[ข่าว]ชาวหนองคายตื่นวัตถุประหลาดควันขึ้นติดไฟได้เอง update 29/6/11

ที่มาจาก Local - Manager Online - ���˹ͧ��µ���ѵ�ػ����Ҵ��ѹ��鹵Դ����ͧ

มันคืออะไรเหรอครับ




update 29/6/11
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=OgAd4VOFY4s"]YouTube - ‪???????????? ?.??????? ???????????‬‏[/ame]

 

โอ้ว .......สิ่งมหัศจรรย์จากฝีมือของพญานาคในแม่น้ำโขง บางคนก็ว่าเป็นวัตถุจากต่างดาว.....



โอ้ว.... สิ่งมหัศจรรย์ตาม ตารางธาตุ นี่เอง
โอ้ว ...ตอนเรียนเคมี ครูเคยเอามาเล่นให้ดูด้วย ไฟลุกพรึบ เลย

รบกวน เด็ก ม.5 ใครท่องตารางธาตุได้ ช่วยตอบที่ครับ มองด้านซ้ายของตารางไว้นะแถวๆนั้นแหละ


ลากมาให้ครับ อันนี้เจ๋วดี เปลี่ยนสีได้ด้วย นะครับ
http://www.ptable.com/?lang=th

 

ไม่แน่ใจนะครับ... แต่น่าเป็นห่วง ถ้าเป็นฟอสฟอรัสขาวอย่างที่ผมคิดนี่ก็น่าห่วงครับ

[FONT=verdana,arial,helvetica,sans-serif]ฟอสฟอรัสขาวเป็นสารที่ มีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง มีสีขาวใสออกเหลือง มีกลิ่นคล้ายกระเทียม จะทำการสันดาปอย่างรวดเร็วกับออกซิเจน ทำให้เกิดประกายไฟและควันสีขาว และเมื่อได้เจอกับความชื้นจะทำปฏิกิริยาจนเกิดกรดฟอสฟอริก[/FONT]
เมื่อสัมผัสมนุษย์ มันจะไหม้ทั้งผิวหนังและเนื้อทุกส่วนจนเหลือแต่ซากกระดูกเท่านั้น

 

เห็นด้วยครับ

 

ภาพเพิ่มเติมจาก หนองคายตื่นวัตถุประหลาด ควันพุ่ง-ติดไฟได้เอง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Oh my God! So I think that's from ET. black_pigrat_wting:z8;aa8 Let's go to see it!

 

อันนี้เป็นไปได้ไหมคะว่า จะเกี่ยวข้องกับ บ้องไฟพญานาค ที่เกิดขึ้นทุกปี

 

วัตถุหรือสารนี้น่ากลัวนะ หากบริเวณนั้นมีมากแล้วเกิดการลุกไหม้ขึ้นมาโดยที่ชาวบ้านไม่รู้ แล้วไปขนกันมารวมไว้จะทำยังไง ว่าแต่มันอยู่ในดินใช่ไหม หรือการเกิดของมันมาจากอะไรธาตุนี้

 

นี่ไงหลักฐานที่ว่าประเทศไทยได้รับการเปลี่ยนแปลงจะได้รับพลังงานชนิดใหม่ทดแทนพลังงานเก่า
เริ่มแล้วสินะ!!...(ขอยืมนะพี่)^^

 

มันเป็นส่วนผสมของระเบิดหรือเปล่าครับ

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=OgAd4VOFY4s"]YouTube - ‪วัตถุประหลาด จ.หนองคาย ไฟลุกเองได้‬‏[/ame]

จากไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/region/182418

 

เอาไปใช้อย่างนี้ก็ได้ [ame=http://www.youtube.com/watch?v=X73idhOLK7o&feature=player_embedded#at=288]YouTube - ‪White Phosphorus bombs into Gaza‬‏[/ame]
น่าจะเป็นฟอสฟอรัสขาว

 

ฟอสฟอรัสขาว<!-- google_ad_section_end --> มั้ง เห็นว่าเคยใช้ในการรบ ด้วยไม่ใช่รึ ถ้ามันโดนเนื้อใคร มันจะไหม้ ไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะหมด บางที ถึงกระดูก

 

น่ากลัว และอันตรายจริงนะเนี่ย

 

น่าจะเป็นฟอสฟอรัสขาวนะครับ

แต่ชาวบ้านเนี่ย... ถ้าเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจะต้องจุดธูปไหว้ตลอดเลยรึ ถ้าเอาสัตว์ต่างประเทศที่เค้าไม่เคยเห็นมาให้ดูเค้าจะไหว้หรือเปล่าเนี่ย

 

จนถึงวันนี้แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านนี้ น่าจะออกมาให้คำตอบกับชาวบ้านได้แล้วนะครับ กลัวว่าจะเกิดผลข้างเคียงกับหลายๆคนที่สัมผัสมัน

