัสกับความคิดและการทำงานของทีมดนตรีและนักร้องกันอย่างอิ่มอกอิ่มใจ

    คุณสามารถเป็นเจ้าของ “เราจะข้ามเวลามาพบกัน Gift Set” หรือมอบให้เป็นของขวัญวันแห่งความรักได้ ตามร้านหนังสือทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ในราคาหนังสือพร้อมซีดีเพลงและMV คาราโอเกะ เซ็ทละ 299 บาท เท่านั้น

    ที่มา โซนี่ บีเอ็มจี มิวสิค

    -------------------------------------------------------
    อันนี้เพลงครับ

    <embed name="RAOCXplayer" pluginspage="http://www.microsoft.com/Windows/Downloads/Contents/Products/MediaPlayer/" src="http://www.musicz.info/m/ontonlyloveisreal.wma" width="330" height="65" type="application/x-mplayer2" displaysize="0" enablecontextmenu="0" loop="true" showstatusbar="1" showcontrols="1" autoplay="true" />

    ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้จวบจมทะเลน้ำตา
    เหว่ว้าและเคว้งคว้างกลางผู้คน เจ็บจนไม่อยากหายใจ
    ถูกรักทำร้ายจนเปราะบาง ขอบฟ้าความหวังซีดจางเหลือเกิน
    แต่บอกกับใจไม่หยุดฝันอธิษฐานในกาลนิรันดร์
    อย่าหยุดศรัทธาสักวันคงได้พบเธอ

    *อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉันรออยู่
    คนเคยรู้ใจคนเคยรู้จัก จำฉันได้ไหม เราเคยพลัดพรากกัน

    (อีกครึ่งหนึ่งของดวงวิญญาณฉันรออยู่
    คนเคยรู้ใจคนเคยรู้จัก เธอไปอยู่ไหน เราคงพลัดพรากกัน)

    ** หากเธอกับฉันสวนทางกันในความฝัน
    อยากให้สายตาเราได้จ้องกัน
    และให้เธอบอกฉัน ว่าฉันข้ามเวลาเพื่อมาพบเธอ

    (หากเธอกับฉันสวนทางกันในความฝัน
    อยากให้สายตาเราได้จ้องกัน
    โปรดให้เธอบอกฉัน ว่าฉันข้ามเวลาเพื่อมาพบเธอ)

    ฉันใช้ชีวิตมืดมนดั่งคนที่มีแผลใจ
    แผ่นดินและผืนฟ้ากว้างไกลมันกลับไม่เหลือทางให้เดิน
    ทอดทิ้งรักแท้ที่ข้างทาง ปล่อยทิ้งความหวังที่พังยับเยิน
    อยากบอกกับใจให้หยุดฝันอธิษฐานในกาลนิรันดร์
    เจ็บกับศรัทธากี่วันก็ไม่พบเจอ

    *,**

    หากเธอกับฉันสวนทางกันในวันนั้น
    ยามที่สายตาเราได้จ้องกัน
    อยากให้เธอบอกฉันว่าเราข้ามเวลาเพื่อมาพบกัน

    เนื้อข่าวจากเวป http://www.mv.in.th/?p=3
    เพลงจากเวป http://vdoclip.exteen.com/20080204/only-love-is-real

    ------------------------------------------

    คุณนกก็ร้องเพลงนี้ส่งเข้าประกวดเลยสิ อิอิ

    ส่วนไมค์มันเสียบเข้ากับคอมไม่ได้เพราะหัวขนาดมันไม่เท่ากับรูเหรอครับ มันมีตัวลดขนาดขายนะครับเคยเห็นอยู่
     
  19. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ในหนังสือ same soul, many bodies มีบางตอนที่สะกดจิตไปในอดีตหรืออนาคตแล้วมีเรื่องที่น่าสนใจ เลยเอาพิมพ์มาลงให้อ่านกันเลย

