ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    GREECE
    พายุที่น่าทึ่งในทะเลสาบ Trichonida, Aetolia-Acarnania 4 ตุลาคม


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    GREECE
    พายุลูกเห็บที่ตกหนักใน Evvoia, 4 ตุลาคม


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    กรีซ

    ทอร์นาโดใน aspropyrgos วันที่ 4 ต. ค.


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24


    GREECE

    พายุที่มีลมมรสุมรุนแรงและฝนตกหนักในNymphaías และ Rhodope, วันที่ 4 ตุลาคม ..


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    ตุรกี
    พายุลูกเห็บที่กระทบและทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในตุรกี 4 ต. ค.


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    ตะวันออกกลาง
    พายุที่รุนแรงใน shinas, โอมาน 5 ต. ค.


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษรายงานการจบชีวิตของช้างป่าไทย 6 ตัวที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังมีลูกช้างป่า 1 ตัวเกิดตกลงไปที่น้ำตกเหวนรกและช้างที่เหลือพยายามช่วยเหลือ ล่าสุดอุทยานสั่งปิดช่วงน้ำตกเหวนรกชั่วคราวแล้ว ในขณะที่อีก 2 ตัวแม่ลูกรอดมาได้มีอาการดีขึ้น กินอาหารได้แล้ว

    #MGROnline #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #น้ำตกเหวนรก #ช้างป่า

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clima Extremo 24

    ตะวันออกกลาง
    พายุลูกเห็บที่รุนแรงตกลงมาในเมือง sarpaz balochistan ทางใต้ของอิหร่าน วันที่ 4 ตค.


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Oct 6) พิษ “เทรดวอร์” ออกฤทธิ์ “ดัชนีผลิต” สหรัฐดิ่งสุดรอบ 10 ปี : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามพูดมาโดยตลอดว่า การขึ้นภาษีสินค้าจากจีนทำให้สหรัฐมีรายได้เข้าประเทศมากขึ้นทุกเดือน ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างเพื่อปกป้องการกระทำของรัฐบาลในการทำสงครามการค้ากับจีน และพยายามไม่รับรู้ผลเสียอีกด้านที่จะมีต่อเศรษฐกิจและผู้บริโภคสหรัฐ แต่ล่าสุดดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐสะท้อนชัดเจนถึงพิษของสงครามการค้าหลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีภาคการผลิตเดือนกันยายนอยู่ที่ 47.8% ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี นับเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน


    ข้อมูลของ ISM ระบุด้วยว่า ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกเดือนกันยายนอยู่ที่ 41% ต่ำสุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน โดยต่ำกว่าเดือนสิงหาคมซึ่งอยู่ที่ 43.3% ทั้งนี้ ทิโมธี ฟิโอเร ประธาน ISM ระบุในแถลงการณ์ว่า การค้าโลกยังคงเป็นปัญหามากที่สุด เห็นได้จากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่เพื่อส่งออกที่เริ่มหดตัวตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีนี้ ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตอยู่ในระดับต่ำสุดเช่นกันนับจากเดือนมกราคม 2016 สาเหตุหลักมาจากความต้องการสินค้าลดลง


    “ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งซื้อใหม่ คำสั่งซื้อที่เหลืออยู่ วัตถุดิบ สินค้าคงคลัง การส่งออก และนำเข้า ล้วนแต่หดตัวหมดในเดือนกันยายน” ประธาน ISM ระบุ


    ดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวหรืออยู่ในระดับต่ำกว่า 50% เพิ่มความกลัวว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอย ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐวันอังคารที่ 1 ตุลาคม ดิ่งลง 343.04 จุด หรือ 1.28% การที่ดัชนีผลิตหดตัวมากขึ้นทุกขณะเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบหนักจากพิษสงครามการค้า ทั้งที่แต่เดิมภาคการผลิตเคยถูกมองว่าเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลทรัมป์ เพราะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น กิจกรรมเศรษฐกิจมีความคึกคัก


    ผู้บริหารกิจการอาหารและเครื่องดื่มรายหนึ่ง เปิดเผยว่า การขึ้นภาษีสินค้าจากจีนกำลังทำร้ายเศรษฐกิจของบริษัทเรา เพราะว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐ แต่ผลิตในจีนเท่านั้น ส่วนผู้บริหารสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กล่าวเช่นกันว่า เศรษฐกิจดูเหมือนอ่อนแอลง การเก็บภาษีจีนสร้างความสับสนอย่างมากให้กับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์


    ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ ชี้ว่า ยังมองไม่เห็นว่าเศรษฐกิจจะหยุดการชะลอตัว ตอนนี้ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยเป็นจริงขึ้นมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ยอมรับว่าสงครามการค้าเป็นสาเหตุ โดยได้ทวีตข้อความตำหนิว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นต้นเหตุ เพราะอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเกินไป ส่งผลเสียต่อภาคการผลิต ทั้งนี้ ทุกครั้งที่ดัชนีเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้นปรับตัวลง ทรัมป์มักจะโยนบาปให้เฟดเสมอ


    สัญญาณเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐสอดคล้องกับท่าทีขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) ที่ล่าสุดได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของการค้าโลกปีนี้ลงเหลือ 1.2% จากเดิม 2.6% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี พร้อมกับหั่นประมาณการอัตราเติบโตเศรษฐกิจโลกลงจาก 2.6% เหลือ 2.3% สาเหตุหลักเกิดจากอัตราการเติบโตของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ชะลอลง สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ตลอดจนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกจากสมาชิกสหภาพยุโรปของอังกฤษหรือเบร็กซิตที่ยังคงยืดเยื้อ


    ดับเบิลยูทีโอ ระบุว่า ช่วงครึ่งแรกของปีนี้การค้าเติบโตเพียง 0.6% ลดลงอย่างมากจากปีก่อนหน้านี้ และหากเกิดความไม่แน่นอนขึ้นอย่างสูงในบรรยากาศการค้าโลก การขยายตัวของการค้าโลกสิ้นปีนี้อาจเหลือแค่ 0.5% “แนวโน้มการค้าค่อนข้างมืดมน การแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศสมาชิกเป็นหนทางที่จะหลีกเลี่ยงความมืดมนนั้น”


    ความหวังในทางบวกของการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเริ่มริบหรี่ลงอีกครั้งเมื่อมีข่าวแพร่ออกมาว่า สหรัฐเตรียมจะห้ามหรือจำกัดการลงทุนของบริษัทอเมริกันในจีน และจำกัดการลงทุนของจีนในสหรัฐ รวมทั้งอาจพิจารณาถอดบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ทั้งที่ในวันที่ 10-11 ตุลาคม สองฝ่ายมีกำหนดเจรจาการค้ากันอีกรอบ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแท็กติกในการเจรจาของสหรัฐเพื่อหวังกดดันจีนแต่เป็นการสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีก่อนการเจรจา

    73B8F533-82E7-45FC-9A6D-2777FC20D29D.jpeg

    คอลัมน์ ชีพจรเศรษฐกิจโลก

    โดย นงนุช สิงหเดชะ


    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    https://www.prachachat.net/world-news/news-378259
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ... “วอลล์สตรีท อเมริกันชน กับชีวิตที่หรูหราก่อนวิกฤติใหญ่ 1929”

    ... เดิมชื่อของ Wall street นั้น สันนิษฐานว่ามาจากชื่อของชุมชนชาวดัชที่อพยพมาที่แมนฮัตตัน ในช่วงก่อนปี 1624 มีหลายแนวคิดเกี่ยวกับการที่ชุมชนชาวดัตช์ชื่อ "de Waalstraat" ได้รับการถูกเรียกเป็นชื่อถนน และคำว่า Wal ในภาษาดัชเองก็สามารถแปลได้ว่า “เชิงเทิน” ด้วยเช่นกัน แนวคิดที่ยอมรับกันโดยทั่วไปคือชื่อของถนนนั้นได้มาจากกำแพง ( ที่จริง ๆ แล้วเป็นรั้วไม้ ) ในขอบเขตทางเหนือของนิคม “นิวอัมสเตอร์ดัม” สร้างขึ้นเพื่อป้องกันชนพื้นเมืองอเมริกัน โจรสลัดและ พวกอังกฤษ

    ... ในปี 1792 พ่อค้าได้รวมตัวอย่างเป็นทางการเป็นสมาคม Buttonwood ตกลงกันซึ่งเป็นที่มาของ “ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก”

    ... ในปี 1789 “วอลล์สตรีท” เคยเป็นภาพฉากหลังของการประกาศการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกาเมื่อ “จอร์จ วอชิงตัน” รับตำแหน่งสำนักงานบนระเบียงของ Federal Hall เมื่อวันที่ 30 เมษายน 1789

    ... ในยุค 1840 และยุค 1850 ประชาชนชนบทส่วนใหญ่ได้ย้ายขึ้นไปยังตัวเมืองเพื่ออยู่ที่แมนฮัตตันใจกลางเมืองเพราะธุรกิจที่มีการค้าขายเพิ่มขึ้นโดยใช้ที่ด้านล่างสุดของเกาะ จากนั้น “สงครามกลางเมือง” ภายในของอเมริกาก็ส่งผลให้เศรษฐกิจภาคเหนือของประเทศเฟื่องฟูส่งผลให้เมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กมีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งสร้างอาวุธให้รัฐบาลและให้กู้เงิน "เข้ามาเป็นศูนย์กลางการธนาคารของประเทศ" เชื่อมต่อ "เมืองหลวงเก่าโลกและโลกใหม่"

    ... การเปิด “คลองอีรี” ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 มีความหมายอย่างมากต่อธุรกิจในนิวยอร์กเนื่องจากเป็นเมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเพียงแห่งเดียวที่เข้าถึงโดยตรงผ่านทางน้ำจากส่วนในแผ่นดินสู่ท่าเรือในเกรตเลกส์ “วอลล์สตรีท” กลายเป็น "เงินทุนของอเมริกา" อย่างแท้จริง

    ... เจพี. มอร์แกนสร้างสถาบันการเงินอย่าง “ทรัสต์” ขนาดใหญ่ขึ้น ในเวลาเดียวกับที่ “สแตนดาร์ดออยล์” บริษัทน้ำมันใหญ่ของ “จอห์นดี. รอกกีเฟลเลอร์” ก็ได้ย้ายไปนิวยอร์ก และในระหว่าง 1860 และ 1920 การพัฒนาทางเทคโนโลยีได้เปลี่ยนเศรษฐกิจอเมริกาทางเหนือจาก "การเกษตรมาเป็นระบบอุตสาหกรรมและการเงิน" และนิวยอร์คก็เริ่มเติบโตเป็นเมืองผู้นำทางการเงินและอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก นักประวัติศาสตร์ โทมัสเคสเนอร์ บอกว่า นิวยอร์กเป็นที่สองรองจากลอนดอนในฐานะ “เมืองหลวงทางการเงินของโลก” แค่นั้นในเวลาดังกล่าว

    ... “วอลล์สตรีทชนะสงครามโลกครั้งที่1” ระหว่างปี 1914 – 1918 นั้นรัฐบาลอเมริกาถูกอังกฤษดึงเข้าร่วมสงครามโลกแบบมีพิรุธ ในวันที่ 6 เมษายน 1917 พวกเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน ( แบบที่ประชาชนไม่รู้เรื่องราวด้วยต้องไปรบตายในยุโรปมากมาย ) และทำให้ต้องระดมเงินเพื่อสร้างกองทัพในการส่งชาวอเมริกันกว่า 1 ล้านคนไปทำสงครามที่นั้น และรัฐบาลอเมริกาต้องขายพันธบัตรในตลาดที่วอลล์สตรีท( = การกู้เงินจากนักลงทุนทั้งธนาคารและประชาชนทั่วไป )เพื่อเอาเงินมาสร้างกองทัพและจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงทหาร ทำให้พวกวอลล์สตรีทเขาร่ำรวยมากมายในการค้าขายพันธบัตร โดยตอนนั้นอาวุธที่ทันสมัยล้วนต้องซื้อจากยุโรป เช่นปืนสมัยใหม่และรถถัง

    ... และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เวลานั้นในปี 1920 ก็มีการประดิษฐ์เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ กล้องถ่ายรูป มีการถ่ายทอดรายการสำคัญผ่านทางวิทยุ ตึกสูงหรูหรา เป็นสิ่งใหม่ของสังคม ขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ที่พัฒนามาหลายสิบปีก่อนหน้า ก็สุกงอมที่คนทั่วไปสามารถซื้อหาใช้งานได้จริง เช่นรถยนต์ ฟอร์ด โมเดล ที ที่แพร่หลายมากในปี 1927 ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการสันทนาการของ “คนในเมือง” ภาคเหนือโดยเฉพาะนิวยอร์คนั้นล้วนกำลังเห่อตื่นตาตื่นใจกับระบบการค้าจากสินค้าทันสมัยที่ผลิตจากระบบอุตสาหกรรมและการค้าขายการเงินในตลาดหลักทรัพย์ที่วอลล์สตรีท เกิดการสร้างงานจากอุตสาหกรรม ชนชั้นที่ทำอาชีพเกี่ยวกับระบบนั้น และหลายคนก็มีอิสระที่จะลงทุนกับตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ที่เป็นเทรนด์และวิถีของคนหนุ่มสาวสมัยใหม่ในตอนนั้น ( เหมือนสมัยนี้ หนุ่มสาวหลงไหล เพลิดเพลินกับความทันสมัยของรถไฟฟ้า สมาร์ทโฟน เงินดิจิตัล สังคมแบบออนไลน์ และตลาดหุ้น พันธบัตร )

