ต้องทำบุญอะไรถึงแก้กรรมที่เราไปพรากภรรยาและลูกทำให้ครอบครัวไม่อบอุ่น

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 13 เมษายน 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    คือดิฉันร้องไห้และคิดถึงวิญญาณสามีที่เดาว่าเป็นเจ้าที่และลูกกุมารบ่อยๆ ดิฉันทนไม่ไหวที่กอดพวกเค้าไม่ได้ คือพวกเค้ามากอดดิฉันได้ถ้าอยากทำ แต่ดิฉันทำไม่ได้ ทรมานมากๆ ถึงถอนคำอธิษฐานติดตามคู่ แต่สามีมาเข้าฝันว่าไม่ยอม ดิฉันไม่สำเร็จอภิญญาแต่นึกขึ้นได้ว่าที่ต้องทรมานขนาดนี้ ชาติก่อนๆเราอาจเคยไปพรากครอบครัวให้จากกัน ความสุขใดก้อไม่เท่าครอบครัวที่พร้อมหน้า รอยยิ้ม การกระทำที่สื่อถึงความรัก และสัมผัสของกันและกัน มันทรมานมาก ไม่เหมือนตอนเคยอกหัก เพราะนั่นแค่สิ้นหวัง แต่ดิฉันจะทำจิตใจให้หายซึมเศร้าได้ยังไง ทั้งๆที่รู้ว่าพวกเค้าเป็นวิญญาณมีกายทิพย์จริงๆ ไม่ใช่ว่าดิฉันป่วยทางจิตและมโนไปเอง ดิฉันจะไปนิพพาน พวกเค้าก้อมาบอกในฝันว่าอยากร่วมบุญด้วย ดิฉันก้อทำทาน รักษาศีล สวดมนต์ บริกรรมพุทโธบ้าง แต่หลังๆเน้นทานกับศีลและสวดมนต์ คือดิฉันคิดมากไม่ได้สวดมนต์มาหลายวันแล้ว ทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรคะ ช่วงที่ดิฉันกำลังใจดี ดิฉันก้อฝันถึงพวกเค้าว่าได้ร่วมบุญกัน

    กรุณาอย่าว่าว่าดิฉันสร้างเรื่องทำตัวไม่สงบและชอบอีโมชั่นเลยนะคะ เพราะถ้าไม่เป็นคุณ คุณคงไม่เข้าใจ...
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ก็ถ้าเจออีก บอกให้ สามี และ ลูก ไปนิพพาน ด้วยสิครับ บอกให้เค้าไปปฏิบัติธรรม นะครับ
     
  3. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +165
    สรุปปัญหาอยู่ที่เขาหรืออยู่ที่เราครับ...
     
  4. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ด้วยความเคารพ สามีคุณตายยังไงหรอครับ ตายมากี่ปีแล้ว และเขาตายตอนอายุเท่าไหร่ ถ้าบอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ
     
  5. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอบคุณมากค่ะ
     
  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตั้งแต่หลายปีก่อนดิฉันก้อฝันถึงผู้ชายคนนึงเสมอค่ะ เค้าจะให้กำลังใจและคอนตักเตือนเรื่องการปฏิบัติธรรม ต่อมา มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำให้ดิฉันแน่ใจว่าเค้าเป็นเจ้าที่ที่สถิตอยู่ที่บ้าน ลักษณะก้อเป็นผู้ชายที่ดูดี วางตัวดีเสมอค่ะ เมื่อปีก่อนค่ะเราเผอิญได้เสียกัน คือความรู้สึกในฝันเหมือนสัมผัสจริงทุกอย่าง และดิฉันยังฝันถึงเด็กกุมารบ่อยมาก ดิฉันอยากมีครอบครัวก้อพยายามถอนคำอธิษฐานติดตามคู่ เพื่อว่าดิฉันจะได้มีโอกาสมีสามีที่เป็นมนุษย์ เอ่อ.. คือที่คิดว่าเป็นเจ้าที่เพราะเวลาดิฉันรู้สึกอะไร กลิ่นหอมๆก้อจะโชยมาเสมอ ดิฉันไม่รู้จะเรียกว่า เค้า หรือ ท่าน คือใช้สรรพนามไม่ถูก ดิฉันพยายามจะยุติความสัมพันธ์มาตลอด แต่อีกฝ่ายไม่ยอมค่ะ คือดิฉันฝันถึงบ่อยมากๆจนรู้ว่าเป็นผู้ชายในสเป็คน่ะค่ะ ดิฉันก้อรักเค้า แต่รู้ว่าที่เผลอไผลไปมันไม่เหมาะไม่ควร แต่อีกฝ่ายก้อไม่ยอมจะเลิก
     