    ฮิวจ์เข้าสู่ภาวะภวังค์อย่างง่ายดาย (เขาเคยฝึกทำในบางแบบมาบ้างแล้วตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก) "ผมเห็นยานพาหนะต่างๆ กำลังบินอยู่" เขาเริ่มต้น "ไม่เชิงเป็นเครื่องบินเสียทีเดียว แต่เหมือนรถยนต์ที่บินได้มากกว่า มันได้รับพลังจากพลังงานบริสุทธิ์ มันแล่นไปตามอาคารยอดแหลมที่เรียบลื่นซึ่งสร้างด้วยกระจก ภายในอาคารผู้คนกำลังทำงานด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และผมเป็นหนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น เป็นหนึ่งในบรรดานักวิทยาศาสตร์ที่เก่งและสำคัญที่สุดซึ่งได้รับการจ้างงานที่นั่น เป้าหมายคือทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างทรงพลังยิ่งขึ้น เพื่อที่เราจะได้สามารถเปลี่ยนรูปแบบทางวัตถุทั้งหมด เปลี่ยนวัตถุทุกอย่างบนโลก และควบคุมมัน ควบคุมพฤติกรรมของคนอื่น ควบคุมธรรมชาติ ไม่ใช่เพื่อความดีงาม แต่เพื่อการครอบงำ พวกเราที่เป็นนักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานเพื่อครอบงำโลก"

    ฮิวจ์บอกว่าภาพที่เห็นคือแอตแลนติส ดร. ไบรอันบันทึกไว้ว่า เค้าเชื่อที่ฮิวจ์บอกว่าภาพที่เห็นคือ แอตแลนติส 50-50

    ในชาติอนาคตที่สามของจิตรา เธอเป็นศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการรักษากระดูกและกล้ามเนื้อ รวมทั้งระบบประสาท "ฉันทำงานด้วยแท่งคริสตอลหรือก้อนคริสตอล" เธออธิบายเมื่อผมชี้ว่ามันไม่ปกติอย่างไรที่มีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันสองด้าน "มันเปล่งแสงอย่างหนึ่ง พลังงานอย่างหนึ่งที่ให้ผลในการบำบัดที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรือสอง มันยังปล่อยพลังงานเสียงที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ แขนขา และเส้นเอ็นขึ้นใหม่"

    การรักษาด้วยคริสตอล?? ดู amazing ยิ่งนัก

    การจำอดีตชาติได้เกิดขึ้นกับเขาอย่างง่ายๆ ภายใต้การสะกดจิต
    "ผมเป็นผู้ชาย" เขาพูด "แต่ไม่เชิงเป็นผู้ชายทีเดียวนัก ไม่เชิงเป็นมนุษย์"

    ผมพยายามซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ แต่ผมเกรงว่าน้ำเสียงของผมอาจทำให้ผมล้มเหลว "คุณกำลังพูดถึงยุคสมัยไหน?"
    "เมื่อหกหมื่นปีมาแล้ว"
    "หกหมะ-" ผมจ้องเขา พยายามดูว่าการสะกดจิตไม่ได้ผลหรือเปล่า และเขากำลังหลอกผมหรือเปล่า ไม่ใช่ ตาของเขาหลับ การหายใจของเขาสม่ำเสมอ "ไปต่อ" ผมพยายามพูดออกมาจนได้

