ไปเจอรักแรกพบกับหญิงคนหนึ่ง ทั้งๆที่เรากำลังจะแต่งงาน

กลับไปคืนดีกับเค้าค่ะ เค้าให้อภัยนีน่าเสมอมา ที่สำคัญนีน่าไม่ได้บอกอะไรเค้าเลยว่าเลิกกันแล้ว นีน่าไปจีบคนนั้น ตอนบอกเลิก นีน่าแค่บอกเค้าว่า นีน่าไม่เคยลืมคนคนนึงได้เลย แล้วนีน่าจะแต่งงานกับคนอื่นไปได้อย่างไร

ที่นีน่าไม่ได้เล่าให้เค้าฟังว่า เลิกกันแล้ว นีน่าไปจีบหนุ่มที่ไหน เพราะคิดว่า ถ้าเค้าไม่อยากถาม แสดงว่าเค้าไม่อยากรู้ ไม่อยากเจ็บ เค้ารับไม่ได้ค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับทุกข้อคิดและข้อเตือนใจครับ ความตั้งใจของผมยังคงเดิม ยังไงๆผมก็จะพยายามประคับประคองชีวิตครอบครัวให้ดีที่สุด ผมจะไม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่า หรือกระทำการใดๆที่เป็นเหตุให้ภรรยาอยากหย่ากับผม แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ถ้าหากภรรยาเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่าเอง ผมก็คงจะไม่รั้งไว้ครับ ลืมบอกไปว่า กับความสัมพันธ์ของภรรยากับผมนั้น ไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เรามีหลายอย่างที่แตกต่างกัน อย่างเช่นผมเป็นคนใจเย็น ไม่ชอบพูดมาก แต่ภรรยาผมจะเป็นคนใจร้อน หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย หลายๆครั้งที่เธอโกรธผม ไม่พอใจผมด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ผมก็พยายามอดทน ไม่โต้ตอบ ไม่ต่อล้อต่อเถียง ใช้ความเงียบสยบความเคลื่อนไหว รวมถึงเป็นฝ่ายขอยอมรับผิดเอง ทั้งๆที่จะรู้สึกว่าตัวเองไม่ผิดก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม ความอดทนของคนเราก็คงมีขีดสิ้นสุดนะครับ ผมเคยพยายามพูดคุยและอธิบายด้วยเหตุผล แต่ก็ไม่ได้ผลครับ ผมขอยกตัวอย่างเรื่องจริงที่เกิดขึ้นให้ฟังซักหนึ่งเรื่อง ....ช่วงที่ลูกๆยังเล็กๆสักสองสามขวบ ช่วงนั้นผมทำงานเลิกดึกหน่อย ภรรยาผมก็เลยต้องเอาลูกๆขึ้นนอนก่อน พอผมกลับมาบ้าน อาบน้ำกินข้าวเสร็จ ขณะกำลังนั่งพักหน้าทีวีได้สักแป๊บนึง ภรรยาก็ลงมาต่อว่าผมทันทีว่า ทำอะไรเสร็จแล้ว ทำไมไม่ขึ้นไปเปลี่ยนกับเค้า(หมายถึงให้ผมไปนอนกล่อมลูกแทนเค้า) เค้าจะได้ไปทำอย่างอื่นมั่ง แน่นอนว่า ผมก็ขึ้นไปแต่โดยดี โดยไม่ต่อล้อต่อเถียงพร้อมกับขอโทษเค้า, หลังจากวันนั้น ก็แบบเดียวกัน พอผมกลับมาบ้าน ทำอะไรเสร็จ ก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนตัวกะเค้า แต่ทันทีที่เข้าไปในห้องนอนของลูก ผมก็โดนด่าทันทีว่า ขึ้นมาทำไมห๊า? ลูกกำลังจะนอนอยู่แล้วเชียว มาจัดการต่อเลยไป๊! แน่นอนว่า ผมก็ไม่ต่อล้อต่อเถียงเช่นเคย เพราะถ้าแย้ง จะยิ่งทำให้เธอโกรธมากขึ้น ผมไม่อยากให้ลูกเห็นภาพของพ่อแม่ทะเลาะกัน, หลังจากวันนั้น ผมก็ทำตัวไม่ถูกเลย จะขึ้นไปเปลี่ยนกะเค้าดี หรือไม่ไปดี สุดท้ายก็หาทางออกโดยให้ลูกๆนอนกันเอง ไม่ต้องขึ้นไปกล่อม แต่นี่เป็นแค่หนึ่งตัวอย่าง เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ผมเจอบ่อยมาก ถึงจะรู้จักกันมานาน แต่ผมก็เดาใจเธอไม่ถูกอยู่ดี เธอคาดหวังว่าผมจะต้องรู้ใจเธอทุกเรื่อง แต่เมื่อผมไม่สามารถ เธอก็จะโกรธผม และต่อว่าผมเสมอ ผมก็รู้ตัวดีว่า ถ้าผมยอมไปเรื่อยๆ มันก็ต้องเป็นแบบนี้ต่อไป แต่ถ้าไม่ยอม เช่นพยายามอธิบายหรือชี้แจง เธอก็ไม่รับฟัง แถมยังจะโมโหมากขึ้น และอาจจะไประบายอารมณ์ด้วยการด่าว่า ทุบตีลูกๆ และนั่นก็คือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด ผมจึงต้องยอมเพื่อลูก ผมพูดได้เลยว่า ถ้าไม่ใช่เพราะสงสารลูก ผมคงไม่ทน และเราคงจะแยกทางกันไปนานแล้ว ...ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อใช้กรรม แต่ว่าชาติหน้า ผมคิดว่าคงจะดีขึ้น เพราะผมก็มั่นใจว่า ชาตินี้ผมก็ทำบุญไปแล้วพอสมควร และก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ ส่วนบาปนั้น นอกจากตบยุง กับเป็นชู้ทางใจในครั้งนี้แล้ว บาปอื่นๆที่หนักๆก็คงไม่มีครับ(เหล้า,บุหรี่,อบายมุขทุกอย่างก็ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย) ขอบคุณสำหรับทุกคำชี้แนะอีกครั้งครับ

