ซูกระแท้ว....แซวกระทู้....

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 14 เมษายน 2014.

  1. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    [​IMG]
    พระครูท่านหนึ่งได้กล่าวเอาไว้
    :p:p:p
     
  2. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    บุญทานนั้น ก็สำคัญ ต้องทำอยู่เสมอ...
    แต่ว่า ศีลนี้ จำเป็นมากอยู่...เพราะเป็นบาทฐานรองรับ บุญ กุศล ที่ได้ทำลงไป...
    อาหารจะรสเลิศดีเพียงใด มากมายขนาดไหน(ทาน) หากบรรจุเอาไว้ในภาชนะ(ศีล)อันสกปรกโสโครกแล้ว อาหารนั้นย่อมกลายเป็นของน่ารังเกียจไปด้วยกัน...

    ผลของทานที่ทำเอาไว้ดีแล้ว จะทำให้จิตใจมีความอ่อนโยนลง...
    ศีลที่รักษาไว้ดีแล้ว ย่อมตัดความกังวล ในสิ่งชั่วทั้งหลายออกจากใจไปเสียได้...
    เมื่อนั้น บุคคลย่อมพร้อมต่อการเจริญภาวนา เพื่อ ลด ละ เบื่อหน่าย คลายกำหนัด เพื่อออกจากกาม...เป็นไปเพื่อความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติตั้งมั่นดีแล้ว เพียรพิจารณาตามรู้ตามดูจิต ย่อมเกิดผลได้ ไม่มากก็น้อย...

    แต่การภาวนาในเบื้องต้นนี้ เหมือนจะเป็นของยาก สำหรับปุถุชนทั้งหลาย...
    ดังนั้นจึงขอให้เริ่มต้นจากการสวดมนต์ให้ได้วันละประมาณ 1 ชั่วโมง...
    การสวดมนต์ที่นานเกินกว่า 30 นาทีไปแล้ว จิตใจจะเริ่มรวมตัว ขังตัว เอาไว้ในกาย ไม่ส่งออกพลุ่งพล่าน อาการที่จิตเริ่มเป็นสมาธิ จะค่อยๆเกิดขึ้นทีละน้อย ทีละน้อย...
    ทำแบบนี้ทุกๆวันไป... 3 เดือนไปแล้ว ย่อมเห็นผล ของใจตนเองว่า สามารถสงบ ระงับ จากทุกขเวทนาทั้งหลาย อันมีอารมณ์ร้ายต่างๆที่เข้ามากระทบใจ ได้ในระดับหนึ่ง โดยใจของตนไม่ต้องฝืนข่ม ในการระงับอารมณ์เหล่านั้น...จิตยังคงเป็นผู้รู้อยู่ ดูอยู่ แต่ไม่ข้องด้วยอารมณ์ชั่วเหล่านั้น มากนัก...
     
  3. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    อนุโมทนา สาธุค่า

    ทาน ศีล ภาวนา

    ภาวนา คือการ วิปัสนา รึป่าวคะ
     
  4. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ภาวนา หลวงพ่อท่านให้แปลว่า ทำให้มีขึ้น ทำให้เกิดขึ้น...
    ส่วนวิปัสสนา ท่านแปลว่า ปัญญา...

    การภาวนา คือ การเจริญสมาธิ...เจริญสติ...เพื่อให้เข้าถึง ปัญญา คือ วิปัสสนา
    การเจริญสมาธิ คือ การทำให้มีสมาธิเกิดขึ้น นี่คือภาวนา
    การเจริญสติ คือ การทำให้มีสติ เกิดขึ้น นี่คือภาวนา

    สติที่ขาดสมาธิ ก็เป็นแต่เพียงความฟุ้งซ่าน
    สมาธิที่ขาดสติ ก็เป็นแต่เพียง ตอไม้

    การภาวนา จึงต้องเจริญทั้งสมาธิ และเจริญทั้งสติ ควบคู่กันไป โดยมีปัญญาเป็นเครื่องชี้วัด
    สมาธิที่ไม่เกิดปัญญา ก็เรียกว่า มิจฉาสมาธิ
    สติที่ไม่ก่อให้เกิดปัญญา ก็เรียกว่า มิจฉาสติ

    ตัวอย่างของสมาธิที่ไม่เกิดปัญญาก็คงรู้มาแล้วหลายพวกด้วยกัน เช่น พวกที่ฝึกวิชาไสยศาสตร์ มนต์ดำทั้งหลาย นี้คือมิจฉาสมาธิ เป็นต้น
    แต่มิจฉาสตินี้ หลายคนไม่เคยได้ยิน นึกตัวอย่างไม่ออก

    ในที่นี้จะยกตัวอย่าง นักย่องเบา ที่จะปีนเข้าไปขโมยของ ...
    นักย่องเบานี้ก็มีสติ ระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดัง คอยระวังไม่ให้ไปกระทบอะไรที่จะเกิดเสียงได้ นี่คือ สติ แต่เป็น มิจฉาสติ อย่างนี้เป็นต้น...

    สัตว์เองก็มีการฝึกสติเช่นเดียวกัน...ไม่ใช่ไม่มี...
    ยกตัวอย่างเช่นแมว เป็นต้น การย่างก้าวของแมว แต่ละก้าว เวลาจะย่อง มีความระมัดระวัง เดินเบา เงียบ...
    จนมีคำยกมาเปรียบ พวกที่ย่องเบาว่า ตีนแมว...
    นี่คือ สติ...สติของแมว...แต่ไม่ใช่สัมมาสติ...เพราะปัญญา ไม่เกิด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2015
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436



    ---------------------


    เป็นรูปพระจักรพรรดิรูปแบบหนึ่งครับ ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ชี้แจงเพื่อไม่ให้มีมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ทั้งต่อท่านและคนอื่นที่นำไปคิด พูด หรือทำกายกรรมต่อไป


    ตรงถื่นที่วัดถ้ำเมืองนะตั้งอยู่นั้น มีชาวพม่า ไทยไหญ่ ฯลฯ ที่เค้ามีศิลปะวัฒนธรรมของเค้าเองด้วย (วัดห่างจากชายแดนพม่า3-4 กม.)

    ไม่ว่าจะเกิดจากเห็นจริง100% หรือ ปนศิลปะที่มีความศรัทธาของคนในท้องถิื่นปนเข้าไปในรูปลักษณ์ภายนอก

    ก็เป็นการอาศัยรูปธรรมที่น้อมนำใจให้ศรัทธาในพระศาสนา

    พระจักรพรรดิที่เป็นตัวคนเป็นๆจะทรงเครื่องทรงแบบใด ท่านก็เป็นตัวแทนของคนที่มีศีล มีธรรม มีบุญบารมี
    และส่วนใหญ่จะเดินสายโพธิญาณ ที่มาบำรุงพระศาสนาเหมือนกัน

    เรื่องประเด็นใหญ่ไม่ได้อยุ่ที่เครื่องทรง ว่าวิจิตรต่างกันอย่างไรจึงถูกจึงผิด แต่จะผิดได้ ถ้าไม่เข้าใจเจตนาเบื้องต้น กลาง ปลาย ว่าเค้าหวังผลตรงไหน ให้เกาะให้ชินกับความดี คุณธรรมของสิ่งที่นำมาเป็นบริกรรมนิมิต ว่ามีคุณธรรมอะไร และพัฒนาตนไปสู่คุณธรรมนั้น และท่านไม่ได้ให้ยึดเกาะเครื่องทรง แต่สอนแต่เรื่องคุณธรรมของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จักรพรรดิ คนดีมีคุณธรรมที่สามารถตายอย่างสบายๆจิตเกาะบุญสภาวะได้ ฯลฯ



    หมายเหตุ
    เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มครับ ว่า ทางผู้สร้างไม่ได้มีเจตนามอมเมาเอากิเลสไปสรวมรูปลักษณ์พระพุทธองค์





    ถ้ายังไม่เคลียร ...เดี่ยวจะนำภาพและโพสนี้ของคุณระมิงค์ไปถามหลวงตาม้าท่านให้ครับ จะได้ไม่มีกรรมในทางไม่ดีต่อกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2015
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    [​IMG]

    สักแต่ว่ากราบ?

    หลวงตาม้า ถามลูกศิษย์ว่า "เวลากราบพระ กราบกันอย่างไร หรือเพียงแต่กราบเท่านั้น หรือกราบอย่างที่ผู้ใหญ่ทั่วๆ ไปสอนเด็ก เอา...กราบ ๑ กราบ ๒ กราบ ๓" แล้วท่านก็หัวเราะแล้วก็เมตตาสอนว่า

    "เวลากราบพระต้องกราบด้วยความเคารพจริงๆ ให้ตั้งจิตระลึกถึงองค์พระตรงหน้า แล้วตั้งจิตตั้งใจกราบ

    โดยกราบครั้งที่ ๑ ให้นึกในใจว่า
    พุทธัง ชีวิตัง เมปูเชมิ

    กราบครั้งที่ ๒ ว่า ธัมมัง ชีวิตัง เมปูเชมิ

    กราบครั้งที่ ๓ ว่า สังฆัง ชีวิตัง เมปูเชมิ

    ความหมายก็คือ ข้าพเจ้าขอบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า ด้วยชีวิต"

    หลวงตาเมตตาแนะนำอีกว่า

    "เรานักปฏิบัติทั้งหลาย อย่าปล่อยเวลาให้หมดไปโดยเปล่าประโยชน์ ให้หมั่นภาวนาไว้ตลอดเวลา พอลืมตาตื่นก็ให้ภาวนาไปจนถึงเวลานอน ให้คำภาวนานั้นหายไปพร้อมกับการหลับ ทำเช่นนี้ให้เคยชิน ไม่ว่าขณะนั้นกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ในรถ ในเรือ หรือเดินอยู่ ก็ต้องภาวนา อย่าประมาท การภาวนานี้นอกจากจะเป็นบุญ และทำให้จิตได้ทำงานแล้ว ยังช่วยให้เราไม่ประมาทในความตายด้วย เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่า ตัวเองจะตายเมื่อไหร่ นอกจากพระอรหันต์ท่านเท่านั้น ฉะนั้น จงภาวนาไป ไม่เสียหาย ไม่เสียตังมีแต่กำไร..."

    "...การภาวนานั้น ต้องเอาจิตจับองค์พระตลอดเวลา พระองค์ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูป หรือพระอริยสงฆ์ องค์ใดก็ได้ที่เรานับถือ ที่เราคุ้นเคย เวลาตายจะได้มีที่ไป คือไปกับพระ เพราะจิตเราจะระลึกแต่พระตลอดเวลาจนเคยชิน ตัวอย่างมีให้ดูตั้งมากมาย เห็นไหมเวลาคนใกล้ตาย เขาจะมีคนไปคอยบอกอยู่ข้างหูว่า ให้คิดถึงพระเข้าไว้ ให้ภาวนา หรือไม่ก็สวดมนต์ พยายามทำทุกวิถีทางให้จิตของคนที่ใกล้ตาย คิดอยู่แต่เรื่องพระ เรื่องกุศล เพราะอะไร ก็เพราะว่าจิตของคนเราตอนที่ใกล้จะดับนี้แรงนัก ถ้าจิตตอนนั้นคิดแต่เรื่องดีๆ ในที่นี้หมายถึงเรื่องบุญ พอตายไปก็เสวยสุข ไม่ต้องไปนรก ถ้าคิดถึงเรื่องบาป ก็โน่น ไปเลยนรก ไปรับกรรมที่ตัวก่อ จำไว้ให้ดี แล้วก็ไปเลือกเอา จะภาวนาตอนนี้หรือจะรอใกล้ตายค่อยภาวนา ถึงตอนนั้นก็ตัวใครตัวมัน ถือว่าบอกแล้ว..."

