คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่ (วัดตุ๊ป้อมหาสิงห์)

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 15 สิงหาคม 2009.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    เนื่องจากหลายท่านมีโครงการจะเดินทางไปร่วมทำบุญกับตุ๊ป้อมหาสิงห์ที่วัดถ้ำป่าไผ่ หนูจึงได้นำเนื้อหาบางส่วนในหนังสือ “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” โดยพระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ (ตุ๊ป้อมหาสิงห์) นี้มานำเสนอ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รู้จักตุ๊ป้อฯ ที่น่าเคารพสุดหัวใจมากขึ้นและเพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปร่วมงานกฐินปลดหนี้ครั้งนี้ค่ะ

    หากมีข้อผิดพลาดหรือบกพร่องประการใด หนูกราบขอขมาและขอรับโทษนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    คำนำ

    “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” ฉบับนี้ ได้จัดพิมพ์ขึ้นมา เนื่องจากมีญาติโยมจำนวนมากสอบถามถึงประวัติ ความเป็นมาของถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ อาตมาก็จะตอบคำถามเหล่านั้นให้ทราบ แต่ในบางครั้งอาตมาไม่ได้อยู่วัด พระสงฆ์ สามเณรตอบคำถามญาติโยมไม่ได้ ความสงสัยจึงเกิดขึ้นแก่ท่านผู้ถาม ดังนั้น เพื่อเป็นการขจัดความสงสัยให้หมดไป จึงได้จัดพิมพ์หนังสือ “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” ฉบับนี้ขึ้นมา

    “ถ้ำป่าไผ่” แห่งนี้จะเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดนั้น ไม่มีใครทราบเพราะไม่มีการสำรวจตามหลักธรณีวิทยากันอย่างจริงจัง สอบถามคนรุ่นพ่อ รุ่นปู่ ก็ตอบว่า “เห็นถ้ำป่าไผ่มาตั้งแต่เกิดแล้ว” เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๖ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีได้พาชาวต่างชาติมาทุบหินที่ผนังหน้าถ้ำ แล้วนำกล้องขยายมาสิ่งดูหินนั้น พร้อมกับบอกว่า “ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้มีอายุนับล้าน ๆ ปี และบริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน”
    <O:p
    บนภูเขาเหนือถ้ำนี้เป็นที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๔๗) กำลังพัฒนาด้วยการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท
    <O:p
    สวนภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่ยังคงความสวยสดงดงามตามธรรมชาติ และมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บนผนังถ้ำมีปล่องระบายอากาศหลายปล่อง จึงทำให้อากาศภายในถ้ำดีมาก นอกจากนี้พุทธบริษัททั้งหลาย ได้มาสร้างพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ฤๅษี และเจ้าแม่จามเทวี ประดิษฐานไว้ในถ้ำแห่งนี้ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของสาธุชนทั้งหลาย
    <O:p
    “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” ฉบับนี้ นอกจากจะกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในถ้ำแล้ว ยังได้กล่าวถึงเรื่องราวของอาตมาที่มีความเกี่ยวข้องกับถ้ำแห่งนี้ จนกระทั่งมาสร้างเป็น “สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่” และกำลังพัฒนาให้เป็น “วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่” สืบต่อไป
    <O:p
    ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง แด่ทุก ๆ ท่านที่มีส่วนช่วยให้คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
    <O:p
    ขอเจริญพร
    พระอาจารย์มหาสิงห์ วิสุทฺโธ
    เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่
    ๑ มกราคม ๒๕๔๗
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    ประกาศิต ขององค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๘ อาตมาและพระสุทิน แสงทอง วัดถ้ำระฆัง เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ได้พากันมาบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ เวลาเช้าของวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๘ เวลาประมาณตี ๔ (๐๔.๐๐ น.) ขณะที่นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ลานตรงหน้าองค์พระประธาน ในถ้ำสว่าง (ท้องพระโรง) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของถ้ำได้ยินเสียงองค์หลวงพ่อ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ประกาศขึ้นดัง ๆ ว่า “อาจารย์สิงห์ อยู่ที่นี่ ตายที่นี่แหละ ไม่ต้องไปไหนต่อไปอีกแล้ว”

    ต่อมาอีก ๓ วัน คือในเช้าของวันที่ ๒๐ อาตมาฝันว่า องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ได้มายืนอยู่ที่ปากปล่องถ้ำข้างบน อาตมายืนอยู่ข้าง ๆ องค์ท่าน องค์ท่านได้ชี้มือมาที่พื้นถ้ำเบื้องล่างอาตมาเห็นเศษอาหารที่องค์หลวงพ่อเหลือไว้ในจานบ้าง (ในเวลาฉันภัตตาหาร) องค์ท่านได้เกลี่ยลงน้ำให้สัตว์น้ำได้กินมาเป็นเวลานานแสนนานนั้น ได้กลับกลายเป็นวัตถุอย่างหนึ่งเป็นกรวยก้นแหลมยาวประมาณ ๓ นิ้ว คล้ายห่อขนมได้ไหลมารวมตัวกันจนเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ อยู่ ณ พื้นถ้ำแห่งนี้ อาตมาได้เหาะลงมาทำประทักษิณภูเขานั้น ๓ รอบแล้วก็ได้เอาธงสีเทา ๆ ปักไว้ปัจจุบันนี้ ได้สร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาประดิษฐาน ปักธงชาติ และธงศาสนาไว้ ภูเขาลูกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหินเขี้ยวหนุมานทั้งนั้นแล้วก็สะดุ้งตื่น เป็นเวลาตี ๓ ครึ่ง (๐๓.๓๐ น.) พอดี<O:p</O:p
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    ประกาศิต ขององค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง (ต่อ)

    พ.ศ.๒๕๒๙ อาตมาและคณะประมาณ ๙ รูป ได้พากันมาพักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง อาตมาได้เล่าความฝันให้คณะฟังแล้วบอกว่า “ผมติดภาระสร้างวัดที่บ้านเกิดอยู่ งานยังไม่เสร็จ ในพวกเรานี้ใครจะสมัครอยู่ก็ได้ผมจะสนับสนุนเต็มที่” พระสุทัศน์ สุธมฺโม วัดท่าผาปุ้ม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พูดว่า “ผมจะลองอธิษฐานดูในคืนวันนี้”

    วันรุ่งขึ้นท่านได้เล่าความฝันให้ฟังว่า เมื่อคืนเจ้าถ้ำได้เข้ามาหาท่านบอกว่า “ตั้งแต่เดิมมาถ้ำนี้ ทางฝ่ายวิญญาณจะช่วยปกป้องคุ้มครองรักษา และดูแลไว้ด้วยดีตลอดมา ไม่ให้ผู้ใดมารู้มาเห็นมาก มาวุ่นวายมาก มีเข้ามาบ้างก็เป็นส่วนน้อยไม่เป็นอันตรายมาก แต่นับจากนี้ไปคงปกปักรักษาคุ้มครองต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะมีคนมากขึ้น ป่าไม้ถูกทำลายไป สัตว์ร้ายต่าง ๆ ก็หมดไปยากต่อการปกปักรักษา จริง ๆ ทางฝ่ายวิญญาณมีความต้องการให้พระสงฆ์มาครอบครองอยู่เพื่อให้เป็นเขตพระพุทธพรมงคลสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในถ้ำจะได้อยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกทำลาย อยากจะให้พระสงฆ์เข้ามาก่อนที่ภัยมนุษย์จะเคลื่อนเข้ามา”
    <O:p
    พระสุทัศน์บอกว่า อาตมาไม่ใช่คนบ้านนี้ ไม่มีญาติ ไม่มีบริวาร ไม่มีทรัพย์จะพัฒนาขึ้นมาให้เป็นวัดได้อย่างไร งานมันจะเดินไปได้อย่างไร ยังมองไม่เห็นช่องทางเลย เจ้าถ้ำพูดว่า “เรื่องนั้นท่านไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลเลย ท่านจงมาดูนี่สิ” แล้วท่านก็พามาที่ลานหน้าพระประธานในถ้ำแล้วโบกมือไป ๑ ครั้ง ปรากฏว่ามีกองเงินกองทองผุดขึ้นมาเต็มไปหมด พระสุทัศน์ เห็นดังนั้นกล่าวว่า “ผมยินดีอยู่ที่นี่ครับ”
    <O:p
    อาตมาและคณะจึงขอความช่วยเหลือจากพระอาจารย์ทรงสิทธิ์ ธมฺมาวุโธ วัดนอก จังหวัดชลบุรี ซึ่งมาธุดงค์อยู่ด้วยกันที่ในถ้ำ ให้หาเงินมาสร้างห้องน้ำ ห้องสุขาก่อน ท่านก็ยินดีช่วย อาตมาได้เดินทางไปจังหวัดชลบุรีกับท่านเพื่อจะนำเงินมาถวายพระสุทัศน์ ได้เงินมาหนึ่งหมื่นสามพันกว่าบาท เมื่อข้าพเจ้ามาถึงถ้ำแล้ว ปรากฏว่ามีแต่ถ้ำว่างเปล่า พระสุทัศน์ได้ออกจากถ้ำไปแล้ว ไม่ทราบว่าไปไหน ถามญาติโยมก็ไม่มีใครทราบ ท่านทรงสิทธิ์ ธมฺมาวุโธ ได้เก็บเงินไว้หลายเดือน เมื่อไม่มีพระอยู่ที่ถ้ำ ท่านก็เลยถวายให้อาตมานำไปพัฒนาวัดบ้านเกิดของอาตมาต่อไป ภายหลังอาตมาพบพระสุทัศน์ ถามท่านว่าทำไมไม่อยู่ในถ้ำตามที่ได้ตกลงกันไว้ ท่านบอกว่าอยู่ไป ๆ เกิดเป็นโรคผิวหนังรักษาไม่หายจึงตัดสินใจทิ้งถ้ำไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2009
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    เริ่มต้นที่จะได้มาอยู่ถ้ำป่าไผ่

    กาลเวลาผ่านไป จนกระทั่งถึง พ.ศ.๒๕๓๒ องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ส่งจดหมายมาให้อาตมาบอกว่า มาอยู่ที่ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ได้แล้ว เพราะอายุก็มากพอสมควรถึงแก่เวลาแล้ว (อายุ ๕๒ ปี) อาตมาจึงได้ย้ายจากวัดพระธาตุจอมแจ้ง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มาแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีใครไล่ และพระสงฆ์และสามเณรจากวัดหนองป่าพงอยู่กัน ๘ รูป เริ่มมาอยู่กันตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ แล้ว หัวหน้าคณะชื่ออาจารย์บุญทัน อตฺถกาโม แต่ได้มอบให้อาจารย์วิชาญเป็นผู้ดูแลแทน

    ในปี พ.ศ.๒๕๓๒ ภายในถ้ำมีพระจากวัดถ้ำผาจม จังหวัดเชียงรายมาอยู่ ๓ รูป แม่ชี ๒ รูป แล้วก็มีพระจากจังหวัดพิษณุโลกอีก ๑ รูปอาศัยอยู่ อาตมาได้เข้ามาพักอยู่ในถ้ำกับพระและแม่ชีเหล่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2009
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    เปิดถ้ำป่าไผ่

    ในกลางพรรษาปี พ.ศ.๒๕๓๒ นั้น ตรงกับวันที่ ๒๒ กันยายน หลวงปู่แสวง ฐิตสาสโน วัดถ้ำเขาตะพาบ จังหวัดอุทัยธานี พร้อมทั้งญาติโยมทั้งหลายมีพ่อหลวงบุญ บุญทอง เป็นต้น จะทำพิธีเปิดถ้ำป่าไผ่ อาตมาจะร่วมพิธีเปิดถ้ำด้วยเหมือนกันแต่ไม่สบายใจ เพราะวันที่เปิดถ้ำเป็นวันเสียเมืองของเหนือที่คนโบราณยึดถือและปฏิบัติต่อกันมาว่าเกี๋ยงห้าเก้า เสียอาทิตย์กับจันทร์ นี่สิบหก เสียวันอังคารวันเดียว สามเจ็ดสิบเอ็ด เสียเสาร์กับพฤหัสฯ สี่แปดสิบสอง เสียศุกร์กับพุธ (เดือนทางเหนือจะเลยเดือนของภาคกลางไปหน่อย เช่น เดือนเก้าของภาคกลาง ทางเหนือเป็นเดือนสิบเอ็ด) ถ้าวันเสียเมืองทางเหนือโบราณ จะไม่ทำอะไร ถือว่าเป็นวันอาถรรพณ์ของเดือนนั้น ๆ จึงมาคิดว่า หลวงปู่แสวงท่านไม่ได้อยู่ประจำ ทำพิธีก็แล้วไป แต่เราอยู่ประจำเพื่อความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในวันข้างหน้า เราจะทำพิธีเปิดเอาฤกษ์เอายามเสียก่อนสักวันหนึ่งคงจะดี

    เวลานั้นญาติโยมที่อุปการะยังมีไม่มาก อาตมาจึงได้จุดธูปเทียนบูชาพระและขอเทพช่วย ขอให้มีผู้ช่วยในการทำพิธีเปิดถ้ำ ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คุณนายของท่านผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (สภ.อ.เมือง จังหวัดลำพูน) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่โอภาสี มีความต้องการที่จะทำบุญในถ้ำแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ชักชวนญาติและเพื่อนออกแสวงหาถ้ำที่จะทำบุญ เมื่อคุณนายมาพบถ้ำป่าไผ่ อาตมาก็ปรึกษาเรื่องที่จะทำพิธีเปิดถ้ำให้ท่านฟัง คุณนายมีความยินดีมาก พร้อมที่จะมาช่วยในการเปิดถ้ำ จึงนัดทำพิธีกรรมเปิดถ้ำก่อนหลวงปู่แสวงหนึ่งวัน
     
  7. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    พิธีเปิดถ้ำ

    วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ พิธีเปิดถ้ำได้เริ่มขึ้น โดยมีอาตมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ฝ่ายฆราวาสมีคุณนายภรรยาท่านผู้กำกับ สภ.อ.เมือง จังหวัดลำพูนเป็นประธาน พร้อมด้วยภรรยาท่านนายตำรวจ สภ.อ.ลี้ และชาวบ้านป่าไผ่บางส่วน มีคุณพ่อวรรณ เมืองใจ เป็นต้น

    เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. มีการทำบุญตั้งกองทาน (แบบองค์หลวงพ่อโอภาสี) บริเวณหน้าลานองค์พระประธานในถ้ำ ถวายทานแด่พระสงฆ์และให้ทั้งฆราวาสที่มาร่วมงาน ฝ่ายฆราวาสแจกทานคนละ ๒๐ บาท นอกจากนั้นก็มีผลไม้ ขนมของหวาน ฯลฯ ทั้งนี้ทำเพื่อสงเคราะห์ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหลายก่อนที่จะเปิดถ้ำ
    <O:p
    หลังจากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ทำพิธีเปิดถ้ำที่ปากประตูเข้าถ้ำ มีสายสิญจน์ขึงที่ปากถ้ำ ๒ เส้น ข้างในถ้ำมีคุณนายผู้กำกับพร้อมด้วยคณะและร่างทรงในชุดสีขาว ทรงศีล ๘ สมมุติว่าเป็นผู้แทนเจ้าถ้ำ มีผู้ที่จะโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ฝนห่าแก้วอยู่สองข้างทางในถ้ำ (โปรยเมื่อขบวนผู้เปิดถ้ำเดินผ่าน) ข้างนอกถ้ำมีอาตมาพร้อมด้วยพระสงฆ์และชาวบ้าน มีพ่อวรรณ เมืองใจเป็นต้น เป็นฝ่ายขอเปิดถ้ำ
    <O:p
    เริ่มพิธีเปิดถ้ำด้วยจุดเทียน ๒ เล่ม ธูป ๙ ดอก บูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระแล้วอาตมานำพุทธบริษัททั้งหลายว่านะโมฯ ๓ จบ ต่อด้วยบทอิมาหังภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิฯ ข้าแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อิมาหัง ภันเต อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ ข้าแด่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมีองค์หลวงปู่ปานและหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นต้น ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายฯ แล้วกล่าวทักเทวดารักษาถ้ำว่า “คูหา เทวดา สุขิตา โหนตุ” ๓ จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2009
  8. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    พิธีเปิดถ้ำ (ต่อ)

    ต่อจากนั้น กล่าวคำโวหารขอเปิดถ้ำว่า “ข้าแด่เทพาอารักษ์ เจ้าพ่อเจ้าแม่แห่งถ้ำป่าไผ่ทั้งหลาย พร้อมด้วยคณะบริวารทุก ๆ พระองค์ ทุกรูปทุกนาม มีองค์เจ้าแม่จามเทวีและบริวารทั้งหลายเป็นต้นบัดนี้ ถึงกาลเวลาอันสมควรแล้วที่จะเปิดถ้ำแห่งนี้เพื่อให้เป็นเขตพุทธศาสนมงคลสถาน เป็นที่บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา เป็นสำเภาแก้ว สำเภาทอง ขนนำเอาท่านสาธุชนคนดีทั้งหลายเข้าสู่สุคติ คือ สวรรค์ พรหมโลก พระนิพพานและบางส่วนให้ได้เข้าร่วมในศาสนาแห่งพระศรีอาริยเมตตรัย ที่จะมาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดเวไนยสัตว์ในอนาคตข้างหน้านั้นด้วยเถิด” แล้วมอบพานดอกไม้ธูปเทียนแด่คุณนายผู้กำกับ คุณนายผู้กำกับรับแล้วตอบแทนเจ้าของถ้ำว่า “ลูกหลานและสาธุชนคนดีทั้งหลาย องค์เจ้าแม่จามเทวีและเทพารักษ์ทั้งหลายพร้อมด้วยคณะบริวารทั้งปวง มีความยินดีอนุญาตให้เปิดถ้ำป่าไผ่แห่งนี้เพื่อเป็นเขตพระพุทธพรมงคลสถาน เป็นสำเภาแก้ว สำเภาทอง บรรจุเอาลูกหลานสาธุชนคนดีทั้งหลายเข้าสู่สุคติภูมิคือสวรรค์ พรหมโลกและพระนิพพานไปตลอดตราบเท่าอายุพระพุทธศาสนา ๕,๐๐๐ ปีพระวสานั้นเถิด พุธโธ ละเปิดโลก ธัมโม ละเปิดโลก สังโฆ ละเปิดโลก โลกะวิทูฯ” สาธุ ๆ ๆ เปิดด้วยนะโม พุทธายะ หลังจากนั้นคุณนายผู้กำกับตัดสายสิญจน์ด้านใน ๑ เส้น แล้วไปยืนรออยู่ด้านข้าง
     
  9. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    พิธีเปิดถ้ำ (ต่อ)

    ฝ่ายที่อยู่ข้างนอกถ้ำ อาตมากล่าวนำให้ว่าตามว่า “วิรูปากไข ๆ ๆ” ๓ จบ แล้วตัดสายสิญจน์ด้านนอกเส้นสุดท้าย พระสงฆ์สวดชยันโตและประพรมน้ำมนต์ ฝ่ายฆราวาสตีระฆัง ฆ้อง กลอง จุดประทัดแล้วอาตมากล่าวนำให้ว่าตาม ๓ จบว่า “อิติสุคะโต อรหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ” แล้วพากันสวดนะโมฯ ๓ จบ พุทธัง สรณัง คัจฉามิฯ ตะติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิฯ พอขึ้นบทอิติปิโสฯ ก็เดินนำขบวนผู้อยู่ข้างนอกเข้าไปในถ้ำ ข้างในถ้ำโปรยฝนห่าแก้ว ข้าวตอก ดอกไม้ แล้วก็เดินตามเข้าแถวไป เมื่อเข้าไปถึงหน้าลานองค์พระประธานแล้ว พระสงฆ์และฆราวาสทั้งหมดได้สวดมนต์ด้วยบท อิติปิโสฯ, พาหุงฯ, คาถาเงินล้าน, บูรพารัสมิง, มงคลแปดทิศ, ชยันโต อุทิศส่วนกุศล และวันทาหลวง วันทาน้อยเป็นอันจบพิธีเปิดถ้ำ
    <O:p
    ในวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๑๕๓๒ (ตอนพระสวดชยันโตที่ปากถ้ำมีฝนโปรยลงมานิดหน่อย) พิธีกรรมเปิดถ้ำในวันนี้เป็นที่ชื่นใจของผู้เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างมาก
    <O:p
    วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ จัดพิธีกรรมเปิดถ้ำที่เชิงบันไดขึ้นถ้ำ มีการตั้งศาลเพียงตา มีร่างทรงคุณบุญมี จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นร่างทรงองค์เจ้าแม่จามเทวีเป็นผู้ทำพิธีกรรมเปิดถ้ำ ฝ่ายสงฆ์มีหลวงปู่แสวง ฐิตสาสโน วัดถ้ำเขาตะพาบ จังหวัดอุทัยธานีเป็นประธาน ฝ่ายรับทานมีท่านพระครูวิลาสคณาทร เจ้าคณะอำเภอลี้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สวญ.สภ.อ.ลี้ พร้อมด้วยพ่อหลวงบุญ บุญทองเป็นประธานฝ่ายฆราวาสและประชาชนชาวอำเภอลี้เป็นจำนวนมาก มีการทำบุญทอดผ้าป่าด้วย แต่งานมีอุปสรรคไม่สะดวกเท่าที่ควร คือ มีฝนตกหนัก
     
  10. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    พิธีเปิดถ้ำ (ต่อ)

    วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ มีร่างทรงพระพิฆเณศร์ อยู่หมู่บ้านเศรษฐกิจ ซอย ๑๐ (เลยตลาดบางแคไปทางนครปฐมนิดหน่อย) มาทำพิธีเปิดถ้ำ ทำพิธีเสาเอกในถ้ำใหญ่ เวลา ๒๔.๐๐ น. แต่เมื่อเวลา ๒๒.๐๐ น. (สี่ทุ่ม) ขณะที่พระสวัสดิ์ ปญฺญาปทีโป คุมเครื่องปั่นไฟอยู่ที่ปากถ้ำ ได้ยินเสียงช้างร้องขึ้นดัง ๆ ๓ ครั้ง ท่านได้วิ่งเข้าไปในถ้ำ บอกว่า “ผีช้างหลอก”

    วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ หลังจากงานเปิดถ้ำผ่านไปแล้ว มีค้างคาวฝูงหนึ่งบินร่อนลงมาแบบร่าเริง (เป็นค้างคาวตัวไม่ใหญ่) แต่ที่แปลกคือมาบินเล่นที่หน้าองค์พระประธานในถ้ำและที่ปากทางเข้าถ้ำตลอดทั้งวัน
    <O:p
    สถานที่ต่าง ๆ ในสำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่
    ๑. วิหารพระราชพรหมยานเถรเจ้าและพระประธานในวิหาร
    ๒. พระอุโบสถ (อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง) พร้อมด้วยสมเด็จองค์ปฐม
    ๓. ช้างปู้ก่ำงาเขียว
    ๔. พระอุปคุตและแม่นางธรณี
     
  11. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    การทำพลีกรรมแบบโบราณภายในถ้ำป่าไผ่

    ในวันที่ ๑๖ เมษายนของทุก ๆ ปี จะมีการทำพลีกรรมแบบโบราณ ณ ที่สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่ ดังต่อไปนี้<O:p
    ๑. ศาลที่อยู่ในเขตป่าช้าด้านทิศตะวันออก
    <O:p๒. ศาลที่อยู่ในเขตพระพุทธศาสนาที่หน้าถ้ำ<O:p
    ๓. ศาลที่อยู่ด้านข้างรอยพระพุทธบาทบนถ้ำ<O:p
    <O:p

    เครื่องพลีกรรมมีเทียน ๒ เล่ม ธูป ๕ ดอก บูชาพระรัตนตรัยก่อน ขึ้นนะโมฯ ๓ จบก่อน แล้วก็มีข้าวปลาอาหารคาวหวานตามสมควร แผ่เมตตาด้วยการภาวนาพระคาถาว่า เมตตาคุณณังอรหัง เมตตาแล้วก็ทำพลีกรรม คือ
    • ขอน้อมถวายอามิสบูชาและการปฏิบัติบูชาต่อเทวดา<O:p
    • ขอขมาเทวดา<O:p
    • ขออาราธนาช่วยในกิจที่สมควร และขอพรฯ<O:p
    ภายในถ้ำมีที่ทำพลีกรรมดังต่อไปนี้<O:p
    • ศาลเจ้าถ้ำ<O:p
    • องค์ท่านปู่ฤาษี<O:p
    • องค์เจ้าแม่จามเทวี<O:p
    • องค์ท่านปู่นเรศวรมหาราช<O:p
    • องค์เจ้าพ่อหลักเมือง<O:p
    • ช้างปู้ก่ำงาเขียว ช้างองค์เจ้าแม่จามเทวี<O:p
     
  12. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    การทำพลีกรรมแบบโบราณภายในถ้ำป่าไผ่ (ต่อ)