 

ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ นับว่าคุณเป็นที่น่าชื่นชมคนหนึ่ง ทำหน้าที่ใด้ดีไม่ว่าจะเป็นหน้าที่สามีหรือพ่อของลูก ก็หวังว่าคุณจะทำได้ตลอดไป เข้าใจค่ะว่าคุณต้องรู้สึกหลาย ๆ อย่างในความคิด ดิฉันเองมีบางสิ่งที่คล้าย ๆ กับคุณ ต้องยอมรับว่าคุณทำได้ดีกว่าดิฉันมาก

 

อะไรที่เป็นของเรา ไม่ว่าจะเนิ่นนานแค่ไหน ห่างไกลเท่าไร ก็ต้องเป็นของเราแน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่ต่อให้มัดติดกับตัวเราอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องมีอันต้องหลุดจากเราไปแน่นอนค่ะ บุญและบาป เป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาและไปกับเราพร้อมจะบันดาลให้เราได้เมื่อถึงเวลา...ที่จะดีใจและเสียใจ....

 

อยู่กันสองคน ก็ลิ้นกับฟัน เรื่องผัวเมียเป็นเรื่องละเหี่ยใจ

แวบหนึ่งสงสารคุณ แวบหนึ่งดีใจแทนคุณว่า เมียคุณก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย

ยึดถือ อดทน ยอมแพ้ ให้อภัย นะคะ

อย่ามองแต่เรื่องไม่ดีค่ะ มองเรื่องดีๆนะคะ

 

คน 2 คนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ก็มีโอกาสมีเรื่องกระทบใจกันมาก เพราะชีวิตมีเรื่องต้องรับผิดชอบ มีหน้าที่ มีการงาน มีงานบ้าน มีความเหนื่อยยากในการดำรงชีวิต ไม่เหมือนตอนเป็นแฟนกัน เพราะยังไม่ต้องร่วมรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ในการดำรงชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียด จึงต้องพยายามมีความเข้าใจ และให้อภัยกัน

 

ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมและสัตว์โลกย่อมเข้าข้างตนเองเสมอ
ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นธรรมชาติถ้าเข้าใจธรรมชาติแล้วจะเข้าใจตนเอง
ศิล สมาธิ ปัญญา
ศิล แปลว่า ปกติ,สมาธิ แปลว่า ความตั้งใจมั่น,ปัญญา แปลว่า รู้ตามเป็นจริง
ทุกอย่างเกิดจากใจต้องแก้ด้วยใจ ลองทำใจให้น้อมรับ(สาวคนใหม่ๆเสมอ)สภาวะภายนอกเข้ามาสู่ใจเรา เราจึงจะรู้ว่าใจเราเป็นอย่างนี้หนอดิ้นรนไม่สิ้นสุด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ต้องแก้ที่ปัจจัยทำให้เกิด แล้วจะพ้นซึ่งแห่งทุกข์ เห็นกระแสแห่งพระนิพพาน
ระมัดระวัง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะอายตนะทั้ง 5 นี้เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อยากพ้นทุกข์ให้ดูทีอายตนะทั้ง 5 รักษาให้เป็นปกติด้วย ศิล สมาธิ และ ปัญญา จึงจะล่วงทุกข์นี้ไปได้ สาธุ<!-- / message --><!-- edit note -->