    . . .

    เรียบเรียงเนื้อหาจากคติธรรมคำสอนของ
    พระอาจารย์ วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
    วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
    ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
     
  7. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    [​IMG]
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    พระพุทธนิมิตพิชิตมารโมลี ที่มีปาฏิหาริย์ ไม่ถูกพม่าเผาทำลายเพียงวัดเดียว ในครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก

    หลายท่านคงไม่ทราบ จากคำบอกเล่าของหลวงตาม้าว่า เวลาไหว้พระกราบพระถวายชีวิต คนที่ฝึกตามแนวหลวงปู่ดู่จะแยกจิตแยกกายหรืออทิสสมานกายไปกราบพระ หรือสถานที่สำคัญทางพระพุทธศานาตามนิสัยวาสนาของตน

    ใครมีวาสนาเก่ามาตรงไหนก็ไปตรงนั้น หรือแบ่งไปกราบตามที่ตนศรัทธาในปัจจุบันด้วย

    อทิสสมานกาย กายหนึ่งของหลวงตาม้าจะมาที่วัดหน้าพระเมรุ มานั่งกราบพระพุทธนิมิตพิชิตมาร และภาวนาที่นี่ตามระยะที่ท่านต้องการด้วย



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2015
  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    รูปลักษณ์พระจักรพรรดิตามศิลปะทางเขตพม่า ที่มีความศักดิสิทธิ์มาก ที่คนไทยรู้จักดี



    [​IMG]
     
  10. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    สมัยก่อน ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ เอาพระหลวงปู่ดู่มาให้กำเอาไว้ นัยว่า เพื่อจะจับพลัง...
    ผมเห็นหลวงปู่ดู่ก่อน เห็นหลวงปู่ทวดนั่งข้างหลังหลวงปู่ดู่ และเห็นพระพุทธรูปองค์นี้อยู่ข้างหลังหลวงปู่ทวดอีกครั้งหนึ่ง ในชุดทรงเครื่องแบบนี้...

    ลูกศิษย์ท่านนี้ยืนยันว่าที่เห็นนั้นถูกแล้ว...
    ต่อมาได้มีโอกาสไปกราบ หลวงน้าสายหยุด ท่านให้พระมากำเอาไว้ แล้วสอนภาวนา คือ อานาปาณสติ พร้อมกับบริกรรมคำว่า
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    แล้วท่านก็ถามว่าเห็นอะไรในองค์พระไหม...
    เวลานั้นก็เห็นเหมือนเดิม คือเห็นหลวงปู่ดู่ก่อน ต่อมาเห็นหลวงปู่ทวดนั่งข้างหลัง และมีพระพุทธรูปทรงเครื่องนี้ เช่นเดิม...

    หลวงน้าสายหยุด ท่านยิ้มแล้วก็บอกว่า "ที่เห็นน่ะ ถูกแล้ว...องค์เดียวกัน"
    จากนั้นท่านก็อธิบายว่า หลวงปู่ดู่ ก็คือหลวงปู่ทวด ซึ่งก็คือพระศรีอริยเมตตรัย...
    ตอนนั้น พระพุทธรูปองค์นี้ ตั้งอยู่ ในศาลา ที่เดินทะลุผ่านจากระเบียง กุฎิหลวงปู่ดู่ได้เลย ห้องติดกระจก ติดแอร์...เดี๋ยวนี้ไม่อยู่แล้ว ย้ายไปอีกอาคารหนึ่ง...

    องค์นี้ ไม่ใช่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เป็นพระศรีอริยะเมตตรัย ซึ่งเป็นพระมหาโพธิสัตย์ที่มีบารมีมากที่สุดแล้ว ณ เวลานี้...กราบท่านได้อย่างสนิทใจครับ...

    ทำไมถึงสร้างขึ้นมาเป็นชุดทรงเครื่องแบบนี้?...
    ผมก็จอมขี้สงสัย...
    เวลาสงสัยแบบนี้ก็จะขอบารมีพระท่านเป็นสำคัญ แล้วไปกราบพระศรีอริยะเมตตรัย ที่สวรรค์ชั้นดุสิต...อันนี้ก็ขอให้ถือว่า โม้ หรือ มโนฯ ก็แล้วกันนะครับ...
    ชุดทรงของพระศรีอริยะเมตตรัย เป็นแบบเดียวกันกับในรูปนี้เลยครับ เพียงแต่ว่ากายขององค์ท่านเป็นแก้วใสเหลือบทอง สว่างมาก...แต่ว่าพระวรกายจะเล็กกว่า องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ และรัศมีกายของฉัพรรณรังสี ยังไม่เต็มเหมือนของพระพุทธเจ้า...เวลาพิมพ์แบบนี้ ก็ขึ้นไปกราบพระองค์ท่านได้ทั้งสองพระองค์นะครับ...ชุดทรงเครื่องพระนิพพานนั้น จะแตกต่างออกไป ในบางส่วน...และองค์จริงของท่านนั้น สมสัดส่วนกว่านี้ พระเศียรไม่ใหญ่แบบนี้ จะออกเรียวๆหน่อย...