    เครื่องบูชาที่ต้องจัดเตรียม
    ๑. ศาลเจ้าถ้ำ ประกอบด้วย ข้าวปลาอาหารคาวหวาน, น้ำ, ผ้าสีผูกเสาถ้ำ<O:p
    ๒. องค์ท่านปู่ฤๅษี ประกอบด้วย ไก่ต้มที่ผ่าบิ้ง (ผ่าเผ็นชิ้น ๆ ) ๒ ตัว, ข้าวและอาหาร, ขนม, มะพร้าว ๑ ทะลาย, ผลไม้, น้ำมะพร้าว, กล้วย ๑ เครือ<O:p
    ๓. องค์เจ้าแม่จามเทวี ประกอบด้วย ดอกกุหลาบ, น้ำ, อาหารพื้นเมือง มีแกงแค น้ำพริก ผักนึ่ง ฯลฯ, ขนม, ผลไม้, ผ้าสไบ (อาหารอย่างอื่นองค์เจ้าแม่จามเทวีไม่ทรงโปรด แต่บริวารของท่านชอบ)<O:p
    ๔. องค์ท่านปู่นเรศวร ประกอบด้วย น้ำ, ข้าวปลาอาหาร, บุหรี่ซิการ์, เหล้าดำ<O:p
    ๕. เครื่องพลีกรรมเจ้าพ่อหลักเมือง ประกอบด้วย เทียนเงิน เทียนดำ อย่างละ ๔ เล่ม, ช่อขาว ช่อแดง อย่างละ ๘ ผืน, ฉัตรขาว ฉัตรแดง อย่างละ ๒ คัน, มะพร้าว ๔ ทะลาย, กล้วย ๔ หวี, อ้อย ๔ ลำ, เหล้าขาว ๑ ขวด, ปลาปิ้ง ๔ ตัว, เนื้อสุก ๔ ชิ้น, เนื้อดิบ ๔ ชิ้น, แกงส้ม ๔ ถ้วย, แกงหวาน ๔ ถ้วย, หมากหนึ่งพัน, ผ้าขาว ๑ ลำ, อาสนะที่นั่ง (เก้าอี้) ๑๒ ที่<O:p
    ๖. ช้างปู้ก่ำงาเขียว ประกอบด้วย เทียนเงิน เทียนดำ อย่างละ ๒ เล่ม, ฉัตรแดง ๑ คัน, ช่อแดง ๑ ผืน, มะพร้าว ๑ ทะลาย, กล้วย ๑ หวี, อ้อย ๑ ลำ, หญ้า ๑ หาบ, พลู ๑ แหลบ, ดอกไม้ ๗ กระทง, ข้าวตอก ๗ กระทง<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2009
  13. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    การทำพลีกรรมแบบโบราณภายในถ้ำป่าไผ่ (ต่อ)

    พิธีกรรมที่ทำในถ้ำ
    เมื่อพระสงฆ์ ญาติโยมพร้อมแล้ว<O:p
    ๑. ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
    <O:p๒. เปิดเทปสมาทานพระกรรมฐาน อธิษฐานจิตไหว้พระตามเทป<O:p
    ๓. สมาทานศีล<O:p
    ๔. พระสงฆ์สวดกรณียเมตสูตร ๙ จบญาติโยมตั้งใจฟังและภาวนาไปด้วย<O:p
    ๕. ถวายสังฆทาน ๕ ชุดแด่พระสงฆ์<O:p
    ๖. กล่าวคำถวายเครื่องพลีกรรมต่าง ๆ นำเครื่องพลีกรรมไปบูชาตามที่ต่าง ๆ <O:p
    ๗. น้อมถวายเครื่องบูชา<O:p
    ๘. ขอขมา<O:p
    ๙. ขอพร<O:p
    ๑๐. กล่าวอุทิศส่วนกุศล อามิสบูชาและการปฏิบัติ บูชาไปถึงผู้มีพระคุณทั้งหลายมีครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลาย ผู้ที่เคยอุปการะมาแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เทพ พรหม พญายมราชและคณะทั้งหลาย ญาติทั้งหลาย ฯลฯ ตามอารมณ์ที่นึกได้ อุทิศไปให้หมด<O:p
    ๑๑. พระสงฆ์ให้พร แล้วพระสงฆ์ทั้งหลาย มอบคืนเครื่องบูชาพลีกรรมทั้งหลายให้แก่ญาติโยมทั้งหลาย เพื่อทำพลีกรรมตามจุดต่าง ๆ ต่อไป<O:p
    <O:p
    ถ้าญาติโยมทั้งหลายไม่มีความสามารถที่จะทำได้ ก็ให้พระทำหน้าที่แทนไปก่อน จนกว่าจะพบคนที่สามารถทำได้ ก็ปล่อยให้ทำกันเอง<O:p
    <O:p
    ขอท่านสาธุชนคนดีทั้งหลาย ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จงช่วยกันทำนุบำรุงรักษาเขตพระพุทธพรมงคลสถานอันประเสริฐแห่งนี้ไว้ให้เป็นที่บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา ไปตลอดกาลอายุพระพุทธศาสนานั้นด้วยเถิด<O:p
    <O:p
    ขออนุโมทนาสาธุในคุณงามความดีของทุก ๆ ท่าน ด้วยความจริงใจ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ<O:p
    <O:p
    ขอเจริญพร<O:p
    พระอาจารย์มหาสิงห์ วิสุทฺโธ<O:p
    เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ ถ้ำป่าไผ่<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2009
  14. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    หลวงพ่อพาชมถ้ำ

    ต่อจากนี้ไป หลวงพ่อจะได้นำพาท่านทั้งหลาย เข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำป่าไผ่ ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้มีหลายถ้ำ แต่ละถ้ำก็มีหลายคูหา ถ้าจะชมกันอย่างทั่วถึงต้องใช้เวลากันเป็นวัน ๆ เลยทีเดียว เฉพาะที่ได้พัฒนาไปแล้วสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ในปัจจุบันก็มากพอสมควร ถ้าจะเที่ยวชมกันอาณาบริเวณนี้ ต้องใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาทีถึง ๑ ชั่วโมง
     
  15. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    อธิษฐานขอฝนกับหลวงพ่อฝนแสนห่า