    ... นักประวัติศาสตร์ บอกว่ามี "สงครามชิงดีชิงเด่น" ระหว่างผลประโยชน์ทางธุรกิจของฝ่ายวอลล์สตรีทและเจ้าหน้าที่รัฐในวอชิงตันดี. ซี. เมืองหลวงของอเมริกา โดยทั่วไปในช่วงศตวรรษที่ 19 Wall Street ได้พัฒนาตัวเองสู่ "บุคลิกภาพและสถาบันที่ไม่เหมือนใคร" โดยมีการแทรกแซงจากภายนอกน้อยมาก นักการเมืองและภาครัฐไม่สามารถเข้ามาแทรกแทรงดินแดนทางการเงินนี้ได้อย่างมากเลย

    … Wall Street มีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐในทางที่พวกเขาได้ประโยชน์มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในปี 1913 ปีแห่ง “จุดเปลี่ยนแห่งอำนาจ” ปีที่พวกเขาได้ก่อนตั้ง “ธนาคารกลางของอเมริกา” ขึ้น โดยการรวมตัวของนายธนาคารในวอลล์สตรีท และพวกเขาสามารถสร้างกำไรมากมายในการจัดหาเงินงบประมาณ เช่นเงินกู้ให้รัฐบาลอเมริกา พวกเขาก็มีอำนาจในการต่อรองไม่ต้องตกอยู่ใต้อำนาจของรัฐมากขึ้น เช่นมีการแข็งข้อ “ประท้วงไม่จ่ายภาษี” ให้แก่รัฐไปพัฒนาประเทศ เมื่อตอนเจ้าหน้าที่เสนอภาษีการโอนหุ้นครั้งละ 4 ดอลลาร์ในตลาด พวกเขาก็ประท้วงไม่อยากจ่าย ในบางครั้งเจ้าหน้าที่ของเมืองและรัฐจึงต้องอ้างกับประชาชนว่าต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นด้านภาษีเพื่อสนับสนุนให้ บริษัท ทางการเงินดำเนินธุรกิจในเมืองต่อไป จึงยิ่งทำให้พวกนายธนาคารเหล่านั้นมีรายได้มากมายแต่รายจ่ายน้อยมาก ขณะที่ช่วงประมาณปี 1930- 1940 หลายรัฐเริ่มมีการจัดเก็บภาษีเข้ารัฐกันแล้ว คนอเมริกันธรรมดาต้องเสียภาษีแต่คนรวยไม่ต้องเสียหรือน้อยมาก

    ... และจากการที่รายจ่ายน้อยเมื่อเทียบกับรายได้มหาศาล รวมทั้งภูมิประเทศของปลายเกาะแมนฮัตตันคับแคบและราคาที่ดินแพงสูงขึ้น ทำให้ช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 19 – 20 “นิวยอร์ค” จึงมีเงินมากมายในการแข่งขันลงทุนสร้างตึกสูงแข่งกับ “ชิคาโก้” ทั้งเพื่อสำนักงานและที่อยู่อาศัย

    … เมื่อวันที่ 16 กันยายน 1920 ใกล้กับ Wall Street และ Broad Street ซึ่งเป็นมุมที่คึกคักที่สุดของย่านการเงินและตึกสำนักงานของ Morgan Bank ได้เกิดระเบิดที่ทรงพลัง ที่ได้ฆ่า 38 คนและบาดเจ็บสาหัส 143 คน ผู้กระทำความผิดไม่เคยถูกระบุหรือถูกจับกุมได้