 

อืม น่าคิดเหมือนกันนะ

 

สถานการณ์ล่าสุด เท่าที่หาอ่านดู
นักธรณีวิทยาก็เตือนว่าอย่านำมาสูดดมหรือสัมผัส
และสันนิษฐานว่าอาจเป็นฟอสฟอรัส แต่ยังต้องตรวจพิสูจน์อีกที

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

กรมทรัพยากรธรณี จ.หนองคาย เร่งพิสูจน์วัตถุประหลาดในแม่น้ำโขง มีควัน-ติดไฟได้ คาดเป็นฟอสฟอรัสขาวทำปฏิกิริยากับออกซิเจน

หลังจากที่นายวิรัตน์ พระฉาย อายุ 43 ปี พนักงานขับรถตักประจำโรงงานแห่งหนึ่ง ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พบวัตถุประหลาดปะปนอยู่ที่ก้อนหินที่ดูดจากแม่น้ำโขง โดยมีลักษณะสีขาวขุ่น เนื้อนุ่มคล้ายฟองน้ำ ผิวขรุขระ มีควันและสามารถติดไฟได้เอง ซึ่งสร้างความประหลาดใจแต่ชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมากนั้น

นายวศิน ศุภพิสุทธิ์ หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เมื่อ ทราบเรื่องดังกล่าว ตนจึงได้ขอความร่วมมือกับอาจารย์ภาควิชาเคมี ม.ขอนแก่น เพื่อส่งตัวอย่างวัตถุประหลาดไปพิสูจน์ และได้ส่งไปพิสูจน์ที่กรมทรัพยากรธรณี ที่กรุงเทพด้วยเช่นกัน ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่า วัตถุชนิดนั้นเป็นอะไร แต่เชื่อว่ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้แน่นอน

ทางด้าน น.ส.โชติมา ยามี นักธรณีวิทยา กล่าวว่า จากการสังเกตเบื้องต้นคล้ายกับฟอสฟอรัสขาว ที่เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนแล้ว ส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์ จึงเกิดประกายไฟและติดไฟได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอการพิสูจน์เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามประชาชนไม่ควรสูดดม หรือสัมผัสกับวัตถุนี้โดยตรง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ อีกทั้งวัตถุชนิดนี้มีกลิ่นทำลายเยื่อโพรงจมูกได้

ขณะที่ นายมรกต อินทรภู่ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.หนองคาย กล่าวว่า ช่วงนี้ใน จ.หนองคาย มีการจุดบั้งไฟหลายแห่ง วัตถุดังกล่าวอาจจะเป็นชิ้นส่วนของบั้งไฟที่ตกลงมาในแม่น้ำโขง เพราะลักษณะของวัตถุดังกล่าวมีกลิ่นคล้ายดินปะสิว

 

เห็นข่าวเก่าที่เกี่ยวกับฟอสฟอรัสขาว น่าสนใจดี..

"ฟอสฟอรัสขาว" ใน "หินติดไฟ" เป็นส่วนผสมระเบิดได้ ผู้จัดการออนไลน์
<hr size="1"> วันที่ 4 มิ.ย. 2551
<table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="1" width="90%"> <tbody><tr> <td align="center"> </td> </tr> </tbody></table> <table class="text_normal" align="center" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="99%"><tbody><tr align="left"> <td colspan="3" valign="top">โดยผู้จัดการออนไลน์ 3 มิถุนายน 2551 00:24 น.
นักธรณี จุฬาฯ ระบุแร่ธรรมชาติไม่ติดไฟทันที ยกเว้นสารเคมี ยกตัวอย่างส่วนประกอบปุ๋ย ที่มีฟอสฟอรัส สามารถติดไฟ และใช้ทำระเบิดได้ และ ระบุอาจเป็นฟอสฟอรัสขาว ตามข้อสันนิษฐาน ก็ใช้เป็นส่วนผสมของระเบิดได้ และ ยังเป็นแร่ที่ไม่ละลายน้ำ

