สาธุครับ คนดีมีบารมีใหญ่ คิดหวังสิ่งใดด้านดี สิ่งนั้นก็ปรากฏ เพราะจิตมีคุณธรรมคือพรหมวิหาร4 เป็นกำลังใหญ่ของจิต จิตย่อมสงบร่มเย็น...
สาธุ ในบุญครับทำความดีมาได้หลายเดือน
ปัจจุบันนี้ถ้าเรามีสติพิจารณาจิตเราจริงๆเราจะรู้ได้เลยว่า จิตเรามีทิศทางของอนาคตไปทางไหน...
เข้าใจถูกครับ รู้อดีต รู้ปัจจุบัน และก็รู้อนาคตด้วย ทุกอย่างมาจากการทำสมาธิภาวนา เวลาเราภาวนากรรมไม่ดีต่างๆมันจะทยอยออกมาทางความคิดเรื่อยๆครับ...
ผลของสมาธิจริงๆคือความสุขสงบ เมื่อจิตถึงสมาธิแล้วจะอยากได้ไม่อยากได้ก็ตามความสุขสงบในผลของสมาธิมันก็เป็นอย่างนั้นโดยตัวของมันเอง...
การทำสมาธิของผมคือตั้งใจนั่งเพื่อแผ่บุญแผ่เมตตาให้ภพภูมิวิญญาณ...
ใช่ครับอย่างน้อยก็จะได้รู้ว่ายังมีคนที่เคยพบเจออะไรมาคล้ายๆกันอยู่ในวงปฏิบัติสมาธิครับ...
ปกติถ้าปฏิบัติตนมาทางสายพุทธศาสนาจริงๆคงไม่มีใครเอากำลังพิเศษเหล่านี้ไปเบียดเบียนกัน ยกเว้นผู้จิตใจไม่ใช่ภูมิมนุษย์อาฆาตแค้นไม่เลิก...
เห็นเขียนว่าทำวัดเย็น ได้ไปบวชปฏิบัติธรรมที่วัดอยู่เหรอครับตอนนี้ บรรยากาศการฝึกเป็นยังไงบ้างครับท่านสอนกันแนวไหนอย่างไรครับ
ก็เคยมีครับ นั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกพอเข้าถึงอุปจาระจิตเบารู้สึกเหมือนนั่งหันหน้าไปทางทิศเหนือ...
"ประเภทที่สอง คือ ผู้ที่มีความเชื่อ มีความมุ่งมั่นว่า สิ่งเหล่านั้นไม่สามารถมีอำนาจเหนือเราได้ คือ เชื่อมั่นว่าคุณไสยทำอะไรเราไม่ได้...
สาธุครับ ชีวิตนี้เราเป็นนักปฏิบัติธรรม ต้องไม่ลืมสติ บางทีเผลอตัวเผลอใจด้วยอำนาจของกิเลสทำสิ่งไม่ดีต่อจิตตนเองและผู้อื่น...
พูดให้เห็นภาพเลยครับ พลังจิตคือ พลังงานจากจิตที่เป็นสัมมาสติและสัมมาทิฏฐิ เอาใว้ช่วยคนเอาไว้ทำประโยชน์ให้ผู้คนปรองดองไม่ใช่อย่างอื่น...
สาธุ ดีแล้วครับ เริ่มสะสมบุญกันวันละนิดนั่นแหละดีครับ ให้ธรรมทานก็เป็นบุญ นั่งสมาธิก็เป็นบุญ...
ส่วนตัวใช่จะอยากเป็นอาจารย์อะไรหรอกนะครับ ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมการเดินทางดีกว่า...
สมัยไปเป็นนักบวชวัดป่าแห่งหนึ่งไปเพราะประเพณีครับ บวชตามประเพณี ไม่ได้จะไปเพราะอยากบรรลุหมดกิเลสอะไรหรอกครับ แบกตัวตนไปด้วยเต็มอัตตรา...