  7. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ดิฉันอยากนอนกอดสามีกับลูก แต่อีกฝ่ายไม่มีกายเนื้อ ดิฉันเป็นทุกข์ค่ะ แต่ก้อยินดีจะร่วมบุญกันไปนิพพานนะคะ ครูบาอาจารย์สั่งให้ไปช้าๆค่่ะ
     
  8. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ขอบคุณมากค่ะ
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ไม่มีกายเนื้อ แต่เค้ามีกายทิพย์ เราก็กอดได้ครับ

    ลองกอดเค้าหรือให้เค้ามากอดเราก็ได้คับ รับรองว่ากอดได้แน่นอนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2016
  10. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ศิล สมาธิ วิปัสนาคะอย่าให้ขาดคะ
     
  11. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เขาก็มีนะ
    มาใส่บาตรกับเขาด้วย
    เขามีความสุขมากกกกก
    อยากบอกอย่าทุกข์ไปเลย ....อย่าไปยึดมั่นถือมั่นมาก
    หากสมาธิแจ่มใสเราจะเห็นความผูกพันอีกเยอะ
    มันไม่คงทนถาวรนะ
    มันมีสับเปลี่ยนหมุนเวียนนะ
    สุขก็ไม่ยั้งยืน
    ทุกข์ก็ไม่ยังยืน
    คะ
     
  12. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    เราฝึกมโน
    พระท่านว่า
    ฆ่าไปเยอะมั็ยยยตอนจับบดาบนะ
    ฮือๆอย่างเดียว
     
  13. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    เมื่อได้รับเวทนาที่ละเอียดกว่า เดินผ่านคนฉีดน้ำหอม หรือนอนในที่นุ่มๆ
    แต่ซึมลึกเข้าไปถึงข้างใน แน่นอนว่าหากมีเวทนาแบบนี้ ย่อมชวนติดตาต้องใจ
    กว่าแค่ไปเดินเจอผู้ชายหล่อๆทั่วไป ก็คงต้องดูที่เวทนาเป็นหลัก
    น้ำซึมกายก็ว่าสบายแล้ว หากแต่เป็นน้ำซึมสำลีก็ย่อมเข้าแทรกซึมได้ดีกว่า
    รัก/พอใจ/ชอบใจ ก็คงมีความหมายพอๆกัน ความพอใจไม่ได้อยู่ที่ภายนอก
    แต่เหตุมาจากความพอใจที่มีอยู่ข้างใน หากกินอิ่มมากนี้ก็จะหนัก
    หากกินน้อยๆนี้ก็จะเบา
    อันนี้ผมก็ไม่ได้มีคุณวิเศษอะไร ก็พิมพ์แบบเดาๆไปงั้นหละครับ
    มาแจมเฉยๆ มือมันว่าง 5555
     
  14. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    เปลี่ยนคำภาวนาเป็นพุทธวนะที่ว่า "ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์" ทำอย่างน้อยวันละ 1000 ครั้ง 10 วันก็คลาย 100 วันก็หมด
     
  15. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    อันชีวิตมนุษย์นั้นแสนสั้น จะไปคิดมากทำไม

    ปติปูชิกา

    ในสมัยที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่ เวลานั้นก็มีสาวิกาขององค์สมเด็จพระบรมครู คำว่า สาวิกา คือสาวกผู้หญิง สาวกผู้ชายเขาเรียกว่า สาวโก คำว่าสาวโกหรือสาวิกาก็ตาม ก็แปลว่าผู้รับฟังเหมือนกัน อย่าลืมนะบรรดาญาติโยมพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าท่านตรัสแล้วว่า อักขาตาโร ตถาคตา ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกเท่านั้น

    บอกแล้วเธอจะทำตามหรือไม่ทำตามเป็นหน้าที่ของเธอ ทีนี้เราทำยังไง สาวกรับฟังแล้วก็ปฏิบัติตาม ผู้หญิงคนนี้มีฐานะเป็นสาวิกา คือผู้รับฟังพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ปติปูชิกา นี่เกิดมาอายุเท่าไรจึงแต่งงานก็จำไม่ได้เหมือนกัน ในชาติก่อนโน้นเธอแต่งงานแล้วทำบุญอะไรไว้บ้างก็ไม่ทราบอีกเหมือนกัน ตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นภรรยาของมาลาภารีเทพบุตร

    มาลาภารีเทพบุตรนี่ท่านอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เขามีอายุ ๑,๐๐๐ ปีทิพย์เป็นอายุขัย แต่ว่าเทียบกับเมืองมนุษย์ ๑๐๐ ปีของเราเป็น ๑ วันของดาวดึงสเทวโลก ถ้า ๑๐ วันของเขาก็เท่ากับ ๑,๐๐๐ ปี ๓๐ วันของเขาหรือ ๑ เดือนของเขาก็เท่ากับ ๓,๐๐๐ ปีของเรา แล้ว ๑๒ เดือนก็เป็น ๑ ปีเหมือนกัน วัดไปเถอะ มันกี่ปีมนุษย์ก็ตามใจ อันนี้ไม่รู้เรื่อง

    ก็รวมความว่าเธอถึงกำหนดที่จะต้องเคลื่อนจากความเป็นนางฟ้า อยู่ไม่ได้แล้ว หมดบุญ จะต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ วันนั้นก็เป็นการพอดีที่ท่านมาลาภารีเทพบุตรพาบริวารทั้งหมดแล้วก็พาภรรยาไปด้วย ไปเที่ยวสวนนันทวัน ขณะที่ไปเที่ยวสวนนันทวันอยู่นั้น ภรรยาซึ่งเป็นนางฟ้าก็ถึงเวลาจุติ ก็จุติลงมาเกิด คือตายจากความเป็นนางฟ้าลงมาเกิดเป็นลูกมนุษย์

    พอโตเป็นสาวเธอก็แต่งงาน ในสมัยนั้นนิยมกันว่าอายุ ๑๖ แต่งงาน แล้วก็มีลูก ก็เข้าไปฟังเทศน์จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจบเดียวก็มีความเลื่อมใส ออกจากบ้านลาผัวลาลูกไปอยู่สำนักของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติความดีใกล้พระสงฆ์ อุดมไปด้วยธรรมะ ก็เกิดมีอารมณ์อย่างหนึ่งที่เรียกว่า อตีตังสญาณ ญาณถอยหลังไปในอดีต ก็ทราบตนเองว่าก่อนที่เราจะมาเกิดเป็นมนุษย์

    เราเป็นภรรยาของมาลาภารีเทพบุตร ซึ่งพาเรามาเที่ยวในสวนนันทวัน ยังไม่กลับถึงวิมาน ยังเที่ยวกันอยู่ที่สวนนันทวัน เมื่อนางมีความรู้สึกอย่างนั้นว่าเคยเป็นภรรยาของมาลาภารีเทพบุตร เวลาทำบุญทุกอย่างเมื่อจบแล้วเธอก็อธิษฐานว่า ขอบารมีที่บำเพ็ญแล้วนี้ จงดลบันดาลเมื่อเวลาข้าพเจ้าตาย ให้ไปเกิดในสำนักของสามี แต่ความจริงอยู่ใกล้องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าก็น่าจะคิดว่า

    การตายคราวนี้อยากจะไปพระนิพพาน แต่นางไม่เอาอย่างนั้น ย่องไปนึกว่า ถ้าตายเมื่อไรขอไปเกิดในสำนักของสามี แล้วก็เป็นความจริง หลังจากเธอตายเมื่ออายุ ๕๐ เศษ หน่อยๆ ตายจากคนปั๊บ ก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก เมื่อขึ้นไปแล้วก็ไปหาสามี ไปหามาลาภารีเทพบุตร ท่านมาลาภารีเทพบุตรเห็นเข้าก็แปลกใจ

    ถามว่า “...เออนี่ ตั้งแต่เช้ายันเที่ยงนี่เธอหายไปไหนนะ ฉันมองไม่เห็นเธอเลยตั้งแต่เช้า...” โอ้โฮ...ปาเข้าไปตั้ง ๕๐ ปีเศษ ผัวยังคลำกุกกักๆ คิดว่าเช้ายันเที่ยง นางฟ้าคือปติปูชิกาก็กราบเรียนให้ทราบว่า “...ความจริงตั้งแต่เช้ายันเที่ยงไม่ได้ไปไหน หมดบุญต้องจุติ คือตายจากความเป็นนางฟ้าต้องไปเกิดเป็นมนุษย์...”

    มาลาภารีเทพบุตรได้ฟังก็บอก “...นี่เธอ อย่าล้อฉันเล่นนะ อะไร เธอจะไปเกิดเป็นมนุษย์ยังไง ตั้งแต่เช้ายันเที่ยง โผล่กลับมาใหม่ มันเป็นจริงไปไม่ได้...”
    นางก็ยืนยันว่า “...จริงเจ้าค่ะ ฉันจุติจริงๆ เพราะหมดบุญ หลังจากนั้นก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิงแล้วก็แต่งงานมีลูก แล้วก็หลังจากนั้นพบองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำบุญกับท่าน

    เวลาทำบุญก็อธิษฐานว่า ถ้าตายจากความเป็นคน ขอให้มาเกิดในสำนักของท่าน วันนี้ฉันตายจากความเป็นคน แล้วก็มาสู่สำนักของท่านตามที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้กับการทำบุญในสำนักขององค์สมเด็จพระจอมไตร...”
    มาลาภารีเทพบุตรท่านเป็นเทวดา ท่านมีร่างกายเป็นทิพย์ ท่านมีอารมณ์ใจเป็นทิพย์

    คนที่จะเป็นเทวดาได้ต้องมีความดี ๒ อย่างประจำใจ คือ หิริ และโอตตัปปะ เมื่อภรรยาของท่านกล่าวอย่างนั้น ท่านก็ใช้อารมณ์ความเป็นทิพย์ตรวจดู ก็ทราบว่า “...เออจริงนะ ฉันก็เผลอไปนะ ไม่ได้สังเกตว่าเธอจะไปไหน ก็คิดว่ามีความรื่นเริงบันเทิงใจสนุกสนาน ลืมมาหาฉันตั้งแต่เช้ายันเที่ยง นี่เธอตายจากความเป็นเทวดาจริงๆ ไปเกิดเป็นคน มีสามี มีบุตรธิดาจริงๆ...”

    ท่านมาลาภารีเทพบุตรก็ถามว่า “...เวลานี้มนุษย์มีอายุขัยเท่าไร...”
    นางก็ตอบว่า “...เวลานี้มนุษย์มีอายุขัย ๑๐๐ ปี...”
    ท่านถามว่า “...เธอไปเกิดนี่มีอายุเท่าไร...”
    นางก็ตอบว่า “...ฉันมีอายุ ๕๐ ปีเศษนิดๆ เจ้าค่ะ...”

    ท่านก็บอกว่า “...แค่ ๕๐ ปีเศษนิดๆ ที่นี่แค่เที่ยงวัน มนุษย์มีอายุน้อยเท่านี้น่ะหรือ...” ท่านก็ลืม ท่านเป็นเทวดาเสียนาน ลืมวันเดือนปีของมนุษย์ว่ามันสั้นเหลือเกิน ท่านก็ถามอีกว่า “...เมื่อมนุษย์มีอายุน้อยอย่างนี้ ตั้งใจสร้างความดีหรือว่ามีความประมาทอยู่มาก...”
    นางก็ตอบว่า “...มนุษย์ส่วนใหญ่มีความประมาท ไม่ค่อยจะตั้งใจทำความดี คิดว่าชีวิตของตัวนี้จะไม่ตาย...”