    … กันยายน 1929 เป็นจุดสูงสุดของตลาดหุ้น แต่หลังจากนั้น วันที่ 3 ตุลาคม 1929 ตลาดเริ่มตกลงเรื่อยๆ ยาวจนถึงวันที่ 14 ตุลาคมปี 1929 จนนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของมหาวิทยาลัยเยล เออร์วิงฟิชเชอร์ ต้องออกหน้าแทนวอลล์สตรีทมาพูดโน้มน้าวชาวบ้านทั่วไปที่แตกตื่นว่าให้ความมั่นใจกับนักลงทุนที่กังวลว่า "เงินพวกเขาจะปลอดภัย" ที่วอลล์สตรีท แต่ไม่กี่วันต่อมาในวันที่ 24 ตุลาคม 1929 มูลค่าหุ้นลดลง การแข่งขันในตลาดหุ้นของปี 1929 นำไปสู่ภาวะ “เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่” ซึ่งหนึ่งในสี่ของคนทำงานต้องตกงาน งานครัวอาหาร งานฟาร์มการเกษตรต้องปิดตัวเป็นส่วนใหญ่ และราคาการขายก็ตกลงเรื่อยๆ ในช่วงยุคนี้การเงินซบเซาและหนักสุดในวอลล์สตรีทครั้งสำคัญที่สุด หลังจากคนทั่วไป หลงระเริงไปกับชีวิตหรูหรา รถสมัยใหม่ การฟังวิทยุ ตึกสูงระฟ้า และตลาดหุ้นที่สร้างกำไร ล้วนละลายหายไปในพริบตา

    … หลังจากนั้น คนอเมริกันทั่วไป ก็ต้องจมอยู่ในช่วงความอัตคัตขัดสนในการทำมาหากินเลี้ยงชีพอย่างลำบากอีกนานหลายปี

    .
    ... https://en.wikipedia.org/wiki/Wall_Street
    https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Depression_in_the_United_States
    https://www.pri.org/stories/2018-11...-soldiers-depended-foreign-weapons-technology
    https://en.wikipedia.org/wiki/Automotive_industry_in_the_United_States

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สี่โมงเย็น...วันที่ 2 เมษายน 2554 ร่างของผู้ชายคนหนึ่ง...จะถูกเผาไปบนเชิงตะกอนของวัดชลประทานรังสฤษฏ์ นนทบุรี ซึ่งก็คงจะไม่มีความหมายอะไร...เพราะศพแล้ว ศพเล่าก็เคยถูกเผาบนเชิงตะกอนนี้มาก่อนหน้านั้นแล้ว
    แต่วันนี้ "ไม่ใช่" เพราะศพที่กำลังจะถูกเผา เป็นร่างของ "อาจารย์ใหญ่" ที่ชื่อ นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ นายแพทย์ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
    18 มกราคม 2551 คุณหมอสงวน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ขณะอายุได้เพียง 56 ปี ในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ...หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งร้าย ควบคู่ไปกับการสร้างงานด้านหลักประกันสุขภาพนานกว่า 5 ปี
    หลังจัดงานศพเสร็จสรรพ นพ.สงวนอุทิศร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี สถาบันที่ก่อร่างสร้างให้เขาเป็น "หมอ" อย่างเต็มตัว
    "ขณะที่กำลังมุ่งมั่นอยู่กับงานที่รัก และใฝ่ฝันให้เกิดขึ้นมาตลอดชีวิต เวลาหนึ่งกลับได้รับรู้ว่า ตัวเองป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ผ่านวันเวลาแห่งการต่อสู้กับมะเร็งมาอย่างเข้มข้นทั้งเจ็บปวด ทุกข์ และชนะ" นพ.สงวนเขียนไว้ในบทนำหนังสือ "เปลี่ยนมะเร็งเป็นพลัง"
    "วันนี้ ผมอยากพูดเรื่องมะเร็งในฐานะผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งจริงๆว่า เป็นมะเร็งไม่ใช่ความตายทันที มันอาจทำให้เราตายก็ได้ มันอาจทำให้เราไม่ตายก็ได้ เป็นมะเร็งไม่ใช่เราจะสูญสิ้นทุกสิ่ง ในทางกลับกันมันคือเงื่อนแห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิต มะเร็งคือพลังอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้ผมเลือกทำสิ่งดีๆ ให้เร็วขึ้นและมากขึ้น...ผมอยากให้คุณมองมะเร็งว่าเป็นเงื่อนไขที่มีพลัง..."
    และดูเหมือนว่า "มะเร็ง" จะกลายเป็นพลังที่ผลักดันให้คุณหมอมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การปฏิรูประบบบริการสุขภาพ หรือที่คุณหมอสงวน มักพูดถึงบ่อยๆว่า เป็นงาน...Health Care Reform ให้กับสังคมไทย
    คุณหมอสงวนเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญต่อการสร้างสิ่งที่เรียกว่า "หลักประกันสุขภาพ" โดยเริ่มต้นจากการเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางรากฐานระบบบริการการแพทย์ของระบบประกันสังคม ที่ต้องใช้เวลานานกว่า 30 ปี กว่าที่สังคมไทยจะได้ เห็นหน้าตาของระบบประกันสังคมซึ่งเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ โดยเริ่มให้บริการทางการแพทย์ในเดือนเมษายน 2534
    อาจกล่าวได้ว่า นพ.สงวน เป็นหัวขบวนที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "หลักประกันสุขภาพ"...สิ่งที่คุณหมอมักพูดอยู่บ่อยๆ ก็คือแนวคิดเรื่องการ "เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข"
    ซึ่งก็คงไม่ต้องตั้งคำถามว่า ใครได้อะไรมากกว่าใคร เพียงแต่เฉลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด คนจนเวลาเจ็บป่วยไม่ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว นั่นคือหลักการสำคัญ
    โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เกิดขึ้นจากฝีมือของคุณหมอสงวน เมื่อเขานำโครงการนี้ไปเสนอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และได้รับการขานรับ จนกลายมาเป็นนโยบายประชานิยม...ชิ้นเอกของพรรคไทยรักไทยในเวลานั้น
    ในช่วงแรกที่มีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การดำเนินงานเหมือนเป็นการลองผิด ลองถูก เริ่มต้นจากคิดกันว่า จะเก็บเงินเท่าไหร่ 70 บาท หรือ 40 บาท และสุดท้ายก็จบลงที่ 30 บาท...เป็นที่มาของ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค!
    งบประมาณในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เริ่มต้นจาก 1,202.40 บาท ต่อคนในปี 2545 จนมาเป็น 2,600 กว่าบาท ต่อคนในปัจจุบัน
    คุณหมอสงวนให้สัมภาษณ์ในช่วงปลายปี 2550 ว่า รัฐบาลควรจัด 2,200 บาทต่อคนต่อปี โครงการจึงจะดำเนินการไปได้ ซึ่งถ้าคิดตามอัตราเงินเฟ้อ จากปี 2550 ถึงปัจจุบัน งบประมาณเหมาจ่ายรายหัวที่รัฐจัดสรรให้ ไม่ได้ต่างไปจากที่คุณหมอสงวนเคยคาดประมาณไว้มากนัก
    "การพูดถึง รพ.ขาดทุนจะค่อยๆหมดไป คงต้องมาพูดเรื่องการจะทำให้อย่างไรให้ประชาชนได้เข้าถึงโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงๆ หรือโรคที่รักษายากๆ โดยไม่ต้องล้มละลาย" คุณหมอสงวนให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อก่อนที่จะเสียชีวิตไม่นาน
    อีกสิ่งหนึ่งนอกเหนือจากการบุกเบิกงานหลักประกันสุขภาพแล้ว คุณหมอสงวน ยังเป็นนักต่อสู้คนสำคัญ สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ที่รามาธิบดี เคยดำรงตำแหน่ง นายกสหพันธ์นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ที่เข้าร่วมในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519
    นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ พูดถึงคุณหมอสงวน ในบทความไว้อาลัย ตอนหนึ่งว่า "สงวนเป็นหนึ่งในหัวขบวนนิสิตนักศึกษาหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ตัดสินใจไม่เข้าป่า แต่สงวนก็ไม่เคยแปรธาตุเปลี่ยนสี หรือละทิ้งอุดมการณ์ คือ ความใฝ่ฝันอันงดงามในวัยหนุ่มสาว แต่ตลอดชีวิตได้ทุ่มเทอุทิศให้แก่การสร้างสรรค์บ้านเกิดเมืองนอน โดยเฉพาะคือ งานสาธารณสุข เพื่อประเทศชาติ และประชาชน
    เริ่มจากสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ในคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี ท่ามกลางการต่อสู้อันแหลมคมระหว่างอุดมการณ์สองขั้ว ที่ต่อสู้กันอย่างถึงเลือดถึงเนื้อ และหลายกรณีถึงชีวิต ดังกรณี อมเรศ ไชยสะอาด ที่ถูกลอบสังหาร ขณะออกฝึกงานที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา แสง รุ่งนิรันดรกุล ที่ถูกยิงตาย ขณะยืนรอรถเมล์ในกรุงเทพฯ และ นิสิต จิระโสภณ ที่ตกรถไฟตายอย่างมีเงื่อนงำ
    สงวนเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ต่อสู้อย่างโดดเด่นอยู่แถวหน้า จนได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งช่วงนั้นนักศึกษามหิดลได้รับการประเมินจากทุกฝ่ายว่า มีนักศึกษาหัวก้าวหน้ามากที่สุดทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ ยืนหยัดต่อสู้ในเกือบทุกเวทีและสถานการณ์อย่างไม่เป็นรองใคร ในที่สุดสงวนต้องเป็นหนึ่งในผู้นำนักศึกษาที่เผชิญเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มาอย่างเจ็บปวด
    หลังจบแพทย์จากรามาธิบดี คุณหมอสงวนตัดสินใจไปเป็นแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลราษีไศล ศรีสะเกษ ซึ่งคุณหมอวิชัยเล่าว่า หลายคนคงจำได้ ถึงข่าวการถูกคุกคามระหว่างใช้ชีวิตเป็นแพทย์ชนบท โดยเฉพาะที่อำเภอราษีไศล ศรีสะเกษ เคราะห์ดีที่ทางการฝ่ายความมั่นคงขณะนั้น มีความฉลาดและอดทนเพียงพอ ไม่ตัดสินชะตากรรมคุณหมอสงวนเหมือนที่ตัดสินกับผู้นำนิสิตนักศึกษา กรรมกร ชาวนา และปัญญาชนหลายๆคน
    ทำให้คุณหมอสงวนรอดจากชะตากรรมอันเลวร้าย กลับเข้าสู่กรุงเทพฯ และสามารถทำงานใหญ่ในระดับประเทศได้ต่อมาตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต"
    หลังจากเสียชีวิต งานมากมายที่ นพ.สงวนฝากไว้ได้รับการสานต่อจากกัลยาณมิตรในสถานะต่างๆกัน โดยเฉพาะภรรยา ร.อ.ทญ.อพภิวันท์ นิตยารัมภ์พงศ์ ส่วนหนึ่งในโครงการที่ดำเนินการมาถึงวันนี้ "กองทุนมิตรภาพบำบัด" ที่พัฒนามาจาก โครงการเพื่อนช่วยเพื่อน หรือ จิตอาสา ที่คุณหมอสงวนตั้งใจจะให้เกิดขึ้น
    ก่อนเสียชีวิต คุณหมอสงวนปรารภว่า อยากทำโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน หรือ "จิตอาสา" เพื่อให้คนไข้ที่ป่วยและหายแล้วให้กำลังใจที่มีจิตใจความเป็นมนุษย์ ช่วยเหลือเพื่อนที่ยังเจ็บป่วยให้หายจากโรคต่างๆได้ ก็เกิดโครงการเพื่อนช่วยเพื่อน มีเครือข่ายโรคมะเร็งเกิดขึ้น และกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้ง "กองทุนนพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เพื่องานมิตรภาพบำบัด เพื่อนช่วยเพื่อน"
    "กองทุนนี้เป็นสิ่งที่หมอสงวนตั้งใจในขณะที่ยังป่วยอยู่ คืออยากทำให้ประชาชนและคนที่เจ็บป่วยมีโอกาสในการรักษา ยิ่งตัวเองป่วยก็ยิ่งเข้าใจและเห็นใจคนไม่มีโอกาส ขณะที่ครอบครัวของเราถือว่าพร้อม แต่ก็ยังรู้สึกทุกข์มากมายถึงเพียงนี้ จึงเกิดคำถามถึงคนไข้ที่ไร้โอกาส ว่าคงจะยิ่งทุกข์มากกว่าหลายเท่า กองทุนนี้จึงเป็นงานสุดท้ายที่คุณหมอตั้งใจอยากทำให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสเข้าถึงการรักษา และยังดูแลไปถึงเรื่องของจิตใจด้วย"
    ร.อ.ทญ.อพภิวันท์ เล่าถึงความตั้งใจสุดท้ายของสามีพร้อมกับบอกว่า การทำงานคือชีวิตและความสุข เมื่อใดที่ลงมือทำงาน คุณหมอจะไม่รู้สึกว่าป่วยและเจ็บใดๆเลย และครอบครัวก็พร้อมจะสนับสนุนอุดมการณ์และสานต่องานของคุณหมอให้สำเร็จ
    คุณหมอได้สั่งเสียลูกชาย ลูกสาว ไว้ว่า..."ให้เป็นคนดีและรักษาความดีไว้ เพราะเป็นสิ่งที่คนรอบข้างจะยอมรับและนับถือ เหมือนกับที่คุณหมอทำให้ลูกเห็นเสมอว่า คนรอบข้างรักคุณหมอจากการที่คุณหมอทำงานเพื่อคนอื่น"
    สำหรับชาว สปสช. ซึ่ง นพ.สงวนพูดเสมอว่า เป็นบ้านหลังที่สองของท่าน ก่อนเสียชีวิตท่านได้ฝากคำพูดถึงทุกคนว่า "...วันที่ผมรู้สึกตัววันแรก พวกเขาเฮกันใหญ่ เพราะตอนแรกคิดว่าคงจะหมดสติแล้ว อาจจะไม่มีสติอีก ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละนะ มันมีขึ้นมีลง
    ถ้าเราสามารถที่จะทำให้ชีวิตมีคุณค่า แล้วก็ทำให้ช่วงชีวิตที่จะลงมีคุณค่าด้วย เราก็คงภาคภูมิใจ...ขอให้ยืนหยัดต่อสู้ แม้จะหนักจะเหนื่อยก็ตาม ให้ตั้งใจว่า เมื่อเรายังหนุ่มยังแน่นยังสาว ยังทำประโยชน์ให้กับประเทศได้อีกมาก เพราะฉะนั้นก็อย่าท้อถอย..."
    2 เมษายน 2554 จะไม่มีสังขาร อันเป็นสิ่งปรุงแต่งในชีวิต นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ อีกแล้ว เป็นการปิดฉากชีวิตนิรันดร์ของบุคคลที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นวีรบุรุษนั้น บางครั้งอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งสถานการณ์ใดๆ
    แม้ผ่านมากี่ปีก็ตาม ความดีงามยังคงอยู่ตลอดกาล...สาธุ