เป้าหมายในการทำสมาธิของแต่ละคนร้อยพ่อพันแม่แน่นอนว่าไม่เหมือนกันครับ บางคนทำสมาธิเพราะสงสัยว่าสมาธิเป็นยังไง บางคนทำเพราะอยากได้ฤทธิ์...
และวัดป่าที่เน้นปฏิบัติจริงๆท่านจะมีอาจารย์ใหญ่คอยสอบอารมณ์นักบวชหัดใหม่อยู่ครับ คือภูมิจิตระดับรู้เลยทันทีว่าเราได้สมาธิถึงขั้นไหน ขนิกกะ อุปจาระ...
ถ้าสังเกตุดูดีๆสายวัดป่าท่านจะถอดแบบปฏิบัติมาจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้เลยครับ...
ถ้าพูดตามหลักเป็นขั้นเป็นตอนให้เห็นเป็นภาพก็ต้องว่าแบบนั้น แบบที่หลวงพ่อพุธ กล่าวไว้ครับ เพราะตรงนี้ท่านทำมาก่อนแล้ว แต่มันเป็นเรื่องในจิตในสมาธิ...
เห็นด้วยครับ ถ้าแบบทางโลกก็ประมาณการคิดบวกดึงพลังงานจักรวาลอะไรพวกนั้น ถ้าจิตคิดแต่เรื่องดีๆสิ่งดีๆหรือพลังงานดีๆก็จะเข้ามา...
ต้องดูจริตเราเองเสริมด้วยครับ ถ้าบางทีจริตเราอาจจะไม่ชอบการทำสมาธิด้วยการจำภาพ อาจจะชอบแบบการภาวนาคำบริกรรมดูลมหายใจแทนก็เป็นได้ครับ...
ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการฝึกจำใหม่ๆครับ ทุกอย่างถ้าชินไม่ว่าภาพอะไร จะเห็นในจิตแทน...
สาธุ ครับหลวงพ่อมหาโพธิบารมีใหญ่ นักที่ปฏิบัติมาเพื่อเพ่งโทษผู้อื่นเป็นอาจินควรอ่านวันละ 100 รอบ จะได้รู้ว่าคนมีบารมีจริงๆเขามีจิตใจเป็นกลางยังไง...
การปฏิบัติมีหลายวิธีมากมาย แค่ในปัจจุบันนี้ก็มีเป็น10กว่าสำนักเด่น...
การบำเพ็ญบุญแบบโพธิจะทำไปเรื่อยๆเน้นความต่อเนื่องยาวนานเป็นสำคัญ ไม่เน้นเร็วรีบเร่ง...
ธรรมดาของโพธิในแบบส่วนตัวคือตื่นมาในแต่ละวันต้องได้ทำบุญ ไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งในบารมี 10 ต้องได้ทำ จะไม่ขาดแม้แต่วันเดียว ธรรมดาคือปกติจิต...
วิสัยของสาวกภูมิ ถ้าท่านบรรลุจริงแล้วคงไม่มีใครคิดเสียเวลามาไล่ตอบกระทู้คนอื่นกันตามเว็บบอร์ดหรอกครับ ถ้าผมเป็นอริยะขั้นพระโสดาบันแล้วเรียบร้อย...
แค่ถ้าให้ผมท่ายเล่นๆ ผมสังเกตเห็นอาการของทุกๆคนที่มีกรรมมาอยู่ร่วมกัน ณ เว็บๆนี้อย่างคุ้นเคยและหนาแน่นคือกะว่าคงจะอยู่คุยกันทั้งชาตินี้ละครับ...
พูดแบบนี้ก็ถูกเลยครับ ถ้าเราเก่งกันจริงคงนั่งป๋อกันที่พระนิพพานไปตั้งนานกันแล้ว ประวัติพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในโลกกลมๆใบนี้นับเป็นล้านๆพระองค์มาแล้ว...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา