คณะสงฆ์-ชาวพุทธเดินทางไปอินเดีย-เนปาล

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 26 มกราคม 2020.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย – เนปาล ว่า ในปี 2563 กรมการศาสนา โดยกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ดำเนินการส่งเสริมให้พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เป็นเครือข่ายปฏิบัติงานในโครงการต่าง ๆ ของกรมการศาสนา เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย–เนปาล ได้แก่ สถานที่ประสูติ ณ ป่าลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล, สถานที่ตรัสรู้ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พุทธคยา, สถานที่ปฐมเทศนา ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน สารนาถ และสถานที่ปรินิพพาน ณ ป่าสาลวะโนทะยาน กุสินารา สาธารณรัฐอินเดีย รวม 3 รุ่น จำนวน 230 รูป/คน โดยรุ่นที่ 1 เดินทางระหว่างวันที่ 26 ม.ค.– 3 ก.พ. จำนวน 60 รูป/คน รุ่นที่ 2 เดินทางระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม จำนวน 85 รูป/คน และรุ่นที่ 3 เดินทางระหว่างวันที่ 27 ก.พ. – 5 มี.ค. จำนวน 85 รูป/คน
    0b98c-e0b88ae0b8b2e0b8a7e0b89ee0b8b8e0b897e0b898e0b980e0b894e0b8b4e0b899e0b897e0b8b2e0b887e0b984.jpg
    อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย–เนปาล เพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะพระสงฆ์และเครือข่ายพุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติงานในโครงการต่าง ๆ ของกรมการศาสนา อาทิ พระธรรมวิทยากร พระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ วัฒนธรรมจังหวัด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นจริงในแดนพุทธภูมิแล้ว จะทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น พระสงฆ์จะได้นำหลักธรรมมาถ่ายทอดอบรม และพัฒนาประชาชนให้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นพลังในการอุทิศตนให้แก่การเผยแผ่พระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ส่วนพุทธศาสนิกชนที่ไปก็จะได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ทั้งนี้ยังเป็นการสนองตอบ ต่อนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่ง “ส่งเสริมสถาบันศาสนาทุกศาสนาให้มีบทบาทในการเผยแผ่หลักคำสอนที่ดีงาม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จิตใจ และพัฒนาสังคมให้มีความสามัคคี ปรองดอง และยั่งยืน และให้พุทธศาสนิกชนเข้าถึงแก่นแท้คำสอนของพระพุทธเจ้าและสามารถนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้”

    อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า จากการที่กรมการศาสนาร่วมกับพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล โดยพระธรรมโพธิวงค์ หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล จำนวน 9 ศูนย์ ขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ คณะพระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน ได้ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาและข้อมูลการเดินทางที่ถูกต้อง ขณะนี้ศูนย์ดังกล่าวมีพร้อมให้บริการทุกหน่วยงาน คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล อย่างเต็มที่ ประกอบด้วย ศูนย์วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล ๑ แห่ง และศูนย์ที่ประเทศอินเดีย อีก 8 ศูนย์ ได้แก่ ที่วัดไทยกุสินารา, วัดไทยพาราณสี, วัดไทยพุทธคยา, วัดไทยสารนาถ, วัดไทยเชตวันมหาวิหาร, วัดไทยนวราชรัตนาราม,วัดไทยนวมินทร์ธัมมิกราช และวัดอโยธยารามราชธานี.

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.dailynews.co.th/education/753995
     

แชร์หน้านี้

Loading...