    Cr : line
    ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ปากีสถานเดินขบวนไปยัง Loc Control Line ระหว่างอินเดียและปากีสถาน

    c_oc=AQkAnfifQ93H9k3CtXdBZVj3yH3URMlPMk4Ry8m_nz9NAvYSPHgAsVuLVggifIE1MyQ&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    c_oc=AQmWSIXPimE66ipAQ6mlzmUUIbdzM__hmBNcSTYvxFBjndyvFMOQ_Hwosl6bXiTVyg8&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

    c_oc=AQmSuUl_gTkmyKWwXIp_04C5n0egfDIrWubCfQbH-c0flDVXLkCOvPZy4DgEWx7ADgQ&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ไต้ฝุ่น Hagibis ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดว่าจะถึงระดับ 5 ในวันพฤหัสบดีซึ่งอาจจะเร็วกว่านี้ คาดการณ์ว่าพายุจะอ่อนตัวลงอย่างช้าๆเมื่อเข้าใกล้ญี่ปุ่นและอาจเข้าสู่หมวด 4 ในสุดสัปดาห์หน้า

    c_oc=AQnUIyap1woYJHQQTV6Nwb23Wy6I3XCI5TSj6yPkfo5j-epM36ahGmLJ-l-tqvD4LeY&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

    c_oc=AQnlCSMi9W3MCg75tSS6RhNFdSSofPOkjJUrjoP_5CVLDuG9Sh3ZRDOuzDGdlS5gEDU&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    # ซาอุดีอาระเบีย น้ำท่วมที่น่าเหลือเชื่อทางตอนเหนือ ครอบครัวชาวเมกกะ ได้รับการช่วยเหลือ # 6 ตุลาคม

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    น้ำท่วมอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย #6 ต. ค.
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ช่วงเวลาที่น้ำท่วมมาถึงในโอมาน บ้านหลายหลังได้รับผลกระทบ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงในโอมาน #6 ตค.







     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    48 ชั่วโมงก่อนYom Kippur เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำอิสราเอล David Friedman Davens ใน Kever Rachel ตรวจสอบการสร้างวัดที่ 3 ในอิสราเอล
    c_oc=AQmasT1SU8NU_wlRLs0fwC8wrP4TmaZGQfzpIx0rXnmIYcz_PgiPc67ZBnzWMJbv4Nc&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,974
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    โบลิเวียประท้วงต่อต้านประธานาธิบดี และการที่เขาไม่ได้ลงมือปฏิบัติในอเมซอน

     

แชร์หน้านี้

Loading...