    ท่านทั้งหลาย ตอนนี้เรามาเริ่มต้นกันบริเวณบันไดขึ้นถ้ำ ด้านขวาเป็นบันไดเป็นอาคารรับแขก มีป้ายขนาดใหญ่อยู่ที่หน้าอาคารว่า “ศูนย์รวมศิษย์พระราชพรหมยาน (องค์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง)” ผู้เฒ่าผู้แก่ขึ้นไปเที่ยวบนถ้ำไม่ไหวก็ขอเชิญเข้าไปคอยลูกหลานอยู่ที่ศาลาแห่งนี้

    ทางด้านทิศตะวันออกของศาลานี้ มีพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางประทานพร อยู่ในพระวิหารหลังน้อยนี้ ๑ องค์ ได้เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงว่า จะสร้างพระพุทธรูปขององค์พระพุทธเจ้าพระองค์ใดจึงจะมีลาภเป็นพิเศษ องค์หลวงพ่อตอบว่า “สมเด็จองค์ปฐม ๑, สมเด็จองค์พระปทุมุตตระ ๑, สมเด็จองค์พระพุทธกัสสปะ ๑”
    <O:p
    กราบเรียนถามต่อไปว่า แล้วก็จะทำอย่างไรให้คนทั้งหลายรู้ว่าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นองค์พระพุทธเจ้า พระองค์นั้น พระองค์นี้ องค์หลวงพ่อก็ตอบว่า “ก็จะยากอะไรก็เขียนพระนามของท่านติดไว้ข้างหน้าสิ” ได้ตั้งใจอธิษฐานในวันก่อสร้างไว้ว่าขอให้เป็นสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาปางประทานพร แต่ยังไม่ได้เขียนพระนามใส่ไว้อยากจะปรับปรุงที่ประทับและพระองค์ท่านให้สวย ๆ สมพระเกียรติยิ่งกว่านี้ กำลังพยายามอยู่ สำหรับองค์พระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ไหน
    <O:p
    ด้านซ้ายมือทิศใต้มีวิหารหลังน้อยชื่อว่า “วิหารรัตนกุล” เป็นที่พักคอยญาติเหมือนกัน และมีตู้เซียมซีให้เสี่ยงทายด้วยที่วิหารนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อฝนแสนห่า (อธิษฐานขอฝนได้) ตั้งใจอธิษฐานตอนที่สร้างขอให้เป็นองค์พระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p
    ตรงข้ามกับวิหารรัตนกุลออกไปประมาณ ๒๐ เมตร จะเป็นห้องน้ำ จำนวน ๒๖ ห้อง บนรอยพระพุทธบาทและในถ้ำไม่มีห้องน้ำนะ ถ้าธุระทางร่างกายมีอยู่ก็แวะเข้าห้องน้ำกันให้สบาย
    <O:p
    ทางด้านตรงข้ามกับอาคารศูนย์รวมศิษย์ฯ จะเป็นร้านค้าสวัสดิการของสำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่ มีบริการน้ำชา กาแฟ น้ำหวาน ขนม และวัตถุมงคล เป็นต้น จำหน่ายแก่ผู้มาเยือน ต้นคิดต้นทุนมาจากคุณสุทัศน์ – คุณราตรี ยะปัญญา บ้านแม่เทย ทั้งทุนทั้งกำไรถวายวัดหมด ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2009
  16. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    ขอพรหลวงปู่พระสิวลี

    เมื่อทุกท่านเสร็จธุระส่วนตัวแล้ว ก็ขอเชิญรีบรวมกลุ่มกันมาโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินขึ้นถ้ำต่อไป พร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดิน

    พอผ่านพ้นวิหารรัตนกุลขึ้นไปอีกนิด ขวามือเป็นวิหารพระสิวลี พร้อมด้วยพระสิวลีปางลีลา (เดินเตสสันถี) ซึงเดิมประดิษฐานอยู่ที่หอสวดมนต์ แต่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงแนะนำว่าคนเข้าไปบูชาน้อยให้เอาไปไว้ข้างนอกที่คนทั้งหลายเข้าออกได้ง่าย จึงได้สร้างวิหารองค์พระสิวลีขึ้น ส่วนพระคาถาบูชาพระสิวลีที่ยาวหน่อยแต่ได้ผลดีมีดังต่อไปนี้
    <O:p
    อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระสิมพลีเถรเจ้า จงมาบังเกิดในจักขุทวาร ในโสตะทวาร ในฆานะทวาร ในชิวหาทวารในกายทวาร ในมโนทวาร ของข้าพเจ้า ณ บัดนี้
    <O:p
    อะหังลาโภ จะ ลาภานัง ลาภะสักกาโร จะ ปูชิโต ขอเดชะบารมีที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาในอดีตชาติ แสนชาติ สังขยาชาติ ชาติใด ๆ ก็ดี จนถึงชาตินี้ สีวะลี ปุญเญนะ ขอให้เหมือนบุญพระสิมพลีเถรเจ้า
    <O:p
    สัพเพเทวา สัพเพ มนุสสา ปิยา มะมะ รักขันตุ สัพพะทาฯ อิติปิโส พุทโธไชโย เมตตา นะชาลีติ สีวะลี จะ มหาเถโร ลาภะลาโภ ภวันตุเมฯ<O:p
    <O:p
    อิติปิโส ธัมโมไชโย เมตตา นะชาลีติ สีวะลี จะ มหาเถโร ลาภะลาโภ ภวันตุเมฯ<O:p
    อิติปิโส สังโฆไชโย เมตตา นะชาลีติ สีวะลี จะ มหาเถโร ลาภะลาโภ ภวันตุเมฯ<O:p
    <O:p
    ท่านทั้งหลาย ใครอยากได้ลาภได้ยศ ได้เครื่องสักการะของฝาก อยากมีความสุขทุก ๆ อย่าง เข้าไปกราบองค์ท่านหน่อยนะ แล้วขอให้หมั่นเอาพระคาถานี้ไปภาวนา เห็นมีตู้บริจาคอยู่ ๓ ตู้
    ตู้ที่ ๑ เพื่อซื้อโลงศพแจก
    ตู้ที่ ๒ เพื่อสมทบทุนสร้างวิหารองค์ท่านปู่สีวลีที่ยังไม่แล้วเสร็จ
    ตู้ที่ ๓ ช่วยค่าอาหารกลางวันของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าไผ่
    อยู่ด้วย
    <O:p
    เมื่อกราบขอพรองค์หลวงปู่พระสีวลีเสร็จแล้ว เราก็พากันขึ้นบันไดกันต่อไป บันไดคงเหลือแค่ ๑๔๐ กว่าขั้นเท่านั้น มองเห็นปากถ้ำอยู่ไม่ไกล ขึ้นตามมาเลยนะ การขึ้นที่สูงให้ภาวนาว่า “พุทโธ” จะได้ไม่เหนื่อยมาก คาถาขององค์หลวงปู่ครูบาวงศ์ (วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม) ใช้ภาวนาเวลาเดินทางให้ถึงเร็วว่า “ยาวะเทวะ ๆ ๆ” เอ้า เกือบถึงหัวบันไดแล้ว
    <O:p
    ตรงหน้าของเราคือถ้ำป่าไผ่ ขวามือมีวิหารหลังน้อยกับองค์พระพุทธรูป ๑ องค์ ทางด้านซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท (รอยเท้าของพระพุทธเจ้า)
    <O:p
    ที่ปากถ้ำแห่งนี้พระกรรมฐานท่านเล่าว่า มียักษ์ผู้หญิงอาศัยอยู่ หลวงพ่อจะสร้างวิหารเพื่อนำองค์พระพุทธรูปมาไว้เขาไม่ยอม เขาไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เขาอยู่มาตั้งนานแล้ว หลวงพ่อจ่าสุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่านมาคุยให้บอกว่า “ยอมเขาเถอะบุญใหญ่จะเกิดที่ปากถ้ำไปนานเท่านาน เพราะใครขึ้นมาแล้วเห็นองค์พระพุทธรูปก็อดไหว้ไม่ได้ เมือไหว้พระฯ ทางสำนัก พระยายมราช ก็จะจดลงบัญชีสีทองให้ทันที บุญใหญ่นะ อนุโมทนาเถอะนะ” ยักษ์ก็ยอม เอ้าพวกเราทั้งหลายเข้าไปเปิดบัญชีสีทองกันได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2009
  17. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2009
  18. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 105_0575.JPG
      105_0575.JPG
      ขนาดไฟล์:
      172.5 KB
      เปิดดู:
      67
    • 105_0574.JPG
      105_0574.JPG
      ขนาดไฟล์:
      175.5 KB
      เปิดดู:
      63
    • 105_0573.JPG
      105_0573.JPG
      ขนาดไฟล์:
      176.3 KB
      เปิดดู:
      57
    • 105_0565.JPG
      105_0565.JPG
      ขนาดไฟล์:
      130.9 KB
      เปิดดู:
      60
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2009
  19. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    นมัสการรอยพระพุทธบาท

    เมื่อไหว้พระที่ปากถ้ำเรียบร้อยแล้ว เชิญพวกเราขึ้นไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทกันก่อนนะ บันไดคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีจำนวน ๘๒ ขั้น ข้างบันไดมีราวให้เกาะด้วย เดินขึ้นมาเลยโค้งนิดเดียวก็ถึงถ้ำ มากันทุกวันก็ดีนะร่างกายจะได้แข็งแรง ทานอาหารก็จะอร่อย ย่อยง่าย เอ้าถึงแล้ว เมื่อสุดขั้นบันไดรอยพระพุทธบาทก็อยู่ตรงหน้าเราพอดี

    รอยพระพุทธบาทที่ตั้งอยู่เหนือดอยโตน “บนถ้ำป่าไผ่” แห่งนี้มีมาแต่โบราณแต่ไม่มีผู้ใดพบเห็นเพราะรกชัฎไปด้วยต้นไม้ เครือเขาและเถาวัลย์ องค์หลวงปู่ครูบาอภิชัยขาวปี แห่งวัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยได้พยากรณ์ไว้ว่า รอยพระพุทธบาทที่พุทธบริษัทได้บูชากันอยู่ทุกวันนี้ที่อยู่ข้างล่างนั่นยังไม่ใช่ของแท้ ของแท้อยู่บนเขาที่หลังถ้ำดอยโตน (ถ้ำป่าไผ่) ในอนาคตพวกท่านก็จะได้เห็นกัน
    <O:p
    ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๒๓ พ่อน้อยจุ่ม ขัดสาร อยู่บ้านป่าไผ่ ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้ฝันว่ามีเมฆก้อนกลม ๆ โต ๆ ๒ ก้อนลอยมาทางทิศตะวันตก ๑ ก้อน ลอยมาทางทิศตะวันออก ๑ ก้อน ได้มาบรรจบรวมกันเป็นก้อนเดียวที่หลังดอยโตนแห่งนี้แล้วลอยต่ำลงมากลายเป็นต้นโพธิ์ และเปล่งรัศมีแสงสี ๖ สี พวยพุ่งออกมามีลักษณะสวยงามมาก มองไปทางทิศตะวันตกใต้ต้นโพธิ์ เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งก็สะดุ้งตกใจตื่น ในวันนั้นพ่อน้อยจุ่ม ขัดสาร ได้ขึ้นไปเก็บเห็ดที่หลังถ้ำดอยโตน (ถ้ำป่าไผ่) แห่งนี้จึงได้พบรอยพระพุทธบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เกิดความปีติศรัทธากราบไหว้บูชา หลังจากนั้นก็พยายามขึ้นมาทำความสะอาด ปัดกวาดตกแต่งรอบ ๆ บริเวณรอยพระพุทธบาทอยู่บ่อย ๆ เสมอ
    <O:p
    ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ พระอาจารย์สิงห์ วิสุทฺโธ ได้มาจำพรรษาอยู่ประจำที่ถ้ำป่าไผ่เมื่อทราบเรื่องแล้ว จึงได้พาคณะพุทธบริษัทไปกราบอาราธนาหลวงปู่พระครูบาชัยยะวงศ์ษาพัฒนา แห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มาตรวจดูด้วยญาณ องค์หลวงปู่ตรวจแล้วบอกว่าเป็นรอยพระพุทธบาทจริง แต่เป็นรอยพระพุทธบาทข้างซ้ายโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ผินพระพักตร์ไปด้านทิศใต้ แล้วก็ก้าวพระบาทข้างซ้ายเหยียบประทับรอยพระบาทแล้วจึงหันพระองค์กลับดำเนินไป
    <O:p
    ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๔๗) ทางวัดกำลังพัฒนาโดยการปูหินอ่อนที่พื้นที่บริเวณโดยรอบรอยพระพุทธบาทและสร้างมณฑปด้านบน ค่อย ๆ เข้าไปนะ งานยังไม่เรียบร้อย การบูชากราบไหว้รอยพระพุทธบาทมีอานิสงส์ทำให้เดินทางปลอดภัย มีความคล่องตัว มีโชคลาภในการเดินทางไปมา ถ้าอธิษฐานโดยระลึกถึงองค์พระพุทธเจ้าไว้ด้วยก็จะไม่หลงออกจากสัมมาทิฐิ ถ้าจะให้มีอานิสงส์ตลอดก็ต้องไหว้ทุกวันตลอดไป คำไหว้ถ้าอยากได้บุญมากก็ให้ไหว้รอยพระพุทธบาท ทั้ง ๔ องค์เลย คำไหว้ มีดังนี้
    <O:p
    นะโม พุทธายะ กุกกุสันธัง โคนาคะมะนัง กัสสะปัง โคตะมัง ปาทะวะลัญชัง <O:p
    อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสาฯ<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2009
  20. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    16,652
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,256
    ค่าพลัง:
    +25,972
    นมัสการรอยพระพุทธบาท (ต่อ)