    แล้วพระองค์ก็ไม่ใช่ พระเจ้าจักรพรรดิ์ ครับ...
    ตามตำนานปราบท้าวชมพู ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า จักรพรรดิ์นั้น ท่านทั้งหลายคงทราบกันดี...หรือแม้แต่คุณสมบัติและทรัพย์สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ์มีอะไรบ้าง หลวงพ่อฤษีท่านก็เล่ามาละเอียดอยู่แล้ว ทุกท่านคงเคยอ่าน...

    มาถึงประเด็นของพระพุทธรูป ที่สร้างขึ้นมาทรงเครื่องอย่างที่หลวงตาม้า ท่านสร้าง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า เป็นความคิดเห็นหลวงตาม้า หรือเป็นความต้องการของลูกศิษย์...
    แต่ผมเข้าใจว่าเป็นลูกศิษย์ออกแบบมา แล้วมาขออนุมัติจากหลวงตาอีกทีนึง...

    หลวงตาม้าท่านเป็นพระที่มีเมตตามาก ท่านไม่ด่าใคร ไม่ว่าใคร ไม่เคยเห็นท่านโกรธใคร เห็นทุกทีท่านก็อารมณ์ดี ...ท่านถือคติว่า "คนดี ไม่ตีใคร"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2015
  11. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ผมได้คุยกับทั้ง หลวงตาม้า สอบถามเรื่องธรรมะ และได้คุยกับแม่ชีหนูนา อารมณ์ดี เป็นแม่ชีที่น่ารักดี รวมทั้งตุ๊เจ้าที่วัด ซึ่งก็คุยสนุกดีครับ...
    แต่...
    การจะเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องรักษาพระวินัยให้เคร่งครัด...การจะคิดนึก ทำสิ่งใด ตามอำเภอใจนั้น...ทำไม่ได้ครับ...

    ยกตัวอย่างเช่น พระนอนในถ้ำ ร่วมกับชี สีกา อุบาสก แบบนี้ ต้องสังฆาฑิเสส....
    หรือการนั่งคุยกันอยู่ในที่ลับหูหรือลับตา สองต่อสอง แบบนี้ก็ผิดพระวินัย...
    คำตอบที่ตุ๊เจ้าตอบมาว่า หลวงตาท่านว่า พวกเรานี้คือพรหมด้วยกันทั้งหมด ดังนั้นอยู่ด้วยกันได้ ไม่เป็นไร อย่าไปถือมาก...เราเป็นพรหมๆๆๆ...
     
  12. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    มาถึงเรื่องการสร้างพระ...
    ท่านดาบหัก เคยสังเกตไหมครับว่า...
    หลวงพ่อฤษี เวลาท่านจะสั่งให้ช่างปั้น สมเด็จองค์ปฐมฯ ซึ่งเวลานั้น ยังไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องของสมเด็จองค์ปฐมฯมาก่อน...

    หลวงพ่อฤษีท่านไม่ได้จินตนาการไปเองถึงรูปลักษณะที่จะปั้นขึ้นมา...
    แต่ว่าท่านถามองค์สมเด็จก่อน...และทรงมีพระดำรัสตรัสมาอย่างไร..หลวงพ่อก็ให้ทำตามอย่างนั้นครับ...

    หลวงปู่ดู่สร้างพระศรีอริยะเมตตรัย ก็แบบเดียวกัน ท่านไปเห็นมาแล้ว จึงได้ปั้นขึ้นมาเป็นแบบนี้ครับ...

    การสร้างพระพุทธรูป ซึ่งเป็นองค์แทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นที่สุดแห่งสามโลกนั้น... ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นกันสนุกสนานนะครับ ไม่ใช่คิดนึกจินตนาการแล้วเอา อะไรมาปะติด ปะต่อ ต่อเติม ตกแต่ง เป็นงิ้วเป็นลิเก...ทำไม่ได้นะครับ...

    ผู้ให้กำเนิดทางโลกผมคือ พ่อแม่...ใครเอารูปท่านมาจับตกแต่งแปลกๆประหลาดๆ ผมก็ไม่ค่อยจะชอบนะครับ...
    ในทางธรรม ผมถือเอาเองว่า ผู้ให้กำเนิดผมคือองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า...ที่เป็นครูของพรหม เทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย...
    พระองค์เป็นพระศาสดา ที่พวกเราต่างก็เคารพสูงสุด...
    ทรงถือผ้ากาสาวพัตร ตลอดพระชนม์ชีพ...

    เมื่อเสด็จดับขันธุ์เข้าสู่ปรินิพพานแล้วนั้น ครูบาอาจารย์ท่านได้เห็นว่า พระองค์ทรงเครื่องทรงเป็นพระวิสุทธิเทพ...ท่านจึงขออนุญาตจำลอง สร้างขึ้นมา ด้วยความเคารพ ..ไม่ได้จินตนาการนึกคิดเอาอย่างปุถุชนทั้งหลายคิดทำกันครับ...
     