    "ผมเกิดในดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่ง มันไม่มีชื่อ มันอาจดำรงอยู่ในระบบดาวเคราะห์ดวงอื่น หรืออยู่ในมิติที่แตกต่างออกไปก็ได้ ถึงยังไงผมก็เป็นส่วนหนึ่งของการอพยพจากดาวเคราะห์ของผมมายังโลก เมื่อเรามาถึง คนอื่นๆ ต้อนรับเรา ลูกหลานของพวกที่อพยพมาก่อนหน้านี้จากระบบดาวอื่น พวกเขาผสมปนเปกับเผ่าพันธุ์ย่อยชนิดหนึ่งที่กำลังพัฒนา--มนุษย์ เราต้องอยู่บนโลกร่วมกับพวกเขาเนื่องจากดาวเคราะห์ของเรากำลังจะตาย และดาวเคราะห์นี้เป็นดาวเคราะห์ใหม่ จริงอยู่เราไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ในทางกายภาพ วิญญาณของเราสามารถกลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์รอบตัวเรา หรือกลับชาติมาเกิดเป็นสัตตะภาวะจากโลกอื่นๆ แต่เราเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเอง เทคโนโลยีของเราก้าวหน้า--เราเดินทางมาด้วยระยะทางที่ไกลมาก--วัฒนธรรมของเราซับซ้อน และสติปัญญาของเราเฉียบแหลม เราอยากสงวนความรู้ของเราและความสำเร็จของเราเอาไว้ เราอยากร่วมกับคนอื่นๆ ช่วยให้มนุษย์ใหม่เหล่านี้มีวิวัฒนาการโดยผ่านการกลับชาติมาเกิด
    .
    .
    "ร่างกายของเราไม่แตกต่างจากร่างกายของมนุษย์เท่าใดนักแต่จิตใจของเราเหนือกว่ามาก บรรยากาศบนโลกเหมือนกับบรรยากาศที่แวดล้อมดาวเคราะห์เก่าของเรา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเลือกสถานที่นี้เป็นจุดหมายปลายทางของเรา แต่อากาศที่นี่บริสุทธิ์และสะอาด ในด้านอื่นๆ ทั้งหมดก็เช่นกัน โลกสวยงามกว่าสถานที่ที่เราจากมา มีต้นไม้ ต้นหญ้า และน้ำ แม่น้ำและมหาสมุทร และดอกไม้ นก และปลาทุกสี ผมพึงพอใจกับที่นี่- -ไม่ใช่ มากกว่าพึงพอใจ มีความสุขมากกว่าที่เคยต่างหาก งานของผมคือตรวจตราการเก็บวัตถุข้าวของและความรู้ที่เป็นลายลักษณ์อักษร และผมพบสถานที่ในอุดมคติแห่งหนึ่ง : ห้องธรรมชาติที่อยู่ลึกลงไปจากผิวดิน เมื่อถึงเวลาที่มนุษย์บรรลุถึงระดับที่สามารถเข้าใจสิ่งที่เราซ่อนเอาไว้ พวกเขาจะสามารถค้นพบมัน"
    .
    .
    "ผมพบหน้าผาแห่งหนึ่งที่มหาสมุทรบรรจบกับท้องฟ้า และผมสร้างบ้านขึ้นที่นั่นหลังหนึ่งด้วยไม้และหิน ผมมีอิสระที่จะดื่มด่ำกับความงามรอบตัวผม ชื่นชมกับอากาศที่มีกลิ่นหอม ผมได้รับยกย่องว่าทางภูมิปัญญา และผู้คนในเผ่าพันธุ์ของผมเอง เช่นเดียวกับมนุษย์ทั้งหลาย พากันมาหาผมเพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งผมมีความสุขที่ได้แนะนำพวกเขา ในท้ายที่สุดผมก็ตาม แต่เมื่อนานมาแล้วผู้คนของผมได้เรียนรู้ที่จะแยกวิญญาณของพวกเขาออกจากร่างกายในชั่วขณะที่เหมาะสม ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเคลื่อนไปสู่จิตสำนึกระดับที่สูงกว่าได้อย่างง่ายดาย ผมทำเช่นนี้ แต่ผมสามารถติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องกับผู้คนของผมหลายคน ซึ่งร่างกายของพวกเขายังคงอยู่ในบ้านใหม่ของพวกเขา ดาวเคราะห์โลก"