 

ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมและสัตว์โลกย่อมเข้าข้างตนเองเสมอ
ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นธรรมชาติถ้าเข้าใจธรรมชาติแล้วจะเข้าใจตนเอง
ศิล สมาธิ ปัญญา
ศิล แปลว่า ปกติ,สมาธิ แปลว่า ความตั้งใจมั่น,ปัญญา แปลว่า รู้ตามเป็นจริง
ทุกอย่างเกิดจากใจต้องแก้ด้วยใจ ลองทำใจให้น้อมรับ(สาวคนใหม่ๆเสมอ)สภาวะภายนอกเข้ามาสู่ใจเรา เราจึงจะรู้ว่าใจเราเป็นอย่างนี้หนอดิ้นรนไม่สิ้นสุด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ต้องแก้ที่ปัจจัยทำให้เกิด แล้วจะพ้นซึ่งแห่งทุกข์ เห็นกระแสแห่งพระนิพพาน
ระมัดระวัง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะอายตนะทั้ง 5 นี้เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อยากพ้นทุกข์ให้ดูทีอายตนะทั้ง 5 รักษาให้เป็นปกติด้วย ศิล สมาธิ และ ปัญญา จึงจะล่วงทุกข์นี้ไปได้ สาธุ<!-- / message --><!-- edit note -->

 

ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ หลุดพ้นได้ด้วยปัญญา
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมและสัตว์โลกย่อมเข้าข้างตนเองเสมอ
ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นธรรมชาติถ้าเข้าใจธรรมชาติแล้วจะเข้าใจตนเอง
ศิล สมาธิ ปัญญา
ศิล แปลว่า ปกติ,สมาธิ แปลว่า ความตั้งใจมั่น,ปัญญา แปลว่า รู้ตามเป็นจริง
ทุกอย่างเกิดจากใจต้องแก้ด้วยใจ ลองทำใจให้น้อมรับ(สาวคนใหม่ๆเสมอ)สภาวะภายนอกเข้ามาสู่ใจเรา เราจึงจะรู้ว่าใจเราเป็นอย่างนี้หนอดิ้นรนไม่สิ้นสุด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ต้องแก้ที่ปัจจัยทำให้เกิด แล้วจะพ้นซึ่งแห่งทุกข์ เห็นกระแสแห่งพระนิพพาน
ระมัดระวัง หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะอายตนะทั้ง 5 นี้เองที่เป็นต้นเหตุทำให้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป อยากพ้นทุกข์ให้ดูทีอายตนะทั้ง 5 รักษาให้เป็นปกติด้วย ศิล สมาธิ และ ปัญญา จึงจะล่วงทุกข์นี้ไปได้ สาธุ<!-- / message --><!-- edit note -->

 

จิตว่าง

คุณยังอยากจะอยู่ใน๓๑ภูมิแบบใหนก็ให้เลือกเอานะครับ

 

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">เจ้าของกระทู้เงียบไปยังงี้ น่าห่วงนะ ท่าจะ....
</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผู้ทุศีล ย่อมสูญเสียเกียรติยศ

 

การทุศีลย่อมนำมาซึ่งการดูถูกดูแคลน จำไว้นะคะ

 

ขอบคุณครับ สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ช่วงนี้ภรรยาผมก็ดีขึ้น เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่มาว่า ให้ไปทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรบ้าง ซึ่งหลังจากที่เธอเริ่มทำพวกนี้(แน่นอน ผมก็ทำด้วย) เธอก็เป็นคนใจเย็นขึ้น ไม่ฉุนเฉียวง่าย โมโหง่ายเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็คล้ายๆกับทุกครั้งน่ะแหล่ะ เมื่อไหร่ที่เริ่มจะดีขึ้น ก็จะต้องมีบททดสอบเข้ามาอีก แต่ครั้งนี้ ท่าทางจะเป็นบททดสอบที่หนักกว่าทุกที คือแว่วๆมาจากหัวหน้าที่ทำงานว่า อีกเดือนสองเดือนนี้ จะส่งน้องเค้ากับผมไปดูงานที่ต่างประเทศด้วยกันอีกประมาณ 1~2 สัปดาห์ ดีไม่ดี อาจจะเป็นการไปกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น ซึ่งก็ขอบอกไปตามตรงว่า ไม่มั่นใจเลย ว่าจะรักษาตบะไม่ให้แตกได้หรือไม่ งานนี้ไม่ไปด้วยก็ไม่ได้ เพราะคนที่พอจะไปแทนผมได้ ก็ดันลาออกไปซะแล้ว ส่วนน้องเค้าต้องไปอยู่แล้ว เพราะรับผิดชอบงานนี้โดยตรง ส่วนงานของผม ก็ต้อง Support งานของน้องเค้าอีกทีครับ สรุปว่า งานนี้ ระหว่างความรัก กับความถูกต้อง อย่างไหนจะชนะ อีกซักสองเดือนคงรู้ผลครับ.