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    คุณระมิงค์ทราบได้อย่างไร ว่า พระนอนในถ้ำร่วมกับสีกา อุบาสกครับ

    พระรูปนั้นคือใครครับ

    ลักษณะถ้ำ ที่นอนนั้นเป็นที่ปิดลับสายตาหรือไม่?? พระนอนตรงไหน อุบาสก อุบาสิกานอนตรงไหนครับ

    ลักษณะที่ไปเ้ห็นตอนนั้น ที่ถ้ำใหญ่สร้างต่อเติมเป็นอาคารติดกับถ้ำไว้5ชั้นหรือยัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2015
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436


    ส่วนเรื่องการสร้างพระ มนุษย์ทั้งหลายไม่ใช่จะมีฝืมือเท่าเทียมกัน

    แต่มันสำคัญตรงที่ ใครสักคนสร้างพระไว้ตั้งแต่สมัยไหนก็ตาม ไม่ใช่ว่าจะสวยสดงดงามตรงพุทธลักษณะ100%ทุกประการก็หาไม่

    แต่ ขณะทำ จิตใจเค้าเลื่อมใสศรัทธาในพุทธคุณ
    ไม่ใช่นึกถึงผลประโยชน์ที่จะได้ตอบแทนหลังจากจินตนาการปั้นให้ถูกใจผู้ว่าจ้างหรือคนจะมาจ่ายเงิน

    บุญบารมีก็ได้รับแล้ว



    ดูพระพุทธรูปที่สร้างมาตั้งแต่โบราณ ที่ไม่สวยตรงตามพุทธลักษณะก็มี
    แต่ท่านผู้สร้างด้วยจิตศรัทธาแม้ไม่ได้มีญาณระดับใดไปเห็นพุทธนิมิต ก็เสวยสุคติ เมื่อยามละสังขารแล้วจิตจับไว้ซึ่งบุญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2015
  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436
    [​IMG]


    ร่วมบุญหล่อพระพุทธจักรพรรดิกินบ่เสี้ยง หน้าตัก 45 นิ้ว ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557
    ณ ถ้ำใหญ่ วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)

    -------------------------------------------------------------------------------

    เนื่องด้วยหลวงตาม้า ท่านได้แลเห็นว่าขณะนี้บ้านเมืองและคนในประเทศไทยเกิดความแตกแยก
    หลวงตาม้าท่านจึงได้มีความประสงค์ ที่จะจัดหล่อพระ ในช่วงเทศกาลแห่งความรักที่กระแสคนส่วนใหญ่ในโลก
    ได้ยึดถือกัน เพื่อเป็นช่วงเวลาที่จะระลึกถึงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
    ทางวัดโดยหลวงตาท่าน จึงได้จัดให้มีการหล่อพระขึ้นในโอกาสนี้
    เพื่อร่วมกระแสอุทิศบุญให้มนุษย์ทั่วโลก และชาวไทยทั้งปวง ให้ได้เกิดกระแสพลังงาน
    ความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันยิ่งขึ้น ตลอดจนถึงสัตว์โลกทั้งหลายด้วย
    และร่วมกันอุทิศบุญกุศลแห่งการหล่อพระนี้ให้แก่ประเทศไทยของเรา..



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2015
  16. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,998
    ผมถามหลวงตาม้าเรื่องการภาวนา...
    ท่านว่าหลวงพ่อดู่ไม่ได้สอนท่านเรื่องภาวนา...
    หลวงพ่อดู่สอนท่านสร้างพระ และสวดบทสวดจักรพรรดิ์...
    และการขอรับพลังจากหลวงพ่อดู่มาแล้วสัพเพออกไป...
    ส่วนพลังที่รับมาและสัพเพฯออกไปนั้น จะมีพลังส่วนหนึ่งที่ตกค้างอยู่ที่เรา...

    ส่วนเรื่องการภาวนานั้น ต้องไปถามหลวงพี่สายหยุด หลวงพี่ลำใย(ซึ่งผมเรียกหลวงน้า)
    ซึ่งตรงนี้ไม่ได้มีปัญหาครับ...ท่านให้สวดมนต์วันละ5ครั้ง ทุกคนก็ไปสวด..ซึ่งผมก็เห็นว่าดี...

    เรื่องที่หลวงตาท่านปรารถนาพุทธภูมิ วิริยาธิกะนั้น ผมไม่ได้ไปก้าวล่วงท่าน...วันนั้นหลวงตาท่านบอกผมว่า ท่านบำเพ็ญบารมีแบบสบายๆ ไม่เครียด เพราะมีเวลาเยอะ พุทธภูมิวิริยาธิกะ 16 อสงไขย กับแสนมหากัปป์ มีเวลาอีกเยอะ ไม่ต้องรีบ เราทำแบบสบายๆ...ท่านว่ามาแบบนี้ครับ คิดว่าหลายท่านก็เคยได้ยิน...ซึ่งก็เป็นแนวทางของหลวงตาม้า อันนี้ก็งดวิจารณ์นะครับ...

    ส่วนตัวผมนี่ปรารถนานรกภูมิ เห็นว่าต้องทำความเพียรให้มากยิ่งกว่าคำว่ามาก คือความเพียรภาษาบาลีเรียกว่า วิริยะ เหมือนกัน...ไม่สบาย หรือจะว่า ลำบากมากถึงมากที่สุดก็ว่าได้...ต้องรู้ทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง ขึ้นชื่อว่าไม่รู้ นี่ต้องไม่มี...ซึ่งแม้ว่าจะคนละแนวทาง แตกต่างกัน แต่ผมก็ไม่ได้ไปวิพากษ์วิจารณ์ใดๆครับ สุดแล้วแต่ปฏิปทาของแต่ละท่าน...

    .................................

    คือ ผมอาจจะเป็นคนหัวโบราณก็ได้นะครับ...
    ข้อวัตรปฏิบัติใดๆก็ตาม ผมยึดถือเอาแนวทางครูบาอาจารย์ ผม Advance ไม่เป็น...
    ครูบาอาจารย์ผมท่านก็สอนตาม อาจารย์ของท่าน และยึดเอาคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นหลัก...

    สมัยปัจจุบันนี้ ล้ำหน้าไปมากแล้ว ผมคงตามไม่ทัน หรือไม่อาจจะตามได้ ก็ไม่แน่ใจ
    ผมมักนึกถึงเรื่อง กลองของพระเจ้าลิจฉวี อยู่บ่อยๆ เมื่อเห็นคำสอนแปลกๆ พระพุทธรูปแปลกๆ วัตถุมงคลแบบแปลกๆ ฯลฯ

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในใจผมนั้นยังเป็นองค์เดิม หลวงพ่อฤษี หลวงพ่อปาน ก็ยังเป็นองค์เดิม กรรมฐาน40 สติปัฏฐาน4 ที่ผมเคยฝึกมาอย่างไร ผมก็ฝึกอยู่เหมือนเดิม แต่ว่าโลกมันหมุนเวียนเปลี่ยนไปไกลมากแล้วครับ...
    ในไม่ช้า ผมคงต้องไปอยู่ป่า เพราะยังยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งเดิมๆ ไม่รู้จักปล่อยจักวาง...

    ผมเห็นพระทำผิดวินัย ผมยังตำหนิ และถ้าผมเป็นผู้มีอำนาจ ผมก็คิดว่าผมจะสั่งลงโทษครับ...ผมเห็นวัตรปฏิบัติที่ผิดไปจากที่ครูบาอาจารย์สอนไว้ ผมก็ไม่ชอบใจว่าไม่รักษาขนบประเพณีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ทำอย่างนี้ได้ยังไง...ท่านสู้อุตส่าห์ลำบากลำบน ฝึกฝน จนสำเร็จแล้วเสียสละเวลาและความสุข มาบัญญัติสั่งสอนเรา...

    ผมจึงยังติดอยู่ในพระพุทธเจ้าแบบเดิมๆ...พระธรรมแบบเดิมๆ...พระสงฆ์แบบเดิมๆอยู่ครับ...ผมยังปล่อยวางไม่ได้...

    ..............................................................
    สุดท้ายนี้ ผมก็ขอขมากับผู้สร้างผู้ร่วมสร้างพระพุทธรูป สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ์ ทุกๆท่านนะครับ...ผมจะไม่เอามาวิพากษ์วิจารณ์ ถาวรวัตถุที่หลวงตาม้าและคณะได้ร่วมกันสร้างขึ้นอีกต่อไป...หรือแม้แต่พระพุทธรูปที่มี9เศียร เศรษฐีนวโกฎิ...ร่ำรวยเงินทอง...และอื่นๆในภายภาคหน้า...เป็นอันว่าผมขอขมาท่านทั้งหลายทั้งหมด...และจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยอีก...

    ขอบคุณท่านดาบหัก ที่แนะนำตักเตือนมานะครับ...
    ที่ขอขมานี่ไม่ใช่น้อยใจ แต่ว่าเข้าใจ...
    ขอบคุณและสวัสดี...
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436

    ขอตรงนี้อีกนิดนึงครับ


    ที่ว่าท่านทำแบบสบาย ไม่ใช่สบายในมติหรือรูปแบบแบบปุถุชนอย่างทั่วไป
    ที่เพลินกับอายตนะหกและกิเลส

    ท่านพูดแบบถ่อมตัวมากกว่า


    สบายของท่าน ผมเข้าใจว่า วางอารมณ์ให้จิตสบายไม่เครียด ไม่ตึง
    ความพอดีของจิต จะทำให้กระแสบุญที่ทำไว้ในอด่ีตมาเชื่อมต่อได้ทุกลมหายใจเข้าออก( หลวงปู่ดู่สอนให้ท่านเห็น)
    เรื่องการสวด5ครั้งต่อวัน นั้นแค่กฏเกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่วัด เป็นการขีดเส้นมาตรฐานไม่ให้ขี้เกียจ

    ที่จริง คือ อารมณ์สบาย สวดทุกอิริยาบถ จับภาพจับกระแสพระได้ทุกอิริยาบถครับ


    ที่ท่านเล่านอกรอบ เรื่องประวัติการภาวนาท่าน มีไม่กี่คนที่ทราบ เพราะท่านไม่อวดตัว

    ไม่ให้ใครติดท่าน ท่านบอกว่า อีกหน่อยท่านก็ตาย

    ให้นึกถึงพระรัตนตรัย มีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด


    ..ถามเรื่องการภาวนา อยากทราบละเอียดให้ถามศิษย์ก้นกุฏิที่ทราบที่มาที่ไปของอ.ศภรัตน์ ที่นำหลวงตามาพบหลวงปู่ดู่ ว่า มีอะไรอีกเยอะที่ท่านไม่ได้เล่าให้อื่นฟัง ท่านยกครูไว้เหนือหัว ไม่เอาชื่อเสียงสักการะไว้เพื่อตนครับ







    [​IMG]



    [​IMG]


    ทุกวันศุกร์ตั้งแต่เวลาหกโมงเช้าถึงเจ็ดโมงเช้าวันอาทิตย์... ขอเชิญชวนทุกท่าน... ร่วมสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ และ ปฏิบัติภาวนา ยืน เดิน นั่ง นอน ตลอด 24 ชั่วโมง ณ ถ้ำใหญ่ วัดพุทธพรหมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และแผ่ส่งกุศลผลบุญไปให้แก่เจ้ากรรมนายเวรและผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องกับเรา, เจ้ากรรมนายเวรของพ่อแม่ปู่ย่าตายายลูกหลานเหลนและผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่อง,เจ้ากรรมนายเวรกับผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันทั้งหมดทั้งมวลทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ และแผ่ส่งกุศลผลบุญนี้ส่งไปให้ทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุ ส่วนท่านที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ก็ขอให้ปฏิบัติอยู่ที่บ้าน หรือจะน้อมจิตมาร่วมปฏิบัติที่ถ้ำใหญ่ วัดถ้ำเมืองนะก็ได้นะ สาธุ สาธุ สาธุ

    Graphics by... ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon วัดพุทธพรมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    ท่านสามารถรับชม วีดีโอ ประวัติหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ, ประวัติหลวงตาม้า, ประวัติวัดพุทธพรหมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และ วีดีโอ อื่นๆ ของวัดพุทธพรหมปัญโญ (ถ้ำเมืองนะ) ได้ที่... http://www.youtube.com/user/Athinan58?feature=mhee

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "สามแดนโลกธาตุ" รวบรวมเรียงโดย... ชยปุญโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon วัดพุทธพรมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ที่...
    https://drive.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmSmpTanprVFBuW…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "คติธรรมคำสอน" โดย... พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) หมายเหตุ ไม่สามารถแสดงหน้าตัวอย่างได้ เพราะไฟล์มีขนาดใหญ่ 131 MB และไม่ใช่ไวรัส ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmdVp5RVZNWEk2bTA/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "หลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 1/5 ฉบับเต็ม" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmeHgwWnhVZU85ajg/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "หลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 2/5 ฉบับเต็ม" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmU1E2eEhzczE2MzQ/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "หลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 3/5 ฉบับเต็ม" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmMGVzQnYzWUI2Ukk/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "หลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 4/5 ฉบับเต็ม" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmZU1SempNQjh4NXM/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "หลวงตาสอนศิษย์ เล่มที่ 5/5 ฉบับเต็ม" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmcmVtYmd1cHhTY1E/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลด "เรื่องเล่าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmNjlhZTMzZGYtNG…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลด "การปฏิบัติกัมมัฏฐานโดยละเอียดของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmZDU3MjZiNGItMD…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลดหนังสือ "ไตรรัตนญาณจักรพรรดิเปิดโลก" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmOWI4ZDM4YTQtOT…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลด "บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ" ได้ที่... https://docs.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmZDAxMTAxNTktNj…/edit…

    ท่านสามารถดาวน์โหลด "คำแปลบทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ" ได้ที่... https://drive.google.com/…/0B_b4WKOY-ZOmOTFiMjlkMWMtN…/edit…

    ชยปุญฺโญ ภิกขุ (อธินันท์ อ่ำบุญ) Athinan Aumboon วัดพุทธพรหมปัญโญ ถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤศจิกายน 2015
  18. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    อืม

    หนูได้ไป ที่วัดถ้ำเมืองนะ

    ได้มีโอกาส
    กราบพระในถ้ำใหญ่ที่เป็นตึก ๕ ชั้น บรรยากาศ เย็น ศักดิ์ศิทธิ์ มากค่ะ
    มีพระสงฆ์ แมชี ฆราวาส นั่งสวดมนต์ตามจุดต่างๆ แต่ไม่ได้แบ่งแยกกัน นั่งคละกันไป แปลกตาค่ะ

    กราบหลวงตาม้า และทำสังฆทาน กับท่านด้วย
    ท่านกำลังสนทนาธรรม เรื่อง ภัยพิบัติ ใน กทม. ที่จะเกิดต่อไป กับชาว กรุง จำนวนนึง

    ท่านเมตตามอบประคำและพระผงจักรพรรดิ์ให้ คนละเส้น ค่ะ
    พอ กราบเสร็จ ออกมา


    ก็มี โยมผู้ชาย ท่าทางสุภาพ กวักมือเรียก คณะ ของเรา ๔ คน มี หญิง ๓ ชายหนึ่ง
    ให้เข้าไหว้พระสงฆ์รูปนึง(มีรอยสักสะพรึง) ซึ่งอยู่ ในตึกด้านหน้าที่ติดกับตึก ๕ ชั้นในถ้ำ

    ท่านเอาพระ และสีผึ้งดอกทองผัวรักเมียหลง มาให้บูชา พร้อมตะกรุด สำหรับเมตตามหานิยม ท่านว่าดีมาก
    และเป็นของโยมผู้ชาย แต่เห็นนใจถ้าเราอยากได้ ให้เราเอาไปก่อนก็ได้ โดยพูดเป็นนัยๆว่าทำยาก ผ่านพิธีกรรมซับซ้อน ต้องบูชา ปัจจัย เท่าไรก็ได้ สัก พัน ๒ พันก็ได้

    เราพยายามขอตัวกลับ บอกว่าถ้าเป็นของโยมผู้นั้นก็ เก็บไว้เถิดค่า ถ้าดีมากอย่างนั้นก็เก็บไว้เองเถิดค่า

    ท่านก็ไม่ย่อท้อ ยัดเยียดสีผึ้งว่านดอกทองมหาเสน่ห์รัญจวนราคะมาให้(สรรพคุณทางกามที่บรรยายมาเป็นนัยๆนั้น เป็นที่น่าพรั่นพรึง) คนละตลับ ๙๙ บาท แล้วเราจึง ปลีกตัวออกมาได้(ไม่ได้ใช้ค่ะ ว่าจะทิ้งในน้ำจะคอยดูว่าปลาแพร่พันธ์เป็นอย่างไร)