จากกรณีนายกฤษดา แสนโคตร หรือ "อาจารย์เอ็ดเวิร์ด" ประชาชน ใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีหินติดไฟอยู่ในครอบครอง โดยเมื่อนำหินขึ้นจากน้ำ จะ เกิดเปลวควันและไหม้ในที่สุดนั้น ได้กลายเป็นที่สนใจ ของกลุ่มผู้สะสมของ แปลกและวัตถุมงคล ทั้งนี้ทางศูนย์ข่าวผู้จัดการภูมิภาค ได้รายงานเพิ่มเติมว่า เจ้า หน้าที่แผนกวิเคราะห์และผลิตสรรพาวุธ ทหารเรือได้รุดตรวจสอบหินดังกล่าว โดย สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเป็น "ฟอสฟอรัสขาว"
นาวาโทหญิงธนพร ดวงจันทร์ หัวหน้าวิเคราะห์และผลิต กองคลังสรรพา วุธ ซึ่งร่วมเดินทางไปพิสูจน์ระบุว่า เบื้องต้นน่าจะเป็นฟอสฟอรัสขาว แต่ไม่ใช่สารประกอบทำวัตถุระเบิด ถึงอย่างนั้นก็มีอันตรายในตัวเอง หากมีอยู่ใน ครอบครอง แล้วเผลอเรอในเรื่องของการเก็บรักษา หรือถ้านำไปใช้ในสิ่งที่ ผิด ๆ ก็จะเกิดโทษมหันต์ โดยเฉพาะการนำไปก่อวินาศกรรมเกี่ยวกับการวางเพลิง ถ้าเก็บรักษาไว้ อย่างถูกวิธีก็ไม่มีอันตราย แต่ถ้าจะให้ดีก็ไม่สมควรมีไว้ในครอบครองอย่าง เด็ดขาด นอกจากจะไม่มีประโยชน์ ทางธุรกิจส่วนบุคคลแล้ว ยังอาจเป็นโทษร้ายแรง ซึ่งจะต้องพิสูจน์ว่าหินชนิดนี้ มีประโยชน์ต่อการอุตสาหกรรมหรือไม่ อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ยังคงมีความคลุมเครือเกี่ยวกับหินดังกล่าว ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้สอบถามข้อมูล เกี่ยวกับแร่ที่ติดไฟได้ กับ ผศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ อาจารย์ภาควิชาธรณวิทยา จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ซึ่งเผยว่า ได้ติดตามข่าวดังกล่าวเช่นกัน แต่ออกตัวว่าไม่ สามารถระบุได้ว่า หินดังกล่าวคือแร่ชนิดใด ยกเว้นจะได้วิเคราะห์โดยตรง
ผศ.ดร.จักรพันธ์อธิบายว่า จากข้อมูลในหนังสือพิมพ์ซึ่งระบุว่า เมื่อนำหินดังกล่าวออกมาก็ติดไฟทันที ซึ่งปกติแล้วแร่ธรรมชาติ ไม่มีคุณสมบัติดัง กล่าว ยกเว้นสารเคมีบางชนิด ที่ใช้ผลิตปุ๋ย ซึ่งได้แก่ สารประเภทฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมคลอเรต ส่วนแร่ในธรรมชาติที่ติดไฟได้ ต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อ ให้แร่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนก่อน นอกจากนี้ ยังมีสารประเภทซัลเฟอร์ ซึ่งติดไฟได้ แต่ต้องใช้เวลาทำ ปฏิกิริยาเป็นวันๆ ซึ่งอาจารย์นักธรณีผู้เชี่ยวชาญทางด้านแร่กล่าวว่า แร่ติดไฟที่พบได้เยอะ มีลักษณะสีเหลืองอมเขียว แต่แร่ชนิดนี้จะติดไฟได้ต้องผสมกับวัสดุอื่นด้วย อาทิ ที่เหมืองถ่านหิน อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ก็มีซัลเฟอร์ผสมกับถ่าน หิน ในปริมาณเล็กน้อย แต่ก็สร้างปัญหาเรื่องการติดไฟได้ เมื่อทิ้งให้สัมผัส อากาศสักระยะ ขณะเดียวกันซัลเฟอร์ ก็ยังใช้ในโรงงานอบแห้งลำไย ซึ่งเคยมี ตัวอย่างอุบัติเหตุโรงงานระเบิดเมื่อหลายปีก่อน อีกทั้ง หลังจาก ผศ.ดร.จักรพันธ์ทราบข้อสันนิษฐานเบื้องต้นจากนาวาโทหญิงธนพรว่า หินดังกล่าวอาจจะเป็นฟอสฟอรัสขาวนั้น เขาก็อธิบายเพิ่มเติม กับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า แร่ดังกล่าวก็ติดไฟ และใช้เป็นส่วนผสมของระเบิด ได้ อีกทั้งยังไม่ละลายน้ำด้วย แต่หากอยากทราบแน่ชัดว่า หินดังกล่าวคืออะไร ต้องนำมาวิเคราะห์ ทั้งนี้ในส่วนของฟอสฟอรัสหรือปุ๋ยก็เป็นส่วนผสมที่ ใช้ทำระเบิดได้. (คอลัมน์:วิทยาศาสตร์) ผู้จัดการออนไลน์ 4 มิ.ย. 2551 </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" valign="top" width="33%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="300" height="200"> <tbody><tr> <td style="" align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> <td align="center" valign="top" width="33%">
</td> </tr></tbody></table>

 

มันคือ ขนมปัง เทวดา คับ