 

เห็นใจคุณ RP จังเลยค่ะ พยายามอดทนอดกลั้นให้ได้มากที่สุดนะคะ พยายามอธิฐานจิตไว้ค่ะว่าขออย่าให้ผิดศีลเลย บุญจะช่วยคุณได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

 

เรื่องนี้ไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้...............
แต่ดิฉันสงสารภรรยาคุณมาก ที่ถูกสามีอย่างคุณกลับแบ่งพื้นที่ใจไปให้คนแปลกหน้าเค้าครอง ไม่ยุติธรรมเลย คุณทำร้ายเธออยู่นะคะ....คุณRP

ชู้แค่ทางใจนี่ถือว่าผิดศีลค่ะ ตามใจที่ยังคิดตามนั้นใจของคุณจะพลาดให้กิเลสอันหนาเตอะนี้เข้าสักวัน

พยายามมากกว่านี้อีกนะคะ เพื่อที่จะข้ามเรื่องนี้มาให้ได้ "ที่สุดแล้วก็ใจเรา"
ดิฉันขอเป็นอีกหนึ่งพลังใจที่จะขอให้คุณได้พบกับใจที่เป็นสุขและเป็นใจที่สงบเสียทีค่ะ

 

ขอให้คุณพยายามตัดใจให้ได้นะคะ การที่ยังตัดไม่ได้เป็นเพราะคุณไปยึดมั่นกับคำพูดของหมอดูด้วยหรือเปล่าคะ ว่าเค้าเป็นเนื้อคู่ของเรา พอคิดว่านี่คือเนื้อคู่มันก็จะเป็นความรู้สึกแบบว่าไม่อยากเสียเค้าไป
ที่บอกว่าชาตินี้ไม่เคยทำให้ใครช้ำใจ เราว่า อาจจะเป็นภรรยาคุณก็ได้นะคะ ลองนึกดู ถ้าคุณบอกว่าฝืนความรู้สึกในการเป็นพ่อและสามีมา 10 ปี เธอจะไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือคะ
ถึงเธอจะไม่รู้เรื่องผู้หญิงคนนั้น แต่เราเชื่อว่าเธอต้องรู้สึกถึงความรักที่คุณมีให้เธอไม่เหมือนเดิม
ยังไงก็แล้วแต่ขอให้คุณทำดีที่สุดนะคะ อย่าพลั้งเผลอทำตามกิเลศที่อยู่ในใจ อย่าเฝ้ารออนาคตตามที่หมอดูพูดว่าคุณจะเลิกกับภรรยาคนแรกแล้วจะได้มาเจอเนื้อคู่ ซึ่งคุณคิดว่าคือ ผู้หญิงคนนั้น
ในมุมที่กลับกัน คนที่เรารู้จักคนหนึ่งก็เคยเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ อย่างนี้ แต่ของเค้าหมอดูบอกว่า ผู้หญิงที่มาใหม่คือเจ้ากรรมนายเวรของเค้า เค้าเคยทำให้ครอบครัวของผู้หญิงคนนี้แตกแยกมาในชาติก่อน ชาตินี้เค้าก็จะมาทำให้ครอบครัวของคุณต้องแตกแยกมั่ง
บางทีเนื้อคู่กับเจ้ากรรมนายเวรก็มาในแนวเดียวกันได้นะคะ

 

ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาสาธุก่อนเลยกับความใจเด็ดของคุณที่ไม่ยอมผิดศีล และคุณธรรม แสดงว่าคุณเป็นคนดีคนหนึ่งเลยในสายตาของผม
ดีแล้วที่คุณอดทนได้และผมเชื่อว่าวิบากกรรมที่คุณคิดว่ากำลังได้รับอยู่นี้ จะหมดในภพชาติปัจจุบันนี้ครับ เพราะคุณไม่ได้ทำให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจก็คือไม่มีคู่กรรมเกิดขึ้นนั่นเอง ไม่งั้นถ้ามีคู่กรรมคุณก็ต้องกลับมาสู่วงเวียนเดิมที่คุณกำลังประสบอยู่ ขอแนะนำให้เลิกคิดถึงผู้หญิงคนที่ทำงานด้วยนะเพราะจะเป็นมโนกรรมครับ และขอให้อย่าหมดความอดทนต่อความดีที่กำลังทำอยู่ล่ะ สาธุ
ถ้าวันใดทีขันติคุณแตกผมขอยกเลิกการอนุโมทนาในวันนี้โดยปริยายครับ