    ในใจหลากจิต คิดสงสัย ว่างท่านหลวงตาม้าจะรู้ไหมว่า มีพระสงฆ์เดรัจฉานวิชา มาปะปนอยู่

    แล้วถ้าหลวงตาม้าทราบ ท่านจะจัดการอย่างไร
    จะวิ่งขึ้นไปฟ้องชั้น ๕ แต่ท่านก็แลดูเหน็ดเหนื่อยเพลียจาก
    การปฏิบัติศาสนกิจจากภายนอกมา

    หนูไปเมื่อ ๓ เดือนก่อนไม่รู้ตอนนี้ พระรูปนั้น จะยังอยู่ รึไม่ ก็ไม่แน่ใจนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2015
  19. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    ไม่เหมือน กับตอนที่ไปไหว้พระครูบาเปลี่ยน

    แม้ผู้คน ทั้งพระสงฆ์ แม่ชี ฆราวาส ไปกราบท่าน เนืองแน่น
    ไวยาจักร ก็จัดให้แยกที่นั่งไปเป็นส่วนๆ

    แม้ พระครูบา ท่าน ไม่ได้เทศน์ในตอนเย็น ที่หนูไปกราบท่าน
    แต่รู้สึกถึงความเมตตา ของท่าน บรรยากาศศักดิ์ศิทธิ์ คนที่ไปไหว้กราบท่าน ให้เป็นศิริมงคลชีวิต ก็ต่างมีความ เย็นใจ กลับไปค่
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +70,436

    แล้วคุณทราบหรือครับ ว่านักบวชรูปนั้นเป็นพระประจำที่วัดถ้ำ ฯ

    ที่บูธวัดถ้ำฯ ไม่มีของประเภทนี้ มีแต่สิ่งที่เป็นเครื่องระลึกถึงไตรสรณะคมน์


    การที่พระ ฆราวาส นั่งคละกัน ท่านนั่งติดกัน นั่งบนอาสนะเดียวกัน ??????
    ในส่วนที่เป้นตัวถ้ำใหญ่ คนมานั่งภาวนาจะให้ขยับขยายกันอย่างไรครับ


    คุณเคยไปสวดมนต์ ในถ้ำร่วมกับที่วัด ในเวลาต่างๆหรือไม่



    คนเราถ้าจะมองหาหนวดเต่า มีความพยายามจะทำเช่นนั้นก็ทำได้
    แต่ประโยชน์อยู่ตรงไหน เป็นความเพียรในอิทธิบาทสี่ ความเพียรอันเป็นสัมมาวายามะหรือไม่

    ไม่ว่าสำนักไหน วัดไหน ก็มีเรื่องภายในที่แปรเปลียนไป ไม่เป็นดั่งใจนึกคิด
    คาดหวังทั้งนั้น อยู่ที่จิตใจคนเราจะเลือกหยิบตรงไหน เอาตรงไหนใส่ใจ

    ทั้่งสองวัดที่คุณกล่าวถึง ก็มีเรื่องภายใน แต่ ผู้มีปัญญา ฉลาดที่จะสร้างบุญบารมีให้กับตน ด้วยการหยิบเนื้อแท้ ในสิ่งที่พระท่านสอนมาทำให้ชีวิตดีขึ้น








    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]



    ----------------------------------------------------------------------


    [​IMG]

    ... "ขึ้นชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติ...."

    จะเดิน.. นั่ง.. กิน.. แม้แต่ตอนนอน ภาวนาไว้ อย่าได้ขาด..
    ปฏิบัติ ทุกลมหายใจเข้าออก ทรงอารมณ์ดีดี
    อย่าให้กระแสไม่ดี เข้ามากระทบ...

    หากเรานึกในสิ่งดีๆ จิตจะเพิ่มแต่ในสิ่งที่ดีๆ
    อย่าจุดประกายในสิ่งที่ไม่ดี เพราะจิตจะเพิ่มในสิ่งที่ไม่ดี
    อย่ามัวนึกแต่กรรมเก่าในอดีต มันทำให้เราเศร้าหมอง

    การคิดถึงในสิ่งที่ไม่ดี นอกจากกรรมจะเข้าเราเร็ว
    ตามสิ่งที่เราคิดแล้ว ยังทำให้เราตายผ่อนส่ง
    คือตายเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย

    ทุกวันนี้เราฝึกไว้เพื่อเตรียมตัวตาย
    ถ้าไม่ฝึกไว้ เวลาตาย มันจะเคว้งไม่รู้จะไปไหน
    การฝึกสมาธิ ไม่เกี่ยวกับการนั่งนานหรือไม่นาน
    แต่เกี่ยวกับว่า ทำแล้วอารมณ์สบายๆใหม

    อย่าจมอยู่กับความเศร้าหมอง...
    ไม่มีใครไม่มีทุกข์ เกิดมาก็ทุกข์
    เพียงแต่ว่าจะทุกข์มากหรือทุกข์น้อย

    ผู้ปฎิบัติธรรม ให้ดูที่จิต อารมณ์ดี จิตสบาย
    ไปไหนก็มีแต่คนรัก ทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือ
    ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เกินกำลัง

    การบันทึกบุญอยู่ที่อารมณ์ หากอารมณ์ดี
    ก็จะบันทึกบุญได้ตลอด หากอารมณ์ไม่ดี
    จะบันทึกบุญไม่ได้เลย...

    อย่าจมอยู่กับความเศร้าหมอง...

    ต้องทำตัวเองให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

    . . .

    เรียบเรียงเนื้อหาจากคติธรรมคำสอนของ
    พระอาจารย์ วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
    วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ)
    ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่..



    ------------------------------------


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤศจิกายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...