    ท่านมาลาภารีพอฟังเท่านี้ก็สลดใจอย่างยิ่ง สำหรับในด้านเมืองมนุษย์ เมื่อนางตาย พระที่เป็นปุถุชนก็ไปเฝ้าองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว กราบทูลถามว่านางปติปูชิกาตายแล้วไปเกิดที่ไหน สมเด็จพระจอมไตรก็บอกว่าไปเกิดตามที่เธอต้องการ เธออธิษฐานว่าขอไปเกิดในสำนักของสามี คือมาลาภารีเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลกแล้ว

    จากหนังสือคำสอน โดย..หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เครดิต จากเฟสภาพเก่า เล่าเรื่อง - วัดท่าซุง
     
  16. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ช่วงหลังนี้ไม่ได้สวดมนต์เลย ว่าจะไปทำบุญสังฆทานที่วัดมอญเกาะเกร็ด ถวายองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า อธิษฐานจิตขอเป็นบุตร และให้สามีเทวดากับลูกกุมารได้ร่วมบุญไปนิพพานกับข้าพเจ้าด้วย
     
  17. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ทำบุญแล้วอย่าลืมอธิษฐานขอไปเกิดในวิมานสำนักของสามีด้วยล่ะ
     
  18. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ดิฉันไปนิพพานเลยค่ะ. สามีกับลูกกุมารแค่ร่วมบุญกัน ถ้าดิฉันพ้นแล้วก้อเป็นอิสระว่าพวกเค้าจะไปด้วยจนถึงฝั่ง หรือเลือกทางอื่น. พวกเค้ามาช่วยเพราะดิฉันอยากมีครอบครัวน่ะค่ะ
     
  19. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ดิฉันดีใจค่ะที่เป็นเค้า เพราะเค้าเป็นสุภาพบุรุษ และดูแลดิฉันเหมือนเรื่องคุณพ่อขายาว ดิฉันทรมานแค่สื่อสารสัมผัสเค้าไม่ได้ แต่ถ้าเค้าอยากมากอดเค้าจะมาเองค่ะรวมถึงลูกด้วย ไม่สำคัญว่าเค้าเป็นเปรตหรือเทวดา แต่เค้าดูแลเท่าที่เค้าจะทำได้ดีมากๆ ไม่ได้ตามใจดิฉันไปทุกเรื่องด้วย เพราะอยากให้ดิฉันเข้มแข็งเผชิญวิบากกรรมอย่างกล้าหาญ คุณพ่อดิฉันบอกว่ากลิ่นหอมที่บ้านเป็นกลิ่นเดียวกับที่ทำงาน ท่านบอกคุณแม่และคุณแม่มาเล่าให้ฟัง ดิฉันเลยบอกว่าดิฉันเคยคิดอยากให้เค้าตามไปดูแลคุณพ่อน่ะค่ะ คนในบ้านที่ได้กลิ่นหอมของเค้ามีเพียงดิฉันกับคุณพ่อเท่านั้น วันนี้ก้อมีคนมาขอเป็นแฟนดิฉันผ่านไลน์ แต่เมื่อวานอยากออกแบบเสื้อผ้าชุดให้เค้าใส่หล่อๆ กลางคืนเค้าก้อมาเข้าฝันบอกว่า เรายังไม่มีเสื้อดีๆใส่เลยนะ เป็นครั้งแรกที่เค้าไม่ต่อว่าที่มีผู้ชายมาพัวพันแต่พูดกับเราดีๆ เชิงอ้อน และในฝันดิฉันก้อได้ยินเสียงลูกกุมารร้องหา เค้าก้อรีบไปดู วันไหนมีผู้ชายมาพัวพันดิฉัน เค้าจะรู้ล่วงหน้าและมาเข้าฝันทำหน้าบึ้งตึง บางทีมีพูดกระแทกด้วย บางครั้งออกอาการหึงหวงเลย มีครั้งนึงผู้ชายที่นั่งกินส้มตำร้านในหมู่บ้านแซวจนดิฉันมีท่าทีอาย เค้าแซวว่าทำไมเรากินส้มตำคนเดียวไม่คิดจะหาคนมากินด้วยหรอ เช้าวันนั้นกลิ่นเค้ามาแรงเลยตอนดิฉันใส่บาตร แถมกลางคืนเค้ายังแย่งกินส้มตำจานเดียวกับดิฉันในฝันอีก เค้ารู้ทุกอย่างล่วงหน้าเสมอค่ะ

    เล่าไว้ไม่ต้องเชื่อมาก ถือว่าเป็นนิยายเรื่องนึงนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...