    ที่จริงเขาดูเคลิบเคลิ้ม กำลังลอยอยู่ระหว่างสองปริมณฑลในจิตสำนึกสองระดับ "ความแตกต่างระหว่างพระเจ้าและมนุษย์เป็นสิ่งเล็กน้อย" เขาพูด "ความรู้อย่างหนึ่งที่ยังคงซ่อนเร้นอยู่ในที่ที่ผมเก็บมันไว้คือ วิธีเป็นนายเหนือศิลปะของการแยกจิตสำนึกออกจากพาหะทางกายภาพ วันหนึ่งในอีกไม่นานนัก วัฒนธรรมของหมอจะพบว่าความตระหนักรู้ที่แยกจากกันสามารถสวมร่างคนอื่นที่ 'ทึบแน่น' น้อยกว่าได้ตามต้องการ จากความได้เปรียบนี้มันจึงสามารถมีอิทธิพลต่อสิ่งอื่นๆ ในรูปแบบทางกายภาพ และมันจะดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทวยเทพ หรือคล้ายพระเจ้าสำหรับสิ่งที่ได้รับอิทธิพลนี้แต่มันเป็นรูปแบบที่ก้าวหน้าอย่างแท้จริงของจิตสำนึกเดียวกันที่ผู้รับเป็นเจ้าของ"
    .
    .
    "โลกของผมโบราณ โลกของหมออ่อนเยาว์ แต่ไม่มีความแตกต่างอะไรกันเลยในของเขตของกาลเวลา เวลาเหมือนกับการหายใจออกและการหายใจเข้าโดยพระเจ้าแห่งจักรวาล การหายใจออกคือการสร้างดวงดาว ดาวเคราะห์ กาแล็กซี่ และจักรวาล การหายใจเข้านำพวกมันกลับเข้าสู่ฝุ่นที่จุดเล็กและเข้มข้นอย่างไม่น่าเชื่อในปอดของพระเจ้า ช่วงเวลาแห่งการหายใจเขาออกกำลังเกิดขึ้นในวัฏจักรอันไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งบอกใบ้ถึงธรรมชาติแห่งความเป็นนิรันดร"


    การเดินทางอพยพของมนุษย์ต่างดาวมายังโลกในสมัยที่มนุษย์กำลังวิวัฒนาการ หรือว่านี่จะเป็นตำนานทวยเทพนะ??

    เขานำผมไปสู่ช่วงเวลาราวหนึ่งร้อยปีข้างหน้า ในชาตินั้นคนอเมริกันที่มีบรรพบุรุษเป็นโปรเตสแตนต์จากอังกฤษซึ่งกำลังนั่งตรงหน้าผม กลายเป็นแรบไบไปแล้ว!

    "ผมชื่ออิบราฮิม ผมอยู่ในที่ประชุมร่วมกับพวกแคธอลิก โปรเตสแตนต์ ฮินดู พุทธ มุสลิม รวมทั้งนักเทศน์และนักบำบัดชาวพื้นเมือง เราพบกันบ่อยๆ อาทิตย์ละสองสามครั้ง เพื่อทำสมาธิและสวดภาวนา สร้างพลังงานที่กลมกลืนเพื่อต่อกรกับความเกลียดชังและความรุนแรงซึ่งแพร่ระบาดในหมู่ชาวโลกที่ยังไม่รู้แจ้ง เรามีจำนวนน้อย ไม่มากกว่าห้าสิบคน แต่อำนาจของเรายิ่งใหญ่ จุดประสงค์ของเราคือ ทำให้พลังงานที่กำลังทำลายโลก ซึ่งผู้ที่ไม่ใส่ใจหรือไม่รู้เกี่ยวกับกฎแห่งจิตวิญญาณปลดปล่อยออกมา กลายเป็นกลางเสีย พลังงานเหล่านั้นก่อให้เกิดแผ่นดินไหว พายุโทเนโด น้ำท่วม โรคระบาด เราเคยคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นแบบส่งเดช ตอนนี้เราเชื่อแล้วว่ามีการก่อหวอด หรืออย่างน้อยก็ได้รับอิทธิพลจากความคิดและความตั้งใจของมนุษยชาติ และเราสามารถป้องกันมันได้! กลุ่มของเราออกไปสอนเทคนิคการสวดภาวนาในด้านบวกและการทำสมาธิในด้านบวกที่เราใช้อยู่ให้คนอื่น เรามีผู้ติดตามนับพันๆ เดือนหน้าเป็นการประชุมสานสัมพันธ์ระหว่างศาสนาต่างๆ ครั้งที่ห้า ซึ่งมีคนที่เชื่ออย่างเดียวกับเราเข้าร่วมมากกว่าสองหมื่นห้าพันคน พวกเขาจะนำเทคนิคของเรากลับไปสู่ประเทศของพวกเขาทั่วทั้งโลก การประชุมนี้อยู่เหนือเส้นแบ่งทางกายภาพและจิตใจ เพื่อบรรลุถึงสันติภาพ ความกลมกลืน และความกรุณาต่อทุกคนที่พำนักอยู่บนโลกนี้ และเพื่อดาวเคราะห์เอง"

    ตาของเขาเป็นประกาย "มันกำลังได้ผล! เราสามารถวัดผลในด้านบวกต่อสภาพอากาศของโลก โลกกำลังเย็นลงเป็นครั้งแรกในหลายศตวรรษ ฤดูร้อนและฤดูหนาวรุนแรงน้อยลง อัตราการป่วยเป็นมะเร็งก็ต่ำลง"

    ในการย้อนอดีตครั้งหนึ่ง เดวิดพูดเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ที่ว่าความคิดจะมีอิทธิพลต่อปรากฏการณ์ธรรมชาติ ในอนาคตยุคนั้นดูเหมือนเขาเป็นนายเหนือมโนทัศน์นี้ และทำให้คำสอนในชีวิตของเขาใช้ได้ผล

    "ผมได้เรียนรู้วิธีสอนคนอื่นถึงหนทางในการเข้าถึงจิตสำนึกที่สูงส่งกว่า" เขาบอกความลับด้วยน้ำเสียงแสดงความเกรงขาม (ผมคิดถึงประสบการณ์ในอดีตชาติของซิสเตอร์ยูจีน) "โดยการติดต่อสื่อสารกับหัวใจที่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยความกรุณา โดยการแสวงหาความดีทางจิตวิญญาณที่สูงส่งกว่า เราสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากพวกท่านได้ พวกท่านได้เริ่มช่วยเหลืออยู่แล้ว ตอนนี้โลกเป็นสถานที่ที่ดีกว่าเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วมากนัก
    .
    .
    "ไม่ว่าการลดลงของประชากรที่กำลังจะเกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความชอกช้ำรุนแรงและความหายนะรุนแรงอย่างกะทันหันแค่ไหน หรือว่ามันเกิดขึ้นทีละน้อยอย่างนุ่มนวลตามธรรมชาติก็ตาม มันจะถูกกำหนดด้วยความคิดและการกระทำต่างๆ ของมนุษยชาติ เราทั้งหมดเป็นผู้เลือกวิถีชีวิตของเรา ผมเลือกได้ดี และช่วยคนอื่นให้เลือกได้อย่างถูกต้องอีกด้วย แต่ผมสงสัยว่ามันจะพอเพียงสำหรับเราละหรือ"


    ความภราดรภาพของความเชื่อ และการยกระดับของจิตใจที่ดีขึ้น แต่อนาคตอันนี้ดร.ไบรอันก็สงสัยอยู่ว่ามันจะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน
     
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    หล่อไม่เสร็จ โดย VeggieGuy

    วันนี้แวะมาแบ่งปันความสุขให้พวกเราค่ะ
    ศิลปินห้องวิทย์มีมากมายหลากหลายเส้นทางจริงๆ
    พิสูจน์ได้จากผลงานภาพวาดของพวกเรา

    คุณ VeggieGuy ส่งเพลงลูกทุ่งแสนไพเราะ "หล่อไม่เสร็จ"มาให้พี่นักเขียนฟัง
    เลยต้องขอเอามาแบ่งให้พวกเราฟังด้วย

    ช่วยกันลุ้นให้คุณ VeggieGuy ส่งแผ่นไปให้ Grammy หน่อยค่ะ พวกเราจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ฟังรุ่นแรกสุด ที่ได้มีโอกาสฟังนักร้องลูกทุ่งยอดนิยมปี 2551
    [​IMG](rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...