    เมื่อก่อนโน้นหลวงพ่อเป็นพระยากจนมาก จะไปวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี แต่ละครั้งไม่มีค่ารถ บางครั้งมีแต่ก็ไม่พอ ไปพบพระองค์หนึ่งเล่าให้ฟังว่า ท่านแนะนำให้ไหว้รอยพระพุทธบาททุก ๆ วัน แล้วจะเดินทางสะดวก องค์นี้ท่านจะขึ้นเครื่องบินเขายังแย่งกันเอาขึ้นเลย ลำนั้นก็นิมนต์ ลำนี้ก็นิมนต์ว่างั้น ลองไหว้ดูรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม มีคนถวายค่ารถบ้าง ชวนขึ้นรถบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่ชีระเบียบ มาลี สำนักแม่ชีวัดโพธิ์ทอง จังหวัดราชบุรี ยังนำรถตู้ชรามาถวายไว้ให้ใช้คันหนึ่ง พอไปไหนมาไหนได้บ้าง อยากจะเอาไปไกลแต่คนใกล้เคียงเขาไม่ยอมให้ไป กลัวจะไปไม่ถึง หรือไปถึงแล้วกลับไม่ได้

    <O:p
    เมื่อทุกคนกราบรอยพระพุทธบาทและอธิษฐานแล้ว ถ้าไม่รีบร้อนก็ทำปทักษิณอีก ๓ รอบ ถ้าเวลาไม่พอก็ไปกันได้แล้ว เอาลุกขึ้น หน้าเดิน เดินกลับทางเดิมนะ ลงบันไดมาจนถึงหน้าถ้ำนะ<O:p
    <O:p
    ซ้ายมือเป็นทางเข้าถ้ำ ข้างหน้าเราจะเป็นวิหารพระพุทธรูป ขวามือเรา ทางลงบันไดไปยังอาคารศูนย์รวมศิษย์ฯ จะเข้าไปชมในถ้ำกันใช่ไหม เอ้าซ้ายหัน แล้วก็

    ทักเทวดารักษาถ้ำกันหน่อยนะ “คูหา เทวดา สุขิตา โหนตุ” เข้าไปจะปลอดภัย

    เข้าป่าให้ว่า “อรัญญ เทวตา สุขิตา โหนตุ”

    เข้าบ้านให้ว่า “คามา เทวตา สุขิตา โหนตุ” เข้าบ้านจะปลอดภัย หมาไม่กัด โบราณเขาว่ากันอย่างนั้น
    <O:p
    <O:p
    ขั้นบันไดลงถ้ำมันจะสูงไปสักหน่อย ค่อย ๆ ลงมานะ ระวังหัวชนข้างบนด้วย ช่วงประตูนี้ต่ำไปหน่อย จะต่อเติมก็กลัวถ้ำพัง ลองสังเกตข้าง ๆ บันไดสิ ช่องเข้าถ้ำนี้ถูกปิดด้วยดินและก้อนหินใหญ่ทั้งนั้นเลย จะกี่สมัยมาแล้วก็ไม่ทราบนะ แล้วมองผนังทางข้างซ้ายมือโน้น มีหินย้อยเป็นรูปคล้ายมือคน ถ้ำนี้ถ้าใครมาแล้วอยากจะมาอีกเพราะความสวยงาม น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเพราะมีมือกวักให้มาใหม่นะ

    <O:p
    เลยเข้าไปหน่อยจะมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายจอมปลวกย่อม ๆ ตั้งอยู่กลาง ๆ ถ้ำข้าง ๆ บันไดเลย หินนี้มองดูจะคล้าย ๆ พระโบราณเข้าสมาธิ (เข้าฌาน) ท่านจะเอาผ้าคลุมไว้ทั้งองค์เลย ชาวไทยใหญ่เรียกว่า พระป่องเตอู ในอดีตเมื่อมีกำลังพัฒนาโดยการปรับพื้นถ้ำ หลวงพ่อเคยคิดจะเอาไปไว้ที่ชิดผนังถ้ำ แต่เด็กวัดฝันว่าเขาไม่ให้ย้ายไปที่อื่นให้อยู่ที่เดิม ก็เลยอยู่ ณ ที่เดิม ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าองค์หลวงปู่เจ้าครูบาศรีวิชัย เวลาฉันอาหารจะนำอาหารมาใส่บาตรพอสมควรตามอัตภาพแล้วเอาผ้ามาคลุมหมดทั้งองค์ ฉันไม่พูดไม่จาอยู่ในผ้านั้น เมื่อฉันภัตตาหารเสร็จแล้วจึงเอาผ้าคลุมออก แล้วก็จะใช้น้ำประมาณ ๑-๒ แก้วล้างบาตร และดื่มน้ำล้างบาตรนั้นด้วย องค์ท่านคงจะตั้งอารมณ์อยู่พระกรรมฐานตลอดเวลาแห่งการขบฉัน พระภิกษุ สามเณรทั้งหลายควรศึกษา ควรเจริญกรรมฐานกันบ้างนะ เพราะความทุกข์ทั้งปวงมันเกิดจากอายตนะภายใน ภายนอกนี้เอง สังโยชน์สิบก็เกิดที่นี่ เอ้าจะพาญาติโยมมาเที่ยงถ้ำหรือมาฟังเทศน์ฟังธรรมกันแน่ หือ! โอย ๆ ไม่ไหวหลวงตานี่ เอ้าเดินหน้าต่อดีกว่า<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...